LOGINในหมู่บ้านนอกชนบทของจังหวัดแถวภาคตะวันออกติดภูเขา ส้มโอเป็นสาววัยขบเผาะอายุสิบแปดเพิ่งเรียนจบมอหกได้ไม่กี่เดือน หญิงสาวไม่ยอมเรียนต่อเพราะฐานะทางบ้านก็แย่อยู่แล้วที่สำคัญเธอหัวไม่ไปเรียนไม่ค่อยเก่ง พอจบมอหกก็เลยออกมาอยู่บ้านหาทำขนมขายที่ตลาดนัดทุกเย็นก็พอเลี้ยงชีพตัวเองได้บ้าง
ส้มโอมีพี่ชายหนึ่งคนอายุห่างกันสามปีชื่อว่าพุฒิชายหนุ่มไปเรียนอยู่อีกอำเภอนึงแต่กลับมาบ้านทุกวันศุกร์อยู่จนถึงวันอาทิตย์เย็นๆก็กลับ ระหว่างที่ไปเรียนพี่ชายเธอเป็นคนหัวไวและเรียนเก่งมีความสามารถพิเศษคือชอบถ่ายรูปก็เลยเก็บเงินซื้อกล้องได้ตัวนึงแล้วรับถ่ายงานถ่ายภาพรีวิวให้ลูกค้าจนคนถูกใจฝีมือการถ่ายมีงานเข้ามาเกือบทุกวัน
อีกปีนึงพี่ชายเธอก็จะเรียนจบแล้วถึงวันนั้นพ่อแม่คงจะสบายขึ้นกว่านี้หน่อย ทุกวันนี้ทั้งสองคนต้องออกไปกรีดยางที่สวนซึ่งต้องขับรถออกไปหลายกิโลกว่าจะถึงตอนกลางคืนดึกดื่นทุกวันกว่าจะกลับถึงบ้านก็เช้าแล้ว
วันนี้ก็เช่นกันปกติวันศุกร์พี่ชายส้มโอขี่รถจากอีกอำเภอใช้เวลาราวๆชั่วโมงกว่าก็น่าจะถึงบ้านแล้วโดยปกติสักสองทุ่มเค้าก็จะกลับถึงบ้านแล้วนะ แต่ว่านี่ก็เลยเวลากลับบ้านมาหลายชั่วโมงแล้วไม่เห็นเขากลับมาถึงบ้านสักทีจนชักเริ่มเป็นห่วง พ่อกับแม่ก็ออกไปกรีดยางแล้วด้วยสิ
จนเวลาผ่านไปถึงเที่ยงคืนเห็นจะได้ฉันก็ได้ยินเสียงรถยนต์ขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน ว่าแต่นั่นเสียงรถใครวะ?ปกติพี่ฉันมีแต่ขี่มอเตอร์ไซค์ฮอนด้าดรีมตัวเก่านี่นา แม้จะอยู่บ้านเพียงลำพังแต่ฉันก็ไม่ได้นึกกลัวสักเท่าไหร่เพราะว่าแถวนี้มันไม่ได้เปลี่ยวและไม่เคยมีข่าวคดีฆ่ากันตายไง ฉันก็เลยเดินออกไปเปิดประตูดู
ปรากฎว่ามีรถกระบะสี่ประตูคันใหญ่สีขาวมาจอดละดับเครื่องรถย์อยู่โดยที่บนหลังรถมีมอไซค์ที่ฉันจำได้ว่าเป็นของไอ้พี่พุฒิมันจอดอยู่บนหลังรถคันนั้น สักพักประตูข้างคนขับก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงหุ่นสมาร์ทก้าวลงมาจากรถ
“สวัสดีครับพอดีพี่ชื่อทอยเป็นเพื่อนกับไอ้พุฒิเห็นว่ามันเมามากเป็นห่วงพี่ก็เลยขับมาส่งมันเอง” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอกขณะจ้องหน้าฉันไม่วางตา
“เอ่อ...ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์มาส่ง...พี่พุฒินะพี่พุฒิเป็นบ้าอะไรกินให้เมามายขนาดนี้ได้!” ฉันก็อดที่จะบ่นปอดแปดให้พี่มันไม่ได้ ถ้าเกิดว่าเขาไม่ใจดีมาส่งให้แล้วเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมาจะทำยังไง
แต่พอบ่นเสร็จเพื่อนพี่พุฒิก็ยังเงียบไม่พูดพูดอะไรต่อพอฉันเงยหน้าก็พบว่าสายตาเขายังจับจ้องมาที่ฉันขะงักนิ่งแถมยังกลืนน้ำลายดังเอื้อกเสียด้วย เมื่อลองมองตามระดับสายตาที่เขาจ้องมาก็พบว่ามันอยู่ตรงระดับหน้าอกของฉันพอดี...
ซวยแล้ว!!!ฉันโนบราอยู่นี่!!!
ก็ปกติเวลานอนฉันไม่เคยใส่อยู่แล้วเพราะมันอึดอัดอีกอย่างหน้าอกฉันมันก็ใหญ่เกินตัวคงเพราะแม่รักฉันมากมั้งเลยจัดให้ฉันมาซะเยอะเชียวคัพดีไซส์สามสิบแปด
แล้ววันนี้ฉันก็ดันใส่ชุดนอนแบบกระโปรงสีขาวที่ทั้งบางและเก่าเพราะเป็นชุดโปรดของฉันที่มันใส่สบายที่สุด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้จุกฉันมันเด่นโชว์หราขายขี้หน้าขนาดไหน
“เอ่อ..คะ..คือ” ฉันก็หันรีหันขวางแต่จะให้เดินกลับเข้าไปหยิบเสื้อคลุมมาใส่ก็ขี้เกียจเสียเวลาอีกก็เลยเดินหันหลังให้เขาไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับออกก็พบว่าพี่ชายนอนคอพับคออ่อนหลับไม่ได้สติอยู่เนื้อตัวนี่มีแต่กลิ่นเหล้าฟุ้งกระจายไปทั่วจนฉันรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเมาแทนแล้ว
“พี่พุฒิ!พี่พุฒิตื่น!” ฉันเขย่าตัวเรียกแต่ไม่ว่าจะเรียกยังไงพี่ฉันก็เอาแต่อื้ออาใส่แล้วพลิกตัวหนี
“อือ!”
ฉันก็เลยประคองมันลงจากรถแต่ด้วยความที่มันตัวค่อนข้างสูงมากทีเดียวและฉันก็ไม่สามารถรับน้ำหนักมันได้หมดก็เลยเซจนผู้ชายคนนั้นเข้ามาช่วยรับประคองเอาไว้อีกข้าง
“อุ๊ย”
แต่ทว่ามันดันเกิดเหตุการณ์ขายหน้าขึ้นเสียนี่เมื่อไอ้พี่พุฒิมันดันทิ้งน้ำหนักตัวลงจนฉันเซแล้วเราทั้งหมดก็จะล้ม แต่เพื่อนพี่พุฒิมันเลยมันช้อนแขนประคองไว้ได้ทัน แต่นั่นมันกลับทำให้ปลายนิ้วเขาดันปัดป่ายมาถูกสองเต้าของฉันเข้าเต็มเปาจนมันชูชันขึ้นทันตา
“เอ่อ...ขอโทษครับพี่ไม่ได้ตั้งใจ” เขาพึมพัมเสียงเบาในขณะที่เราก้าวเข้าไปในบ้านด้วยกัน
“มะ..ไม่เป็นไรค่ะ” ก็มันเป็นไปแล้วจะให้ทำไงล่ะเนอะ
แล้วหลังจากนั้นก็ดูเหมือนเขาจะระมัดระวังไม่ให้ถูกตัวฉันมากขึ้น หลังจากพาไอ้พี่พุฒิมันเข้าไปนอนในที่นอนได้แล้วฉันก็ก้มลงลากผ้าห่มมาคลุมตัวมันให้ก่อนจะลุกขึ้น เรียกได้ว่าทั้งก้มทั้งเงยจนลืมไปเลยว่าตัวเองโนบรา บ้าเอ้ย!!
พอลุกขึ้นยืนเงยหน้าขึ้นมาได้ก็พบว่าสายตาคมกริบยืนนิ่งไม่ขยับเลยทีเดียว ให้ตาย...ฉันปล่อยไก่อีกแล้วสินะ!!
“เอ่อแล้วพี่จะขับกลับไหวไหมคะดูท่าจะเมาเหมือนกันนี่” ฉันถามเพราะเห็นท่าทางเขาก็ดูจะมึนๆไม่ต่างกันโชคดีแค่ไหนที่ขับมาจนถึงบ้านได้เนี่ย
“เอ่อ...ก็น่าจะไหวอยู่ครับ” เขาตอบพลางยกมือลูบผมตัวเอง
“เอางี้พี่ทอยก็นอนกับไอ้พี่พุฒิมันไปก่อนก็ได้นะเดี๋ยวเช้าแล้วค่อยกลับก็ได้แต่มันอาจจะคับแคบหน่อยนะไม่รู้ว่าพี่จะพอนอนได้ไหม?”
ที่ต้องพูดก็เพราะไม่อยากให้เขากลับในตอนที่สติยังไม่คงที่เขาอุตส่าห์ขับมาส่งพี่ชายเธอถึงที่เกิดขากลับรถราชนขึ้นมาจะโทษว่าเป็นความผิดพี่ชายเธออีก แม้อีกใจจะกลัวเขาไม่สะดวกเพราะบ้านฉันค่อนข้างเล็กมีสองห้องนอนก็คือห้องของพ่อกับแม่ห้องนึงแล้วก็ห้องฉันห้องนึง ส่วนพี่พุฒิมันก็อาศัยปูฟูกนอนหน้าทีวีแทน
“ครับ..พี่นอนได้สบายมากขอบคุณ..อึก..ครับ”
“งั้นเดี๋ยวหนูเอาที่นอนมาปูให้นะจ๊ะ”
“ขอบคุณนะครับ” เขาบอกก่อนจะเดินออกไปหน้าบ้านเพื่อล็อคประตูรถและล็อคกลอนในบ้านให้
ส่วนฉันก็คุกเข่าปูที่นอนข้างๆพี่พุฒิให้เขานอนซึ่งหน้าทีวีมันเป็นเป็นตรงหน้าห้องของฉันพอดีด้วยสิ พอเงยหน้าก็เห็นเขามายืนรอแล้ว
“นี่ปกติเราอยู่คนเดียวหรอ”
“ใช้จ้ะ”
“แล้วไม่กลัวบ้างหรอ”
“ไม่อ่ะชินแล้ว”
“อื้มมม” เขาครางรับรู้ในลำคอแล้วทรุดลงนั่งบนฟูกที่นอน
“ถ้างั้นหนูขอตัวไปนอนก่อนนะ”
“เดี๋ยวก่อนได้ไหม?นั่งคุยเป็นเพื่อนกันสักครู่ได้ป่าว” เขาถามสีหน้าละห้อยจนฉันต้องทรุดลงนั่งข้างๆแต่ห่างกับเขาพอสมควร
แล้วเขาก็ชวนฉันคุยถามนั่นถามนี่ไม่มีหยุดจนฉันได้รู้ว่าที่พี่พุฒิมันเมามากขนาดนี้ก็เพราะว่ามันอกหักนี่เอง ผู้หญิงที่พี่มันคบอยู่ดันไปปันใจให้คนอื่นและมันจับได้พอดี
ถึงว่าเมาเหมือนหมาเลย!!!
ไอ้พี่พุฒิหลับสนิทไม่ได้ดูดำดูดีน้องเลยสักนิด ส่วนพี่ทอยเค้าพูดเก่งจริงๆเห็นท่าทางนิ่งๆดูท่าทางเย่อหยิ่งแต่พอได้คุยถึงรู้ว่าเขาคุยเก่งพอๆกับพี่พุฒิเลยล่ะแถมยังอัธยาศัยดีอีกด้วย คุยเก่งถามเก่งส่วนใหญ่ถามแต่เรื่องฉัน
ถามจนฉันหลับอ่ะ...
เผลอหลับไปตอนไหนก็จำไม่ได้รู้ตัวอีกทีก็ตื่นขึ้นมาในตอนที่นอนอยู่ในห้องของตัวเองแล้ว หกโมงเช้าฉันก็ตื่นแบบนี้เป็นประจำลุกขึ้นหุงหาข้าวปลาอาหารไว้รอพ่อกับแม่กลับมาในเวลาเกือบๆเจ็ดโมงเช้าเพราะเขาต้องรอหยอดน้ำกรดกว่าจะเสร็จ
หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จฉันก็หยิบชุดเตรียมตัวไปอาบน้ำ ตอนนั้นสองหนุ่มยังนอนสลบเหมือดอยู่เลย ฉันก็เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตา ก่อนจะเปลื้องผ้าและพบว่ามีรอยจ้ำแดงๆขึ้นกระจายแถวบริเวณเนินอกหลายจุด
เห้อ!สงสัยต้องซื้อไบกอนมาฉีดไล่ยุงเสียแล้ว เมื่อคืนก็เปิดพักลมนอนนะแต่ทำไมยุงมากัดได้ก็ไม่รู้
อ๋อสงสัยกัดตอนฉันเผลอหลับหน้าทีวีตอนที่คุยกับพี่ทอยอยู่ล่ะมั้ง...
มัวแต่สังเกตุตรงหน้าอกเลยไม่ทันเห็นช่วงตรงลำคอว่ามันมีคราบน้ำบางอย่างขาวขุ่นติดอยู่ก่อนจะถูกสายน้ำจากฝักบัวราดรดไหลหายไป...
...ลับหลังร่างของส้มโอที่เดินผ่านไปเข้าห้องน้ำแววตาวูบไหวกระพริบและลืมตาขึ้นก่อนจะลอบมองร่างระหงด้วยแววตากรุ้มกริ่ม
วันต่อมาผมก็พาพี่ปรางกลับบ้านที่มีลูกชายเธอและเพื่อนสนิทผมนั่งหน้าบอกบุญไม่รับรออยู่ก่อนแล้ว“แม่ไปไหนมาทำไมไม่กลับบ้านแล้วนี่ไปไหนกันมา”เมื่อมาถึงคิวก็เดินดุ่มๆเข้ามาถามสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดสุดฤทธิ์คนเป็นแม่ได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริงๆ“ว่าไงไอ้โจ้มึงพาแม่กูไปไหนมาทั้งคืนทำไมถึงเพิ่งกลับมากันป่านนี้”“คือ..ว่าไอ้คิวมึงฟังกูพูดก่อนนะคือ..” ผมเองก็ยังหวาดๆกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของมันจนถึงขั้นตัวลีบเลยทีเดียว“ฟังเหี้ยอะไร!มึงพาแม่กูหายไปทั้งคืนเนี่ยนะไอ้สัสโจ้” ไอ้คิวตะคอกใส่ผมเสียงดีังลั่น“คิวใจเย็นๆก่อนนะลูกค่อยๆพูดกันก็ได้” พี่ปรางพยายามปลอบไอ้คิวเสียงอ่อนพลางลูบหลังมันเบาๆ“งั้นแม่ก็บอกมาดิว่าหายไปไหนกับมันมาทั้งคืน” ไอ้คิวตะคอกใส่พี่ปรางจนหน้าเสีย“ไอ้สัสคิวมึงอย่าตะคอกใส่แม่มึงแบบนั้นสิวะ” พอเห็นเมียผมหน้าเสียแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้“อย่าเสือกนี่แม่กู!”“แม่มึงแต่เมียกู!”“ไอ้สัสโจ้!”ผลั๊ว!เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ตรงปากและจมูกผมพอดีจนมึนไปชั่วครู่สักพักลิ่มเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากผมเล็กน้อย“ว๊าย!อย่านะลูกหยุดๆ” พี่ปรางร้องไห้เสียงดังพยายามรั้งแขนไอ้คิวไม่ให
บันทึกพิเศษปรางในความเย็นเยียบที่ได้รับทำให้ฉันรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านวาบไปทั่วทั้งร่างกายรับรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆแต่ทว่า...ผ้าห่มไปไหน?รู้สึกได้ว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าซึ่งนั่นเป็นปกติเวลาที่ฉันเข้านอนจะชอบโนบราและแก้ผ้านอนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมคืนนี้มันหนาวผิดปกติกันนะแม้จะแปลกใจแต่มือฉันก็ปัดป่ายควานหาผ้าห่มที่คาดว่าตัวเองน่าจะถีบออกจากตัวไปอยู่มุมไหนสักที่นั่นแหละ คลำหาไปได้สักพักก็รู้สึกว่าตัวเองไปคว้าหมับเข้ากับอะไรสักอย่างที่มัน ‘ร้อนผ่าว’ และนุ่มนิ่มมือ เมื่อเห็นว่าเออจับแล้วมันก็อุ่นดีฉันก็เลยจับๆขยำๆไปเรื่อยๆสักพักอ้าวเห้ย!ทำไมมันใหญ่ขึ้นวะ?แถมมันยังแข็งและร้อนราวกับอังไฟมา รูปร่างลักษณะมันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับ....ไอ้นั่นของผู้ชาย!แม้จะไม่อยากลืมตาตื่นสักเท่าไหร่แต่ความสงสัยก็ทำให้ฉันต้องตื่นลืมตามองสิ่งที่อยู่ในมือ แต่แวบแรกเลยทีเห็นคือแผงอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามลากสายตาลงมาก็หน้าท้องหนั่นแน่นชวนให้ลูบไล้ขยำเล่นดีจังถัดมาก็เออ!นั่นแหละฉันกำลังจับไอ้นั่นของเพื่อนลูกชายอยู่ แถมไม่ได้จับธรรมดานะทั้งลูบคลึงขยำชักรูดชักลงอีกต่างหาก ให้ตายเถอะนี่เธ
โรมแรมม่านรูดไม่ไกลจากห้างดังเสียงปิดประตูรถดังปังทันทีที่เด็กรับรถรูดม่านมาปิดไว้ผมยื่นเงินค่าห้องให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมพร้อมทั้งทิปแล้วดึงมือพี่ปรางลากเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วเมื่อครู่แม้จะปลดปล่อยไปแล้วครั้งนึงแต่ทว่าตรงหน้าขาผมยังแข็งปึ๋งผงาดทิ่มเนื้อผ้ากางเกงออกมาให้ได้เห็น ปวดไปหมดสงสัยมันอยากจะทลวงเข้าไปในช่องแคบอีกครั้งเสียแล้ว“อ๊ะ..เบาๆ หน่อยสิชั้นเจ็บนะ” พี่ปรางดุเบาๆ ในตอนที่ถูกผมดันร่างเธอเข้ากับพื้นผนังเย็นเยียบอย่างแรง“ขอโทษ...ผมทนไม่ไหวต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กระแทกพี่ตอนนี้” ผมงึมงำเบาๆ ขณะริมฝีปากไล่ขบเม้มซอกคอเนียนหอมละมุน“ซี๊ดดดดด~~บ้าเวอร์ไปล่ะไปอดอยากจากไหนมาห๊ะ...”“ฮื้มม~ตัวพี่หอมจัง...พี่ไม่รู้หรอที่จริงผมอยากแล้วก็แข็งตั้งแต่เห็นพี่ที่สระว่ายน้ำแล้ว” เสียงผมสั่นกระเส่าอยากไม่อาจห้ามได้ ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนลอยมามังกรยักษ์ก็อยากโผล่หัวมาทักทายเหยื่อสาวเสียแล้ว“หมายความว่าเมื่อคืนเธอแอบดูพี่ที่สระด้วยหรอ” พี่ปรางดันหน้าผมออกจากเนินอกเธอแล้วถามเสียงเข้ม“อื้ม..ก็เมื่อคืนผมนอนไม่หลับกะว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ ใครจะไปรู้ว่าจะได้เจอเงือกสาวแสนสวยใส่บิกินี่
คืนนั้นหลังจากถูไถแค่ภายนอกจนเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ดึกๆช่วงตีสี่กว่าๆผมก็ย่องออกมานอนที่ห้องของตัวเองที่ไอ้คิวมันจัดไว้ให้แล้วหลับต่อไปยันสายตรู่ทั้งผมทั้งไอ้คิวต่างตื่นสายด้วยกันทั้งคู่โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์เราไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ส่วนแม่ไอ้คิวผมยังไม่เห็นเลยนะสงสัยจะเขิน“ไงมึงหลับสบายดีไหมบ้านกู” เสียงไอ้คิวถามพลางยิ้มอารมณ์ดี แน่ล่ะสิเมาหลับไปตั้งแต่หัวค่ำละมั้ง“อืม..ดีมากกูหลับสนิทเลย” เสียไปตั้งหลายน้ำจะไม่หลับได้ยังไง!“มากินข้าวก่อนนี่แม่กูทำข้าวต้มปลาไว้ให้มึงจะเอากาแฟไหมกูจะได้ให้พี่สมพรไปชงมาให้”“เออเอาก็ได้” ผมพยักหน้ารับรู้สึกอยากได้คาเฟอีนเข้ามาในร่างกายเหมือนกันเพราะเช้านี้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจริงๆฝีมือทำกับข้าวของแม่ไอ้คิวก็อร่อยดีนะ ส่วนคนทำไม่รู้หนีหายไปไหนแล้วผมมองๆหาก็ไม่ยักจะเห็นเลย“เออแล้วนี่แม่มึงไปไหนหรอวะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะสงสัยอยู่บนห้องมั้งว่าแต่มึงเถอะวันนี้จะไปไหนต่อเปล่า”“ไม่รู้ว่ะเบื่อๆคงนอนอยู่บ้านแหละกูขี้เกียจออก”“ไปดูหนังกับกูไหมล่ะพอดีกูชวนแม่ไปดูหนังรอบบ่ายมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิไปกับแม่สองคนกูอาย” ไอ้คิวมันบอกในขณะที่ผมนึกขำ
หญิงสาวผมเผ้าหลุดรุ่ยเนื้อตัวเปลือยเปล่ามองหนุ่มรุ่นลูกตาปรอยเนื้อตัวสั่นระริกราวกับจะอ้อนวอนขอให้เด็กหนุ่มช่วยเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดหายไปหลายสิบปีให้หน่อย เด็กหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากอิ่มเอิ่มที่แย้มออกดูเย้ายวนชวนให้คลุกเคล้าดื่มด่ำความหวานหอมในโพลงปากนุ่มเหลือเกิน“อื้อออออออ” เสียงหวานครางกระเส่าในลำคอเมื่อถูกเด็กหนุ่มบดจูบอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นอุ่นชื้นพลิกไล้ไปตามไรฟันขาวสะอาดเลาะเล็มน้ำหวานตามโพลงปากด้านในจนน้ำลายของทั้งสองคนไหลย้อยออกมาตามมุมปาก“ชอบไหม?ชอบให้ผมสัมผัสแบบนี้ไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่าของเพื่อนลูกดังขึ้นอีกครั้งที่ข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่เขาเป่าใส่อย่างยั่วเย้าหลังจากที่เขาละริมฝีปากออกปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอออกบ้างหลังจากที่ถูกจูบดูดวิญญานเข้าไปหลายนาทีจากนั้นก็ลากริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนดูดกลืนผิวเนื้ออ่อนหอมละมุนจนมันขึ้นสีคล้ำเป็นจ้ำแล้วก็ลากลงมาไซร์เนินอกอวบอิ่มเบียดชิดชูชันตั้งตะหง่านอีกครั้ง“อื้มมมมม” มีเพียงเสียงครางอื้ออึงไม่ได้สรรพ์ดังตอบรับการกระทำแค่นั้น นาทีนี้หัวสมองเธอว่างเปล่าไปหมดครุ่นคิดอะไรไม่ออกแม้แต่นิด“แม่ครับ...ผมขอเลียหน่อยนะครับ” คำพูด
ร่างขาวโพลนในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในสระท่ามกลางไฟที่สาดส่องพอให้เห็นสลัวๆชวนให้ผมนึกจินตนาการถึงนางเงือกแสนสวยที่แหวกว่ายวนไปมาขาเรียวขาวได้รูปไร้ไขมันปะปนที่กำลังตีขาบนน้ำก็ดูน่าหลงใหลชวนให้นึกถึงเวลาที่ขาเรียวงามสองข้างมาพาดบนบ่ากว้างของผมมันคงให้ความรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียวบิกินี่สีแดงสดช่างขับผิวของแม่ไอ้คิวได้ดีเหลือเกินเพราะเมื่อมันทาบลงบนร่างอรชรยิ่งทำให้ตัดกับสีผิวขาวผ่องไปทั้งตัวจริงๆ สายเส้นเล็กๆที่เกาะต้นคอเนียนนั่นดูเกะกะตาดีเหลือเกินเห็นแล้วผมอยากกระตุกมันออกทิ้งไปไม่นานเหมือนว่าแม่ไอ้คิวคงจะว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วมั้ง ร่างบอบบางของเธอจึงเดินขึ้นมานั่งบนขอบสระ หลังจากนั้นเธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอวันนี้นั่นก็คือแม่ไอ้คิวปลดบิกินี่ทั้งท่อนบนและท่อนล่างออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่าท้าสายลมจากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมช้าๆราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่อยู่ๆก็แก้ผ้าท้าลมหนาวเช่นนี้ขนผมลุกซู่หอบหายใจรัวเลยล่ะรู้สึกว่าหัวใจทำงานหนักมากเวลานี้ ไม่ใช่แต่ขนนะที่ลุก ‘อย่างอื่น’ ผมก็ลุกเช่นกัน‘ให้ตายเถอะนี่แม่เพื่อนนะไอ้โจ้ท่องไว้แม่เพื่อน...แม่เพื่







