“คุณธีคะหวานมีเรื่องจะรบกวนคุณธีอีกอย่างหนึ่ง”
“อะไรครับ”
“คุณธีช่วยสมัคร I*******m หน่อยได้ไหม”
“ทำไมล่ะ แค่ F******k มันไม่พอเหรอ”
“ก็ส่วนใหญ่คนจะตามสืบจากไอจีนะ”
“แต่ถ้าผมเพิ่งสมัครวันนี้คนก็รู้อยู่ดีว่าผมสมัครหลังจากเกิดเรื่องแล้ว”
“นั่นสิหวานลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยถ้ายังงั้นเราเอายังไงดีล่ะ”
“เอาบัญชีเก่าของเนเน่ไปใช้ไหม”
“คุณมีบัญชีหลายบัญชีเหรอครับเนเน่”
“มีสามบัญชีค่ะบัญชีที่เปิดสาธารณะ กับบัญชีเป็นส่วนตัว แต่บัญชีที่จะให้คุณคือบัญชีที่เนเน่เปิดมานานแล้วและตามแค่ตัวเอง”
“แบบนี้ก็ดีเลยสิถ้าคนตามสืบก็จะรู้ว่าคุณที่ติดตามเนเน่มานาน แล้วรูปในไอจีเป็นรูปอะไร” ณัฏฐพิมพ์ถามเพราะตัวเองก็ลืมไปแล้วว่าชญานิษฐ์ยังมีบัญชีไอจีอีกบัญชีหนึ่งที่ไม่เคยได้ใช้งานเลย
“เป็นรูปหอไอเฟลพอจะใช้ได้ไหม เดี๋ยวแป๊บหนึ่งนะ” หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ของตนเองและล็อกเอาท์ออกจากบัญชี I*******m เดิมจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นบัญชี I*******m ที่ไม่เคยได้เปิดใช้มานานและโชคดีมากที่เธอมักจะตั้งรหัสผ่านทุกๆ อย่างไว้คล้ายๆ กันมันเลยทำให้เปิดเข้าไปใช้บัญชีนั้นได้
“นี่ไงเนเน่ไม่ได้โพสต์อะไรเลยส่วนใหญ่ก็ตามไปกดถูกใจสนใจรูปของตัวเองตั้งแต่เริ่มทำงานแรกๆ หลังจากมีคนติดตามเยอะมีคนมาคอมเมนต์เยอะเนเน่ก็เลยไม่ค่อยได้ใช้ไอจีนั้นต่อ”
“คุณจะยกบัญชีนี้ให้ผมจริงเหรอ มันจะไม่เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของคุณเกินไปหรือเปล่า” ธีธวัชหันมาถาม
“ไม่หรอกค่ะลงแอพในโทรศัพท์ของคุณสิเดี๋ยวเนเน่กรอกรหัสให้”
“เดี๋ยวผมจัดการให้เองครับ ส่งโทรศัพท์มาครับ” หิรัญแบมือขอโทรศัพท์จากเจ้าหน้านายจากนั้นก็รีบโหลดแอพพลิเคชัน I*******m ก่อนจะยื่นส่งโทรศัพท์ให้ชญานิษฐ์เป็นคนกรอกรหัสให้
“เรียบร้อยแล้วค่ะจากนี้คุณก็แค่เข้าไปดูและกดไลค์เวลาเนเน่โพสต์รูปก็แค่นั้นเอง”
“ส่วนรูปเลือกรูปที่ไปเที่ยวคาเฟ่เดี๋ยวผมพาเขาไปเองครับ”
“คุณรู้เหรอว่าไปที่ไหนมาบ้าง” ณัฏฐพิมพ์ถามหิรัญที่ดูเหมือนมั่นใจมากว่าตัวเองรู้
“รู้สิครับก็ผมเป็นแฟนตัวยงของคุณนี่” หิรัญพูดด้วยความภาคภูมิใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้นะ เราจะแกล้งเป็นแฟนกันประมาณสามเดือนเดี๋ยวผมจะจัดงานโอนเงินให้นะ คุณให้เลขที่บัญชีผมมาก็แล้วกัน”
“เรื่องมันจะง่ายแบบนี้จริงๆ ใช่ไหมคะ คนอื่นจะไม่จับได้ใช่ไหมคะ” ชญานิษฐ์มองหน้าธีธวัชด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ
“ครับ”
“เนเน่ว่ามันง่ายเกินไปหรือเปล่า คุณมั่นใจเหรอว่ามันจะเป็นผลดีกับคุณ” เพราะถ้ารับเงินมามากขนาดนั้นชญานิษฐ์ก็อยากจะมั่นใจทุกอย่างจะสำเร็จอย่างที่วางแผนไว้
เนื่องจากเขาเป็นถึงรองประธานบริษัทใหญ่ที่มีโรงแรมไปทั่วการที่เธอจะแสดงตัวเป็นแฟนของเขามันก็ไม่น่าจะใช่เรื่องอะไรที่ง่ายๆ เลย
“มันก็น่าจะไม่มีอะไรแล้วนะครับ แต่บางทีคุณอาจจะต้องรับมือกับคุณพ่อคุณแม่ของผมบ้าง”
“อะไรนะคะ เนเน่จะต้องรู้จักกับพ่อแม่คุณด้วยเหรอคะ”
“ใช่สิครับ ถ้าข่าวออกไปว่าคุณเป็นแฟนผมก็อาจจะต้องมีภาพที่คุณไปทานข้าวกับครอบครัวของผมบ้าง แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ เดี๋ยวผมจะคุยเรื่องนี้กับท่านเองคุณก็แค่ทำหน้าที่แฟนก็พอ”
“เนเน่ขอทราบขอบเขตงานของยังไงได้ไหมว่าจะต้องทำอะไรบ้าง” ในเมื่อตกลงจะเป็นแฟนของเขาแล้วชญานิษฐ์ก็อยากจะรู้ขอบเขตของงานว่ามันมากขนาดไหน
“งานมันก็เหมือนคู่รักทั่วไปล่ะ ครับเราอาจจะต้องเจอกันบ้างไปทานข้าวกันบ้าง แล้วงานเปิดตัวโรงแรมของผมที่จะเกิดขึ้นก็คงต้องรบกวนให้คุณเนเน่และเพื่อนของคุณไปด้วย”
“งานเปิดตัวโรงแรมเหรอคะ มันใหญ่เกินไปหรือเปล่า เนเน่คิดว่าไม่น่าจะเหมาะ”
“เหมาะสิถึงตอนนั้นทุกคนก็จะรู้ว่าคุณเป็นแฟนผมแล้วถ้าคุณไม่ไปงานเป็นตัวโรงแรมคนก็ต้องสงสัย ผมฝากคุณหวานจัดการเรื่องเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานด้วยนะครับ ของคุณทั้งสองคนเลยผมจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเอง คุณจ่ายอะไรไปบ้างหรือต้องการอะไรเพิ่มก็ติดต่อผ่านหิรัญได้เลย”
“ค่ะ แต่หวานว่าระหว่างนี้คุณกับเนเน่น่าจะต้องไปทานข้าวและไปเที่ยวด้วยกันบ้าง แต่ก็คงไม่บ่อยเท่าไหร่เพราะนักธุรกิจอย่างคุณก็คงไม่ค่อยมีเวลามาก”
“ไม่มีปัญหาครับ”
“อาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดของเนเน่ค่ะ ฉันอยากให้คุณเป็นคนไปรับเนเน่ที่กองถ่าย เพราะวันนั้นเนเน่มีงานถ่ายโฆษณาร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์อื่นๆ ค่ะ รับเสร็จคุณก็พาเธอไปฉลองกันสองคน”
“แค่สองคนใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ ปกติแล้ววันเกิดทุกๆ ปีของเนเน่จะนัดแฟนคลับไปทำบุญ แต่ปีนี้ติดถ่ายงานก็เลยเลื่อนงานทำบุญไปอีกวันหนึ่งเพราะฉะนั้นตอนเย็นก็มีโอกาสจะได้อยู่กับคุณ วันนั้นหวานจะจ้างคนแอบถ่ายรูปของคุณสองคนและส่งให้นักข่าวค่ะ คุณธีว่าดีไหม”
“ดีครับ ผมว่าถ้าเราทำให้คนอื่นรู้มากขึ้นเร็วขึ้นก็จะเป็นผลดีกับผมและคุณ ถ้าเป็นไปได้ช่วยส่งตารางงานให้ผมได้ไหมว่าช่วงไหนคุณไปทำงานที่ไหน”
“ตารางงานของเนเน่ไม่ค่อยแน่นอนหรอกค่ะ มันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา”
“แต่ผมก็อยากรู้คร่าวๆ”
“ถ้างั้นหวานจะส่งให้คุณล่วงหน้าสามวันดีไหมคะ คุณจะได้รู้ว่าเนเน่ไปทำอะไรอยู่ที่ไหนบ้างเผื่อจะหาโอกาสไปเจอกันโดยบังเอิญ”
“แล้วคุณอยากได้ตารางการทำงานของผมไหมล่ะ”
“คุณก็น่าจะทำงานอยู่ที่โรงแรมที่คุณเป็นเจ้าของไม่ใช่เหรอคะ”
“ไม่หรอกปกติผมเข้าไปตรวจงานที่โรงแรมนานๆ ครั้ง ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ออฟฟิศของผม แต่ก็ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไหร่ เดี๋ยวผมส่งแผนที่ให้คุณสองคนก็แล้วกันนะครับ เผื่อคุณจะแวะไปหาผมบ้าง”
“เนเน่จะแวะไปหาคุณทำไมคะ”
“คนเป็นแฟนกันก็ต้องไปมาหาสู่กันบ้างสิ”
“หวานเห็นด้วยกับคุณธีนะ เอาไว้วันไหนว่างเราก็ซื้อขนมเข้าไปให้คุณธีที่บริษัทดีไหม ข่าวเรื่องนี้จะได้กระจายเป็นวงกว้าง”
“แต่คงยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเนเน่ยังไปไหนไม่ได้ หมอบอกว่าต้องล้างแผลอีกหลายวันเลย ไม่รู้ว่าจะเป็นแผลเป็นหรือเปล่า” เมื่อพูดถึงแผลที่ข้อเท้าชญานิษฐ์ก็มีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลเลยอาหมอเป็นหมอศัลกรรมที่เก่งมากๆ แต่ก่อนท่านทำงานอยู่ที่อเมริกา ผมรับประกันได้เลยว่าข้อเท้าของคุณจะไม่เป็นแผลเป็นอย่างแน่นอน”
“ถ้าคุณกล้ารับประกันเนเน่ก็สบายใจมากขึ้นค่ะ”
“ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อนนะ”
“คุณจะมาเยี่ยมเราอีกไหม” ณัฏฐพิมพ์เป็นคนถามขึ้น
“ผมยังไม่แน่ใจเลยช่วงนี้ผมงานยุ่งมาก”
“แต่ผมว่าถ้าคุณอยากให้คนเชื่อว่าคุณเป็นแฟนกับคุณเนเน่จริงๆ คุณก็ควรมาเยี่ยมเธอบ่อยๆ นะครับ” หิรัญบอกเจ้านาย
“ฉันลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย ระหว่างที่คุณรักษาตัวอยู่ที่นี่ผมจะมาเยี่ยมคุณทุกวันหลังเลิกงาน”
เพราะอยากให้ข่าวที่ตนเองเป็นแฟนกับอินฟลูเอนเซอร์กระจายไปอย่างรวดเร็วธีธวัชเลยสัญญาว่าจะมาเยี่ยมหญิงสาวทุกวัน
หลังจากตกลงรายละเอียดรวมถึงแลกเบอร์โทรศัพท์และช่องช่องทางการติดต่อแล้วทั้งสี่คนก็ถ่ายรูปรวมกัน ทั้งรูปที่ตั้งใจถ่ายและรูปที่เหมือนจะแอบถ่ายอยู่หลายรูปจากนั้นธีธวัชและหิรัญก็ขอตัวกลับ
งานแต่งงานของนักธุรกิจหนุ่มกับอินฟลูเอนเซอร์สาว ผ่านไปได้เกือบสองอาทิตย์แล้วชญานิษฐ์รู้สึกว่าสามีของตนเองแปลกไปเขากับเธอนอนด้วยกันครั้งสุดท้ายในคืนเข้าหอ หลังจากนั้นก็ผ่านมาสองอาทิตย์แต่ธีธวัชก็ไม่แตะต้องตัวเธอเลย เขาเลิกงานกลับมาก็อาบน้ำและนั่งทำงานต่อจนกระทั่งดึก จากนั้นก็เข้ามานอน ซึ่งต่างจากก่อนแต่งงานที่เขากับเธอมักจะมีอะไรด้วยกันทุกคืนชญานิษฐ์รู้สึกเป็นกังวลมาก แต่หญิงสาวก็ไม่รู้จะเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเธอจึงได้แต่เก็บความน้อยใจไว้คนเดียว เพราะเป็นผู้หญิงการจะพูดเรื่องบนเตียงออกไปมันก็ดูน่าอายถึงแม้ว่าจะแต่งงานกันแล้วก็ตามชญานิษฐ์อดคิดไม่ได้ว่าที่ธีธวัชเปลี่ยนไปเพราะเขาอาจจะมีผู้หญิงคนอื่นหญิงสาวตัดสินใจแล้วคืนนี้จะต้องคุยกับสามีให้รู้เรื่องธีธวัชเลิกงานกลับมาในเวลาหกโมงเย็นจากนั้นทั้งสองก็นั่งรับประทานอาหารค่ำด้วยกันเหมือนปกติเมื่ออาบน้ำแล้วเขาก็เดินเข้าห้องทำงานไปเหมือนอย่างเคย ชญานิษฐ์มองตามแผ่นหลังของเขาด้วยน้ำตาคลอ ไม่คิดเลยว่าเวลาแค่นี้จะทำให้คนรักเปลี่ยนไปหญิงสาวจมอยู่กับความคิดของตนเองอยู่นานก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาคนรักในห้องทำงานเพราะไม่อยากจะเก็บความรู้สึกแบบนี้
เย็นวันต่อมาธีธวัชก็พาชญานิษฐ์ไปยังบ้านของตนเองอีกครั้งเพื่อคุยกับบิดามารดาเรื่องกำหนดการแต่งงานหลังจากรับประทานอาหารค่ำแล้วทุกคนก็มารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่น“ตกลงว่าชินแสให้ฤกษ์มาตอนไหนครับแม่” ธีธวัชถามมารดาเพราะตอนนี้เขาอยากจะแต่งงานและสร้างครอบครัวกับชญานิษฐ์มากๆ“ใจร้อนจังเลยนะธี”“แม่ครับบอกผมมาเถอะ”“ชินแสให้มาฤกษ์มาปลายเดือนหน้าน่ะ” คุณเมธีตอบลูกชายเพราะถ้ารอให้มารดาของชายหนุ่มเป็นคนตอบก็คงจะลีลาและไม่ยอมพูดออกสักที“จริงเหรอครับพ่อ”“จริงสิ เนเน่กับธีมีเวลาเตรียมตัวประมาณเดือนครึ่ง พ่อว่าเวลาขนาดนี้คงเตรียมตัวกันได้แบบสบายๆ นะ” เขาถามลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้“ไม่มีปัญหาครับพ่อ”“แล้วเนเน่ล่ะคิดว่าตัวเองเตรียมตัวทันไหม” คุณเมธีหันมาถามชญานิษฐ์บ้าง“น่าจะทันค่ะ งานแต่งงานของเราไม่ได้จัดใหญ่โตใช่ไหมคะคุณพ่อ”“ผิดแล้วเนเน่งานนี้ต้องเป็นงานใหญ่ทุกคนจะต้องพูดถึงไปอีกนานเลยล่ะ” คุณศรีประภาบอกกับว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มผ่อนคลายกว่าเมื่อวานมาก“เนเน่กลัวว่ามันจะเป็นการสิ้นเปลืองเกินไปนะคะคุณแม่”“มันจะสิ้นเปลืองกันแค่ไหนเชียว แม่อนุญาตให้เราสองคนแต่งงานกันแล้วเพราะฉะนั้นเรื่
หลังจากขอชญานิษฐ์แต่งงานโดยมีพยานเป็นแฟนคลับในโลกโซเชียลของหญิงสาวแล้วธีธวัชก็พาเธอไปที่บ้านของตนเองเพื่อแจ้งข่าวเรื่องนี้ให้กับบิดามารดาทราบ บิดาของเขาไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะรู้ว่าลูกชายนั้นรักและจริงจังกับผู้หญิงคนนี้มาก ส่วนมารดาของเขาไม่ค่อยจะพอใจมากนักเนื่องจากคาดหวังว่าลูกสะใภ้ของตนนั้นคือกวินตราลูกสาวเจ้าของโรงแรมที่ธีธวัชช่วยไปสอนงาน“ไม่เร็วไปหน่อยเหรอลูก” คุณศรีประภาถามลูกชายด้วยสีหน้าบึ้งตึง“ไม่หรอกครับแม่ แม่ก็เคยบอกผมว่าอยากอุ้มหลานนี่ครับ” เขารู้ว่ามารดากำลังประวิงเวลาและอาจจะกำลังคิดวางแผนอะไรสักอย่างเพื่อให้เขากับชญานิษฐ์เลิกล้มงานแต่ง แต่ธีธวัชไม่อยากจะรออีกต่อไปแล้วเพราะสำหรับเขาชญานิษฐ์คือคำตอบสุดท้ายถ้าไม่ใช่เธอเขาก็ไม่มีทางจะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนอย่างเด็ดขาด“มันก็ถูกที่แม่อยากจะอุ้มหลาน แต่การจะแต่งงานทั้งทีมันก็ต้องดูฤกษ์ดูยามที่เหมาะสมนะ พรุ่งนี้แม่จะไปดูฤกษ์กับชินแสให้ก็แล้วกันนะ เนเน่เอาวันเดือนปีเกิดของหนูให้แม่ด้วยนะ” เธอหันไปบอกว่าที่ลูกสะใภ้“ได้ค่ะแม่”“เรื่องฤกษ์ผมอยากได้ฤกษ์สะดวกครับแม่” เขาไม่เชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจมารดามากไปกว่านี้
ตอนที่ 30เล่ห์รักท่านรอง (ตอนจบ)ผ่านมาสองสัปดาห์แล้วที่ชญานิษฐ์ไม่ได้ติดต่อกับธีธวัชอีกเลยหญิงสาวกำลังจะลืมเขาได้และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติวันนี้เธอมีนัดรีวิวร้านอาหารเปิดใหม่แห่งหนึ่งบรรยากาศภายในร้านตกแต่งโทนอบอุ่นเหมือนกับการมารับประทานอาหารที่บ้านเพื่อนหลังจากรีวิวอาหารต่างๆ ครบแล้วชญานิษฐ์ก็เดินไปคุยกับเจ้าของร้านถึงรายละเอียดที่เธอจะลงในคลิปส่วนณัฏฐพิมพ์นั่งรอที่โต๊ะอาหารอยู่คนเดียว“คุณแน่ใจนะว่าจะทำอย่างนี้” ณัฏฐพิมพ์ถามธีธวัชที่ยืนแอบอยู่ในมุมหลับตาด้านหลังโต๊ะที่เธอนั่งอยู่“ก็คุณเป็นคนเสนอเองนี่แล้วทำไมตอนนี้จะไม่มั่นใจล่ะ”“ก็หวานกลัวเนเน่โกรธ”“แต่ผมว่าเขาไม่โกรธหรอกเพราะคุณเป็นเพื่อนที่เขารักมาก”“ฉันขอถามอะไรคุณธีอย่างหนึ่งสิ”“ถามมาเลย”“คุณธีจริงจังกับเพื่อนของหวานจริงๆ ใช่ไหม ไม่ใช่ว่าอยากจะทำเพราะเห็นว่าสนุก”“ไม่เลยผมจริงจังกับเนเน่มากๆ ผมรู้ใจตัวเองดีแต่คุณหายไปนานเกือบสามอาทิตย์เลยนะ”“ใช่ผมหายไปเพื่อไปเคลียร์ตัวเอง ผมรู้ว่ามันฟังดูไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่ที่ผมต้องไปสอนงานรุ่นน้องแต่มันก็มีความจำเป็นจริงๆ เพราะครอบครัวของเราสองคนนั้นสนิทกันมากๆ และพ่อของเขาก็ป่วย
แม้จะเป็นคนบอกเลิกธีธวัชเองแต่ชญานิษฐ์กลับเสียใจมากๆเพราะหลังจากวันนั้นชายหนุ่มก็โทรศัพท์มาหาเธออีกเพียงแค่ครั้งเดียวพอเธอไม่รับสายเขาก็ไม่โทรมาอีกเลยแม้กระทั่งไลน์หรือข้อความก็ไม่มีมาสักนิด หญิงสาวก็เลยคิดว่าเขาคงจะทำตามที่เธอบอกคือไปจัดการเรื่องการสอนงานให้กับกวินตราให้เรียบร้อยแล้วค่อยกลับมาคุยกับเธอแต่มันเป็นความคิดที่ผิดมากๆ เพราะเวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์นอกจากเขาจะไม่ติดต่อมาหาเธอแล้วยังมีภาพข่าวที่ธีธวัชไปร่วมเปิดโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งเธอนะว่าน่าจะเป็นโรงแรมของคุณกวินตรารูปที่ทั้งสองยืนข้างกันขณะที่หญิงสาวเป็นคนตัดริบบิ้นมันดูเหมาะสมมากๆ ซึ่งมันแตกต่างกับตนเองโดยสิ้นเชิง ดูแล้วกวินตราน่าจะเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับธีธวัชมากที่สุดทั้งสถานะทางสังคมทั้งรูปร่างหน้าตารวมถึงกิจการที่ทั้งสองมีนั้นเหมาะสมกันมากภาพที่เขาถ่ายพร้อมกับกวินตราถูกโพสต์ลงโซเชียลโดยเพจเพจหนึ่งหญิงสาวอ่านหัวข้อข่าวแล้วรู้สึกจิตใจห่อเหี่ยว‘เมื่อผู้บริหารหนุ่มหล่อกับผู้บริหารสาวสวยยืนเคียงข้างกัน มันเป็นภาพที่สวยงามและลงตัวจริงๆ น่าสงสารอินฟลูเอนเซอร์สาวคนนั้นน่ะจู่ๆ ก็อกหักโดยไม่รู้ตัว’ภายใต้ภาพนั้นมีคนเข้ามาแสดงคว
หญิงสาวยิ้มกว้างเมื่อมองลอดช่องเล็กๆ บริเวณประตูแล้วเห็นว่าตอนนี้คนที่ยืนอยู่หน้าห้องนั้นเป็นใคร เธอรีบเปิดประตูออกไปอย่างรวดเร็ว”“พี่ธี” สาวยิ้มกว้าง“คิดถึง” ชายหนุ่มกอดหญิงสาวแน่นด้วยความคิดถึง ตลอดทั้งสัปดาห์งานยุ่งมากๆ จนไม่มีเวลาให้กับชญานิษฐ์เลย เขาก็รู้สึกผิดมากๆ“พี่ธีมาทำไมดึกจังคะ”“พี่คิดถึงเนเน่” เขาเดินมานั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางเหนื่อยๆ“ทำไมสภาพพี่ธีเป็นแบบนี้ล่ะคะ” หญิงสาวมองใบหน้าที่ซูบและดวงตาคล้ำของเขาซึ่งปกติแล้วธีธวัชจะเป็นผู้ชายที่ดูแลตัวเองค่อนข้างดีเขาไม่เคยปล่อยให้ตัวเองโทรมมากขนาดนี้มาก่อน“ช่วงนี้พี่ทำงานที่โรงแรมด้วยและก็ต้องสอนงานแฟร์ด้วยน่ะ ก็เลยไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ พี่ขอโทษเนเน่อาทิตย์นี้เราไม่ได้เจอกันเลยและยังได้คุยโทรศัพท์กันแค่นิดเดียว”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะเนเน่เข้าใจว่าพี่ธีทำงานและยุ่งมากๆ แล้วกินอะไรมาหรือยังคะ”“พี่กินมาแล้วครับ”“พี่แค่แวะมาหาเนเน่หรือจะมาค้างคะ”“พี่ตั้งใจจะมาค้างกับเนเน่”“ถ้างั้นไปอาบน้ำนะเดี๋ยวเนเน่เตรียมชุดนอนให้” ชายหนุ่มเอาชุดนอนและชุดทำงานมาทิ้งไว้ที่นี่อยู่หลายชุดเผื่อเวลาที่มาพักจะได้ไม่ต้องขนมาทุกครั้งให้มันวุ่นวาย“เน