Share

เป็นเมียหมอผี บทที่ ๔ (๓)

last update Last Updated: 2025-06-04 20:21:09

แพรวพราวไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้เรี่ยวแรงของเธอนั้นมันช่างมหาศาลจนสามารถสะกดหมอผีที่หยิ่งยโสคนนั้นได้จนอยู่หมัด เขาที่เธอนั่งคร่อมอยู่เหนือกว่าด้านบนนั้นมองคนตัวเล็กกว่าด้วยแววตาสั่นไหว วันนี้มันคืนเดือนมืด ดวงตาของหล่อนส่องแสงราวกับทับทิมสีแดงก่ำ

“มึง... หยุดประเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นกูจักออกคำสั่งให้พวกผีมาฆ่ามึงอีกครา”

“เอาสิ ฉันไม่กลัวผี สู้แรงกันให้ได้ก่อนเถอะ คุณในตอนนี้เสร็จฉันแน่” แต่หล่อนไม่ได้ใส่ใจน้ำเสียงสั่นคลอนนั่นแม้ใจความจะขู่กรรโชกอยู่ก็ตาม ไม่รู้ทำไมรู้สึกเหมือนคืนนี้หล่อนจะเร่าร้อนเป็นพิเศษ กำหนัดจนไม่สนอะไรทั้งนั้นแม้แต่ความกลัว ยิ่งกว่ากินยาปลุกเซ็กซ์เสียอีก มันต้องการสูบพลังชีวิตใครบางคนในยามที่มีความอยากอันร้อนแรง

หมับ!

ไหล่หนาเปลือยเปล่าแข็งแกร่งถูกมือเล็กจ้อยมือเดียวผลักให้กระแทกกับพื้นหญ้าเปียกชื้นอันเย็นชืด มันไม่สบายตัวเอาเสียเหลือเกิน แต่เขาไม่สามารถสู้แรงหล่อนได้เลย อีแพรวในตอนนี้พละกำลังมหาศาลจนใช้สองมือกดเขาไว้แน่นไม่ต่างกับผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่ง

นังนี่มันมิใช่มนุษย์ธรรมดาแน่ๆ เรากำลังจักเสร็จมัน

“ปล่อยกู!”

“มาให้ฉันกินเสียดีๆ เถอะค่ะพ่อหมอ ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว และมันต้องเป็นคุณเท่านั้น” ดวงตากลมโตที่แปรเปลี่ยนเป็นสีทับทิมนั้นแวววาวด้วยความกำหนัดอันมหาศาล ฝ่ามือเล็กจิกผิวเนื้อขาวของพ่อหมอแรงขึ้น หล่อนโน้มใบหน้าลงไปซุกไซร้ซอกคอของชายหนุ่มวัยกลัดมันโดยไร้ยางอายอย่างสิ้นเชิง ใช้ปลายลิ้นไล่โลมเลียตั้งแต่ปลายคางจรดไหล่ที่มีหนั่นแน่นกล้ามเนื้อแข็งแรง แม้เขาจะพลิกหน้าหนีก็ไม่สำเร็จ

“แฮ่ก...” เสียงหอบหายใจของหล่อนนั้นดังชิดเป่ารดซอกคอจนขนลุกซู่ พ่อครูคันศรรู้สึกเหมือนตัวเองนั้นกำลังโดนอะไรบางอย่างที่ด้วยกำลังหรืออวิชชาก็ไม่สามารถกำจัดหรือสะกดได้เข้าแล้ว อีแพรวในคืนเดือนดับนี้ไม่ต่างกับสัตว์ประหลาดกระหายเลือด ดวงตาสีทับทิมนั้นผละออกมาสบตากับเขา พร้อมกับฉีกยิ้มหวาน

“ฉันขึ้นคร่อมเช่นนี้ วิชาเสื่อมหรือยังนะ?”

“ออกไปประเดี๋ยวนี้ กูมิตลกกับมึงด้วยหนา อีแพรว มึงเป็นตัวกระไรกันแน่!”

“ก็เหมือนกับในตอนแรกที่พ่อหมอล่อลวงฉันเพื่อให้เลิกยุ่งกับผัวแฟนของคุณไม่ใช่เหรอ ถ้าคราวนี้ฉันจะล่อลวงคุณบ้าง ถือว่าเจ๊ากันเนอะ”

พลันนั้นสาวเจ้าก็ถลกผ้าซิ่นของตนเองขึ้นจนเห็นสามเหลี่ยมความงามผุดผ่องที่มีเส้นแพรไหมแซมเล็กน้อย ความนุ่มนวลและเปียกชื้นนั้นทาบทับอยู่ตรงความใหญ่โตของเขา ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนเขากำลังจะพ่ายให้กับผู้หญิงที่ชิงชังที่สุดในชีวิตนี้ หญิงคนนี้ปลดปมผ้ารัดเอวของเขาด้วยมือเดียว และใช้อีกมือหนึ่งที่ว่างอยู่กดไหล่เขาไว้ไม่คิดจะปล่อยให้ติดกับพื้นหญ้าเย็นชืดจนไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้

เรี่ยวแรงมหาศาลนี่มันกระไรกัน แม้แต่ผีกะกับผีโพงที่เลี้ยงเอาไว้ยังไม่กล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ จักท่องคาถา เรียกมันเท่าไหร่มันก็ไม่มาดั่งใจนึก

ความใหญ่โตผงาดชูชันขึ้นมาเหนือปมผ้าเมื่อถูกถลกลงอย่างรีบร้อน ความใหญ่โตนั้นทำให้หล่อนตาวับวาว แลบลิ้นเลียกลีบปากบนด้วยความกระหาย ความเปียกฉ่ำที่กลางร่องสวาทนั้นมากพอที่จะให้หญิงสาวฉาบท่อนจันทน์ของเขาด้วยกลิ่นสาปสาว เคลือบน้ำสีใสมันวาวเลื่อมไปทั่วลำท่อนทั้งหมดยามเมื่อใช้สะโพกกดถูไถอย่างร่านราคี

แพรวพราวไม่สนใจว่าเขากำลังกดสายตามองหล่อนที่ร่อนสะโพกอยู่ด้านบนด้วยสีหน้าที่ทั้งเสียวซ่านกอปรกับความอาฆาตแค้นที่สู้แรงไม่ได้สักเพียงใด ก่อนหน้านั้นเขายังกล้ามีเซ็กซ์กับหล่อนได้ แถมยังกระทำอย่างรุนแรงเสียด้วย ด้วยเหตุผลที่เอาตัวเองมาขวางการรักกันของหล่อนกับผัวของคนที่เขารัก คราวนี้เป็นตาของเธอบ้างล่ะ เธอจะกดเขาให้จม บดขยี้เขาให้ทุกข์ทรมานอยู่ใต้ร่างเสียเลย

แค่คิดว่าหลังจากเธอตายนับสิบอาจจะเสียใจจนไปซบอกผู้หญิงสักคน ก็เดือดดาลมากพออยู่แล้ว คนที่หน้าเหมือนนับสิบในภพนี้ดันเป็นชายที่หมายตาหญิงคนอื่นและเกลียดชังหล่อนอีกต่างหาก

เขาจะอ่อนแอลงเพราะอะไรก็ช่าง หรือเธอจะมีเรี่ยวแรงมหาศาลมาจากที่ไหนก็ช่าง

นี่ถือเป็นโอกาสของเธอแล้ว

“ฉันจะทำให้คุณจำชื่อฉันไม่มีวันลืมแน่”

ตอนที่เธอยังเป็นแพรวพราว ใครๆ ที่มีเซ็กซ์กับเธอต่างกลับมารีเทิร์นร้องขอความรักซ้ำสองเสมอ แม้แต่นับสิบยังบูชาเธอไม่ต่างกับผู้หญิงที่สำคัญที่สุดของเขา

เธอมั่นใจในตัวเองมากพอว่าจะสงบปากและสงบกายของพ่อหมอปากดีคนนี้ได้แน่นอน

เอ้าท์ดอร์งั้นหรือ? หล่อนไม่สนเท่าไหร่หรอก กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันในกองถ่ายก็เคยมาแล้ว

“อีแพรว ปล่อยกูประเดี๋ยวนี้นะ!” ฝ่ามือใหญ่นั้นพยายามปัดป่ายควานหาเรียวแขนเล็กของหล่อนที่กดไหล่แกร่งของเขาไว้แน่นหนา ดวงหน้าคมคายสะบัดหนีเมื่อหญิงสาวไล้โลมเล้าไปทั่วเรือนกาย สิ่งเร้าเหล่านี้มันคือสิ่งที่เย้ายวนชวนให้เราลุ่มหลงในมารยาสตรี หญิงงามหน้าเช่นนี้ มีสวาทด้วยคราเดียวก็เกินพอ

เขาไม่ได้ต้องการสานสัมพันธ์เลยสักนิด เขารู้ตัวดีว่าจงเกลียดจงชังนางมากเพียงใด หากแต่อีกฝ่ายไม่ยั้งมือและไม่ยั้งใจเอาเสียบ้าง นางเอาแต่พร่ำเพ้อว่าเขาหน้าตาเหมือนกับคนที่รักในชาติก่อน พล่ามบ้าพล่ามบอกระไรไม่รู้เรื่อง อย่างไรเขาก็ไม่ใช่คนรักของนางอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นภพชาติไหน

สวาทเพียงคราเดียวกับโสเภณี ก็ไม่ต่างกับน้ำแตกแล้วแยกทางนั่นล่ะ แต่เขาจักไม่ยอมให้นางแยกทางไปแบบเป็นๆ แน่นๆ เเ็น

พยายามฆ่าก็แล้ว ใช้กลอุบายลวงให้หลงก็แล้ว นางดันพาตัวอันตรายในชีวิตที่เขาไม่อยากมองหน้ามันอีกครั้งมาด้วย

อดีตสหายที่เคยเป็นเสี้ยนหนามหัวใจ

เขาชิงชังมันนัก ชิงชังเหลือเกิน ที่ถึงแม้ว่าครานั้นหล่อนจักเลือกเขาก็จริง แต่เขามันได้แต่ตัวเท่านั้น ใจของนางเป็นของมัน พร่ำเพ้อหาในยามที่ความตายกำลังมาพรากไป

พรานสมิงไม่เคยรู้ตัวว่า ‘ดอกรัก’ นั้นหลงรักมันหัวปักหัวปำเพียงใด แต่เพราะเขาเป็นคนแรกของนาง พรานสมิงจึงแยกทางไป นางเสียใจแต่ก็ยอมอยู่กินกับเขาจนมีลูกสาวด้วยไม่มีทางเลือก หล่อนอ่อนแอเหลือเกินจนต้องการคนดูแล ยิ่งท้องยิ่งไส้ยิ่งต้องการใครสักคนให้พึ่งพิง ซึ่งพ่อครูคันศรยินดีเป็นคนนั้นแม้จะรู้ว่าดอกรักไม่เคยรักเขา พ่อครูนั้นเลี้ยงดูเธออย่างดี ก่อนที่จักจากไปโดยทิ้งวาดรักให้ดูต่างหน้า

ในช่วงเวลาที่อยู่กินร่วมกัน ทุกคราที่หลับนอนกัน ใจของดอกรักไม่เคยมีเขาอยู่ในนั้นเลยสักนิด

กระไรก็ไอ้พรานสมิง ไอ้นั่นมันมีดีกว่าเขาอย่างไร!

แม้แต่ในวันนี้... เขากลับต้องมาเสร็จสมโดยนังปีศาจร้ายเช่นอีแพรว มันที่หวังพรากลูกสาวที่เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวของดอกรักและหลานของเขาในครรภ์ไป แล้วยังมีหน้ามาบอกว่ารักทั้งที่เพิ่งเจอหน้างั้นหรือ

มารยาหญิงงามเมืองนี่มันน่าอุบาทว์เสียจริง

ชีวิตนี้มันชิบหายเหลือเกิน หญิงที่รักไม่เคยรักเขา แต่หญิงที่เกลียดชังสุดดวงใจกำลังครอบครองเขา

แถมเขายังเผลอตน เสร็จสมกับแรงยั่วสวาทของปีศาจ

ความเปียกลื่นถูไถลงกับความยาวของลำท่อนจันทน์ที่เมื่อเธอผละออกมันก็ดีดผึงขึ้นตั้งลำเตรียมกระทำการศึกทันที สีหน้าของแพรวพราวนั้นหยาดเยิ้ม หล่อนต้องการให้มันเข้ามาอยู่ในกายของตัวเองเดี๋ยวนี้เลย และตอนนี้เขาน่าจะแข็งตัวได้ที่แล้ว แถมยังมีจังหวะสั่นกระตุกเหมือนกำลังจะแตกอีกด้วย

ฮึ... ปากก็ว่าเกลียดงั้นงี้ แต่สุดท้ายก็จะแตกเพราะเธอสินะ

ปากดีแบบนี้นี่ล่ะ แพรวพราวชอบนัก เพราะเสร็จเธอมาไม่รู้กี่รายแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๔ (๓)

    แพรวพราวไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้เรี่ยวแรงของเธอนั้นมันช่างมหาศาลจนสามารถสะกดหมอผีที่หยิ่งยโสคนนั้นได้จนอยู่หมัด เขาที่เธอนั่งคร่อมอยู่เหนือกว่าด้านบนนั้นมองคนตัวเล็กกว่าด้วยแววตาสั่นไหว วันนี้มันคืนเดือนมืด ดวงตาของหล่อนส่องแสงราวกับทับทิมสีแดงก่ำ“มึง... หยุดประเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นกูจักออกคำสั่งให้พวกผีมาฆ่ามึงอีกครา”“เอาสิ ฉันไม่กลัวผี สู้แรงกันให้ได้ก่อนเถอะ คุณในตอนนี้เสร็จฉันแน่” แต่หล่อนไม่ได้ใส่ใจน้ำเสียงสั่นคลอนนั่นแม้ใจความจะขู่กรรโชกอยู่ก็ตาม ไม่รู้ทำไมรู้สึกเหมือนคืนนี้หล่อนจะเร่าร้อนเป็นพิเศษ กำหนัดจนไม่สนอะไรทั้งนั้นแม้แต่ความกลัว ยิ่งกว่ากินยาปลุกเซ็กซ์เสียอีก มันต้องการสูบพลังชีวิตใครบางคนในยามที่มีความอยากอันร้อนแรงหมับ!ไหล่หนาเปลือยเปล่าแข็งแกร่งถูกมือเล็กจ้อยมือเดียวผลักให้กระแทกกับพื้นหญ้าเปียกชื้นอันเย็นชืด มันไม่สบายตัวเอาเสียเหลือเกิน แต่เขาไม่สามารถสู้แรงหล่อนได้เลย อีแพรวในตอนนี้พละกำลังมหาศาลจนใช้สองมือกดเขาไว้แน่นไม่ต่างกับผู้ชายร่างใหญ่คนหนึ่งนังนี่มันมิใช่มนุษย์ธรรมดาแน่ๆ เรากำลังจักเสร็จมัน“ปล่อยกู!”“มาให้ฉันกินเสียดีๆ เถอะค่ะพ่อหมอ ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว แล

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๔ (๒)

    การห้ามมีเซ็กซ์ นั้นยากเย็นกว่าการห้ามรักเสียอีกสัมผัสของพ่อหมอคนนั้นที่หล่อนหลงครวญหาจนนึกว่าเป็นนับสิบนั้นหลอกหลอนวนเวียนในหัวไม่หยุดหลังจากถึงเวลาเข้านอน ฝนยังคงตกไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพักเลยสักนิด ความเหน็บหนาวที่ลอดเข้ามาแม้ว่าบานหน้าต่างจะถูกปิดสนิท ไหนจะเสียงฟ้าผ่าเป็นระยะๆ ทำให้แพรวพราวที่นอนหนาวอยู่บนฟูกนอนใหญ่รู้สึกตัวขึ้นมากลางดึกสงัดเมื่อหันไปข้างๆ ก็พบกับร่างกายกำยำใหญ่โตที่นอนร่วมข้างกายหล่อน พรานสมิงปิดเปลือกตา ไม่มีทีท่าจะตื่นนอน เหมือนว่ากำลังหลับสนิทอยู่นะแต่เมื่อนึกถึงแต่ฉากร่วมเพศตลอดค่อนคืนจนถึงขนาดอาจเอาไปเก็บในนิมิตได้ มันทำให้เธอนอนไม่หลับและรู้สึกเสียววูบวาบยุบยิบในท้องน้อย จวบไปจนถึงเส้นทางสวาทที่ไม่ควรเปิดเผยให้คนข้างๆ เลยแม้แต่น้อยพ่อครูคันศรชี้ชัดว่าเกลียดน้ำหน้าเธอขนาดนั้น ถ้าให้บากหน้าไปบอกว่า ‘อยากทำ’ คงไม่น่าไหว แต่ถ้าเป็นคนข้างๆ แล้วละก็...แต่!“ก็ได้นะ แต่กฎของฉันกับนาย คือห้ามแตะต้องตัวกันอย่างเด็ดขาด ห้ามมีเซ็กซ์ และห้ามรักฉันด้วย”หล่อนตั้งกฎบ้าๆ นี่ออกไปแล้วน่ะสิ!จะมากลืนน้ำลายตัวเองคงจะไม่ได้ แม้ว่าในชาติก่อนที่เป็นดาราสาวเธอก็มีวันไนท์สแตนด์

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๔ (๑)

    “ข้าทำตามได้อยู่แล้ว” แต่อีกฝ่ายกลับตกลงรับคำไม่มีข้อกังขาใดๆ ทั้งนั้น เขาไม่ได้มีปัญหากับการอยู่ร่วมชายคาเดียวกับสาววัยแรกรุ่นที่ถ้าเทียบการถือกำเนิดและอยู่บนโลกมนุษย์มาแล้วนับร้อยปี แพรวพราวไม่ต่างอะไรกับลูกหลานเหลนโหลนของเขาด้วยซ้ำไปนั่นทำให้สาวเจ้านึกโล่งใจ อย่างน้อยถ้าได้รับความร่วมมือจากฝ่ายชายอย่างแข็งขัน หล่อนอาจจะอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับเขาได้แบบสันติสุขโดยไม่มีการเสียตัวให้กันและกัน คิดดังนั้นจึงตรงเข้าไปในเรือนใหญ่หรูหรา ที่มีห้องหับแบบโบร่ำโบราณแยกกันอยู่สองฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นห้องน้ำ อีกฝั่งเป็นห้องหลับนอน ห้องทำกับข้าวน่าจะเป็นการผิงไฟย่างเนื้ออยู่ด้านนอกแบบหมู่บ้านเก่าของเขากระมังโลกนี้น่าจะไม่มีอลาคาสหรูหราแบบที่ทานอยู่เป็นประจำ เธอไหวไหล่อย่างไม่แคร์ ถ้าอยากอยู่รอดในโลกนี้ต้องทนๆ เอา ข้าวเหนียวห่อใบตองก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่นักพูดถึงข้าวเหนียวห่อใบตอง ก็คิดถึงโรเบิร์ตขึ้นมาเลย ตั้งแต่กลับมาไม่รู้ว่ามันหายไปไหน แถมพ่อหมอก็ไม่ได้พูดถึงด้วยโฮ่ง!แต่ทว่านึกถึงไม่ทันไร ก็เกิดเสียงดังอยู่กลางป่ากล้วยเป็นเสียงเห่าของสุนัข แพรวพราวโผล่หน้าออกมาจากบานหน้าต่างฝั่งปีกห้องนอนทั

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๓ (๓) จบตอน

    แพรวพราวชะงักไป หล่อนจ้องเขาตาเขม็ง“ไหนว่าไม่ต้องการข้อแลกเปลี่ยนไงคะ” ก็เมื่อครู่เขายังยอมเซ็นสัญญาปากเปล่าเป็นเด็กในสังกัดเธอโดยไม่รับข้อแม้อะไรอยู่เลย“นี่หาใช่ข้อแลกเปลี่ยนไม่ แม่รับมือไอ้คันศรมิได้ดอก ข้าเองก็มิมีหมู่บ้านให้อยู่อาศัยอีกต่อไป หมู่บ้านนั้นนอกจากเสือก็มีเพียงข้าคนเดียวที่เป็นคน”“...”“การไปร่วมชายคากับแม่เป็นทางเลือกที่ข้าเต็มใจจักเลือก... ข้าอยากอยู่กับแม่”ต๊าย มีผู้ชายตื้ออยากอยู่ด้วยแล้ว“ก็ได้ ถ้าอยากมาก็มา ยังไงนั่นก็ไม่ใช่บ้านฉันอยู่แล้ว” แต่การถูกตามตื้อไม่ใช่ปัญหาของคนที่เคยพราวเสน่ห์อย่างเธอหรอก ผู้ชายตรงหน้าก็ไม่ได้เลวร้าย อีกอย่างเธอจะอวดดีกลับไปโต้อารมณ์กับพ่อครูคันศรเพียงคนเดียวคงเป็นไปไม่ได้ แพรวพราวยังไร้กำลังนัก และหล่อนรู้ดีว่าโลกใบนี้ชายหญิงไม่เท่าเทียมกัน“งั้นข้าจักพาแม่ไปส่งประเดี๋ยวนี้เลย” ร่างกำยำค่อยๆ หยัดเดินขึ้นมาที่ริมเนินตลิ่ง เจ้ากานพลูชูงวงอย่างเริงร่าจากที่แอบฟังชายหญิงสองคนพูดคุยกันอยู่นานสองนาน มันเดินตามอีกฝ่ายขึ้นมาด้วย พรานสมิงเปิดเปลือยอวดความบาดตาบาดใจให้หญิงสาวได้เห็น แต่เมื่อเขาจะแต่งกายก็ถูกเจ้ากานพลูเอางวงมาปิดช่วงล่างเอา

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๓ (๒)

    “ถ้าฉันไปอยู่กับพระยาสิงห์ ก็ต้องอยู่ในฐานะเมียน้อยล่ะสิ” เรื่องแบบนี้ยิ่งรับไม่ได้เข้าไปใหญ่“ใช่”“ไม่มีทางหรอกค่ะ”“แม่มิมีทางเลือกดอก” แต่ความคาดหวังและการตัดสินใจที่เสรีถูกปัดตกไปตั้งแต่ที่เกิดเป็นโสเภณีในยุคโบราณแบบนี้แล้ว ยุคสมัยนี้ผู้หญิงไม่ได้มีปากมีเสียง มีความคิดที่อิสระเหมือนบ้านเราในปัจจุบัน สิ่งที่แพรวพราวเลือกได้คือต้องอยู่กับพระยาสิงห์ในฐานะอนุภรรยา หรือถ้ากล้ำกลืนความเป็นเมียน้อยคนแก่พุงพลุ้ยไม่ได้ ก็ต้องตายเท่านั้นเองแต่อยู่ดีๆ สาวเจ้าก็บังเกิดความคิดสุดบรรเจิดและค่อนข้างที่จะสุดโต่งขึ้นมาในหัวแล้วถ้าหล่อนยอมเป็นเมียของคนที่คิดจะฆ่าหล่อนมาตั้งแต่แรก และพยายามทำให้เขาตกหลุมรักให้ได้ล่ะ?ถ้าเธอยอมปรนนิบัติรับใช้พ่อครูคันศร เขาจะเปลี่ยนใจมาช่วยเหลือเธอหรือเปล่า?แน่นอนว่าพรานสมิงเองก็น่าสนใจ แต่ทำไมเธอถึงไม่เลือกเขาน่ะเหรอ?ก็เพราะว่าไม่ตรงสเปคยังไงล่ะอีกอย่าง... ก็เพราะติดใจในหน้าตาที่ละหม้ายคล้ายคลึงกับนับสิบราวกับคนเดียวกันอย่างน่าประหลาดของเขา ถ้าเกิดว่าหมอผีคนนั้นเป็นนับสิบในชาติที่แล้วจริงๆ เธอจะได้เจอกับนับสิบในภพปัจจุบันอีกไหม?ไม่รู้ว่าเพราะอะไร... พอคิดว่าจ

  • เมื่อนางร้ายเกิดใหม่เป็นเมียหมอผีเเห่งกรุงศรีอโยธยา   เป็นเมียหมอผี บทที่ ๓ (๑)

    “ลงมาชำระกายกับข้าไหม... แพรวพราว”เป็นคำชวนแรกจากผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่ถึงครึ่งวัน หญิงสาวชะงักไป หล่อนไม่ได้เกิดความรู้สึกอยากลงไปในลำธารนิ่งสงบนั่นเสียเท่าไหร่ ทำแค่เพียงสลับกลับมานั่งพับเพียบอย่างเรียบร้อย พร้อมกับสบตาอีกฝ่ายอยู่ที่เนินตลิ่งอย่างใช้ความคิด“ไม่ดีกว่าค่ะ” สุดท้ายจึงเลือกที่จะปฏิเสธออกไป“มิไว้ใจข้าหรือ” ดวงหน้าคมคายนั้นฉีกยิ้มพรายทรงเสน่ห์ เขาเป็นผู้ชายที่ดูดีแถมเรือนกายกำยำล่ำสัน ที่ถ้าเป็นผู้หญิงใจง่ายทั่วไปคงแทบวิ่งเข้าใส่ หากแต่หญิงสาวยังตกอยู่ในความตะลึงพรึงเพริดจากเหตุการณ์ก่อนหน้าจนยากจะอธิบาย ถ้าพูดให้ถูกคือชายตรงหน้าเป็นใครก็ไม่รู้ เธอไม่เคยรู้จักเขา แถมเขาไม่ใช่คนในยุคสมัยที่เธอจากมา ถึงจะช่วยเหลือกันไว้แต่หญิงสาวก็ยังไม่ไว้เนื้อเชื่อใจนัก ก็เขาเลี้ยงสมิงไว้ทั้งฝูงนี่ เผลอๆ อาจจะหาทางทำมิดีมิร้ายเธอก็ได้ต้องคิดลบไว้ก่อนเพราะตอนนี้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันชวนสับสนมึนงงไปหมด“ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ แต่เราเพิ่งจะรู้จักกัน จะให้ฉันถอดเสื้อถอดผ้าลงไปอาบน้ำกับผู้ชายคงไม่ดีเท่าไหร่” อีกอย่างการที่จะได้ ‘กิน’ ผู้ชายสักคนเนี่ย แพรวพราวต้องแน่ใจเสียก่อนว่ารู้ตัวตนและโปรไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status