LOGIN‘แว่วๆข่าวมาว่านางร้ายหน้าสวยกำลังจะโคจรมาพบกันครั้งแรกกับพระเอกหนุ่มสุดฮอตซึ่งข่าวจากวงในเค้าว่ากันว่าทั้งคู่ไม่ถูกกัน เอ๊ะยังไงกันล่ะคะเนี่ยคุณขายังไงก็รอดูกันต่อไปนะคะคุ๊ณผู้ชมมม’
เสียงนักข่าวสาวบันเทิงเจื้อยแจ้วอยู่ในจอทีวีขนาดเจ็ดสิบห้านิ้วที่แขวนติดอยู่บนผนังทำให้หญิงสาวร่างอรชรที่่นั่งไขว้ห้างอยู่บนโซฟาหลุยสีแดงสดหน้าหงิกงอ ‘ให้ตายเถอะเธอไม่อยากทำงานร่วมกับไอ้เด็กบ้านั่นจริงๆสิน่า แค่เจอยังไม่อยากจะเจอเลยด้วยซ้ำจะให้ไปทำงานร่วมกันจะไหวไหมเนี่ย’ “เจ๊หวานขามะปรางไม่อยากเล่นเรื่องนี้แล้วอ่ะเจ๊หวานถอนตัวให้มะปรางหน่อยได้ไหมคะ...” เสียงหวานออดอ้อนร่างอรชรอ้อนแอ้นสูงเกือบหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรลุกขึ้นเดินมานั่งกอดแขนเอาหน้าแนบชิดต้นแขนขาวอวบของน้ำหวานผู้จัดการส่วนตัวคนสวย “ทำไมเราถึงอยากถอนตัวจากเรื่องนี้นักนะไหนบอกเจ๊สิ” คนข้างๆหันหน้ามาถามสีหน้าจริงจัง “กะก็มะปราง..มะปรางกลัวนี่นาเรื่องนี้มีแต่คนเก่งๆมาเล่นทั้งนั้นเลย” “จะกลัวอะไรห๊ะ!เราก็ใช่จะดังน้อยกว่าเขาเสียเมื่อไหร่ล่ะ เรื่องนี้มีแต่คนเขาอยากจะเล่น เรานี่ยังไงกันอยากจะขอตัวตัวเชื่อพี่สิเรื่องนี้คนดูต้องถล่มทลายเรทติ้งดีแน่ๆ” “...” ไอ้เรทติ้งดีคนดูเยอะๆเธอก็ชอบ แต่ไอ้คนที่เกลียดนี่แหละพระเอกนำของเรื่องที่เธอไม่อยากจะร่วมวงโคจรด้วย “ตกลงตามนั้นนะมะปรางพรุ่งนี้เจ็ดโมงเช้าจะมีพิธีบวงสรวงละครที่ช่องห้ามสายนะ” “ค่า” ทำไงได้ล่ะในเมื่อเซ็นสัญญารับไปเรียบร้อยตั้งแต่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเล่นละครเรื่องนี้บ้างก้มหน้ารับกรรมต่อไปสิ เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันบวงสรวงละครแต่เช้า ดังนั้นตอนนี้ที่ทำได้ก็คือทำใจและนอนเอาแรงไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ แผ่นมาร์คหน้าถูกแปะลงใบหน้าสวยก่อนที่เจ้าตัวจะเอนตัวลงนอนพักผ่อนในตอนทุ่มกว่าๆ มะปราง มัทนานางร้ายหน้าสวยเบอร์ต้นๆของช่องสี่สิบสามเล่นละครเรื่องไหนร้ายจนคนเกลียดทั้งประเทศ แต่ตัวจริงน่ารักอ่อนหวานต่างจากตัวละครที่เล่นราวฟ้ากับเหวเลยล่ะ ส่วนเรื่องที่ว่าเกลียดกันกับพระเอกของเรื่องมันก็มีที่มาที่ไปของมันนั่นแหละ . . หกโมงสี่สิบนาทีไม่ขาดไม่เกินมะปรางมาถึงที่ช่องในตอนที่ผู้คนกำลังเดินทางมาที่แท่นทำพิธีกันค่อนข้างเยอะแล้ว อย่างที่บอกว่าละครเรื่องนี้มีดาราชั้นนำเล่นกันเยอะมาก นักแสดงทั้งหมดทยอยมาจนครบรวมถึงผู้จัด ผู้กำกับและคนอื่นๆพิธีบวงสรวงจึงเริ่มขึ้น พิธีบวงสรวงก็ดำเนินไปจนเสร็จสิ้นพิธีการ หลายคนทยอยกันกลับที่ยังอยู่ก็เป็นเหล่านักแสดงทั้งหลายรวมถึงไอ้เด็กบ้านั่นด้วยที่เอาแต่ส่งสายตาเป็นประกายจนน่าเอานิ้วจิ้มลูกกระตาให้บอดไปซะมองมาแต่หน้าเธออยู่ได้ ผู้กำกับนัดคิวของนักแสดงแต่ละคนเอาไว้เรียบร้อยซึ่งคิวแรกก็ต้องมีเธอเป็นตัวเปิดซะด้วยสิ แถมเป็นฉากเลิฟซีนเสียด้วยสิ ให้ตายเถอะ!เหมือนเธอถูกจับมาเชือดยังไงยังงั้นแหละ... หลังจากนัดเวลากันเสร็จสรรพมะปรางก็รีบชิ่งกลับก่อนทันที ร่างบางเดินจ้ำอ้าวไปที่รถอย่างว่องไว แต่ก็ยังช้ากว่าใครอีกคนที่เดินตามหลังมาจนทันถึงตัวเธอ “จะรีบไปไหนล่ะครับพี่มะปรางคนสวย” เสียงเมฆหรือเมืองเมฆพระเอกหนุ่มรุ่นน้องเดินตามมารั้งข้อมือเรียวเอาไว้ก่อนที่มะปรางจะเดินถึงรถ “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้เด็กบ้า!อย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันได้ไหม!” เสียงหวานตวาดแว๊ดใส่ใบหน้าหล่อเหลาท่าทางขี้เล่นที่ยังยังยืนยิ้มกรุ้มกริ่มโดยไม่สลดลงเลยสักนิดแม้จะถูกตะคอกใส่ “ดุจัง...ใจหายหมดเลย” เมฆไม่พูดเปล่าแต่ลากต้นแขนขาวเนียนไปยืนชิดผนังกำแพงข้างๆที่จอดรถของมะปราง แล้ววันนี้เธอก็ดันโชคร้ายจอดรถไกลกว่าคนอื่นแถมมุมนั้นก็ดันมิดชิดราวกับเป็นใจให้ไอ้เด็กบ้านี่มายุ่มย่ามกับเธออีกแล้ว “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ไอ้เด็กบ้า!” ตวาดแว๊ดพลางพยายามชักข้อมือให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา “นี่พี่ไม่คิดจะพูดคำอื่นบ้างหรอนอกจากด่าผมแล้วก็ไล่ผมเนี่ย...” ใบหน้าคมคายท่าทางขี้เล่นที่มองมายังใบหน้าสวยเฉี่ยวด้วยแววตาทอประกายบางอย่างออกมา “ก็แล้วนายจะมายุ่งกับฉันอีกทำไมกันห๊ะ!” “ก็พี่ได้ผมแล้วพี่ต้องรับผิดชอบผมสิ!” ให้ตายเถอะ!เธออายุมากกว่าหมอนี่ถึงห้าปีเลยนะ ที่จริงเราสองคนไม่ได้รู้จักกันด้วยซ้ำ เคยเจอกันบางครั้งตามงานแต่ก็ไม่ได้อะไร แต่หลังจาก พลาดพลั้งนอนกับหมอนี่แค่ครั้งเดียวแต่เขาทำกับว่าเธอไปปู้ยี้ปู้ยำเขาจนเสียหายมากมายอย่างนั้นแหละทั้งๆที่จริงแล้วต้องเป็นเธอไหมที่เรียกร้องถามหาความรับผิดชอบจากนายนี่ “นี่นายจะบ้ารึไงฉันเห็นมีแต่ผู้หญิงมาร้องหาความรับผิดชอบจากผู้ชาย มีแต่นายนี่แหละที่มาโวยวายอยู่ได้!” ก็เธอแฟร์ไงในเมื่อมันเป็นแค่ความผิดพลาดแล้วก็ต่างคนต่างไปแค่นั้นเองทั้งที่จริงแล้วเหตุการณ์เรื่องคืนนี้เธอจำอะไรไม่ได้เลยสักนิด แต่ไอ้ร่องรอยเป็นจ้ำๆตามเนินอกและหน้าท้องก็ทำให้มั่นใจแหละว่าเธอเสียตัวให้ไอ้เด็กนี่ไปแล้ว แต่ก็นะมันเป็นแค่เส้นบางๆเท่านั้นยังไงวันนึงมันก็เสียไปอยู่ดี แต่มันแค่เสียเร็วไปเท่านั้นเอง “ไม่รู้แหละพี่ต้องรับผิดชอบผม!” “...” มะปรางเกิดอาการวิงเวียนขึ้นมาพลันเมื่อเจอคนดื้อตาใสอย่างหมอนี่ เมืองเมฆคนนี้เอาแต่ใจตัวเองอย่างร้ายกาจ สองอาทิตย์ก่อนหลังจากคืนนั้นที่เราต่างตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยเปล่าทั้งคู่มะปรางก็รีบหนีกลับมาก่อนไม่กี่วันถัดมาหมอนี่ก็ตามมาถามหาความรับผิดชอบจากเธอร้องเรียกเอาแต่พูดว่ามาทวงหาความยุติธรรมให้ตัวเอง บ้าบอ!บ้าบอที่สุด! จนกระทั่งวันนึงเธอทนไม่ไหวตบเข้าให้หนึ่งที แต่ดันจังหวะนรกพอดีตรงที่มีนักข่าวอยู่แถวนั้นด้วย คนก็เลยเอาไปตีความว่าเธอกับหมอนี่ไม่ถูกกันจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ... เฮ้อ!อยากจะบ้า! แล้วดันต้องมาเล่นละครด้วยกันอีกเนี่ยนะ ตายแน่ๆงานนี้มะปรางเอ๋ย! “จะให้รับผิดชอบยังไง?” ถามออกไปอย่างเหลืออด หนีก็แล้วหลบก็แล้วก็ยังไม่พ้นสักที “พี่ต้องมาคบกับผม!” น้ำเสียงทุ้มพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน “ห๊า!” มะปรางอุทานเสียงดัง “ไม่หา...เจอแล้ว” แต่เมืองเมฆตอบสีหน้าทะเล้นแทน “เจออะไร? “เจอแม่ของลูกแล้ว...” เอากับเขาสินะ! “เอาไว้ค่อยคุยกันได้ไหมฉันปวดหัวอยากกลับบ้านแล้ว” “งั้นก็ไปสิเดี๋ยวผมขับรถให้เองยิ่งปวดหัวอยู่ไม่ใช่เดี๋ยวก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไง” พูดจบก็จูงมือเรียวไปขึ้นรถตรงที่นั่งข้างคนขับแล้วตัวเองก็เดินกลับขึ้นมานั่งฝั่งคนขับแทน สตาร์ทรถแล้วขับออกไปยังจุดหมายปลายทางที่รู้จักดีเพราะแอบตามแม่นางร้ายคนนี้มานานจนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอเป็นอย่างดี... เอาจริงๆมะปรางก็ว่าเธอปวดหัวจริงๆนะสงสัยช่วงนี้เธอคงนอนน้อยและก็ยังมีคนมาคอยกวนใจแบบนี้ ร่างบางจึงหลับตาหันหัวเอนไปติดตรงประตูก่อนจะผลอยหลับไปไม่นานก็มาถึงบ้านหลังงามของมะปรางที่อยู่นอกเมืองไปหน่อย เนื่องจากว่าหญิงสาวชอบธรรมชาติเยอะๆเวลาถ่ายละครอยู่กับแสงกับไฟมาเยอะแล้วไง เวลาว่างๆก็อยากใช้เวลาอยู่กับนกกับต้นไม้ฟังเสียงนกร้องเสียงไก่ขันไปเรื่อย
รถซูเปอร์คาร์สีแดงสดของมะปรางวิ่งฉิวมาจอดที่หน้าบ้านก่อนที่คนขับจะดับเครื่องรถแล้วเดินประตูลงมาอุ้มร่างบางขึ้น “อื้อ...ถึงแล้วก็ปลุกสิจะอุ้มทำไม” พอดีกับที่ร่างระหงงัวเงียตื่นขึ้นมาพอดีแล้วเธอก็ดิ้นลงจากอกเขา “ก็ผมไม่อยากรบกวนการนอนของพี่นี่อยากให้พี่นอนสบายๆ” ร่างสูงใหญ่ยอมปล่อยให้เธอลงแต่โดยดี “ส่งเสร็จแล้วก็กลับไปสิ” “ว้า...ไล่อีกแหละจะมีสักครั้งไหมที่พี่จะไม่ไล่ให้ผมไปให้พ้นๆหน้าบ้าง” สุ้มเสียงที่เอ่ยออกมาเจือไปด้วยความน้อยอกน้อยใจจากผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ทำให้มะปรางอดสงสารเขาขึ้นมาไม่ได้ “พี่เหนื่อยอยากนอนพักสักหน่อยนายกลับไปก่อนนะเอารถพี่ไปก็ได้เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ค่อยไปเอาที่กองถ่ายแล้วกัน” มะปรางพูดเสียงเบาราวกระซิบ “แล้วพรุ่งนี้พี่จะไปกองยังไงให้ผมมารับไหม?” “ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวให้เจ๊หวานแวะมารับก็ได้” “งั้นพี่พักผ่อนนะครับเจอกันวันพรุ่งนี้นะ...จุ๊บ” “อ๊ะ!” เจ้าเด็กบ้านั่นมันหอมแก้มเธอแล้วรีบเดินไปขึ้นรถขับออกไปทันที แย่แล้วทำไมเธอต้องใจสั่นไปกับไอ้เด็กบ้านั่นด้วยนะ! ท่าทางอาการจะไม่ค่อยดีแล้วสิสงสัยเธอคงจะเหนื่อยไปหน่อยก็เลยมีอาการแปลกๆแบบนี้ . . ที่กองถ่ายละคร แม้มะปรางจะบอกเมืองเมฆไปแล้วว่าจะให้เจ๊หวานมารับเองก็ตาม แต่ทว่าเด็กนั่นก็ยังขับรถมารับเธอที่บ้านแต่เช้าจนโทรต้องโทรบอกเจ๊หวานว่าไม่ต้องมารับแล้วก็ได้ให้ไปเจอกันที่กองเลยทีเดียว ตอนนี้ทั้งคู่ก็ยืนอยู่หน้าเซ็ทเตรียมถ่ายทำฉากตรงสระว่ายน้ำเป็นฉากแรก ละครที่มะปรางเล่นเป็นแนวรักดราม่านิดๆเปิดฉากแรกมาก็คือ วีร่าตัวละครที่มะปรางแสดงจะต้องเข้าฉากกับเมืองเมฆหรือเมฆาในบทเป็นฉากที่วีร่าลงไปว่ายน้ำเล่นเพื่อยั่วยวนให้เมฆาลงมาสานสัมพันธ์ด้วย แค่ฉากแรกมะปรางก็เจอบทหนักล่ะ ต้องมานัวเนียกับผู้ชายที่เพิ่งได้เสียกันไปเนี่ยนะ! . .วันต่อมาผมก็พาพี่ปรางกลับบ้านที่มีลูกชายเธอและเพื่อนสนิทผมนั่งหน้าบอกบุญไม่รับรออยู่ก่อนแล้ว“แม่ไปไหนมาทำไมไม่กลับบ้านแล้วนี่ไปไหนกันมา”เมื่อมาถึงคิวก็เดินดุ่มๆเข้ามาถามสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดสุดฤทธิ์คนเป็นแม่ได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริงๆ“ว่าไงไอ้โจ้มึงพาแม่กูไปไหนมาทั้งคืนทำไมถึงเพิ่งกลับมากันป่านนี้”“คือ..ว่าไอ้คิวมึงฟังกูพูดก่อนนะคือ..” ผมเองก็ยังหวาดๆกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของมันจนถึงขั้นตัวลีบเลยทีเดียว“ฟังเหี้ยอะไร!มึงพาแม่กูหายไปทั้งคืนเนี่ยนะไอ้สัสโจ้” ไอ้คิวตะคอกใส่ผมเสียงดีังลั่น“คิวใจเย็นๆก่อนนะลูกค่อยๆพูดกันก็ได้” พี่ปรางพยายามปลอบไอ้คิวเสียงอ่อนพลางลูบหลังมันเบาๆ“งั้นแม่ก็บอกมาดิว่าหายไปไหนกับมันมาทั้งคืน” ไอ้คิวตะคอกใส่พี่ปรางจนหน้าเสีย“ไอ้สัสคิวมึงอย่าตะคอกใส่แม่มึงแบบนั้นสิวะ” พอเห็นเมียผมหน้าเสียแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้“อย่าเสือกนี่แม่กู!”“แม่มึงแต่เมียกู!”“ไอ้สัสโจ้!”ผลั๊ว!เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ตรงปากและจมูกผมพอดีจนมึนไปชั่วครู่สักพักลิ่มเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากผมเล็กน้อย“ว๊าย!อย่านะลูกหยุดๆ” พี่ปรางร้องไห้เสียงดังพยายามรั้งแขนไอ้คิวไม่ให
บันทึกพิเศษปรางในความเย็นเยียบที่ได้รับทำให้ฉันรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านวาบไปทั่วทั้งร่างกายรับรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆแต่ทว่า...ผ้าห่มไปไหน?รู้สึกได้ว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าซึ่งนั่นเป็นปกติเวลาที่ฉันเข้านอนจะชอบโนบราและแก้ผ้านอนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมคืนนี้มันหนาวผิดปกติกันนะแม้จะแปลกใจแต่มือฉันก็ปัดป่ายควานหาผ้าห่มที่คาดว่าตัวเองน่าจะถีบออกจากตัวไปอยู่มุมไหนสักที่นั่นแหละ คลำหาไปได้สักพักก็รู้สึกว่าตัวเองไปคว้าหมับเข้ากับอะไรสักอย่างที่มัน ‘ร้อนผ่าว’ และนุ่มนิ่มมือ เมื่อเห็นว่าเออจับแล้วมันก็อุ่นดีฉันก็เลยจับๆขยำๆไปเรื่อยๆสักพักอ้าวเห้ย!ทำไมมันใหญ่ขึ้นวะ?แถมมันยังแข็งและร้อนราวกับอังไฟมา รูปร่างลักษณะมันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับ....ไอ้นั่นของผู้ชาย!แม้จะไม่อยากลืมตาตื่นสักเท่าไหร่แต่ความสงสัยก็ทำให้ฉันต้องตื่นลืมตามองสิ่งที่อยู่ในมือ แต่แวบแรกเลยทีเห็นคือแผงอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามลากสายตาลงมาก็หน้าท้องหนั่นแน่นชวนให้ลูบไล้ขยำเล่นดีจังถัดมาก็เออ!นั่นแหละฉันกำลังจับไอ้นั่นของเพื่อนลูกชายอยู่ แถมไม่ได้จับธรรมดานะทั้งลูบคลึงขยำชักรูดชักลงอีกต่างหาก ให้ตายเถอะนี่เธ
โรมแรมม่านรูดไม่ไกลจากห้างดังเสียงปิดประตูรถดังปังทันทีที่เด็กรับรถรูดม่านมาปิดไว้ผมยื่นเงินค่าห้องให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมพร้อมทั้งทิปแล้วดึงมือพี่ปรางลากเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วเมื่อครู่แม้จะปลดปล่อยไปแล้วครั้งนึงแต่ทว่าตรงหน้าขาผมยังแข็งปึ๋งผงาดทิ่มเนื้อผ้ากางเกงออกมาให้ได้เห็น ปวดไปหมดสงสัยมันอยากจะทลวงเข้าไปในช่องแคบอีกครั้งเสียแล้ว“อ๊ะ..เบาๆ หน่อยสิชั้นเจ็บนะ” พี่ปรางดุเบาๆ ในตอนที่ถูกผมดันร่างเธอเข้ากับพื้นผนังเย็นเยียบอย่างแรง“ขอโทษ...ผมทนไม่ไหวต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กระแทกพี่ตอนนี้” ผมงึมงำเบาๆ ขณะริมฝีปากไล่ขบเม้มซอกคอเนียนหอมละมุน“ซี๊ดดดดด~~บ้าเวอร์ไปล่ะไปอดอยากจากไหนมาห๊ะ...”“ฮื้มม~ตัวพี่หอมจัง...พี่ไม่รู้หรอที่จริงผมอยากแล้วก็แข็งตั้งแต่เห็นพี่ที่สระว่ายน้ำแล้ว” เสียงผมสั่นกระเส่าอยากไม่อาจห้ามได้ ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนลอยมามังกรยักษ์ก็อยากโผล่หัวมาทักทายเหยื่อสาวเสียแล้ว“หมายความว่าเมื่อคืนเธอแอบดูพี่ที่สระด้วยหรอ” พี่ปรางดันหน้าผมออกจากเนินอกเธอแล้วถามเสียงเข้ม“อื้ม..ก็เมื่อคืนผมนอนไม่หลับกะว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ ใครจะไปรู้ว่าจะได้เจอเงือกสาวแสนสวยใส่บิกินี่
คืนนั้นหลังจากถูไถแค่ภายนอกจนเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ดึกๆช่วงตีสี่กว่าๆผมก็ย่องออกมานอนที่ห้องของตัวเองที่ไอ้คิวมันจัดไว้ให้แล้วหลับต่อไปยันสายตรู่ทั้งผมทั้งไอ้คิวต่างตื่นสายด้วยกันทั้งคู่โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์เราไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ส่วนแม่ไอ้คิวผมยังไม่เห็นเลยนะสงสัยจะเขิน“ไงมึงหลับสบายดีไหมบ้านกู” เสียงไอ้คิวถามพลางยิ้มอารมณ์ดี แน่ล่ะสิเมาหลับไปตั้งแต่หัวค่ำละมั้ง“อืม..ดีมากกูหลับสนิทเลย” เสียไปตั้งหลายน้ำจะไม่หลับได้ยังไง!“มากินข้าวก่อนนี่แม่กูทำข้าวต้มปลาไว้ให้มึงจะเอากาแฟไหมกูจะได้ให้พี่สมพรไปชงมาให้”“เออเอาก็ได้” ผมพยักหน้ารับรู้สึกอยากได้คาเฟอีนเข้ามาในร่างกายเหมือนกันเพราะเช้านี้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจริงๆฝีมือทำกับข้าวของแม่ไอ้คิวก็อร่อยดีนะ ส่วนคนทำไม่รู้หนีหายไปไหนแล้วผมมองๆหาก็ไม่ยักจะเห็นเลย“เออแล้วนี่แม่มึงไปไหนหรอวะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะสงสัยอยู่บนห้องมั้งว่าแต่มึงเถอะวันนี้จะไปไหนต่อเปล่า”“ไม่รู้ว่ะเบื่อๆคงนอนอยู่บ้านแหละกูขี้เกียจออก”“ไปดูหนังกับกูไหมล่ะพอดีกูชวนแม่ไปดูหนังรอบบ่ายมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิไปกับแม่สองคนกูอาย” ไอ้คิวมันบอกในขณะที่ผมนึกขำ
หญิงสาวผมเผ้าหลุดรุ่ยเนื้อตัวเปลือยเปล่ามองหนุ่มรุ่นลูกตาปรอยเนื้อตัวสั่นระริกราวกับจะอ้อนวอนขอให้เด็กหนุ่มช่วยเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดหายไปหลายสิบปีให้หน่อย เด็กหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากอิ่มเอิ่มที่แย้มออกดูเย้ายวนชวนให้คลุกเคล้าดื่มด่ำความหวานหอมในโพลงปากนุ่มเหลือเกิน“อื้อออออออ” เสียงหวานครางกระเส่าในลำคอเมื่อถูกเด็กหนุ่มบดจูบอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นอุ่นชื้นพลิกไล้ไปตามไรฟันขาวสะอาดเลาะเล็มน้ำหวานตามโพลงปากด้านในจนน้ำลายของทั้งสองคนไหลย้อยออกมาตามมุมปาก“ชอบไหม?ชอบให้ผมสัมผัสแบบนี้ไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่าของเพื่อนลูกดังขึ้นอีกครั้งที่ข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่เขาเป่าใส่อย่างยั่วเย้าหลังจากที่เขาละริมฝีปากออกปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอออกบ้างหลังจากที่ถูกจูบดูดวิญญานเข้าไปหลายนาทีจากนั้นก็ลากริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนดูดกลืนผิวเนื้ออ่อนหอมละมุนจนมันขึ้นสีคล้ำเป็นจ้ำแล้วก็ลากลงมาไซร์เนินอกอวบอิ่มเบียดชิดชูชันตั้งตะหง่านอีกครั้ง“อื้มมมมม” มีเพียงเสียงครางอื้ออึงไม่ได้สรรพ์ดังตอบรับการกระทำแค่นั้น นาทีนี้หัวสมองเธอว่างเปล่าไปหมดครุ่นคิดอะไรไม่ออกแม้แต่นิด“แม่ครับ...ผมขอเลียหน่อยนะครับ” คำพูด
ร่างขาวโพลนในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในสระท่ามกลางไฟที่สาดส่องพอให้เห็นสลัวๆชวนให้ผมนึกจินตนาการถึงนางเงือกแสนสวยที่แหวกว่ายวนไปมาขาเรียวขาวได้รูปไร้ไขมันปะปนที่กำลังตีขาบนน้ำก็ดูน่าหลงใหลชวนให้นึกถึงเวลาที่ขาเรียวงามสองข้างมาพาดบนบ่ากว้างของผมมันคงให้ความรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียวบิกินี่สีแดงสดช่างขับผิวของแม่ไอ้คิวได้ดีเหลือเกินเพราะเมื่อมันทาบลงบนร่างอรชรยิ่งทำให้ตัดกับสีผิวขาวผ่องไปทั้งตัวจริงๆ สายเส้นเล็กๆที่เกาะต้นคอเนียนนั่นดูเกะกะตาดีเหลือเกินเห็นแล้วผมอยากกระตุกมันออกทิ้งไปไม่นานเหมือนว่าแม่ไอ้คิวคงจะว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วมั้ง ร่างบอบบางของเธอจึงเดินขึ้นมานั่งบนขอบสระ หลังจากนั้นเธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอวันนี้นั่นก็คือแม่ไอ้คิวปลดบิกินี่ทั้งท่อนบนและท่อนล่างออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่าท้าสายลมจากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมช้าๆราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่อยู่ๆก็แก้ผ้าท้าลมหนาวเช่นนี้ขนผมลุกซู่หอบหายใจรัวเลยล่ะรู้สึกว่าหัวใจทำงานหนักมากเวลานี้ ไม่ใช่แต่ขนนะที่ลุก ‘อย่างอื่น’ ผมก็ลุกเช่นกัน‘ให้ตายเถอะนี่แม่เพื่อนนะไอ้โจ้ท่องไว้แม่เพื่อน...แม่เพื่







