“ไม่ให้แตกหรอก จนกว่า...” หญิงสาวออกปากหยันเหมือนที่เขาพยายามจะทำกับเธอเสมอมา แต่รู้อะไรไหม ในเวลาที่เขาเข้าไปในตัวเธอนี่แหละ “จะเสร็จในตัวของแพรว อื้อ!”
สิ้นคำนั้นหล่อนก็ยืนยันในคำพูดของตนเองด้วยการกลืนกินท่อนจันทน์ของเขาด้วยความนุ่มนิ่มจนกลืนมิดท่อนในจังหวะที่หนักแน่น
“อึก...!” มันช่างน่าทุเรศตัวเองเสียยิ่งกว่าเมื่อหล่อนครอบครองเขาเข้าไปจนเต็มฤทธิ์ พ่อครูคันศรกลับรู้สึกเหมือนตนเองกำลังขาวโพลน ว่างเปล่า ความอึดอันทรมานเมื่อคราก่อนหน้าถูกแทนที่ด้วยความสุขสมอันน่าสังเวช ยามเมื่อหล่อนขยับสะโพกเน้นแบบทุกดอกทุกคำจนเขานั้นแทบกระอัก
จังหวะสะโพกที่บดคลึงผสมผสานกับการกระแทกขึ้นสุดลงสุดนั้นชวนให้นึกทึ่งกับความแข็งแรงและช่ำชองสำหรับการใช้สะโพกของหล่อน ขยับถี่รัวขนาดนั้นกลับไม่มีท่าทางว่าจะเหนื่อย เมื่อยหรืออยากจะหยุด ยิ่งถี่ยิ่งตอดรัดแน่น จนอาคมที่เสื่อมเพราะหล่อนขึ้นครูนั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังสูญเสียตัวตนที่ภาคภูมิใจไปทีละน้อย
ใช่ หล่อนมันนังปีศาจ เป็นผีพรายตายโหงที่อัปปรีย์จัญไรที่สุดเท่าที่เคยเผชิญหน้ามา หล่อนทำให้เขามัวเมากับโลกีย์จนหลงลืมแม้แต่คำสอนของอาจารย์ที่เคยพูดเอาไว้
เขาเคร่งครัดในกฎทุกข้อเสมอมา แต่มาพ่ายแพ้ให้กับนังปีศาจเช่นหล่อน
นังปีศาจ กูจักสาปแช่งมึง
มึงทำให้อาคมกูเสื่อม กูจักสาปแช่งมึง
เขาสาปแช่งหล่อนในใจทุกครั้งที่ถูกกระทั้น ทุกคราที่เขารู้สึกสุขสมราวกับได้ขึ้นสวรรค์ กลับรู้สึกละอายต่อบาปเหมือนกำลังถูกกระชากลงนรกอเวจีในคราวเดียวกัน ความรู้สึกอัปยศเช่นนี้บังเกิดขึ้นเพียงเพราะนางคนเดียว
“อื้อ อ๊ะ! ยะ... ยังไม่แตกอีกเหรอคะพ่อหมอ” แพรวพราวควบจนเหนื่อยแต่คนที่นอนอยู่ใต้ร่างกับเอาแต่กำหมัดแน่น กัดฟัน แถมยังหลับตาปี๋เกร็งตัวจนเส้นเลือดพาดตามต้นคอและข้างขมับ เขาคงพยายามอดทนไม่ให้แตกสุดชีวิตสินะ ก็แน่ล่ะ ถ้าแตกก็เท่ากับว่าพ่ายแพ้ให้เธอโดยดุษณี
ผู้ชายน่ะทนได้ไม่นานหรอก
ว่าแล้วก็เร่งจังหวะมากขึ้นพร้อมกับโน้มตัวลงไปบดขยี้ส่งจูบอันร้อนเร่าให้กับปากที่บดฟันโกรธาอยู่ ปลายลิ้นแทรกละเลียดแนวฟันของเขา แต่อนิจจา พ่อหมอคนดีไม่คิดจะเปิดปากต้อนรับเลยสักนิด
แพรวพราวฉีกยิ้มชิดกลีบปากเขา สะโพกผายนั้นบดคลึงถี่รัว ในขณะที่เรียวลิ้นก็ยังรุกล้ำไม่จบไม่สิ้น
“อึก... อั้ก!”
ความอุ่นร้อนพวยพุ่งเข้าไปภายในโพรงมดลูกทันทีที่หล่อนบดเอวถี่ร้อนจนเขาถึงจุดสุดยอดโดยไม่ได้ตั้งใจ แพรวพราวแหงนคอขึ้น หล่อนได้เติมเต็มด้วยความสุขสมและเสร็จสมจากเขา พ่อหมอคนดีนอนกำหมัดแน่นแม้ว่าจะแตกภายในไปเรียบร้อยแล้วก็ตาม เขาลืมตาโพลงขึ้นมา ใช้จังหวะที่หล่อนกำลังนั่งซึมซับกับความเสียวซ่านภายในช่องท้องจนเผลอปลดแรงจากลาดไหล่หนา รีบผลักร่างเล็กกว่าออกให้ห่างจากตัวทันที ความแข็งขืนที่พุ่งพรวดจากความอุ่นชื้นนั้นสัมผัสกับอากาศที่เย็นเฉียบจนเขาตั้งโด่สะท้านกาย ยังไม่มีทีท่าว่าจะพอเลย เพราะกระไรกัน?
ร่างเล็กหล่นลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้ากับพื้น ดวงตาสีทับทิมเหลือกตาขึ้นมองเขา หล่อนรู้สึกเกร็งตัวเพราะน้ำอุ่นๆ ภายในกำลังทะลักพลั่งพรูออกมาจากโพรงสวาทที่บีบรัดแน่น น้ำขาวขุ่นไหลลงมาตามอวัยวะเพศหญิงที่สั่นกระตุก นั่นช่างเป็นภาพที่ทำให้ชายที่อยู่ใกล้ชิดหล่อนยิ่งกว่าใครเป็นไหนๆ อย่างพ่อครูคันศรถึงกับหวั่นไหว
นี่เขาหลั่งในไปอย่างงั้นรึ!
เผลอสุขสมด้วยราคะจากนางปีศาจร้าย แล้วเสร็จสมด้วยแรงยั่วยวนอันน่าทุเรศเช่นนี้หรือ ไอ้คันศร แล้วแบบนี้จักแบกหน้าไปช่วยเหลือชาวบ้านตาดำๆ ได้อย่างไร
“บ้าที่สุด” เสียงทุ้มตวาดกร้าวออกใจความสั่นเครือ เขาผิดหวังต่อตนเองอย่างท่วมท้นจนโกรธขึ้งไม่สามารถสู้หน้าหล่อนได้ ชายตัวใหญ่หยัดกายลุกขึ้น พร้อมกับท่องคาถาเรียกหาฝูงผีให้เข้ามาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ หากแต่เมื่ออาคมเสื่อมและดูแลไม่ดีของจะเข้าตัว มันทำให้เขาต้องรีบวิ่งหนีหายเข้าไปหลบในเรือนเพื่อบำเพ็ญวิชาใหม่
ปล่อยให้แพรวพราวนั่งเคว้งคว้างสั่นกระตุกอยู่แบบนั้นด้วยพิษแรงสวาทอย่างน่าสังเวช
หล่อนพยายามจะหัวเราะแต่มันดันหัวเราะไม่ออก ในโลกนั้นใครๆ ต่างก็ทนุถนอมอยากแย่งชิงตัวเธอกันเป็นบ้าเป็นหลัง แพรวพราวนั้นไม่ต่างกับผลแอปเปิลที่ขึ้นเพียงผลเดียวแห่งสวนอีเดนที่ใครต่อใครก็อยากลิ้มลอง แต่ทำไมในวันนี้กลับมีชายที่ทำให้หล่อนรู้สึกไร้ค่าเหลือทนหลังจากกิจกรรมแห่งเซ็กซ์นี่
ปล่อยให้หล่อนขย่มเอาๆ อยู่คนเดียวเหมือนคนที่ต้องการมีแค่แพรวพราวคนเดียวยังไม่พอ เขายังจะหลั่งในแถมไม่คิดจะเข้ามารับผิดชอบหรือดูแลกันเลยสักนิด
ไม่เคยมีใครหยามหน้าหยามเกียรติ์แพรวพราวเช่นนี้มาก่อน เขาวิ่งหนีหล่อนหัวซุกหัวซุนราวกับตัวตนที่อยู่ตรงหน้านั้นคือภูตผีปีศาจที่ร้ายกาจที่สุดในพระนคร
แพรวพราวไม่รู้เลยว่าตอนนี้เธอได้กลายเป็นตัวอะไรไปแล้วจริงๆ
เจ้าหมาตัวใหญ่สีดำสนิทแอบซ่อนอยู่หลังต้นกล้วยที่ใกล้กันกับเหตุการณ์นั้นมากที่สุด ดวงตาของมันถ่ายทอดภาพของหญิงสาวที่สภาพเปลือยท่อนล่าง มีเพียงผ้ารัดอกด้านบนกำลังนั่งก้มหน้าท่ามกลางบรรยากาศฟ้าหลังฝนที่เย็นชืดและมืดสนิท
กว่าจะรู้สึกตัว ขาที่ก้าวออกไปหวังเพียงเข้าหานางก็เปลี่ยนเป็นสองเท้า พลางยกซิ่นงามที่หล่นกองอยู่แถวนั้นมาคลุมไหล่ที่หนาวสั่นของเธอ
“อะ…!” แพรวพราวสะดุ้งเฮือก เมื่อผ้านุ่งที่เย็นชืดนั้นสัมผัสกับลาดไหล่บางอันเปลือยเปล่า เมื่อหันกลับไปมองก็ตกใจแทบสบถคำหยาบคายออกมา เพราะคนที่เอาผ้าซิ่นมาห่มกายให้คลายหนาวนั้นคือชายหน้าตาดีคนหนึ่งในสภาพมอมแมม ผมหยักศกสีดำขลับนั้นรกรุงรังราวกับไม่เคยสระไม่เคยหวีมาก่อน
อีกอย่าง... เขานั้นเปลือยล่อนจ้อน!
“กรี๊ด… อุ้บ!” ไม่ทันที่จะกรีดร้องออกมาหวังให้ใครสักคนเข้ามาช่วยเหลือหล่อนในทันที ชายร่างใหญ่ตรงหน้าเบิกตาโพลงรีบพุ่งเข้ามาเอามือปิดปากของหล่อนเอาไว้จนเสียงที่เปล่งออกมานั้นอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์ กว่าจะยอมสงบลงก็เล่นตีเขาเสียหนัก ทั้งทุบแผงอกแน่นๆ นั่น แล้วยังพยายามจะดิ้นรนหยัดกายเล็กจ้อยกว่าเป็นคืบนั่นลุกขึ้นหนีอีก
“ขะ... ข้าเอง ข้าเอง โรเบิด” เป็นประโยคที่ฟังแล้วเข้าใจได้ในทันที แต่ออกจะน่าเหลือเชื่อเกินไปไหม เจ้าหมาหลังอานสีดำพันธุ์ไทยที่เธอตั้งชื่อว่าโรเบิร์ต ตอนนี้กลับกลายเป็นเด็กผู้ชายร่างกายใหญ่โตยิ่งกว่าตัวเธอเอง
“ระ... โรเบิร์ตเหรอ” ไม่มีทางที่จะมีใครรู้ชื่อนี้ที่เธอตั้งไว้ให้มันนอกจากตัวมันเองและพรานสมิง แต่พรานสมิงคงไม่แปลงกายเป็นคนล่อนจ้อนสภาพเหมือนคนป่าแบบนี้มาหาเธอหรอก เมื่อกี้เขายังหลับสนิทอยู่บนเรือนอยู่เลย แถมที่นี่ก็โลกยุคไหนสมัยไหน เรื่องประหลาดแบบนี้ใช่ว่าจะไม่เคยเห็น ถ้าหมาจะกลับกลายเป็นผู้ชายหน้าตาดีมันจะแปลกตรงไหน แพรวพราวคิดแบบนั้นจึงถอนหายใจออกมา “อย่าทำให้ตกใจได้ไหม แล้วทำไมเธอถึง...”
“จริงๆ แล้วข้าเป็นสุนัขอาคมที่คอยรับใช้พ่อครูคันศรขอรับ” เขาเริ่มอธิบายที่มาของตนเองราวกับรู้ว่าหญิงสาวจะถามอะไร แพรวพราวได้แต่พยายามปะติดปะต่อทุกอย่างใหม่ตั้งแต่ต้น สุนัขอาคม? ไม่เคยได้ยินมาก่อน แปลว่าเขาก็ไม่ใช่หมาจรที่มาเร่ร่อนแถวนี้อย่างที่เธอเข้าใจ “เมื่อครู่พ่อครูเรียกชื่อข้า แต่ข้าเห็นท่านผู้นั้นกำลัง...”
“ใช่” เธอไม่ได้ยี่หระกับเรื่องนั้น ก็เลือกเอ้าท์ดอร์เองนี่นา จะมีผีห่าซาตานตนไหนมาเห็นบ้างก็ไม่แปลกสักหน่อย “แล้วยังไงล่ะ?”
“จริงๆ ท่านพยายามเรียกผีทุกตนที่รับใช้อยู่มาเพื่อหวังเอาชีวิตเจ้า แต่... ข้าห้ามพวกมันไว้”
“?”
“ข้ามิอยากให้เจ้าเป็นอันตรายใดๆ เลยแม้แต่รอยขีดข่วน” น้ำเสียงนั้นดูใสซื่อ เขาพูดออกมาโดยไม่ได้เข้าใจความนัยที่แฝงอยู่ในรูปประโยคนั่นเลยสักนิด
พ่อครูไม่รัก แต่ดันมีแต่ใครมารักก็ไม่รู้
“แล้วยังไง จะจีบเหรอ กับฉันในสภาพนี้เนี่ยนะ?”
นางสมิงพรายที่ตามหามาเกือบทั้งชีวิต ตอนนี้อยู่ตรงหน้าเขา และตกหลุมรักเพื่อนของเขาคงยากที่จะไม่ไขว่คว้าหล่อนมาใกล้ตัว หากแต่หญิงตนนี้ฉลาดนัก หล่อนพร้อมจะไปจากเขาได้ตลอดเวลา เขาเองก็ไม่ต้องการบังคับใจสิ่งที่หมายปอง หวังให้นางตกเป็นบริวารของเขาด้วยความเต็มใจเสียมากกว่าที่หนึ่งของนางตอนนี้คือไอ้คันศรก็แค่เพียงกลับกลายเป็นที่หนึ่งของนางได้ก็พอ เหมือนกับที่เขาเคยเป็นที่หนึ่งของดอกรักแต่ครานี้... เขาจะไม่ละทิ้งสัมพันธ์เพื่อตามหาความฝันอีกแล้วเพราะหล่อนคือความฝันที่เขาต้องการมากที่สุดแต่แพรวพราวไม่ได้รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าเธอกำลังตกเป็นที่หมายตาของใครบางคน กลับมาที่ปัจจุบัน เธอกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่นเรือนไม้ รู้สึกเหมือนจะเป็นลมจนแทบล้มพับ แต่ไวกว่าความคิดเมื่อพรานสมิงตรงเข้ามาโอบร่างเธอที่ทำท่าจะทรุดเอาไว้“แม่เป็นกระไรหรือไม่ แข้งขาอ่อนแรงหรือ”“นาย... ทำไมไม่ห้ามฉันเล่า!” พอเห็นว่าอีกฝ่ายเปลือยเปล่าเช่นกันแถมเข้ามากอดร่างล่อนจ้อนของเธอแนบชิดแบบนี้แพรวพราวก็ยิ่งหน้ามานด้วยความอับอาย และพยายามทุบตีเขาด้วยแรงน้อยๆ ที่มี ยังไงคนที่ควรยับยั้งใจก็คือเขา หล่อนไม่ผิด เขาต่างหากที่ผิด “ก็รู้ว่
แพรวพราวยอมรับนะว่าเสียใจไม่พอ หล่อนยังเสียตัวให้ไอ้พ่อหมอนั่นไปถึงสองครั้งสองคราอีกต่างหาก คราวแรกก็ตอนที่เขาหวังล่อลวงเพื่อกำจัด คราวนี้ก็เพราะเธอไปปลุกปล้ำเขาเสียเอง ความประทับใจแรกเริ่มนั้นไม่เคยมีอยู่ในความสัมพันธ์ของเธอกับเขา แพรวพราวไม่ใช่สาวพรหมจารีย์ตามจารีตประเพณี แต่ถึงแบบนั้นก็ว่ากันว่าผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะใช้หัวใจในการร่วมหลับนอนกับใครสักคน แต่ผู้ชายกลับทำมันราวกับเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวันและเสร็จสมออกมาได้ทั้งๆ ที่เกลียดชังผู้หญิงคนนั้นสุดหัวใจ แค่เพราะถูกกระตุ้นอารมณ์ทางเพศเท่านั้นเองแม้แต่ผู้หญิงที่มีแต่คนต้องการมารุมรักอย่างเธอ ก็ใช้ใจในการร่วมรัก ปะปนกับความหิวโหยที่เพิ่มพูนแบบทวีคูณเช่นกัน เธอไม่ได้หน้ามืดตามัวไปปลุกปล้ำใครที่ไม่ใช่เขา หัวใจเธอมีแต่นับสิบ และเขาที่คล้ายคลึงกันแต่แพรวพราวกลับสับสนกับตนเอง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเธอ หากแต่มันไม่เพียงพอต่อความต้องการเลยสักนิด การสูบพลังชีวิต กินอาคมของพ่อครูยังไม่พอที่จะสนองให้หล่อนรู้สึกพึงพอใจ ดวงตาสีทับทิมวาววับท่ามกลางความมืดมิดของคืนเดือนดับที่ไร้แม้แต่แสงจันทราสาดส่อง ดวงไฟสีแดงก่ำในลูกตาของหล่อน
“ไม่ให้แตกหรอก จนกว่า...” หญิงสาวออกปากหยันเหมือนที่เขาพยายามจะทำกับเธอเสมอมา แต่รู้อะไรไหม ในเวลาที่เขาเข้าไปในตัวเธอนี่แหละ “จะเสร็จในตัวของแพรว อื้อ!”สิ้นคำนั้นหล่อนก็ยืนยันในคำพูดของตนเองด้วยการกลืนกินท่อนจันทน์ของเขาด้วยความนุ่มนิ่มจนกลืนมิดท่อนในจังหวะที่หนักแน่น“อึก...!” มันช่างน่าทุเรศตัวเองเสียยิ่งกว่าเมื่อหล่อนครอบครองเขาเข้าไปจนเต็มฤทธิ์ พ่อครูคันศรกลับรู้สึกเหมือนตนเองกำลังขาวโพลน ว่างเปล่า ความอึดอันทรมานเมื่อคราก่อนหน้าถูกแทนที่ด้วยความสุขสมอันน่าสังเวช ยามเมื่อหล่อนขยับสะโพกเน้นแบบทุกดอกทุกคำจนเขานั้นแทบกระอักจังหวะสะโพกที่บดคลึงผสมผสานกับการกระแทกขึ้นสุดลงสุดนั้นชวนให้นึกทึ่งกับความแข็งแรงและช่ำชองสำหรับการใช้สะโพกของหล่อน ขยับถี่รัวขนาดนั้นกลับไม่มีท่าทางว่าจะเหนื่อย เมื่อยหรืออยากจะหยุด ยิ่งถี่ยิ่งตอดรัดแน่น จนอาคมที่เสื่อมเพราะหล่อนขึ้นครูนั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังสูญเสียตัวตนที่ภาคภูมิใจไปทีละน้อยใช่ หล่อนมันนังปีศาจ เป็นผีพรายตายโหงที่อัปปรีย์จัญไรที่สุดเท่าที่เคยเผชิญหน้ามา หล่อนทำให้เขามัวเมากับโลกีย์จนหลงลืมแม้แต่คำสอนของอาจารย์ที่เคยพูดเอาไว้เขาเคร่งคร
แพรวพราวไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้เรี่ยวแรงของเธอนั้นมันช่างมหาศาลจนสามารถสะกดหมอผีที่หยิ่งยโสคนนั้นได้จนอยู่หมัด เขาที่เธอนั่งคร่อมอยู่เหนือกว่าด้านบนนั้นมองคนตัวเล็กกว่าด้วยแววตาสั่นไหว วันนี้มันคืนเดือนมืด ดวงตาของหล่อนส่องแสงราวกับทับทิมสีแดงก่ำ“มึง... หยุดประเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นกูจักออกคำสั่งให้พวกผีมาฆ่ามึงอีกครา”“เอาสิ ฉันไม่กลัวผี สู้แรงกันให้ได้ก่อนเถอะ คุณในตอนนี้เสร็จฉันแน่” แต่หล่อนไม่ได้ใส่ใจน้ำเสียงสั่นคลอนนั่นแม้ใจความจะขู่กรรโชกอยู่ก็ตาม ไม่รู้ทำไมรู้สึกเหมือนคืนนี้หล่อนจะเร่าร้อนเป็นพิเศษ กำหนัดจนไม่สนอะไรทั้งนั้นแม้แต่ความกลัว ยิ่งกว่ากินยาปลุกเซ็กซ์เสียอีก มันต้องการสูบพลังชีวิตใครบางคนในยามที่มีความอยากอันร้อนแรงหมับ!ไหล่หนาเปลือยเปล่าแข็งแกร่งถูกมือเล็กจ้อยมือเดียวผลักให้กระแทกกับพื้นหญ้าเปียกชื้นอันเย็นชืด มันไม่สบายตัวเอาเสียเหลือเกิน แต่เขาไม่สามารถสู้แรงหล่อนได้เลย อีแพรวในตอนนี้พละกำลังมหาศาลจนใช้สองมือกดเขาไว้แน่นไม่ต่างกับผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่งนังนี่มันมิใช่มนุษย์ธรรมดาแน่ๆ เรากำลังจักเสร็จมัน“ปล่อยกู!”“มาให้ฉันกินเสียดีๆ เถอะค่ะพ่อหมอ ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว แล
การห้ามมีเซ็กซ์ นั้นยากเย็นกว่าการห้ามรักเสียอีกสัมผัสของพ่อหมอคนนั้นที่หล่อนหลงครวญหาจนนึกว่าเป็นนับสิบนั้นหลอกหลอนวนเวียนในหัวไม่หยุดหลังจากถึงเวลาเข้านอน ฝนยังคงตกไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพักเลยสักนิด ความเหน็บหนาวที่ลอดเข้ามาแม้ว่าบานหน้าต่างจะถูกปิดสนิท ไหนจะเสียงฟ้าผ่าเป็นระยะๆ ทำให้แพรวพราวที่นอนหนาวอยู่บนฟูกนอนใหญ่รู้สึกตัวขึ้นมากลางดึกสงัดเมื่อหันไปข้างๆ ก็พบกับร่างกายกำยำใหญ่โตที่นอนร่วมข้างกายหล่อน พรานสมิงปิดเปลือกตา ไม่มีทีท่าจะตื่นนอน เหมือนว่ากำลังหลับสนิทอยู่นะแต่เมื่อนึกถึงแต่ฉากร่วมเพศตลอดค่อนคืนจนถึงขนาดอาจเอาไปเก็บในนิมิตได้ มันทำให้เธอนอนไม่หลับและรู้สึกเสียววูบวาบยุบยิบในท้องน้อย จวบไปจนถึงเส้นทางสวาทที่ไม่ควรเปิดเผยให้คนข้างๆ เลยแม้แต่น้อยพ่อครูคันศรชี้ชัดว่าเกลียดน้ำหน้าเธอขนาดนั้น ถ้าให้บากหน้าไปบอกว่า ‘อยากทำ’ คงไม่น่าไหว แต่ถ้าเป็นคนข้างๆ แล้วละก็...แต่!“ก็ได้นะ แต่กฎของฉันกับนาย คือห้ามแตะต้องตัวกันอย่างเด็ดขาด ห้ามมีเซ็กซ์ และห้ามรักฉันด้วย”หล่อนตั้งกฎบ้าๆ นี่ออกไปแล้วน่ะสิ!จะมากลืนน้ำลายตัวเองคงจะไม่ได้ แม้ว่าในชาติก่อนที่เป็นดาราสาวเธอก็มีวันไนท์สแตนด์
“ข้าทำตามได้อยู่แล้ว” แต่อีกฝ่ายกลับตกลงรับคำไม่มีข้อกังขาใดๆ ทั้งนั้น เขาไม่ได้มีปัญหากับการอยู่ร่วมชายคาเดียวกับสาววัยแรกรุ่นที่ถ้าเทียบการถือกำเนิดและอยู่บนโลกมนุษย์มาแล้วนับร้อยปี แพรวพราวไม่ต่างอะไรกับลูกหลานเหลนโหลนของเขาด้วยซ้ำไปนั่นทำให้สาวเจ้านึกโล่งใจ อย่างน้อยถ้าได้รับความร่วมมือจากฝ่ายชายอย่างแข็งขัน หล่อนอาจจะอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับเขาได้แบบสันติสุขโดยไม่มีการเสียตัวให้กันและกัน คิดดังนั้นจึงตรงเข้าไปในเรือนใหญ่หรูหรา ที่มีห้องหับแบบโบร่ำโบราณแยกกันอยู่สองฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นห้องน้ำ อีกฝั่งเป็นห้องหลับนอน ห้องทำกับข้าวน่าจะเป็นการผิงไฟย่างเนื้ออยู่ด้านนอกแบบหมู่บ้านเก่าของเขากระมังโลกนี้น่าจะไม่มีอลาคาสหรูหราแบบที่ทานอยู่เป็นประจำ เธอไหวไหล่อย่างไม่แคร์ ถ้าอยากอยู่รอดในโลกนี้ต้องทนๆ เอา ข้าวเหนียวห่อใบตองก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่นักพูดถึงข้าวเหนียวห่อใบตอง ก็คิดถึงโรเบิร์ตขึ้นมาเลย ตั้งแต่กลับมาไม่รู้ว่ามันหายไปไหน แถมพ่อหมอก็ไม่ได้พูดถึงด้วยโฮ่ง!แต่ทว่านึกถึงไม่ทันไร ก็เกิดเสียงดังอยู่กลางป่ากล้วยเป็นเสียงเห่าของสุนัข แพรวพราวโผล่หน้าออกมาจากบานหน้าต่างฝั่งปีกห้องนอนทั