Share

เป็นเมียหมอผี บทที่ ๔ (๔) จบตอน

Penulis: Madam Hangover
last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-13 20:17:50

“ไม่ให้แตกหรอก จนกว่า...” หญิงสาวออกปากหยันเหมือนที่เขาพยายามจะทำกับเธอเสมอมา แต่รู้อะไรไหม ในเวลาที่เขาเข้าไปในตัวเธอนี่แหละ “จะเสร็จในตัวของแพรว อื้อ!”

สิ้นคำนั้นหล่อนก็ยืนยันในคำพูดของตนเองด้วยการกลืนกินท่อนจันทน์ของเขาด้วยความนุ่มนิ่มจนกลืนมิดท่อนในจังหวะที่หนักแน่น

“อึก...!” มันช่างน่าทุเรศตัวเองเสียยิ่งกว่าเมื่อหล่อนครอบครองเขาเข้าไปจนเต็มฤทธิ์ พ่อครูคันศรกลับรู้สึกเหมือนตนเองกำลังขาวโพลน ว่างเปล่า ความอึดอันทรมานเมื่อคราก่อนหน้าถูกแทนที่ด้วยความสุขสมอันน่าสังเวช ยามเมื่อหล่อนขยับสะโพกเน้นแบบทุกดอกทุกคำจนเขานั้นแทบกระอัก

จังหวะสะโพกที่บดคลึงผสมผสานกับการกระแทกขึ้นสุดลงสุดนั้นชวนให้นึกทึ่งกับความแข็งแรงและช่ำชองสำหรับการใช้สะโพกของหล่อน ขยับถี่รัวขนาดนั้นกลับไม่มีท่าทางว่าจะเหนื่อย เมื่อยหรืออยากจะหยุด ยิ่งถี่ยิ่งตอดรัดแน่น จนอาคมที่เสื่อมเพราะหล่อนขึ้นครูนั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังสูญเสียตัวตนที่ภาคภูมิใจไปทีละน้อย

ใช่ หล่อนมันนังปีศาจ เป็นผีพรายตายโหงที่อัปปรีย์จัญไรที่สุดเท่าที่เคยเผชิญหน้ามา หล่อนทำให้เขามัวเมากับโลกีย์จนหลงลืมแม้แต่คำสอนของอาจารย์ที่เคยพูดเอาไว้

เขาเคร่งครัดในกฎทุกข้อเสมอมา แต่มาพ่ายแพ้ให้กับนังปีศาจเช่นหล่อน

นังปีศาจ กูจักสาปแช่งมึง

มึงทำให้อาคมกูเสื่อม กูจักสาปแช่งมึง

เขาสาปแช่งหล่อนในใจทุกครั้งที่ถูกกระทั้น ทุกคราที่เขารู้สึกสุขสมราวกับได้ขึ้นสวรรค์ กลับรู้สึกละอายต่อบาปเหมือนกำลังถูกกระชากลงนรกอเวจีในคราวเดียวกัน ความรู้สึกอัปยศเช่นนี้บังเกิดขึ้นเพียงเพราะนางคนเดียว

“อื้อ อ๊ะ! ยะ... ยังไม่แตกอีกเหรอคะพ่อหมอ” แพรวพราวควบจนเหนื่อยแต่คนที่นอนอยู่ใต้ร่างกับเอาแต่กำหมัดแน่น กัดฟัน แถมยังหลับตาปี๋เกร็งตัวจนเส้นเลือดพาดตามต้นคอและข้างขมับ เขาคงพยายามอดทนไม่ให้แตกสุดชีวิตสินะ ก็แน่ล่ะ ถ้าแตกก็เท่ากับว่าพ่ายแพ้ให้เธอโดยดุษณี

ผู้ชายน่ะทนได้ไม่นานหรอก

ว่าแล้วก็เร่งจังหวะมากขึ้นพร้อมกับโน้มตัวลงไปบดขยี้ส่งจูบอันร้อนเร่าให้กับปากที่บดฟันโกรธาอยู่ ปลายลิ้นแทรกละเลียดแนวฟันของเขา แต่อนิจจา พ่อหมอคนดีไม่คิดจะเปิดปากต้อนรับเลยสักนิด

แพรวพราวฉีกยิ้มชิดกลีบปากเขา สะโพกผายนั้นบดคลึงถี่รัว ในขณะที่เรียวลิ้นก็ยังรุกล้ำไม่จบไม่สิ้น

“อึก... อั้ก!”

ความอุ่นร้อนพวยพุ่งเข้าไปภายในโพรงมดลูกทันทีที่หล่อนบดเอวถี่ร้อนจนเขาถึงจุดสุดยอดโดยไม่ได้ตั้งใจ แพรวพราวแหงนคอขึ้น หล่อนได้เติมเต็มด้วยความสุขสมและเสร็จสมจากเขา พ่อหมอคนดีนอนกำหมัดแน่นแม้ว่าจะแตกภายในไปเรียบร้อยแล้วก็ตาม เขาลืมตาโพลงขึ้นมา ใช้จังหวะที่หล่อนกำลังนั่งซึมซับกับความเสียวซ่านภายในช่องท้องจนเผลอปลดแรงจากลาดไหล่หนา รีบผลักร่างเล็กกว่าออกให้ห่างจากตัวทันที ความแข็งขืนที่พุ่งพรวดจากความอุ่นชื้นนั้นสัมผัสกับอากาศที่เย็นเฉียบจนเขาตั้งโด่สะท้านกาย ยังไม่มีทีท่าว่าจะพอเลย เพราะกระไรกัน?

ร่างเล็กหล่นลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้ากับพื้น ดวงตาสีทับทิมเหลือกตาขึ้นมองเขา หล่อนรู้สึกเกร็งตัวเพราะน้ำอุ่นๆ ภายในกำลังทะลักพลั่งพรูออกมาจากโพรงสวาทที่บีบรัดแน่น น้ำขาวขุ่นไหลลงมาตามอวัยวะเพศหญิงที่สั่นกระตุก นั่นช่างเป็นภาพที่ทำให้ชายที่อยู่ใกล้ชิดหล่อนยิ่งกว่าใครเป็นไหนๆ อย่างพ่อครูคันศรถึงกับหวั่นไหว

นี่เขาหลั่งในไปอย่างงั้นรึ!

เผลอสุขสมด้วยราคะจากนางปีศาจร้าย แล้วเสร็จสมด้วยแรงยั่วยวนอันน่าทุเรศเช่นนี้หรือ ไอ้คันศร แล้วแบบนี้จักแบกหน้าไปช่วยเหลือชาวบ้านตาดำๆ ได้อย่างไร

“บ้าที่สุด” เสียงทุ้มตวาดกร้าวออกใจความสั่นเครือ เขาผิดหวังต่อตนเองอย่างท่วมท้นจนโกรธขึ้งไม่สามารถสู้หน้าหล่อนได้ ชายตัวใหญ่หยัดกายลุกขึ้น พร้อมกับท่องคาถาเรียกหาฝูงผีให้เข้ามาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ หากแต่เมื่ออาคมเสื่อมและดูแลไม่ดีของจะเข้าตัว มันทำให้เขาต้องรีบวิ่งหนีหายเข้าไปหลบในเรือนเพื่อบำเพ็ญวิชาใหม่

ปล่อยให้แพรวพราวนั่งเคว้งคว้างสั่นกระตุกอยู่แบบนั้นด้วยพิษแรงสวาทอย่างน่าสังเวช

หล่อนพยายามจะหัวเราะแต่มันดันหัวเราะไม่ออก ในโลกนั้นใครๆ ต่างก็ทนุถนอมอยากแย่งชิงตัวเธอกันเป็นบ้าเป็นหลัง แพรวพราวนั้นไม่ต่างกับผลแอปเปิลที่ขึ้นเพียงผลเดียวแห่งสวนอีเดนที่ใครต่อใครก็อยากลิ้มลอง แต่ทำไมในวันนี้กลับมีชายที่ทำให้หล่อนรู้สึกไร้ค่าเหลือทนหลังจากกิจกรรมแห่งเซ็กซ์นี่

ปล่อยให้หล่อนขย่มเอาๆ อยู่คนเดียวเหมือนคนที่ต้องการมีแค่แพรวพราวคนเดียวยังไม่พอ เขายังจะหลั่งในแถมไม่คิดจะเข้ามารับผิดชอบหรือดูแลกันเลยสักนิด

ไม่เคยมีใครหยามหน้าหยามเกียรติ์แพรวพราวเช่นนี้มาก่อน เขาวิ่งหนีหล่อนหัวซุกหัวซุนราวกับตัวตนที่อยู่ตรงหน้านั้นคือภูตผีปีศาจที่ร้ายกาจที่สุดในพระนคร

แพรวพราวไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอได้กลายเป็นตัวอะไรไปแล้วจริงๆ

เจ้าหมาตัวใหญ่สีดำสนิทแอบซ่อนอยู่หลังต้นกล้วยที่ใกล้กันกับเหตุการณ์นั้นมากที่สุด ดวงตาของมันถ่ายทอดภาพของหญิงสาวที่สภาพเปลือยท่อนล่าง มีเพียงผ้ารัดอกด้านบนกำลังนั่งก้มหน้าท่ามกลางบรรยากาศฟ้าหลังฝนที่เย็นชืดและมืดสนิท

กว่าจะรู้สึกตัว ขาที่ก้าวออกไปหวังเพียงเข้าหานางก็เปลี่ยนเป็นสองเท้า พลางยกซิ่นงามที่หล่นกองอยู่แถวนั้นมาคลุมไหล่ที่หนาวสั่นของเธอ

“อะ…!” แพรวพราวสะดุ้งเฮือก เมื่อผ้านุ่งที่เย็นชืดนั้นสัมผัสกับลาดไหล่บางอันเปลือยเปล่า เมื่อหันกลับไปมองก็ตกใจแทบสบถคำหยาบคายออกมา เพราะคนที่เอาผ้าซิ่นมาห่มกายให้คลายหนาวนั้นคือชายหน้าตาดีคนหนึ่งในสภาพมอมแมม ผมหยักศกสีดำขลับนั้นรกรุงรังราวกับไม่เคยสระไม่เคยหวีมาก่อน

อีกอย่าง... เขานั้นเปลือยล่อนจ้อน!

“กรี๊ด… อุ้บ!” ไม่ทันที่จะกรีดร้องออกมาหวังให้ใครสักคนเข้ามาช่วยเหลือหล่อนในทันที ชายร่างใหญ่ตรงหน้าเบิกตาโพลงรีบพุ่งเข้ามาเอามือปิดปากของหล่อนเอาไว้จนเสียงที่เปล่งออกมานั้นอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์ กว่าจะยอมสงบลงก็เล่นตีเขาเสียหนัก ทั้งทุบแผงอกแน่นๆ นั่น แล้วยังพยายามจะดิ้นรนหยัดกายเล็กจ้อยกว่าเป็นคืบนั่นลุกขึ้นหนีอีก

“ขะ... ข้าเอง ข้าเอง โรเบิด” เป็นประโยคที่ฟังแล้วเข้าใจได้ในทันที แต่ออกจะน่าเหลือเชื่อเกินไปไหม เจ้าหมาหลังอานสีดำพันธุ์ไทยที่เธอตั้งชื่อว่าโรเบิร์ต ตอนนี้กลับกลายเป็นเด็กผู้ชายร่างกายใหญ่โตยิ่งกว่าตัวเธอเอง

“ระ... โรเบิร์ตเหรอ” ไม่มีทางที่จะมีใครรู้ชื่อนี้ที่เธอตั้งไว้ให้มันนอกจากตัวมันเองและพรานสมิง แต่พรานสมิงคงไม่แปลงกายเป็นคนล่อนจ้อนสภาพเหมือนคนป่าแบบนี้มาหาเธอหรอก เมื่อกี้เขายังหลับสนิทอยู่บนเรือนอยู่เลย แถมที่นี่ก็โลกยุคไหนสมัยไหน เรื่องประหลาดแบบนี้ใช่ว่าจะไม่เคยเห็น ถ้าหมาจะกลับกลายเป็นผู้ชายหน้าตาดีมันจะแปลกตรงไหน แพรวพราวคิดแบบนั้นจึงถอนหายใจออกมา “อย่าทำให้ตกใจได้ไหม แล้วทำไมเธอถึง...”

“จริงๆ แล้วข้าเป็นสุนัขอาคมที่คอยรับใช้พ่อครูคันศรขอรับ” เขาเริ่มอธิบายที่มาของตนเองราวกับรู้ว่าหญิงสาวจะถามอะไร แพรวพราวได้แต่พยายามปะติดปะต่อทุกอย่างใหม่ตั้งแต่ต้น สุนัขอาคม? ไม่เคยได้ยินมาก่อน แปลว่าเขาก็ไม่ใช่หมาจรที่มาเร่ร่อนแถวนี้อย่างที่เธอเข้าใจ “เมื่อครู่พ่อครูเรียกชื่อข้า แต่ข้าเห็นท่านผู้นั้นกำลัง...”

“ใช่” เธอไม่ได้ยี่หระกับเรื่องนั้น ก็เลือกเอ้าท์ดอร์เองนี่นา จะมีผีห่าซาตานตนไหนมาเห็นบ้างก็ไม่แปลกสักหน่อย “แล้วยังไงล่ะ?”

“จริงๆ ท่านพยายามเรียกผีทุกตนที่รับใช้อยู่มาเพื่อหวังเอาชีวิตเจ้า แต่... ข้าห้ามพวกมันไว้”

“?”

“ข้ามิอยากให้เจ้าเป็นอันตรายใดๆ เลยแม้แต่รอยขีดข่วน” น้ำเสียงนั้นดูใสซื่อ เขาพูดออกมาโดยไม่ได้เข้าใจความนัยที่แฝงอยู่ในรูปประโยคนั่นเลยสักนิด

พ่อครูไม่รัก แต่ดันมีแต่ใครมารักก็ไม่รู้

“แล้วยังไง จะจีบเหรอ กับฉันในสภาพนี้เนี่ยนะ?”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี ปัจฉิมบท

    เมื่อสุดท้ายเขาต้องจากกับเธอ ทั้งความตายที่เคยเป็นคำสาปแช่งที่มาจากอคติ ทั้งความรู้สึกชิงชังในวันนั้น ที่ในวันนี้มันกลายเป็นเพียงคำหลอกลวง เพราะเขานั้นหลงรักอีแพรวตั้งแต่แรกเจอแรกเริ่มอาจจะเป็นเพราะดวงหน้าที่คล้ายคลึงกับดอกรัก จนรู้สึกไปเองว่านั่นอาจเป็นความชิงชังที่ดูคล้ายกับยาพิษอันหอมหวาน ความรู้สึกในตอนที่ร่วมรักกับเธอ นั่นราวกับการมอบพรหมจรรย์ให้กับโอกาสสุดท้ายที่ก้าวเข้ามา ไม่ว่าหล่อนจะเป็นใครแปลงกายมากันแน่ทุกวันเขาบอกตนเองว่า ดอกรักไม่มีจริง คนที่คล้ายคลึงกับดอกรักเองก็ไม่มีจริงเช่นเดียวกัน ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านั้น ไม่ใช่ดอกรัก เธอเป็นเพียงสัตว์ประหลาด ที่หน้าตาคล้ายกับคนอัครที่เขาเคยรักเท่านั้นการปฏิบัติตัวที่ผ่านมากับแพรวพราวนั้น ราวกับเป็นการชดเชยในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำกับดอกรักมาโดยตลอด ที่เธอเคยปฏิเสธเขา ที่เธอทำท่ารังเกียจรังงอนเขา ที่เธอไม่แม้แต่จะมอบดวงใจให้เป็นของเขา เขาใช้ความรู้สึกน่ารังเกียจด้านมืดเหล่านี้ ส่งต่อให้กับแพรวพราวซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับไร ในเรื่องราว ระหว่างเขา และอดีตคนที่เขาแอบรักมาโดยตลอดเลยสักนิดแต่เมื่อรู้ว่าหล่อนไม่ใช่มนุษย์ อคตินั้นยิ่งบ

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๖) จบตอน

    “แพรว ข้า...” ฝ่ามือหยาบหนานั้นกำหมัดแน่นจนสั่นเทิ้ม เขาแค้นใจและนึกอาฆาตเธอมาตลอดทั้งเรื่องราว แต่ทันทีที่เธอยอมรับความคิดนั้นของเขาและยอมที่จะตายโดยไม่มีข้อแม้ เขากลับรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งหัวใจ “ข้า... ไม่กล้าพอที่จักฆ่าเจ้า ข้าจึงใช้สังวรีราพณ์เป็นข้ออ้างเท่านั้น”“แล้วมันต่างกันตรงไหน?”“วันนี้ข้ารู้แล้วว่าเจ้าคือสิ่งสำคัญ ข้าไม่ได้อยากขอโอกาสจากเจ้า ข้ารู้ว่ากำลังถูกหลอกใช้ แต่ข้า... กลับใช้สิ่งนั้นเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเพียงเพื่อที่จะกำจัดเจ้า เจ้าจักไปจากข้าก็ได้ แต่ขออย่างเดียวให้ข้าได้แก้ไขในสิ่งที่ข้าเคยทำผิดพลาดไปด้วยเถิด” พ่อหมอไม่ได้เข้าใจความรู้สึกของตนเองอย่างถ่องแท้หรอก เขาก็แค่กลัวว่าจะเสียเธอไปทั้งอย่างนี้เท่านั้น เพราะความรู้สึกในตอนที่เห็นว่าไม่มีเธออยู่ตรงนั้น และห้องอันว่างเปล่านั่นทำให้เขาทรมานยิ่งกว่าตอนที่ดอกรักตายจากไปในอ้อมแขนของเขาเสียอีกอาจจะเพราะหล่อนหน้าตาคล้ายกับเมียที่ตายจากไปแล้วก็ได้ ผู้หญิงที่เขาจะไม่มีวันได้ครอบครอง ผู้หญิงที่ทั้งหัวใจมีเพียงแค่พรานสมิงเท่านั้น ผู้หญิงที่แม้แต่ลูกที่เขาเฝ้าดูแล ยังไม่ใช่ลูกที่เกิดมาจากเลือดเนื้อของเขาด้วยซ้ำเขาทำลา

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๕)

    คำพูดของพรานสมิงทำให้แพรวพราวได้ฉุกคิด ที่ผ่านมาเธออาจไม่อยากยอมรับความจริงที่ว่าที่เธอรักนับสิบ และคิดว่าเขาคือคนที่อยู่เคียงข้างเธอ แสนดีกับเธอมาโดยตลอด อาจจะเป็นความรู้สึกถึงชัยชนะที่เธอมีต่อฟ้าลดา ผู้หญิงที่เป็นที่ต้องการของแม่มากกว่าเธอ เมื่อเธอตั้งท้องและคันศรไม่ต้องการกัน ทำให้แพรวพราวรู้สึกเหมือนถูกปฏิเสธอีกครั้ง เธอเสียใจ และเมื่อเขาพาวาดรักเข้ามา เธอจึงรู้สึกเหมือนถูกเหยียบย่ำตัวตนของตนเองจนลบเลือนหายไปที่บอกว่าการไม่มีแม่ก็ไม่เห็นเป็นไรที่จริงแล้วเธออาจจะโกหกตัวเอง การที่เธอบอกว่าเธอรักนับสิบอาจจะเพราะว่ามันคือชัยชนะที่โหยหามาโดยตลอด กับผู้ชายที่ฟ้าลดาหลงรัก แพรวพราวไม่มีวันลืมวันที่เธอก้าวเข้าหาเขา เพราะว่าข่าวลือที่ฟ้าลดาคนนั้นชอบพอกับคนในวงการเดียวกันที่เล่นละครด้วยกันเป็นคู่พระนางตลอดมาเหมือนที่ฟ้าลดาเป็นที่ต้องการของแม่มากกว่าเธอผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผิด เธอไม่รู้เรื่องราวการมีอยู่ระหว่าง DNA ของแม่กับแพรวพราวด้วยซ้ำ นับสิบเองก็ไม่ได้ผิดที่หลงรักเธอ มันก็แค่ความเห็นแก่ตัว และต้องการเรียกร้องความรักจากแม่ของเธอเท่านั้นมันก็แค่ความอิจฉาที่น่ารังเกียจของเธอเอง... ค

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๔)

    “นึกสงสัยขึ้นมาได้แล้วหรือแม่หญิงของข้า?”แต่ทว่าในขณะที่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิดของตนเอง ท่ามกลางร่างใหญ่มหึมาของกานพลูนั้นปรากฏร่างของชายผู้หนึ่งโผล่ตัวขึ้นมาเหนือกายยักษ์ของช้างเชือกนั้น“... พรานสมิง” แพรวพราวยอมรับตามตรงว่าตกใจ ก็ไหนว่าเขาหนีหายออกไปแล้วยังไงล่ะ เพราะว่ารับไม่ได้ที่เธอตั้งท้องกับคันศร หรือว่าผัวเธอโป้ปดกันอีกแล้ว?“คิดถึงข้าหรือไม่” เขาไถ่ถาม โดยไม่ดูสถานการณ์ว่าหล่อนกำลังเข้าตาจนอยู่เลยสักนิด“นะ... ไหนพี่ศรบอกว่านายหนีไปแล้ว?”“ข้าแค่แวะไปหาลูกเท่านั้นแล” ชายหนุ่มทำได้แค่เพียงยักไหล่ปัดป้องและบอกความเป็นจริง “โดนทิ้งมาอีกแล้วสินะ”หากแต่ประโยคต่อมากลับทำให้เธอรู้สึกเจ็บที่หัวใจดวงน้อยๆ โดยไม่มีสาเหตุ จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิง หรือจะยอมรับว่ามันไม่ใช่ก็ได้ เพราะเธอเป็นคนตัดสินใจหนีออกมาด้วยตัวเองต่างหาก… แต่นั่นก็เพราะว่าคนๆ นั้นแสดงออกว่าไม่ต้องการกันแล้วไม่ใช่หรือยังไง ก็เลยเจ็บใจเหมือนโดนแทงใจดำกันอย่างช่วยไม่ได้“พูดบ้าๆ ฉันต่างหากที่อุ้มท้องหนีออกมาเพราะเขาพาคุณวาดรักกลับมาที่เรือนนั่น” หญิงสาวคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องโกหกผู้ชายตรงหน้าหรอก เขาเห็นสภาพน่าสมเพชน

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๓)

    อยู่ดีๆ เมื่อรู้ว่าหล่อนได้หนีหายออกไปหลังจากที่เขาได้พาวาดรักกลับมาและปลดแอกทุกอย่าง คันศรที่เคยมั่นอกมั่นใจว่าเขาเกลียดชังหล่อนเหลือเกิน และต้องการจะฆ่าหล่อนมากที่สุด กลับรู้สึกเจ็บปวดกับการที่ไม่มีเธออยู่ในห้อง และได้รับรู้ว่าเธอหนีออกไปแล้วเพราะทนอยู่ร่วมกันไม่ได้อีกต่อไป การตามหาเธออาจจะยากเย็นเพราะว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ แถมยังเป็นอสุรกายในตำนานอีกต่างหาก ยิ่งอีกฝ่ายต้องการจะหนีหน้าเขาด้วยแล้ว คงสามารถลบกลิ่นอายของเดรัจฉานได้จนไม่เหลือร่องรอยเป็นแน่ทำไมเขาถึงได้เพิ่งมารู้สึกตัวเอาป่านนี้?ทำไมถึงเพิ่งมารู้สึกได้ว่าเธอและลูกสำคัญกับเขาเพียงไหน ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าลูกในท้องนั้นอาจจะไม่ใช่เด็กคนหนึ่ง แต่จะเป็นยาพิษเสียด้วยซ้ำ“ภูติผีทุกตนที่กูมีอยู่ในขณะนี้ จงออกไปตามหานางแลพานางกลับมาหากูให้ได้ ไม่ว่าจะเจอนางในสภาพไหน ก็จงบอกนางว่ากู...” ท้ายประโยคเขากลืนน้ำลายเพียงอึกเดียวด้วยความยากเย็นที่จะกล้าก้าวผ่านทิฐิที่สูงเสียดฟ้า เผลอลืมตัวไปว่าเคยพูดว่าเกลียดเธอขนาดไหน ก่อนที่จะกลั้นใจโพล่งขึ้นประกาศิตออกมา “ต้องการนาง”เงามืดจำนวนมากหลุดพ้นออกไปจากเขตอาคมของเขา และออกตามหาหญิงสาวที่เ

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๑๓ (๒)

    “อย่างไรลูกก็รู้สึกไม่ดีเจ้าค่ะ ที่ราวกับว่าจะเข้ามาคั่นกลางระหว่างพ่อกับเมียของท่านเช่นนี้”วาดรักโพล่งขึ้นมาหลังจากที่คันศรเข้ามาดูแลเธอด้วยการนวดปลายนิ้วเท้าที่ชาวางลงกับขันรองน้ำอุ่น คอยนวดส่วนไม่งามและอาจผิดครูให้ลูกที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตนทั้งที่ไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำแน่นอนว่าเขาเองไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ถึงเข้ามาทำเช่นนี้โดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย หลังเห็นว่าลูกสาวที่พากลับมาที่บ้านกำลังพยายามนวดปลายนิ้วเท้าของตนเอง อาการชาน่าจะมาจากท้องที่ใหญ่โตเกินร่างกายไปกระมังแม้นิสัยจะไม่ใช่คนที่มีความละเอียดอ่อนอะไรนัก แต่เขาเองก็พอเคยดูแลเมียท้องแก่ที่ไม่ได้รักเขาเลยอยู่บ้าง จะให้มาดูแลลูกเลี้ยงที่ไม่มีแม้แต่เลือดเนื้อของตนเองเลยอีกก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่ก็แค่... อาจเพราะว่าดวงของเขาดึงดูดมาแต่คนที่ไม่ได้เป็นของตัวเองมาทั้งชีวิตก็ได้ล่ะมั้งหากแต่สิ่งเดียวที่ชัดเจนในวันนี้... คือหลังจากที่วาดรักได้กลับมาที่นี่ ความรู้สึกสงบในจิตใจจึงได้หวนคืนกลับมาอีกครั้ง อาจเพราะได้เจอกับผู้หญิงคนนั้นชีวิตที่ผ่านมาจึงปั่นป่วนรวนเร ทั้งความรู้สึกแย่ๆ จิตใจอันคิดลบและความฟุ้งซ่านเกี่ยวกับอดีตที่เลวร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status