"สวัสดีค่ะ"
"สวัสดีค่ะ..คุณนาว!" วิชุดาที่เพิ่งเงยหน้าจากหน้าจอคอมเอ่ยตอบรับผู้ที่มาติดต่อ แต่ต้องอุทานเรียกชื่อคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ ทั้งตกใจและแปลกใจที่เห็นนักแสดงชื่อดังเข้ามาทักทาย
"สวัสดีค่ะพอดีนาวมาขอพบหมอพีร์ค่ะ" ลัลนายิ้มตอบรับด้วยความเคยชินกับสถานการณ์แบบนี้ ก่อนจะบอกความต้องการของตนเอง
"หมอพีร์!?" เมื่อเห็นคุณพยาบาลหน้าห้อง อีกทั้งพยาบาลอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังอุทานเอ่ยชื่อคนที่เธอต้องการพบด้วยน้ำเสียงและสีหน้าแปลกใจ ก็ทำให้ลัลนาถอยหลังก้าวหนึ่ง เงยหน้าอ่านป้ายชื่อแผนกอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
ออร์โธปิดิกส์ ก็ถูกแล้วนี่?
"หมายถึงหมอรพีภัทรใช่ไหมคะ" วิชุดาทวนชื่อย้ำกับดาราสาวอีกครั้ง
"ใช่ค่ะ" ลัลนายิ้มตอบรับ เข้าใจว่าแผนกนี้อาจจะมีคนชื่อเดียวกันมากกว่าหนึ่งคน
"อะ..เอ่อ ได้นัดกับหมอพีร์ไว้ไหมคะ" พยาบาลคนด้านหลังเอ่ยถามแทน เมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานยังกะพริบตามองคนตรงหน้าอย่างมึนงง
"นาวไม่ได้นัดไว้ค่ะ หมอพีร์ไม่อยู่เหรอคะ" เธอตอบรับเสียงอ่อย ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทว่าอาชีพของเขาค่อนข้างจะงานยุ่ง การที่อยู่ๆ เธอเข้ามาเลยอาจจะกระทบกับคนไข้ที่นัดไว้
"หมอพีร์ติดเคสอยู่ค่ะถ้าดูจากเวลาก็น่าจะใกล้...อ้อ! นั่นไงคะ หมอพีร์คะ!" วิชุดาเงยหน้าจากข้อมือตัวเองที่ดูเวลา ตะโกนเอ่ยเรียกคุณหมอหนุ่มที่กำลังเดินหน้านิ่งเข้ามา
"ครับ" ร่างสูงชะงักทันทีเมื่อมีเสียงเรียกตนเอง ก่อนสายตาจะหยุดนิ่งอยู่ที่คนตัวเล็กที่หันมายิ้มทักทาย
"คุณ...มาทำไม?"ลัลนาหุบยิ้มการค้าทันทีเมื่อเขาเอ่ยประโยคทักทายเธอด้วยการถามว่ามาทำไม!
"คุณแม่ให้นาวมาค่ะ" เธอฝืนยิ้มหวานตอบกลับชายหนุ่ม ก่อนจะหันไปเอ่ยขอบคุณพยาบาลสาวที่ยังลอบสังเกตพวกเธออยู่
"คุณแม่? ให้มาทำไม" รพีภัทรถามย้ำอีกครั้งเมื่อคนตัวเล็กเดินมาใกล้ แต่ถามด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าเดิม เมื่อรู้สึกได้ว่ามีคนสนใจบทสนทนาเขากับดาราสาวเป็นพิเศษ
"ก็ไปลองชุดกับดูของชำร่วยไงเล่า!" ลัลนากระซิบตอบอย่างหงุดหงิด มีอย่างที่ไหนบอกจะแต่งงานกัน หลังจากนั้นก็หายหน้าไปเป็นเดือน มีแต่คุณหญิงรจณีที่จัดเตรียมทุกอย่างไว้ให้ แล้วยิ่งตอนนี้วงในเริ่มจะรู้ข่าวว่าเธอจะแต่งงานบ้างแล้ว เพียงแต่มีไม่กี่คนที่รู้ว่าเจ้าบ่าวเป็นใครนี่สิ
ก็ว่าที่เจ้าบ่าวเล่นหายหน้าไปเป็นเดือน จนใครๆ ก็ต่างนินทาว่าเธอหลอกลวงแต่งงานทิพย์เพื่อกลบข่าวน่ะสิ!
"ผมไม่ว่างหรอก" เขาปฏิเสธแทบจะทันทีเมื่อเธอเอ่ยจุดประสงค์จบ
"ใจคอคุณจะไม่สนใจอะไรงานเลยรึไง แม้แต่ชุดเจ้าบ่าวยังไม่ไปลองเนี่ยนะ!" มะนาวเอ่ยเสียงเครียดไม่พอใจ "จะให้แม่คุณเตรียมกางเกงในให้ด้วยเลยรึเปล่า"
"ผมไม่ติดนะ" รพีภัทรตอบกลับเสียงเรียบไม่สะทกสะท้าน ก็แค่งานวันหนึ่งที่มีพิธีเท่านั้นเอง จะต้องไปลองอะไรมากมายให้วุ่นวาย
"หมอพีร์คะ ฉันอยู่ในวงการ คุณคิดว่าคนจะว่ายังไงถ้ารู้ว่าฉันต้องไปลองชุดเอง เลือกการ์ดเลือกของชำร่วยเอง ไว้หน้ากันบ้าง" ลัลนาตอบกลับน้ำเสียงหงุดหงิด ริมฝีปากบูดบึ้งแสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ลำพังแค่เธอกับเขาประกาศจะแต่งงานกันหลายคนที่รู้ข่าวก็เดากันไปต่างๆ นานา ทั้งท้องก่อนแต่ง แต่งงานกลบข่าว อะไรเยอะแยะสารพัด
รวมถึงคุณหญิงรจณีคุณแม่ของเขา ที่แสดงความแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด ถึงจะอยากได้ลูกสะใภ้คนนี้ขนาดไหน แต่การที่อยู่ๆ ลูกชายที่หวงความโสดมาหลายปีจะตกลงใจแต่งงานก็ย่อมเป็นเรื่องใหญ่
หลังจากวันนั้นที่เธอกลับไป ลัลนาคิดว่าเขาคงจะมีการคุยกันภายในครอบครัว เพราะอีกเพียงแค่สองวันเธอก็ถูกจับเข้าคอร์สเจ้าสาวชุดใหญ่ ซึ่งแปลได้ว่าทางครอบครัวยอมรับกับการแต่งงานครั้งนี้แล้ว
แล้วนี่มีแต่ผู้เป็นแม่จัดการอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนคนเป็นเจ้าบ่าวที่ป่าวประกาศอยากแต่งงานเธอกลับไม่ได้เห็นหน้าเป็นเดือน!
"งั้นคุณไปรอในห้องก่อน ผมติดคอนเซาท์" เขาตอบกลับแบบรำคาญใจ เพยิดหน้าไปทางห้องพักด้านใน
"คุณก็ต้องพาฉันไปแจ้งคุณพยาบาลสิคะ!" เธอกระซิบตอบเขาอย่างเอือมระอา
อะไรกันต้องให้เธอบอกทุกเรื่อง นี่ไม่เคยพาผู้หญิงมาเลยรึไง!
เขาพ่นลมหายใจออกมาเฮือกยาวอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเดินไปพูดคุยกับคุณพยาบาลหน้าห้องเล็กน้อย เมื่อเห็นทั้งสองเงยหน้าขึ้นมามองเธอจึงยิ้มตอบแบบพาซื่อ ก่อนจะเดินเข้าไปสบทบเมื่อเห็นร่างสูงเอ่ยเรียก
"ผมฝากด้วยนะครับพี่ดา ผมคอนเซาท์กับหมอเจตน์ไม่น่าเกินชั่วโมง"
"ไม่มีปัญหาค่ะหมอพีร์ เดี๋ยวพี่ดาจะดูแลให้ดีที่สุด แต่...ขอถ่ายรูปกับคุณนาวสักรูปได้ไหมคะ ลูกพี่ชอบคุณนาวมากเลยค่ะ" วิชุดารับปากคุณหมอหนุ่มก่อนจะหันไปเอ่ยขอคนเป็นแขกเสียงอ่อย
ถึงจะดูเสียมารยาทไปบ้างแต่โอกาสมาถึงตรงหน้าขนาดนี้จะไม่ให้คว้าไว้ได้ไง ดาราดังระดับนี้ใช่ว่าเธอจะมีโอกาสได้เจอบ่อยๆ
"ได้เลยค่ะ ถ่ายทุกคนเลยก็ได้นะคะ" ลัลนาตอบกลับอย่างใจดี ขัดจากภาพลักษณ์นางร้ายในจอที่หลายๆ คนเคยเห็น
เมื่อเห็นคนดังบอกแบบนั้น พยาบาลในแผนกต่างเดินเข้ามารอคิวถ่ายรูปตามที่ดาราสาวบอก ในขณะที่คุณหมอหนุ่มส่ายหน้าเซ็งๆ ก่อนจะเดินออกจากสถานการณ์ตรงหน้า
ดูท่าความสงบสุขที่มีมาตลอดของเขากำลังจะหายไป
ลัลนาที่กำลังอ่านบทอยู่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคุณหมอหนุ่มที่ก่อนหน้าเธอเห็นเขาวุ่นวายอยู่ในครัว ย้ายตัวมาโอบกอดเธอด้านหลัง ก่อนที่เจ้าตัวจะแทรกกายลงมานั่งซ้อนหลังเธอ ใบหน้าคลอเคลียอยู่ตรงซอกคอเธอ"อะไรคะคุณพีร์""ข้าวเสร็จแล้ว""นาวขออีกแป๊บได้ไหมคะ เหลืออีกตอนเดียว" ลัลนาก้มหน้าอ่านบทต่อในมือถือปากกาขีดเขียนลงในหน้าจอไอแพดเมื่อวิเคราะห์อารมณ์ตัวละครในบทนั้น"หืม...แล้วทำไมต้องไปง้อมัน""คะ?" ลัลนาที่กำลังใช้สมาธิอยู่เอียงคอมองคนตัวสูงที่กำลังเพ่งมองหน้าจอไอแพดเธออยู่"ไอ้นี่อะ" เขาชี้ไปยังที่เธอวงกลมไว้ "ทำไมต้องไปง้อมัน" ก่อนจะถามย้ำประโยคเดิมอีกครั้ง"ก็...คนนี้ฤดีรักพระเอกนี่คะ พอรู้ว่าพระเอกจะไปรักคนอื่นก็เลยง้อ" เธอกล่าวถึงบทฤดี นางร้ายละครเรื่องต่อไปที่เธอต้องรับบทเล่น"ก็ปล่อยมันไปสิ! ทำไมต้องไปรักมัน" ลัลนาปรายตามองคนตัวสูงที่ขมวดคิ้วจริงจัง"คุณพีร์ นาวจะอ่านบท อย่ากวนค่ะ" เธอดุคนรักเสียงเข้ม รพีภัทรจึงก้มใบหน้าหอมแก้มเธอ ไม่พูดอะไร แต่ก็ไม่ลุกออกไปไหน เธอจึงอ่านตอนที่เหลือต่อ ลัลนาขีดเส้นใต้ เขียนอารมณ์ความรู้สึกของบทตัวเองไปเรื่อย ก่อนจะสะดุ้งตกใจอีกหน เมื่อคนที่นั่งซ้อนหลังโว
"เราจะกินข้าวก่อนหรือเดินซื้อของก่อนดีคะ" ลัลนาเอ่ยถามคนรักหลังจากที่เดินเข้ามาในห้าง วันนี้พวกเธอมีแพลนซื้อของขวัญให้คุณแม่ซึ่งอาทิตย์นี้จะจัดงานเลี้ยงวันเกิด "ผมว่าซื้อก่อนก็ได้" คนตัวสูงจับมือคนตัวเล็ก เดินไปยังโซนช็อปแบรนด์เนม"อ้าว ไหนว่าคุณแม่ไม่เอาของแบรนด์ไงคะ" ลัลนาท้วงอย่างประหลาดใจ จำได้ว่าเขาบอกว่าหลายปีมานี้ คุณแม่สั่งห้ามเด็ดขาด ว่างดรับของแบรนด์เนมทุกชนิด เธอคิดว่าคุณแม่สามีคงจะมีเยอะ ซื้อเองจนครบหมดแล้ว เลยไม่อยากให้ใครมาซื้อให้อีก"ก็...ลองเดินดูก่อน" เขาตอบเธอเสียงเบา ลัลนามองท่าทางเลิ่กลั่กแปลกๆ ของสามีหนุ่ม ถึงอย่างนั้นก็ไม่ท้วงอะไร เดินตามแรงจูงไป เมื่อเดินเข้าไปในช็อปดัง BA คนเดิมที่เคยมารับรองเธอกับคุณหญิงรจณีก็เดินออกมาต้อนรับ คล้ายเตรียมตัวไว้อยู่แล้ว ลัลนาเดินตามแรงจูงอย่างงงๆ เมื่อเขาลากเธอไปยังห้องด้านใน"อะไรกันคะคุณพีร์?""พอดีผมอยากให้นาวช่วยเลือกกระเป๋าให้ก่อน" ลัลนามองพนักงานคนเดิมที่ถือกระเป๋ามา ก่อนจะหันมองเขาอย่างมึนงง"เลือกกระเป๋าเหรอคะ""ใช่ช่วยเลือกให้หน่อย ผมเลือกไม่ค่อยเก่ง" ลัลนาคิดว่าเขาอาจจะต้องซื้อให้เพื่อน หรือคนสำคัญระดับหนึ่งถึงต้องมา
"หมอที่นี่มันยังไงวะ หยุดงานทีไร อารมณ์ดีทุกที" รพีภัทรเงยหน้ามองเพื่อนสนิทตนเองทั้งสองคนที่เดินตามกันเข้ามาสีหน้าเบื่อหน่าย ก่อนจะก้มหน้าไถหน้าจอสมาร์ทโฟนต่อไม่สนใจ"กูว่าน่าจะมีคนดีใจที่ได้เสียเงินห้าแสน" อวัศย์เอ่ยเสริมทัพอย่างอารมณ์ดีที่ชนะพนันไอ้เพื่อนตัวดีได้ ตั้งใจมาเยาะเย้ยโดยเฉพาะ"ไงมึงไอ้พีร์ หน้าบานอะไรขนาดนั้น" ธารณ์เดินอ้อมไปด้านหลังเพื่อนที่นั่งอยู่ ก้มหน้าดูหน้าจอโทรศัพท์ที่เพื่อนดูค้างไว้ "โหไอ้พีร์ มึงน่าจะหนักกว่าไอ้หมอก นั่งดูรูปไปยิ้มไปเนี่ยนะ!""เห้ย! อะไรของพวกมึงเนี่ย" รพีภัทรเบี่ยงหน้าจอหนีเพื่อนสนิททั้งสองคนที่พร้อมใจกันกรูเข้ามาดูโทรศัพท์ตนเอง"ไหนๆ ดูอะไร" อวัศย์พยายามชะโงกหน้าดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น"พอๆ ไปไกลๆ ตีนกูเลยพวกมึง""หึ! ไม่ต้องปิดหรอก กูเห็นหมดแล้ว มึงนั่งดูรูปคุณนาวในไอจีอย่างกับโรคจิต" ธารณ์พูดขึ้นอย่างหมั่นไส้ เมื่อรู้ว่าที่เพื่อนตัวเองยิ้มหน้าบานอย่างกับคนบ้าเพราะนั่งหลงรูปเมียตัวเองอยู่"โรคจิตอะไร นี่เมียกู""เต็มปากเต็มคำเชียวนะมึง" ไทม์ยังไม่วายเหน็บแนมเพื่อน"อ๋ออ...กูว่าแล้ว ที่สมัครไอจีเนี่ยเพราะเมียเลย" อวัศย์พูดขึ้นบ้าง ความจริงเ
รพีภัทรนั่งมองคนตัวเล็กที่นอนขุดคู้อยู่บนเตียง ลมหายใจผ่อนเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คนตัวสูงเอื้อมมือสัมผัสแก้มนิ่มของคนที่นอนนิ่งอยู่ ก่อนจะก้มใบหน้าจูบซับน้ำตาที่ซึมออกมา คาดว่าเธอน่าจะฝันร้ายอยู่ใบหน้าหวานเริ่มคลายปมที่คิ้วเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอ่อนโยนที่ได้รับ ก่อนริมฝีปากจะแย้มยิ้มนิดๆ เมื่อฝันร้ายจางหายไปร่างสูงเอนตัวพิงหัวเตียงกึ่งนั่งกึ่งนอน มือหนาเอื้อมมือลูบศีรษะคนตัวเล็ก ย้อนคิดถึงสิ่งที่เธอเล่าให้ฟัง หลังจากที่เขารู้เรื่องจากอชิระก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าเธอมีปัญหาในครอบครัว แต่ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้ ฟังจากที่เธอเล่า หลังจากนั้นเธอและแม่พากันออกมาอยู่ข้างนอก เท่ากับแม่คงจะเป็นทั้งชีวิตของเธอ แต่...ก็ยังมาโดนทิ้งไปไหนจะเรื่องวันนั้นที่ไอ้เพื่อนทั้งสองคนเล่าให้ฟัง ว่าเห็นอาการแปลกๆ ของเธอวันที่น้ำตาลจมน้ำ ตอนนั้นเขาห่วงพี่สะใภ้เพราะรู้ว่าว่ายน้ำไม่เป็น ส่วนภรรยาตนเองว่ายน้ำเก่งอยู่แล้ว ไม่คิดว่าร่างกายเธอจะไหวแต่จิตใจอ่อนแอ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิดในใจ วันที่เธอต้องการใครสักคนที่สุด แต่ตัวเขากลับไม่อยู่ข้างๆ "คุณพีร์.." รพีภัทรก้มใบหน้ามองคนตัวเล็กที่งัวเงียสะดุ้งตื่น "ขอโทษ ผมทำนาวตื่นเล
"หมอพีร์คุณไม่ต้องไปทำงานเหรอ?" ลัลนาเอ่ยถามร่างสูงที่วางจานผลไม้ลงข้างเธอ ก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งลงบ้าง ระยะห่างเริ่มขยับมาใกล้ขึ้นจากวันแรกที่เขามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เขาเกาะติดเธอแจ ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นมานั่งเฝ้าตลอด แต่หากเธออยู่ที่บ้าน เขาก็จะเรียกช่างมาคุย ส่วนตัวเองปรับปรุงนู่นนี่นั่นไปเรื่อย ซ่อมก๊อกน้ำ ยันรั้วบ้าน แต่ถ้าหากเห็นเธอตั้งท่าออกจากบ้านเมื่อไหร่คนตัวสูงก็จะละทิ้งทุกอย่างในมือ มาสแตนด์บายรอหน้าบ้านอย่างหน้ามึน เธอไม่ให้ไปก็จะตามไป บอกว่าขอเดินตามห่างๆ ก็ยังดีก็เป็นซะอย่างนี้!"ผมพักร้อนไง""พักได้ขนาดนี้เลยเหรอคะ" ลัลนาหรี่ตามองคล้ายไม่เชื่อ ใช่อยู่ตามกฎหมายเขาก็มีสิทธิ์นั่นแหละ แต่เนื่องด้วยบุคลากรทางการแพทย์เป็นที่ขาดแคลนอยู่ตอนนี้ เขาไม่น่าจะมีเวลาว่าง หรือโรงพยาบาลจะยอมให้เขาลาได้ขนาดนี้ยกเว้นแต่ว่า..."ไปใช้อำนาจมืดมาอีกแล้วสิท่า" ลัลนาหรี่ตามองจับผิด ในขณะที่คนตัวสูงหน้ามึนตอบอย่างไม่สนใจ"ไม่ใช่อำนาจผมซะหน่อย อำนาจไอ้หมอกมัน"ต่างกันตรงไหน ใช่อยู่หมอหมอกเป็นถึงลูกชายเจ้าของโรงพยาบาล แต่การที่ตัวเขาได้อภิสิทธิ์ขนาดนี้ น่าจะบังคับข
ลัลนาที่เพิ่งก้าวลงบันไดมาเห็นคนตัวสูงยืนยิ้มแฉ่งรออยู่ด้านล่าง โดยมีอาหารเช้าวางอยู่บนโต๊ะอาหาร คุณหมอหนุ่มรีบวางจานในมือลงบนโต๊ะ ถอดผ้ากันเปื้อน ก่อนจะสาวเท้าเดินมาหาคนตัวเล็กที่ยืนมองอยู่"กินข้าวเลยไหมนาว""ป้าใจกับจ้อยละคะ" ลัลนาไม่สนใจที่เขาเอ่ยชวน ถามหาคนดูแลบ้านและหลานชายที่ปกติจะมาหาเธอทุกเช้า"วันนี้วันพระป้าใจเลยไปวัดเช้าหน่อย กินข้าวเช้าก่อนสิเดี๋ยวผมพาตามไปที่วัดก็ได้""ไม่เป็นไรค่ะ" ลัลนาไม่สนใจของที่ถูกตระเตรียมไว้ เขาน่าจะลงมาตั้งแต่เช้ามืด เพราะเวลานี้ยังเช้ามากอยู่เลย แต่อาหารบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว"คุณกินข้าวก่อนเถอะ ถ้าไม่กินข้าวเช้าเดี๋ยวปวดหัวนะ" ลัลนาแสร้งไม่สนใจคนที่เอ่ยเรียก ถึงแม้จะใจเต้นไม่น้อยที่เขาจำเรื่องของเธอได้ว่าต้องกินข้าวเช้า ไม่อย่างนั้นจะเวียนหัว"...""นาว" คุณหมอหนุ่มทำได้เพียงเรียกคนตัวเล็กที่เดินผ่านเลยไปอย่างไม่สนใจ ทั้งอาหารและคนทำ "จะไปไหนครับ" ลัลนาปรายตามองมือร้อนที่จับแขนรั้งเธอไว้ เมื่อเห็นแบบนั้นคนตัวสูงจึงรีบปล่อยมือ ยกมือสองข้างคล้ายยอมแพ้ "ผมแค่อยากรู้ว่าคุณไปไหน" เขาบอกเธอเสียงอ่อย"ไม่เกี่ยวกับคุณค่ะ ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ก็อย่าล้ำเส้