“ข้าให้เจ้าแค่หนึ่งคำถาม”
นางก็บอกอยู่ว่าเพียงหนึ่งคำถาม เหตุใดต้องย้ำอยู่ได้
“ขอบพระทัยองค์ชายใหญ่ อิงเหยารู้แล้วว่าพระองค์เองก็เมตตาหม่อมฉันอยู่บ้าง…”
“คำถามล่ะ”
คล้ายรำคาญที่รั่วอิงเหยายื้อเวลาไม่รีบถามสักที หลัวอี้เฟิงจึงชักสีหน้าและน้ำเสียงบ่งบอกว่าความอดทนเขามีขีดจำกัด
“อิงเหยาเข้าเรื่องแล้วเพคะ”
รั่วอิงเหยาคนใหม่ก้มหน้าลงอย่างนอบน้อมก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาหลัวอี้เฟิงที่ไม่แม้จะใยดีมองนาง
ช่างเย็นชายิ่งนัก สมแล้วที่นางวางบทให้องค์ชายใหญ่ผู้นี้แกล้งหลอกใช้ความรักของรั่วอิงเหยาที่มีต่อตนบีบให้นางกลายเป็นนางร้ายที่น่ารังเกลียด
“ก่อนที่อิงเหยาจะให้ท่านพ่อมาเข้าเฝ้าองค์ชายใหญ่ อิงเหยาฝันประหลาดเพคะ”
หลัวอี้เฟิงปรายหางตามองรั่วอิงเหยาด้วยความหงุดหงิดปนอยากรู้เล็กน้อย
“หม่อมฉันฝันถึงองรักษ์ตู้ รับคำสั่งจากองค์ชายใหญ่ ให้มาสังหารหม่อมฉันที่คุกหลวงเพคะ”
ตุ้บ!
“บังอาจ! เจ้ากล้าใส่ร้ายข้า”
หลัวอี้เฟิงดูร้อนตัวเช่นนี้ เขาคงวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะต้องกำจัดนางไปพร้อมกับว่าที่พระชายาตนที่ถูกพิษ
‘นี่เราให้ตัวละครเอกมีความคิดชั่วร้ายขนาดนี้เลยเหรอ’
“หม่อมฉันมิกล้ากล่าวหาองค์ชายใหญ่เป็นแน่ ที่หม่อมฉันกราบทูลเมื่อครู่เป็นเพียงเรื่องราวในฝันร้าย หม่อมฉันรู้ดีว่าองค์ชายใหญ่เป็นผู้สูงศักดิ์ที่มีเมตตา ยิ่งกับอิงเหยา ที่พระองค์ทรงไปมาหาสู่และสนิทกันยิ่งไม่มีทางที่ฝันร้ายนั้นจะเป็นจริง จริงหรือไม่เพคะ”
ท้ายคำพูดนั้นรั่วอิงเหยาแฝงน้ำเสียงไปด้วยการประชดประชัน ทำเอาหลัวอี้เฟิงคิ้วกระตุกเล็กน้อยที่ถูกนางเดาแผนการที่วางเอาไว้ราวเห็นกับตาได้ยินกับหู หากราชครูรั่วมาเข้าเฝ้าเขาช้ากว่านี้สักหนึ่งเค่อ ฝันร้ายของรั่วอิงเหยาคงเป็นจริงไปแล้ว
“ข้าไม่คิดส่งใครไปสังหารเจ้า เพราะหากชิงเอ๋อร์เป็นอะไรไป เสด็จพ่อจะจัดการเรื่องนี้เอง”
โกหก! นางเขียนเองกับมือว่าเรื่องราวใดจะเกิดขึ้นแต่หลัวอี้เฟิงก็ยังทำตัวนิ่งได้อย่างหน้าตาย
“นี่คือสิ่งที่เจ้าอยากถามข้า”
หลัวอี้เฟิงไม่อยากถูกสตรีต่ำช้าตรงหน้าหลอกเอาเรื่องความฝันมาท้าทายความอดทนเขาอีกจึงรีบถามออกไปอย่างไม่พอพระทัย
"อิงเหยาผิดเองที่สงสัยในความดีที่องค์ชายใหญ่มีต่อหม่อมฉัน เช่นนั้นเราไปที่ห้องของน้องหญิงกันเถิดเพคะ”
รั่วอิงเหยาลุกขึ้นยืนพร้อมย่อตัวลงอย่างอ่อนน้อมเพื่อเชื้อเชิญองค์ชายใหญ่เสด็จ
“เจ้าบอกไม่มียาถอนพิษเหตุใดถึงอยากไปห้องของชิงเอ๋อร์”
หลัวอี้เฟิงครางแครงใจ เขาไม่ไว้ใจรั่วอิงเหยาที่รู้แผนการที่เป็นความลับของเขากับตู้ชิงหลางจึงไม่ยอมเสด็จลงจากที่นั่ง
“เพราะน้องหญิงมิได้ถูกพิษ แต่ถูกผงเจ็ดราตรีที่จะทำให้นอนหลับใหลเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน เมื่อยาหมดฤทธิ์ น้องหญิงเชียนเชียนก็จะฟื้นได้สติเช่นเดิม”
“เจ้าตั้งใจจะให้ชิงเอ๋อร์หลับจนเลยวันแต่งงานของนางกับข้า!”
เมื่อได้ฟังความจริงหลัวอี้เฟิงถึงกับชี้หน้ารั่วอิงเหยาพร้อมบันดาลโทสะออกมาจนพระเนตรแดงก่ำ
“เพคะ หม่อมฉันไม่เคยคิดร้ายกับน้องหญิงถึงชีวิต แต่ก็ทำใจไม่ได้ที่จะเห็นคนที่หม่อมฉันรักกราบไหว้ฟ้าดินกับสตรีอื่น”
รั่วอิงเหยาร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดที่ถูกหลอกใช้มาตลอด
นางคือคนที่พบกับหลัวอี้เฟิงและเป็นสตรีที่เขาสามารถเปิดเผยพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างไม่ปกปิด
แต่จู่ ๆ รั่วเชียนชิงก็เข้ามาเป็นเพื่อนเรียนองค์หญิงห้าและถูกตาต้องใจกับองค์ชายใหญ่ โดยที่ทั้งคู่ปิดบังความรู้สึกนาง ดอกไม้ของกำนัลที่สื่อรักกันล้วนผ่านมือรั่วอิงเหยามาหมด ไม่ให้นางอยากขัดขวางพิธีอภิเสกสมรสของน้องสาวได้อย่างไร
“เหยาเหยา เราเข้าใจความรู้สึกที่เจ้ามีต่อเรา แต่การแต่งงานนี้เสด็จพ่อประทานให้ มิใช่เรากราบทูลขอเอง”
รั่วอิงเหยาประหลาดใจเล็กน้อยที่จู่ ๆ ตัวละครที่ตนเองเคยเขียนไว้กลับมีบทพูดสวนทางกับในนิยายที่แต่ง
นางเขียนเองกับมือว่าองค์ชายใหญ่หลัวอี้เฟิงกราบทูลขอพระราชทานสมรสกับรั่วเชียนชิงด้วยพระองค์เอง
หรือว่านี่คือผลพวงมาจากการที่นางไม่ถูกลอบสังหารทำให้เนื้อเรื่องเปลี่ยนไป
“อิงเหยารู้ดีว่าองค์ชายใหญ่ไม่มีทางหักหลังความรักที่เหยาเอ๋อร์มีต่อพระองค์”
ไม่สิ! ทำไมนางถึงเคลื่อนไหวร่างกายเองเข้าไปสวมกอดหลัวอี้เฟิงเช่นนี้
หมับ!
ผิดคาดจากที่กังวลว่าจะถูกลากไปประหารเมื่อมือหนาขององค์ชายใหญ่สวมกอดแนบแน่นกับรั่วอิงเหยาอย่างอบอุ่น
“ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดีกับข้าที่สุด แต่ราชโองการของเสด็จพ่อ ข้าหรือจะกล้าขัด”
หลัวอี้เฟิงผละอ้อมกอดนั้นออกช้า ๆ เพื่อใช้แววตาที่แสนอบอุ่นจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสดใสของรั่วอิงเหยา
ปกติรั่วเชียนชิงไม่ได้ติดพี่สาวถึงแตะเนื้อต้องตัวกันเช่นตอนนี้ แถมน้ำเสียงที่สนทนากันกลับมีแต่ความจริงใจและเชื่อใจกัน"พี่หญิง ใบหน้าท่าน..."รั่วเชียนชิงเพิ่งสังเกตรอยช้ำแดงที่แก้มขวาของพี่สาว"แค่เล็กน้อย" รั่วอิงเหยาคลี่ยิ้มให้น้องสาว"เพราะข้า ข้าทำให้ทุกคนเข้าใจพี่หญิงผิด"ความรู้สึกผิดกัดกินหัวใจของรั่วเชียนชิง บ่อน้ำตาที่ตื้นเขิน ค่อย ๆ หลังหยาดน้ำใสออกมาท่วมขอบกั้น"อย่าโทษตัวเอง เพราะเมื่อก่อนพี่ร้ายกับคนอื่นไว้มาก ไม่แปลกที่ใครเห็นเหตุการณ์ตอนนั้นจะเข้าใจเป็นอย่างอื่น"คำพูดยืดยาวที่ไม่มีความประชดประชันทำให้รั่วหนานเฉินมองบุตรสาวคนโตด้วยความประหลาดใจ"เจ้า...ไม่ได้วางยานางจริง?"ควรเป็นเพียงเสียงนึกคิดในหัว แต่รั่วหนานเฉินกลับลืมตัวเอ่ยเป็นเสียงถามออกมา"อิงเหยาไม่ได้ทำ แต่ก็ไม่เชิง""เหยาเอ๋อร์พูดอะไรลูก"ปิงเซียวหลันไม่เข้าใจบุตรสาว จะปฏิเสธแต่กลับทิ้งท้ายเหมือนตนเองทำ"เรื่องนี้ลูกจะต้องสืบสาวราวเรื่องและนำตัวคนผิดมาให้ท่านพ่อลงโทษ""พูดจาโอหัง เจ้าเป็นเพียงสตรีธรรมดา จะไปืบหาความจริงด้วยวิธีอันใด"สายตาที่รั่วหนานเฉินมองนางนั้นมีแต่ความขบขันและเหยียบย่ำความคิดเกินตัว"ลู
: ต่อจากนี้ไปพี่จะปกป้องเจ้าเอง :เรือนเชียนเชียนรั่วหนานเฉินรีบมาที่เรือนของบุตรสาวคนรองอย่ารีบร้อนพลางดีใจ"ลูกพ่อ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"เห็นรั่วเชียนชิงกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนตั่งนอนจึงรีบถามไถ่พร้อมเดินไปช่วยพยุงนางขึ้นมานั่ง"ท่านพ่อ ลูกหายแล้วเจ้าค่ะ"คนที่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวเอ่ยตอบอย่างยิ้มแย้มหลังจากตื่นจากผงเจ็ดราตรี รั่วเชียนชิงเหมือนถูกขังอยู่ในป่าหนาม ร่างกายนางเจ็บปวดและอ่อนแรงแม้กระทั่งยามหายใจความทุกข์นี้รั่วเชียนชิงไม่เคยเอ่ยบอกบิดาหรือผู้อื่นเพราะเกรงจะโยนความผิดไปที่พี่สาว"โชคดีที่หมอหลวงอวิ่นมาทันเวลาจึงถอนพิษให้เจ้าทัน"รั่วเชียนชิงเพิ่งฟื้นจึงมีอาการสะลึมสะลือ พอได้ยินบิดาเอ่ยถึงหมอหลวงในวังจึงแปลกใจว่าเขามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้ได้อย่างไร"เมื่อครู่ท่านพ่อหมายถึงหมอหลวงอวิ่นหยูหรือเจ้าค่ะ""จะเป็นผู้ใดได้อีก"ยิ่งฟังบิดากล่าวอย่างชื่นชมหมอหลวงผู้นี้ รั่วเชียนชิงยิ่งรู้สึกมึนงง สุดท้ายจึงนึกถึงคนสำคัญขึ้นมาได้"พี่หญิง พี่หญิงอิงเหยาเล่าเจ้าคะ"ได้ยินชื่อที่เป็นอัปมงคลคิ้วเข้มของรั่วหนานเฉินก็ขมวด ใบหน้าเคร่งขรึม ลมหายใจฟึดฟัดก่อนเอ่ย"เจ้าไม่ต้องห่วง
"คุณหนูใหญ่ฟื้นแล้ว ไปเรียนราชครูเร็ว"เสียงคนคุยกันเบา ๆ ดังอยู่ด้านหลัง รั่วอิวเหยาจึงค่อย ๆ หันหน้ากลับไปมองพร้อมเอ่ยถาม"ชิงเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง"นางอยากรู้วิชาแพทย์ของสกุลปิงเก่งกาจสมคำร่ำลือหรือไม่"คุณหนูรองได้ท่านหมอหลวงจากในวังมาช่วยไว้แล้วเจ้าค่ะ"แม้จะมีหางเสียงแต่น้ำเสียงที่ตอบคุณหนูใหญ่นั้นอย่างกระแทกแดกดันจากความเข้าใจผิดก่อนหน้าว่านางทำร้ายคุณหนูรองแสนบอบบาง"หมอลวงจากในวัง"คนในวังจะรู้เรื่องนี้และมาได้จังหวะเหมาะเหม็งเช่นนี้เชียวหรือ"คุณหนูใหญ่ฟื้นแล้วเชิญท่านคุกเข่ารอท่านราชครูมาแจงโทษเถิดเจ้าค่ะ"นางถูกคนลอบทำร้ายกลับไม่มีใครสนใจ แม้พอฟื้นสาวใช้ยังจะให้นางทำตามคำสั่งรั่วหนานเฉินที่สั่งไว้ตอนนั้นอีก หากนี่ไม่ใช่นิยายที่นางแต่งเองกับคงคิดว่ารั่วอิงเหยาถูกเก็บมาเลี้ยงแล้ว"ท่านราชครู"คิดน้อยใจตัวเองได้ไม่ทันไร รั่วหนานเฉินก็มาถึงที่ ด้านหลังมีปิงเซียวหลันตามมาห่าง ๆ หากแต่เหมือนถูกสั่งห้ามยื่นมือมาสอดจึงได้แต่มองบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง"ดียิ่งนัก! คิดว่าฮ่องเต้โปรดปรานเลยปีกกล้าขาแข็งวางยาพิษซ้ำกับน้องสาว!"เสียงข่มต่ำ แววตาแข็งกร้าว จ้องมองบุตรสาวอย่างกรุ่นโกรธ"ข้
:: ข้าบริสุทธิ์ ::รั่วเชียนชิงได้แต่หลับตาลง กัดฟันแน่น พร้อมร้องเจ็บปวดในใจ"พี่จะใช้เข็มแรกเปิดจุดระบายพิษให้ออกทางเหงื่อเพื่อป้องกันพิษแล่นเข้าสู่หัวใจ"รั่วอิงเหยาเอ่ยจบก็เริ่มฝังเข็มลงไปบนร่างกายเชียนชิง ทีละจุด ๆนี่คือความสามารถของรั่วอิงเหยาในนิยายของนาง หากแต่ทำไมอิงอิงถึงไม่แต่งด้านดี ๆ ออกมากันนะ"เจ็บหรือไม่"หลังจากฝังเข็มเพื่อระบายพิษทางเหงื่อครบทุกจุดแล้วจึงค่อย ๆ สังเกตอาการของเชียนชิงไปด้วย"ไหว...ไหวเจ้าค่ะ"ได้ยินคำตอบน้องสาวที่ต่อสู้กับความเจ็บปวดอยู่ใจนางก็หวั่นไหวตาม แต่ต้องอดทนไม่อ่อนแอตามน้องสาว"ต่อไปจะเจ็บกว่านี้ เจ้าต้องอดทน""เจ้าค่ะ"เชียนชิงกัดฟันแน่นเป็นหนที่สอง มือแน่งน้อยกำจิกอาภรณ์ไว้แน่นหวังว่าจะช่วยลดความกลัวและเจ็บปวดได้"อึก!"เข็มแหลมคมฝังลงบนฝ่ามือทั้งสองข้า ตามเส้นเลือดเพื่อระบายพิษเลือดคลั่งนี้ให้รวมกันขึ้นที่สูง"เข็มสุดท้ายแล้ว เจ้าจะรู้สึกแน่นหน้าอกจนเหมือนจะาดใจ ร่างกายภายในจะเจ็บปวดราวแตกสลาย แต่เมื่อพี่ถอนเข็มนี้ออกเจ้าจะหายดี""เชิญพี่หญิงลงมือ"ต่อให้เจ็บปางตายเพียงใด หากพี่สาวรักษานางหายได้ เป็นใครจะไม่ยินยอม"โอ๊ย...กึก!"รั่วเชียนช
"ชิงเอ๋อร์ หลังจากดื่มยาชุบชีวิตแล้วร่างกายเจ้าก็ผิดปกติ ป่วยง่าย หอบเหนื่อยเร็ว ใช่หรือไม่"คนถูกถามตกใจเล็กน้อย ก่อนจะนึกได้ว่าพี่สาวตนยังมีสายเลือดของหมออยู่ครึ่งหนึ่ง เรื่องแค่นี้นางย่อมสังเกตออก"เป็นอย่างที่พี่หญิงกล่าว"รั่วอิงเหยาหน้าเศร้าลงมองน้องสาวอย่างเป็นห่วงระคนสำนึกผิด"เพราะพี่ไม่ดีแท้ ๆ เจ้าถึงกลายเป็นคนขี้โรคจนถูกเลื่อนงานอภิเสกออกไปอย่างไม่มีกำหนด"คำพูดของพี่สาวช่างเหมือนเข็มนับหมื่นทิ่มแทงอกรั่วเชียนชิงพร้อมกัน"ไม่ต้องห่วง พี่จะช่วยเจ้าให้กลับมาแข็งแรงโดยไวจะได้เข้าพิธีอภิเษกกับองค์ชายใหญ่เร็ว ๆ"รั่วเชียนชิงถึงกับใจหล่นวูบ รู้สึกครางแคลงใจกับคำพูดของพี่สาวจนทนเก็บความสงสัยที่เก็บซ่อนไว้ในใจไม่อยู่เอ่ยถามออกมาเสียงสั่นและแผ่วเบา"พี่หญิงไม่โกรธชิงเอ๋อร์ที่แย่งองค์ชายใหญ่มาหรือเจ้าคะ"รั่วเชียนชิงเพิ่งรู้ความจริงหลังจากที่ฟื้นจากผงเจ็ดราตรีว่าอิงเหยาต่างหากที่พบหลัวอี้เฟิงและรักเขาเป็นคนแรก นางจึงไม่โกรธที่ถูกพี่สาววางยา"ความรักมันห้ามกันไม่ได้ ต่อให้เวลานั้นข้ารักอี้เฟิงมากเพียงใด หากเขาและข้าใจไม่ตรงกัน สุดท้ายเขาก็จะเลือกหัวใจที่ตรงกับเขาอยู่ดี...นั่นคือเจ้า"
ข้าคืออิงเหยา แต่ก็ไม่ใช่อิงเหยาเรือนอิงอิงหลังจากทำแผลเรียบร้อยแล้ว รั่วอิงเหยาก็ถูกมารดาตำหนิจนหูชา แต่ในสายตานักเขียนที่ทะลุมิติมากลับรู้สึกว่าปิงเซียวหลันนั้นช่างดีแสนดี เป็นห่วงเป็นใยรั่วอิงเหยายิ่งนักทั้ง ๆ ที่รั่วอิงเหยาผู้นั้นสร้างแต่เรื่องแต่ราวให้มารดาตนเสื่อมเสียและน่าอับอาย น่าเสียดายที่ในนิยายที่อิงอิงแต่ง ปิงเซียวหลันผู้นี้กลับไม่ค่อยมีบทบาทเช่นตอนนี้เลย"พี่หญิงข้าขอเข้าไปได้หรือไม่"น้ำเสียงอ่อนหวานฟังแล้วนุ่มหูเอ่ยขึ้นด้านนอก ในมือนางถือถาดอาหารและยาบำรุงโลหิตเอาไว้มั่น"น้องหญิงเข้ามาเถิด"ตั้งแต่กลับมาจากหนานโจว นอกจากรั่วอิงเหยาจะกักตัวอยู่ในห้อง นั่งแกะสลักตุ๊กตาไม้เล่นแก้เบื่อ นางก็ไม่ได้พบเจอน้องสาวเพื่อกล่าวขอโทษเรื่องที่ผ่านมาเลย"ชิงเอ๋อร์เอายาบำรุงโลหิตกับขนมที่พี่หญิงชอบมาให้เจ้าค่ะ"รั่วอิงเหยามองนางเอกในนิยายนางด้วยแววตาเป็นประกาย คราวก่อนยังสำรวจความงามของรั่วเชียนชิงไม่หนำใจ พอตั้งใจมองยามนางมีสติจึงสมแล้วที่นางปลุกปั้นสร้างรั่วเชียนชิงให้หน้าตาจิ้มลิ้ม ดวงตากลมโต คิ้วเข้มโก่งงาม ชวนให้บุรุษที่พบเจอนางเป็นต้องหลงใหล"ลำบากเจ้าแล้ว"รั่วอิงเหยาฉีกยิ้ม