Share

บทที่ 21 เนื้อเน่า

last update Last Updated: 2025-02-21 21:30:11

บทที่ 21 เนื้อเน่า

แต่ดูเหมือนว่าความตั้งใจของหัวหน้าหมู่บ้านนั้นจะไม่ทันเสียแล้ว...

“จะดีหรือ” ในระหว่างที่ผู้คนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังนั่งจับกลุ่มพูดคุยกันไกลออกไปเล็กน้อย “แต่ถ้าถูกจับได้มันจะไม่ดีเอานา...”

“แล้วมันจะเป็นอะไรไปเล่า จะอย่างไรคนพวกนั้นก็ไม่ได้ห้ามสักหน่อยนี่”

“ใช่แล้ว อีกอย่างเราแค่จะแอบเอาไปสักหน่อยแล้วเอาไปลองปลูกที่แถวๆ บ้านเราตามคำแนะนำของจางเว่ยเท่านั้นเอง ไม่ได้ทำอะไรเสียหนายสักหน่อย”

“แล้วอีกอย่างถ้าหากว่าเจ้าหัวมันกองนั้นสามารถนำไปปลูกได้จริง แล้วมันโตเร็วเหมือนที่เด็กๆ บอกเล่าแล้ว อย่างน้อยก็รับประกันได้ว่าหน้าหนาวในปีนี้ครอบครัวของพวกเราจะอยู่รอดได้ไม่ใช่หรืออย่างไร แล้วจะลังเลไปทำไมกัน”

“ใช่แล้วละ พวกเราไม่ได้จะเอามันไปทั้งหมดเสียหน่อย แค่แอบแบ่งไปสักคนละสี่ห้าหัวเท่านั้นเอง...” อีกคนกล่าวเสริมขึ้นพลางนึกถึงเรื่องบอกเล่าของเด็กๆ พลางเหลือบไปมองแปลงมันฝรั่งที่กำลังออกดอกงดงาม “ลองคิดดูสิว่าถ้าหากแต่ละหัวสามารถปลูกกอแบบนั้นได้หนึ่งกอ เห็นลูกชายข้าเล่าให้ฟังว่าเพียงแค่กอเดียวสามารถให้หัวได้อย่างน้อยๆ ก็สิบหัว ถ้าพวกเราเราเอาหัวเล็กๆ ไปแค่คนละสี่ห้าหัว

ด้วยความที่มันโตเร็วขนาดนี้ ลองคิดดูว่าเราจะสามารถที่จะปลูกมันได้กี่รอบกัน เป็นเครื่องรับประกันได้ว่าในหนึ่งเดือนที่เหลือก่อนที่จะเข้าหน้าหนาว พวกเราทุกคนและครอบครัวจะสามารถมีหัวมันมากพอที่จะเก็บเอาไว้กินแม้แต่จะสามารถแบ่งออกไปขายเพื่อหาซื้อเสื้อผ้าเนื้อสัตว์ของจำเป็นยังได้เลยด้วยซ้ำ!”

“...”

“...”

“...”

ในขณะที่ทั้งห้าคนต่างก็พูดคุยกันอย่างออกรสออกชาตินั้น มีสายตาสีเหลืองทองสุกสว่างที่อยู่ภายใต้ขนหนาๆ ที่ปรกอยู่นั้น มองทางพวกมันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองระคนสมเพช

แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าหมาตัวเขื่องเพียงแค่มองต่อไปอีกสักพักแล้วก็นอนฟุบลงตามคำขอของเด็กหญิงที่ไม่ให้มันสร้างความวุ่นวายในวันนี้ ตราบเท่าไม่มีใครเข้ามารบกวนหรือทำร้ายมันหรือนาง

“...”

สุดท้ายเจ้าสังก็กลับไปสนใจเด็กๆ ที่ตอนนี้กำลังพยายามจะหาโน่นหานี่มาป้อนมันบ้าง มาเล่นกับมันบ้าง

ถึงในช่วงแรกๆ ที่มาอยู่กับเย่หัวนั้นมันออกจะรำคาญกับอะไรแบบนี้ แต่หลังจากที่ผ่านมาได้สักพักมันก็ไม่ได้รู้สึกแย่นัก อย่างน้อยที่สุดมันก็ไม่เหงาเหมือนแต่ก่อนที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว และต่อสู้ไปวันๆ เท่านั้น

ผ่านไปไม่นานเท่าไหร่หลังจากที่ทุกคนได้กินข้าวกินปลากันเรียบร้อยแล้ว หัวหน้าหมู่บ้านก็ได้อธิบายถึงสิ่งที่เด็กหญิงอยากที่จะให้ทุกคนช่วยเหลือกัน โดยที่จะมีการแบ่งงานกันคร่าวๆ ตามหน้าที่ที่เหมาะกับเพศและช่วงวัย

ฝ่ายแรกสุดคือเหล่าผู้ชายวัยทำงานทุกคนในหมู่บ้านที่พอจะจับมีดจับจอบไหว ในวันนี้เป้าหมายของพวกเขาทุกคนก็คือการถางป่าที่แทบจะไม่ค่อยมีไม้ใหญ่อยู่แล้ว ส่วนใหญ่มีแค่พงหญ้าแห่งๆ ที่ไกลๆ จะมีต้นไม้สักต้นหนึ่ง ให้ช่วยกันถางและเตรียมแปลงดินเหมือนที่เคยทำให้เด็กหญิงเมื่อวันก่อน เพียงแต่ในครานี้พวกเขาจะต้องทำทั้งหมดในระยะสี่ลี้ทอดไปจากแปลงเดิมลาดไปตามริมน้ำ โดยที่ให้ทุกคนช่วยกันให้เสร็จในช่วงก่อนเที่ยง

แล้วในเมื่อมีคนอยู่มากพอ พวกเขาจะทำขนาบกันเลยทั้งสี่ด้าน ด้วยแบ่งเป็นกลุ่มที่ ถางพงหญ้า เตรียมหน้าดินให้เรียบ ยกปลง และเก็บงาน

ส่วนในช่วงบ่ายจนถึงเย็นนั้นพวกเขาก็จะใช้เวลาทั้งหมดเพื่อปลูกมันทั้งสองชนิดอีกครั้ง พร้อมทั้งรดน้ำพวกมันให้เสร็จ

หากคิดว่าให้พวกเขาเตรียมพื้นที่สองตารางกิโลเมตรให้เสร็จในวันเดียว มันอาจจะเป็นอะไรที่ดูยากเกินไป แต่ด้วยวันเวลาที่ยาวนานกว่าสิบเท่าแล้ว มันก็แทบไม่ได้เป็นอะไรที่เร่งรีบเลย ออกจะช้าเสียด้วยซ้ำ...

ฝ่ายต่อมาก็คือผู้หญิงและเด็กๆ ที่จะทำหน้าที่ทำอาหารเอาไปเลี้ยงพวกผู้ชายเป็นระยะๆ โดยที่มีเด็กโตคอยดูแลเด็กๆ ไม่ให้ไปวุ่นวายในแปลงผักหรืองานของพวกผู้ใหญ่

ส่วนเย่หัวที่เหมือนจะสบายสุดในวันนี้นั้นกลับต้องทำงานหนักไม่แพ้ใคร เพราะนางต้องเอาวัตถุดิบออกมาเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานเพื่อเตรียมพันธุ์มันทั้งสองชนิดเอาไว้ และรีบตื่นมาเพื่อเตรียมวัตถุดิบทำอาหารเพื่อเลี้ยงผู้คนนับพันตั้งแต่ก่อนฟ้าสาง ถึงมันดูเหมือนจะไม่เดือดร้อนอะไร แต่เพียงแค่นั้นกลับกินเรี่ยวแรงของนางไปอย่างมหาศาล

ทั้งในวันนี้ทั้งวันนางต้องวิ่งไปมาระหว่างไร่ที่กำลังขยายออกไปเรื่อยๆ เพื่อตรวจความเรียบร้อยและแวะกลับมาที่บ้านเพื่อเปิดตู้เย็นอีก

จนสุดท้ายแล้วร่างกายเล็กๆ นั้นก็ไม่สามารถทนแบกรับได้อีกต่อไป แล้วหมดสติไปกลางแดดร้อนจ้าในยามเที่ยงในที่สุด

.................................

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 84 แปดเซียนสองเทวะหนึ่งอรหันต์(1)

    บทที่ 84 แปดเซียนสองเทวะหนึ่งอรหันต์(1)จากแสงของดวงตะวันที่เริ่มอ่อนแรงลงในยามโพล้เพล้ เปลี่ยนเป็นแสงสว่างที่สาดกระทบลงมาทั่วหุบเขาในเสี้ยวพริบตา ทำให้ชาวบ้านทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปโดยเฉพาะความรู้สึกเคารพ นอบน้อม และหวั่นเกรงต่อแสงสว่างเหล่านั้น แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะไม่สามารถมองเห็นต้นเหตุของแสงสว่างเหล่านั้นได้ แต่ว่าความรู้สึกของพวกเขาทุกคน แทบจะไม่แตกต่างกันเลยและในเวลาเดียวกัน สายตาของทุกคนก็หันมองไปทางนางเซียนน้อยของพวกเขา ผู้ซึ่งนำพาแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์สงบร่มเย็นมายังหุบเขาแห่งนี้ ที่ตอนนี้แม้แต่ตัวนางเองก็ยังมองไปยังฟากฟ้าไม่แตกต่างจากทุกคน...ส่วนที่แตกต่างกันนั้นก็คงจะเป็นภาพ ที่ปรากฏอยู่ในดวงตาของเยว่หัวนั้น มันเป็นกลุ่มก้อนรูปร่างคล้ายคลึงกับมนุษย์โปร่งใส แต่มีขนาดและสีสันต์ที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ตัวเล็กๆ กว่าปลายเข็ม ไปจนกระทั่งตัวโตจนสูงกว่ายอดเขาที่สูงที่สุดด้วยซ้ำ...“ไม่อยากจะเชื่อ ตกลงว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่...”เยว่หัวมองไปยังภาพที่ปรากฏตรงหน้าของนาง ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้คิดไปไกลเกินกว่านั้น

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทนำเล่มสาม ดินแดนแห่งชีวิต...หุบเขาธิดาสวรรค์

    บทนำเล่มสาม ดินแดนแห่งชีวิต...หุบเขาธิดาสวรรค์อีกไม่นานหลังจากนี้...ดินแดนแห่งนี้จะเป็นที่กล่าวถึงของผู้คนมากมายดินแดนแห่งนี้ที่เคยเป็นดินแดนแห่งความตายดินแดนแห่งนี้ที่ผู้คนเคยหลีกหนีดินแดนแห่งนี้ที่เคยถูกทอดทิ้งโดยผู้คนมากมายดินแดนแห่งนี้ ที่แทบจะไม่เหลือใครในอีกไม่กี่ปีต่อมา ถ้าหากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆดินแดนแห่งนี้ ที่ผู้คนภายนอกส่วนใหญ่ต่างมองว่า มันคือดินแดนที่ตายไปแล้วดินแดนแห่งนี้คือหุบเขาที่มีเพียงแค่ความแห้งแล้ง ที่มีเพียงแค่ซากแห่งชีวิต ที่ค่อยๆ แห้งเหือดลงไปในทุกทุกขณะมันคือดินแดนแห่งความสิ้นหวัง ที่ไม่มีใครอยากจะไปเข้าใกล้มัน เพราะไม่ว่าจะเป็นพื้นดินที่แห้งแล้ง ไม่ว่าจะเป็นหุบเขาที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูร แล้วยังมีความลับต่างๆมากมาย ที่เคยพรากชีวิตผู้คนไปนับไม่ถ้วนในตลอดระยะเวลา 10 ปี จนทำให้ภูเขาแห่งนี้ เป็นที่ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไปโดยสมบูรณ์ เพราะว่าแม้แต่คนภายในเองก็ยังพยายามที่จะหลีกหนี พวกเขาพยายามที่จะกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดออกมาจากดินแทนแห่งนั้น…แต่อยู่มาวันหนึ่ง...ดินแดนที่เคยไร้ซึ่งชีวิตและความหวัง ก็ได้เกิดปรากฏการณ์สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน จนผู้คนที่พบ

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 82 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (2)

    บทที่ 82 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (2)“…!!”ในทันทีที่ชาได้สติขึ้นมา มองไปยังใบหน้าของพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์นั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างออก ปากอ้าหุบอ้าหุบพะงาบพะงาบราวกับต้องการจะพูดบางสิ่งบางอย่างออกไป แต่เขารู้ดีว่าความหวังของเขามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ต่อให้ใบหน้านั้นจักคุ้นเคยและคล้ายคลึงกับคนที่เขาเฝ้าตามหามาช่วยชีวิตสักแค่ไหน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่ใครสักคนหนึ่งจะมีใบหน้าเหมือนอีกคน ขนาดนี้จะเป็นคนคนเดียวกัน...‘บางทีอาจเป็นข้าเองที่จำผิด...’เขาพยายามปลอบใจตัวเอง แล้วดึงสติกลับมาในเหตุการณ์ปัจจุบันอีกครั้ง สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และเขาจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว…“พระคุณเจ้าขอรับ...”“เรารู้ว่าเจ้ามหาเราทำไม พูดออกมาเถิดเพราะว่าเจ้าคงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าเรานั้นสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้”สิ่งที่พระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์นั้นกล่าวออกมานั้นไม่ผิดเลย สำหรับคนที่เคยเข้าเฝ้าพระปัจเจกพุทธเจ้าและพระพุทธเจ้ามาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน สำหรับเขาที่มีชีวิตอยู่มานานมากขนาดนั้น มีหรือที่เขาจะไม่รู้ในข้อนี้เพราะว่าสำหรับพระที่บรรลุอรหันต์แล้ว

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 81 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (1)

    บทที่ 81 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (1)#บทนี้เป็น บท ย่อยแยกอีกบทหนึ่งนะครับ#ย้อนกลับไปในตอนก่อนที่เขาจะมอบระฆังธรรมให้กับเพื่อน ในขณะนั้นชาได้สังเกตเห็น ถึงความตั้งใจที่จะสั่งสอนธรรมะของเพื่อน แต่ด้วยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การที่นางไม่สามารถจดจำข้อธรรมใดๆ ได้มากนักก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรเนื่องจากว่าการที่เขาได้ทำการล้วงเอาจิตของนางขึ้นมาจากนรกนั้น มันเป็นเรื่องที่ทำการฝืนชะตากรรมของคนคนหนึ่ง และการที่เขา เรียกดวงจิตเดิมของนางที่ควรจะแตกดับไปนานแล้ว ตลอดไปจนถึง สัญญาสังขารและวิญญาณแต่เดิมของนาง ในภพแรกที่พวกเขาทั้ง 2 คนได้เจอกันโดยวิธีการเปิดพระธรรมคำสั่งสอนจากระฆังธรรม ให้ดวงจิตที่แตกสลายของนางได้ฟังซ้ำไปซ้ำมาครั้งแล้วครั้งเล่า ยาวนานนับหมื่นปีกว่าที่ดวงจิตของนางจะสามารถเรียกสติกลับคืนมาได้อีกครั้ง ซึ่งมันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เหล่าสัตว์นรกบางส่วนที่พอมีฤทธิ์สามารถแทรกออกมายังบนโลกอีกครั้ง...และนั่นก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมจู่ๆ นางถึงเหมือนกับว่า สามารถอธิบายข้อธรรมคำสั่งสอนทั้งหลาย ออกมาได้ราวกับเคยศึกษามันมาอย่างถ่องแท้ ทั้งๆ ที่ตัวนางแทบจะไม่เคยศึกษาเรื่องราวในแน

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   คุยกันแบบจริงจังก่อนขึ้นเล่มสาม(เนื้อเรื่องที่แท้จริง)

    ก่อนอื่นเลยที่สำคัญที่สุดต้องขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้(น่าจะเหลือไม่ถึง1/10ของคนที่หลงเข้ามาที่จะเดินมาจนถึงจุดนี้) ดีใจที่เดินทางมาด้วยกันจนถึงจุถดเริ่มต้นที่แท้จริงของนิยายเรื่องนี้ครับใช่แล้วครับ…ตั้งแต่บทนำมาจนถึงตอนนี้เพิ่งจะเป็นส่วนที่ปูจุดเริ่มต้นของ เย่หัว-เยว่หัว ให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนและสภาพแวดล้อมของนาง โลกที่นางอยู่ ผู้คน สังคม รายละเอียดที่จะทำให้เข้าใจเนื้อหาหลัก และเหตุผลของการกระทำต่างๆ ที่นางจะทำต่อจากนี้ไป จนบางครั้งอาจจะเป็นการกระทำที่ “โหดเหี้ยม” แบบไร้เหตุผลเลยก็มี เล่ม1-2จะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในส่วนของ “บทนำ” แต่หลังจากเล่ม 3 เป็นต้นไปก็จะเข้าสู่ปฐมบทที่แท้จริง ตามชื่อบทของบทนี้ครับ เราจะคุยกันแบบจริงจังกับเนื้อเรื่องที่แท้จริงกันครับ อย่างแรกเลยก็คือหลังจากนี้จะต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งความแฟนตาซีที่แท้จริง ของแม่ครัวตัวจิ๋วที่รักในการทำอาหารให้ผู้คนได้ลิ้มรส เป็นหนึ่งในความสุขของนาง และเป็นสิ่งสำคัญที่จะคอยยึดเหนี่ยวตัวนางเอาไว้ ส่วนยึดนางจากอะไรนั้นต้องไปติดตามในเนื้อเรื่องครับอย่างที่สองก็คือเรื่องของความแฟนตาซีและโลกในจินตนาการที

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 80 เลี้ยงส่ง(จบ)

    บทที่ 80 เลี้ยงส่ง(จบ)หลังจากที่เยว่หัวสามารถเรียกสติของผู้คนกลับมาได้อีกครั้ง ตลอดช่วงเช้าไปจนถึงเที่ยง นางก็ทำการจัดแจงแบ่งกลุ่มคนออกเป็นกลุ่มๆ โดยที่ไม่ลืมนำวัตถุดิบจำนวนมากออกมา แล้วจัดแจ้งเตรียมการฝึกซ้อมทั้งหมด กว่าที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็ปาเข้าไปจนถึงช่วงเที่ยงแล้วซึ่งในระหว่างที่ทำการฝึกซ้อมปรุงอาหารชนิดต่างๆ นั่นเอง เหล่าแม่บ้านและเด็กๆทุกคนต่างก็ได้ลองชิมอาหารกันอย่างเต็มอิ่ม และเมื่อเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ทุกคนเลยหยุดพักกันในตอนเที่ยงพอดิบพอดี และถือเป็นการพักท้องอีกครั้ง เนื่องจากในตอนนี้ทุกคนแทบจะท้องแตกเสียแล้วส่วนฝั่งของจางหลงที่เป็นฝ่ายจัดเตรียมสถานที่ ซึ่งพวกเขาทุกคนก็ทำเต็มที่ในหน้าที่ของตนเอง แต่ด้วยข้อจำกัดของหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง โดยเฉพาะเวลาที่มีอยู่เพียงแค่ไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น พวกเขาจึงตกลงกันใหม่ว่า จะจัดเป็นโต๊ะไม้ยาวๆ ขนาด 6 ถึง 8ที่ แทนที่แผนการจะทำโต๊ะชุดวงกลม และโต๊ะทั้งหมดจะหันหน้าเข้าหาเวที ด้านเดียว ส่วนตัวเวทีเองก็จะสร้างขึ้นมา โดยการขุดดินมาถมเป็นเนินสูงขึ้นประมาณหัวเข่า ใช้ดินเหนียวในการป้ายโดยรอบเพื่อไม่ให้หน้าดินพัง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status