Share

รสรักสาวนักร้อง : 1

Author: Lucky rich
last update Last Updated: 2025-10-19 13:55:15

“อายุสิบห้าได้มาเป็นสาวรำวง มาใส่กระโปรงวับๆแวมๆไฟสลัวมัวเหมือนคืนเดือนแรม อร้าอะแหร่มอยู่บนฟลอร์เต้นรำ หนูเกิดมาเป็นคนต้อยต่ำ กระด่างกระดำดั่งเม็ดดินเม็ดทราย...”

ผู้หญิงที่กำลังใส่ชุดเปิดข้างเว้าหน้าเว้าหลังร้องเพลงอยู่บนเวทีนั้นคือฉันเองแหละ คืนนี้ฉันถูกจ้างให้มาร้องเพลงในงานเลี้ยงบริษัทแห่งหนึ่งนั่นก็คือที่นี่มีหน้าที่เอนเตอร์แทนคนดูให้มีความสุขและสนุกร่วมไปกับเรา

แม้จะร้อนแค่ไหนจนเหงื่อไคลไหลไม่ขาดสาย แต่หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาก็ทำให้ฉันต้องเต็มที่กับมันให้ถึงที่สุด ต่อให้ร้องจนคอแทบแตกทั้งร้องทั้งเต้นจนสะโพกแทบเคล็ด แต่ใบหน้าของฉันก็ยังต้องยิ้มและมีอารมณ์ร่วมไปกับมัน

“ใครอยากฟังเพลงไหนขอกันเข้ามาได้นะคะเดี๋ยวหนูจะร้องให้ฟังเต็มที่เลย” ฉันก็พูดออกไมค์หลังจากร้องเพลงที่สิบจบไปเมื่อครู่

“ฮิ้วววว” เสียงพวกพนักงานชีกอที่เริ่มจะเมาต่างก็มาออกันที่หน้าเวที บ้างก็มาขอจับมือแตะอั๋งไปเรื่อย แต่ก็เพราะไม่อยากให้มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นฉันจึงต้องยื่นมือไปให้พวกเขาสัมผัสบ้างเป็นครั้งคราว

ก่อนอื่นเลยฉันชื่อ ‘สีฟ้า’ ปีนี้อายุสิบเก้าปีแล้วเรียนจบแค่มอหกก็ออกมาทำงานเป็นนักร้องตามงานเลี้ยงบ้างตามผับบาร์บ้างแล้วแน่คนเขาจะจ้างไป โชคดีตรงที่แม้จะเกิดมาไม่มีพ่อมีแม่อาศัยอยู่กับลุงกับป้าแม้ว่าฐานะจะยากจนแต่โชคชะตาก็ยังไม่ใจร้อนส่งพรสวรรค์ในการร้องเพลงมาให้ฉันพร้อมลูกเจ็ดสิบชั้นมาให้ทำให้พอมีลู่ทางทำมาหากินได้บ้าง

เวลานอนของฉันก็คือกลางวันส่วนกลางคืนคือเวลาทำงานของฉัน คืนนึงก็แล้วแต่งานอย่างวันนี้ก่อนหน้านั้นฉันไปร้องที่ร้านอาหารช่วงหัวค่ำมาแล้วสองชั่วโมงเสร็จจากที่ร้านนั้นฉันก็ตรงดิ่งมาที่บริษัทนี้ทันที

ที่นี่ฉันถูกจ้างให้มาร้องสามชั่วโมงเต็ม ชั่วโมงละหนึ่งพันบาทสามชั่วโมงก็สามพันมันก็เยอะนะ แต่ว่าที่ฉันต้องโหมรับงานขนาดนี้ก็เพราะว่าลุงไข่สามีของป้าหวันป้ากับลุงที่เลี้ยงฉันมาแกกำลังป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

ทำให้ทุกวันนี้ลุงแกก็ทำงานต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ส่วนป้าฉันก็ให้ลาออกมาคอยเฝ้าช่วยดูแลลุงไข่ไป ส่วนฉันก็เดินหน้าร้องเพลงหาเงินคนเดียวเงินที่ได้ก็หมดไปกับค่ากินค่ายาค่าหาหมอของลุงในแต่ละวัน

แต่ฉันไม่คิดมากหรอกไม่รู้สึกน้อยใจอะไรด้วยที่อายุแค่นี้ต้องทำงานหัวเป็นเกลียวตัวเป็นน็อต นั่นก็เพราะว่าบุญคุณที่ลุงกับป้าเลี้ยงฉันมาต่อให้ตอบแทนทั้งชาติเท่าไหร่มันก็ไม่หมด

ลุงไข่เป็นหมันส่วนป้าหวันก็รักลุงไข่มากและยอมไปทำหมันเป็นเพื่อนก่อนที่จะมารับฉันไปเลี้ยงจากบ้านเด็กกำพร้า ดูเอาเถอะขนาดเป็นคนอื่นแท้ๆยังเลี้ยงดูฉันโตมาได้ขนาดนี้ แล้วคนที่เป็นพ่อแม่แท้ๆของฉันไปไหนทำไมถึงทิ้งฉันเอาไว้อย่างไม่นึกไยดีบ้างเลย

แต่ก็ช่างเถอะตอนนี้พ่อแม่ที่ฉันมีก็คือลุงไข่กับป้าหวันนี่แหละ สองคนนี้เป็นมากกว่าอะไรทั้งหลายให้ฉันอีกนะพวกท่านรักฉันมากกว่าพ่อแม่แท้ๆของฉันซะอีก

กลับมาที่บนเวทีตอนนี้ฉันเปลี่ยนชุดไปแล้วสามชุด ชุดล่าสุดเป็นแบบสายเดี่ยวสีดำรัดหน้าอกหน้าใจของฉันให้นูนเด่นเป็นสง่าเสียเหลือเกิน ข้างหลังมีแต่สายเล็กๆสองสายผูกมัดกันไว้ สายหนึ่งผูกตรงคออีกสายผูกกลางหลังกับกางเกงขาสั้นเสมอ...เลยล่ะ

ก่อนหน้าจะเดินสายนี้ฉันก็ทำใจไว้แล้วล่ะว่าการทำอาชีพนี้มันก็ต้องมีเปลืองตัวกันบ้างอยู่แล้ว จากการแต่งตัวเปิดตรงนั้นนิดปิดตรงนี้หน่อย แต่กระนั้นก็อดกระดากอายสายตาหลายๆคู่ขึ้นมาไม่ได้

โต๊ะหน้าเวทีตรงด้านล่างข้างหน้าฉันเป็นโต๊ะใหญ่คาดว่าคงจะเป็นของเจ้าของบริษัทกับบรรดาญาติๆ ก่อนหน้านั้นฉันยังไม่สังเกตุว่ามีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วย

ผู้ชายที่หน้าตาหล่อลากแววตาคมปลาบที่มองสบมาทำให้ฉันนึกประหม่าจนเผลอร้องผิดคีย์ ใบหน้าเขานิ่งเรียบไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆสักอย่าง ในขณะที่คนอื่นต่างเฮฮาลุกขึ้นเต้นตามเพลงที่ฉันร้อง

“ก็จบไปอีกเพลงแล้วนะคะ...ขออนุญาติหอบหายใจสักหน่อยนะคะ ต่อจากนี้ไปฟังเพลงจากพี่น้ำหวานกันต่อเลยนะคะเดี๋ยวอีกชั่วโมงสีฟ้าจะมาครางให้ฟังใหม่” ฉันก็พูดตลกไปตามแบบฉบับของตัวเอง

สองชั่วโมงเต็มที่ฉันทั้งร้องทั้งเต้นจนตอนนี้ถึงเวลาเปลี่ยนกะให้พี่น้ำหวานขึ้นมาร้องผลัดกัน เดี๋ยวอีกหนึ่งชั่วโมงฉันก็ต้องขึ้นมาร้องใหม่

ฉันลงจากเวทีเดินมายังที่พนักงานจัดที่ไว้ให้อย่างเป็นส่วนตัว นั่งพักหอบหายใจอยู่หน้าพัดลมสักครู่จึงยกมือถือขึ้นมาเซลฟี่อัพไอจีเพื่อโปรโมทงานให้ตัวเอง หลังจากนั้นก็นั่งลบหน้าเพื่อที่จะแต่งใหม่อีกครั้ง

“พวกเจ๊ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” พวกเจ๊ๆหางเครื่องหกคนก็ยกขบวนไปเข้าห้องน้ำที่ทางบริษอทแจ้งไว้ว่าให้ใช้ตรงไหนได้บ้าง

“ค่า” ฉันตอบรับแล้วนั่งกอดอกพิงหัวกับผนังห้องเพื่อพักสายตาสักครู่

“น้อง..น้องครับ”

อยู่ๆก็มีคนมาสะกิดที่ต้นแขนเรียกฉันเบาๆพอฉันลืมตาก็พบว่ามีผู้ชายสองคนยืนรอตรงหน้าประตูส่วนอีกคนยืนอยู่ข้างๆฉัน

“คะ?” ฉันก็ขานรับไปสั้นๆอีหรอบนี้คงไม่พ้นมาถามเรื่องอย่างว่าแหงๆ

“พี่สนใจน้อง...คิดเท่าไหร่หรอ” ผู้ชายท่าทางมึนเมาและดูเจ้าชู้ประตูมากถามขึ้นอย่างน่ากระโดดถีบสองขาคู่เข้าให้

ก็ไม่ผิดจากที่คิดเพราะฉันเจอเรื่องแบบนี้มาตลอด จะบอกว่าฉันหลงตัวเองก็ได้ เพราะหน้าตาฉันก็ไม่ได้แย่แถมเนื้อตัวกำลังเปล่งปลั่งไปตามวัยสาวเรียกว่า ‘สวยสงาด’ เลยก็ว่าได้

“หนูแพงนะพี่ไหวหรอ?” ฉันตอบไปสีหน้ายังยิ้มๆอยู่

พวกผู้ชายต่างหันไปมองหลิ่วตาให้กันราวกับกำลังเดิมพันอะไรกันอยู่

“น้องคิดเท่าไหร่ล่ะครับคนสวย พี่ให้ห้าพันพอไหม?”

หืม!อีน้องนี่อยากเอาหนังกระติ๊กยิงกรอกปากพี่จังเลยพูดมาได้ห้าพัน! แต่ละคนที่เคยเข้ามาทาบทามไม่มีใครให้ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นทั้งนั้นเลย อีพี่คนนี้ตาต่ำมากพูดมาได้ไงให้ฉันแค่ห้าพัน

“ห้าแสนค่ะพี่ไหวไหม?ถ้าจ่ายไหวหนูพร้อมจะไปกับพี่ตอนนี้เลยค่ะ!” ฉันบอกพร้อมกับอมยิ้มจิกตาแบบพี่กิ๊ก สุวัจนีใส่

“โหน้อง!พูดเป็นเล่นไปแบบนี้...เนี่ยนะคิดตั้งห้าแสนบ้าไปแล้ว” ไม่พูดป่าวแต่ยังมองฉันขึ้นลงตั้งแต่หัวจรดเท้า

หืมมม..มองอย่างนี้อีสีฟ้าชักของขึ้นแล้วนะ!!

“ก็ปกติหนูร้องแต่เพลง...ไม่ได้ขายแต่ถ้าพี่อยากได้ก็จ่ายมาสิคะ”

กล้าไหมล่ะ?

“ไปเหอะพวกมึง!แม่งทำเป็นเล่นตัวกะจะโก่งราคาอ่ะดิกูไม่เอาก็ได้ไปหาคนสวยๆกว่านี้มีเยอะแยะ!”

ดูมัน!คำพูดแต่ละคำน่าเอาน้ำร้อนไล่สาดเหลือเกิน ไม่รู้ว่าที่บ้านสอนกันมายังไง โตมาถึงได้มาเป็นภาระสังคมแบบนี้!

แต่ฉันก็ไม่เอาอนาคตไปแลกกับคนไร้ค่าแบบนี้หรอกนะ ใครอยากพูดอะไรก็ปล่อยเขาไป คนอย่างฉันแค่ทำงานหาเงิน กินให้อิ่มแล้วก็นอนให้หลับอยู่กับลุงไข่และป้าหวันสามคนก็มีความสุขดีแล้ว

พักอยู่สักครู่ก็ลุกขึ้นแต่งหน้าลุคใหม่แต่ยังคงสไตล์ความเซ็กซี่เหมือนเดิม ครั้งที่แล้วฉันปล่อยผมให้มันสยายไปทางด้านหลังแล้วมันก็ร้อนมากๆ แต่รอบนี้ฉันเกล้ามันขึ้นไปมัดไว้ที่กลางศีรษะแล้วแต่งหน้าเข้มขึ้น

คอนเซ้ปปากไม่แดงไม่มีแรงเต้นก็มา ส่องกระจกตอนแรกฉันยังตกใจตัวเองคิดว่าไปกินเลือดใครมา มันแดงมากจริงๆนะ

หลังจากนั้นฉันก็ยึดเวทีมาเป็นของฉันอีกครั้ง ท่วงท่าการโยกย้ายส่ายเอวบอกเลยว่าไม่เป็นสองรองใครนะจ๊ะ สังเกตุจากโต๊ะด้านหน้าที่นั่งอ้าปากค้างกับลีลารูดเสาของฉันเชียวล่ะ

“สาวบางโพนั้นโก้จริงๆ” จังหวะเพลงนี้มันให้จริงๆด้วยนะ นาทีนี้ฉันก็ทั้งโยกทั้งเต้นสะบัดก็เนื่องจากว่าชั่วโมงสุดท้ายของการทำงานฉันก็จะอัดเครื่องดื่มมาเพื่อให้หน้าสูบฉีด มีอารมณ์ร่วมสนุกในงานมากขึ้น

บอกเลยว่าหวานกว่าตัวฉันก็คงจะเป็นลูกกระตาแล้วล่ะ หยาดเยิ้มหยดย้อยเลยเชียวล่ะ โยกให้สุดแล้วไปหยุดที่โรงพยาบาลสาเหตุก็คงจะเอวเคล็ดขัดยอกล่ะค่ะ

กว่าจะหมดชั่วโมงเล่นเอาทั้งร้องทั้งเต้นจนคอแทบแตก โยกย้ายสะโพกจนปวดขาไปหมด แต่ก็สนุกเพราะถ้าเราร้องเพลงไม่มีความสุขคนที่มาดูเราเขาจะสนุกด้วยได้ยังไง

หลังจากลงจากเวทีฉันก็เดินโบกไม้โบกมือไล่ความร้อนบนใบหน้าให้ออกไปหลายๆคนเริ่มทะยอยเก็บของเตรียมตัวกลับ ส่วนฉันมีหน้าที่แต่มาร้องอย่างเดียวเปลี่ยนเสื้อเสร็จก็กลับบ้านได้ ถามว่าไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าได้ไหม?

ก็ได้นะ...ถ้าอยากถูกฉุดลงข้างทางน่ะ 

ก็ชุดที่ใส่แต่ละตัวโป๊จะตายต่อให้เซฟตัวเองดีแค่ไหนคนมองก็ยังมองว่าเราแต่งตัวมาโชว์ล่อเสือล่อตะเข้อยู่ดี

“ห้าแสนใช่ไหม?”

อยู่ๆก็มีเสียงคนดังมาจากด้านหลังของฉัน

“คะ?” ฉันก็ขานรับไปอย่างโง่ๆงงๆ

“จ่ายห้าแสนแล้วคุณจะยอมไปด้วยใช่ไหม?” ผู้ชายที่ฉันสบตากับเขาบนเวทีเป็นคนถามขึ้น

เสียแรงที่อุตส่าห์หลงเห็นความหล่อ แต่เขาก็เหมือนผู้ชายคนอื่นๆเห็นผู้หญิงเป็นแค่ของเล่นเท่านั้นเอง!

“ก็...ค่ะ” อ้าวเฮ้ยแล้วฉันไปตอบรับเขาทำไมวะ ถ้าเขาเกิดบ้าจี้จ่ายมาจริงๆฉันไม่ต้องไปบำเรอเขาหรือไงเนี่ย

แต่คงไม่หรอกฉันว่าเขาคงจะแกล้งลองใจฉันเล่นๆมากกว่า ถึงฐานะอย่างเขาจะมีจ่ายให้ไม่อั้นก็ตาม แต่เขาคงไม่บ้ามาซื้อผู้หญิงธรรมดาๆอย่างฉันหรอกมั้ง

“งั้นก็ไปสิ...เดี๋ยวผมโอนเงินเข้าให้คุณเลย” พูดจบเขาก็ดึงมือฉันให้เดินตามเขาไปด้วย

“ดะ..เดี๋ยวสิคุณ!” ฉันร้องท้วงเขา

“อะไรอีกล่ะ!อย่าบอกนะว่าจะโก่งราคากันอีก” ให้ตายเถอะนี่ชีวิตฉันทำบาปอะไรมาถึงได้เจอแต่อะไรแบบนี้ในทุกๆวันเลยเนี่ย

“กระเป๋าฉัน!” ฉันขึ้นเสียงใส่แล้วเดินไปคว้าเอากระเป๋าสะพายมาคล้องไหล่ไว้

“อื้ม...ก็ไปสิ” แล้วเขาก็เดินโอบเอวฉันออกไปผ่านสายตาใครต่อใครอีกหลายคนโดยเฉพาะอีตาที่มาถามซื้อฉันตอนแรกที่มองมาที่ฉันอย่างเหยียดๆ

“หึก็ขายเหมือนกันล่ะวะ!” แว่วเสียงเหยียดหยามตามจนฉันชักอยากจะน้ำตาร่วงขึ้นมาซะแล้วสิ

“ขึ้นรถสิ!” เขาเดินมาเปิดประตูรถคันหรูดูแพงให้ฉันขึ้นไปนั่ง

“เดี๋ยวสิคุณคือฉัน...คือว่า” ฉันจะบอกเขายังไงดีว่า ‘ไม่ได้ขาย’ แต่การที่ฉันเดินตามเขามาแบบนี้ก็ทำให้เขาเข้าใจไปถึงไหนต่อไหนแล้วล่ะมั้ง

“เอาน่าคุณ...ผมไม่เบี้ยวค่าตัวคุณหรอกน่าขึ้นไปนั่งก่อน” เขาดันแผ่นหลังฉันให้เข้าไปนั่งในรถก่อนที่จะอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ

กรี๊ดดดดฉันอยากจะบ้า!!!

“คุณ...คือว่าฉันไม่ได้ขายนะ!ฉันขอโทษที่ทำให้คุณเข้าใจผิดคุณปล่อยฉันลงตรงนี้เถอะนะ!” ฉันพยายามเรียบเรียงคำอธิบายกับเขาเพื่อที่เขาจะได้ไม่คิดว่าฉันอยากจะโก่งราคาค่าตัวกับเขา

“อยากให้ผมจ่ายเพิ่มหรอ?” เขาหันมามองพลางเลิกคิ้วถามแล้วกดสตาร์ทรถขับออกไป

“นี่คุณ!พูดไม่ได้ยินหรือไง!ก็ฉันบอกว่าไม่ขายไม่ขาย!ไม่ได้ขายแค่มาร้องเพลงเฉยๆเว้ย” ฉันอดไม่ไหวหันไปตะคอกใส่เขาสุดเสียง

“แต่ผมได้ยินคุณตกลงราคากับพนักงานของผมนี่”

“นั่นก็เพราะฉันไม่คิดว่าจะมีใครโง่มาจ่ายให้ฉันตั้งห้าแสนนี่นา!”

“....”

“คุณจอดรถให้ฉันลงเถอะนะมันก็แค่เรื่องเข้าใจผิดกันน่ะ”

“อืม...แต่ผมถูกใจคุณนะคุณรับข้อเสนอของผมเถอะ”

“โอ๊ยคุณพูดไม่รู้เรื่องหรอ!”

.

.

.

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เรื่องสั้นลับๆฉบับรักๆ   บาปรัก 7: แม่มึงแต่เมียกู (จบ)

    วันต่อมาผมก็พาพี่ปรางกลับบ้านที่มีลูกชายเธอและเพื่อนสนิทผมนั่งหน้าบอกบุญไม่รับรออยู่ก่อนแล้ว“แม่ไปไหนมาทำไมไม่กลับบ้านแล้วนี่ไปไหนกันมา”เมื่อมาถึงคิวก็เดินดุ่มๆเข้ามาถามสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดสุดฤทธิ์คนเป็นแม่ได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริงๆ“ว่าไงไอ้โจ้มึงพาแม่กูไปไหนมาทั้งคืนทำไมถึงเพิ่งกลับมากันป่านนี้”“คือ..ว่าไอ้คิวมึงฟังกูพูดก่อนนะคือ..” ผมเองก็ยังหวาดๆกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของมันจนถึงขั้นตัวลีบเลยทีเดียว“ฟังเหี้ยอะไร!มึงพาแม่กูหายไปทั้งคืนเนี่ยนะไอ้สัสโจ้” ไอ้คิวตะคอกใส่ผมเสียงดีังลั่น“คิวใจเย็นๆก่อนนะลูกค่อยๆพูดกันก็ได้” พี่ปรางพยายามปลอบไอ้คิวเสียงอ่อนพลางลูบหลังมันเบาๆ“งั้นแม่ก็บอกมาดิว่าหายไปไหนกับมันมาทั้งคืน” ไอ้คิวตะคอกใส่พี่ปรางจนหน้าเสีย“ไอ้สัสคิวมึงอย่าตะคอกใส่แม่มึงแบบนั้นสิวะ” พอเห็นเมียผมหน้าเสียแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้“อย่าเสือกนี่แม่กู!”“แม่มึงแต่เมียกู!”“ไอ้สัสโจ้!”ผลั๊ว!เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ตรงปากและจมูกผมพอดีจนมึนไปชั่วครู่สักพักลิ่มเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากผมเล็กน้อย“ว๊าย!อย่านะลูกหยุดๆ” พี่ปรางร้องไห้เสียงดังพยายามรั้งแขนไอ้คิวไม่ให

  • เรื่องสั้นลับๆฉบับรักๆ   บาปรัก 6: พี่เป็นเมียผมแล้วนะ

    บันทึกพิเศษปรางในความเย็นเยียบที่ได้รับทำให้ฉันรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านวาบไปทั่วทั้งร่างกายรับรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆแต่ทว่า...ผ้าห่มไปไหน?รู้สึกได้ว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าซึ่งนั่นเป็นปกติเวลาที่ฉันเข้านอนจะชอบโนบราและแก้ผ้านอนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมคืนนี้มันหนาวผิดปกติกันนะแม้จะแปลกใจแต่มือฉันก็ปัดป่ายควานหาผ้าห่มที่คาดว่าตัวเองน่าจะถีบออกจากตัวไปอยู่มุมไหนสักที่นั่นแหละ คลำหาไปได้สักพักก็รู้สึกว่าตัวเองไปคว้าหมับเข้ากับอะไรสักอย่างที่มัน ‘ร้อนผ่าว’ และนุ่มนิ่มมือ เมื่อเห็นว่าเออจับแล้วมันก็อุ่นดีฉันก็เลยจับๆขยำๆไปเรื่อยๆสักพักอ้าวเห้ย!ทำไมมันใหญ่ขึ้นวะ?แถมมันยังแข็งและร้อนราวกับอังไฟมา รูปร่างลักษณะมันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับ....ไอ้นั่นของผู้ชาย!แม้จะไม่อยากลืมตาตื่นสักเท่าไหร่แต่ความสงสัยก็ทำให้ฉันต้องตื่นลืมตามองสิ่งที่อยู่ในมือ แต่แวบแรกเลยทีเห็นคือแผงอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามลากสายตาลงมาก็หน้าท้องหนั่นแน่นชวนให้ลูบไล้ขยำเล่นดีจังถัดมาก็เออ!นั่นแหละฉันกำลังจับไอ้นั่นของเพื่อนลูกชายอยู่ แถมไม่ได้จับธรรมดานะทั้งลูบคลึงขยำชักรูดชักลงอีกต่างหาก ให้ตายเถอะนี่เธ

  • เรื่องสั้นลับๆฉบับรักๆ   บาปรัก 5: ม่านรูดระทึกรัก

    โรมแรมม่านรูดไม่ไกลจากห้างดังเสียงปิดประตูรถดังปังทันทีที่เด็กรับรถรูดม่านมาปิดไว้ผมยื่นเงินค่าห้องให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมพร้อมทั้งทิปแล้วดึงมือพี่ปรางลากเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วเมื่อครู่แม้จะปลดปล่อยไปแล้วครั้งนึงแต่ทว่าตรงหน้าขาผมยังแข็งปึ๋งผงาดทิ่มเนื้อผ้ากางเกงออกมาให้ได้เห็น ปวดไปหมดสงสัยมันอยากจะทลวงเข้าไปในช่องแคบอีกครั้งเสียแล้ว“อ๊ะ..เบาๆ หน่อยสิชั้นเจ็บนะ” พี่ปรางดุเบาๆ ในตอนที่ถูกผมดันร่างเธอเข้ากับพื้นผนังเย็นเยียบอย่างแรง“ขอโทษ...ผมทนไม่ไหวต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กระแทกพี่ตอนนี้” ผมงึมงำเบาๆ ขณะริมฝีปากไล่ขบเม้มซอกคอเนียนหอมละมุน“ซี๊ดดดดด~~บ้าเวอร์ไปล่ะไปอดอยากจากไหนมาห๊ะ...”“ฮื้มม~ตัวพี่หอมจัง...พี่ไม่รู้หรอที่จริงผมอยากแล้วก็แข็งตั้งแต่เห็นพี่ที่สระว่ายน้ำแล้ว” เสียงผมสั่นกระเส่าอยากไม่อาจห้ามได้ ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนลอยมามังกรยักษ์ก็อยากโผล่หัวมาทักทายเหยื่อสาวเสียแล้ว“หมายความว่าเมื่อคืนเธอแอบดูพี่ที่สระด้วยหรอ” พี่ปรางดันหน้าผมออกจากเนินอกเธอแล้วถามเสียงเข้ม“อื้ม..ก็เมื่อคืนผมนอนไม่หลับกะว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ ใครจะไปรู้ว่าจะได้เจอเงือกสาวแสนสวยใส่บิกินี่

  • เรื่องสั้นลับๆฉบับรักๆ   บาปรัก 4: ไปโรงหนังแต่ได้กลับโรงแรม

    คืนนั้นหลังจากถูไถแค่ภายนอกจนเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ดึกๆช่วงตีสี่กว่าๆผมก็ย่องออกมานอนที่ห้องของตัวเองที่ไอ้คิวมันจัดไว้ให้แล้วหลับต่อไปยันสายตรู่ทั้งผมทั้งไอ้คิวต่างตื่นสายด้วยกันทั้งคู่โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์เราไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ส่วนแม่ไอ้คิวผมยังไม่เห็นเลยนะสงสัยจะเขิน“ไงมึงหลับสบายดีไหมบ้านกู” เสียงไอ้คิวถามพลางยิ้มอารมณ์ดี แน่ล่ะสิเมาหลับไปตั้งแต่หัวค่ำละมั้ง“อืม..ดีมากกูหลับสนิทเลย” เสียไปตั้งหลายน้ำจะไม่หลับได้ยังไง!“มากินข้าวก่อนนี่แม่กูทำข้าวต้มปลาไว้ให้มึงจะเอากาแฟไหมกูจะได้ให้พี่สมพรไปชงมาให้”“เออเอาก็ได้” ผมพยักหน้ารับรู้สึกอยากได้คาเฟอีนเข้ามาในร่างกายเหมือนกันเพราะเช้านี้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจริงๆฝีมือทำกับข้าวของแม่ไอ้คิวก็อร่อยดีนะ ส่วนคนทำไม่รู้หนีหายไปไหนแล้วผมมองๆหาก็ไม่ยักจะเห็นเลย“เออแล้วนี่แม่มึงไปไหนหรอวะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะสงสัยอยู่บนห้องมั้งว่าแต่มึงเถอะวันนี้จะไปไหนต่อเปล่า”“ไม่รู้ว่ะเบื่อๆคงนอนอยู่บ้านแหละกูขี้เกียจออก”“ไปดูหนังกับกูไหมล่ะพอดีกูชวนแม่ไปดูหนังรอบบ่ายมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิไปกับแม่สองคนกูอาย” ไอ้คิวมันบอกในขณะที่ผมนึกขำ

  • เรื่องสั้นลับๆฉบับรักๆ   บาปรัก 3: ชอบสัมผัสของผมไหม

    หญิงสาวผมเผ้าหลุดรุ่ยเนื้อตัวเปลือยเปล่ามองหนุ่มรุ่นลูกตาปรอยเนื้อตัวสั่นระริกราวกับจะอ้อนวอนขอให้เด็กหนุ่มช่วยเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดหายไปหลายสิบปีให้หน่อย เด็กหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากอิ่มเอิ่มที่แย้มออกดูเย้ายวนชวนให้คลุกเคล้าดื่มด่ำความหวานหอมในโพลงปากนุ่มเหลือเกิน“อื้อออออออ” เสียงหวานครางกระเส่าในลำคอเมื่อถูกเด็กหนุ่มบดจูบอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นอุ่นชื้นพลิกไล้ไปตามไรฟันขาวสะอาดเลาะเล็มน้ำหวานตามโพลงปากด้านในจนน้ำลายของทั้งสองคนไหลย้อยออกมาตามมุมปาก“ชอบไหม?ชอบให้ผมสัมผัสแบบนี้ไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่าของเพื่อนลูกดังขึ้นอีกครั้งที่ข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่เขาเป่าใส่อย่างยั่วเย้าหลังจากที่เขาละริมฝีปากออกปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอออกบ้างหลังจากที่ถูกจูบดูดวิญญานเข้าไปหลายนาทีจากนั้นก็ลากริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนดูดกลืนผิวเนื้ออ่อนหอมละมุนจนมันขึ้นสีคล้ำเป็นจ้ำแล้วก็ลากลงมาไซร์เนินอกอวบอิ่มเบียดชิดชูชันตั้งตะหง่านอีกครั้ง“อื้มมมมม” มีเพียงเสียงครางอื้ออึงไม่ได้สรรพ์ดังตอบรับการกระทำแค่นั้น นาทีนี้หัวสมองเธอว่างเปล่าไปหมดครุ่นคิดอะไรไม่ออกแม้แต่นิด“แม่ครับ...ผมขอเลียหน่อยนะครับ” คำพูด

  • เรื่องสั้นลับๆฉบับรักๆ   บาปรัก 2: มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับแม่

    ร่างขาวโพลนในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในสระท่ามกลางไฟที่สาดส่องพอให้เห็นสลัวๆชวนให้ผมนึกจินตนาการถึงนางเงือกแสนสวยที่แหวกว่ายวนไปมาขาเรียวขาวได้รูปไร้ไขมันปะปนที่กำลังตีขาบนน้ำก็ดูน่าหลงใหลชวนให้นึกถึงเวลาที่ขาเรียวงามสองข้างมาพาดบนบ่ากว้างของผมมันคงให้ความรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียวบิกินี่สีแดงสดช่างขับผิวของแม่ไอ้คิวได้ดีเหลือเกินเพราะเมื่อมันทาบลงบนร่างอรชรยิ่งทำให้ตัดกับสีผิวขาวผ่องไปทั้งตัวจริงๆ สายเส้นเล็กๆที่เกาะต้นคอเนียนนั่นดูเกะกะตาดีเหลือเกินเห็นแล้วผมอยากกระตุกมันออกทิ้งไปไม่นานเหมือนว่าแม่ไอ้คิวคงจะว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วมั้ง ร่างบอบบางของเธอจึงเดินขึ้นมานั่งบนขอบสระ หลังจากนั้นเธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอวันนี้นั่นก็คือแม่ไอ้คิวปลดบิกินี่ทั้งท่อนบนและท่อนล่างออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่าท้าสายลมจากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมช้าๆราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่อยู่ๆก็แก้ผ้าท้าลมหนาวเช่นนี้ขนผมลุกซู่หอบหายใจรัวเลยล่ะรู้สึกว่าหัวใจทำงานหนักมากเวลานี้ ไม่ใช่แต่ขนนะที่ลุก ‘อย่างอื่น’ ผมก็ลุกเช่นกัน‘ให้ตายเถอะนี่แม่เพื่อนนะไอ้โจ้ท่องไว้แม่เพื่อน...แม่เพื่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status