LOGINเฮ้อแล้วทำไมมีแค่ฉันที่ยังโสดอยู่ล่ะ!!
แต่ก็เอาเถอะเห็นเพื่อนมีความสุขฉันก็สุขตามมันนั่นแหละ เดี๋ยวถึงเวลาเนื้อคู่ฉันคงจะมาเองแหละ คิดแล้วก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“เฮ้อ”
“เป็นไรนักหนามึงอ่ะเอาน่าใจเย็นๆเดี๋ยวก็มีผัวอ่ะ!” แหมอีว่านพูดได้สิมึงมีแล้วนี่!
“แหมพูดเหมือนมันหากันได้ง่ายๆนักนี่ไอ้ที่หล่อๆดีๆรวยๆแบบผัวมึงอ่ะ!” ฉันประชดมันกลับ
“ฮ่าๆๆๆเสียดายนะที่คิมเขาไม่มีพี่ชายหรือว่าน้องชายไม่งั้นกูติดต่อให้มึงไปแล้ว” อีว่านพูดเสียงกลั้วหัวเราะไปด้วย
“เหอะ...เดี๋ยวเนื้อคู่กูก็มาล่ะว่าแต่เลิกงานแล้วมึงกลับก่อนเลยก็ได้นะเดี๋ยวกูว่าจะแวะไปหาหมอหน่อย” ที่ต้องบอกเพราะว่าเรามารถคันเดียวกันเวลากลับก็กลับด้วยกันเพราะพักอยู่คอนโดเดียวกันอีกด้วย
“อ้าวมึงเป็นไรอ่ะหาหมอทำไม?” อีว่านถามหน้าตาตื่น
“เปล่ากูปวดฟันน่ะว่าจะไปให้หมอเขาดูให้หน่อยว่าจะต้องถอนหรืออุดดี”
“อ้าวหรอ...มึงลองไปคลีนิคนี้สิเห็นเค้าว่าหมอหล่อมากแถมยังรักษาดีด้วยนะมึง” อีว่านบอกพร้อมทั้งส่งนามบัตรของคลีนิคนั้นมาให้
“หรอๆเออๆลองไปคลีนิคนี้ก็ได้เผื่อจะได้มีผัวเป็นหมอกับเค้าบ้างฮ่าๆๆๆ”
“แหมน้อยๆหน่อยอีฝ้ายเก็บซิงมึงเอาไว้เชิดหน้าชูตาเพื่อนๆบ้างก็ได้”
“แหม่...อีว่านอีบ้า!!” ฉันด่ามันพร้อมทั้งส่งค้อนงามๆส่งไปให้
ไม่นานก็ถึงเวลาเลิกงานของพวกเราฉันก็หยิบกระเป๋าสะพายใบโปรดขึ้นมาคล้องที่หัวไหล่แล้วเดินออกไปเรียกแท็กซี่ที่หน้าบริษัทบอกจุดหมายปลายทางที่ต้องการจะไปเสร็จแล้วฉันก็หยิบมือถือขึ้นมากดส่องไอจีเล่นๆระหว่างรอ
เกือบครึ่งชั่วโมงแท็กซี่จึงพามาถึงหน้าคลีนิคฉันก็หยิบเงินจ่ายค่าโดยสารแล้วจึงก้าวออกมายืนอยู่หน้าคลีนิค
“สวัสดีค่ะต้องขอโทษด้วยนะคะพอดีคลีนิคเราจะปิดแล้วน่ะค่ะ” คุณพยาบาลกล่าวต้อนรับด้วยถ้อยคำที่ฉันไม่อยากฟังเลยสักนิด เพราะนั่นหมายความว่าฉันจะต้องมาเสียเที่ยวน่ะสิ
“คุณหมอคนสวยขาพอดีฉันไม่ค่อยมีเวลามาหาหมอเลยรบกวนตรวจให้ฉันสักแป๊บได้ไหมคะ?”
“ไม่ได้จริงๆเพราะคลีนิคเรากำลังจะปิดแล้วค่ะอีกเดี๋ยวคุณหมอก็จะกลับบ้านแล้วเอาไว้รบกวนคุณมาใหม่ได้ไหมคะ?”
“ไม่ค่ะฉันจะตรวจวันนี้!” แค่ตรวจอีกคนเดียวมันจะอะไรกันนักกันหนาเนี่ย!!
“มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าครับ” ระหว่างที่ฉันกำลังฟาดงวงฟาดงาใส่กับคุณพยาบาลก็มีเสียงทุ่มนุ่มลึกดังแทรกขึ้นมาจากด้านหลัง
“เอ่อ..คุณหมอคะพอดีคุณผู้หญิงท่านนี้ต้องการที่จะเข้าตรวจกับคุณหมอตอนนี้เลย แต่ดิฉันก็แจ้งแล้วนะคะว่าคลีนิคเรากำลังจะปิดแล้วน่ะค่ะ”
“คุณหมอขารบกวนคุณหมอตรวจให้ฉันสักแป๊บนึงได้ไหมคะพอดีฉันปวดฟันเลยอยากมาถอนน่ะค่ะถ้าไม่ได้ตรวจวันนี้คาดว่าคงอีกนานกว่าจะได้มีเวลามานะคะคุณหมอช่วยตรวจให้ฉันหน่อยนะคะ”
ฉันขอร้องอ้อนวอนเสียงอ่อนเสียงหวานดึงเสียงสองเสียงสามมาใช้เพื่ออ้อนวอนคุณหมอสุดหล่อคนนี้
เพราะปกติเวลาว่างของฉันมักจะหมดไปกับการเที่ยวร้านเหล้าเข้าผับกลับสว่างซะส่วนใหญ่เลยไม่ค่อยมีเวลาได้ไปไหนสักเท่าไหร่!
เพราะเวลาทั้งหมดถูกใช้ไปกับเรื่องเที่ยวและแอ๊วผู้ชายเล่นๆในแต่ละวันน่ะสิ
“เอ่อ..ถ้างั้นคุณปิดคลีนิคเลยก็ได้นะครับเดี๋ยวเคสคุณคนนี้ผมจะตรวจให้ก่อนก็ได้” คุณหมอหันไปบอกผู้ช่วยสาวแล้วหันมาเรียกฉันให้เดินตามเข้าไปในห้องตรวจ
“ได้ค่ะคุณหมอ” ผู้ช่วยหมอออกไปเตรียมปิดคลีนิคแล้วแยกย้ายกันกลับก่อน โดยทิ้งฉันไว้กับคุณหมอสุดหล่อแค่สองคน
ต๊าย!ถ้าเกิดฉันหน้ามือทำมิดีมิร้ายคุณหมอขึ้นมาจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย!
บ้าน่า!!ฉันต่างหากป่ะที่ต้องเป็นฝ่ายกลัว แต่จะว่าไปทำไมเขินๆจัง...
“นอนลงเลยครับ” เขาบอกเสียงเรียบขณะกำลังเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อตรวจช่องปากฉัน
“เอ่อ...นะนอนเลยนะคะ” ฉันขยับขึ้นไปนอนราบลงบนเก้าอี้สำหรับขึ้นตรวจฟัน เป็นเพราะวันนี้ฉันใส่กระโปรงมาทำงานเลยทำให้ตอนขึ้นไปนอนบนเตียงกระโปรงทำงานของฉันมันจึงถกขึ้นมาเกือบถึงขาอ่อนเลยทีเดียว
คุณหมอสุดหล่อไม่ได้แสดงอาการอะไรแม้จะเห็นขาอ่อนของฉันที่กระโปรงเลิกขึ้นจนเกือบเห็นเนื้อใน สีหน้าเรียบนิ่งเฉยราวกับคนไม่มีความรู้สึกอะไร
เย็นๆขาเหมือนกันแฮะทั้งตื่นเต้นทั้งประหม่าไปหมดเลยฉันก็หมอหล่อขนาดนี้จะให้ไม่รู้สึกอะไรได้ยังไงล่ะ
‘แต่เอ๊ะหรือว่าเขาจะ...เป็น!’
ม่ายน๊าาา!เสียดายของอ่ะ!
“เอาล่ะทีนี้อ้าปากครับหมอขาตรวจช่องปากดูก่อนว่าจะสามารถถอนเลยได้ไหม” เขาที่สวมผ้าปิดจมูกเอาไว้แล้วบอกเสียงอู้อี้ นี่เขากลัวได้กลิ่นปากฉันขนาดนี้เลยหรือไงนะ!
“ค่ะ” แต่ฉันก็อ้าปากกว้างๆให้เขาตรวจช่องปากด้านใน
คุณหมอสุดหล่อใช้เครื่องมือสำรวจตรวจไปมาแล้วจึงดึงแมสปิดปากออกแล้วพูดขึ้นว่า...
“วันนี้ยังถอนไม่ได้นะครับซี่ในของคุณผุนิดหน่อยเลยทำให้มีการอักเสบคงต้องรอให้คุณหายบวมและหายปวดฟันเสียก่อนถึงจะถอนได้ยังไงหมอจะให้ยาแก้ปวดไปก่อนและจะนัดวันถอนอีกทีนะครับ”
อ้าว!มาเสียเที่ยวอีกสินะ แต่ไม่เป็นไรเพื่อคุณหมอสุดหลอต่อให้เขาไม่ได้ชอบผู้หญิงก็ไม่เป็นไร ฉันจะถ่อมาอีกก็ได้
“เอ่อ..ถ้าอย่างนั้นคุณหมอช่วยขูดหินปูนให้หน่อยได้ไหมคะคิดว่าน่าจะหกเดือนแล้วที่ไม่ได้มาขูดเลยนะคะ...นะๆ” ฉันก็เสียงสามเสียงสี่ใส่กระพริบตาปริบๆให้อย่างออดอ้อน
“งั้นก็ได้ครับ”
คุณหมอตอบพร้อมเตรียมอุปกรณ์มากรอฟันขูดหินปูนให้ ระหว่างที่เขากำลังทำการขูดหินปูนที่ชอบติดอยู่ตามซอกฟัน ฉันก็อดแกล้งเขาขึ้นมาไม่ได้เห็นชอบทำหน้านิ่งๆขรึมๆไม่รู้สึกรู้สาอะไรก็ยิ่งน่าหมั่นไส้เหลือเกิน
“ซี๊ดดด~อ่าาาาห์” ฉันครางกระเส่าราวกับคนเสียว...ฟัน ก็มันเสียวจริงๆนี่นายิ่งตอนที่เขากำลังใช้เครื่องมือขูดหินปูนมันออกมันยิ่งเสียวแปลบๆเลยล่ะ
“...” แต่คุณหมอยังคงนิ่งเงียบตั้งอกตั้งใจขูดหินปูนให้ฉันต่อไปเหมือนเดิม
“อ๊ะ..อ๊ะ..ซะ..ซี๊ดดด..อ๊าาาห์” ยิ่งเขาเฉยฉันยิ่งร้องดังขึ้นๆเรื่อยๆและต่อเนื่อง แต่เขาก็ยังนิ่งสงสัยเขาจะใช่อย่างที่ฉันคิดจริงๆ
ว้าา!เสียดายจัง!
ใช้เวลาไม่นานเขาก็ทำการขูดหินปูนให้ฉันจนเสร็จสิ้นเขาสั่งให้ฉันบ้วนสิ่งที่อยู่ในปากทั้งหมดทิ้งลงในกระโถนพร้อมทั้งบ้วนน้ำล้างปาก
“เรียบร้อยแล้วครับ” เขาบอกพร้อมกับจัดการเก็บเครื่องไม้เครื่องมือให้เข้าที่
“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะที่ยอมเสียเวลาตรวจให้ฉัน”
“ครับเดี๋ยวยังไงคุณลงไปนั่งรอหมอสักครู่นะครับหมอจะจ่ายยาแก้ปวดกับเขียนใบนัดมาให้”
“ได้ค่ะ...อ๊ะ..ว๊ายย!” ฉันลุกจากเตียงที่นอนอยู่แล้วก้าวลงเหยียบที่พื้น ด้วยความสัจจริงไม่ได้สะตอฉันเหยียบพลาดเลยสะดุดจะล้มเซไปหาคุณหมอที่ยืนอยู่ข้างๆและเขาก็ตั้งรับไม่ทันเลยทำให้เราทั้งคู่ล้มทับไปด้วยกันบนพื้นพรมในห้อง
“ขะ..ขอโทษค่ะคุณหมอฉันสะดุดนะค่ะ” ฉันที่นอนทับอยู่บนอกเขากระพริบตาปริบๆใส่และยังไม่ยอมลุกไปจากตัวเขา ก็แหมทั้งแข็งทั้งนุ่มขนาดนี้อยากจะนอนบนนี้นานๆจัง
อกเขาทั้งแกร่งและนุ่ม ส่วนที่มันแข็งก็ปนบเบียดเสียดสีไปกับหน้าท้องของฉันอย่างน่าใจหาย ไม่น่าจะใช่อย่างที่ฉันคิดแล้วล่ะ ในเมื่อเขาแข็ง...ซะขนาดนี้!
“อ่อยเก่งเหลือเกินนะแม่คุณ!” เขากัดฟันขบกรามพูดเสียงลอดไรฟันเบาๆขณะมองสบตากับฉัน
ถึงกับขนกายลุกซู่เมื่อฉันสบสายตาคมกริบเป็นประกายระยิบระยับของเขาเข้าอย่างจัง มันสะท้อนอะไรหลายๆอย่างออกมาให้ได้เห็นและบอกฉันเป็นนัยๆว่า ‘ฉันไม่ควรจะเล่นกับไฟอย่างเขา’
พอเห็นสายตาเขาที่ทอประกายแฝงความต้องการอะไรบางอย่างออกมาก็ทำให้ฉันนึกกลัวใจเขารีบร้อนจะลุกขึ้นแต่กลับถูกเขากอดรัดเอวบางเอาไว้ไม่ยอมให้ลุกขึ้นได้ง่ายๆ แถมยังไล้ฝ่ามือข้างนึงไปตามชายโครงฉันเบาๆ
“ปะ..ปล่อยฉันนะคะคุณหมอ!” ฉันพยายามเอามือดันแผงอกเขาเอาไว้เมื่อรู้สึกได้ว่าช่วงอกเขาแนบกับหน้าอกของฉันเสียดสีแนบชิดกันมากจนเกินไป
“ทำไมล่ะฮื้ม...กลัวหรอ?” เขาลากจมูกไปตามช่วงกลางไหปลาร้าของฉันขณะพูดเสียงต่ำในลำคอไปด้วย
“มะ..ไม่ได้กลัวตะ..แต่เดี๋ยวคุณหมอหนักนะคะปล่อยฉันเถอะค่ะ!” แปลกจังทำไมเสียงฉันสั่นๆตะกุกตะกีกเหลือเกินนะ หัวใจก็เต้นรัวๆจนน่ากลัวเกินไปแล้ว!
“ไม่หนักหรอกผมชอบ...” เขาพูดแบบนี้ออกมาทั้งๆที่สีหน้าเขายังนิ่งเหมือนเดิมต่างจากแววตาที่มีแววกระหายคล้ายๆเสือเตรียมขย้ำเหยื่อแปลกๆ
ไม่นะ!นี่ฉันจะมีผัวกับเขาแล้วหรือเนี่ยอ๊ายยตื่นเต้นจัง...
สะโพกแกร่งบดเบียดไปกับช่วงล่างของฉันที่มันเริ่มเปียก...อย่างห้ามไม่อยู่
ก่อนที่เขาจะพลิกตัวเองให้เป็นฝ่ายขึ้นมานอนทาบทับฉันเอาไว้ทั้งตัว แต่แปลกฉันกลับไม่รู้สึกหนักเลยสักนิดทั้งๆที่เขาทาบทับฉันเอาไว้ทั้งตัว
“อื้ออ...คะ..คุณหมอขาาา~” ปากคอฉันก็เริ่มสั่น อาการกระสันต์เริ่มมาเยือนเมื่อเขาเริ่มเบียดตัวตนแข็งขืนมาเสียดสีกับใจกลางสาวของฉันช้าๆ จมูกเขาก็ไซร้ไปตามเนินอกทั้งสองข้างที่ยังมีเสื้อปกปิดอยู่อย่างหยอกเย้า
“ขาาา” เขาเงยหน้าขานรับเสียงหวานก่อนจะก้มชิมรสชาติบริเวณซอกคอฉันอย่างหิวกระหาย เขาทั้งดูดทั้งเม้มจนมันทั้งเสียวซี๊ดและเจ็บแปล๊บปะปนกันไป
คาดว่าซอกคอฉันคงเป็นรอยจ้ำตามน้ำหนักปากเขาแล้วล่ะ...
ให้ตายฉันจะละลายเพราะคุณหมอแล้วนะ ไอร้อนที่ไม่รู้มาจากไหนร้อนผะผ่าวกระจายไปตามใบหน้า เสื้อที่สวมใส่ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนไหนที่ถูกเขาดึงออกทางศีรษะไปและใช้ริมฝีปากร้อนผ่าวครอบที่ยอดอกเต่งตึงอย่างรวดเร็ว
“อ๊าาา..คุณหมอขาอยะ..อย่าค่ะคุณหมอจะทำอะไรคะ?” ถามออกไปอย่างคนโง่งมทั้งๆที่ก็เห็นอยู่ว่าเขากำลังดูดนมตัวเองอย่างคนหื่นกระหาย
“หมอตรวจคนไข้มาเหนื่อยคอแห้งแล้วก็หิวน้ำมาก...ขอชิมก่อนนะ” เขาบอกหน้าตายแล้วยังดูดอย่างเอาเป็นเอาตาย จนท้องน้อยฉันเสียวแปลบวูบวาบไปหมด
“ตะ..แต่อ๊าาาห์นะ..นี่มันนมไม่ใช่น้ำนะคะ” ฉันบอกพร้อมทั้งแอ่นหน้าอกป้อนใส่ปากอำนวยความสะดวกให้เขาอีกด้วย
“หมอชอบนมมากกว่ามันอร่อยกว่ากันเยอะจุ๊บ..จ๊วบๆ” เขาบอกพร้อมทั้งดูดเม้มหัวนมฉันจนแก้มตอบทั้งดูดทั้งดึงยืดมันราวกับเป็นของเล่น
“อ๊าาาห์...ซะ..ซี๊ดดดเสียวจังค่ะคุณหมอขา” ฉันครางกระเส่าอย่างสุดจะกลั้นก็ขนาดยังไม่ไปถึงไหนคุณหมอยังเล้าโลมได้เก่งขนาดนี้แล้วถ้า...
อึ๊ยยย!ไม่อยากจะคิด!บ้าบอ...
“หมอทำให้คุณเสียวมากกว่านี้ได้อีกนะ...ไปพิสูจน์ดูกัน!” คุณหมอสุดหล่อบอกแล้วขยับลุกขึ้นดึงตัวฉันขึ้นมาอุ้มแบบคนอุ้มเด็กให้ตัวฉันแนบขาเรียวกวัดรอบเอวเขาไว้สองแขนก็โอบรอบลำคอแกร่งพาเดินเข้าไปที่ห้องไหนสักห้อง
ขณะเดินส่วนล่างของเราก็เสียดสีกันเป็นจังหวะจนฉันขนลุกวาบไปหมดให้ตาย!หมออะไรเซ็กซี่เป็นบ้าเลย
คุณหมอสุดหล่อพาฉันเข้าไปในห้องนอนที่ตกแต่งอย่างสวยงามซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เป็นห้องนอนชั่วคราวของเขาล่ะมั้งจากนั้นเขาก็กระเตงตัวฉันพาไปล้มลงนอนบนที่นอนนุ่มนิ่มและเด้งดี๊ดี!
“ได้เวลาเสียวแล้วล่ะ...” คุณหมอประกาศก้องในขณะที่ฉันเฝ้ารอคอย...
.
.วันต่อมาผมก็พาพี่ปรางกลับบ้านที่มีลูกชายเธอและเพื่อนสนิทผมนั่งหน้าบอกบุญไม่รับรออยู่ก่อนแล้ว“แม่ไปไหนมาทำไมไม่กลับบ้านแล้วนี่ไปไหนกันมา”เมื่อมาถึงคิวก็เดินดุ่มๆเข้ามาถามสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดสุดฤทธิ์คนเป็นแม่ได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริงๆ“ว่าไงไอ้โจ้มึงพาแม่กูไปไหนมาทั้งคืนทำไมถึงเพิ่งกลับมากันป่านนี้”“คือ..ว่าไอ้คิวมึงฟังกูพูดก่อนนะคือ..” ผมเองก็ยังหวาดๆกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของมันจนถึงขั้นตัวลีบเลยทีเดียว“ฟังเหี้ยอะไร!มึงพาแม่กูหายไปทั้งคืนเนี่ยนะไอ้สัสโจ้” ไอ้คิวตะคอกใส่ผมเสียงดีังลั่น“คิวใจเย็นๆก่อนนะลูกค่อยๆพูดกันก็ได้” พี่ปรางพยายามปลอบไอ้คิวเสียงอ่อนพลางลูบหลังมันเบาๆ“งั้นแม่ก็บอกมาดิว่าหายไปไหนกับมันมาทั้งคืน” ไอ้คิวตะคอกใส่พี่ปรางจนหน้าเสีย“ไอ้สัสคิวมึงอย่าตะคอกใส่แม่มึงแบบนั้นสิวะ” พอเห็นเมียผมหน้าเสียแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้“อย่าเสือกนี่แม่กู!”“แม่มึงแต่เมียกู!”“ไอ้สัสโจ้!”ผลั๊ว!เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ตรงปากและจมูกผมพอดีจนมึนไปชั่วครู่สักพักลิ่มเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากผมเล็กน้อย“ว๊าย!อย่านะลูกหยุดๆ” พี่ปรางร้องไห้เสียงดังพยายามรั้งแขนไอ้คิวไม่ให
บันทึกพิเศษปรางในความเย็นเยียบที่ได้รับทำให้ฉันรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านวาบไปทั่วทั้งร่างกายรับรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆแต่ทว่า...ผ้าห่มไปไหน?รู้สึกได้ว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าซึ่งนั่นเป็นปกติเวลาที่ฉันเข้านอนจะชอบโนบราและแก้ผ้านอนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมคืนนี้มันหนาวผิดปกติกันนะแม้จะแปลกใจแต่มือฉันก็ปัดป่ายควานหาผ้าห่มที่คาดว่าตัวเองน่าจะถีบออกจากตัวไปอยู่มุมไหนสักที่นั่นแหละ คลำหาไปได้สักพักก็รู้สึกว่าตัวเองไปคว้าหมับเข้ากับอะไรสักอย่างที่มัน ‘ร้อนผ่าว’ และนุ่มนิ่มมือ เมื่อเห็นว่าเออจับแล้วมันก็อุ่นดีฉันก็เลยจับๆขยำๆไปเรื่อยๆสักพักอ้าวเห้ย!ทำไมมันใหญ่ขึ้นวะ?แถมมันยังแข็งและร้อนราวกับอังไฟมา รูปร่างลักษณะมันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับ....ไอ้นั่นของผู้ชาย!แม้จะไม่อยากลืมตาตื่นสักเท่าไหร่แต่ความสงสัยก็ทำให้ฉันต้องตื่นลืมตามองสิ่งที่อยู่ในมือ แต่แวบแรกเลยทีเห็นคือแผงอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามลากสายตาลงมาก็หน้าท้องหนั่นแน่นชวนให้ลูบไล้ขยำเล่นดีจังถัดมาก็เออ!นั่นแหละฉันกำลังจับไอ้นั่นของเพื่อนลูกชายอยู่ แถมไม่ได้จับธรรมดานะทั้งลูบคลึงขยำชักรูดชักลงอีกต่างหาก ให้ตายเถอะนี่เธ
โรมแรมม่านรูดไม่ไกลจากห้างดังเสียงปิดประตูรถดังปังทันทีที่เด็กรับรถรูดม่านมาปิดไว้ผมยื่นเงินค่าห้องให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมพร้อมทั้งทิปแล้วดึงมือพี่ปรางลากเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วเมื่อครู่แม้จะปลดปล่อยไปแล้วครั้งนึงแต่ทว่าตรงหน้าขาผมยังแข็งปึ๋งผงาดทิ่มเนื้อผ้ากางเกงออกมาให้ได้เห็น ปวดไปหมดสงสัยมันอยากจะทลวงเข้าไปในช่องแคบอีกครั้งเสียแล้ว“อ๊ะ..เบาๆ หน่อยสิชั้นเจ็บนะ” พี่ปรางดุเบาๆ ในตอนที่ถูกผมดันร่างเธอเข้ากับพื้นผนังเย็นเยียบอย่างแรง“ขอโทษ...ผมทนไม่ไหวต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กระแทกพี่ตอนนี้” ผมงึมงำเบาๆ ขณะริมฝีปากไล่ขบเม้มซอกคอเนียนหอมละมุน“ซี๊ดดดดด~~บ้าเวอร์ไปล่ะไปอดอยากจากไหนมาห๊ะ...”“ฮื้มม~ตัวพี่หอมจัง...พี่ไม่รู้หรอที่จริงผมอยากแล้วก็แข็งตั้งแต่เห็นพี่ที่สระว่ายน้ำแล้ว” เสียงผมสั่นกระเส่าอยากไม่อาจห้ามได้ ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนลอยมามังกรยักษ์ก็อยากโผล่หัวมาทักทายเหยื่อสาวเสียแล้ว“หมายความว่าเมื่อคืนเธอแอบดูพี่ที่สระด้วยหรอ” พี่ปรางดันหน้าผมออกจากเนินอกเธอแล้วถามเสียงเข้ม“อื้ม..ก็เมื่อคืนผมนอนไม่หลับกะว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ ใครจะไปรู้ว่าจะได้เจอเงือกสาวแสนสวยใส่บิกินี่
คืนนั้นหลังจากถูไถแค่ภายนอกจนเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ดึกๆช่วงตีสี่กว่าๆผมก็ย่องออกมานอนที่ห้องของตัวเองที่ไอ้คิวมันจัดไว้ให้แล้วหลับต่อไปยันสายตรู่ทั้งผมทั้งไอ้คิวต่างตื่นสายด้วยกันทั้งคู่โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์เราไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ส่วนแม่ไอ้คิวผมยังไม่เห็นเลยนะสงสัยจะเขิน“ไงมึงหลับสบายดีไหมบ้านกู” เสียงไอ้คิวถามพลางยิ้มอารมณ์ดี แน่ล่ะสิเมาหลับไปตั้งแต่หัวค่ำละมั้ง“อืม..ดีมากกูหลับสนิทเลย” เสียไปตั้งหลายน้ำจะไม่หลับได้ยังไง!“มากินข้าวก่อนนี่แม่กูทำข้าวต้มปลาไว้ให้มึงจะเอากาแฟไหมกูจะได้ให้พี่สมพรไปชงมาให้”“เออเอาก็ได้” ผมพยักหน้ารับรู้สึกอยากได้คาเฟอีนเข้ามาในร่างกายเหมือนกันเพราะเช้านี้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจริงๆฝีมือทำกับข้าวของแม่ไอ้คิวก็อร่อยดีนะ ส่วนคนทำไม่รู้หนีหายไปไหนแล้วผมมองๆหาก็ไม่ยักจะเห็นเลย“เออแล้วนี่แม่มึงไปไหนหรอวะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะสงสัยอยู่บนห้องมั้งว่าแต่มึงเถอะวันนี้จะไปไหนต่อเปล่า”“ไม่รู้ว่ะเบื่อๆคงนอนอยู่บ้านแหละกูขี้เกียจออก”“ไปดูหนังกับกูไหมล่ะพอดีกูชวนแม่ไปดูหนังรอบบ่ายมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิไปกับแม่สองคนกูอาย” ไอ้คิวมันบอกในขณะที่ผมนึกขำ
หญิงสาวผมเผ้าหลุดรุ่ยเนื้อตัวเปลือยเปล่ามองหนุ่มรุ่นลูกตาปรอยเนื้อตัวสั่นระริกราวกับจะอ้อนวอนขอให้เด็กหนุ่มช่วยเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดหายไปหลายสิบปีให้หน่อย เด็กหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากอิ่มเอิ่มที่แย้มออกดูเย้ายวนชวนให้คลุกเคล้าดื่มด่ำความหวานหอมในโพลงปากนุ่มเหลือเกิน“อื้อออออออ” เสียงหวานครางกระเส่าในลำคอเมื่อถูกเด็กหนุ่มบดจูบอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นอุ่นชื้นพลิกไล้ไปตามไรฟันขาวสะอาดเลาะเล็มน้ำหวานตามโพลงปากด้านในจนน้ำลายของทั้งสองคนไหลย้อยออกมาตามมุมปาก“ชอบไหม?ชอบให้ผมสัมผัสแบบนี้ไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่าของเพื่อนลูกดังขึ้นอีกครั้งที่ข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่เขาเป่าใส่อย่างยั่วเย้าหลังจากที่เขาละริมฝีปากออกปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอออกบ้างหลังจากที่ถูกจูบดูดวิญญานเข้าไปหลายนาทีจากนั้นก็ลากริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนดูดกลืนผิวเนื้ออ่อนหอมละมุนจนมันขึ้นสีคล้ำเป็นจ้ำแล้วก็ลากลงมาไซร์เนินอกอวบอิ่มเบียดชิดชูชันตั้งตะหง่านอีกครั้ง“อื้มมมมม” มีเพียงเสียงครางอื้ออึงไม่ได้สรรพ์ดังตอบรับการกระทำแค่นั้น นาทีนี้หัวสมองเธอว่างเปล่าไปหมดครุ่นคิดอะไรไม่ออกแม้แต่นิด“แม่ครับ...ผมขอเลียหน่อยนะครับ” คำพูด
ร่างขาวโพลนในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในสระท่ามกลางไฟที่สาดส่องพอให้เห็นสลัวๆชวนให้ผมนึกจินตนาการถึงนางเงือกแสนสวยที่แหวกว่ายวนไปมาขาเรียวขาวได้รูปไร้ไขมันปะปนที่กำลังตีขาบนน้ำก็ดูน่าหลงใหลชวนให้นึกถึงเวลาที่ขาเรียวงามสองข้างมาพาดบนบ่ากว้างของผมมันคงให้ความรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียวบิกินี่สีแดงสดช่างขับผิวของแม่ไอ้คิวได้ดีเหลือเกินเพราะเมื่อมันทาบลงบนร่างอรชรยิ่งทำให้ตัดกับสีผิวขาวผ่องไปทั้งตัวจริงๆ สายเส้นเล็กๆที่เกาะต้นคอเนียนนั่นดูเกะกะตาดีเหลือเกินเห็นแล้วผมอยากกระตุกมันออกทิ้งไปไม่นานเหมือนว่าแม่ไอ้คิวคงจะว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วมั้ง ร่างบอบบางของเธอจึงเดินขึ้นมานั่งบนขอบสระ หลังจากนั้นเธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอวันนี้นั่นก็คือแม่ไอ้คิวปลดบิกินี่ทั้งท่อนบนและท่อนล่างออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่าท้าสายลมจากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมช้าๆราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่อยู่ๆก็แก้ผ้าท้าลมหนาวเช่นนี้ขนผมลุกซู่หอบหายใจรัวเลยล่ะรู้สึกว่าหัวใจทำงานหนักมากเวลานี้ ไม่ใช่แต่ขนนะที่ลุก ‘อย่างอื่น’ ผมก็ลุกเช่นกัน‘ให้ตายเถอะนี่แม่เพื่อนนะไอ้โจ้ท่องไว้แม่เพื่อน...แม่เพื่







