Share

บทที่ 9

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-22 20:15:22

การเดินทางด้วยรถแท็กซี่จากบ้านชานเมืองกลับมายังคอนโดใจกลางกรุงเทพฯ ในเย็นวันนั้น คือการเดินทางที่ยาวนานและทรมานที่สุดในชีวิตของฝน มันไม่ใช่แค่การเดินทางของร่างกาย แต่คือการเดินทางของจิตวิญญาณที่กำลังจะกลับไปเผชิญหน้ากับความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงที่สุดของตัวเอง

ฝนเหม่อมองทิวทัศน์ของเมืองกรุงที่เคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็วนอกหน้าต่าง แต่เธอไม่ได้มองเห็นมันเลยแม้แต่น้อย ในหัวของเธอกำลังวุ่นวายอยู่กับการเรียบเรียงคำพูด... เธอจะเริ่มต้นพูดกับพลอยว่าอย่างไรดี 'พลอย ฉันขอโทษ'... มันดูสั้นและไม่เพียงพอ 'ฉันแคหวาดกลัว'... มันก็ฟังดูเหมือนเป็นข้ออ้าง 'ฉันรักเธอ'... สามคำสั้นๆ ที่ยิ่งใหญ่และน่าหวาดหวั่นที่สุด... แต่ก็เป็นสามคำที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกของเธอมากที่สุดเช่นกัน เธอซ้อมพูดประโยคต่างๆ ในใจนับครั้งไม่ถ้วน แต่ทุกประโยคที่คิดขึ้นมาก็ดูเหมือนจะไร้น้ำหนักและไม่สามารถสื่อถึงความรู้สึกผิดอันมหาศาลที่เธอมีอยู่ได้เลย

ยิ่งรถแท็กซี่เคลื่อนตัวเข้าใกล้จุดหมายปลายทางมากเท่าไหร่ ความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวที่เธอเคยมีตอนอยู่ที่บ้านก็เริ่มจะสั่นคลอน และถูกแทนที่ด้วยคลื่นความหวาดกลัวลูกใหม่ที่ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง 'แล้วถ้าพลอยไม่ยอมเปิดประตูให้ล่ะ' 'แล้วถ้าพลอยเกลียดเราไปแล้วจริงๆ ล่ะ' 'แล้วถ้า... เรากลับมาช้าเกินไปล่ะ' เธอต้องต่อสู้กับความคิดด้านลบเหล่านั้นอย่างหนักหน่วงเพื่อที่จะรักษาสติและปณิธานของตัวเองเอาไว้

วินาทีที่เธอจ่ายเงินค่าโดยสารแล้วก้าวลงจากรถ ขาของเธอแทบจะอ่อนแรงจนทรงตัวไม่อยู่ การเดินจากหน้าคอนโดไปยังประตูทางเข้าที่ห่างกันไม่กี่สิบเมตร กลับให้ความรู้สึกเหมือนการเดินเท้าเปล่าบนถ่านที่ร้อนระอุ

การเดินทางขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นของพวกเธอคือช่วงเวลาที่บีบคั้นหัวใจที่สุด ตัวเลขแต่ละชั้นที่สว่างขึ้นเปรียบเสมือนการนับถอยหลังเข้าสู่การพิพากษา เสียงฮัมเบาๆ ของมอเตอร์ลิฟต์ดังเสียดแทงโสตประสาท ความเงียบในกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นี้มันช่างน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน หัวใจของเธอเต้นรัวแรงอยู่ในอกจนเธอได้ยินเสียงของมันดังอยู่ในหูของตัวเอง

เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็ก้าวเดินไปยังหน้าห้องของพวกเธอด้วยฝีเท้าที่หนักอึ้งราวกับถูกล่ามโซ่ตรวน เธอหยุดยืนอยู่หน้าประตูบานนั้นนานหลายนาที มือที่กำลูกกุญแจไว้สั่นเทาจนเห็นได้ชัด เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เป็นครั้งสุดท้าย... แล้วตัดสินใจไขกุญแจเข้าไป

ทางด้านพลอย... หลังจากที่คลื่นอารมณ์แห่งความตื้นตันใจจากการได้ค้นพบความจริงในสมุดสเก็ตช์ภาพได้ผ่านพ้นไปแล้ว เธอก็ตกอยู่ในภวังค์แห่งความหวังที่แสนจะเปราะบาง เธอยังคงนั่งอยู่บนพื้นห้องนอนของฝน สมุดเล่มนั้นวางเปิดอยู่บนตักของเธอ ปลายนิ้วของเธอลากไล้ไปตามเส้นดินสอที่ฝนร่างภาพของเธอเอาไว้... ภาพที่เธอกำลังนอนหลับอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าที่ดูผ่อนคลายและไร้เดียงสาที่สุด

เธอไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว หนึ่งชั่วโมง... หรือสองชั่วโมง... โลกภายนอกได้หยุดหมุนไปสำหรับเธอโดยสิ้นเชิง เธอกำลังติดอยู่ในห้วงเวลาที่คั่นกลางระหว่างความเจ็บปวดจากการต่อสู้และความหวังจากการค้นพบครั้งใหม่

แล้วเธอก็ได้ยินมัน...

เสียงที่คุ้นเคยซึ่งดังมาจากทางด้านหน้าของคอนโด... เสียงกุญแจที่กระทบกัน... ตามมาด้วยเสียง "คลิก" ของลูกบิดประตูที่กำลังถูกปลดล็อค

ร่างกายทั้งร่างของพลอยแข็งทื่อไปในทันที... มีคนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีกุญแจห้องนี้ พายุดแห่งอารมณ์ลูกใหญ่พัดกระหน่ำเข้ามาในใจของเธออีกครั้ง... ทั้งความตื่นตระหนก... ความหวัง... ความกลัว... และความโกรธที่ยังคงหลงเหลืออยู่จางๆ เธอควรจะทำอย่างไรดี ควรจะวิ่งออกไปหา หรือควรจะซ่อนตัวอยู่ในห้องนี้ ความคิดตีกันจนวุ่นวายไปหมด สุดท้าย... เธอจึงเลือกที่จะนั่งนิ่งๆ อยู่ที่เดิม... รอคอย... และ lắng nghe...

เธอได้ยินเสียงประตูเปิดออก... แล้วก็ปิดลงอย่างแผ่วเบา... ตามมาด้วยเสียงวางกระเป๋าลงบนพื้น...

แล้วทุกอย่างก็เงียบสนิท...

...ฝนกลับมาแล้ว...

ฝนยืนพิงประตูที่เพิ่งจะปิดลง แผ่นหลังของเธอเย็นเฉียบจากความตื่นตระหนก เธอกวาดสายตามองไปทั่วห้องที่คุ้นเคย... มันเงียบและมืดกว่าปกติ มีเพียงแสงสว่างที่เล็ดลอดออกมาจากห้องนอนของเธอเท่านั้นที่พอจะทำให้มองเห็นอะไรได้บ้าง... และเธอก็สังเกตเห็นว่าห้องมันดู... สะอาด... สะอาดเกินไป... มันให้ความรู้สึกที่ว่างเปล่าจนน่าใจหาย

"พลอย..."

เธอเอ่ยเรียกชื่อเพื่อนรักออกไป... แต่มันกลับเป็นเพียงเสียงกระซิบที่แผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเอง พลอยก็รู้ดีว่าเธอไม่สามารถหลบซ่อนได้อีกต่อไปแล้ว เธอค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นยืนโดยที่ยังคงกอดสมุดสเก็ตช์ภาพเล่มนั้นไว้ในอ้อมแขนราวกับเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วก้าวเดินออกจากห้องนอนของฝน... ไปเผชิญหน้ากับความจริง

เธอไปหยุดยืนอยู่ที่ปลายโถงทางเดิน แสงไฟจากในห้องนอนส่องกระทบร่างของเธอจากด้านหลัง ทำให้เธอกลายเป็นเหมือนเงาดำในสายตาของฝน

วินาทีนั้นเองที่พวกเธอได้สบตากัน...

ฝนมองเห็นใบหน้าที่ยังคงมีคราบน้ำตาของพลอย... และเห็นสมุดสเก็ตช์ภาพเล่มนั้นที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอ... หัวใจของฝนแทบจะหยุดเต้น... เธอรู้ในทันที... ว่าพลอยได้รับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว

ทางด้านพลอย... เธอก็มองเห็นความเหนื่อยล้า... ความรู้สึกผิด... และความหวาดกลัวที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้าของฝนเช่นกัน

ระยะห่างที่คั่นกลางระหว่างพวกเธออยู่นั้นมันเต็มไปด้วยความตึงเครียดและอารมณ์ความรู้สึกมากมายที่อัดแน่นจนแทบจะระเบิดออกมา

ฝน... ในฐานะคนที่วิ่งหนีไป... รู้ดีว่าเธอต้องเป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนานี้ คำพูดทั้งหมดที่เธอพยายามจะเรียบเรียงมาตลอดทางนั้นได้หายไปจากหัวจนหมดสิ้น เหลือเพียงความจริงที่ซื่อตรงเท่านั้น

"เธอ... เธอเจอมันแล้วสินะ" ฝนพูดขึ้นมาเสียงแหบพร่า พยักพเยิดไปทางสมุดเล่มนั้น... มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องปฏิเสธอีกต่อไปแล้ว

เธอตัดสินใจก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า... หนึ่งก้าว... แล้วก็อีกหนึ่งก้าว... "พลอย... ฉัน... ทุกอย่างที่ฉันพูดในวันนั้น... มันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ" น้ำตาเริ่มเอ่อคลอขึ้นมาในดวงตาของเธอ "ฉันแค่หวาดกลัว... ฉันขอโทษ... ฉันขอโทษจริงๆนะพลอย"

เธอยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาอย่างลวกๆ แล้วพูดต่อด้วยเสียงที่สั่นเครือยิ่งกว่าเดิม "แต่คำโกหกที่เลวร้ายที่สุด... ก็คือตอนที่ฉันเรียกมันว่า 'ความผิดพลาด'... พลอย... มันไม่ใช่ความผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย... แต่มันคือเรื่องจริงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของฉัน... และความจริงนั้นมันก็น่ากลัวจนฉันรับมือไม่ไหว"

ทุกถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากของฝนเปรียบเสมือนน้ำทิพย์ที่ชโลมลงบนบาดแผลในหัวใจของพลอย ความโกรธและความเจ็บปวดที่เคยมีได้มลายหายไปสิ้น เหลือทิ้งไว้เพียงความเห็นอกเห็นใจและความรักที่ท่วมท้นจนเกินกว่าจะบรรยายได้ เธอไม่จำเป็นต้องพูดอะไรตอบกลับไป... เธอทำเพียงแค่ยกสมุดสเก็ตช์ภาพในมือขึ้นมา แล้วเปิดไปที่หน้าภาพวาดที่เธอชอบที่สุด... ภาพที่ฝนแอบวาดเธอตอนที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา... สายตาและรอยยิ้มจางๆ ที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอได้พูดแทนทุกสิ่งทุกอย่างในใจของเธอแล้ว

การกระทำนั้นของพลอยเปรียบเสมือนการให้อภัย... คือการเชื้อเชิญให้ฝนก้าวเข้ามา...

ฝนจึงไม่ลังเลอีกต่อไป... เธอสาวเท้าเข้าไปหาพลอยอย่างรวดเร็วจนกระทั่งไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้า... ระยะห่างระหว่างพวกเธอมีเพียงลมหายใจที่อุ่นร้อนกั้นกลางอยู่เท่านั้น

"ฉันรักเธอนะพลอย..."

ในที่สุด... คำสารภาพที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้มาเนิ่นนานก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมา "ฉันคิดว่า... ฉันคงจะรักเธอมาหลายปีแล้ว... แต่ฉันก็แค่เป็นคนขี้ขลาดเกินกว่าที่จะยอมรับมัน"

พลอยยิ้มออกมาทั้งน้ำตา... "ฉันรู้แล้ว..." เธอตอบกลับไปด้วยเสียงกระซิบ... "ฉันก็รักเธอเหมือนกันนะฝน"

แล้วโลกทั้งใบก็หยุดหมุน...

ฝนค่อยๆ ประคองใบหน้าของพลอยขึ้นมาอย่างแผ่วเบา ดวงตาของพวกเธอประสานกันนิ่งราวกับจะค้นหาคำยืนยันในสิ่งที่เพิ่งจะได้ยินมา แล้วเธอก็โน้มใบหน้าลงไปช้าๆ...

...จูบแรกของพวกเธอ...

มันไม่ใช่จูบที่เร่าร้อนดูดดื่มเหมือนในภาพยนตร์ แต่มันคือจูบที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน ความลังเล และความรู้สึกที่ท่วมท้นจนเกินกว่าจะบรรยายได้ มันคือจูบแห่งการให้อภัย... คือจูบแห่งการปลดปล่อย... และคือจูบแห่งการได้กลับบ้านที่แท้จริง

ริมฝีปากของพวกเธอสัมผัสกันอย่างแผ่วเบาในตอนแรก ก่อนจะค่อยๆ บดเบียดเข้าหากันอย่างเนิบนาบแต่หนักแน่น รสชาติเค็มปร่าของน้ำตาที่ผสมปนเปกันอยู่ไม่ได้ทำให้ความหอมหวานของจูบนี้ลดน้อยลงเลยแม้แต่น้อย... ในทางกลับกัน... มันกลับยิ่งทำให้ทุกอย่างดูสมจริงและงดงามมากยิ่งขึ้นไปอีก

เมื่อพวกเธอถอนริมฝีปากออกจากกัน ต่างฝ่ายต่างก็ซบหน้าผากของตัวเองเข้าหากัน หอบหายใจอย่างหนักหน่วงราวกับเพิ่งไปวิ่งมาราธอนมา แล้วพวกเธอก็หัวเราะออกมาพร้อมกันทั้งน้ำตา... มันเป็นเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความโล่งใจและเปี่ยมสุขที่สุดในชีวิต

ความตึงเครียดทั้งหมดที่เคยมีได้มลายหายไปสิ้นแล้ว ถูกแทนที่ด้วยความสงบสุขที่แสนจะงดงาม

คืนนั้น... พวกเธอได้ "พูดคุยกัน" อย่างแท้จริงเป็นครั้งแรก

พวกเธอนั่งกอดกันอยู่บนโซฟาตัวเก่า เล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในใจให้กันและกันฟัง... ทั้งเรื่องราวในสมุดสเก็ตช์ภาพ... เรื่องความหึงหวงที่บาร์ในคืนนั้น... เรื่องเสียงครางที่ไม่ได้ตั้งใจ... และเรื่องความรู้สึกรักที่ต่างฝ่ายต่างก็เก็บซ่อนเอาไว้มาเนิ่นนาน... มันคือการเปิดอกคุยกันที่ช่วยเยียวยาทุกบาดแผลที่ผ่านมาได้อย่างหมดจด

ในที่สุด เมื่อเปลือกตาของพวกเธอเริ่มจะหนักอึ้งเกินกว่าจะฝืนต่อไปได้ พวกเธอก็ไม่ได้แยกย้ายกันเข้าห้องนอนของตัวเองเหมือนเคย... แต่กลับนอนขดตัวกอดกันอยู่บนโซฟาตัวนั้น... ในอ้อมแขนของกันและกัน...

แอคเคาท์ "Secret Petals"... เงินค่าจ้าง... หรือลูกค้าคนไหน... ไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไปแล้วในตอนนี้

พวกเธอได้เดินทางผ่านพายุลูกใหญ่มาด้วยกัน และได้ค้นพบหนทางกลับมาหากันและกันอีกครั้ง... ไม่ใช่ในฐานะเพื่อนสนิทเหมือนเดิม... แต่ในฐานะของคนที่รักกัน...

อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ได้... แต่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอรู้สึกว่า... ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น... พวกเธอจะเผชิญหน้ากับมันไปด้วยกัน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เรื่องราวของเราสองคน    บทที่ 45

    การได้เห็นเรื่องราวที่เป็นส่วนตัวที่สุดของตัวเองถูกนำเสนอออกมาได้อย่างงดงามและให้เกียรติขนาดนี้... มันคือการได้รับการยอมรับที่สมบูรณ์แบบที่สุด... พลอยร้องไห้ออกมาอย่างเงียบๆ... และฝนก็ได้ดึงเธอเข้าไปกอดไว้แน่น... มันคือการเดินทางที่ยาวไกล... และในที่สุด... พวกเธอก็ได้เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว

  • เรื่องราวของเราสองคน    บทที่ 44

    กระบวนการสร้างสรรค์ครั้งสุดท้ายสำหรับโปรเจกต์ "กล้องที่ถูกทอดทิ้ง" ไม่ได้เกิดขึ้นในห้องมืดที่อบอวลไปด้วยกลิ่นสารเคมี... และก็ไม่ได้เกิดขึ้นภายใต้แสงแดดที่นุ่มนวลในสตูดิโอ... แต่กลับเกิดขึ้นบนหน้ากระดาษที่ว่างเปล่าของไฟล์เอกสาร... ในรูปแบบของ "บทสัมภาษณ์ถาม-ตอบ" สำหรับหนังสือภาพถ่ายของพวกเธอ มันคือก

  • เรื่องราวของเราสองคน    บทที่ 43

    จึงอยากจะขอเสนอให้มีการจัดพิมพ์หนังสือภาพถ่าย (Photobook) จากคอลเลคชั่นดังกล่าว เพื่อที่จะได้นำเรื่องราวและความงดงามนี้ไปสู่สายตาของผู้ชมในวงกว้างยิ่งขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ... ข้อเสนอนั้นคือบันไดอีกขั้นหนึ่งที่พวกเธอไม่เคยคาดฝันว่าจะได้ก้าวขึ้นไป... นิทรรศการนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องชั่วคราว... แต่ห

  • เรื่องราวของเราสองคน    บทที่ 42

    สตูดิโอแห่งใหม่ของพวกเธอได้กลายเป็นมากกว่าแค่สถานที่ทำงาน... มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต... เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ความรักและศิลปะของพวกเธอได้เติบโตและหายใจไปด้วยกันอย่างอิสระ และในบรรดาพื้นที่ทั้งหมดที่พวกเธอได้ร่วมกันสร้างขึ้นมานั้น... ก็ไม่มีที่ไหนที่จะมีความหมายและเป็นส่วนตัวสำหรับฝนได้มา

  • เรื่องราวของเราสองคน    บทที่ 41

    แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกอย่างที่จะราบรื่นไปเสียหมด... พวกเธอต้องเจอกับปัญหาน่าปวดหัวอย่างท่อประปารั่วซึมที่ทำให้ต้องเสียเงินซ่อมแซมไปอย่างไม่คาดฝัน... แต่การได้ร่วมกันเผชิญหน้าและแก้ไขปัญหา... การได้เรียนรู้ที่จะจัดการกับความเครียดและงบประมาณที่บานปลายไปด้วยกัน... มันก็ได้ช่วยพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเธอคื

  • เรื่องราวของเราสองคน    บทที่ 40

    สตูดิโอแห่งใหม่ที่พวกเธอได้ตัดสินใจเช่าในย่านตลาดน้อยนั้น... ในวันแรกที่ได้กุญแจมา... มันดูไม่ต่างอะไรกับซากปรักหักพังที่ถูกทอดทิ้ง สีบนผนังหลุดลอกร่อนออกมาเป็นแผ่นๆ พื้นไม้เก่าส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่ก้าวเดิน และฝุ่นหนาก็ปกคลุมทุกตารางนิ้วราวกับหิมะสีเทา... แต่มันก็เป็นซากปรักหักพังที่เต็มไปด้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status