เธอคือ หลินเหยาซื่อ ที่มีชีวิตอยู่ในปีค.ศ.2023 แต่เพราะอุบัติเหตุรถบัสตกเขาลงไปในแม่น้ำ ทำให้เธอลืมตาอีกครั้งและพบว่าตัวเองอยู่ในร่าง หลินเหยาซื่อ อายุยี่สิบสอง และยังเป็นคุณแม่ลูกแฝดที่ใช้ชีวิตอยู่ในปี ค.ศ.1980 เหตุการณ์บางอย่างทำให้ 'กั๋วคังเหริน' หายสาบสูญ เมื่อกลับมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองมีลูกฝาแฝดวัยสามขวบ และผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วยจำสามีตัวเองไม่ได้!
Lihat lebih banyakแนะนำตัวละคร
หลินเหยาซื่อ : อายุ 22 ปี อาชีพนักแสดงตัวประกอบ
กั๋วคังเหริน : อายุ 28 ปี ประธานกั๋วผู้บริหารบริษัทหลินกรุ๊ฟ
กั๋วจางหย่ง ( กล้าหาญ ) กั๋วจางลี่ / ( งดงาม) : ลูกแฝดชายหญิงวัย 3 ขวบ
ป้าฮุ่ยชิว : ป้าแม่บ้านที่อยู่มานาน
'ตัวประกอบ'คือนักแสดงที่แทบไม่เคยอยู่ในสายตาคนดูคนเราล้วนเป็นตัวประกอบในชีวิตของกันและกัน
อาจแค่เคยเดินผ่านมาในชีวิตใครสักคน
เพื่อให้ฉากในวันนั้นสมบูรณ์แบบ
และในขณะเดียวกัน คนที่เล่นเป็นตัวประกอบในชีวิตคนอื่น
ก็เล่นเป็นนางเอก(พระเอก)ในชีวิตของตัวเอง
ทันทีที่ตัดสินใจลืมตา ภาพแรกที่เห็นคือเด็กน้อยสองคนที่หน้าตาคล้ายกันจนเหมือนพิมพ์เดียวกันนั่งจ้องหน้าด้วยแววตาวิตกกังวล มันไม่ใช่แววตาที่เด็กสามขวบควรมี ทำให้เธอตัดสินใจยื่นมือไปคว้าเอาเด็กสองคนมากอดแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่ เสียงหัวเราะคิกคักจึงดังขึ้น
“แม่ตื่นแล้ว” หญิงสาวบอกกับเด็กน้อยที่ตอนนี้ปีนขึ้นเตียงเธอเรียบร้อยแล้ว “ทำไมลูกๆ ตื่นเช้ากันจัง หรือว่าหิวกันแล้ว”
“หม่ำๆ”
“ขอโทษนะ แม่ตื่นสายเอง” เธอจุ๊บแก้มนุ่มๆ ของเด็กๆ ไม่กี่นาทีต่อมา แม่บ้านวัยห้าสิบก็โผล่หน้าเข้ามาด้วยสีหน้าสำนึกผิด
“ขอโทษค่ะคุณผู้หญิง ป้าเตรียมอาหารเช้าอยู่ไม่คิดว่าคุณหนูจะตื่นแล้วมากวนคุณผู้หญิง”
“ช่างเถอะ” หญิงสาวโบกมือไปมาแล้วบอกกับเด็กฝาแฝดชายหญิงทั้งสอง “ขอแม่ล้างหน้าแปรงฟันก่อน ไปรอแม่ข้างนอกก่อนนะคะ”
เด็กน้อยทั้งสองพยักหน้ารับแล้วกระโดดลงจากเตียงเดินไปพร้อมกับคุณป้าแม่บ้าน หลังจากบานประตูห้องปิดสนิทแล้ว หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมา พลางหันไปมองตัวเองในจากกระจกโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ใกล้เตียงนอน
นี่คือใบหน้าของผู้หญิงที่ชื่อ หลินเหยาซื่อ เจ้าของใบหน้างดงามอ่อนหวาน แม้จะอายุเพียงยี่สิบสองแต่ก็มีลูกแฝดชายหญิงแสนน่ารักชื่อ กั๋วจางลี่และกั๋วจางหย่ง ทั้งสองใช้แซ่กั๋วตามบิดาก็คือกั๋วคังเหรินที่หายสาบสูญไปตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้อง
หลินเหยาซื่อได้แต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงนี้ได้เลย เธอคือ ‘หลินเหยาซื่อ’ ที่มีชีวิตอยู่ในปีค.ศ.2023 แต่เพราะอุบัติเหตุรถบัสตกเขาลงไปในแม่น้ำ ทำให้เธอลืมตาอีกครั้งและพบว่าตัวเองอยู่ในร่าง ‘หลินเหยาซื่อ’ อายุยี่สิบสอง คุณแม่ลูกแฝดที่ใช้ชีวิตอยู่ในปี ค.ศ.1980
ครั้งแรกที่เธอลืมตาขึ้นคือเมื่อเจ็ดวันที่แล้ว หลินเหยาซื่อไม่มีความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมเลยสักนิด เธอรู้เพียงแค่ว่า ร่างกายนี้อ่อนแอจนน่าเวทนา ตรอมใจกับการหายไปของสามีจนร่างกายทรุดโทรมลงทุกวัน สุดท้ายก็เป็นลมหมดสติไปถึงเจ็ดวัน การหลับไปยาวนานของเจ้าของร่างเป็นสาเหตุให้เด็กแฝดทั้งจะมองแม่ด้วยแววตาหวั่นวิตก ด้วยกลัวว่าแม่จะหลับไปยาวนานไม่ตื่นขึ้นมาอีก หลินเหยาซื่อต้องตั้งสติอยู่เป็นวันๆ เธอยังคิดว่าตัวเองคงแค่ฝันไป หากตื่นมาอีกครั้งคงกลับไปสู่ร่างของตนเอง แต่ลืมตากี่ครั้ง เธอก็ยังอยู่ในร่างนี้และสิ่งแวดล้อมในยุค 80
แม้จะไม่มีความทรงจำของเจ้าของร่างนี้ แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่หลินเหยาซื่อที่เป็นเล่นเป็นตัวประกอบในซีรีย์และภาพยนตร์มาหลายสิบเรื่อง เธอมีทักษะการแสดงอยู่ไม่น้อย อาศัยเหตุที่ตัวเองหลับไปนานทำให้ความทรงจำหายไป บ้านหลังใหญ่มีแม่บ้านชื่อฮุ่ยชิวคอยดูแลอยู่เพียงลำพัง ฮุ่ยชิวเล่าทั้งน้ำตาหลังจากที่รู้ว่าคุณผู้หญิงของบ้านความจำเสื่อม จำไม่ได้แม้กระทั่งลูกฝาแฝดชายหญิง ฮุ่ยชิวทั้งสงสารและเวทนาหลินเหยาซื่อจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดทำให้เธอพอจับต้นสายปลายเหตุได้บ้าง
หญิงสาวธุระส่วนตัวเสร็จก็สำรวจตัวเองที่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดกระโปรงยาวคลุมเข่าสีเรียบ ดูเหมือนเจ้าของร่างจะชอบแบบนี้ แต่เท่าที่เธอจำได้ในปี1980 เข้าสู่ยุคปฏิรูปและเปิดประเทศ รูปแบบเสื้อผ้าได้เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกรอบ โดยสีสันใหม่ๆ ของชุดล้วนมาจากอิทธิพลชาติตะวันตก ซึ่งได้รับการยอมรับกว้างขวาง แต่ในตู้เสื้อผ้าของหลินเหยาซื่อยังคงเป็นชุดฉีผาวและเสื้อผ้าสีเรียบแทบไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม หลังจากหลินเหยาซื่อตัดใจได้แล้วว่า ตัวเองคงไม่ได้กลับไปโลกปัจจุบัน เธอจึงตั้งสติและคิดทบทวนว่าจะใช้ชีวิตในโลกอดีตนี้อย่างไร ซึ่งวันนี้เธอตั้งใจจะตรวจบัญชีและเช็กการเงินที่ดูท่าทางจะง่อนแง่นเต็มที ป้าฮุ่ยชิวเล่าว่าแต่ก่อนบ้านหลังนี้มีคนรับใช้อยู่หลายคน แต่หลังจากนายท่านใหญ่ตายจากและคุณผู้ชายหายสาบสูญ การเงินก็มีปัญหา คุณผู้หญิงไม่สามารถจ้างทุกคนไว้ได้เหมือนก่อนจึงทยอยให้สมัครใจลาออกไปที่ละคนสองคน จนตอนนี้เหลือเพียงป้าฮุ่ยชิวที่ไร้ญาติขาดมิตรไม่มีที่ให้ไป อยู่รับใช้หลินเหยาซื่อเช่นที่เคยเป็นมา
‘คุณผู้ชายหายสาบสูญ’
ข้อมูลที่ได้รับมาทำให้หลินเหยาซื่ออึ้งไป ตื่นมาเจอลูกแฝดวัยสามขวบ เจอปัญหาการเงิน ซ้ำยังมาเจอปัญหาสามีหายตัวไปอีก เธอได้แต่สงสารชีวิตอาภัพของ ‘หลินเหยาซื่อ’ ในปี 1980 นี้เหลือเกิน แต่เพราะดวงตากลมโตสองคู่ที่จ้องมองนั้นแหละ ทำให้เธอรู้ว่า ไม่ว่าโชคชะตาจะเล่นตลกอะไรอยู่ ส่งเธอซึ่งใช้ชีวิตในปี2023กระโดดมาอยู่ในปี1980นี้ เธอรู้แค่ว่า จะใช้ชีวิตต่อไปและดูแลเจ้าเด็กแฝดนี้ให้ดีที่สุดเช่นกัน
เรื่องดีๆ เรื่องเดียวที่หลินเหยาซื่อพอนึกออกคือเจ้าของร่างนี้ แม้จะเป็นคุณแม่ลูกแฝดแต่รูปร่างยังอรชรและใบหน้าอ่อนหวานราวเด็กสาวอายุไม่ถึงยี่สิบ เธออดคิดไม่ได้ว่าถ้าใบหน้าและรูปร่างนี้เป็นของเธอในปี2023 เธอคงได้เป็นดารานักแสดงสมใจไม่ใช่แค่ตัวประกอบ หญิงสาวยิ้มขำให้ตัวเองในกระจกเงาตรงหน้า จัดแต่งผมหน้าม้าของตัวเองอีกเล็กน้อยแล้วเดินลงมาจากชั้นสองไปที่ห้องครัว ระหว่างทางก็อดกวาดตามองบ้านที่เพิ่งมาอาศัยได้ไม่กี่วันแต่เจ้าของร่างนี้อยู่มาตั้งแต่เกิด
ถ้า...ถ้าถึงคราวจำเป็น...ก็คงต้องขายบ้านหลังนี้
หลินเหยาซื่อดูสมุดบัญชีที่เจ้าของร่างเดิมทำไว้ซึ่งจดรายรับรายจ่ายอย่างละเอียด ทำให้รู้ว่าแต่ละเดือนแทบไม่พอใช้ หลินเหยาซื่อในปี1980 เป็นคุณหนูบอบบาง มารดาเสียไปตั้งแต่อายุเพียงแค่สิบขวบ บิดาไม่ได้แต่งงานใหม่ ทุ่มเทแรงกายและใจเลี้ยงดูลูกสาวอย่างดี หลินเหยาซื่อใช้ชีวิตแบบคุณหนูผู้ร่ำรวยสุขสบายจนวันที่เธออายุ 17 ก็มารู้ว่าบิดาป่วยด้วยโรคหัวใจ และเผื่อให้ตัวเองสบายใจจึงอยากเห็นลูกสาวคนเดียวได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีที่จะดูแลหลินเหยาซื่อได้ ชายคนนั้นคือ กั๋วคังเหริน ที่บิดาของเธอส่งเสริมอย่างออกหน้าออกตา ให้ทุนการศึกษาส่งไปเรียนที่อังกฤษหลายปีหวังให้กลับมาเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการดูแลกิจการของสกุลหลิน ในปีที่หลินเหยาซื่ออายุสิบแปดได้แต่งงานกับกั๋วคังเหริน แต่การแต่งงานนี้มีเงื่อนไขคือกั๋วคังเหรินต้องมาอยู่บ้านสกุลหลิน
จู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกอบอุ่นผูกพันในแววตาคู่นั้น หลินเหยาซื่อไม่แน่ใจว่า ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้คืออะไร ทำไมเธอรู้สึกว่าเขาคือคนที่เคยกุมมือไว้ก่อนที่จะสิ้นใจดวงตาหลังแว่นสายตาตื่นตกใจที่เห็นดวงตาคู่สวยมีหยดน้ำตา “คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า มีอะไรผิดปกติไหม”หญิงสาวใส่หน้าไปมา “ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ทำไมตัวเองถึงมีน้ำตา”เธอพยายามหัวเราะเช่นทุกครั้ง เวลามีอะไรเธอมักจะหัวเราะเสมอ กระทั่งครั้งนี้เธอก็หัวเราะทั้งที่มีน้ำตา ชายหนุ่มยื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่เปื้อนแก้ม“สัญญากันแล้วนี่นา ว่าจะไม่หลับไปนานแบบนี้อีก”คราวนี้หญิงสาวตกใจกับคำพูดของเขา“เมื่อกี้คุณหมอพูดว่าอะไรนะคะ”‘คุณหมอ’ ชายหนุ่มยิ้มเศร้า เธอคงจำเขาไม่ได้สินะ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วขยับตัวรักษาระยะห่างระหว่างหมอกับคนป่วย ทั้งที่เขาอยากคว้าเธอมากอดแนบอกเหลือเกิน‘จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่เขาจำเธอได้ก็พอ’ชายหนุ่มมองดวงตากลมโตที่ยังมีแววสงสัย เรื่องแบบนี้เล่าไปจะมีใครเชื่อ ตัวเขาเองยังไม่อยากจะเชื่อเลยหลังจากภรรยาตายจากได้ห้าปี เช้าวันหนึ่งเขาก็ตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าของร่างนี้ป่ว
หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ มองตัวเองในกระจก ยกมือขึ้นเปิดเส้นผมที่ปรกหน้าเห็นรอยแผลจากการถูกกระแทกต้องเย็บยี่สิบเข็ม คุณหมอแจ้งว่าถ้าเธอต้องการทำศัลยกรรมเพื่อลบรอยแผลเป็นก็ทำได้ เธอจำได้ว่าตอนนั้นเธอหัวเราะและตอบไปว่า“ไม่เป็นไรค่ะ แผลเป็นนิดเดียว”แต่จริงๆเธอเสียเงินหลายหมื่นหยวน ในปีค.ศ. 2023 นี้ เธอคือผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดา เหลือเงินติดบัญชีอยู่ไม่เท่าไหร่ โชคยังดีที่บริษัทภาพยนตร์ที่เธอรับงานเป็นตัวประกอบเห็นใจให้เงินค่าทำขวัญมาจำนวนหนึ่ง ส่วนค่ารักษาพยาบาลนั้นมาจากประกันอุบัติเหตุ เธอจึงไม่ต้องเป็นหนี้สินล้มละลายเพราะการรักษาตัวเอง แต่ข่าวที่เธอช่วยชีวิตคนอื่นก็ทำให้เธอกลายเป็นที่สนใจ ตอนนี้แม้เธอเป็นแค่ตัวประกอบ แต่ก็มีหลายบริษัทอยากให้เธอไปร่วมเล่นซีรีย์บทเล็กๆ ถึงอย่างไรหน้าตาเธอก็ไม่ได้สะสวยพอจะเป็นถึงนางเอกได้ และยิ่งตอนนี้มีแผลเป็นที่หน้าผากอีก ต่อให้ใช้ make up ปิดบังยังไง ก็ยังเห็นอยู่ดี แผลเป็นไม่ได้น่าเกลียดเท่าไหร่ เห็นแล้วก็อดคิดถึงแผลเป็นของผู้ชายคนนึงไม่ได้ แผลเป็นของเขาใหญ่กว่าเธอมาก ผ่านมาหลายปี แผลเป็นนั้นก็เป็นรอยจางๆหลินเหยาซื่อต้องทำกายภาพบำบัดที่โรงพยา
“ผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ พ่อก็รักไม่น้อย ปกว่ากัน แล้วพวกลูกล่ะ จะรักน้อง ไม่ว่าน้องจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายหรือเปล่า”“แน่นอนครับค่ะ พวกเรารักน้อง อยากให้น้องออกมาเร็วๆ จะช่วยคุณแม่เลี้ยงน้องและเล่นกับน้อง” คนเป็นแม่หัวเราะเสียงใส จะช่วยแม่เลี้ยงน้องหรืออยากเล่นกับน้องก็ไม่รู้เสียงหัวเราะของคนในครอบครัว ละลายความหม่นเศร้าที่เคยปกคลุมในบ้านหายไปหมดสิ้น ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือไปตรงหน้า“เข้าบ้านเถอะเย็นแล้ว อากาศเย็น เดี๋ยวคุณจะไม่สบายเอา”หญิงสาวมองมือใหญ่แข็งแกร่งที่ยื่นมาตรงหน้า เธอรู้ว่ามือคู่นี้จะคอยประคองเธอไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่นเดียวกับเธอที่สัญญาไว้กับเขาว่าจะจับมือเขาไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบางที...นี่อาจเป็นเหตุผลที่โชคชะตาส่งเธอมาในปีนี้ 1980 เพื่อได้รับใครสักคน และเพื่อให้หัวใจได้ถูกรัก.จบ.ลืมตาอีกครั้งหญิงสาวลืมตาขึ้นแล้วพบว่า ตัวเองอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ต้องตั้งสติอยู่นานกว่าจะรู้ว่า ตัวเองตื่นมาในปีค.ศ. 2023 เธอคือผู้รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ในอุบัติเหตุรถบัสตกเขาลงแม่น้ำหลินเหยาซื่อจำได้ว่าตอนที่ฟื้นขึ้นมา เธอสบตากับดวงตาคู่หนึ่งแม้เขาจะสวมหน้ากากอนา
คราวนี้เห็นทีจะจบเรื่องแล้วจริงๆ หลินเหยาซื่อถอนหายใจอย่างหอบเหนื่อย เธอถึงกับหมดแรงนั่งลงไปกับพื้น สามีเห็นแล้วก็รีบเข้าไปประคองอุ้มเธอขึ้นมาไว้บนเตียง เขาสั่งการกับเว่ยฉือให้จัดการเรื่องทั้งหมดแทนเขา เมื่อในห้องไม่มีคนนอกแล้ว ลูกทั้งสองคนก็ได้รับอนุญาตให้เข้ามาหาแม่ได้“คุณแม่เกิดอะไรขึ้นครับ/ค่ะ”เด็กน้อยสองคน ปีนขึ้นเตียงรีบเข้ามากอดแม่ เด็กฝาแฝดคนแย่งกันพูดเสียงดัง บรรยากาศกลับสดใสอีกครั้ง หลินเหยาซื่อส่ายหน้าไปมา บทเรียนต่อไปเธอต้องสอนให้ลูกพูดเสียงให้เบาลงกว่านี้ แต่เอาเถอะ เวลานี้เสียงของลูก ไพเราะที่สุดแล้ว“ขอแม่หอมแก้มเพิ่มพลังหน่อยสิ” หญิงสาวพูดขึ้น เด็กน้อยสองคนก็รุมหอมแก้มกันใหญ่สามีถอนหายใจแล้วค่อยยิ้มออกมา ทั้งที่เมื่อครู่เจอเรื่องอันตรายมากแต่เธอก็ยังยิ้มได้ คนที่บ้าที่สุดอาจจะเป็นภรรยาของเขาก็ได้ คิดแล้วเขาก็หัวเราะออกมาหลินเหยาซื่อเสียงสามีหัวเราะ ก็หันไปทำหน้ายู่ใส่“หัวเราะอะไรคะ”“หัวเราะอะไรคะ/ครับ” ลูกสองคนพูดเลียนแบบแม่“ไม่มีอะไรครับ”คนเป็นพ่อพูดแล้วโบกมือไปมา แต่หลินเหยาซื่อสบตากับลูกทั้งสองส่งสัญญาณ คนเป็นสามีรู้สึกไม่ค่อยน่าไว้ใจแสร้งถอยหลัง แต
ภาพที่เห็นตรงหน้า ทำให้ดาราสาวปวดใจแทบเป็นบ้า ยิ่งเห็นกั๋วคังเหรินโอบกอดหลินเหยาซื่ออย่างปกป้องและความห่วงใย ครั้งหนึ่งอ้อมกอดนั้นเคยเป็นของเธอมาก่อน ทำไมมันถึงมาจุดนี้ได้ ทำไมไม่ใช่เธอที่อยู่ในอ้อมกอดเขา ดาราสาวแหงนหน้าหัวเราะ ท่าทางไม่ต่างจากคนเสียสติ โลกไม่ยุติธรรมเสียเลย เธอมองหน้าชายที่เคยรักผ่านม่านน้ำตา“ทำไมคะ ทำไมคุณไม่รักฉัน ทำไมคุณต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น”ชายหนุ่มถอนหายใจหนักหน่วง เขาประคองร่างของภรรยาขึ้น มองเห็นหยดเลือดจากที่เธอกระชากสายน้ำเกลือออกก็ปวดใจ โชคดีที่ลูกสาวลูกชายไม่ได้อยู่ในห้องนี้ เขาไม่อยากให้ลูกๆ ต้องมาเห็นภาพแบบนี้“เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว คุณจะรื้อฟื้นทำไม คุณเองก็ไม่ได้มีผมเพียงคนเดียว ระหว่างที่เราคบกัน ก็ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่าคุณมีคนอื่น” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ได้ยินดังนี้ ดาราสาวถึงกับหน้าซีดไป เพราะเธอคิดเสมอว่าเขาไม่เคยรู้เรื่องราวด้านมืดของเธอเลยชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง“ให้มันจบแค่นี้เถอะ คุณมีชีวิตของคุณ ผมมีชีวิตของผม ผมมีภรรยาและลูกที่รักมากและผมต้องดูแลพวกเขา นอกจากหลินเหยาซื่อแล้ว ชีวิตนี้ผมไม่อาจรักใครได้อีกแล้ว เห็นแก่ควา
หลังจากมั่นใจว่า ในห้องไม่มีคนอื่นอยู่แล้ว หลินเหยาซื่อจึงลุกขึ้นจากเตียงนอน เธอรู้สึกรำคาญสายน้ำเกลืออยู่บ้าง แต่จะทำอย่างไรได้ก็สถานะตอนนี้เป็นคนป่วยนี้นะเธอไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเองอีกเมื่อไหร่ เธอจะหลับไปแบบนี้อีกไหม หลับไปยาวนานถึง 7 วัน ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเธอ แม้กระทั่งหมอ แต่ตัวเธอเอง ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่า ชีวิตที่ได้มาใหม่นี้ จะใช้ได้ยาวนานเพียงใด แต่ที่สุดแล้ว ก็ยังมีลมหายใจอยู่ โดยเฉพาะในชาตินี้ เธอรู้ดีว่า มีสิ่งที่สำคัญที่สุดรออยู่ นั่นก็คือ ลูกชายหญิงฝาแฝดของเธอ ที่แม้ซนเหมือนลิง แต่เธอก็รักพวกเขามากแม้ไม่มีความทรงจำที่อุ้มท้องพวกเขา แต่เธอก็รู้สึกว่าทั้งสองเป็นลูกของเธอจริงๆหญิงสาว มองไปที่โต๊ะตรงหัวเตียง มีกระเช้าผลไม้ตั้งอยู่ มีผลไม้หลากชนิด เธอเอื้อมมือไปหยิบแอปเปิ้ลสีสวย เห็นแล้วก็คิดถึงงานที่ทำค้างอยู่ Collection ใหม่ครั้งหน้า เธอน่าจะออกแบบลายผ้า เป็นรูปผลไม้เด็กๆชอบผลไม้สีสันสดใส น่าจะทำลายผ้าแล้ว ทำของอย่างอื่นด้วยก็ดีนะหลินเหยาซื่อคิดฝันไปไกลถึงกิจการของตัวเอง และเม็ดเงินที่จะเข้ากระเป๋า เมื่อมีเงินมาก เธอก็สามารถท
แม้จะไม่ได้อาบน้ำแต่ก็สบายตัวขึ้น หลินเหยาซื่ออารมณ์ดีขึ้น เธอเดินกลับมานั่งบนเตียง ผู้ชายตัวโตบังคับให้เธอลงนอน แต่เธอตีแขนเขาเบาๆ “นอนเยอะแล้วค่ะ ให้นั่งบ้างเถอะ” เธอกวาดตามองเขาแล้วดึงแขนให้เขามานั่งข้างๆ ยื่นมือไปแตะบริเวณที่จำได้ว่าเคยเห็นเลือดไหล “หลังก็มีแผลเป็น หน้าจะมีแผลเป็นอีกไหมนะ” “คุณกลัวเหรอ” เขาถามยิ้มๆ เขาเป็นผู้ชาย แผลเป็นไม่ได้สำคัญกับเลยสักนิด “เปล่าเสียหน่อย ฉันเป็นห่วงคุณต่างหาก คุณให้คุณหมอตรวจร่างกายหรือยังคะ ทุกอย่างโอเค.ไหม” “ผมบาดเจ็บเล็กน้อย คุณต่างหากที่หลับไป หมอก็หาสาเหตุไม่เจอ” “ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะคะ” “ผมต่างหากที่ทำให้คุณต้องบาดเจ็บ” “ก็บอกแล้วไงว่าตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของคุณ-เรื่องของฉัน แต่เป็นเรื่องของเราแล้วค่ะ” นอกจากแม่แล้ว เขาก็ไม่เคยมีใครใกล้ชิดแบบนี้ แม้แต่ตอนที่คบกับเดซี่ แม้ภายนอกใกล้ชิดกันแต่ระยะห่างของหัวใจนั้นไกลมาก เสียงประตูห้องเปิดออก กั๋วคังเหรินคิดว่าลูกๆกลับมาแล้ว แต่เมื่อหันไปดูจึงพบว่าเป็นคนที่เขาไม่อยากเจอหน้
ทันทีที่ลืมตา ภาพที่เห็นคือเด็กน้อยสองคนที่หน้าตาคล้ายกันจนเหมือนพิมพ์เดียวกันนั่งจ้องหน้าด้วยแววตาวิตกกังวล ทำให้เธอยื่นมือไปตั้งใจจะคว้าเอาเด็กสองคนมากอด แต่มีสายน้ำเกลือติดที่แขนทำให้ชะงักไป หลินเหยาซื่อทำหน้างุนงงและสับสนว่าเธออยู่ในปีค.ศ.ไหนกันแน่ “คุณแม่ตื่นแล้ว!” จางลี่กับจางหย่งผสานเสียงขึ้นพร้อมกันเสียงดังจนหลินเหยาซื่อต้องหยีตาและทำให้กั๋วคังเหรินที่ยืนคุยกับคุณหมอรีบสาวเท้ามาข้างเตียงภรรยาสาว “เหยาซื่อ...ได้ยินผมไหม?” กั๋วคังเหรินถามเสียงสั่น เขาเองก็กลัวว่าเธอจะไม่ฟื้นขึ้นมา แต่ไม่อาจแสดงความอ่อนแอได้ เพราะลูกยังต้องการเขาอยู่ “เกิดอะไรขึ้น” เธอถามและพบว่าน้ำเสียงแหบแห้งเหลือเกิน “ฉันอยู่ที่ไหน” “โรงพยาบาล...” เขาเอ่ยชื่อออกไป “คุณหลับไปเจ็ดวันเลยทีเดียว” “เจ็ดวัน...” หลินเหยาซื่อยังมึนงงอยู่ แต่เมื่อยื่นมือไปแตะใบหน้าที่โน้มลงมาใกล้สัมผัสไออุ่นที่คุ้นเคยก็ทำให้มั่นใจว่าไม่ได้ฝันไป “ขอโทษที่หลับไปนานนะคะ” เธอหันไปมองลูกทั้งสองที่ทำตาแดงๆ มองเธอ “แม่หลับไปหลายวัน ดื้อกับคุณพ่อหรือเปล่า
หลินเหยาซื่อถูกแรงกระแทกทำให้ผวาตื่น เธอหันซ้ายแลขวาอย่างตื่นตระหนก รถยนต์ส่ายไปมาอย่างน่ากลัว ความทรงจำสุดท้ายก่อนจะมาฟื้นในปี1980คือรถบัสที่ส่ายไปมาและพุ่งตกเขา เธอตื่นตระหนกด้วยคิดว่าตัวเองกลับไปสู่เหตุการณ์ในปี2023 แต่มือที่กุมมือแน่นอยู่นั้นทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ในปี1980กับผู้ชายที่ชื่อกั๋วคังเหริน“เกิดอะไรขึ้นคะ”“เชื่อใจผม” เขาโอบเธอไว้ในอ้อมกอดกดศีรษะเธอให้ซุกกับแผ่นอกของเขา“เว่ยฉือ”“พวกมันมากันหลายคน ผมจะพยายามสลัดพวกมันให้หลุด อ๊ะ!”รถยนต์คันนั้นพุ่งเข้าชนจากท้ายรถอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันดันให้ไปด้านหน้า เว่ยซือจะหักพวกมาลัยหลบแต่รถยนต์อีกคันมาขนาบข้าง ดวงตาดำจ้องมองผ่านหน้าต่างรถ กั๋วคังเหรินเห็นปากกระบอกปืนส่องมาตรงมาทางเขาก็รีบกดร่างหลินเหยาซื่อให้หมอบลงไป เว่ยซือเห็นท่าไม่ดีเหยียดคันเร่งหนีให้พ้นวิถีปืน ทว่ารถยนต์เสียหลักออกนอกเส้นทางพุ่งตกลงไปในแม่น้ำ!รวดเร็วจนหลินเหยาซื่อไม่ทันกรีดร้อง เธอรู้สึกว่าร่างกระเด็นกระดอนในรถยนต์ แต่ก็มีกั๋วคังเหรินกอดไว้แน่น เธอหูอื้อไม่ยินเสียงใดทั้งนั้น ราวกับเคยเกิดเรื่องนี้มาก่อน ใช่ ...มันเคยเกิดขึ้นในรถบัสที่เธอนั่งเดินไปเป็น
Komen