เมื่อถึงเวลาก็มีหมอนวดเดินออกเชิญผม และเดินนำพาขึ้นไปชั้นบน ระหว่างทางเดินจะได้ยินเสียงดนตรีบรรเลงคลอไปตลอดทาง น้องหมอนวดแจ้งว่าได้ห้องที่ชั้นสอง ส่วนชั้นสามจะเป็นห้อง vip ต้องจองมาพิเศษ เมื่อเดินขึ้นถึงชั้นสอง จะเห็นห้องนวดที่แบ่งไว้เป็นห้องๆ ส่วนในสุดของทางเดินจะเป็นห้องน้ำแยกไว้ให้บริการอีกสองห้องชาย-หญิง เมื่อเปิดห้องเข้าไปกลิ่นจากเครื่องหอมโชยมาเตะจมูก และความเย็นจากเครื่องปรับอากาศลอยออกมา ขนาดห้องไม่ใหญ่มากนัก มีเตียงสำหรับนวด และโต๊ะหัวเตียงไว้วาง และเก็บของ บรรยากาศสะอาดตกแต่งเรียบง่ายในบรรยากาศไฟสีส้มสลัวๆ น้องหมอนวดก็มาแนะนำตัว "สวัสดีคะคุณอาหนูชื่อยานะค่ะ" ผมเอ่ย"เรียกพี่ดีกว่ายังไม่อยากแก่นะ" น้องยาก็หัวเราะ หน้าตาน้องยาถือว่าใช้ได้ หุ่นดี สูงประมาณ 150 กว่า ดูออกนมใหญ่แม้อยู่ชุดหมอนวดหลวมๆ เสื้อผ้าฝ้ายสีน้ำน้ำตาลแบบผูก เข้าชุดกันกางเกงขาก๊วยขายาว
น้องยาบอกให้ผมไปอาบน้ำและเปลี่ยนชุด ระหว่างทางเดินไปห้องน้ำ ต้องผ่านห้องนวดอีกห้องที่อยู่ติดห้องน้ำ ด้วยความเงียบทำให้ผมได้ยินเสียงครางของผู้หญิงลอดออกมาทางประตู ผมก็นึกว่าเสียงร้องเวลาหมอนวดลงน้ำหนักมือแรงๆผมเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป จัดแจงถอดเสื้อผ้าออก พลางได้ยินเสียงร้องผ่านกำแพงจากห้องเมื่อครู่ ผมพยายามเอาหูแนบฟังแต่เสียงร้องนั้นก็เงียบไป ขณะอาบน้ำผมก็พลางคิดถึงบรรยากาศสมัยก่อนตอนที่ทำงานยู่กรุงเทพ ผมชอบไปใช้บริการนวดกระปู๋ สมัยก่อนก็ไปเที่ยวที่ร้านเหมยฮัว แถวรัชดา หรือไม่ก็เส้นถนนเพรชบุรี อยู่บ่อยครั้ง เพราะชอบที่จะซื้อกินสบายใจกว่าแต่ต้องลุ้นหน่อย มันไม่ผูกมัด ผมจึงคิดเล่นๆ ว่าถ้าที่นี้มีบริการแบบนั้นก็ดีสิ มันทำให้ท่อนเอ็นผมแข็งตัว จนผมต้องพยายามคิดไปเรื่องอื่นขืนออกไปเแบบนี้ ใครเห็นอายเค้าตาย
สักพักท่อนเอ็นผมนอนสงบผมจึงใส่ชุดนวด แต่ไม่ได้ใส่กางเกงในออกมาจากห้องน้ำ ขากลับไปห้อง อยู่ๆ ประตูห้องนวดที่มีเสียงร้องที่เดินผ่านขามาก็เปิดออก "อุ้ย...!" เสียงลูกค้าสาววัยวัยทำอุทานเล็กน้อย พร้อมหันมายิ้มให้ แล้วก้มหน้ารีบเดินจากไป ช่วงที่ผมผมเดินผ่านห้อง ผมหันไปดูเห็นเป็นหมอนวดผู้ชายกำลังเก็บของอยู่ภายใน หมอนวดผู้ชายเห็นผมแล้วผงกหัวคำนับและยิ้มให้ ผมจะเปิดห้องเข้าไป "เชิญพี่นอนคว่ำบนเตียงเลยค่ะ" เสียงน้องยาบอกผม
ระหว่างที่จัดแจงตัวเองบนเตียง น้องยาก็เปิดตู้หยิบถาดไม้ใบเล็กออกมา ในถาดจะมีขวดน้ำมัน อุปกรณ์การนวด หลังจากที่ผมนอนคว่ำ น้องยาก็ขออนุญาตเลิกเสื้อผมขึ้นเพื่อหยดน้ำมันนวด และเริ่มนวดจากคอไล่ลงมาหลังระหว่างการนวดน้องยาก็ชวนคุย "พี่เพิ่งเคยมาใช่ไหมคะเพราะไม่เคยคุ้นหน้ามาก่อน" ผมตอบ "ใช่ครับ เคยมาแล้วหนนึงแต่ไม่มีคิวว่าง ครั้งนี้เลยโทรมาจองก่อน โชคดีนะเนี้ย!...มาเจอเรา" เราสองคนก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย "ยาเคยเป็นเซลล์ขายรถตกงานช่วงโควิด เพื่อนที่เป็นเซลล์อยู่ด้วยเค้าทำที่นี้อยู่ก่อนบอกว่าเงินดี เลยมาลองทำดูบ้าง ทำมาได้สี่ห้าเดือนแล้ว รายได้ดีมีเงินไปจ่ายค่าเช่าก้อง ค่ารถ แถมยังส่งให้ที่บ้านได้อีกค่ะ" น้องยาเล่าให้ฟัง
คุยกันไปสักพักน้องยาก็เล่าอีกว่า "มีเจ๊คนใหม่หุ้นกับเจ๊ปรายที่เป็นเจ้าของเก่า พวกหนูเรียกเจ๊น้ำตาล เจ๊นิสัยน่ารัก หน้าตาดี ใจดีด้วย นวดเก่งด้วยนะคะ เคยผลัดกันนวดกับหนูเพราะเจ๊มาขอให้ช่วยสอนนวด ช่วงหลังๆ มีรับงานนวดให้ลูกค้าด้วยนะ" "เจ๊แกรับนวดให้ลูกค้าด้วยเหรอ" ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย น้องยาตอบว่า "ใช่ ทั้งคู่เลย ทั้งเจ๊ปราย กับเจ๊น้ำตาล โดยเฉพาะเจ๊น้ำตาลขนาดเพิ่งมารับงานนวด แต่ดังมากเป็นดาวร้านเลยก็ว่าได้ ลูกค้าที่เคยนวดติดใจโทรมาจองคิวไว้เยอะเลย แต่เจ๊แกรับนวด อาทิตย์นึงครั้งละคนสองคนเอง ใครอยากนวดกับเจ๊น้ำตาลต้องรอคิวเพราะเจ๊แกไม่ได้เข้าร้านทุกวัน บางทีก็ส่งงานให้พวกน้องๆคนอื่น น้องๆเลยรักเจ๊แกเพราะส่งแต่ลูกค้าดีๆมาให้
มีอยู่ครั้งนึงลูกค้าดวงดีเข้าร้านมาจองคิวนวด พวกน้องๆข้างล่างก็ดูคิวให้แต่ไม่ว่าง พอดีวันนั้นเจ๊น้ำตาลแกเข้าร้านมานั่งดูบัญชีอยู่หลังเคาน์เตอร์ด้วย เจ๊แกก็เลยรับงานนวดลูกค้าคนนั่น เห็นน้องๆบอกนวดเสร็จมาขอจองคิวต่อครั้งหน้าแต่ไม่ได้คิว แต่น้อยคนที่จะโชคดีแบบนี้อ่ะ" ... "ชั้นสามนู้นแหละ ที่เป็นห้อง vip เป็นห้องที่เจ๊แกเอาไว้รับรองลูกค้าที่จองคิวแกมา" น้องยาแจกแจง ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกแปลกๆใจ "นอนหงายเลยคะ" เสียงน้องยาปลุกผมจากความคิดเมื่อครู่ เมื่อผมนอนหงายน้องยาเทน้ำมันใส่มือแล้วไล่นวดตั้งแต่ปลายเท้าบีบนวด ถูพอให้น้ำมันชะโลมทั่วแล้วลงมือถูไถจากปลายเท้ามาถึงน่องเรื่อยมาถึงข้อพับหัวเข่า ทำแบบนี้จากขาข้างซ้ายแล้วเปลี่ยนมาข้างขวา พร้อมทั้งดึงนิ้วเท้าและนวดฝ่าเท้าให้ด้วย
เสร็จจากปลายเท้าถึงข้อพับหัวเข่าแล้ว น้องยาก็เลิกขากางเกงผมขึ้น จากนั้นก็เลื่อนมือมานวดที่ต้นขาไล้มือโลมนวดที่บริเวณข้อพับตรงสะโพก มันทำให้ผมขนลุกซู่หายใจไม่ทั่วท้อง น้องยาเทน้ำมันชะโลมมาที่มือนวดต้นขาข้างขวา บีบนวดถูไถจากต้นขาด้านล่าง เรื่อยขึ้นมาถึงเนินขาอ่อนช่วงบน ทำอย่างนี้กับต้นขาด้านซ้ายด้วย รู้สึกว่ามือน้องยาดันเนื้อที่ต้นขาขึ้นมาเรื่อยๆ มีบางช่วงที่น้องยาหันหน้ามาทางผมแล้วก้มตัวลง ทำให้เผยเห็นเต้านมขาวๆ ผ่านทางคอเสื้อ 'เชี้ยไม่ใส่เสื้อใน!.....'
ผมอุทานในใจ เต้านมเป็นลูกห้อยโตงเตงอย่างอิสระอยู่ในเสื้อ โดยไม่มีเสื้อในห่อหุ้มเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็มีความคิดแวบเข้ามาในหัว แล้วถ้าน้ำตาลต้องแต่งตัวแบบนี้มานวดให้ลูกค้าจะเป็นยังไง เพียงเสี้ยววินาทีท่อนเอ็นของผมก็พองตัวเต็มที่ดันกางเกงขึ้นมาตั้งโด่เพราะไม่ได้ใส่กางเกงใน ต่อหน้าต่อตาน้องยา เธอเห็นก็อุทานออกมา “อุ้ย!.....ชี้หน้าหนูทำไม” แล้วก็หัวเราะ ผมบอก"ขอโทษๆพี่บังคับมันไม่ได้ครับ" ระหว่างการนวด สายตาเธอแอบมองท่อนเอ็นผมเป็นระยะๆ ตลอดการนวด แถมมือเธอที่ลูบน้ำมันก็ค่อยๆ ลูบวนมาเข้าใกล้ไข่ผมเรื่อยๆ ผมรู้สึกเสียวเกร็งก้น ผมอดใจไม่ไหวลองเอามือขึ้นมาลูบและขยำก้นน้องยาเล่น "ซนนะคนนี้" น้องยาพูดพร้อมหันมายิ้มให้ ตอนผมลูบก้นน้องยาผมสัมผัสได้ว่า น้องยาไม่ใส่กางเกงใน เพราะผมหาขอบกางเกงในไม่เจอ
ผมเป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์เรื่องลักหลับที่ผมประทับใจอยู่ครั้งหนึ่งมา เล่าให้ฟัง ตอนนั้นผมอายุ 20 ผมเป็น คนกรุงเทพฯ อาศัยอยู่กับพ่อแม่และมีน้องสาวคน 1 คนอายุ 17 เรียนอยู่ชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมชื่อดังย่านลาดพร้าว หน้าตาก็จัดว่าน่ารัก แต่เพราะผมเป็นพี่ชายเลยมองไม่ออกเท่าไหร่ (เห็นหน้ากันทุกวัน) เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้มันไม่ใช่การ ลักหลับน้องสาวผมเองหรอกครับ แต่ก็ไม่เชิงมากนัก น้องสาวผมชอบพาเพื่อนมาค้างที่บ้านเป็นประจำ และมีเพื่อนน้องอยู่ คนหนึ่งชื่อน้องหญิง น้องหญิงเรียนอยู่ที่เดียวกันกับน้องสาวผม เธอเป็นคนผิวขาว ผมสั้นๆ น่ารักมาก ผมเห็นแล้วยังชอบเลย แต่ไม่กล้าจีบเพราะเป็นเพื่อนน้อง เดี๋ยวจะหาว่าเราเป็นโคแก่ อีกอย่างหนึ่งต่อหน้าเพื่อนๆ ของน้องผม ผมจะวางตัวดี ทำเหมือนจะสุภาพเรียบร้อย เพื่อนๆ น้องเคารพผมทุกคน แต่ในใจนี่สิอยากจะอึ๊บซะให้หมดทุกคน เพื่อนน้องทุกคนเลย โดยเฉพาะน้องหญิงที่น่ารัก และแล้ววันที่ฟ้าประทานก็มาถึง วันนั้นผมกลับจากมหาวิทยาลัย พอมาถึงบ้านปุ๊บก็เห็นรองเท้า น้องสาวผมกับรองเท้าผู้หญิงอีกคู่หนึ่ง ผมคิดในใจแล้วว่าต้องเป็นเพื่อนน้องคนใดคนหนึ่งแน่เลย ในใจผมอยากให้เป็นน้อ
ไอ้เชนเป็นเด็กกำพร้าบ้านแตกสาแหรกขาดมาอาศัยอยู่กับอาจารย์ปลั่งซึ่งเป็น อาจารย์ประเภทหมอเสน่ห์และเข้าทรงโดยตั้งสำนักหลอกชาวบ้านไปวันๆ โดยมีบ้านพักเก่าๆ แต่ภายในตกแต่งให้ดูขลังเพื่อตบตาผู้คนเป็นสำนักทรง ซึ่งผู้คนที่เข้ามาหาส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ที่งมงายเชื่อถือในสิ่งที่มองไม่ เห็นและมักจะเป็นผู้หญิงเป็นส่วนมาก อาจารย์ปลั่งที่ผู้คนหลงนับถือแท้จริงคือสิบแปดมงกุฎตัวยง และยังเป็นชายหื่นกามที่หลงไหลในตัณหาราคะเป็นที่สุด ซึ่งเป้าหมายของการตั้งสำนักทรงและทำเสน่ห์ให้หญิงสาวก็เพื่อหวังที่จะได้ ทั้งตัวและเงินของเหยื่อและส่วนใหญ่ก็มักจะพลาดท่าตกเป็นเหยื่อให้ไอ้เฒ่า ปลั่งและไอ้เชนลูกศิษย์ได้ล่อและแบล็คเมย์เสมอๆ วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ลัดดาสาวไฮโซเมียนายพลซึ่งตอนนี้ตกอยู่ในห้วงของ ความทุกข์เพราะสามีนายพลไปติดเมียน้อยและไม่ค่อยกลับบ้านทิ้งให้ลัดดาและ น้องมิ้นลูกสาววัย 17 ต้องอยู่กับแม่ในบ้านหลังใหญ่รายล้อมด้วยคนใช้เพียงลำพัง ด้วยความที่อยากได้สามีคืนลัดดาจึงหวังใช้เสน่ห์จากอวิชาตามที่ได้รับคำบอก เล่าจากคนรับใช้ภายในบ้านว่ามีสำนักทรงและหมอเสน่ห์อยู่ใกล้บ้านและเนื่อง จากคนรับใช้ไม่เคยไปใช้บริการที่สำน
หนูชื่อสาวนะคะ กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนึงในกรุงเทพค่ะ แฟนสาวน่ะเค้าชอบให้สาวแต่งตัวโป๊ๆ ยั่วคนอื่นสาวก้อชอบค่ะ สาวชอบแต่งตัว แต่มาหลังๆ เวลานอนกับแฟนๆ สาวชอบพูดถึงให้สมมติว่าสาวนอนกะคนอื่นบ้าง มีคนอื่นอยู่ในเหตุการณ์ทำนู่นทำนี่กะสาวมั่งล่ะ แรกๆ สาวไม่ชอบเลย แต่หลังๆ ก้อลองจินตนาการแล้วรู้สึกว่ามันเสียวมากเลย แต่ไม่บอกแฟนหรอกไม่อยากให้เค้าคิดว่าเราเป็นผู้หญิงไม่ดีจนมาวันนึง เป็นครั้งแรกค่ะสาวเคยเล่าไว้นานแล้วเรื่องตอนที่สาวไปเสม็ดแล้วแฟนสาวขอให้ช่วยใช้มือกะเพื่อนเค้า สาวยอมรับว่าสาวชอบมากอยากลองจริงๆ แต่สาวก้อกลัวค่ะหลังจากนั้นเราก้อเล่นกันแบบจงใจให้คนอื่นเห็นบ่อยๆสาวจะมีความรู้สึกมากเป็นพิเศษเวลาเห็นแฟนสาวหึงหวงด้วยจนมาวันนึงแฟนสาวอยากให้สาวลองเล่นเป็นผู้หญิงบริการ สาวก้อโอเคนะเพราะนึกว่าเค้าจาให้สาวแกล้งเป็นแล้วนอนกะเค้าที่ไหนได้มีอยู่คืนนึง เค้าออกไปเที่ยวกะเพื่อนนอกบ้านแล้วให้พอดึกๆ ก้อบอกให้สาวตามออกไปโดยใส่ใส่เสื้อผ้าแบบวาบหวิวสาวก้อลังเลนะ แต่เห็นว่าแฟนคงไม่ให้ไปนอนกะคนอื่นหรอก สาวก้อตามไปที่ร้าน ร้านนี้มืดมากเลยค่ะเป็นพวกเล้าจ์น่ะมีเด็กนั่งดริ้ง แฟนสาวนั
ผมยังเป็นนักศึกษาอยู่เลยครับ ผมชื่อหนุ่ยเป็นคนบ้านนอก ได้มีโอกาสสอบติดที่กทม. ผมจึงต้องอาศัยบ้านอาผู้ชาย อาผมชื่อว่าโต้งครับ แต่งงานแล้วมีลูกสองคนเป็นชายคนหญิงคน ผู้ชายอายุมากกว่าผม เขาแต่งงานมีลูกมีเมียไปแล้วครับ ส่วนลูกสาวอีกคนเพิ่งจะ ม.6 เองชื่อแยม อาสะใภ้ของผมมีชื่อว่าเตือน อายุน้อยกว่าอาผมตั้งเกือบสิบปีได้ คงอายุประมาณ 30 ได้มั้งครับ เนื่องจากว่าผมสนิทกับอาโต้งมาก อาผมจึงเชื่อใจและไว้ใจผมดูแลบ้านเวลาเขาไปทำงาน ส่วนอาเตือนเขาอยู่บ้านรับจ้างเย็บเสื้อผ้า ตอนแรกๆ ที่ผมได้เข้ามาอยู่ที่บ้านนี้ ตอนกลางคืนผมมักจะได้ยินเสียงแปลกๆ อยู่เสมอครับ คงไม่ใช่เสียงอะไรหรอกครับ เสียงอาทั้งสองของผมครางกระเส่านั่นเอง ผมมักจะแอบดูเป็นประจำและครั้งแรกที่ผมเห็นนั้นก็ทำให้ผมเกิดความคิดที่จะต้องเอาอาเตือนให้ได้ แม้ว่าอาโต้งจะดีกับผมเพียงไร แต่ด้วยความขาวความอวบและเนินโหนกอันแสนจะระทึกใจของอาเตือนนั้นผมห้ามใจไม่ไหวหรอกครับแล้ววันที่ผมรอคอยก็มาถึง วันนั้นอาโต้งออกไปทำงานตามเคย ผมจึงนอนอยู่บนห้องคนเดียวรอเวลาที่อาเตือนจะเข้ามาทำความสะอาดห้อง แล้วผมก็แกล้งนอนหลับแถมยังแก้ผ้าหมดเหลือแต่มังกรตัวเขื่อ
มันเกิดขึ้นตอนที่ผมเรียนอยู่ชั้นปี 3 ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งชื่อนพ ผมนอนกับผู้หญิงครั้งแรกก็ไอ้นพนี่แหละครับ นพพาผมไปเที่ยวเธคและแนะนำให้รู้จักกัน แล้วครั้งแรกนี่แหละครับที่ผมได้เสียวกับเธอโดยที่เธอทำเองหมดเลย ทั้งอมดูดและขย่มจนผมหมดแรงไปเลยครับซึ่งเธอจัดเจนมากกับเรื่องบนเตียง แล้วนพก็บอกผมว่าเธอนอนกับผู้ชายมาแล้วหลายคนแม้กระทั่งตัวมันเอง แต่เธอจะนอนกับคนที่เธอพอใจเท่านั้นครับ ผมเลยโชคดีได้นอนกับเธอเกือบสองอาทิตย์แล้วก็เลิกติดต่อกันไปตั้งแต่นั้นมาผมกับไอ้นพจะได้ผู้หญิงไปนอนด้วยเสมอเพราะพวกเราหน้าตาดีมีรถขับมีเงินพวกเธอเลยยอมมาด้วย และพวกเธอก็สวยๆ ทั้งนั้น เรียนอยู่ก็มีพวกเธอต้องการความสนุกเท่านั้น ผมกับนพนอนกับผู้หญิงมาหลายรูปแบบทั้งสาวใหญ่ แม่ม่าย วัยรุ่น ทั้ง 2 ต่อ 1 เราไม่อายกันหรอกครับ แล้วจู่ๆ ผมนึกอยากลองเย่อกับผู้หญิงวัยอ่อนกว่าเราสองคน เพราะตั้งแต่เราเที่ยวกันมาเคยแต่นอนกับหญิงมหาวิทยาลัยทั้งนั้นเด็กมัธยมด้วยกันยังไม่เคย แล้วเราก็ตกลงไอ้นพมันจะหามาให้ครับมันก็เร็วทันใจดีเหลือเกินไอ้นพบอกได้แล้วขาดแต่สถานที่ แต่มันก็พอดีพ่อแม่ผมไม่อยู่ไปต่างจังหวัดเหลือผมอยู่บ้านค
หนูบอกแกว่าหนูไม่เป็นอะไรมาก นอนพักสักครู่ก็คงหาย แต่น้าลพยังไม่ออกไปจากห้อง ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆ หนู เอามือลูบไล้ท่อนขาเรียวเปลือยของหนูแล้วพูดว่า “คุณหนูครับเมื่อคืนคุณหนูแอบดูผมกับคุณผู้หญิงใช่มั้ยครับผมเห็นเงาที่ระเบียง” หนูตกใจมากที่ทราบว่าน้าลพแกเห็นที่หนูแอบดู หนูผุดลุกขึ้นนั่ง หลบตาแกหน้าชาวูบด้วยความอาย น้าลพลูบไล้แผ่นหลังมาถึงสะโพกหนูพลางกระซิบว่า “คุณหนูไม่ต้องอายหรอกครับ คุณหนูบอกผมได้ไหมครับว่าเห็นอะไรบ้างและคุณหนูรู้สึกยังไง” หนูเสียวซ่านเมื่อน้าลพลูบไล้เข้าไปในเสื้อยืด ภาพเมื่อคืนวานผุดเข้ามาในความคิดของหนู ความเสียวซ่านจากภาพนั้นประกอบกับการถูกจู่โจมลูบไล้ ทำให้รู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว น้าลพแกก้มหน้าลงซบที่ซอกอกหนูมือก็ยังคงลูบไล้ลามไปเรื่อยๆ หนูพยายามปัดป้องผลักไส แต่ความซาบซ่านทำให้ต้องแอ่นอกรับหน้าของน้าลพอย่างสุดที่จะห้ามใจน้าลพดึงเสื้อยืดหนูขึ้นแล้วฝังหน้าลงระหว่างร่องอกที่ห่อหุ้มด้วยเสื้อชั้นใน แลบลิ้นเลียไปตามชายเนินถันที่ตึงเต่งของหนู หนูพยายามจะผลักไสแต่มันไม่มีแรงเอาซะเลย น้าลพกดตัวหนูนอนราบลงจับมือหนูทั้งสองข้างยกขึ้นแล้วดึงเสื้อยืดขึ้นจนเสื้อรูดพ้นจากร่