LOGIN“อื้อออ~ก้อยเสียวใส่เข้ามาเลยนะคะทีขาาอ่าาาห์~” ฉันครางกระเส่าขณะเสียดสีบั้นท้ายให้เนินเนื้ออ่อนนุ่มแนบชิดแก่นกายแข็งขืนของเขามากขึ้น
“ซะ..ซี๊ดดด~เร่าร้อนจริงๆเมียจ๋า อาาาส์~ใจผัวจะขาดอยู่แล้ว” เขาคำรามเสียงต่ำมือหนาจับท่อนลำท้ังยาวทั้งใหญ่บดเบียดถูไถไปตามรอยแยกกลางลำตัวของฉันแล้วกดมันอัดลงไปทีละนิดอย่างช้าด้วยความยากลำบาก
“อ๊าาาห์~จะ..เจ็บอ่าา!” ฉันเผลอร้องเสียงดังเมื่อรู้สึกคับแน่นที่โพลงสวาทมันทั้งเจ็บและเสียวไปพร้อมๆกันเลยทีเดียวทั้งๆที่เขาสอดแก่นกายมายังไม่ถึงครึ่งทางของเขาเลยด้วยซ้ำ
“อ่าาาส์~ฟิตจังทูนหัว!ทั้งตอดทั้งรัดผัวแน่นไปหมดแล้วซะ..ซี๊ดด~” เขาขบกรามคำรามเสียงกระเส่าก่อนจะตัดสินใจกระแทกเอวสอบใส่มาในตัวฉันเต็มแรงจนส่วนนั้นของเขาถูกฉันกลืนกินเอาไว้ทั้งลำยาวแนบสนิท
ปึ๊ก ปึ๊ก
“อ๊ะ..อ๊ายยยย!” ทั้งเสียวแปลบทั้งเจ็บแสบไปทั้งร่องสวาทจนน้ำตาไหลออกมาตามหางตาอย่างห้ามไม่อยู่ใบหน้าซบลงสะอื้นเบาๆกับหมอนหนุนใบใหญ่
“ขะ..ขอโทษผมทนไม่ไหวคุณตอดผมแน่นเกินไปน่ะทูนหัว” เขาบอกพร้อมกับกอดรัดฉันจากทางด้านหลังไว้นิ่งๆ แตะริมฝีปากไล้ไปตามแผ่นหลังนวลเนียนอย่างถือสิทธิ์และจูบซับทำร่องรอยสีกุหลาบเอาไว้หลายจุด
“อะ..เอ่อไม่เป็นไรค่ะ” ฉันที่ถูกเขาเล้าโลมไปด้วยสองมือใหญ่นุ่มบนยอดอกสีหวานที่ชูชันถูกเขาบดขยี้จนน้ำหล่อลื่นช่วงล่างเริ่มไหลทะลักออกมาจนมันคลายความอึดอัดลงได้บ้าง
“ซะ..ซี๊ดดด~เสียวมากผัวจะขยับแล้วนะ!” เขาถามในขณะที่ช้อนต้นคอให้ฉันหันหน้ามามองสบตากับสายตาร้อนแรงราวเปลวไฟของเขา
“ค่ะ..อ๊าาาห์~ขยับเลยค่ะซี๊ดดด~” ฉันบอกในขณะที่แอ่นบั้นท้ายเบียดไปกับลำกายใหญ่ยาวของเขาที่เริ่มขยับสะโพกสอบช้าๆเนิบนาบ
ผู้ชายที่ได้เป็นคนแรกและเป็นเดียวที่ได้แตะต้องและสัมผัสเนื้อตัวของฉันมีแค่เขาคนนี้คนเดียวเท่านั้นที่ฉันอนุญาติให้ได้ ที่ผ่านมามีหลายคนที่เข้ามาขอโอกาสจากฉัน แต่ว่าฉันไม่พร้อมจะเปิดใจรับใครจริงๆ ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะฉันยังกลัว...กลัวว่าจะต้องเจ็บหนักเหมือนเมื่อแปดปีที่ผ่านมาอีก
ปึ้ก ปึ้ก ส่วบ ส่วบ! เสียงเขากระแทกสะโพกสอบเข้าใส่ร่องฟิตๆของฉันเต็มแรงขยับกระแทกกระทั้นมันอย่างหนักหน่วงและดุดันตามแรงอารมณ์
“ซะ..ซี๊ดดด~ตอดแน่นจังอ่าาส์~สะ..เสียวลำไปหมดแล้วโอ๊ววว~”
“อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊าาาาห์~บะ..เบาหน่อยคุณทีขา~มันจะ..จุกอื้ออ~” เขากระแทกกระทั้นในตัวฉันจนหัวสั่นหัวคลอนครางเสียงสั่นสะท้าน
ปึก ปึก ส่วบ ส่วบ ตั่บ ตั่บ ตั่บ!
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังกังวานภายในห้อง ท่อนลำอวบยาวบดเบียดเสียดสีกับร่องหลืบคับแน่นของฉันอย่างหนักหน่วง ส่วนปลายหัวกลมมนครูดสีไปแถวติ่งกระสันต์จนฉันกรีดร้องครางเสียงหลงด้วยความเสียวซ่านสุดหัวใจ
ให้ตาย!ฉันกลัวตัวเองจะหัวใจวายตายคาอกเขาจัง!
“ซะ..ซี๊สสส~อ๊าาาส์ใจผมจะขาดคุณตอดรัดผมแน่นเกินไปแล้วนะทูนหัว อ๊าาาส์~” เขาครางแหบพร่าในขณเที่ที่ก้มหน้าดูดดึงเนื้ออ่อนแถวหลังคอฉันจนขนลุกชันไปทั่วทั้งร่างกาย
ตั่บ ตั่บ ตั่บ ตั่บ!
เขาจับสะโพกงอนงามของฉันไว้ให้มั่นแล้วกระหน่ำสะโพกกระแทกใส่ไม่ยั้งจนเราต่างคนต่างครางระงมด้วยความเสียวเสียดจนแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใครแล้ว
“อ๊าาาห์~คะ..คุณทีขาตะ..ตรงนั้นมันอ๊ะ..อ๊าาาห์สะ..เสียวมาก” ฉันยิ่งครางดังมากกว่าเดิมเมื่อเขากระแทกไปโดนจุดเสียวในตัวของฉันเข้า
“ฮื้มมม~ตรงนี้หรอ!ซะ..ซี๊ดดด~เสียวมากไหม?” เขาก็ทำราวกับจะแกล้งกันเมื่อเขาเจอจุดกระสันต์เขาก็บดเบียดท่อนลำให้โดนตรงจุดนั้นของฉันเน้นๆจนมือฉันที่จิกลงบนผ้าปูที่นอนแทบขาดเป็นริ้วๆไปแล้ว
“อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊าาาห์~ใกล้แล้วคุณทีขาอ๊ะ..อื้ออ~”
แล้วฉันก็ต้องครางอย่างขัดใจเมื่อวินาทีที่ฉันใกล้จะไต่ไปขอบสววรค์ชั้นฟ้าแต่เขากลับดึงฉันลงมาโดยการดึงตัวเองเอนตัวลงนอนแล้วให้ฉันคล่อมทับบนตัวเขาแทนแอ่นบั้นท้ายเข้าหาหันใบหน้าไปทางเท้าเขาแทน
“เอาล่ะทีนี้ขย่มลงมาเลยจ้ะทูนหัว!เอาแรงๆเท่าที่คุณพอใจได้เลยซะ..ซี๊ดดด~ท่านี้เข้าลึกจังอ่าาาส์เสียวไปหมดเลย” เขาบอกพร้อมขยับบั้นท้ายฉันให้ขยับขึ้นลงเข้าแล้วก็ออกช้าๆเร่งจังหวะไปทีละนิดๆ
“อื้ออ~โคตรเสียวเลยคุณทีขาาาก้อยใจจะขาดแล้ว..ของคุณใหญ่เกินไปรูก้อยจะแหกหมดไหมเนี่ย” ฉันรู้ว่าเสลาอยู่บนเตียงเขาชอบเซ็กแบบหื่นๆห่ามๆมันจะยิ่งทำให้เขาเสียวสะท้านมากเป็นเท่าตัว
“ผมจะเอาให้รูคุณแหกไปเลยทูนหัวซี๊ดดด~อ๊าาาส์~”
“อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊าาาห์~ก้อยขย่มแรงแบบนี้คุณชอบไหมคะทีขา”
“ชะ..ชอบอ่าาาห์~ชอบมากเลยกระแทกลงมาแรงๆเลยเมียจ๋าผัวอยากแตกในตัวเมียแล้วซะ..ซี๊ดดด~”
ถ้อยคำหยาบโลนยิ่งกระตุ้นให้ฉันเปียกชื้นและเร่าร้อนมากขึ้นเหมือนกับเขาที่เด้งสะโพกตอบรับการขย่มลงมากระแทกตัวตนแข็งขืนร้อนผ่าวของเขาอย่างรุนแรง...
“ซะ..ซี๊ดดด~ผะ..ผัวขาเมียจะเสร็จแล้วอ๊าาาห์มะ..ไหวอู้ยยย~แน่นจังอึดอัดร่องไปหมด” ฉันครางฮืออย่างสุดทนร่องรักฉันบีบกระชับถี่ๆเป็นสัญญานว่าฉันจะเสร็จอีกครั้งในอีกไม่กี่วินาทีนี้
“ปล่อยมาเลยทูนหัวซะ..ซี๊ดดด~ผัวจะแตกแล้วเหมือนกันระ..เราเสร็จพร้อมกันเลยนะโอ้วววว~”
ตั่บ ตั่บ ตั่บ
“กรี๊ดดดด~อร๊ายยยย~/ซี๊ดดด~โอ้ววว~”
สองเสียงสอดประสานกันพร้อมกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเป็นจังหวะสุดท้ายก่อนที่ร่างฉันจะเกร็งกระตุกแล้วซวนซบนอนบนอกแข็งแกร่งของเขา ส่วนเขาก็ฉีดพ่นเชื้อพันธ์สารเลวเข้าในตัวฉันจนทุกหยาดหยด เห็นทีฉันต้องออกไปหายาคุมฉุกเฉินมากินเพื่อไม่ให้เลือดชั่วๆจากตัวเขาถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งเสียก่อน...
ลึกๆฉันรู้สึกผิดมากนะกับลูกที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แต่กลับต้องมาจากไปทั้งที่ยังไม่ทันลืมตามาดูโลกเลยซ้ำกับความผิดชอบเพราะอารมณ์ชั่ววูบของฉัน ไม่รู้เหมือนกันนะว่าถ้าวันนั้นฉันไม่คิดสั้นทำอะไรบ้าๆขึ้นมาป่านนี้ฉันว่าเขาคงเติบโตมามีความสุขท่ามกลางป้าๆน้าๆอย่างพวกอีว่านอีฝ้ายอีพีทไปแล้ว
นึกขึ้นมาแล้วก็เจ็บกับทุกถ้อยคำที่เขาตะโกนด่าว่าและดูถูกสารพัด มันบาดลึกอยู่ในหูเจ็บลึกในความทรงจำต่อให้ตายก็คงจะไม่ลืมง่ายๆแน่
คิดได้อย่างงั้นฉันก็ตะเกียกตะกายลงจากบนตัวเขาราวกับถูกของร้อนลวกใส่ ฉันก้าวเท้าลงไปยืนที่ข้างเตียงในสภาพเปลือยเปล่าอย่างไม่เหนียมอาย ในเมื่อตอนนี้มันไม่มีอะไรจะให้ฉันเสียอีกแล้ว
“แต่งตัวแล้วก็กลับห้องของคุณไปซะ!หวังว่าฉันอาบน้ำเสร็จแล้วคงจะไม่เห็นคุณเสนอหน้าอยู่ที่นี่อีกนะคะ!” ฉันไม่จำเป็นต้องพูดเพราะหรือสุภาพกับคนที่ทำลายชีวิตของฉันอีก
“แหม...เสร็จปุ๊บก็เปลี่ยนอารมณ์ปั๊บเลยนะทูนหัว” คำพูดเขาหยอกเย้าก็จริงแต่สีหน้าเขานิ่งเรียบราวกับกำลังคิดอะไรในใจ
“เลิกเรียกฉันแบบนี้สักที..ฉันขยะแขยง”
ฉันตวาดใส่เขาแล้วก้าวยาวๆเข้าไปในห้องน้ำแล้วล็อคประตูให้แน่นจากนั้นก็เปิดน้ำจากฝักบัวให้มันไหลแรงๆเพื่อกลบเสียงของฉันที่มันกำลังปล่อยโฮดังลั่นอย่างสุดทน
แม้จะพูดจาร้ายๆใส่หรือทำท่าทางรังเกียจใส่เขา แต่ทว่าทำไมใจฉันมันต้องรู้สึกเจ็บตามไปด้วย แปดปีที่ฉันจมดิ่งอยู่กับความทุกข์โดยที่คนทำเขาไม่รู้สักนิดว่าการกระทำของเขาจะทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นแบบนี้
“ฮะ..ฮึ่กๆฮื่อๆๆทะ..ทำไมๆ” ได้แต่ถามตัวเองว่าทำไม?ทำไมถึงทำใจให้เกลียดเขาไม่ได้สักทีทั้งๆที่อยากจะเกลียด!
แปดปีที่ผ่านมาฉันเคยคิดว่าถ้าได้เจอเขา ฉันจะเอาคืนเขาให้สาสมจะทำให้เขาเจ็บเหมือนกับที่ฉันเคยเจ็บเป็นร้อยเท่าพันเท่า คงามสูญเสียที่ฉันได้รับฉันจะให้เขาเป็นคนชดใช้ทั้งหมด!
แต่ทำไม?
ยิ่งได้เห็นหน้าเขายิ่งได้ใกล้ชิดมันยิ่งกลับทำให้ฉันยังจำทุกๆอย่างตั้งแต่วันแรกที่เราได้เจอกัน วันที่ทำให้ฉันตกหลุมรักเขาจนหมดหัวใจ ทั้งๆที่ความจริงมันเป็นแค่การแสดงของเขาทั้งนั้น!
ฉันได้แต่หัวเราะไปร้องไห้ไปราวกับคนเสียสติ เรื่องนี้ฉันคงต้องให้เพื่อนช่วยคิดว่าฉันควรจะทำยังไงต่อไปดีหนึ่งชั่วโมงต่อมาฉันก็ออกมาจากห้องน้ำในสภาพตาบวมเปล่งใต้ตาแดงช้ำไปหมดจากการร้องไห้มานาน เขาไม่อยู่แล้วแถมยังล็อคประตูให้อีกด้วย
. .หลังจากทำใจมาสองวันเต็มฉันก็ตัดสินใจเข้ากรุ๊ปไลน์กลุ่มที่มีสมาชิกทั้งหมดสี่คนมีฉัน อีพีท อีว่าน อีฝ้ายเรื่องนี้ฉันต้องการคำปรึกษาจากพวกมันและสารภาพบาปที่ทำอะไรผลีผลามโดยไม่ปรึกษาพวกมันก่อน
ก้อย Koyly : พวกมึงงง!คืนนี้ว่างไหมออกมาเจอกันหน่อยได้ป่ะกูมีเรื่องจะปรึกษา...
พีท P’peetly : ได้เจอที่ไหนดี
ว่าน Whanly : เออๆร้านศจีดีไหมมึงไปหาไรอร่อยๆกินด้วย
ฝ้าย Phayly : แหมอีว่านตั้งแต่มีผัวนี่แดกเก่งงง เออๆไปร้านนี้แหละกูอยากแดกต้มยำพอดีร้านนี้เค้าอร่อย
ว่าน Whanly : แหมอีสัสทำเป็นว่ากูมึงไม่มีมั้งผัวอ่ะ
พีท P’peetly : พอๆเลิกกัดกันอีสัสอีก้อยมันมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ไว้เจอกันเย็นนี้นะกูไปทำงานก่อน
ว่าน Whanly : โอเคตามนั้น👌
ฝ้าย Phayly : เออตามนั้น👌
ก้อย Koyly : ขอบใจมากพวกมึงไว้เจอกัน
หลังจากนั้นฉันก็ตั้งหน้าตั้งตาเคลียร์งานให้เสร็จรอเวลาเลิกงาน เหลือบดูเวลาอีกทีอีกสิบห้าทีจะถึงเวลาเลิกงานฉันก็เลยหยิบเอาแฟ้มเอกสารไปส่งให้ท่านประธานเซ็นอนุมัติ อันที่จริงฉันไม่ค่อยอยากจะมาที่ห้องท่านประธานมากนักหรอกถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เพราะหมาหวงก้างมันเยอะกัดไม่ดูตาม้าตาเรือตลอด
ส่วนท่านประธานเขาเองก็มีใจให้ฉันอยู่ เวลาเจอฉันทีไรมือไม้จะชอบหมุบหมิบตามมือตามแขนฉันอย่างคนเจ้าชู้ แต่ขอโทษที่ฉันไม่ได้อยากเล่นด้วยเพราะขี้เกียจต้องไปรบรากับเลขาหน้าห้องทุกคนของเขา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แต่บังเอิญว่าที่ฉันมาตอนนี้เลขาของเขาดันไม่อยู่หน้าห้องนี่สิแล้วฉันก็จำเป็นต้องเอาเอกสารให้เขาเซ็นตอนนี้เพราะพรุ่งนี้ฉันต้องรีบส่งเอกสารให้ฝ่ายบัญชีแล้วด้วย
“เชิญ”
เสียงทุ้มนุ่มลึกอนุญาติให้เข้าพบได้ ฉันก็เปิดประตูเข้าไป
“ขออนุญาติค่ะบอสขาพอดีก้อยมีเอกสารให้คุณต้องเซ็นด่วนค่ะพรุ่งนี้ก้อยต้องส่งให้ฝ่ายบัญชีไปทำเรื่องแล้ว” ฉันบอกพร้อมกับวางแฟ้มเอกสารให้เขา
“โอเคครับงั้นคุณนั่งก่อนนะผมขอตรวจเอกสารแป๊บเดียว” เขาบอกแล้วพร้อมกับเปิดเอกสารในแฟ้มดูก่อนจะเซ็นทีละแผ่นๆจนหมด
แล้วเขาก็ส่งมันให้ฉันจังหวะที่ฉันกำลังรับมาถือไว้แต่เขาก็ยื่นมือหนามาเกาะกุมฝ่ามือเรียวทั้งสองข้างของฉันเอาไว้
“กรี๊ดดด!อีก้อยอีหน้าด้านพอฉันไม่อยู่ก็เข้ามาอ่อยผัวคนอื่นเลยนะ!” เสียงแหลมหวีดร้องราวกับผีเปรตมาขอส่วนบุญดังขึ้นจนฉันแสบแก้วหูไปหมด ส่วนบอสของฉันก็ยกมือปิดหูสีหน้าเบื่อหน่ายขึ้นมา
“เสร็จแล้วก้อยขอตัวก่อนนะคะ” ฉันไม่สนใจผีที่มาร้องขอส่วนบุญหันไปบอกพร้อมกับหันหลังจะเดินหนี แต่มือจากคนข้างหลังที่ยืนเต้นเร่าๆก็ยื่นมาคว้าเส้นผมฉันแล้วดึงจนตัวฉันถลาไปหามัน
“อ๊ะ!ปล่อยนะ!” ไอ้เจ็บหนังหัวมันเจ็บนะแต่เจ็บแต่เจ็บใจมากกว่า
“ทำไมกูต้องปล่อยอีผู้หญิงหน้าด้านอย่างมึงกูจะตบให้เสียโฉมเลยคอยดูสิ”
“รวีปล่อยคุณก้อยเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงคุณบอสสั่งเสียงเข้มในขณะที่ฉันเริ่มระงับอารมณ์ตัวเองไม่ไหวแล้ว
“จะปล่อยไม่ปล่อย!ได้ไม่ปล่อยใช่ไหม?” ฉันคว้าแขนนังนั่นขึ้นมาหักดังกร๊อบพร้อมที่ตวัดมือตบไปที่หน้าของมันสองทีซ้อนติดๆจนเลือดกลบปาก
“กรี๊ดดด!กะ..แกทำฉันเลือดออกฉันจะแจ้งความ”
“เชิญเลยย่ะฉันมีเงินเสียค่าปรับ”
บอกแล้วว่าให้ปล่อยแต่แรกไม่เชื่อเอง ก็ฉันน่ะอุตส่าห์ไปเรียนยูโดมานะต่อยมวยก็เรียนมาบ้างเพราะออกมาใช้ชีวิตคนเดียวตั้งนานหลายปีตำเป็นต้องมีวิชาไว้ป้องกันตัวกันบ้างแหละ
“บอสขา...บอสต้องไล่มันออกให้รวีนะรวีไม่ยอมดูสิมันทำรวีเลือดออกเลย!” แม่เลขาหันไปออดอ้อนออเซาะคู่ขาหารู้ไหมว่าเค้าก็เบื่อหล่อนจะแย่ คงอีกไม่นานที่เขาจะต้องเปลี่ยนเลขานุการอีกแล้วสินะ
“คุณรวี...” เขาเรียกเสียงอ่อน
“ขา...” หล่อนขานรับเสียงหวานพลางทำหน้าอวดอ้างใส่ฉันจนหน้าตบให้อีกสักฉาดสองฉาด
“ผมไล่คุณออก ไปรับเงินชดเชยได้ที่แผนกบัญชีนะ” เขาบอกพร้อมกับเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม
“ไม่นะ...รวีไม่ยอมรวีเป็นเมียคุณแล้วนะคะคุณจะทำอย่างนี้กับรวีไม่ได้” แม่นั่นกรีดเสียงร้องส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้
“ถ้านอนกลับผมแค่ครั้งสองครั้งแล้วได้เป็นเมียผมป่านนี้เกือบทั้งออฟฟิศนี่ก็เป็นเมียผมหมดทั้งนั้นแล้วสิเชิญคุณออกไปดีๆจะดีกว่านะรวี”
“บอส!ได้คุณจำไว้เลยนะ” หล่อนขี้หน้าเขาแล้วเดินกระแทกเท้าจากไป
ส่วนฉันก็จัดระเบียบร่างกายให้ตัวเองแล้วก้มลงหยิบแฟ้มที่ตกอยู่บนพื้นมาถือไว้
“บอสคะ...ก้อยก็ขอลาออกด้วยนะคะ”
“ทำไมล่ะคุณก้อยคุณไม่พอใจอะไรผมหรอ?” ช่างกล้าถามนะ กี่ครั้งกี่หรฝนที่ฉันเดินลูกหลงจากการถูกหึงหวงจากสาวๆแต่ละคนของเขากัน
“คุณยังต้องให้ก้อยพูดอีกหรอ?เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ก้อยจะส่งใบลาออกมาให้เซ็นแล้วกันนะคะ!”
“ถ้าคุณยอมผมแต่แรกก็คงไม่เป็นแบบนี้” แต่คำพูดเขาก็ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวต้องหยุดชะงัก
“ยอมเพื่อให้ตัวเองต้องมาเจออะไรแบบผู้หญิงพวกนี้หรอคะคุณคิดได้ยังไง”
“ก็ผมบอกแล้วไงถ้าคุณยอมผม ผมก็จะมีคุณแค่คนเดียวจะไม่ไปยุ่งกับใครอีก”
“คุณเปลี่ยนนิสัยตัวเองไม่ได้หรอกค่ะเชื่อก้อยเถอะเพราะถ้าคุณทำได้คุณคงทำมันตั้งนานแล้วเอาเป็นว่าให้ก้อยลาออกเถอะค่ะ” ฉันบอกเขาแล้วก็ก้าวไปต่อโดยไม่สนใจผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างเขาอีก
ผู้ชายมันก็มักง่าย มักมาก เจ้าชู้เห็นแก่ตัวเหมือนกันทุกคนแหละ แม้กระทั่งพ่อของฉันก็ด้วย!
บอสเองก็เคยมาทาบทามให้ฉันยอมคบกับเขาเป็นของเขาแล้วเขาสัญญาว่าจะหยุดที่ฉันคนเดียว แต่ที่ผ่านมาฉันก็เห็นเขามั่วผู้หญิงมากหน้าหลายตามาตลอดเลขาหลายสิบคนที่ถูกไล่ออกหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไป แล้วอย่างนี้ฉันจะเชื่อได้ยังไงว่าเขาจะเปลี่ยนนิสัยตัวเองได้เพื่อฉัน!
หึ!ลมปากผู้ชายทั้งนั้นแหละ
ไม่มีผู้ชายคนไหนจริงใจกับฉันสักคนแม้แต่พ่อบังเกิดเกล้าที่เอาแต่ผลักไสไล่ส่งไม่เคยแม้แต่จะมาสนใจไยดีด้วยซ้ำ
.
.วันต่อมาผมก็พาพี่ปรางกลับบ้านที่มีลูกชายเธอและเพื่อนสนิทผมนั่งหน้าบอกบุญไม่รับรออยู่ก่อนแล้ว“แม่ไปไหนมาทำไมไม่กลับบ้านแล้วนี่ไปไหนกันมา”เมื่อมาถึงคิวก็เดินดุ่มๆเข้ามาถามสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดสุดฤทธิ์คนเป็นแม่ได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริงๆ“ว่าไงไอ้โจ้มึงพาแม่กูไปไหนมาทั้งคืนทำไมถึงเพิ่งกลับมากันป่านนี้”“คือ..ว่าไอ้คิวมึงฟังกูพูดก่อนนะคือ..” ผมเองก็ยังหวาดๆกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของมันจนถึงขั้นตัวลีบเลยทีเดียว“ฟังเหี้ยอะไร!มึงพาแม่กูหายไปทั้งคืนเนี่ยนะไอ้สัสโจ้” ไอ้คิวตะคอกใส่ผมเสียงดีังลั่น“คิวใจเย็นๆก่อนนะลูกค่อยๆพูดกันก็ได้” พี่ปรางพยายามปลอบไอ้คิวเสียงอ่อนพลางลูบหลังมันเบาๆ“งั้นแม่ก็บอกมาดิว่าหายไปไหนกับมันมาทั้งคืน” ไอ้คิวตะคอกใส่พี่ปรางจนหน้าเสีย“ไอ้สัสคิวมึงอย่าตะคอกใส่แม่มึงแบบนั้นสิวะ” พอเห็นเมียผมหน้าเสียแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้“อย่าเสือกนี่แม่กู!”“แม่มึงแต่เมียกู!”“ไอ้สัสโจ้!”ผลั๊ว!เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ตรงปากและจมูกผมพอดีจนมึนไปชั่วครู่สักพักลิ่มเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากผมเล็กน้อย“ว๊าย!อย่านะลูกหยุดๆ” พี่ปรางร้องไห้เสียงดังพยายามรั้งแขนไอ้คิวไม่ให
บันทึกพิเศษปรางในความเย็นเยียบที่ได้รับทำให้ฉันรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านวาบไปทั่วทั้งร่างกายรับรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆแต่ทว่า...ผ้าห่มไปไหน?รู้สึกได้ว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าซึ่งนั่นเป็นปกติเวลาที่ฉันเข้านอนจะชอบโนบราและแก้ผ้านอนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมคืนนี้มันหนาวผิดปกติกันนะแม้จะแปลกใจแต่มือฉันก็ปัดป่ายควานหาผ้าห่มที่คาดว่าตัวเองน่าจะถีบออกจากตัวไปอยู่มุมไหนสักที่นั่นแหละ คลำหาไปได้สักพักก็รู้สึกว่าตัวเองไปคว้าหมับเข้ากับอะไรสักอย่างที่มัน ‘ร้อนผ่าว’ และนุ่มนิ่มมือ เมื่อเห็นว่าเออจับแล้วมันก็อุ่นดีฉันก็เลยจับๆขยำๆไปเรื่อยๆสักพักอ้าวเห้ย!ทำไมมันใหญ่ขึ้นวะ?แถมมันยังแข็งและร้อนราวกับอังไฟมา รูปร่างลักษณะมันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับ....ไอ้นั่นของผู้ชาย!แม้จะไม่อยากลืมตาตื่นสักเท่าไหร่แต่ความสงสัยก็ทำให้ฉันต้องตื่นลืมตามองสิ่งที่อยู่ในมือ แต่แวบแรกเลยทีเห็นคือแผงอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามลากสายตาลงมาก็หน้าท้องหนั่นแน่นชวนให้ลูบไล้ขยำเล่นดีจังถัดมาก็เออ!นั่นแหละฉันกำลังจับไอ้นั่นของเพื่อนลูกชายอยู่ แถมไม่ได้จับธรรมดานะทั้งลูบคลึงขยำชักรูดชักลงอีกต่างหาก ให้ตายเถอะนี่เธ
โรมแรมม่านรูดไม่ไกลจากห้างดังเสียงปิดประตูรถดังปังทันทีที่เด็กรับรถรูดม่านมาปิดไว้ผมยื่นเงินค่าห้องให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมพร้อมทั้งทิปแล้วดึงมือพี่ปรางลากเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วเมื่อครู่แม้จะปลดปล่อยไปแล้วครั้งนึงแต่ทว่าตรงหน้าขาผมยังแข็งปึ๋งผงาดทิ่มเนื้อผ้ากางเกงออกมาให้ได้เห็น ปวดไปหมดสงสัยมันอยากจะทลวงเข้าไปในช่องแคบอีกครั้งเสียแล้ว“อ๊ะ..เบาๆ หน่อยสิชั้นเจ็บนะ” พี่ปรางดุเบาๆ ในตอนที่ถูกผมดันร่างเธอเข้ากับพื้นผนังเย็นเยียบอย่างแรง“ขอโทษ...ผมทนไม่ไหวต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กระแทกพี่ตอนนี้” ผมงึมงำเบาๆ ขณะริมฝีปากไล่ขบเม้มซอกคอเนียนหอมละมุน“ซี๊ดดดดด~~บ้าเวอร์ไปล่ะไปอดอยากจากไหนมาห๊ะ...”“ฮื้มม~ตัวพี่หอมจัง...พี่ไม่รู้หรอที่จริงผมอยากแล้วก็แข็งตั้งแต่เห็นพี่ที่สระว่ายน้ำแล้ว” เสียงผมสั่นกระเส่าอยากไม่อาจห้ามได้ ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนลอยมามังกรยักษ์ก็อยากโผล่หัวมาทักทายเหยื่อสาวเสียแล้ว“หมายความว่าเมื่อคืนเธอแอบดูพี่ที่สระด้วยหรอ” พี่ปรางดันหน้าผมออกจากเนินอกเธอแล้วถามเสียงเข้ม“อื้ม..ก็เมื่อคืนผมนอนไม่หลับกะว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ ใครจะไปรู้ว่าจะได้เจอเงือกสาวแสนสวยใส่บิกินี่
คืนนั้นหลังจากถูไถแค่ภายนอกจนเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ดึกๆช่วงตีสี่กว่าๆผมก็ย่องออกมานอนที่ห้องของตัวเองที่ไอ้คิวมันจัดไว้ให้แล้วหลับต่อไปยันสายตรู่ทั้งผมทั้งไอ้คิวต่างตื่นสายด้วยกันทั้งคู่โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์เราไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ส่วนแม่ไอ้คิวผมยังไม่เห็นเลยนะสงสัยจะเขิน“ไงมึงหลับสบายดีไหมบ้านกู” เสียงไอ้คิวถามพลางยิ้มอารมณ์ดี แน่ล่ะสิเมาหลับไปตั้งแต่หัวค่ำละมั้ง“อืม..ดีมากกูหลับสนิทเลย” เสียไปตั้งหลายน้ำจะไม่หลับได้ยังไง!“มากินข้าวก่อนนี่แม่กูทำข้าวต้มปลาไว้ให้มึงจะเอากาแฟไหมกูจะได้ให้พี่สมพรไปชงมาให้”“เออเอาก็ได้” ผมพยักหน้ารับรู้สึกอยากได้คาเฟอีนเข้ามาในร่างกายเหมือนกันเพราะเช้านี้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจริงๆฝีมือทำกับข้าวของแม่ไอ้คิวก็อร่อยดีนะ ส่วนคนทำไม่รู้หนีหายไปไหนแล้วผมมองๆหาก็ไม่ยักจะเห็นเลย“เออแล้วนี่แม่มึงไปไหนหรอวะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะสงสัยอยู่บนห้องมั้งว่าแต่มึงเถอะวันนี้จะไปไหนต่อเปล่า”“ไม่รู้ว่ะเบื่อๆคงนอนอยู่บ้านแหละกูขี้เกียจออก”“ไปดูหนังกับกูไหมล่ะพอดีกูชวนแม่ไปดูหนังรอบบ่ายมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิไปกับแม่สองคนกูอาย” ไอ้คิวมันบอกในขณะที่ผมนึกขำ
หญิงสาวผมเผ้าหลุดรุ่ยเนื้อตัวเปลือยเปล่ามองหนุ่มรุ่นลูกตาปรอยเนื้อตัวสั่นระริกราวกับจะอ้อนวอนขอให้เด็กหนุ่มช่วยเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดหายไปหลายสิบปีให้หน่อย เด็กหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากอิ่มเอิ่มที่แย้มออกดูเย้ายวนชวนให้คลุกเคล้าดื่มด่ำความหวานหอมในโพลงปากนุ่มเหลือเกิน“อื้อออออออ” เสียงหวานครางกระเส่าในลำคอเมื่อถูกเด็กหนุ่มบดจูบอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นอุ่นชื้นพลิกไล้ไปตามไรฟันขาวสะอาดเลาะเล็มน้ำหวานตามโพลงปากด้านในจนน้ำลายของทั้งสองคนไหลย้อยออกมาตามมุมปาก“ชอบไหม?ชอบให้ผมสัมผัสแบบนี้ไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่าของเพื่อนลูกดังขึ้นอีกครั้งที่ข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่เขาเป่าใส่อย่างยั่วเย้าหลังจากที่เขาละริมฝีปากออกปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอออกบ้างหลังจากที่ถูกจูบดูดวิญญานเข้าไปหลายนาทีจากนั้นก็ลากริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนดูดกลืนผิวเนื้ออ่อนหอมละมุนจนมันขึ้นสีคล้ำเป็นจ้ำแล้วก็ลากลงมาไซร์เนินอกอวบอิ่มเบียดชิดชูชันตั้งตะหง่านอีกครั้ง“อื้มมมมม” มีเพียงเสียงครางอื้ออึงไม่ได้สรรพ์ดังตอบรับการกระทำแค่นั้น นาทีนี้หัวสมองเธอว่างเปล่าไปหมดครุ่นคิดอะไรไม่ออกแม้แต่นิด“แม่ครับ...ผมขอเลียหน่อยนะครับ” คำพูด
ร่างขาวโพลนในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในสระท่ามกลางไฟที่สาดส่องพอให้เห็นสลัวๆชวนให้ผมนึกจินตนาการถึงนางเงือกแสนสวยที่แหวกว่ายวนไปมาขาเรียวขาวได้รูปไร้ไขมันปะปนที่กำลังตีขาบนน้ำก็ดูน่าหลงใหลชวนให้นึกถึงเวลาที่ขาเรียวงามสองข้างมาพาดบนบ่ากว้างของผมมันคงให้ความรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียวบิกินี่สีแดงสดช่างขับผิวของแม่ไอ้คิวได้ดีเหลือเกินเพราะเมื่อมันทาบลงบนร่างอรชรยิ่งทำให้ตัดกับสีผิวขาวผ่องไปทั้งตัวจริงๆ สายเส้นเล็กๆที่เกาะต้นคอเนียนนั่นดูเกะกะตาดีเหลือเกินเห็นแล้วผมอยากกระตุกมันออกทิ้งไปไม่นานเหมือนว่าแม่ไอ้คิวคงจะว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วมั้ง ร่างบอบบางของเธอจึงเดินขึ้นมานั่งบนขอบสระ หลังจากนั้นเธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอวันนี้นั่นก็คือแม่ไอ้คิวปลดบิกินี่ทั้งท่อนบนและท่อนล่างออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่าท้าสายลมจากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมช้าๆราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่อยู่ๆก็แก้ผ้าท้าลมหนาวเช่นนี้ขนผมลุกซู่หอบหายใจรัวเลยล่ะรู้สึกว่าหัวใจทำงานหนักมากเวลานี้ ไม่ใช่แต่ขนนะที่ลุก ‘อย่างอื่น’ ผมก็ลุกเช่นกัน‘ให้ตายเถอะนี่แม่เพื่อนนะไอ้โจ้ท่องไว้แม่เพื่อน...แม่เพื่







