แชร์

บทที่ 7 ครอบครัวเหรอ

ผู้เขียน: รตบงกต
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-03 11:23:13

คฤหาสน์ตระกูลวัลพิทักษ์วงศ์ษา

“ถึงแล้วลงไปสิ” รอยส์บอกคนที่กำลังนั่งอ้าปากค้างมองบ้านของตัวเอง ไม่ยอมลงไปสักที

“นี่มันบ้านหรือพระราชวัง จะใหญ่ไปไหน”

ซอลมองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าอย่างอึ้ง ๆ ที่นี่เหมือนบ้านในละครที่เธอเคยเล่นเลย มิน่าล่ะคนต่างตั้งฉายาให้เจ้าของร่างนี้นางฟ้าหรือไม่ก็เจ้าหญิง ที่แท้ก็เป็นลูกมหาเศรษฐีเกิดมาบนกองเงินกองทองนี่เอง

“เธอไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับที่นี่บ้างเลยเหรอ?”

รอยส์ถามอย่างอดสงสัยไม่ได้ แต่ตามที่เขาให้หมอเก่งสุดในโรงพยาบาลตรวจโดยละเอียดแล้ว ผลการเอกซเรย์ทุกอย่างปกติดีนี่ มันแปลกมากนะที่เรื่องของตัวเองจำไม่ได้ แต่เรื่องของคนอื่นกลับจำได้หมด

“ไม่! สมองฉันคงกระทบกระเทือนมั้ง ขนาดตายังเกือบมองไม่เห็นเลย” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย เพราะเธอไม่ค่อยถูกชะตากับเจ้าของร่างคนเก่ามันก็เลยไม่แปลกหรอกที่เธอไม่เคยรู้เรื่องของร่างนี้นอกจากชื่อและต้องทำงานเข้าฉากกันวันไหนบ้าง เธอเลยเลือกที่จะโกหกแต่ก็คิดอยู่แล้วว่าเขาคงไม่เชื่อหรอก

“ช่างเถอะฉันแค่สงสัยน่ะว่าเธอเปลี่ยนไปเหมือนคนละคนเลย”

[ก็คนละคนไงล่ะ]

“ก็ไม่รู้สิ คุณก็ให้หมอที่โรงพยาบาลตัวเองตรวจฉันอีกทีดีไหม?” ซอลทำหน้าตากวน ๆ ใส่อีกฝ่าย

“เฮ้อ~~~เอาล่ะเข้าบ้านกันเถอะ” รอยส์ถอนหายใจยาวหนึ่งทีก่อนจะเดินลงรถก่อน

ให้ตายเถอะข้างนอกว่าสวยแล้วข้างในคือสวยมาก เจ้าหญิงในคฤหาสน์สุดหรูชัด ๆ ส่วนเธอกว่าจะหาเงินได้แต่ละบาทเลือดตาแทบกระเด็น นี่สินะที่เขาเรียกว่าเกิดบนกองเงินกองทอง

“คุณอาริสาสวัสดีครับ” รอยส์พาลูกสาวคนกลางของบ้านเดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่ที่มีคุณผู้หญิงของบ้านนั่งอยู่กับลูกสาวติดตัวเอง

“สวัสดีจ๊ะหลาน คุณพ่อคุณแม่สบายดีหรือเปล่า?”

“สบายดีครับ” รอยส์ตอบพร้อมรอยยิ้ม

“สวัสดีค่ะแม่” รินที่คิดว่าผู้หญิงวัยกลางคนที่ดูน่าเกรงขามคนนี้คงเป็นแม่ของซอลแน่เธอเลยยกมือไหว้ทักทายทันที 

“ดูท่าทางไม่เจ็บแค่ตัว แต่สมองคงจะกระทบกระเทือนด้วยละมั้ง”

ซอลหันไปมองผู้หญิงอีกคนที่พูดขึ้น เธอรู้จักผู้หญิงคนนี้ พิ้งค์ ดาราปลายแถวที่เคยมาเป็นตัวประกอบในโฆษณาแบรนด์น้ำหอมที่เธอเคยถ่ายตัวหนึ่ง

ก็ไม่ได้อยากจะพูดดูถูกใครว่าปลายแถวหรอกนะ แต่นอกจากบทตัวประกอบที่ออกมานิดหน่อยตามละคร เธอก็ไม่เคยเห็นอีกฝ่ายได้รับบทหลัก ๆ เลย แล้วถ้าจำไม่ผิดทั้งคู่ใช้คนละนามสกุล

[ถ้าอยู่บ้านด้วยกันจริงและเรียกผู้หญิงคนนี้ว่าแม่เหมือนซอล งั้นก็คงเป็น!]

“ลูกติดเหรอ?”

คำพูดของซอลทำให้หญิงสาวทั้งสองคนที่นั่งอยู่บนโซฟาถึงกับแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา โดยเฉพาะพิ้งค์ เธอมีปมเรื่องนี้อยู่แล้วเพราะตัวเองเป็นแค่ผู้อาศัยบ้านหลังนี้ก็ว่าได้

ตอนนี้เธอโกรธจนแทบอยากจะกระโดดไปตบหน้าสวย ๆ ของคนที่พูดให้เสียโฉม แต่ติดที่มีชายหนุ่มมองอยู่

ส่วนซอลที่เห็นอาการของอีกฝ่ายก็คิดว่าตัวเองอาจจะพูดอะไรผิดไปเลยดึงแขนเสื้อของรอยส์เบา ๆ ก่อนจะกวักมือให้เขาก้มหัวลง รอยส์ก็ไม่ได้ขัดขืนยอมทำตามที่อีกฝ่ายบอก

“อะไร?”

“ฉันพูดอะไรผิดเหรอ ทำไมเหมือนเธอไม่ค่อยพอใจเลย?” รินกระซิบเสียงเบา

คนที่ได้ฟังคำถามถึงกับต้องถอนหายใจอีกที แต่ก็ยอมตอบในสิ่งที่เธอถาม

“คุณอาริสาเป็นแม่เลี้ยงของเธอ ส่วนอีกคนก็พิ้งค์ตามที่เธอบอกเป็นลูกติดของอาริสา และเธอก็มีน้องสาวพ่อคนเดียวกันอีกคน”

ซอลที่ฟังก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่ในวงการบันเทิงมีใครรู้สถานะของสองคนนี้หรือเปล่านะ?

“พี่รอยส์ขา พิ้งค์ไม่เห็นพี่รอยส์มาหลายเดือนเลยนะคะ ไปที่คลับก็ไม่ค่อยเห็น” พิ้งค์เดินมาผลักซอลออกห่างจากรอยส์อย่างจงใจ ก่อนจะกอดแขนรอยส์แนบชิดกับอกตัวเอง

“ช่วงนี้พี่อยู่ที่โรงพยาบาลน่ะครับ ถ้าน้องพิ้งค์ไปเยี่ยมน้องซอลคงได้เจอพี่”

น้องซอล!

ซอลขำสรรพนามที่อีกฝ่ายเรียกตัวเอง นั่นสินะตั้งแต่รู้จักเขาในฐานะของซอลไม่เห็นจะเรียกแบบนี้เลย แต่ช่างเถอะเพราะคำพูดของอีกฝ่ายที่ตอบพิ้งค์มันทำให้เธออดยิ้มไม่ได้

ดูเหมือนว่ายายดาราปลายแถวคนนี้จะเกลียดซอลอย่างเห็นได้ชัดเลย

[ดูเหมือนว่าการอยู่ที่นี่คงจะมีเรื่องให้เธอลำบากกว่าที่คิด]

“เอ่อคือ...พิ้งค์”

“ช่วงนี้หนูมีงานถ่ายละครใช่ไหมลูก เลยไม่ได้ไปเยี่ยมซอล” คนเป็นแม่ที่เห็นว่าลูกสาวอึกอักก็รีบแก้ต่างให้ลูกสาว

“ใช่ค่ะ...ใช่ช่วงนี้พิ้งค์ทำงานหนักมาก ทั้งละคร โฆษณาแต่พิ้งค์ก็เป็นห่วงซอลมากเลยนะ” พิ้งค์ส่งสายตาอ้อนเพื่อหวังให้รอยส์เชื่อ

[แม๊~ งานหนักจริงนะคุณดาราดัง]

ซอลกลอกตาไปมาด้วยความหมั่นไส้กับการที่อีกฝ่ายโอ้อวด

“ครับ ตอนนี้น้องซอลก็กลับมาแล้ว น้องพิ้งค์ก็ไม่ต้องห่วงแล้วครับ”

“เอ่อ...ขอโทษที่ขัดจังหวะ คือว่าห้องน้ำอยู่ไหนเหรอคะ?” ซอลพูดแทรกขึ้นมา นั่นทำให้พิ้งค์ตวัดสายตามามองเธออย่างไม่พอใจ แต่แล้วยังไงล่ะใครกลัว

“ไม่มีมารยาท”

ริสาพูดขึ้นหลังจากได้ยินคำพูดของลูกเลี้ยง แต่ท่าทางของหญิงสาวที่ยักไหล่อย่างไม่สนใจ ทำให้เธอถึงกับอึ้ง

ยัยเด็กคนนี้ไม่เคยกล้าทำแบบนี้เลยสักครั้ง หรือจะเป็นบ้าไปแล้ว

“แม่บ้าน!! แม่บ้าน…” เสียงพิ้งค์ตะโกนเสียงดังไปทั่วบ้าน ทำเอารอยส์ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ปวดหูไปหมด

“ค่า...คุณหนู นามาแล้วค่ะ”

“พาซอลกลับไปที่ของตัวเองหน่อย” พิ้งค์ทำสีหน้ารำคาญอย่างเห็นได้ชัด

“ค่ะ”

ซอลได้แต่ทำหน้างงแล้วก็หันมองรอยส์ รอยส์พยักหน้าให้เธอตามแม่บ้านไปตามที่พิ้งค์บอก พอเห็นแบบนั้นเธอเลยยอมเดินตามแม่บ้านอย่างว่าง่าย ไม่นานเธอก็เดินมาถึงสวนด้านหลังก่อนจะเจอกับบ้านไม้หลังเล็ก 

[บ้านใครหรือว่าเป็นบ้านรับรองแขก?]

“คุณหนูซอลถึงแล้วค่ะ”

“ที่นี่คือที่ฉันอยู่เหรอ?”

“ค่ะ” แม่บ้านทำหน้างงกับคำถามแปลก ๆ ของคนตรงหน้า แต่ก็ไม่กล้าที่จะถามเพราะถ้าคุณ ๆ ที่ตึกใหญ่รู้ว่าสนิทสนมกับหญิงสาวตรงหน้าคงถูกไล่ออก ทั้งที่ความจริงแล้วเธอชอบดูละครของคุณซอลมาก เป็นนางเอกในดวงใจของเธอ

“อย่างนั้นก็ขอบคุณมาก เธอกลับไปทำงานต่อเถอะฉันไม่รบกวนแล้ว”

คำพูดที่ดูไม่หวาดกลัวหรือนอบน้อมแม้แต่กับคนใช้ในบ้าน ทำให้คนที่ฟังอดสงสัยไม่น้อย หลังจากที่แม่บ้านเดินออกไปเธอก็ยกกระเป๋าเดินเข้าบ้านทันที

แกร๊ก!!!

ทันทีที่ประตูถูกผลักเข้าไปรูปมากมายของคนที่เธอเข้ามาอาศัยร่างอยู่ก็ถูกตั้งอยู่เต็มบ้าน

[นี่เธออยู่บ้านหลังเล็ก ๆ แบบนี้จริงเหรอ?]

พอเดินเข้ามาในตัวบ้านเธอก็วางกระเป๋าไว้บนโซฟาเล็กกลางบ้าน ก่อนจะเดินสำรวจหาห้องน้ำ หลังจากเข้าห้องน้ำเสร็จเธอก็เดินขึ้นชั้นสองซึ่งน่าจะเป็นห้องนอนเจ้าของร่างคนเก่า

ห้องนี้ถูกแต่งด้วยสีฟ้าและน้ำเงินซะส่วนใหญ่ ใครหลายคนคิดว่าโทนสีชนิดนี้คือตัวแทนของความสดใส แต่ใครจะรู้ล่ะว่าในอีกความหมายมันหมายถึงความโดดเดี่ยวได้อีกด้วย 

“บ้านหลังใหญ่ไม่อยู่ มาอยู่บ้านหลังเล็ก ๆ นี่นะ ทั้งที่ทั้งหมดมันคือของตัวเอง ทำไมต้องหลีกทางให้คนอื่นด้วย เธอเป็นคนดีหรือคนโง่กันแน่”

“ซอล! ซอล!”

“ใครน่ะ? รอแป๊บกำลังจะไป” พอได้ยินเสียงเรียกชื่อเธอก็รีบวิ่งออกจากห้องลงบันไดไปหาคนที่เรียกหาทันที

“คุณนี่เองมีอะไร?”

คนที่เรียกหาเธอคือรอยส์นั่นเอง

“ฉันจะกลับแล้ว ออ!! ส่วนเรื่องที่เธอขอในรถฉันบอกพ่อเธอให้แล้ว ท่านอนุญาตเดี๋ยววันมะรืนฉันจะมารับ อีกอย่างพ่อเธอบอกว่าถ้าท่านยังไม่กลับมาห้ามออกจากบ้านเด็ดขาด เธอมีโทรศัพท์หรือเปล่า?”

“น่าจะไม่มีนะหรือมีฉันก็ไม่รู้ จำไม่เลยจริง ๆ” ซอลพูดพร้อมกับตีหน้าซื่อ

“ช่างเถอะ นี่เป็นโทรศัพท์สำรองของฉัน เธอเอาไปใช้ก่อนรหัสเข้าก็หนึ่งหกตัว มีอะไรก็โทรหาฉันด่วนมันเมมเบอร์ว่ารอยส์1เข้าใจหรือเปล่า?” รอยส์ย้ำเสียงหนักแน่น

“เข้าใจแล้ว” แต่ยังไม่ทันที่รอยส์จะก้าวขาออกไปเธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “เอ่อ นี่คุณตอนนี้ฉันหิวข้าวมาก ต้องทำยังไง?”

“งั้นก่อนฉันจะกลับ จะบอกให้แม่บ้านเอาของกินมาให้เธอแล้วกัน”

“โอ๊ะ!! แบบนั้นดีเลยยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้านะ ต้องรบกวนคุณแบบนี้ฉันล่ะเกรงจ้ายยย เกรงใจ” คนที่พูดว่าเกรงใจฉีกยิ้มกว้างจนคนที่มองต้องส่ายหน้าไปมา

“เฮ้อ~อยู่กับเธอแล้วเหมือนฉันจะอายุสั้นลงอีกสิบปีเลย” รอยส์บ่นให้คนตรงหน้าเสร็จก็เดินออกไป ส่วนซอลก็ได้แต่คิดในใจว่าผู้ชายตรงหน้าคนนี้ก็เป็นคนดีกว่าที่คิด และรอยยิ้มบนใบหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นความเศร้า เมื่อความโดดเดี่ยวคืบคลานเข้ามาอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มเดินออกไปแล้ว

[ยาย รินคิดถึงยายจังเลย]

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เมื่อนางร้ายกลายเป็นนางเอกที่แสนดี   บทที่ 30 คนรัก(จบ)

    4 เดือนต่อมากองถ่ายซีรี่ย์Write Love"ฉันขอโทษเทีย...ฉันขอมอบความตายนี้ให้กับเธอ ที่มอบซื่อสัตย์กับคำว่าเพื่อนของเราตลอด""ไม่นะแอล อย่าทำอะไรโง่ๆ เด็ดขาด!!"ไม่คำใดๆ ออกจากปากของแอลมีเพียงแค่รอยยิ้มที่ตอนเด็กพวกเธอเคยยิ้มให้กันครั้งแรกส่งมา เทียพยายามจะก้าวขาเข้าไปหาเพื่อนที่อยู่ขอบหน้าต่างของโรงพยาบาล ตอนนี้เธอให้อภัยแอลแล้วเพียงแค่ช่วยเพื่อนได้เธอยอมลืมเรื่องราวทั้งหมด"ม่ายยยยยยย!!"ดูเหมือนคำพูดของเธอจะไม่ส่งถึงเพื่อนเลยสักนิดเพราะร่างเล็กตอนนี้เดินถอยหลังไปอีกนิดก่อนจะทิ้งตัวลงไปกับอากาศ"ฉันรักเธอนะเทีย แต่ถ้าชาติหน้ามีจริงเธออย่ามาเจอเพื่อนเลวๆ อย่างฉันเลย...ขอให้รักกันนานๆ " ไม่นานร่างที่ลอยอยู่บนอากาศก็ร่วงลงสู่พื้น ร่างที่กระแทกอาบไปด้วย ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยน้ำตาค่อยดับวูบลงไปกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณและจิตใจ"คัตตตตต!! ปิดกองได้""เฮ้~"เสียงโห่ร้องอย่างดีใจของทีมงานและเหล่ารักแสดงที่ร่วมกันทำให้ซีรี่ย์เรื่องนี้ดังขึ้นเมื่อผู้กำกับสั่งปิดกอง"ซอลยินดีที่ได้ร่วมทำการแสดงกับทุกคนนะคะ"ซอลที่กำลังยืนให้ทีมงานในกองถ่ายเช็ดเลือดปลอมที่ใช้ประกอบฉากออก พูดกับผู้กำกับและนักแสดง

  • เมื่อนางร้ายกลายเป็นนางเอกที่แสนดี   บทที่ 29 ผลกรรม

    ยังไม่ทันที่ศิวาจะได้ตอบโต้อะไรตอบ ก็มีเสียงดังแทรกขึ้นมาทำเอาเขาตกใจมากยิ่งเห็นว่าคุณที่พูดคือนักข่าวที่ตัวเองเพิ่งเจอไปเมื่อวาน"ซอลทำไมถึงมีคนอื่น นี่หลอกพี่มาเหรอฮะ!!"ศิวาที่กำลังตกใจและโกรธหันไปเล่นงานซอลแทน ทำเอาดีดี้รีบเข้าไปขวางเพราะกลัวว่าดาราหนุ่มจะทำอะไรไม่ดีเข้า"มะ...ไม่ใช่นะคะ ซอลไม่คิดแบบนั้นฮืออออ" ซอลแสร้งทำเป็นตกใจจับชายเสื้อของดีดี้ด้วยมือที่สั่นเทา"น้องซอลไม่ได้คิดจะทำแบบที่คุณพูดเลยสักนิด ที่เชิญนักข่าวมาก็เพราะจะลบเรื่องในที่คลับ แต่ทุกอย่างมันจบแล้วคุณศิวา ดูท่าทางคุณนักข่าวจะได้สิ่งที่จะเอาไปตีพิมพ์ต่อสาธารณชนแล้ว" ดีดี้พูดอย่างหมั่นไส้ ตัวเองเลวแท้ๆ กับจะมาให้น้องซอลของเธอรับผิดชอบ"ผมขอตัวเลยนะครับ ถ้าวันหลังผมคงจะมีโอกาสได้สัมภาษณ์คุณใหม่นะครับ" พูดจบนักข่าวก็เดินออกไปทันที ส่วนศิวาก็ตกใจแล้วรีบวิ่งตามออกไป"เดี๋ยวครับคุณนักข่าว อย่าลงเลยนะครับ คุณต้องการเท่าไหร่เดี๋ยวผมเซ็นเช็คให้เลย""จะติดสินบนผมเหรอคุณดาราคนดัง แต่ผมไม่ค่อยชอบเงินเท่าไหร่ ขอตัวครับ"ดูเหมือนว่าการเจรจาครั้งนี้จะล้มเหลว เขาเลยเลือกจะเดินกลับมาในห้องเพื่อขอร้องให้ซอล แต่พอเข้ามาเห็นเธอก

  • เมื่อนางร้ายกลายเป็นนางเอกที่แสนดี   บทที่ 28 ติดกับดัก

    แสงแดดยามสายทำให้ร่างบางของคนที่ถูกกอดไว้ทั้งคืนค่อยขยับตัว เธอค่อยๆ ดึงแขนใหญ่ที่กอดตัวเองออกจากตัวเบาๆ เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่น พอหลุดจากแขนแล้วเธอก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระคาบเหงื่อไคลจากกิจกรรมหนักหน่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา"อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอครับ""ตื่นแล้วเหรอคะ ซอลทำให้พี่รอยส์ตื่นหรือเปล่า""ไม่เลยครับ...นี่ก็แปดโมงแล้วเดี๋ยวพี่ขออาบน้ำก่อนแล้วจะพาไปส่งที่บ้านนะครับ""งั้นเดี๋ยวซอลโทรศัพท์หาคุณพ่อดีหน่อย ป่านนี้ท่านคงเป็นห่วงแล้ว""เมื่อคืนตอนซอลหลับพี่โทรไปบอกท่านแล้วครับว่าซอลจะได้ตรวจกับหมอตอนเช้าเลยนอนที่โรงพยาบาล"หน้าตาเรียบเฉยของคนเจ้าแผนการทำเอาซอลอดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้"คนจอมวางแผน"ติ้ง!! ยังไม่ทันที่จะได้ตอบโต้กันต่อเสียงข้อความโทรศัพท์ของซอลก็ดึงความสนใจ เธอเดินไปหยิบมาเปิดดูพอเห็นว่าเป็นชื่อใครก็ถึงกับยิ้มมุมปากอย่างพอใจ"เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อนนะครับ""ค่ะ"Siwa : ซอลครับช่วยพี่หน่อย ตอนนี้พี่กำลังเดือดร้อน พี่ขอโทษเรื่องตอนนั้นSiwa : อ่านแล้วตอบหน่อยครับ ซอลจะช่วยพี่ไหมนะครับ ถ้ามีอะไรให้พี่ทำ พี่ยอมทำตามทุกอย่างที่ซอลบอกข้อความที่ปรากฏทำให้ซอลถึงกับยิ้มออกมาอย่างพ

  • เมื่อนางร้ายกลายเป็นนางเอกที่แสนดี   บทที่ 27 รัก NC

    “อ๊ะ... อ๊า” เสียงครางลั่นไปทั่วห้องนอนกว้างแขนของซอลยกขึ้นมาโอบรอบคอของร่างสูงพร้อมกับขยุ้มเส้นผมสีดำเพื่อระบายความเสียว ดวงตาหวานหยาดเยิ้มที่มีความปรารถนาไม่ต่างกันจ้องมองกันและกัน“จ๊วบบบ จ๊วบบ!”รอยส์ก้มลงไปหยอกเย้ากับยอดอกสวยสลับซ้ายขวาอย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เขาต้องอดทนตั้งแต่ตอนอยู่ห้องนั่งเล่นแล้ว ไม่สิต้องบอกว่าอยู่ในรถแล้วต่างหากและตอนนี้มันก็อยากระบายเต็มที“อือ อ๊า ยะ...อย่าแกล้งกันสิคะ” เมื่อโดนคนที่คร่อมอยู่ด้านบนปลุกปั่นอารมณ์โดยการหยอกล้อเล่นกับยอดอก ร่างเล็กก็เริ่มกระตุกเล็กน้อยแผ่นหลังบางแอ่นขึ้นรับเมื่อถูกตวัดลิ้นโลมเลียไปรอบๆ ยอดอก รอยส์ไล่ริมฝีปากของเขาพรมจูบไปตามร่างกายของคนที่ตัวเองรักทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นลำคอ ไหล่ อก ลงมาจนถึงหน้าท้องขาวเนียน ก่อนจะเลื่อนลงต่ำครอบครองกลีบสวยไว้ด้วยปากตัวเอง“อ๊ะ...อ๊า...พี่รอยส์”ซอลปรือตาขึ้นมองรอยส์ด้วยความเสียวซ่าน ใบหน้าของคนตรงหน้าทำให้รอยส์ควบคุมตัวเองไม่อยู่ ทำไมเขาถึงหลงเด็กคนนี้มากมายขนาดนี้กันนะ มันเป็นคำถามที่รอยส์ไม่สามารถให้คำตอบตัวเองได้ ปากจูบไล่ซึมซับความหอมหวานไปตามร่างกายหอมหวานมันทำให้เขาแทบคลั่ง .. มันช

  • เมื่อนางร้ายกลายเป็นนางเอกที่แสนดี   บทที่ 26 แผน(3/3)

    คฤหาสน์ตระกูลศิลาวรรณรัตน์ซอลมองคฤหาสน์หลังใหญ่ตรงหน้าอย่างอึ้ง ๆ ที่นี่ใหญ่กว่าบ้านของซอลอีก เหมือนบ้านในละครที่เธอเคยแสดงเลย“จำที่นี่ได้หรือเปล่าครับ”“ไม่ค่ะ”รอยส์พยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะขนาดครอบครัวตัวเองเธอยังแทบจำไม่ได้ คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องของที่นี่“พ่อกับแม่ของพี่น่าจะยังไม่เดินทางไปสนามบิน เราไปไหว้ท่านก่อนดีกว่า”“ค่ะ...ว่าแต่คุณพ่อกับคุณแม่ของพี่รอยส์จะไปไหนเหรอคะ?”“เห็นว่าจะบินไปงานแต่งลูกสาวเพื่อนสนิท คงจะพรุ่งนี้ถึงกลับ” พอพูดถึงเวลาแล้วรอยส์ก็มองคนข้าง ๆ ด้วยแววตาบางอย่างทำเอาซอลถึงกับเบือนหน้าหนี เขาที่เห็นคนทำท่าทางเฉไฉก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยความเอ็นดู “งั้นเราลงกันเลยไหมครับ”เขาเลือกที่จะเดินลงจากรถก่อนแล้วอ้อมมาเปิดประตูฝั่งตรงข้าม จากนั้นเขาก็พาแขกที่ตัวเองอยากรับเชิญมากที่สุดเข้าไปในบ้านเป็นจังหวะเดียวกับพ่อ แม่ของเขากำลังจะออกไปข้างนอก“พ่อกับแม่จะไปแล้วเหรอครับ”“อ้าวรอยส์พอดีว่าเลื่อนไฟลต์บินเข้ามาเร็วขึ้นนะ...ตายแล้วหนูซอลเหรอลูก” เพียงฟ้ามองคนที่เดินตามลูกชายมา พอเห็นว่าเป็นใครก็รีบทักทายด้วยความดีใจ“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า” ซอลรีบยกมือ

  • เมื่อนางร้ายกลายเป็นนางเอกที่แสนดี   บทที่ 25 แผน(2/3)

    เช้าวันถัดมาบรรยากาศภายในห้องอาหารของบ้านเต็มไปด้วยความตึงเครียด ถ้าจะมีใครอารมณ์ดีคงจะมีแค่ซอลคนเดียว“พิการก็ไปอยู่ในที่ของตัวเองสิ” พิ้งค์ที่ยังโกรธเรื่องที่ถูกแย่งห้องนอนไปอดพูดแขวะไม่ได้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ทำให้อีกฝ่ายสนใจเธอเลยสักนิด มีแค่แม่ของเธอที่นั่งอยู่ข้าง ๆ รีบสะกิดไว้เพราะกลัวพ่อเลี้ยงเดินเข้ามาได้ยิน“คุณพยาบาลวันนี้มีอะไรให้กินบ้างคะ”“วันนี้มีข้าวต้มกุ้ง กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา ทอดมันกุ้งแล้วก็ผัดคะน้าหมูกรอบค่ะ” พยาบาลพิเศษที่ถูกส่งมาดูแลพูดรายการอาหารที่อยู่บนโต๊ะทุกเมนูอย่างละเอียด“อ่า~ วันหลังคงต้องให้พ่อสั่งให้เชฟเพิ่มเมนูปลาเข้าไปเยอะ ๆ แล้วเผื่อจะมีคนฉลาดขึ้นมาหน่อย”“อี!!”พิ้งค์ที่ได้ยินคำเหน็บแนมถึงกับเก็บอาการไม่อยู่ นอกจากพิ้งค์แล้วริสาและพีชก็แปลกใจไม่ต่างกัน ปกติพี่สาวคนนี้ไม่ได้มินิสัยที่จะต่อปากต่อคำกับใครนิ ดูเหมือนว่าที่แม่กับพี่พิ้งค์บอกเธอว่าพี่ซอลไม่เหมือนเดิมคงจะเป็นเรื่องจริง[ถ้าเปลี่ยนไปแล้วรู้จักปกป้องตัวเองมากขึ้นคงดี]“มีเรื่องอะไรกันเหรอ”ดูเหมือนว่าการปรากฏตัวของผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในบ้านหลังนี้จะทำให้สงครามเล็กๆ ที่กำลังปะทุสงบลงได้ทันที“เป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status