Share

บทที่ 2

Author: เล่อเอิน
“?”

หัวสมองของถงอู้ถึงกับเกิดเสียงดังอื้ออึง

เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเวินซ่งที่เป็นคนสงบเสงี่ยมเสมอมา จะพูดคำนี้ออกมาได้

แต่สิ่งที่คิดไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือ ผู้ชายเฮงซวยอย่างโจวอวี้ชวนจะเป็นคนน่าอดสูได้ถึงขนาดนี้

ถงอู้ด่าหยาบ ๆ คาย ๆ ออกมาด้วยเสียงเบา ๆ แล้วว่า “ไม่ต้องเรียกแกร็บแล้ว ฉันจะไปส่งให้เธอเอง พอส่งเสร็จค่อยกลับมาทำโอที”

แกร็บที่เป็นรถสองล้อ จะมาวิ่งได้ไวกว่ารถสี่ล้อของเธอได้ยังไง

เมื่อวางสายโทรศัพท์ เวินซ่งก็นึกไม่ถึงว่าตนเองจะพูดออกไปตรง ๆ ได้ง่ายดายขนาดนั้น

อาจจะเป็นเพราะความอัดอั้นนี้ มันติดอยู่ในใจเธอมาตลอด

มันติดค้างจนทำให้ทั้งกายทั้งใจของเธออึดอัดไปเสียทุกที่ อึดอัดจนแทบบ้า

ก็เหมือนกับที่โจวอวี้ชวนพูดอยู่ในคลับคืนนั้น เขาไม่เคยแตะต้องเธอเลยสักครั้ง

หากพูดออกไปอาจจะไม่มีใครเชื่อ แต่งงานมาสามปีแล้ว ทว่าเธอยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่อง

แรก ๆ เธอเคยคิดว่า โจวอวี้ชวนมีปัญหาในเรื่องนั้นหรือเปล่า

ทว่าต่อมา ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่เธอเห็นโจวอวี้ชวนกอดอัลบั้มรูปอัลบั้มหนึ่งไว้พลางช่วยตัวเองอยู่ในห้องทำงาน

ชายหนุ่มส่งเสียงครางออกมาเป็นระยะ ๆ

มันเหมือนกับมีคนสะบัดฝ่ามือฟาดใส่หน้าเธออย่างรุนแรง

มีครั้งหนึ่ง โจวอวี้ชวนสังเกตเห็นเธอเข้า เขาเลยกอดเวินซ่งไว้ ซุกอยู่กับซอกคอของเธอ แล้วแก้ตัวด้วยเสียงอู้อี้ว่า “เสี่ยวเวินซ่ง ขอโทษนะ แค่ฉันคิดว่าทำเรื่องแบบนั้นแล้วจะทำให้เธอบาดเจ็บ ฉันเลยหักใจทำไม่ได้ เลยได้แต่มองรูปเธอ...”

แล้วที่น่าหัวเราะคืออะไรรู้ไหม

คือเวินซ่งเชื่อ ถึงขั้นหน้าแดงเถือกด้วยซ้ำ

ทว่าคืนนั้นที่เดินทางกลับเมืองจิ่งอยู่ตลอดทั้งคืน หลังจากที่เธอกินยาลดไข้เข้าไปแล้ว ก็อาศัยสติเฮือกสุดท้ายวิ่งไปที่ห้องทำงาน งัดตู้ที่เขาล็อกเอาไว้ตลอดออก

เมื่อได้เห็นอัลบั้มรูปนั่น

มันอัดแน่นไปด้วยรูปของเสิ่นหมิงถังทั้งหมด เสิ่นหมิงถังที่ทั้งสดใสร่าเริงและทำให้คนหวั่นไหว

ทุกอิริยาบถ ล้วนได้รับการดูแลจากโจวอวี้ชวนราวกับสมบัติล้ำค่า

เวินซ่งรู้สึกเพียงแค่ว่า ตนเองได้กลายเป็นเรื่องน่าขบขันเรื่องหนึ่งไปเสียแล้ว

ระหว่างที่จิตใจล่องลอยอยู่นั้น เธอนึกถึงที่ผ่านมา ตอนที่ตนเองคอยตามอยู่ด้านหลังโจวอวี้ชวนต้อย ๆ ราวกับเป็นหางของเขา

อันที่จริง เธอก็ไม่ได้ตามเขาหรอก

เพียงแต่เป็นเพราะว่าพี่ชายมักจะอยู่กับเขาบ่อย ๆ

พอมองนานเข้า ต่อมาถึงกับคิดว่า หากได้แต่งงานกับเขาคงจะดีไม่น้อย

โจวอวี้ชวนนิสัยดีมาก ทั้งใจเย็น ทั้งอบอุ่น ทุกครั้งที่มาหาพี่ชายก็จะหิ้วของขวัญมาให้เธอเสมอ

เป็นคนหนึ่งที่เป็นสุภาพบุรุษที่สุดในหมู่เพื่อนของพี่ชาย

แต่ก็เป็นสุภาพบุรุษคนนี้อีกนั่นแหละ ที่ยอมช่วยตัวเองเพราะพี่สะใภ้ใหญ่ของตัวเอง แต่ไม่ยอมแตะต้องภรรยาที่อยู่ใกล้ชิดเขาที่สุด

เวินซ่งนึกไม่ถึงเลยว่า ถงอู้จะรวดเร็วได้ขนาดนี้

เธอเพิ่งจะลุกจากเตียง ล้างหน้าล้างตาเสร็จ ทว่ายังไม่ทันได้ลงไปชั้นล่างเลย กริ่งประตูก็ดังขึ้นเสียแล้ว

ทำราวกับว่าถ้าไม่ใช่เพราะสำนักงานกิจการพลเรือนเลิกงานแล้วละก็ คงจะรีบลากเธอกับโจวอวี้ชวนไปดำเนินตามขั้นตอนทันที

เวินซ่งได้รับหนังสือข้อตกลงแล้ว ในใจเพิ่งจะสงบลงได้เล็กน้อย อยู่ ๆ เสียงกระจ่างใส่พลันดังขึ้นมาจากทางชั้นบน

เธอยังไม่ทันได้คิดอะไร ป้าอู๋ก็วิ่งลงมาพร้อมกับสีหน้าไม่สู้ดี อยากจะพูดแต่ก็ชะงักไป “คุณนายรอง...”

“มีอะไรเหรอ?”

“ภาพครอบครัวที่คุณนายรองตั้งไว้ในห้องนอน... ถูกคั่วคั่วทำพังไปแล้วค่ะ”

ได้ยินแบบนั้น เวินซ่งคิดว่าเพียงแค่ทำกรอบรูปตกแตกเท่านั้น แต่พอเห็นรูปถ่ายที่ขาดเป็นชิ้น ๆ ที่ป้าอู๋ยื่นมาให้แล้ว

เวินซ่งก็หน้าขาวซีดไปในทันที

ตอนเธอห้าขวบ พ่อแม่ก็จากไปเพราะอุบัติเหตุแล้ว เหลือไว้เพียงรูปครอบครัวรูปนี้แค่รูปเดียว

เป็นความทรงจำเดียวที่เธอมี

เวินซ่งรับรูปถ่ายที่ถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ แล้วรีบสาวเท้าขึ้นไปชั้นบนทันที!

เสิ่นหมิงถังอุ้มลูกชายออกมาจากห้องของเวินซ่งพอดี

เวินซ่งจ้องเธอด้วยสายตาเย็นชา “พี่สะใภ้ใหญ่ ห้องที่พวกเธอเข้าไปน่ะ มันเป็นห้องของฉัน”

“คุณอาเล็กบอกว่า ต่อไปที่นี่จะเป็นบ้านของคั่วคั่ว”

โจวสือคั่วไม่ยอม พึมพำอย่างกระฟัดกระเฟียดว่า “คุณอาเล็กยังบอกอีกว่า ต่อไปคุณอาเล็กก็จะดูแลคั่วคั่วกับคุณแม่เหมือนกับคุณพ่อ”

เวินซ่งเห็นเสิ่นหมิงถังไม่มีความคิดจะอบรมเลยสักนิด ก็หัวเราออกมาในทันที

เธอมองโจวสือคั่ว “เธอรู้ไหมว่าวันคริสต์มาสในอีกไม่กี่วันที่จะมาถึง ซานตาคลอสจะทำอะไรกับเธอ?”

เด็กน้อยเชิดหน้า “เขาก็จะให้ลูกอมผมเยอะ ๆ !”

“ผิดแล้ว”

เธอส่ายหน้า ยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “เขาจะตัดมือทั้งสองข้างของเธอที่เพิ่งจะทำรูปถ่ายของฉันขาด เอาเข้าเตาอบ แล้วค่อยเอาไปให้สัตว์ประหลาดกิน”

“แง...”

สุดท้ายแล้วก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง

โจวสือคั่วตกใจจนกอดเสิ่นหมิงถังไว้แน่น พลางร้องไห้เสียงดังลั่น

เสิ่นหมิงถังขมวดคิ้ว มองเวินซ่งอย่างไม่พอใจ “เขาก็แค่เด็ก เธอไม่จำเป็นต้องขู่ให้เขากลัวขนาดนี้”

“แค่เด็กคนหนึ่งเธอก็อบรมสั่งสอนให้ดีไม่ได้ นอกจากเล่นกีฬาผาดโผนแล้ว เธอยังทำอะไรเป็นอีก”

หลังเวินซ่งพูดประโยคนี้ออกไปแล้ว ก็กลับห้องไปอย่างว่องไว

กลางดึก มายบัคสีดำค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามาในลานบ้าน

เวินซ่งยืนอยู่ตรงกระจกหน้าต่าง เห็นว่าทันทีที่ชายหนุ่มลงจากรถ โจวสือคั่วก็ลากเสิ่นหมิงถังพุ่งเข้าไปหาแล้ว

ดูกลมเกลียวไม่ต่างอะไรกับครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกเลย

พักใหญ่ ที่หน้าประตูถึงได้มีเสียงความเคลื่อนไหวดังเข้ามา

โจวอวี้ชวนใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว เดินก้าวฉับ ๆ เข้ามา น้ำเสียงไม่เป็นมิตรนัก “เธอทำให้คั่วคั่วตกใจกลัว?”

“ใช่”

เวินซ่งชี้ไปที่ของบางอย่างที่วางอยู่บนหัวเตียง “เขาฉีกรูปครอบครัวของฉันขาดเป็นชิ้น ๆ ”

โจวอวี้ชวนชะงักทันที

แล้วถึงได้สติ ว่าตนเองไม่ได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด

เขาเอื้อมแขนยาว ๆ ออกไป หมายจะลูบศีรษะของหญิงสาวตรงหน้า ทว่ากลับถูกหลบเลี่ยง เขาคิดแค่ว่าเจ้าตัวยังคงโกรธเคือง เลยทำเพียงแค่พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ฉันผิดเอง ต้องขอโทษเธอแทนคั่วคั่วด้วยนะ มีของอะไรที่อยากได้ไหม? ฉันจะชดเชยให้เธอเอง”

เวินซ่งยิ้มเล็กน้อย “อะไรก็ได้เหรอ?”

โจวอวี้ชวนกล่าวขอโทษอย่างจริงใจ “แน่นอน”

“ฉันต้องการของสองอย่างนี้”

ได้ยินแบบนั้น เธอก็ยื่นหนังสือข้อตกลงที่เตรียมไว้เป็นอย่างดีมานานแล้วออกไปพร้อมกัน

โจวอวี้ชวนรับไป เขามองเพียงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเป็นข้อตกลงเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ก็เซ็นชื่อของตัวเองลงไปทันที

ส่วนหนังสือข้อตกลงฉบับที่สองก็เปิดไปที่ท้ายกระดาษ แล้วเซ็นชื่อลงไปทันทีด้วยความว่องไว

เขาใจกว้างในเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มาตลอด

เมื่อเซ็นจบ เขาก็ถอนหายใจโล่งอก รวบเอวบางของเวินซ่งไว้ด้วยมือเดียวอย่างนุ่มนวล พลางดึงตัวเข้ามาในอ้อมกอด “เสี่ยวเวินซ่ง ทำไมพี่ชายเธอถึงได้สอนเธอให้ว่าง่ายแล้วก็รู้ประสาขนาดนี้นะ?”

เวินซ่งรู้สึกแค่ว่าน่ารำคาญเหลือเกิน ขณะที่กำลังจะดันเขาออก ประตูที่ปิดไว้เพียงครึ่งเดียวก็ถูกเคาะ

ตอนที่โจวอวี้ชวนเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าประตู ก็แทบจะดันตัวเวินซ่งออกทันทีตามสัญชาตญาณ

เวินซ่งชะงักไปเล็กน้อย ทว่ากลับเข้าใจแจ่มแจ้ง

เขาต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจให้คนที่อยู่ในใจเห็น แต่งงานมาสามปีแล้วแต่ไม่เคยร่วมห้องกับเธอ

ตอนนี้มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันแล้ว แน่นอนว่ายิ่งต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจให้เต็มที่

เสิ่นหมิงถังทำท่าทางเหมือนจนปัญญาเล็กน้อย “อาชวน คั่วคั่วงอแงอยากให้คุณไปนอนด้วย”

“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

โจวอวี้ชวนรับคำ แล้วหันมามองเวินซ่ง “ไม่โกรธแล้วนะ?”

“ไม่โกรธแล้ว”

เมื่อเขาหมุนตัวออกไปแล้ว เวินซ่งก็ดึงหนังสือข้อตกลงฉบับที่สองออกมา หนังสือข้อตกลงหย่า

เธอว่าง่ายรู้ประสาจริง ๆ นั่นแหละ

กระทั่งเรื่องหย่า ก็ยังเป็นฝ่ายตระเตรียมหนังสือข้อตกลงการหย่าด้วยตัวเอง ทั้งยังยื่นไปถึงหน้าเขาอีก
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 64

    “ถึงตอนนั้น พวกเราคงต้องไปที่ซางซื่อกรุ๊ปบ่อย ๆ…”เขาพูดพลางชำเลืองมองสีหน้าของเวินซ่งอย่างลังเลกลุ่มบริษัทซางซื่อกรุ๊ปมีอาคารอยู่สองหลัง ห้องทดลองและสถาบันวิจัยล้วนอยู่ในอาคารนั้น แม้โอกาสที่จะเจอซางอวี้นั้นมีไม่มากนัก แต่ก็ยังมีอยู่ดีเวินซ่งเผยรอยยิ้มจนใจ “ทำไมพี่ถึงเหมือนอาจารย์จัง?”เธอก็วางตะเกียบลง แล้วเอ่ยอย่างจริงจัง “พี่สวินมู่ พี่วางใจได้ ฉันแยกแยะออก จะไม่ให้เรื่องส่วนตัวมากระทบงานเด็ดขาด…”ชั้นสองของร้านอาหาร ประตูห้องส่วนตัวบานหนึ่งเปิดอยู่ ชายหนุ่มหน้าประตูเอามือใหญ่ที่มีกระดูกนิ้วชัดเจนเท้าลงบนราวบันได ดวงตาดำมืดคู่นั้นจ้องเขม็งไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่อยู่ชั้นล่างหญิงสาวที่ต่อหน้าเขาจะทำสีหน้าห่างเหิน เวลานี้กลับดูเชื่อฟังเรียบร้อย ไม่รู้ว่ารับปากอะไรกับผู้ชายอีกคน“ซางอวี้ นายมองอะไรอยู่น่ะ? ไม่เข้ามาสักที”ชายหนุ่มคนหนึ่งที่อายุไล่เลี่ยกันเดินออกมา ชำเลืองมองลงไปตามสายตาของเขา แล้วพูดโดยไม่สำรวม “อ๋อ ดูน้องสาวนายอยู่นี่เอง”“...ไปให้พ้น”ซางอวี้เหล่มองเขา พลางล้วงกระเป๋ากางเกงเดินลงชั้นล่างอย่างไม่ใส่ใจ “ที่เหลือพวกนายก็คุยกันต่อเถอะ ฉันไปก่อนนะ”“ได้ งั้น

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 63

    เธอไม่ได้คิดจะให้โจวอวี้ชวนมารับเธอหลังเลิกงานเลยแต่พอเห็นภาพนี้ ก็อดรู้สึกเยาะเย้ยเล็ก ๆ ไม่ได้โจวอวี้ชวนค่อย ๆ ผลักผู้หญิงในอ้อมแขนออก ขณะที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เพื่อนร่วมงานสายตาดีสองสามคนก็หัวเราะล้อเลียนขึ้นมา“พี่หมิงถัง นี่แฟนพี่ใช่ไหม?”ตอนกลางวันทำงาน เสิ่นหมิงถังก็แอบอวดทั้งโดยตรงและโดยอ้อมอยู่ตลอดทั้งวันแล้วว่ามีแฟนที่สูงใหญ่ หล่อเหลา อ่อนโยน แถมยังรวยมากรถสปอร์ตคันนั้นเมื่อเช้า ก็เป็นแฟนหนุ่มที่มอบให้ตอนนี้ดูแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะไม่ได้โป้ปดเลยสักนิด เป็นหนุ่มสูงหล่อรวยอย่างแท้จริงเอ่อไม่สิ ไม่ใช่ระดับเดียวกับหนุ่มสูงหล่อรวยทั่วไป บุคลิกก็ดีมากเช่นกัน ทั้งสง่างามและสูงส่งเสิ่นหมิงถังปัดผมไปไว้หลังใบหูด้วยความเคอะเขินเล็กน้อย ก่อนมองไปยังโจวอวี้ชวน “อวี้ชวน พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงานของฉันเอง”โจวอวี้ชวนขมวดคิ้วแน่น พอเงยหน้ามองไปอีกที เวินซ่งก็เดินออกไปไกลแล้ว!เขาไม่ได้ตอบอะไร ทุกคนคิดว่าเขามีนิสัยเก็บตัวอีกอย่าง เจ้าพ่อที่ร่ำรวยขนาดนี้ ไม่ชอบคุยกับคนอื่นก็เป็นเรื่องปกติพอเสิ่นหมิงถังกับโจวอวี้ชวนขึ้นรถไปแล้ว เพื่อนร่วมงานหญิงหลายคนก็อิจฉาแทบบ้า“

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 62

    “ก็ได้”เจียงสวินมู่เห็นว่าเธอยังอารมณ์ดีอยู่ ก็อดยิ้มไม่ได้พลางกล่าวว่า “พวกเธอบอกว่า แทบไม่เคยเห็นหมอเวินทำหน้าไม่พอใจใส่ใคร เลยสงสัยกันว่า เธอกับเสิ่นหมิงถังมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”เวินซ่งไม่ได้พูดอะไร จ้องมองของในมือเขา “เอามาให้ฉันเหรอคะ?”“อืม”เจียงสวินมู่วางปิ่นโตเก็บอุณหภูมิลงตรงหน้าเธอ “เป็ดอบเบียร์ ปลาผัดมะเขือยาว แล้วก็ผักกาดขาวผัดน้ำส้มสายชู อาจารย์หญิงกำชับให้เอามาให้เธอโดยเฉพาะเลย”พอเวินซ่งเปิดฝาออก กลิ่นหอมก็ลอยมาแตะจมูก จึงลองชิมมะเขือยาวอย่างอดใจไม่ไหว “พี่ไปบ้านอาจารย์มาเหรอ?”“ใช่ ไปคุยกับอาจารย์เรื่องโปรเจกต์นั้นของซางซื่อกรุ๊ป”เจียงสวินมู่นั่งลงตรงข้ามเธอ “รสชาติเป็นไงบ้าง?”“ต้องดีมากอยู่แล้ว”เวินซ่งยิ้ม “แล้วพี่กินหรือยังคะ?”“ฉัน…”เสียงเจียงสวินมู่ชะงักไปนิดหนึ่ง สายตาอันอ่อนโยนหยุดอยู่ที่แก้มเธอ เจือด้วยรอยยิ้ม “ยังเลย”“งั้นก็กินด้วยกันสิคะ”เวินซ่งหยิบตะเกียบใช้แล้วทิ้งจากลิ้นชักส่งให้เขา พลางถามต่อ “โปรเจกต์ของซางซื่อกรุ๊ปเป็นยังไงเหรอ? เมื่อไหร่จะเริ่มล่ะ?”“กินข้าวก่อนเถอะ”เจียงสวินมู่ชำเลืองมองเวลา “เรื่องโปรเจกต์ ไว้เธอเลิกงานคืนนี้

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 61

    ป้าอู๋ที่ยังนอนหลับฝันอยู่ ก็ถูกเสียงเคาะประตูอันเร่งรีบปลุกให้ตื่นพอเปิดประตูออก ก็เผชิญหน้ากับสีหน้าไม่สู้ดีของโจวอวี้ชวน ในใจพลันเกิดสัญญาณเตือนภัยขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “คุณชาย เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”สายตาโจวอวี้ชวนแฝงความคมกริบ “คุณนายรองกลับมาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?”เสิ่นหมิงถังที่อยู่ข้าง ๆ ใช้ปลายเล็บอันแหลมคมจิกลงไปในฝ่ามือนังชั้นต่ำนั่นย้ายออกไปแล้วเธอยากลำบากแทบตายกว่าจะได้เป็นคุณนายหญิงอยู่ไม่กี่วัน ไม่อยากเห็นเงาของเวินซ่งในบ้านอีกต่อไป!“คุณนายรอง เธอกลับมาทุกวันนะคะ…”ป้าอู๋ทำท่าเหมือนสงสัย แต่ตอบสนองได้เร็วมาก “เอ๊ะ ไม่ใช่สิ คืนนี้ไม่กลับ คุณนายใหญ่จะอายุครบแปดสิบแล้ว คุณนายเลยเรียกเธอกลับไปที่บ้านใหญ่ให้ช่วยออกความเห็นน่ะเจ้าค่ะ”แววตาของเสิ่นหมิงถังฉายความประหลาดใจ ในใจก็เต็มไปด้วยคำถามทำไมป้าอู๋ต้องช่วยปิดบังเรื่องที่เวินซ่งย้ายออกไปด้วยหรือว่า ป้าอู๋เองก็คิดว่าเมื่อเทียบกับเวินซ่งแล้ว เธอเหมาะที่จะเป็นคุณนายหญิงของบ้านนี้มากกว่าเมื่อคิดถึงตรงนี้ เธออดไม่ได้ที่จะแย้มมุมปากขึ้น พลางมองไปยังโจวอวี้ชวน “เอาน่ะ เวินซ่งแค่ไม่กลับมาคืนเดียวเอง คุณจะระแวงไปทำไมกัน

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 60 

    เวินซ่งกลับไม่ได้คิดมากขนาดนั้น “งั้นก็ต้องวิจัยสำเร็จให้ได้”“ด้วยความสามารถของเธอ ฉันเชื่อว่าจะสำเร็จแน่”อวี๋เฉิงอั้นรู้จักความสามารถของเธอกว่าใครหลังจากวางสายโทรศัพท์ เขาก็อดมองไปทางภรรยาที่อยู่ข้าง ๆ อย่างซาบซึ้งใจไม่ได้ “ไม่คิดเลยนะว่า เธอจะเข้าใจนิสัยของเด็กคนนี้ดีกว่าฉันอีก”“นั่นสิ”ซุนจิ้งหลันยิ้ม “เด็กคนนี้น่ะ โครงการอื่น ๆ เก้าในสิบเธอก็ปฏิเสธหมด แต่เรื่องที่สามารถรักษาโรคช่วยชีวิตคนได้ จะไม่ลังเลเลย”-เมืองไห่ห่างจากเมืองจิ่งไม่ถึงสองร้อยกิโลเมตร ตอนเช้าวันถัดไป โจวอวี้ชวนมีประชุมผู้ถือหุ้น ก็เลยไม่ได้ค้างคืนที่เมืองไห่เขากับเสิ่นหมิงถังสองคนกลับเมืองจิ่งในคืนนั้นเลยเมืองจิ่งในช่วงเวลานี้ ยังคงมีรถสัญจรไม่ขาดสาย911 รุ่นลิมิเต็ดสีแดงคำรามผ่านไป เมื่อจอดอยู่ที่สี่แยกไฟแดง ก็ดึงดูดให้คนบนถนนไม่น้อยหยิบมือถือถ่ายรูปความหยิ่งทะนงของเสิ่นหมิงถังถูกเติมเต็มอย่างเต็มที่“อวี้ชวน วันนี้ฉันมีความสุขมาก ขอบคุณนะ…”เธอเอียงหน้าหันมองทางที่นั่งข้างคนขับ พบว่าชายหนุ่มดูเหมือนเหม่อลอยผ่านไปราว ๆ สองสามวินาที โจวอวี้ชวนถึงเพิ่งจะรู้สึกตัวแล้วหันมามองเธอ “เธอว่าอะไรนะ?

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 59

    ไม่ใช่แค่เสิ่นหมิงถังที่ตกใจเวินซ่งก็อึ้งเช่นกันเธอเงยหน้าขึ้น พยายามให้ตัวเองพูดอย่างนิ่งสงบที่สุด “นายจะอธิบายให้พวกเขาเข้าใจชัดเจนก่อน หรือไม่ก็ไปรับรถเป็นเพื่อนเสิ่นหมิงถังต่อ”เธอยอมรับที่เขานอกใจ แล้วก็ยอมเคลียร์แทนพวกเขาแต่ไม่ยอมรับความคลุมเครือถ้าก็ไปกับเสิ่นหมิงถังแบบนี้แล้ว ในสายตาคนนอก เสิ่นหมิงถังคือคุณนายโจวแล้วเธอเป็นอะไร แน่นอนว่าเป็นมือที่สามที่ทำลายการแต่งงานคนอื่นโจวอวี้ชวนเม้มริมฝีปากบางเบา ๆ “เสี่ยวเวินซ่ง……”“ประธานโจว ฉันยังมีธุระ ขอตัวไปก่อน”เวินซ่งมองความลังเลของเขาออก จึงทำการตัดสินใจแทนเขาเสียงไม่ดังและไม่เบาเกินไป เพียงพอที่คนรอบ ๆ จะได้ยินอย่างชัดเจน“ประธานโจว” คำเดียว ก็ขีดเส้นกั้นได้อย่างชัดเจนผู้จัดการฝ่ายขายเป็นคนหัวหมอ จึงพูดกับโจวอวี้ชวนด้วยรอยยิ้ม “ประธานโจว ที่แท้คุณผู้หญิงท่านนี้เป็นเพื่อนของคุณนี่เอง คุณก็ไม่บอกก่อน ไม่งั้นยังไงผมก็ต้องลดราคาให้อยู่แล้ว”“……อืม” วินาทีที่โจวอวี้ชวนตอบรับ เวินซ่งก็ปิดประตูรถอย่างแรง แล้วขับออกไปทันทีเสิ่นหมิงถังยิ้มหวานแล้วคล้องแขนของโจวอวี้ชวน “ฉันเกือบคิดว่า คุณลืมว่ารับรถเสร็จ ต้องไปเดิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status