ริคาโด้และสิรภพมานั่งดื่มกันอยู่บริเวณสระน้ำทั้งสองคนพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลทางธุรกิจกันอยู่พักใหญ่สิรภพนั้นมีธุรกิจเปิดผับที่รับช่วงมาจากบิดาของเขาและยังมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างอีกด้วย
“กิจการผับตอนนี้เป็นยังไงบ้างล่ะภพ” ริคาโด้เปิดประเด็นคุยกับน้องเขย
“ก็เลยเรื่อยๆ ครับพี่ ตอนนี้มีคู่แข่งเกิดขึ้นเยอะเราก็ต้องหากลยุทธ์มาเรียกลูกค้ากำไรก็พอมีบ้าง ยังดีว่าฐานลูกค้าของเราส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแม้ว่าช่วงที่เศรษฐกิจของเมืองไทยซบเซาแต่ก็ไม่ค่อยส่งผลกระทบเท่าไหร่แล้วโรงแรมของพี่ริคล่ะเป็นยังไงบ้าง”
“โรงแรมของพี่ก็เหมือนกับผับของนายนั่นแหละลูกค้าของเราเป็นชาวต่างชาติก็เลยไม่กระทบเท่าไหร่”
“พี่ริคไม่ได้มาหาพวกเรานานเป็นเดือนเลยนะครับ งานคงยุ่งมากใช่ไหม”
“ช่วงที่ผ่านมางานยุ่งเหมือนกันแหละแต่ตอนนี้เคลียร์หมดแล้วช่วงนี้อาจจะแวะมาหาหนูอันนาได้บ่อยขึ้น”
“ดีเลยครับอันนาคงดีใจที่ อันที่จริงผมอยากให้พี่ย้ายเข้ามาอยู่กับพวกเรานะครับ บ้านเราอยู่กันแค่สามคนมันค่อนข้างจะเหงาถ้าพี่ริคย้ายมาอยู่ด้วยกันก็คงดี”
“พี่ว่าอันนาคงไม่เหงาหรอกมั้ง ดูเหมือนว่าอันนาจะมีเพื่อนเป็นคุณครูคนใหม่แล้วนะ” เขานึกถึงใบหน้าของหลานสาวที่ดูมีความสุขแล้วก็ยิ้ม
“ครูขิมเธอไม่ได้มาสอนทุกวันหรอกครับ เธอมาสอนที่นี่แค่อาทิตย์ละสองครั้งเองครับ”
“ว่าแต่นายไปหาคุณครูมาจากไหนล่ะ พี่ว่าเธอสวยดีนะ”
“คนรู้จักแนะนำมาอีกทีครับ พี่ริคมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เธอเป็นครูจริงๆ เหรอภพ” ริคาโด้ถามเพราะดูท่าทางของเธอไม่เหมือนกับคุณครูที่เขาเคยรู้จักเลย หญิงสาวแต่งตัวทันสมัยหน้าตาสวยและหุ่นดีราวกับเป็นนางแบบ
“เป็นคุณครูจริงๆ ครับครูขิมเธอสอนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลเอกชนใกล้บ้านเรานี่แหละครับ คนรู้จักผมบอกว่าเธอสอนดีและเข้ากับเด็กได้ผมก็เลยชวนให้เธอมาสอนน่ะ”
“แล้วครูขิมเขามาสอนหนูอันนาได้นานหรือยังล่ะ”
“ก็ได้เดือนกว่าแล้วครับน่าจะเป็นช่วงที่พี่ริคไม่ค่อยมาที่นี่ พี่ริคก็เลยไม่เคยเจอครูขิม พี่ริคถามทำไมครับหรือว่าพี่สนใจคุณครู”
“เปล่าหรอกพี่ก็แค่ถามดู ใครที่เข้าใกล้อันนาพี่ก็ต้องอยากจะรู้ประวัติสักหน่อย”
“นั่นสิครับ ผมไม่น่าถามเลยหนูอันนาเป็นแก้วตาดวงใจของพี่ริคพี่ก็ต้องเป็นห่วงเป็นเรื่องปกติ ว่าแต่เมื่อไหร่พี่จะมีลูกเป็นของตัวเองสักทีล่ะ”
“ภพก็ถามแบบไม่คิดเลยนะพี่จะมีลูกได้ยังไงแฟนยังไม่มีเลย”
“แล้วเมื่อไหร่พี่ริคจะมีแฟนสักทีล่ะครับ ผมมีเพื่อนที่ยังโสดอีกหลายคนให้ผมแนะนำให้ดีไหม” สิรภพเสนอพี่เขยของตนเองเพราะไม่อยากให้พี่เขยของตนเองมาสนใจมนัญชญา เพราะเขาเป็นผู้ชายด้วยกันก็พอจะมองออกว่าตอนนี้ริคาโด้ให้ความสนใจกับคุณครูของหนูอันนาและเขาจะยอมให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้
“อย่าเลยพี่ว่าเป็นโสดแบบนี้มันก็ดีไปอย่าง”
“แต่จะเหงาเอานะพี่”
“คนอย่างพี่ไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองเหงาหรอกน่านายอย่าห่วงเลย” เขาพูดแล้วยกวิสกี้ขึ้นมาดื่มแววตากรุ้มกริ่มยามเมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ตนเองควงอยู่
“ผมลืมไปเลยครับว่าพี่ริคมีผู้หญิงอยู่รอบตัวตลอดคงไม่มีทางเหงาๆ หรอกใช่ไหมครับ”
“อือ พี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก้อนนะ”
“ครับพี่”
ริคาโด้เดินกลับเข้าในตัวบ้านเมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จก็แวะไปที่ห้องครัว
“ทำอะไรเหรอเอเลนท่าทางยุ่งเชียว”
“กำลังเตรียมอาหารเย็นค่ะ พี่ริคอยู่กินข้าวด้วยกันนะคะ”
“ถึงเอเลนไม่ชวนพี่ก็ไม่กลับง่ายๆ หรอก พี่ยังไม่ได้เอาของฝากให้อันนาเลย”
“ครั้งนี้ของฝากเป็นอะไรอีกล่ะคะ ถ้าให้เอเลนเดาก็คงจะหนีไม่พ้นพวกตุ๊กตาใช่ไหมล่ะ”
“ก็พี่ไม่รู้จะซื้ออะไรนี่แล้วอันนาก็ชอบตุ๊กตาไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ค่ะ อันนาชอบมากค่ะ นี่เอเลนก็เพิ่งจะซื้อตู้มาเก็บตุ๊กตาเพิ่มให้อีก เอเลนรู้ว่าลูกชอบอะไรก็อยากจะให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาชอบ”
“พี่เข้าใจเพราะความสุขของอันนาก็คือความสุขของเราทุกคน เอเลนโชคดีมากที่มีลูกน่ารักละครอบครัวที่อบอุ่น”
“พี่ริคล่ะคะ ไม่คิดอยากจะมีครอบครัวบ้างเหรอ พี่อายุเยอะแล้วนะคะเมื่อไหร่จะมีครอบครัวสักที”
“พี่ไม่ค่อยอินกับเรื่องนี้”
“แล้วพี่ริคจะอยู่คนเดียวแบบนี้ไปตลอดเหรอคะ”
“ก็ตอนนี้พี่มีความสุขดี แต่อนาคตพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไงแต่ตอนนี้พี่ยังไม่เจอคนที่ถูกใจ”
“เอเลนหวังว่าพี่จะเจอผู้หญิงที่ถูกใจนะคะแล้วก็รีบมีลูกอันนาจะได้มีน้อง”
“ถ้าอยากให้อันนามีน้องเอเลนก็มีเองสิ พี่ยังไม่คิดเรื่องนั้น”
“เอเลนก็อยากมีค่ะ แต่พี่ภพไม่อยากมี” เอเลน่ามีหน้าเศร้าลงเมื่อนึกไปถึงเรื่องที่ตนเองพูดกับสามีเมื่อหลายวัน
“ทำไมล่ะหรือเอเลนกับนายภพมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”
“เปล่าหรอกค่ะ แค่พี่ภพเขาอยากมีลูกแค่คนเดียวค่ะ”
“เขาบอกไหมว่าเพราะอะไร พี่ว่าการมีลูกหลายคนมันก็ดีนะ หนูอันนาจะได้ไม่เหงา อีกหน่อยถ้าเราไม่อยู่แล้วหนูอันนาก็จะได้ไม่อยู่คนเดียว”
“เอเลนไม่กล้าถามหรอกค่ะ บางทีช่วงนี้เขาอาจจะเครียดเรื่องงานเอาไว้เรื่องนี้เอเลนจะคุยกับพี่ภพอีกทีค่ะ”
ริคาโด้ไม่รู้ว่าทำไมน้องเขยถึงอยากมีลูกแค่คนเดียวแต่เขาก็ไม่คิดจะถามเพราะคิดว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องในครอบครัวของน้องสาวและเขาไม่อยากจะเข้าไปยุ่ง
ชายหนุ่มคุยกับน้องสาวอีกไม่นานหนูอันนาก็เลิกเรียนพอดี
วันนี้ที่ห้องอาหารของบ้านหลังใหญ่ครึกครื้นกว่าทุกวันเพราะนอกจากครอบครัวของเจ้าของบ้านแล้วยังมีพี่ชายของเธอและคุณครูของอันนาเพิ่มมาอีกด้วย
ระหว่างรับประทานอาหารริคาโด้ก็สังเกตเห็นว่าสิรภพดูสนิทสนมกับมนัญชญาเป็นพิเศษ ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ ราวกับรู้จักกันมานาน
เมื่อเห็นแบบนั้นริคาโด้รู้สึกไม่สบายใจ เขาไม่ชอบที่น้องเขยของเขาทำตัวสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่นนอกจากน้องสาวของเขา
มาเฟียหนุ่มคิดในใจว่าคงต้องทำอะไรทำอะไรสักอย่าง เพื่อไม่ให้มนัญชญากับสิรภพสนิทกันมากกว่านี้ ริคาโด้ตัดสินใจที่จะเข้าใกล้มนัญชญาให้มากขึ้นเพราะอยากรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนและคิดอะไรกับสิรภพหรือเปล่า
ครบหนึ่งหกเดือนแล้วที่ริคาโด้ประสบอุบัติเหตุตอนนี้เขากลับมาเดินได้ตามปกติแต่คุณหมอยังไม่อนุญาตให้วิ่งหรือออกแรงขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บมากจนเกินไปวันนี้เป็นโอกาสที่ที่เขาได้มาร่วมงานแต่งงานของน้องชายต่างมารดาที่อิตาลี การมาครั้งนี้นอกจากตัวเอาเองแล้วครอบครัวของเอเลน่ารวมถึงมนัญชญาก็มาร่วมงานแต่งงานด้วยหลังจากงานแต่งงานของน้องชายเสร็จเรียบร้อยแล้วริคาโด้ก็มาคุยกับบิดาและพามนัญชญามากับเขาด้วย“ฉันดีใจจะที่ความรักของนายยังไปได้สวย”“แน่นอนครับ เราสองคนยังรักกันดี”“น้องของแกก็แต่งงานไปแล้ว เมื่อไหร่แกจะแต่งล่ะ”“คงอีกไม่นานหรอกครับพ่อ”“ฉันขอถามเธออีกครั้งและมันจะเป็นครั้งสุดท้ายนะ” อัลแบโต้มองหน้าคนรักของลูกชายด้วยสายตาที่ยังคงเป็นกังวล“ได้ค่ะคุณอัลแบโต้”“เธอจะไม่เปลี่ยนใจจากลูกชายของฉันแน่ใช่ไหม”“แน่ค่ะ คำตอบของฉันก็ยังคงเหมือนเดิม”“พ่อจะถามเพื่ออะไรครับ หรือยังไม่เลิกคิดจะให้ผมแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นอีก”“เรื่องนั้นฉันเลิกคิดไปแล้ว”“พ่อเลิกคิดเองหรือเพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมแต่งงานกับผมล่ะครับ ผมรู้ว่าเรื่องของผมที่นี่มันไม่เป็นความลับ” ริคาโด้รู้จากคนของเขาว่าโซเฟียเอาเรื่องของเ
ผ่านมาหนึ่งเดือนหลังจากเกิดอุบัติเหตุตอนนี้ริคาโด้ออกจากโรงพยาบาลและกลับมาอยู่ที่บ้านของเอเลน่าซึ่งแต่ก่อนเขาก็เคยอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้แต่พอน้องสาวแต่งงานชายหนุ่มจึงย้ายออกไปอยู่ที่คอนโดมิเนียมเหตุผลที่ริคาโด้ต้องกลับมาอยู่ที่บ้านของเอเลน่าก็เพราะถ้าเขาไปอยู่ที่คอนโดมนัญชญาจะไม่ยอมตามไปดูแลเขาที่นั่นเพราะหญิงสาวเป็นห่วงและกลัวว่าช่วงที่เธอไปทำงานริคาโด้จะไม่มีคนคอยดูแลตอนนี้ชายหนุ่มยังต้องใช้ไม้เท้าเวลาเดินและนั่งรถเข็นเวลาไปทำงานที่โรงแรมในบางวันที่เขามีประชุม ส่วนวันอื่นๆ ก็เอางานกลับมาทำที่บ้านโดยมีวสันต์และคนของเขาคอยประสานงาน“วันนี้เหนื่อยหรือเปล่าคะ” มนัญชญาถามหลังจากคนของเขาไปรับเธอมาจากโรงเรียน“ไม่เท่าไหร่ครับวันนี้ผมไปประชุมแค่ครึ่งวัน เสร็จแล้วก็รีบกลับมาพัก”“ดีมากค่ะ แบบนี้จะได้หายไวๆ นะคะ เราไปทานข้าวกันนะคะหนูอันนาน่าจะหิวแล้ว” หญิงสาวช่วยพยุงเขาลุกขึ้นจากนั้นก็ส่งไม้เท้าให้เขา ในตอนแรกเธอก็คอยช่วยประคองเวลาเขาเดิน แต่นักกายภาพบำบัดแนะนำว่าควรให้เขาเดินเองเพราะจะได้รู้จังหวะในการเดินและลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุซ้ำได้“ลุงริคขา วันเสาร์คุณพ่อคุณแม่จะพาอันนาไปเที่ยวทะ
มนัญชญาพูดกับอัลแบโต้เพราะอยากให้เขามั่นใจว่าจากนี้ลูกชายของเขาจะมีเธอเป็นคนดูแลอย่างดี“แล้วเธอจะได้อะไรกับการทำแบบนี้” อัลแบโต้ถามไปตามตรงเพราะถ้าหากลูกชายเขารักษาไม่หายผู้หญิงคนนี้ก็คงจะเป็นทุกข์มาก เขารู้ว่าหญิงชายวัยนี้เรื่องบนเตียงมันก็เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต แล้วจะมีใครยอมเอาตัวเองมาจบอยู่กับผู้ชายที่ให้ความสุขไม่ได้แบบนี้“นั่นสิ เธอจะทนอยู่กับเขาได้ยังไง หรือคิดว่าเขาจะรักษาหาย” โซเฟียมองมนัญชญาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยว่าเธอจะยอมอยู่กับริคาโด้ได้ยังไงเพราะถ้าเป็นตัวเธอเองคงไม่อยู่กับเขาแน่“เพราะคุณริคคือคนรักของฉันไงคะ เขาจะรักษาหายหรือไม่หายมันก็ไม่สำคัญหรอกนะ”“เธอจะทนอยู่ได้แน่เหรอ ฉันไม่เชื่อหรอกนะ”“ฉันไม่สนใจว่าคุณหรือใครจะเชื่อหรือไม่ ฉันสนใจแค่คุณริคคนเดียว”“ขอบใจนะขิม แต่ที่โซเฟียพูดก็ถูกนะ ผมคงไม่เห็นแก่ตัวแบบนั้นหรอก”“เรื่องของเราเอาไว้คุยกันสองคนดีกว่านะคุณริค” มนัญชญาไม่อยากให้ริคาโด้ต้องลำบากใจไปมากกว่านี้“ก็ได้ครับ”“ฉันว่าเรื่องนี้คงต้องคุยกันยาวๆ” อัลแบโต้ยังไม่แน่ใจว่ามนัญชญาจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่าและเขาก็จะลองให้โอกาสเธอดูสักครั้งถ้าหากเว
ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัยไม่มีใครรู้ว่าริคาโด้กับคุณหมอพูดเรื่องอะไรกัน“ถ้าคุณตัดสินใจแล้วผมก็จะบอกความจริงทั้งหมดให้กับทุกคนรู้”คุณหมอวัยกลางคนมองหน้าริคาโด้และทุกคนในห้องแล้วถอนหายใจก่อนจะบอกถึงอาการของริคาโด้ให้กับทุกคนรู้“เท่าที่เราทุกคนทราบว่าคุณริคาโด้ประสบอุบัติเหตุจนกระดูกหักแต่ที่ทุกคนไม่รู้ก็คือระหว่างเกิดอุบัติเหตุนี้ร่างกายของคุณริคาโด้ถูกกระแทกตรงบริเวณหน้าอก ช่องท้องรวมถึงอุ้งเชิงกรานของเขาด้วย แรงกระแทกไม่ได้ส่งผลให้อวัยวะเสียหายอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็มีอวัยวะและเส้นประสาทบางส่วนเสียหายจากแรงกระแทกนี้” คุณหมออธิบายด้วยภาษาอังกฤษช้าๆ เพื่อให้ทุกคนในห้องเข้าใจอย่างชัดเจน“หมอคะ หมอกำลังจะบอกอะไรก็บอกมาเลยค่ะไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาว” โซเฟียไม่เข้าใจสิ่งที่คุณหมอพูดและเธอก็คิดว่าคนอื่นก็คงไม่มีใครเข้าใจเหมือนกันเพียงแต่ไม่มีใครกล้าถามคุณหมอยังคงมีท่าทางอึดอัดที่จะพูดออกมาตรงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนไข้ของเขา“ผมไม่อายหรอกครับหมอบอกทุกคนไปเลย” ริคาโด้พูดขึ้นเพราะเห็นทุกคนมีสีหน้าสงสัยและอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่“เส้นประสาทบางส่วนของคุณริคาโด้ได้รับค
เข้าวันที่สี่แล้วในการนอนโรงพยาบาลของริคาโด้ ตอนนี้อาการปวดบริเวณแผลผ่าตัดของชายหนุ่มแทบไม่มีแล้วแต่หมอก็ยังไม่อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้เพราะแผลยังไม่หายดีเท่าไหร่แต่เขาก็ไม่ได้อยากออกจากโรงพยาบาลเพราะรู้สึกดีที่มนัญชญามานอนเฝ้าเขาทุกคืนวันนี้หลังจากเลิกมนัญชญาแล้วก็กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่บ้านก่อนจะกลับมานอนเฝ้าริคาโด้ที่โรงพยาบาลเหมือนกับสามคืนก่อนหน้านี้“เป็นยังไงบ้างคะปวดแผลหรือเปล่า” หญิงสาวถามคนรักก่อนจะเดินมานั่งข้างเตียง“ปวดครับแต่ไม่เยอะเท่าไหร่ วันนี้ผมเลยไม่ขอยาแก้ปวดจากพยาบาลเลยครับ”“คุณริคเก่งมากและฟื้นตัวได้ดีมากๆ เลยนะคะ”“เพราะผมได้กำลังใจดีจากขิมไงล่ะครับ แล้วขิมเหนื่อยไหมที่ต้องมานอนเฝ้าผมทุกคืนแบบนี้ อดทนอีกนิดนะครับถ้าผมหายดีแล้วผมจะทำหน้าที่แฟนให้ดีที่สุดเลย”“ตอนนี้คงริคก็ดีที่สุดสำหรับขิมแล้วนะคะ”“ขิมของผมน่ารักที่สุดเลย” ริคาโด้จับมือเธอแล้วยกขึ้นมาจูบ ไปบนหลังมือด้วยความรักตั้งแต่เขานอนอยู่ที่โรงพยาบาลมนัญชญาก็คอยดูแลมาตลอดเธอไม่เคยชักสีหน้าไม่พอใจหรือทำท่าทางเบื่อหน่ายที่ต้องมานอนเฝ้าเขาที่โรงพยาบาลเลย มันทำให้ชายหนุ่มรู้สึกรักเธอมากขึ้นอีกและคิดว่าค
วันรุ่งขึ้นมนัญชญาก็แวะมาโรงพยาบาลตั้งแต่เช้าเพื่อสอบถามอาการของริคาโด้จากพยาบาลประจำห้องไอซียูก่อนไปทำงานและพอเลิกงานหญิงสาวก็แวะมาหาเขาอีกครั้งก็เลยได้เจอกับสิรภพและเอเลน่าพอดีหลังจากคุยกับพยาบาลแล้วทั้งสามคนก็แยกย้ายกันกลับก่อนจะนัดกันมาเยี่ยมริคาโด้อีกครั้งในเช้าวันเสาร์ซึ่งพยาบาลบอกว่าจะย้ายชายหนุ่มไปยังห้องพักฟื้นเช้าวันเสาร์มนัญชญารีบออกมาจากบ้านเมื่อได้ยินเสียงรถของสิรภพมาจอด ทั้งสามคนพากันมายังห้องพักผู้ป่วยวีไอพีที่เอเลน่าจองไว้ให้กับพี่ชาย พอประตูห้องเปิดเข้าไปก็เห็นริคาโด้นอนอยู่บนเตียงโดยมีวสันต์ผู้ช่วยของเขายืนอยู่ข้างๆ“อะไรคะพี่ริคเจ็บหนักขนาดนี้ยังจะทำงานอีกเหรอคะ” เอเลน่าต่อว่าพี่ชาย“พี่แค่สั่งงานนิดหน่อยเอง” เขารีบส่งแฟ้มคืนให้วสันต์แล้วยิ้มให้กับน้องสาวและคนรัก“เจ็บมากมั้ยคะ” หญิงสาวมองขาของคนรักมีผ้าพันแผลแล้วถามด้วยความเป็นห่วงอันที่จริงมนัญชญาได้คุยกับริคาโด้แล้วตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแต่ยังไม่ได้มาเยี่ยมเพราะหมอยังไม่อนุญาต“ตอนนี้ไม่เจ็บเพราะพยาบาลเพิ่งฉีดยาให้แต่ถ้าหมดฤทธิ์ยาก็เจ็บเอาการอยู่”“พี่ริคคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุแน่นะคะ”“ทำไมถามแบบนั้นล่ะเอเลน