Share

เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว
เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว
Author: เล่อเอิน

บทที่ 1

Author: เล่อเอิน
ปีที่สามของการแต่งงาน ตอนที่พี่ชายคนโตของโจวอวี้ชวนจากไป เวินซ่งพูดเรื่องหย่ากับเขา

โจวอวี้ชวนขมวดคิ้ว เผยสีหน้าไม่เข้าใจ “แค่เพราะว่าฉันยอมถูกตบหน้าแทนหมิงถังเนี่ยนะ?”

หมิงถัง เรียกกันเสียสนิทสนมจริง ๆ นะ

แต่ว่า ทั้งที่เสิ่นหมิงถังเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของเขาแท้ ๆ

เวินซ่งขยับริมฝีปาก “ใช่ เป็นเพราะเรื่องนี้”

สิ่งที่ทำลายชีวิตการแต่งงาน มันจะเป็นเพราะเรื่องแค่นี้ได้ยังไง

รอยแดงจากการถูกตบฉาดนั้นที่โรงพยาบาล มันชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของโจวอวี้ชวน

ตอนนั้น คนตระกูลโจวล้วนประหลาดใจกับการที่เขาปกป้องเสิ่นหมิงถังแบบนั้น

มีเพียงแค่เวินซ่งเท่านั้น ที่ไม่มีความประหลาดใจเลยสักนิดเดียว

เมื่อสามวันก่อน เป็นวันครบรอบการแต่งงานของเธอกับโจวอวี้ชวน

เธอตระเตรียมการเซอร์ไพรส์ไว้เป็นอย่างดี นั่งเครื่องบินไปถึงเมืองที่เขาไปดูงาน ทว่ากลับได้ยินคำพูดระหว่างเขากับเพื่อนสองเสียก่อน

“อวี้ชวน ฉันไม่ได้จะว่านายนะ วันครบรอบแต่งงานนายจะหลบออกมาทุกปีแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องเลย นายทำแบบนี้มันผิดต่อความตั้งใจจริงของเสี่ยวเวินซ่ง”

ชายหนุ่มที่ปกติแล้วมักอ่อนโยนและสง่างาม นึกไม่ถึงเลยว่าในดวงตาเขาจะดูว้าเหว่ “นายคิดว่าฉันอยากเหรอ? ถ้าไม่ทำแบบนี้... เธอจะไม่มีทางเชื่อเลย ว่าตลอดหลายปีมานี้ฉันไม่เคยแตะต้องเวินซ่งเลยสักนิด”

“เธอ...”

หลังจากบรรดาเพื่อนที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเวินซ่งได้สติ ก็เกิดโมโหขึ้นมาไม่น้อย พูดจาถากถางออกไป “นายพูดถึงเสิ่นหมิงถัง? โจวอวี้ชวน นายนี่มันบ้าไปแล้ว เลิกคิดถึงอดีตสักที ท้องที่สองของเสิ่นหมิงถังก็ป่องชัดขนาดนั้น นายยังไม่ปล่อยวางอีก”

หัวข้อสนทนาเปลี่ยนไปทันที เขาพูดต่อไปว่า “อีกอย่างนะ นายรังแกเสี่ยวเวินซ่งขนาดนี้ ไม่กลัวว่าพี่ซางอวี้จะเอาเรื่องนายหรือไง?”

“เขาไม่ทำหรอก”

โจวอวี้ชวนลูบนิ้วมือ “เพราะเวินซ่งกับฉันแต่งงานกัน พวกเขาเลยทะเลาะจนเข้าหน้ากันไม่ติดแล้ว ไลน์ก็บล็อกกันไปตั้งสามปีแล้วด้วย”

เวินซ่งที่อยู่นอกห้องส่วนตัวสาสเท้ายาวจากไปอย่างเงียบงัน ทว่าปลายนิ้วมือที่อยู่ข้างลำตัวกลับสั่นเล็กน้อยจนแทบมองไม่ออก

ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ ว่าโจวอวี้ชวนเคยมีคนในใจมาก่อน

เธอไปสืบถามมาจากคนมากมายนับไม่ถ้วน ไม่มีใครบอกเธอเลยว่าคนในใจคนนี้แท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่

ทั้งยังเคยคาดเดาความเป็นไปได้ต่าง ๆ นานา

คนเดียวที่ไม่เคยนึกถึงเลยก็คือพี่สะใภ้ใหญ่

“พี่สะใภ้ใหญ่” ที่เธอเรียกขานด้วยความเคารพมาสามปี

มันน่าอึดอัดเกินไปแล้ว!

ตอนที่เวินซ่งเดินออกไปจากคลับ ฝนห่าใหญ่ก็เทลงมาพอดี เธอทำราวกับไม่เห็น ปล่อยให้ตัวเองตากฝนเปียกซ่กเหมือนลูกหมาตกน้ำ

เธอนั่งเครื่องบินกลับเมืองจิ่งพร้อมกับดวงตาแดงก่ำไปตลอดทั้งคืน

ทันทีที่ถึงบ้านก็ล้มพับเพราะไม่สบาย

ไข้ขึ้นอยู่สองวันเต็ม ๆ วันนี้อาการเพิ่งจะทุเลาลงมาบ้าง พี่ชายคนโตอย่างโจวหวายอันก็เกิดอุบัติเหตุเสียแล้ว

เจ็ดวันต่อมา พิธีศพของโจวหวายอันได้จัดขึ้นที่เมืองจิ่ง

สองสามวันนี้ ในแต่ละวันได้นอนที่บ้านใหญ่แค่สองสามชั่วโมงเท่านั้น หลังเสร็จสิ้นพิธีศพ ทันทีที่ออกจากสุสาน เวินซ่งรู้สึกเพียงแค่ว่าเหมือนตัวเดินอยู่ข้างหน้า ทว่าจิตวิญญาณกลับลอยตามอยู่ด้านหลัง

คนขับรถขับรถมารออยู่ที่ด้านหน้าประตู

เวินซ่งขึ้นรถได้ก็ปิดเปลือกตาทั้งสองข้าง “ลุงเฉินคะ กลับบ้านกัน”

“ไม่ไปบ้านใหญ่แล้วเหรอครับ?”

“ไม่ละค่ะ”

พิธีศพเสร็จสิ้นแล้ว แต่ตระกูลโจวยังมีเรื่องให้ต้องวุ่นวายอีก

โจวหวายอันเป็นลูกชายคนโต หลานชายคนโต ตั้งแต่เล็กก็เติบโตมาอย่างดาวล้อมเดือน

อุบัติเหตุการตายครั้งนี้ เป็นเสิ่นหมิงถังที่รบเร้าให้เขาไปกระโดดร่ม ทว่าอุปกรณ์กระโดดขัดข้อง ทำให้ตกจากกลางอากาศจนเสียชีวิต

การส่งตัวไปที่โรงพยาบาลนั้น ไม่ได้ส่งไปเพื่อช่วยชีวิต

แต่เป็นการเย็บซ่อมแซมร่างไร้วิญญาณ

ความเดือดดาลที่ตระกูลโจวมีต่อเสิ่นหมิงถังนั้น ยังไม่จบสิ้น

เวินซ่งไม่อยากไปเห็นอีกว่าสามีของตัวเองจะปกป้องผู้หญิงคนอื่นอย่างไร เธอยังมีเรื่องของตัวเองที่ต้องทำ

เพียงแต่ รถเพิ่งเริ่มเคลื่อนตัว ประตูรถด้านหลังก็ถูกคนเปิดออกกะทันหัน

โจวอวี้ชวนอยู่ในชุดสูทสั่งตัดสีดำล้วน รูปร่างสูงยาวเข่าดี ใบหน้าหล่อเหลาดูลำบากใจอยู่บ้างอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็น “เสี่ยวซ่ง เธอกำลังจะกลับบ้านเหรอ?”

“อืม”

เวินซ่งเพิ่งขานรับ ทันทีที่เหลือบสายตาไปก็เห็นเสิ่นหมิงถังที่อยู่ข้างกายเขา มาพร้อมกับเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่ง

ลูกชายของเสิ่นหมิงถังกับโจวหวายอัน โจวสือคั่ว เพิ่งอายุได้สี่ขวบ ร่างอวบอ้วนตุ้ยนุ้ย

เวินซ่งไม่ค่อยเข้าใจเจตนาของเขาสักเท่าไร เห็นโจวสือคั่วใช้มือและเท้าปีนป่ายขึ้นมาบนรถ แล้วกล่าวอย่างไม่เกรงใจว่า “อาสะใภ้เล็ก รบกวนอาพาผมกับแม่กลับไปด้วยนะ!”

เวินซ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย เหลือบตามองโจวอวี้ชวนเพื่อยืนยัน

โจวอวี้ชวนเม้มริมฝีปากบางเล็กน้อย “พ่อกับแม่ยังไม่หายโมโหเลย ให้หมิงถังกับคั่วคั่วไปพักอยู่ที่บ้านพวกเราสักพักก่อนนะ”

ท่าทางเหมือนกับว่ากลัวเธอปฏิเสธ เลยสำทับขึ้นมาอีกประโยค “เธออยากมีลูกแล้วไม่ใช่เหรอ พอดีเลย ก็เรียนรู้การดูแลคั่วคั่วไปพลาง ๆ ได้”

“...”

เวินซ่งเกือบจะหัวเราะออกมาแล้วเชียว

คิดว่าถ้าหัวเราะตอนที่อยู่ในสุสานแบบนี้ ดูจะไม่ค่อยถูกกาลเทศะเท่าไร

ให้สองแม่ลูกเสิ่นหมิงถังกลับบ้านพร้อมเธอ ส่วนเขาก็กลับไปบ้านใหญ่เพียงคนเดียว เพื่อรองรับเพลิงโทสะ

มีความรับผิดชอบไม่เลว

เมื่อกลับถึงบ้าน โจวอวี้ชวนน่าจะโทรมาแจ้งล่วงหน้า ป้าอู๋เลยจัดการเก็บกวาดห้องนอนแขกไว้เรียบร้อย

เวินซ่งไม่ต้องกังวลใจ อาบน้ำเสร็จ พอหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตายทันที

ตอนที่ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว

เพิ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อนสนิทก็โทรศัพท์มาหาแล้ว

“ฉันจัดการหนังสือข้อตกลงการหย่าตามเงื่อนไขของเธอเรียบร้อยแล้ว ให้ส่งไปให้ดูไหม?”

“ขอบคุณมากทนายถง”

เวินซ่งเพิ่งตื่น น้ำเสียงเลยนุ่มนวลมาก “ไม่ต้องส่งมาหรอก เธอเรียกแกร็บได้เลย”

“รีบขนาดนั้นเชียว เธอคิดดีแล้วจริง ๆ ใช่ไหม?”

ถงอู้เคยทำคดีผ่านมือมามาก กลัวว่าเพื่อนเธอจะทำเพราะอารมณ์ชั่ววูบ “โจวอวี้ชวนอาจจะไม่ใช่คนรักที่ดี แต่หากมองในบางมุม...”

เวินซ่งเปิดไฟ ลุกขึ้นนั่ง ความคิดก็ยิ่งชัดเจนแจ่มแจ้ง “คิดดีแล้ว ถงถง เขาช่วยตัวเองด้วยรูปผู้หญิงคนอื่น”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 64

    “ถึงตอนนั้น พวกเราคงต้องไปที่ซางซื่อกรุ๊ปบ่อย ๆ…”เขาพูดพลางชำเลืองมองสีหน้าของเวินซ่งอย่างลังเลกลุ่มบริษัทซางซื่อกรุ๊ปมีอาคารอยู่สองหลัง ห้องทดลองและสถาบันวิจัยล้วนอยู่ในอาคารนั้น แม้โอกาสที่จะเจอซางอวี้นั้นมีไม่มากนัก แต่ก็ยังมีอยู่ดีเวินซ่งเผยรอยยิ้มจนใจ “ทำไมพี่ถึงเหมือนอาจารย์จัง?”เธอก็วางตะเกียบลง แล้วเอ่ยอย่างจริงจัง “พี่สวินมู่ พี่วางใจได้ ฉันแยกแยะออก จะไม่ให้เรื่องส่วนตัวมากระทบงานเด็ดขาด…”ชั้นสองของร้านอาหาร ประตูห้องส่วนตัวบานหนึ่งเปิดอยู่ ชายหนุ่มหน้าประตูเอามือใหญ่ที่มีกระดูกนิ้วชัดเจนเท้าลงบนราวบันได ดวงตาดำมืดคู่นั้นจ้องเขม็งไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่อยู่ชั้นล่างหญิงสาวที่ต่อหน้าเขาจะทำสีหน้าห่างเหิน เวลานี้กลับดูเชื่อฟังเรียบร้อย ไม่รู้ว่ารับปากอะไรกับผู้ชายอีกคน“ซางอวี้ นายมองอะไรอยู่น่ะ? ไม่เข้ามาสักที”ชายหนุ่มคนหนึ่งที่อายุไล่เลี่ยกันเดินออกมา ชำเลืองมองลงไปตามสายตาของเขา แล้วพูดโดยไม่สำรวม “อ๋อ ดูน้องสาวนายอยู่นี่เอง”“...ไปให้พ้น”ซางอวี้เหล่มองเขา พลางล้วงกระเป๋ากางเกงเดินลงชั้นล่างอย่างไม่ใส่ใจ “ที่เหลือพวกนายก็คุยกันต่อเถอะ ฉันไปก่อนนะ”“ได้ งั้น

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 63

    เธอไม่ได้คิดจะให้โจวอวี้ชวนมารับเธอหลังเลิกงานเลยแต่พอเห็นภาพนี้ ก็อดรู้สึกเยาะเย้ยเล็ก ๆ ไม่ได้โจวอวี้ชวนค่อย ๆ ผลักผู้หญิงในอ้อมแขนออก ขณะที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เพื่อนร่วมงานสายตาดีสองสามคนก็หัวเราะล้อเลียนขึ้นมา“พี่หมิงถัง นี่แฟนพี่ใช่ไหม?”ตอนกลางวันทำงาน เสิ่นหมิงถังก็แอบอวดทั้งโดยตรงและโดยอ้อมอยู่ตลอดทั้งวันแล้วว่ามีแฟนที่สูงใหญ่ หล่อเหลา อ่อนโยน แถมยังรวยมากรถสปอร์ตคันนั้นเมื่อเช้า ก็เป็นแฟนหนุ่มที่มอบให้ตอนนี้ดูแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะไม่ได้โป้ปดเลยสักนิด เป็นหนุ่มสูงหล่อรวยอย่างแท้จริงเอ่อไม่สิ ไม่ใช่ระดับเดียวกับหนุ่มสูงหล่อรวยทั่วไป บุคลิกก็ดีมากเช่นกัน ทั้งสง่างามและสูงส่งเสิ่นหมิงถังปัดผมไปไว้หลังใบหูด้วยความเคอะเขินเล็กน้อย ก่อนมองไปยังโจวอวี้ชวน “อวี้ชวน พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมงานของฉันเอง”โจวอวี้ชวนขมวดคิ้วแน่น พอเงยหน้ามองไปอีกที เวินซ่งก็เดินออกไปไกลแล้ว!เขาไม่ได้ตอบอะไร ทุกคนคิดว่าเขามีนิสัยเก็บตัวอีกอย่าง เจ้าพ่อที่ร่ำรวยขนาดนี้ ไม่ชอบคุยกับคนอื่นก็เป็นเรื่องปกติพอเสิ่นหมิงถังกับโจวอวี้ชวนขึ้นรถไปแล้ว เพื่อนร่วมงานหญิงหลายคนก็อิจฉาแทบบ้า“

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 62

    “ก็ได้”เจียงสวินมู่เห็นว่าเธอยังอารมณ์ดีอยู่ ก็อดยิ้มไม่ได้พลางกล่าวว่า “พวกเธอบอกว่า แทบไม่เคยเห็นหมอเวินทำหน้าไม่พอใจใส่ใคร เลยสงสัยกันว่า เธอกับเสิ่นหมิงถังมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”เวินซ่งไม่ได้พูดอะไร จ้องมองของในมือเขา “เอามาให้ฉันเหรอคะ?”“อืม”เจียงสวินมู่วางปิ่นโตเก็บอุณหภูมิลงตรงหน้าเธอ “เป็ดอบเบียร์ ปลาผัดมะเขือยาว แล้วก็ผักกาดขาวผัดน้ำส้มสายชู อาจารย์หญิงกำชับให้เอามาให้เธอโดยเฉพาะเลย”พอเวินซ่งเปิดฝาออก กลิ่นหอมก็ลอยมาแตะจมูก จึงลองชิมมะเขือยาวอย่างอดใจไม่ไหว “พี่ไปบ้านอาจารย์มาเหรอ?”“ใช่ ไปคุยกับอาจารย์เรื่องโปรเจกต์นั้นของซางซื่อกรุ๊ป”เจียงสวินมู่นั่งลงตรงข้ามเธอ “รสชาติเป็นไงบ้าง?”“ต้องดีมากอยู่แล้ว”เวินซ่งยิ้ม “แล้วพี่กินหรือยังคะ?”“ฉัน…”เสียงเจียงสวินมู่ชะงักไปนิดหนึ่ง สายตาอันอ่อนโยนหยุดอยู่ที่แก้มเธอ เจือด้วยรอยยิ้ม “ยังเลย”“งั้นก็กินด้วยกันสิคะ”เวินซ่งหยิบตะเกียบใช้แล้วทิ้งจากลิ้นชักส่งให้เขา พลางถามต่อ “โปรเจกต์ของซางซื่อกรุ๊ปเป็นยังไงเหรอ? เมื่อไหร่จะเริ่มล่ะ?”“กินข้าวก่อนเถอะ”เจียงสวินมู่ชำเลืองมองเวลา “เรื่องโปรเจกต์ ไว้เธอเลิกงานคืนนี้

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 61

    ป้าอู๋ที่ยังนอนหลับฝันอยู่ ก็ถูกเสียงเคาะประตูอันเร่งรีบปลุกให้ตื่นพอเปิดประตูออก ก็เผชิญหน้ากับสีหน้าไม่สู้ดีของโจวอวี้ชวน ในใจพลันเกิดสัญญาณเตือนภัยขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “คุณชาย เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”สายตาโจวอวี้ชวนแฝงความคมกริบ “คุณนายรองกลับมาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?”เสิ่นหมิงถังที่อยู่ข้าง ๆ ใช้ปลายเล็บอันแหลมคมจิกลงไปในฝ่ามือนังชั้นต่ำนั่นย้ายออกไปแล้วเธอยากลำบากแทบตายกว่าจะได้เป็นคุณนายหญิงอยู่ไม่กี่วัน ไม่อยากเห็นเงาของเวินซ่งในบ้านอีกต่อไป!“คุณนายรอง เธอกลับมาทุกวันนะคะ…”ป้าอู๋ทำท่าเหมือนสงสัย แต่ตอบสนองได้เร็วมาก “เอ๊ะ ไม่ใช่สิ คืนนี้ไม่กลับ คุณนายใหญ่จะอายุครบแปดสิบแล้ว คุณนายเลยเรียกเธอกลับไปที่บ้านใหญ่ให้ช่วยออกความเห็นน่ะเจ้าค่ะ”แววตาของเสิ่นหมิงถังฉายความประหลาดใจ ในใจก็เต็มไปด้วยคำถามทำไมป้าอู๋ต้องช่วยปิดบังเรื่องที่เวินซ่งย้ายออกไปด้วยหรือว่า ป้าอู๋เองก็คิดว่าเมื่อเทียบกับเวินซ่งแล้ว เธอเหมาะที่จะเป็นคุณนายหญิงของบ้านนี้มากกว่าเมื่อคิดถึงตรงนี้ เธออดไม่ได้ที่จะแย้มมุมปากขึ้น พลางมองไปยังโจวอวี้ชวน “เอาน่ะ เวินซ่งแค่ไม่กลับมาคืนเดียวเอง คุณจะระแวงไปทำไมกัน

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 60 

    เวินซ่งกลับไม่ได้คิดมากขนาดนั้น “งั้นก็ต้องวิจัยสำเร็จให้ได้”“ด้วยความสามารถของเธอ ฉันเชื่อว่าจะสำเร็จแน่”อวี๋เฉิงอั้นรู้จักความสามารถของเธอกว่าใครหลังจากวางสายโทรศัพท์ เขาก็อดมองไปทางภรรยาที่อยู่ข้าง ๆ อย่างซาบซึ้งใจไม่ได้ “ไม่คิดเลยนะว่า เธอจะเข้าใจนิสัยของเด็กคนนี้ดีกว่าฉันอีก”“นั่นสิ”ซุนจิ้งหลันยิ้ม “เด็กคนนี้น่ะ โครงการอื่น ๆ เก้าในสิบเธอก็ปฏิเสธหมด แต่เรื่องที่สามารถรักษาโรคช่วยชีวิตคนได้ จะไม่ลังเลเลย”-เมืองไห่ห่างจากเมืองจิ่งไม่ถึงสองร้อยกิโลเมตร ตอนเช้าวันถัดไป โจวอวี้ชวนมีประชุมผู้ถือหุ้น ก็เลยไม่ได้ค้างคืนที่เมืองไห่เขากับเสิ่นหมิงถังสองคนกลับเมืองจิ่งในคืนนั้นเลยเมืองจิ่งในช่วงเวลานี้ ยังคงมีรถสัญจรไม่ขาดสาย911 รุ่นลิมิเต็ดสีแดงคำรามผ่านไป เมื่อจอดอยู่ที่สี่แยกไฟแดง ก็ดึงดูดให้คนบนถนนไม่น้อยหยิบมือถือถ่ายรูปความหยิ่งทะนงของเสิ่นหมิงถังถูกเติมเต็มอย่างเต็มที่“อวี้ชวน วันนี้ฉันมีความสุขมาก ขอบคุณนะ…”เธอเอียงหน้าหันมองทางที่นั่งข้างคนขับ พบว่าชายหนุ่มดูเหมือนเหม่อลอยผ่านไปราว ๆ สองสามวินาที โจวอวี้ชวนถึงเพิ่งจะรู้สึกตัวแล้วหันมามองเธอ “เธอว่าอะไรนะ?

  • เลิกตื๊อสักทีผู้ชายเฮงซวย ฉันคนนี้มีสามีใหม่แล้ว   บทที่ 59

    ไม่ใช่แค่เสิ่นหมิงถังที่ตกใจเวินซ่งก็อึ้งเช่นกันเธอเงยหน้าขึ้น พยายามให้ตัวเองพูดอย่างนิ่งสงบที่สุด “นายจะอธิบายให้พวกเขาเข้าใจชัดเจนก่อน หรือไม่ก็ไปรับรถเป็นเพื่อนเสิ่นหมิงถังต่อ”เธอยอมรับที่เขานอกใจ แล้วก็ยอมเคลียร์แทนพวกเขาแต่ไม่ยอมรับความคลุมเครือถ้าก็ไปกับเสิ่นหมิงถังแบบนี้แล้ว ในสายตาคนนอก เสิ่นหมิงถังคือคุณนายโจวแล้วเธอเป็นอะไร แน่นอนว่าเป็นมือที่สามที่ทำลายการแต่งงานคนอื่นโจวอวี้ชวนเม้มริมฝีปากบางเบา ๆ “เสี่ยวเวินซ่ง……”“ประธานโจว ฉันยังมีธุระ ขอตัวไปก่อน”เวินซ่งมองความลังเลของเขาออก จึงทำการตัดสินใจแทนเขาเสียงไม่ดังและไม่เบาเกินไป เพียงพอที่คนรอบ ๆ จะได้ยินอย่างชัดเจน“ประธานโจว” คำเดียว ก็ขีดเส้นกั้นได้อย่างชัดเจนผู้จัดการฝ่ายขายเป็นคนหัวหมอ จึงพูดกับโจวอวี้ชวนด้วยรอยยิ้ม “ประธานโจว ที่แท้คุณผู้หญิงท่านนี้เป็นเพื่อนของคุณนี่เอง คุณก็ไม่บอกก่อน ไม่งั้นยังไงผมก็ต้องลดราคาให้อยู่แล้ว”“……อืม” วินาทีที่โจวอวี้ชวนตอบรับ เวินซ่งก็ปิดประตูรถอย่างแรง แล้วขับออกไปทันทีเสิ่นหมิงถังยิ้มหวานแล้วคล้องแขนของโจวอวี้ชวน “ฉันเกือบคิดว่า คุณลืมว่ารับรถเสร็จ ต้องไปเดิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status