เปรมมิกาหันไปที่ต้นเสียงนั้นทันที ใจที่เต้นแรงอยู่แล้วกลับระทึกเข้าไปอีก ‘เขาอยู่ในห้องน้ำเหรอ’
ร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งก้าวเข้ามาพร้อมกับหยุดยืนมองเปรมมิกาที่ยืนอยู่หน้าประตู ทั้งคู่สบสายตากันอัตโนมัติ คนหนึ่งชะงัก แต่อีกคนหนึ่งยืนตะลึงราวกับโดนผีหลอก
“!!!” ไม่นะ! นี่! เขาคนนั้น ‘คุณถุงยาง’ เปรมมิกาตกใจอย่างที่สุด ดวงตากลมโตเบิกกว้างออกราวกับเห็นผี หรือนี่เธอฝันไป หรือคิดมากจนเห็นเป็นเขาไปหมดเลยหรือเปล่าเนี่ย
“เข้ามาสิ”
“เอ่อ ดิฉัน...มา”
เปรมมิกาไม่รู้จะพูดยังไง เธอทั้งตกใจ และตื่นเต้น และยิ่งไปกว่านั้น สายตาของเธอก็ดันจับจ้องไปที่ร่างของชายหนุ่ม ที่มีผ้าขนหนูสีขาวพันรอบเอว ส่วนบนกลับเปลือยเปล่า ในมือของเขากำลังถือผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมที่เปียกของเขาอยู่
“...”ไม่มีเสียงตอบกลับจากหญิงสาว
“สรุปเธอจะอยู่ตรงนั้น?”
ฌอนถามกลับไปอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น สายตาคมกวาดมองเด็กสาวที่ยืนขาสั่นอยู่หน้าประตู ‘เธอคงตกใจล่ะสิ ไม่คิดว่าจะเจอเขา เธอต้องจำเขาได้แน่นอน’
“เอ่อ ค่ะ คุณ ฉันจะต้องเข้าไปสินะ”
เปรมมิกาตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแบบตะกุกตะกัก แต่คำพูดของเธอไม่ได้บอกเขา แต่กลับบอกตัวเองต่างหาก เธอกลัวจนรนรานไปหมด เรียงประโยคคำพูดแบบผิดๆ ถูกๆ
“เข้ามาสิ...มาทำหน้าที่ของเธอให้เสร็จ หวังว่าเธอคงได้รับเงินจากฉันแล้วสินะ”
ฌอนเดินออกมายืนอยู่กลางห้อง โดยไม่สนใจสภาพอันหมิ่นเหม่ของตัวเองเลยสักนิด เขามาก่อนเวลานัด ตอนที่ฌอนเดินเข้ามา เขายังเห็นเด็กสาวทั้งสองคนกำลังนั่งคุยกัน โดยไม่สนใจเขาเลยสักนิด ดูแล้วเธอน่าจะร้อนเงินจริงๆ อย่างที่เพื่อนเขาบอก
“ได้แล้วค่ะ”
เปรมมิกาค่อยๆ ย่องเข้าไป สายตาของเธอจ้องมองไปที่เขาตลอดเวลา ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว เมื่อเห็นสภาพของชายหนุ่มตรงหน้า ขาของเธอแทบจะก้าวไม่ออก เปรมมิกาไม่เคยรู้สึกกลัวอะไรเท่าครั้งนี้มาก่อน แค่มองหน้าเขาเธอยังกลัวขนาดนี้ และจะให้เธอกับเขามีอะไรกันเนี่ยนะ
“อาบน้ำหรือยัง...อืม...ชื่ออะไรล่ะ พอจะบอกให้ฉันเรียกเธอบ้างได้มั้ย”
ฌอนจ้องมองไปที่ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อเพื่อรอคำตอบจากเธอ ปากบางรูปกระจับของเธอมันช่างเย้ายวนเสียจริง
“เรียบร้อยแล้วค่ะ...หนู...เอ่อ...ดิฉันชื่อเบลล์ค่ะ”
เปรมมิกายืนอยู่กลางห้อง เธอกำลังยืนเงอะงะอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี ถ้าเธอรู้จักเขามาก่อนก็คงจะดีสินะ
“นั่งก่อนสิ ฉันให้เวลาเธอพักสักหน่อย เดี๋ยวจะช็อคไปซะก่อน”
“ค่ะ” เปรมมิกาเดินเข้าไปนั่งบนโซฟาใหญ่ตามที่เขาเชื้อเชิญ เธอจะต้องพยายามดึงสติกลับมาให้ได้ ดูท่าทางเขาแล้วก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด อย่างน้อยเขาก็ยังให้เวลาเธอผ่อนคลาย ไม่ใช่ชายแก่บ้ากามที่คอยจะตะครุบเธอซะหน่อย
“ทำไมเธอถึงรับงานนี้ ถ้าจำไม่ผิด ฉันเคยเจอเธอมาแล้วครั้งหนึ่งใช่มั้ย”
มันเป็นเรื่องที่ตลกมากๆ เขาต้องการที่จะไปซื้อถุงยางอนามัยเพื่อที่จะเอามาใช้กับเธอเนี่ยนะ โลกช่างกลมเหลือเกิน
“ดิฉันไม่มีเงินค่ะ พ่อดิฉันป่วย และต้องรีบผ่าตัดค่ะ”
เปรมมิกาบอกเขาไปตรงๆ เผื่อเขาจะเมตตาและสงสารเธอ ยอมให้เงินเธอฟรีๆ โดยไม่ต้อง...(นี่แกคิดอะไรของแกเนี่ยเบลล์ แกจะบ้าเหรอ ใครจะให้เงินแบบฟรีๆ กัน)
“เธอยังเรียนหนังสืออยู่ใช่มั้ย”
“ใช่ค่ะ ดิฉันเรียนอยู่ปีสองแล้วค่ะ”
เขาถามเธอแบบนี้ เขาคงต้องการทำให้เธอผ่อนคลายสินะ แต่ขอบอกไว้เลยว่าหัวใจของเธอตอนนี้ มันเต้นแรงมากเหมือนกับกลองใหญ่ที่ตีกระหน่ำแบบรัวๆ เธอห้ามตัวเองไม่ได้เลย
“เธอกลัวมั้ย”
ฌอนถามออกไปตรงๆ ทำไมเขาไม่รีบจัดการเธอไปเลย เขาจะได้รู้คำตอบของตัวเองซะที จะต้องมาสนทนากับเธออีกทำไม ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ให้ตายสิ!
.....................
“กลัวค่ะ กลัวมากๆ ค่ะ”
เปรมมิกาตอบเขาตรงๆ เช่นกัน
“แล้วเธอจะทำได้เหรอ ถ้าเธอกลัวแบบนี้ บอกตรงๆ นะฉันไม่ชอบผู้หญิงที่กลัวจนรนรานทำให้ฉันหมดอารมณ์ และไม่อยากทำต่อ เธอคงรู้ใช่มั้ย ถ้าเธอทำไม่สำเร็จแล้วจะเป็นยังไง”
“งั้น คุณก็รีบทำสิคะ คุยแบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้ดิฉันกลัวคุณน้อยลงหรอกค่ะ”
เปรมมิกาอยากกัดปากตัวเองนัก ที่กล้าตอบกลับเขาไปแบบนั้น ตอนนี้สติเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว พูดอะไรบ้าๆ ออกไปเนี่ยยัยเปรมมิกา...
“โอเค งั้นก็ถอดเสื้อผ้าเธอออกสิ ฉันจะได้ทำให้เสร็จๆ”
ฌอนโต้กลับพร้อมกับเดินไปรอที่เตียงใหญ่ สายตาของเขาเหลือบมองเด็กสาวใจกล้าคนนี้อย่างขำๆ ความกลัวทำให้เธอพูดไม่คิด เธอดูตลกใสซื่อบริสุทธิ์ ธรรมชาติที่ไม่ได้ผ่านการแต่งเติมนี้ มันทำให้ความรู้สึกของฌอนกระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันที
“...” เปรมมิกาไม่ตอบ อืม เธอกลัวจนตอบไม่ได้ต่างหากล่ะ
สายตาคมมองไปที่ร่างอวบอิ่มที่ยืนอยู่กลางห้องอย่างใจเย็น ลำคอของเขาเริ่มแห้งผาก ความรู้สึกบางอย่างกำลังแทรกเข้ามา ความสดใสของวัยสาวแรกรุ่น ร่างอวบอิ่มอยู่ภายใต้ชุดสีชมพูอ่อนที่ตัวชุดเผยให้เห็นอกอวบที่นูนออกมาเกือบจะครึ่งแต่ไม่มากนัก ผิวของเธอนวลเนียนจนน่าสัมผัส เพื่อนของเขาตาถึงมาก ที่เลือกเธอคนนี้ ถ้าเขาไม่ได้เธอมา ป่านนี้เธอคงตกไปเป็นของคนอื่นแล้วแน่นอน ฌอนรู้สึกเหมือนตัวเองโชคดีที่เจอเธอก่อน
“คุณปิดไฟก่อนสิคะ”
เปรมมิกาต่อรอง จะให้เธอแก้ผ้าต่อหน้าเขาเนี่ยนะ ใครจะไปทำได้ คนไม่เคยรู้จักกันเลย อยู่ดีดีจะให้มาเปลือยต่อหน้าเปรมมิกาไม่เอาด้วยหรอก
“ฉันอยากเห็นเธอทั้งตัว จะต้องปิดไฟทำไม ไม่เห็นจะต้องอายเลย เดี๋ยวฉันก็ต้องโป๊ะเหมือนเธอแล้ว”
แต่ถ้าเธอช้ากว่านี้ล่ะก็ เขาคงต้องไปกระชากตัวเธอมาอย่างแน่นอน ร่างกายของฌอนตอนนี้มันร้อนยิ่งกว่าไฟเสียอีก แค่มองหน้ามันก็ทำให้เขากระสันสวาทขึ้นมาทันที
“ดิฉันอายค่ะ ได้โปรดเถอะค่ะ คุณช่วยปิดไฟหน่อยได้มั้ย ดิฉันไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้าใครค่ะ”
“โอเค งั้น ฉันเปิดแค่ไฟหัวเตียงนี่ก็พอ เธอจะไม่ให้ฉันมองหน้าเธอเลยหรือไง มานี่สิ”
[อีกฝากฝั่งหนึ่ง...มาเลเซีย] “นี่คุณไม่เหนื่อยบ้างเลยเหรอคะ คุณฌอน” “ผมแรงเยอะนะ ไม่มีทางที่จะเหนื่อยง่ายๆ หรอกครับเบบี๋ อืม คุณเองก็...ร้องครางไม่เหนื่อยเหรอครับ...” “คนบ้า! ก็คุณไม่หยุดพักบ้างเลยนี่คะ”เปรมมิกาหน้าแดงราวกับมะเขือเทศสุก เธอไม่สามารถที่จะนับจำนวนของการร่วมรักมาราธอนของเธอกับเขาได้เลย มันมากมายเสียจนแทบไม่มีเวลาหยุดพัก หลังจากที่ท่านประธานหนุ่มของเธอนั้น ได้ขอเธอแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ ระหว่างเปรมมิกากับเขา ก็ได้เคลียร์ทุกอย่างกันแล้วแต่เธอก็ได้แต่ขอเวลากับเขาก่อน มันเร็วเกินไปจนเธอตั้งตัวแทบไม่ติด ‘ถ้ายัยพลอยรู้คงช็อคแน่ๆ’ “เบลล์” “คะ?” “สรุป คุณจะตอบตกลงแต่งงานกับผมได้หรือยังครับ” “ก็เบลล์บอกคุณไปแล้วนี่คะ ว่าเบลล์ขอเวลาสักพัก คือเบลล์ขอเวลาปรับตัวกับคุณก่อนค่ะ คุณรู้มั้ยคะ ไม่ใช่แค่เบลล์คนเดียวนะคะที่ต้องตกใจ ที่เบลล์จะต้องแต่งงานกะทันหัน เบลล์ยังมีพ่ออีกคนนะคะ ที่ท่านจะต้องตกใจแบบสุดๆ แน่นอนค่ะ ที่อยู่ดีๆ ลูกสาวก็แต่งงานแบบสายฟ้าแลบค่ะ” “กลับจากมาเลเซีย ผมจะไปหาท่านครับ ผมรอไม่ไหวแล้ว อืม..
ร่างนุ่มหยุ่น ผิวเนียนละเอียดนุ่มมือ เม็ดทับทิมสีชมพูระเรื่อพุ่งชูชันสู้กับความร้อนจากริมฝีปากชายหนุ่มที่ทำงานอย่างหนัก ร่างบางชักเกร็งไปด้วยความเสียวกระสันที่ไม่อาจอดกลั้นไว้ได้ ยิ่งลิ้นหนาละเลงไปที่ปลายถันของเธอเท่าไหร่ ความเสียดเสียวก็ทะยานขึ้นไปเรื่อยๆ“โอ๊ะ! พลอย...ผม” หมอหนุ่มร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด ความทรมานปวดหนึบแผ่ซ่านลงไปที่ดุ้นร้อนของเขา ณภัทรจะต้องจัดการกับสิ่งนี้ให้เร็วที่สุด“อ๊ะ!” ร่างบางอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงเพราะสัมผัสจากปากร้อนที่แนบลงมาอย่างดุเดือด มือบางโอบกอดศีรษะของชายหนุ่มแนบกับลำตัว ‘เอาวะยัยพลอย...หลังจากนี้เขาจะเป็นยังไงก็ช่าง ขอฉันมีความสุขกับเทพบุตรของฉันหน่อยนะ!’“อื้ม” เสียงครางบ่งบอกความพึงพอใจของชายหนุ่ม กายกำยำร้อนรุ่ม เบื้องล่างเขาปวดหนึบ จนความเครียดขึงของท่อนแห่งความเป็นชายแข็งตัวขยายจนเห็นเส้นเอ็นรอบแท่งชัดเจน“อ่าร์...” ร่างบางร้องครางอย่างรัญจวนในสัมผัส มือเล็กขยุ้มไปที่กลุ่มผมอันดกดำของชายหนุ่ม สัมผัสร้อนจากริมฝีปากหนาลากไล้ไปทั่วบริเวณปลายถันสีชมพู ลิ้นของเขาละเลงรอบวน ใจเธอเต้นแรงรัวถี่ ปวดหนึบตรงช่องท้องเพราะความเสียวซ่านทะยานขึ้นไปจนส
ณภัทรยอมรับแต่โดยดี หลักฐานปรากฏชัดเจนขนาดนี้ ก็คงต้องยอมรับแล้ว พิรัชย์ทำอะไรไม่ปรึกษาเขาก่อนเลย จะให้เขากับเธอมีอะไรกันเนี่ยนะ “อุ้ยตาย! ทำไมแกล้งกันแรงขนาดนี้คะ แล้วคุณหมอ โอเคมั้ยคะตอนนี้ ให้ดิฉันตามหมอมั้ยคะ” “มะ-ไม่ครับ ผมจะไปหาหมอได้ยังไงครับ ผมเป็นหมอ และอีกอย่าง...โอวว์ ผะ-ผมอาย ไปไม่ได้หรอกครับ อึ้มมม์”ณภัทรทรมานอย่างแสนสาหัส ตอนนี้ตัวยาคงออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว ร่างกายของเขาร้อนไปหมด ริมฝีปากเขาสั่นระริกเพราะความต้องการจนถึงขีดสุด “เอ่อ แล้วให้ดิฉันช่วยยังไงคะ เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวคุณหรือเปล่าคะ หรือคุณจะไปอาบน้ำดีคะ ดิฉันเห็นในหนังค่ะ เขาต้องทำแบบนั้นนะคะ มาค่ะ ดิฉันจะพาไปค่ะ”พลอยไพลินพูดจบไม่รอช้า เพราะความร้อนรน ทำให้เธอรีบจนเกินเหตุเลยสะดุดขาตัวเองเข้า ร่างของเธอล้มลงบนตัวเขาอีก “โอ๊ะ!” “อุ้ย! ขอโทษค่ะคุณหมอ”พลอยไพลินรีบตะเกียกตะกายที่จะผละจากบนตัวของเขา แต่ทว่าการทำเช่นนี้มันยิ่งไปเร่งปฏิกิริยาของชายหนุ่มเข้าไปอีก “ผะ-ผมไม่ไหวแล้วพลอย ได้โปรด โอย...ผมปวดไปหมดแล้ว ชะ-ช่วยผมด้วย เอ่อ ขอโทษครับ อึ้มม์”ร่างกำยำพลิ
“มาเลยครับ” ณภัทรรีบคว้าแก้วน้ำเย็นที่บริกรส่งให้แทบจะทันที ไม่ไหวแล้ว ปากเขาแทบไหม้แล้ว “รับอีกมั้ยครับ” ปริมาณยาแก้วแรกใส่ไปเต็มสูบ ส่วนแก้วที่สองใส่ไปนิดหน่อย ‘รู้สึกสงสารผู้หญิงคนนี้จัง ^^’ “ครับ” ณภัทรฟังอะไรไม่รู้เรื่องแล้ว เขาต้องการความเย็นเข้าไปภายในปากของเขาเพื่อดับความเผ็ดร้อน ‘ไอ้เดียว! นายจะไม่ตายดีแน่!’ “เอ่อ ค่อยๆ ดื่มค่ะคุณหมอ”พลอยไพลินเห็นสภาพคนทานเผ็ดแล้วอดขำไม่ได้เลย ดูจากลักษณะของเขาแล้ว ไม่น่าที่จะทานของเผ็ดได้ แต่ที่เขาทำไป ก็น่าจะเป็นเพราะเจอเพื่อนเขาแกล้ง ก็เลยไม่อยากเสียหน้าแหละมั้ง ‘ตลกดีเหมือนกันนะ หมอสุดหล่อเนี่ย...น่าร้ากกก!’ “ครับ” ณภัทรไม่น่าใจร้อนและโมโหเพื่อนของเขาเลย ความจริงเขาทานเผ็ดไม่ได้เลย เพื่อนตัวร้ายจะรู้จุดอ่อนเขา และชอบเอามาเล่นงานเขา อืม เขาเองนี่แหละที่โมโหจนขาดสติ “ดีขึ้นบ้างยังคะ” “เริ่มเบาลงแล้วครับ เอ่อ คุณทานเลยนะครับ”ณภัทรรู้สึกเหมือนตัวเองเสียหน้าอย่างแรง เพราะความใจร้อนของตัวเอง ทำให้หลงกลไอ้เพื่อนบ้านั่น “ค่ะ ดิฉันยังไม่หิวเท่าไหร่ค่ะ” “งั้น คุณดื่
[ณ ร้านอาหารอาหารอิตาเลียนสุดหรู...ใจกลางเมืองกรุง] บรรยากาศภายในร้านอาหารอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นชาติยุโรปตะวันตกเป็นอย่างมาก ทุกอย่างถูกเนรมิตให้ราวกับการยกห้องอาหารของเจ้าของประเทศมาเลยทีเดียว ผู้คนที่มาส่วนใหญ่ก็ระดับไฮโซกันทั้งนั้น ช่างผิดกับพลอยไพลินตอนนี้ที่เป็นเหมือนกับ ‘อีกาในฝูงหงส์’ ^^ “ทำไมดูเริ่ดหรูอลังการขนาดนี้”พลอยไพลินพึมพำกับตัวเอง เมื่อเธอมาถึงก่อนเวลานัดหมายเกือบชั่วโมง เหตุก็เพราะความตื่นเต้น ประกอบกับชุดที่เธอสวมใส่นั้น มันทำให้เธอดูไม่ใช่ตัวเองเลยสักนิด แต่ก็มีพี่พนักงานที่คอยแต่งตัวให้กับเธอนั้นยังเอ่ยให้กำลังใจกับเธออยู่นะ ‘น้องใส่ชุดนี้แล้วเหมาะมาก สวยจนพี่*จึ้งไปเลยนะ จากเด็กกะโปโลกลายเป็นเจ้าหญิงไปเลย’ พลอยไพลินก้มมองชุดเดรสเข้ารูปสีชมพูพาสเทล ช่วงอกค่อนข้างลึกไปหน่อย เธอรู้สึกเหมือนตัวเองโป๊ะท่ามกลางสายตาใครหลายคนที่กำลังมองมา “ขอโทษนะครับ คุณคือ คุณพลอยหรือเปล่าครับ”บริกรคนหนึ่งเอ่ยทักเธอ “ใช่ค่ะ” “งั้นเชิญทางนี้เลยนะครับ คุณผู้ชายมารอคุณแล้วเหมือนกันครับ เชิญครับ” ‘หือ? คุณผู้ชายมารอแล
“เดียวไหนเหรอคะ? เอ่อ ต้องขอโทษด้วยนะคะ คือดิฉันไม่รู้จักคุณค่ะ” “ผมเป็นเพื่อนหมอภัทร และเป็นเพื่อนกับฌอนเจ้าของบริษัทที่คุณทำงานไงครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้คุณตกใจ”ความใจร้อนของพิรัชย์ที่รู้ว่าเพื่อนรักของเขาแอบใจกระตุกเมื่อเจอสาวคนนี้ ปกติณภัทรจะไม่เคยมีปฏิกิริยากับสาวคนไหนเลย มันเลยทำให้เขาอยากช่วยให้เพื่อนของเขาให้สมหวังเร็วเป็นพิเศษ “อ่อค่ะ งั้นเชิญนั่งค่ะ” แต่พลอยไพลินก็ยังงงอยู่ดี แล้วเขาจะมาหาเธอทำไมกัน“คุณแม่ของคุณป่วยใช่มั้ยครับ แล้วไอ้หมอเพื่อนผมมันกำลังรักษาแม่ของคุณอยู่ ภัทรมันเป็นคนใจบุญนะครับ ชอบช่วยเหลือคน”พิรัชย์ของเกริ่นสรรพคุณเพื่อนของเขาหน่อยก็แล้วกัน “เอ่อ คุณจะมาทวงค่ารักษาของแม่ดิฉันเหรอคะ ดิฉันขอผ่อนจ่ายไปแล้วนี่คะ ไม่ทราบว่า...” “เอ้ย! ไม่ใช่นะครับผมไม่ได้มาทวงหนี้ เอาไงดีล่ะครับ ผมกับคุณก็พึ่งจะเจอกันครั้งแรกด้วยสิ”ถ้าพิรัชย์รู้จักเธอคนนี้มาก่อนล่ะก็ คงไม่พูดพร่ำทำเพลงแบบนี้หรอกนะ “แล้วคุณมาทำอะไรคะ ถ้าไม่ได้มาทวงหนี้ มีเรื่องเดียวที่ดิฉันกับคุณหมอภัทรเกี่ยวข้องกันก็คือเรื่องที่ดิฉันค้างค่ารักษาของแม