“เฮ้อ~ รอดตายไปอีกหนึ่งวัน” หลังจากที่ซอลกินข้าวเสร็จเธอก็เดินกลับขึ้นมาที่ห้องนอนเล็กอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มเดินดูนั่นดูนี่และไปเจอเข้ากับสมุดไดอารี่สีขาวเล่มหนา เธอหยิบมันเดินมาก่อนจะโน้มตัวลงนอนแล้วค่อยเปิดอ่านทีละหน้า
“ไหนขอดูสิว่ามีอะไรพอที่จะให้ฉันรู้เรื่องเกี่ยวกับเธอเพิ่มมากขึ้นหรือเปล่า”
8 เมษายน 2557
แม่คะทำไมแม่ถึงมาจากซอลไป ซอลไม่อยากอยู่กับคนพวกนี้เลย พวกเขาไม่เคยคิดว่าซอลเป็นคนในครอบครัวเลยสักครั้ง
ดูเหมือนว่าแม่ของซอลจะเสียไปแล้วก่อนที่พ่อจะแต่งงานใหม่กับแม่เลี้ยงสินะ
6 มี.ค. 2558
แม่คะวันนี้หนูได้ทาบทามเป็นนักแสดงจากแมวมองด้วย แต่ว่าดูเหมือนคุณน้าริสาจะไม่พอใจเลย แบบนี้หนูยังจะได้เป็นนักแสดงหรือเปล่าคะ
สายตาของรินในร่างซอลอ่านบันทึกไปทีละหน้าดูเหมือนว่าชีวิตนางเอกสาวที่เธอเคยรู้จักผ่านการแสดงและหน้าสื่อจะไม่ใช่แบบที่เห็นเลยสินะ
4 พ.ค. 2559
วันนี้หนูมีเพื่อนมาคุยด้วยนะคะแม่ เธอเข้ามาทักบอกว่าดูโฆษณาที่หนูเป็นพรีเซนเตอร์อยู่ด้วย แต่ว่าพอเธอไปคุยกับคุณพิ้งค์ก็ไม่กลับมาคุยกับหนูอีก หนูจะมีเพื่อนหรือเปล่าคะ?
ยิ่งอ่านเนื้อหาในนี้มันยิ่งทำให้เธอจมดิ่ง แต่เท่าที่อ่านมาแล้วจับใจความได้แม่ของซอลตายเพราะอุบัติเหตุ
ไม่นานย่าของเธอก็หาภรรยาใหม่ที่มีฐานะทัดเทียมกับพ่อมาให้ ซึ่งก็คือริสาที่มีลูกติดอีกคน
แม่ลูกสองคนนั้นพออยู่ต่อหน้าพ่อเธอก็ทำดีด้วย แต่พอลับหลังก็ต่างพากันกลั่นแกล้ง
คนพวกนั้นต่างคิดไปเองว่าซอลจะมาแย่งสมบัติแย่งบริษัทและทรัพย์สินเพราะริสามีลูกกับอัฐหนึ่งคน และคิดว่าทุกอย่างควรตกเป็นของลูกคนนี้
ริสาที่เกลียดแม่ที่คลอดซอลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เหตุผลเธอก็ไม่รู้แต่ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะเอาความเกลียดชังทุกอย่างมาลงที่ซอล ผลักลงน้ำบ้าง เอาของที่ซอลแพ้ผสมใส่ในอาหาร
ซอลที่ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับชะตากรรม เพื่อรอเวลาออกไปจากขุมนรกนี้ แต่ก่อนซอลคิดว่าหนทางที่เธอจะออกจากที่นี่ได้เร็วที่สุดคือการได้แต่งงานกับรอยส์ ซอลเลยพยายามเข้าหารอยส์ทุกวิถีทาง
ตอนนี้เธอไม่แปลกใจเลยทำไมรอยส์ถึงชอบบอกว่าเธอพยายามจะเข้าใกล้ ก็นั่นสินะเธอเป็นซอลอยู่หนิ แต่รอยส์ก็ไม่ได้แย่เหมือนคนพวกนั้น รอยส์แค่รำคาญเพราะซอลคนเก่าชอบตามตื้อ แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นรอยส์ก็ยังดูแลเธอที่อยู่ในร่างนี้เป็นอย่างดี
“ฉันควรทำยังไงกับครอบครัวเธอดี ต้องยอมก้มหน้ารับชะตากรรมแบบนางเอกผู้ถูกกระทำต่ออย่างเธอหรือว่าจะใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันแบบตัวฉันดี”
ซอลบ่นพึมพำก่อนจะค่อย ๆ ผล็อยหลับไปในที่สุด กว่าเธอจะตื่นขึ้นอีกทีเวลาก็ปาไปเกือบห้าโมงเย็นแล้ว
“ให้ตายเถอะที่นอนมันนุ่มจนหลับลึกขนาดนี้เลยเหรอ...ว่าแต่ฉันขอยืมใช้โน้ตบุ๊กเธอหน่อยนะ ขออัปเดตข่าวตัวเองนิดหนึ่ง”
เสียงพำพึมกับเจ้าของห้องคนเก่าราวกับว่าอีกฝ่ายอยู่ที่นี่ด้วย เธอลุกเดินไปที่โต๊ะทำงานเล็กก่อนจะเปิดโน้ตบุ๊กขึ้น
ดีนะที่ไม่ใส่รหัสไว้ แต่ทำแบบนี้สะเพร่าจริง ๆ เผื่อมีข้อมูลสำคัญจะทำยังไง
ซอลก็อดไม่ได้ที่จะบ่นก่อนที่เธอจะกดเข้าเฟซบุ๊ก แล้วปลดล็อกรหัสเฟซบุ๊กของตัวเอง หน้าเพจของเธอถูกแท็กเต็มไปหมดด้วยข้อความไว้อาลัย
...ข้อความมากมายนี้ทำเอาเธออดยิ้มไม่ได้
ก็นะ...ตอนยังไม่ตายมีแต่คนสาปส่งทุกวัน จนเธอเคยคิดว่าตอนตายคงไม่มีใครมาไว้ทุกข์ให้ซะอีก
แต่ก็นะแฟนคลับที่รักเธอแบบที่เธอเป็นก็เยอะเพราะอย่างนั้นเธอถึงได้มีงานเข้ามาเยอะแยะเต็มไปหมดไง
ก๊อก ๆ
“ซอลอยู่ในห้องหรือเปล่าลูก?”
เสียงคุ้นหูที่เธอได้ยินทุกวันในระหว่างนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทำให้เธอรู้ว่าผู้มาเยือนคือใครเลยปิดโน้ตบุ๊กลงแล้วเดินไปเปิดประตูให้
“มีอะไรหรือเปล่าคะ...พ่อ?”
ในไดอารี่ซอลเขียนแทนชายสูงวัยคนนี้ว่าคุณอัฐ ตอนนี้เธอตั้งใจว่าจะให้ซอลสนิทกับพ่อเพราะแบบนั้นจะไม่เอาคำว่าพ่อก็คงไม่ได้
“ซอลเรียกพ่อว่าพ่อเหรอ?”
อัฐดึงลูกสาวเข้ามากอดแน่น ไม่รู้อะไรดลใจให้ลูกสาวที่ทำตัวห่างเหินตั้งแต่เขาแต่งงานใหม่ยอมเรียกเขาว่าพ่อ
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องคิดแล้ว แค่ลูกเรียกแบบนี้เขาก็ดีใจจะแย่แล้ว
แม่นางเอกเธอต้องขอบคุณฉันนะ
แต่ทุกครั้งในไดอารี่ซอลมักจะเขียนไว้ว่าอยากเรียกชายสูงวัยคนนี้ว่าพ่อสักครั้ง แต่เพราะกลัวว่าแม่เลี้ยงจะไม่พอใจเลยหลบเลี่ยง
“ใช่ค่ะพ่อ แล้วพ่อมีอะไรกับหนูหรือเปล่าคะ?”
“ไปกินข้าวกับพ่อไหมลูกหรือถ้าไม่สบายใจที่จะกินในบ้าน เราออกไปกินข้าวข้างนอกกันก็ได้ พ่ออยากกินข้าวกับลูก”
น้ำเสียงของอัฐในตอนท้ายบ่งบอกถึงความเศร้า
“เอาสิคะพ่อ แต่เรากินที่นี่ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องออกไปข้างนอกหรอก ซอลว่ามันจะลำบากเปล่า ๆ”
“ถ้าลูกพูดแบบนั้นเดี๋ยวพ่อบอกคนจัดอาหารเพิ่มให้ลูกอีกชุดนะ”
แม้อัฐจะแปลกใจกับการกระทำที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับลูกสาว แต่เขาก็พยายามคิดว่ามันเกิดจากอาการจะเป็นโรคฮิสทีเรียที่หมอเคยบอกเขาก็ได้
นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ซอลอยากทำมากตั้งแต่ก่อนถูกทำร้าย
ไม่นานบนโต๊ะอาหารก็มีทุกคนในครอบครัวนั่งรวมกันอยู่ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่คนใช้ของบ้านทุกคนได้เห็นภาพแบบนี้
จนทุกคนต่างพากันซุบซิบ ผู้หญิงที่ดูน่ารักคนนั้นคงจะเป็นน้องสาวของซอลที่ชื่อพีชสินะ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายแม้จะไม่ได้รังแกซอลเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้ปกป้องเหมือนกัน
“พี่ซอล พีชขอโทษนะคะที่ไม่เคยไปเยี่ยมเลย ช่วงนี้พีชเรียนหนักมากเลย” พีชพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ไม่เป็นอะไรหรอกจ๊ะ! น้องสาว” ซอลพูดพร้อมกับยิ้มกว้างให้อีกฝ่าย
คำว่าน้องสาวของคนที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาวันแรก ทำให้พิ้งค์ถึงกับต้องสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างผืนยิ้ม
“พิ้งค์ว่าซอลดูเปลี่ยนไปเยอะนะ จริงไหมพีช?”
“ใช่ค่ะ”
“งั้นเหรอ ก็ปกติดีนะไม่เห็นเปลี่ยนเลยอย่าคิดมากสิ...หรือว่าเพราะพิ้งค์เป็นคนนอกหรือเปล่าถึงไม่รู้สึกถึงความปกติของเรา”
ความจริงเธอก็ไม่อยากพูดแบบนี้หรอก แต่ไม่รู้ทำไมปากมันดันไปเอง อาจจะเพราะรู้สึกไม่ถูกชะตากับยัยนี่ด้วยล่ะมั้งหรือเพราะเธออ่านไดอารี่ของซอลก็ได้และอีกอย่างคือสายตาที่มองมาราวกับจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ ด้วยตอนนี้คงต้องระวังตัวไว้หน่อยแล้ว คนรอบตัวเธออันตรายจริง ๆ ซอล แต่ก็นะ ฉันอันตรายกว่าแน่
4 เดือนต่อมากองถ่ายซีรี่ย์Write Love"ฉันขอโทษเทีย...ฉันขอมอบความตายนี้ให้กับเธอ ที่มอบซื่อสัตย์กับคำว่าเพื่อนของเราตลอด""ไม่นะแอล อย่าทำอะไรโง่ๆ เด็ดขาด!!"ไม่คำใดๆ ออกจากปากของแอลมีเพียงแค่รอยยิ้มที่ตอนเด็กพวกเธอเคยยิ้มให้กันครั้งแรกส่งมา เทียพยายามจะก้าวขาเข้าไปหาเพื่อนที่อยู่ขอบหน้าต่างของโรงพยาบาล ตอนนี้เธอให้อภัยแอลแล้วเพียงแค่ช่วยเพื่อนได้เธอยอมลืมเรื่องราวทั้งหมด"ม่ายยยยยยย!!"ดูเหมือนคำพูดของเธอจะไม่ส่งถึงเพื่อนเลยสักนิดเพราะร่างเล็กตอนนี้เดินถอยหลังไปอีกนิดก่อนจะทิ้งตัวลงไปกับอากาศ"ฉันรักเธอนะเทีย แต่ถ้าชาติหน้ามีจริงเธออย่ามาเจอเพื่อนเลวๆ อย่างฉันเลย...ขอให้รักกันนานๆ " ไม่นานร่างที่ลอยอยู่บนอากาศก็ร่วงลงสู่พื้น ร่างที่กระแทกอาบไปด้วย ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยน้ำตาค่อยดับวูบลงไปกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณและจิตใจ"คัตตตตต!! ปิดกองได้""เฮ้~"เสียงโห่ร้องอย่างดีใจของทีมงานและเหล่ารักแสดงที่ร่วมกันทำให้ซีรี่ย์เรื่องนี้ดังขึ้นเมื่อผู้กำกับสั่งปิดกอง"ซอลยินดีที่ได้ร่วมทำการแสดงกับทุกคนนะคะ"ซอลที่กำลังยืนให้ทีมงานในกองถ่ายเช็ดเลือดปลอมที่ใช้ประกอบฉากออก พูดกับผู้กำกับและนักแสดง
ยังไม่ทันที่ศิวาจะได้ตอบโต้อะไรตอบ ก็มีเสียงดังแทรกขึ้นมาทำเอาเขาตกใจมากยิ่งเห็นว่าคุณที่พูดคือนักข่าวที่ตัวเองเพิ่งเจอไปเมื่อวาน"ซอลทำไมถึงมีคนอื่น นี่หลอกพี่มาเหรอฮะ!!"ศิวาที่กำลังตกใจและโกรธหันไปเล่นงานซอลแทน ทำเอาดีดี้รีบเข้าไปขวางเพราะกลัวว่าดาราหนุ่มจะทำอะไรไม่ดีเข้า"มะ...ไม่ใช่นะคะ ซอลไม่คิดแบบนั้นฮืออออ" ซอลแสร้งทำเป็นตกใจจับชายเสื้อของดีดี้ด้วยมือที่สั่นเทา"น้องซอลไม่ได้คิดจะทำแบบที่คุณพูดเลยสักนิด ที่เชิญนักข่าวมาก็เพราะจะลบเรื่องในที่คลับ แต่ทุกอย่างมันจบแล้วคุณศิวา ดูท่าทางคุณนักข่าวจะได้สิ่งที่จะเอาไปตีพิมพ์ต่อสาธารณชนแล้ว" ดีดี้พูดอย่างหมั่นไส้ ตัวเองเลวแท้ๆ กับจะมาให้น้องซอลของเธอรับผิดชอบ"ผมขอตัวเลยนะครับ ถ้าวันหลังผมคงจะมีโอกาสได้สัมภาษณ์คุณใหม่นะครับ" พูดจบนักข่าวก็เดินออกไปทันที ส่วนศิวาก็ตกใจแล้วรีบวิ่งตามออกไป"เดี๋ยวครับคุณนักข่าว อย่าลงเลยนะครับ คุณต้องการเท่าไหร่เดี๋ยวผมเซ็นเช็คให้เลย""จะติดสินบนผมเหรอคุณดาราคนดัง แต่ผมไม่ค่อยชอบเงินเท่าไหร่ ขอตัวครับ"ดูเหมือนว่าการเจรจาครั้งนี้จะล้มเหลว เขาเลยเลือกจะเดินกลับมาในห้องเพื่อขอร้องให้ซอล แต่พอเข้ามาเห็นเธอก
แสงแดดยามสายทำให้ร่างบางของคนที่ถูกกอดไว้ทั้งคืนค่อยขยับตัว เธอค่อยๆ ดึงแขนใหญ่ที่กอดตัวเองออกจากตัวเบาๆ เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่น พอหลุดจากแขนแล้วเธอก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระคาบเหงื่อไคลจากกิจกรรมหนักหน่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา"อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอครับ""ตื่นแล้วเหรอคะ ซอลทำให้พี่รอยส์ตื่นหรือเปล่า""ไม่เลยครับ...นี่ก็แปดโมงแล้วเดี๋ยวพี่ขออาบน้ำก่อนแล้วจะพาไปส่งที่บ้านนะครับ""งั้นเดี๋ยวซอลโทรศัพท์หาคุณพ่อดีหน่อย ป่านนี้ท่านคงเป็นห่วงแล้ว""เมื่อคืนตอนซอลหลับพี่โทรไปบอกท่านแล้วครับว่าซอลจะได้ตรวจกับหมอตอนเช้าเลยนอนที่โรงพยาบาล"หน้าตาเรียบเฉยของคนเจ้าแผนการทำเอาซอลอดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้"คนจอมวางแผน"ติ้ง!! ยังไม่ทันที่จะได้ตอบโต้กันต่อเสียงข้อความโทรศัพท์ของซอลก็ดึงความสนใจ เธอเดินไปหยิบมาเปิดดูพอเห็นว่าเป็นชื่อใครก็ถึงกับยิ้มมุมปากอย่างพอใจ"เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อนนะครับ""ค่ะ"Siwa : ซอลครับช่วยพี่หน่อย ตอนนี้พี่กำลังเดือดร้อน พี่ขอโทษเรื่องตอนนั้นSiwa : อ่านแล้วตอบหน่อยครับ ซอลจะช่วยพี่ไหมนะครับ ถ้ามีอะไรให้พี่ทำ พี่ยอมทำตามทุกอย่างที่ซอลบอกข้อความที่ปรากฏทำให้ซอลถึงกับยิ้มออกมาอย่างพ
“อ๊ะ... อ๊า” เสียงครางลั่นไปทั่วห้องนอนกว้างแขนของซอลยกขึ้นมาโอบรอบคอของร่างสูงพร้อมกับขยุ้มเส้นผมสีดำเพื่อระบายความเสียว ดวงตาหวานหยาดเยิ้มที่มีความปรารถนาไม่ต่างกันจ้องมองกันและกัน“จ๊วบบบ จ๊วบบ!”รอยส์ก้มลงไปหยอกเย้ากับยอดอกสวยสลับซ้ายขวาอย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เขาต้องอดทนตั้งแต่ตอนอยู่ห้องนั่งเล่นแล้ว ไม่สิต้องบอกว่าอยู่ในรถแล้วต่างหากและตอนนี้มันก็อยากระบายเต็มที“อือ อ๊า ยะ...อย่าแกล้งกันสิคะ” เมื่อโดนคนที่คร่อมอยู่ด้านบนปลุกปั่นอารมณ์โดยการหยอกล้อเล่นกับยอดอก ร่างเล็กก็เริ่มกระตุกเล็กน้อยแผ่นหลังบางแอ่นขึ้นรับเมื่อถูกตวัดลิ้นโลมเลียไปรอบๆ ยอดอก รอยส์ไล่ริมฝีปากของเขาพรมจูบไปตามร่างกายของคนที่ตัวเองรักทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นลำคอ ไหล่ อก ลงมาจนถึงหน้าท้องขาวเนียน ก่อนจะเลื่อนลงต่ำครอบครองกลีบสวยไว้ด้วยปากตัวเอง“อ๊ะ...อ๊า...พี่รอยส์”ซอลปรือตาขึ้นมองรอยส์ด้วยความเสียวซ่าน ใบหน้าของคนตรงหน้าทำให้รอยส์ควบคุมตัวเองไม่อยู่ ทำไมเขาถึงหลงเด็กคนนี้มากมายขนาดนี้กันนะ มันเป็นคำถามที่รอยส์ไม่สามารถให้คำตอบตัวเองได้ ปากจูบไล่ซึมซับความหอมหวานไปตามร่างกายหอมหวานมันทำให้เขาแทบคลั่ง .. มันช
คฤหาสน์ตระกูลศิลาวรรณรัตน์ซอลมองคฤหาสน์หลังใหญ่ตรงหน้าอย่างอึ้ง ๆ ที่นี่ใหญ่กว่าบ้านของซอลอีก เหมือนบ้านในละครที่เธอเคยแสดงเลย“จำที่นี่ได้หรือเปล่าครับ”“ไม่ค่ะ”รอยส์พยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะขนาดครอบครัวตัวเองเธอยังแทบจำไม่ได้ คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องของที่นี่“พ่อกับแม่ของพี่น่าจะยังไม่เดินทางไปสนามบิน เราไปไหว้ท่านก่อนดีกว่า”“ค่ะ...ว่าแต่คุณพ่อกับคุณแม่ของพี่รอยส์จะไปไหนเหรอคะ?”“เห็นว่าจะบินไปงานแต่งลูกสาวเพื่อนสนิท คงจะพรุ่งนี้ถึงกลับ” พอพูดถึงเวลาแล้วรอยส์ก็มองคนข้าง ๆ ด้วยแววตาบางอย่างทำเอาซอลถึงกับเบือนหน้าหนี เขาที่เห็นคนทำท่าทางเฉไฉก็ยิ้มกว้างออกมาด้วยความเอ็นดู “งั้นเราลงกันเลยไหมครับ”เขาเลือกที่จะเดินลงจากรถก่อนแล้วอ้อมมาเปิดประตูฝั่งตรงข้าม จากนั้นเขาก็พาแขกที่ตัวเองอยากรับเชิญมากที่สุดเข้าไปในบ้านเป็นจังหวะเดียวกับพ่อ แม่ของเขากำลังจะออกไปข้างนอก“พ่อกับแม่จะไปแล้วเหรอครับ”“อ้าวรอยส์พอดีว่าเลื่อนไฟลต์บินเข้ามาเร็วขึ้นนะ...ตายแล้วหนูซอลเหรอลูก” เพียงฟ้ามองคนที่เดินตามลูกชายมา พอเห็นว่าเป็นใครก็รีบทักทายด้วยความดีใจ“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า” ซอลรีบยกมือ
เช้าวันถัดมาบรรยากาศภายในห้องอาหารของบ้านเต็มไปด้วยความตึงเครียด ถ้าจะมีใครอารมณ์ดีคงจะมีแค่ซอลคนเดียว“พิการก็ไปอยู่ในที่ของตัวเองสิ” พิ้งค์ที่ยังโกรธเรื่องที่ถูกแย่งห้องนอนไปอดพูดแขวะไม่ได้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ทำให้อีกฝ่ายสนใจเธอเลยสักนิด มีแค่แม่ของเธอที่นั่งอยู่ข้าง ๆ รีบสะกิดไว้เพราะกลัวพ่อเลี้ยงเดินเข้ามาได้ยิน“คุณพยาบาลวันนี้มีอะไรให้กินบ้างคะ”“วันนี้มีข้าวต้มกุ้ง กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา ทอดมันกุ้งแล้วก็ผัดคะน้าหมูกรอบค่ะ” พยาบาลพิเศษที่ถูกส่งมาดูแลพูดรายการอาหารที่อยู่บนโต๊ะทุกเมนูอย่างละเอียด“อ่า~ วันหลังคงต้องให้พ่อสั่งให้เชฟเพิ่มเมนูปลาเข้าไปเยอะ ๆ แล้วเผื่อจะมีคนฉลาดขึ้นมาหน่อย”“อี!!”พิ้งค์ที่ได้ยินคำเหน็บแนมถึงกับเก็บอาการไม่อยู่ นอกจากพิ้งค์แล้วริสาและพีชก็แปลกใจไม่ต่างกัน ปกติพี่สาวคนนี้ไม่ได้มินิสัยที่จะต่อปากต่อคำกับใครนิ ดูเหมือนว่าที่แม่กับพี่พิ้งค์บอกเธอว่าพี่ซอลไม่เหมือนเดิมคงจะเป็นเรื่องจริง[ถ้าเปลี่ยนไปแล้วรู้จักปกป้องตัวเองมากขึ้นคงดี]“มีเรื่องอะไรกันเหรอ”ดูเหมือนว่าการปรากฏตัวของผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในบ้านหลังนี้จะทำให้สงครามเล็กๆ ที่กำลังปะทุสงบลงได้ทันที“เป