ความเงียบที่โรยตัวลงมาปกคลุมคอนโดมิเนียมหลังจากที่ฝนจากไปนั้น มันมีตัวตนและหนักอึ้งราวกับก้อนตะกั่ว มันกดทับทุกสิ่งทุกอย่างลงใต้เงาของความอ้างว้างและแตกสลาย สำหรับพลอยแล้ว ยี่สิบสี่ชั่วโมงแรกที่ปราศจากฝน คือการเดินทางผ่านพิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำที่ทุกตารางนิ้วเต็มไปด้วยร่องรอยของคนที่เพิ่งจากไป
เธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นด้วยสัญชาตญาณ ไม่ใช่เพราะเสียงนาฬิกาปลุก แต่เพราะความเงียบที่ผิดปกติ เธอมักจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงกุกกักในครัวที่ฝนกำลังชงกาแฟเสมอ แต่วันนี้... ไม่มีเสียงใดๆ ทั้งสิ้น ห้องนอนของฝนที่ประตูแง้มอยู่เล็กน้อยนั้นมืดสนิทและว่างเปล่า ความจริงอันโหดร้ายถาโถมเข้าใส่เธออีกครั้ง... ฝนไม่อยู่ที่นี่แล้ว
พลอยลุกขึ้นจากเตียงอย่างเชื่องช้า ร่างกายของเธอรู้สึกหนักอึ้งราวกับมีโซ่ตรวนที่มองไม่เห็นพันธนาการอยู่ เธอก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้วมองดูเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก ผู้หญิงในนั้นดูซีดเซียว ขอบตาคล้ำ และดวงตาบวมช้ำจากการร้องไห้มาทั้งคืน เธอแปรงฟันและล้างหน้าไปตามความเคยชิน แต่จิตใจกลับล่องลอยไปไกลแสนไกล
ทุกย่างก้าวในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ แห่งนี้คือการตอกย้ำถึงการไม่มีอยู่ของฝน โซฟาตัวเก่าที่เคยเป็นที่นอนดูหนังและซบไหล่กันเงียบๆ บัดนี้กลับดูใหญ่โตและเยียบเย็น โต๊ะทำงานญี่ปุ่นที่พวกเธอเคยมาร่วมหัวจมท้ายกันคิดงานก็ดูว่างเปล่าจนน่าใจหาย แม้แต่แก้วกาแฟลายแมวที่ฝนชอบใช้เป็นประจำซึ่งวางคว่ำอยู่บนชั้น ก็ยังสามารถกระตุ้นต่อมน้ำตาของเธอให้ทำงานขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
ความเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธยังคงสดใหม่และแหลมคม คำว่า "ความผิดพลาด" ที่หลุดออกมาจากปากของฝนยังคงดังก้องอยู่ในหัวของเธอราวกับแผ่นเสียงตกร่อง 'ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้น... สัมผัสที่อ่อนโยน... แววตาที่ลึกซึ้ง... มันคือความผิดพลาดอย่างนั้นเหรอ' ความคิดนั้นบีบคั้นหัวใจของเธอจนแทบหายใจไม่ออก
ท่ามกลางความโศกเศร้านั้น เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะอย่างไม่รู้จักเวล่ำเวลา มันคือการแจ้งเตือนจากแอคเคาท์ "Secret Petals"
พลอยหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน หน้าจอเต็มไปด้วยการแจ้งเตือน... ไลค์ คอมเมนต์ และยอดผู้ติดตามใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เธอเลื่อนอ่านคอมเมนต์ที่ชื่นชมผลงานของพวกเธอ
"นี่คือศิลปะที่แท้จริง!"
"เคมีระหว่างนางแบบกับช่างภาพมันน่าทึ่งมาก!"
"ฉันสัมผัสได้ถึงความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งระหว่างพวกคุณ มันสวยงามจริงๆ"
คำว่า "เคมี" และ "ความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้ง" ทำให้พลอยอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ ให้กับความย้อนแย้งของโชคชะตา ผลงานที่เกิดจากความรู้สึกที่แท้จริงของพวกเธอ... สิ่งที่คนภายนอกมองเห็นและชื่นชม... กลับกลายเป็นอาวุธที่ทำลายล้างความสัมพันธ์ของพวกเธอจนไม่เหลือชิ้นดี เธอรู้สึกโกรธ... โกรธแอคเคาท์บ้าๆ นี่ที่ล่อลวงให้พวกเธอต้องเดินทางมาถึงจุดนี้ โกรธโชคชะตาที่เล่นตลกกับพวกเธอได้อย่างเจ็บปวด และที่สำคัญที่สุด... โกรธฝน... ที่ขี้ขลาดและเลือกที่จะวิ่งหนีไป
นิ้วโป้งของเธอเลื่อนไปจ่ออยู่ที่ปุ่ม "Delete Account" ความคิดที่จะลบทุกสิ่งทุกอย่างทิ้งไปให้หมดสิ้นมันช่างเย้ายวนใจเหลือเกิน แต่แล้วเธอก็หยุดชะงัก... การลบทิ้งมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา มันเป็นเพียงการวิ่งหนีปัญหา... เหมือนกับที่ฝนกำลังทำอยู่
พลอยวางโทรศัพท์ลง เธอจะไม่ยอมเป็นคนขี้ขลาดเหมือนฝนเด็ดขาด
ความโกรธที่คุกรุ่นอยู่ภายในได้แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานบางอย่าง เธอต้องการที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อควบคุมความโกลาหลที่เกิดขึ้นในใจของเธอ และสิ่งเดียวที่เธอนึกออกในตอนนี้ก็คือ... การทำความสะอาด
เธอเริ่มต้นจากการเก็บกวาดห้องนั่งเล่นอย่างบ้าคลั่ง เธอจัดเรียงหนังสือบนชั้นใหม่ ดูดฝุ่นทุกซอกทุกมุม และขัดพื้นจนขึ้นเงา การได้ออกแรงและการได้เห็นพื้นที่รอบตัวกลับมาเป็นระเบียบเรียบร้อยอีกครั้ง ช่วยทำให้จิตใจที่วุ่นวายของเธอสงบลงได้บ้าง
จากนั้น เธอก็ก้าวเข้าไปในห้องนอนของฝน... พื้นที่ส่วนตัวที่เธอไม่เคยย่างกรายเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตมาก่อน กลิ่นอายของฝนยังคงอบอวลอยู่ที่นี่อย่างชัดเจน... กลิ่นของสเปรย์ฉีดผ้า กลิ่นกระดาษจางๆ และกลิ่นเฉพาะตัวของฝนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี เธอบรรจงจัดเตียงนอนที่ยับยู่ยี่ของฝนให้เรียบตึง พับผ้าห่มอย่างดี แล้วจัดเรียงหมอนให้เข้าที่
ขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้อง สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นสมุดสเก็ตช์ภาพเล่มหนึ่งที่ตกอยู่ข้างโต๊ะทำงาน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอจึงหยิบมันขึ้นมา... แล้วค่อยๆ เปิดมันออกดู
การเดินทางจากคอนโดใจกลางเมืองกลับมายังบ้านชานเมืองที่เธอเติบโตมานั้น คือการเดินทางข้ามผ่านมิติเวลาสำหรับฝน บรรยากาศของบ้านที่เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่คุ้นตา กลิ่นกับข้าวฝีมือแม่ที่ลอยอบอวลไปทั่ว และคำถามที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของพ่อแม่... ทุกสิ่งทุกอย่างมันช่างแตกต่างจากโลกที่เธอเพิ่งจากมาโดยสิ้นเชิง
"เป็นอะไรไปลูก ทำไมหน้าตาดูไม่สดชื่นเลย" แม่ของเธอทักขึ้นทันทีที่เห็นหน้า
"เปล่าค่ะแม่ พอดีช่วงนี้งานยุ่งๆ น่ะค่ะ เลยอยากกลับมาพักผ่อนสักสองสามวัน" ฝนโกหกออกไป คำโกหกนั้นมันช่างหนักอึ้งและฝืดเฝื่อนอยู่ในลำคอ
"ทะเลาะกับน้องพลอยมารึเปล่าเรา" พ่อของเธอที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาถามขึ้นมาอย่างรู้ทัน
ฝนสะดุ้งเล็กน้อย "เปล่านะคะพ่อ!" เธอรีบปฏิเสธเสียงสูง "ก็บอกว่าเรื่องงานไงคะ"
การต้องสวมหน้ากากและแสร้งทำเป็นว่าทุกอย่างปกติดีนั้นมันเหนื่อยยิ่งกว่าการทำงานหามรุ่งหามค่ำเสียอีก "พื้นที่" ที่เธอเคยคิดว่าต้องการ บัดนี้ได้กลายเป็นเหมือนกรงขังที่มองไม่เห็น เธอไม่สามารถระบายความรู้สึกที่แท้จริงออกมาให้ใครฟังได้เลย เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักโทษที่ถูกเนรเทศมายังดินแดนที่ห่างไกล
ในตอนกลางคืน ขณะที่เธอนอนอยู่บนเตียงนอนเก่าๆ ในห้องนอนสมัยเด็ก ความเงียบที่นี่มันแตกต่างจากความเงียบที่คอนโดโดยสิ้นเชิง มันไม่ใช่ความเงียบที่ว่างเปล่า แต่เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยเสียงสะท้อนในหัวใจของเธอ
ภาพของพลอยที่กำลังร้องไห้ยังคงติดตาเธอไม่หาย คำพูดสุดท้ายที่พลอยขอร้องไม่ให้เธอไปยังคงดังก้องอยู่ในหู และคำว่า "ความผิดพลาด" ที่เธอเป็นคนพูดออกไปเองนั้น... ก็ได้ย้อนกลับมาทิ่มแทงหัวใจของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ความรู้สึกผิดกัดกินจิตใจของเธอจนแทบจะเป็นบ้า เธอเกลียดตัวเองที่เป็นคนขี้ขลาด เกลียดตัวเองที่ทำลายพันธสัญญาว่าจะ "พูดคุยกันทุกเรื่อง" และเกลียดตัวเองที่ทำร้ายจิตใจของคนที่เธอรักที่สุดในชีวิตได้อย่างเลือดเย็น
ความสันโดษที่เธอคิดว่าจะช่วยให้ใจเย็นลงได้นั้น มันไม่ได้นำมาซึ่งความสงบสุขเลยแม้แต่น้อย... ในทางกลับกัน... มันกลับนำมาซึ่งความชัดเจน... ความชัดเจนที่ว่าเธอได้ทำในสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตลงไปแล้ว
เธอเริ่มวิเคราะห์ความกลัวของตัวเองอย่างจริงจัง... เธอหวาดกลัวอะไรกันแน่? กลัวที่จะต้องสูญเสียมิตรภาพที่ดีที่สุดไปงั้นเหรอ? ใช่... แต่นั่นมันใช่ทั้งหมดจริงๆ หรือ? หรือว่าเธอหวาดกลัวที่จะต้องยอมรับในความรู้สึกของตัวเอง? หวาดกลัวที่จะต้องยอมรับว่าเธอรักผู้หญิงคนหนึ่ง... รักเพื่อนสนิทของตัวเอง... รักมากจนเกินกว่าที่จะควบคุมได้
เธอเพิ่งจะตระหนักได้ในตอนนี้เองว่า... การวิ่งหนีออกจากปัญหาต่างหากที่เป็น "ความผิดพลาด" ที่แท้จริง... ช่วงเวลาที่แสนงดงามในห้องน้ำคืนนั้น... มันไม่ใช่ความผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย... แต่มันคือ "ความจริง"... ความจริงที่เธอหวาดกลัวเกินกว่าจะยอมรับมันได้
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เธอกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ที่โต๊ะกินข้าว พ่อของเธอก็เดินเข้ามานั่งข้างๆ พร้อมกับกาแฟสองแก้ว
"ยังไม่ดีขึ้นอีกเหรอ" พ่อถามเรียบๆ
ฝนส่ายหน้าช้าๆ
พ่อของเธอจิบกาแฟไปอึกหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมาลอยๆ "พ่อไม่รู้หรอกนะว่าลูกกำลังเจอปัญหาอะไรอยู่ แต่พ่อรู้แค่ว่า... การวิ่งหนีออกจากปัญหาน่ะ มันไม่เคยทำให้ปัญหาเล็กลงได้เลยนะ... ในทางกลับกัน มันกลับยิ่งให้พื้นที่ปัญหานั้นได้เติบโตใหญ่ขึ้นในหัวของเราเสียอีก"
คำพูดเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งของพ่อเปรียบเสมือนกุญแจที่ไขเข้าไปในหัวใจที่ปิดตายของฝน... มันคือสิ่งที่เธอต้องการจะได้ยินมาตลอด
ใช่แล้ว... เธอไม่สามารถวิ่งหนีต่อไปได้อีกแล้ว เธอต้องกลับไปเผชิญหน้ากับมัน... กลับไปแก้ไขในสิ่งที่เธอเป็นคนทำพังลงมากับมือ
ในขณะเดียวกันนั้น... พลอยที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นห้องนอนของฝน ก็ได้เปิดสมุดสเก็ตช์ภาพเล่มนั้นไปจนถึงหน้าสุดท้ายแล้ว
น้ำตาของเธอไหลทะลักออกมาอีกครั้ง... แต่มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจอีกต่อไปแล้ว... แต่มันคือน้ำตาแห่งความตื้นตันใจ
สมุดเล่มนั้นไม่ได้มีแค่ภาพร่างสำหรับงาน "Secret Petals" ของพวกเธอ... แต่มันเต็มไปด้วยภาพวาดของ "พลอย" ในอิริยาบถต่างๆ ที่ฝนแอบวาดเก็บไว้มาโดยตลอด... มีทั้งภาพของพลอยที่กำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้นจนต้องขมวดคิ้ว... ภาพของพลอยที่กำลังหัวเราะอย่างสุดเสียงจนตาหยี... ภาพของพลอยที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟาโดยไม่รู้ตัว...
ทุกเส้นสายที่ฝนร่างลงไปบนกระดาษนั้น มันไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพวาด... แต่มันคือบันทึกของความรัก... คือการสารภาพความรู้สึกที่ซื่อตรงและงดงามที่สุดเท่าที่พลอยเคยได้เห็นมา
เธอเพิ่งจะเข้าใจในตอนนี้เอง... ฝนไม่ได้วิ่งหนีไปเพราะว่าเธอไม่รู้สึกอะไร... แต่เธอวิ่งหนีไป... เพราะว่าเธอรู้สึก "มากเกินไป" ต่างหาก
พลอยยกสมุดเล่มนั้นขึ้นมาแนบกับอก เธอได้พบหลักฐานชิ้นสำคัญที่สุดแล้ว... หลักฐานที่ยืนยันว่าเธอไม่ได้คิดไปเองฝ่ายเดียว... หลักฐานที่บอกว่าความรักของพวกเธอมันเป็นเรื่องจริง
ทางด้านฝน... หลังจากที่ได้คุยกับพ่อแล้ว เธอก็รีบวิ่งกลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองทันที เธอเก็บข้าวของที่เพิ่งจะเอาออกมาได้ไม่นานกลับเข้าไปในกระเป๋าเป้อีกครั้ง
"จะรีบกลับแล้วเหรอลูก" แม่ของเธอที่เดินตามขึ้นมาถามด้วยความประหลาดใจ
ฝนหันมายิ้มให้แม่เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่ผ่านมา... มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว
"ค่ะแม่... หนูจะกลับบ้าน"
เธอพูดคำว่า "บ้าน" ด้วยความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม... "บ้าน"... ที่ไม่ได้หมายถึงบ้านของพ่อแม่... แต่หมายถึงคอนโดมิเนียมเล็กๆ แห่งนั้น... "บ้าน"... ที่มีพลอยรออยู่
บทสรุปของตอนนี้จึงเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน...
พลอยที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นห้อง กอดสมุดสเก็ตช์ภาพที่เป็นเหมือนบทพิสูจน์แห่งความรักของฝนเอาไว้ในอ้อมแขน...
และฝน... ที่กำลังนั่งอยู่บนรถแท็กซี่ มุ่งหน้ากลับไปยังคอนโดมิเนียมแห่งนั้นด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจที่จะแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม... หรือ... ทำให้มันดีกว่าเดิม
พวกเธอทั้งสองคนกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่จุดปะทะ... จุดที่จะนำไปสู่การเผชิญหน้าครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต... และมันก็ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนแห่งความคาดหวังครั้งใหญ่ให้กับเรื่องราวในตอนต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้