เมื่อหมอไม่รัก

"ผมจะแต่งงานกับคุณ" 

"ยังไงนะคะ! แต่งงาน?" ลัลนาเงยหน้าสบตาคนตรงข้าม ถามย้ำในสิ่งที่เขาพูด ไม่แน่ใจว่าหูเพี้ยนไปรึเปล่า จากที่จะบอกว่าไม่แต่ง กลับกลายเป็นได้ยินว่าเขาจะแต่งงานกับเธอแทน

"อืม" คนพูดน้อยทำเพียงแค่รับคำก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มท่าทางปกติ เหมือนสิ่งที่พูดออกไปเป็นเรื่องปกติทั่วไป

"ฉัน...ไม่เข้าใจ" ลัลนาตอบกลับอย่างงุนงงไม่หาย จะไม่ให้เธอแปลกใจได้ยังไง ในเมื่อก่อนหน้านี้ที่คุยกัน เขาเป็นฝ่ายปฏิเสธหัวชนฝา ดูก็รู้ว่าไม่มีความคิดที่จะแต่งงานกับเธอตามคำสั่งแม่สักนิด แล้วนี่อะไรผ่านมาแค่อาทิตย์เดียว อยู่ๆ มาบอกว่าจะแต่งงานกับเธอ

"คุณก็อยากแต่งอยู่แล้วไม่ใช่รึไง" เขาเลิกคิ้วตอบกลับ เอนตัวนั่งพิงเก้าอี้ ยกมือขึ้นกอดอก "ข่าวคุณก็ออกจะดัง"

ลัลลนากลอกตาเซ็งถอนหายใจยาว รู้ดีว่าสิ่งที่เขาพูดหมายถึงอะไร ถึงแม้ท่าทางคนตรงหน้าจะไม่ได้เป็นพวกสนใจเรื่องในวงการบันเทิงอะไร แต่ข่าว (คาว) ของเธอช่วงนี้ก็ดังอย่างที่เขาว่าจริงๆ นั่นแหละ

"คุณดูเป็นคนเชื่ออะไรง่ายดีนะ" มะนาวอดที่จะพูดประชดไม่ได้

"ผมว่าคุณก็น่าจะรู้นะว่าทำไมผมถึงเชื่อแบบนั้น" ลัลนาจ้องคนตรงข้ามนิ่ง นึกย้อนไปถึงตอนที่เจอกันกับเขาครั้งแรก คุณแม่ของเขาและคุณยายของเธอ คงจะคิดว่าการนัดดูตัวของเธอและเขาเป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน แต่ความจริงมันไม่ใช่

ข่าวที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ก็คือเรื่องของเธอกับพิชิตผู้กำกับชื่อดังที่แอบพากันขึ้นโรงแรม โดยมีภรรยาผู้บริหารช่องดังเป็นคนแฉ ถึงแม้จะไม่ได้มีการเอ่ยชื่อออกมาตรงๆ แต่ทั้งรูปภาพที่เห็นไกลๆ บวกกับชื่อย่อและผลงานการแสดงที่ผ่านมา คนก็เดาได้ไม่ยากว่าเป็นเธอ

ในวันที่เธอได้เจอกับพิชิตที่โรงแรมเป็นวันเดียวกับที่เธอได้รับที่อยู่จากนักสืบเอกชนในการให้ตามหาบุคคลคนหนึ่งให้ แต่ใครจะไปคิดว่าเธอโดนหลอก คนที่เธอตามหากลับเป็นไอ้ผู้กำกับบ้ากามที่หวังจะเคลมเธอตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ โชคดีที่เธอค่อนข้างจะระวังตัวอยู่แล้ว จึงพกสเปรย์พริกไทยติดไปด้วย พอได้โอกาสก็ฉีดสเปรย์ใส่ตาไอ้หื่นแล้วรีบหนีออกมา 

แต่ความซวยยังไม่หมดเมื่อเปิดประตูออกมาดันเจอคุณกัลยาภรรยาของไอ้ผู้กำกับหื่นนั่น เมื่อเห็นว่าเป็นเธอที่ออกมาจากห้องโดยมีสามีตัวเองนอนกองอยู่บนเตียงก็ยิ่งเข้าใจผิด โวยวายเสียงดังจนห้องข้างๆ เปิดประตูออกมาดู และนั่นแหละที่บอกว่าซวยซ้ำซวยซ้อน เพราะคนที่เปิดประตูออกมาดู ดันเป็นคนตรงหน้า คนที่กลายมาเป็นคู่ดูตัวของเธอ สิ่งที่เขาเห็นก็ไม่แปลกถ้าเขาจะเชื่อตามที่เห็นในข่าว

ความจริงเธอก็ไม่เห็นด้วยอยู่แล้วกับการดูตัวที่ผู้ใหญ่จัดขึ้น แล้วยิ่งคู่ดูตัวของเธอดันเป็นคนที่เห็นภาพที่ไม่ควรเห็น ก็ย่อมไม่แปลกใจที่คราวก่อนเขาจะปฏิเสธแบบไม่คิด

"คุณรู้แบบนั้นแล้วยังจะแต่งงานกับฉันอีกรึไง" ในเมื่อเขาเข้าใจไปแบบนั้นแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอจะมานั่งอธิบาย แต่การที่เขายืนยันจะแต่งงานกับเธอ ก็ทำให้เธออดถามไม่ได้ 

"ก็เป็นความต้องการของผู้ใหญ่นี่" ยิ่งเขาเอามารดามาอ้างยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย ใช่อยู่ว่าเขาก็ดูไม่ได้มีปัญหาอะไรกับผู้เป็นแม่ คุณหญิงรจณีก็ไม่ได้บังคับขู่เข็ญอะไรลูกชาย เพียงแค่อยากให้ลูกชายมีครอบครัวจึงพยายามหาคู่นัดดูตัวเท่านั้นเอง

ที่สำคัญอย่างคุณหมอรพีภัทรศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์อันดับหนึ่งของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังเนี่ยนะ จะต้องมาโดนจับคลุมถุงชน อันนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ

"แค่นั้นจริงๆ เหรอ" 

"ความจริงเราก็วินๆ กันทั้งสองฝ่ายนี่ ผมยอมรับว่าขี้เกียจไปตามนัดดูตัวที่คุณแม่จัดมาให้ ส่วนคุณการแต่งงานก็เป็นทางออกที่ดีไม่ใช่รึไง จะได้กลบข่าว..ลือ ที่คุณทำไว้" ถึงจะไม่ค่อยพอใจคำพูดแดกดันของเขาสักเท่าไหร่ แต่เธอก็เลือกที่จะไม่ตอบโต้ ยอมรับว่าข้อเสนอเขาก็น่าคิด ลำพังตัวเธอกับเรื่องข่าวก็ค่อนข้างจะชินชาแล้วเพราะตั้งแต่เข้าวงการมาข่าวเธอก็ใช่ว่าจะดี แต่ครั้งนี้ค่อนข้างจะหนักกว่าที่ผ่านมา

รวมถึงคู่กรณีเธอเป็นถึงผู้มีอิทธิพลในวงการบันเทิง ช่วงนี้ข่าวเธอจึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าคงเป็นกัลยานั่นแหละที่โหมข่าวอยู่เรื่อยๆ  คิวงานที่เธอเคยได้รับก็ทยอยยกเลิกไปจนหมด

แต่...คนตรงหน้า ด้วยชื่อเสียงด้านการแพทย์ก็เป็นที่รู้จักอยู่ไม่น้อย ที่สำคัญถึงตัวรพีภัทรจะเดินสายนี้ แต่ความจริงแล้วครอบครัวของเขาเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมระดับหกดาวของประเทศ และมีสาขาไปทั่วโลก เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงเรื่องอิทธิพล ผู้บริหารช่องในประเทศอย่างกัลยาเรียกได้ว่าอยู่คนละระดับเลยทีเดียว ถ้าเธอได้เกี่ยวดองกับครอบครัวตระกูลนี้ ใครก็ทำอะไรเธอไม่ได้

ถ้าได้แต่งงานกัน มันก็คงจะวินๆ ทั้งสองฝ่ายอย่างที่เขาว่า