เข้าสู่ระบบChapter 13
“ถึงเฮียจะได้จูบแรกของหนูไป แต่จำไว้เลยว่าเฮียไม่มีวันจะได้หัวใจของหนู” แพรดาวหันมาสบตากับแววตาคมดุด้วยสายตาจริงจัง
“แล้วฉันเคยพูดหรือไง? ว่าอยากได้หัวใจของเธอ...” รันเวย์มองหญิงสาวด้วยแววตานิ่งๆ ก่อนจะเอามือผละออกจากกรอบประตู
“...” แพรดาวปรายตามองคนตัวสูงแค่เพียงแวบเดียว ก่อนจะหมุนตัวไปกดรหัสและเดินเข้าห้องไป และเมื่อแพรดาวกำลังจะปิดประตูห้อง ชายหนุ่มก็เอามือดันไว้ แล้วแทรกตัวเข้าไปในห้องของเธอ
“นี่...ออกไปเลยนะเฮีย ใครอนุญาตให้เฮียเข้ามาในห้องของหนูเนี่ย!” แพรดาวโวยวายเสียงดังด้วยความไม่พอใจ เวลาเธออยู่ใกล้เขาทีไรพานให้เธอหงุดหงิดใจทุกที เธออยากจะบ้าตายชะมัด ทำไมคุณพ่อของเธอถึงต้องให้เธอมาอยู่ห้องใกล้คนแบบเขาด้วยเนี่ย...
“หิวข้าว ทำอะไรให้กินหน่อย” รันเวย์พูดหน้าตาเฉย เขาก้มถอดรองเท้า ก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาทำราวกับห้องของตัวเอง
“ออกไปจากห้องของหนูเลยนะเฮีย...” ขาเรียวสวยเดินไปหาคนตัวสูง มือบางฉุดคนตัวสูงให้ลุกขึ้นอย่างแรง เมื่อเขาทำท่าจะเอนกายลงนอนราบบนโซฟา
“ทำไมชอบไล่นักวะ”
“ก็หนูไม่อยากให้เฮียอยู่ด้วยไง ลุกขึ้นแล้วกลับห้องของเฮียไปเลยนะ ว้ายยย!!” แพรดาวเปล่งเสียงร้องตกใจ เมื่อมือสากฉุดรั้งเธอลงไปนอนบนโซฟา ก่อนจะสลับให้คนตัวเล็กอยู่ใต้ร่างของเขา
“จะให้ฉันกินข้าวหรือให้ฉันกินเธอ...” มือสากเอามือลูบไล้เรียวขา เขาเลื่อนมือสอดเข้าไปใต้เสื้อตัวบาง จนหญิงสาวรีบจับมือสากเอาไว้
“นะ...หนูทำกับข้าวไม่เป็น” ปากเล็กพูดตะกุกตะกักเสียงอ่อนลง
“หึ! เด็กดื้ออย่างเธอคงต้องสั่งสอนแบบนี้สินะ ถึงจะพูดดีได้”
“หนูไม่ได้ดื้อเลยนะเฮีย...” ปากเล็กยังคงเถียงคนตัวโตไม่หยุด ทั้งที่ตอนนี้เธอตกเป็นรองเขาอยู่
“โคตรจะดื้อเลย” มือสากเอามือบีบปลายคางมนด้วยความมันเขี้ยว
“ปล่อยหนูได้แล้ว ดะ...เดี๋ยวหนูไปทำไข่เจียวให้กินก็ได้ เฮียกินได้หรือเปล่าล่ะ?”
“ถ้าเธอเต็มใจทำให้ฉันกิน ฉันก็กินได้ทั้งนั้น” ปากหยักเอ่ยพูดตามที่ใจเขาคิด ซึ่งเขาไม่รู้ตัวเลยว่าคำพูดปกติของเขา พานทำให้ใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ
“งะ...งั้นเฮียก็ลุกสิ หนูจะได้ไปทำไข่เจียวให้กิน”
ฟอด!
ใบหน้าหล่อเหลาฝังจมูกโด่งไปที่พวงแก้มนุ่มนิ่ม ก่อนที่จะหยัดตัวลุกขึ้น และดึงหญิงสาวขึ้นมาด้วย
“นิสัยเสีย ชอบขโมยหอมแก้มคนอื่น” หญิงสาวยู่ปากบ่นชายหนุ่ม และเอามือลูบแก้มตัวเองป้อยๆ แล้วหยัดตัวลุกขึ้นยืน
เพียะ!
“โอ๊ย! ตบก้นหนูทำไมเนี่ย” แพรดาวโวยวายเสียงดัง เมื่อเขาเอามือสากตบมาที่สะโพกลมมนของเธออย่างแรง จนเธอสะดุ้งตกใจเพราะเขาชักจะเหมือนโรคจิตขึ้นทุกวันแล้ว
“ทำไมถึงได้ชอบใส่กระโปรงสั้นๆ นัก ฮะ!” รันเวย์เอ่ยถามเสียงเข้ม เมื่อเห็นกระโปรงที่เธอสวมใส่ ถึงมันไม่ได้สั้นเหมือนเปิดเทอมวันแรก แต่เขาก็ไม่ชอบเลยสักนิดที่เธอสวมกระโปรงโชว์เรียวขาขาวแบบนี้
“ไม่เห็นสั้นตรงไหนเลยเฮีย เนี่ยหนูก็ใส่ยาวกว่าเดิมมากแล้วนะ” หญิงสาวถอยห่างจากที่เขาสองสามก้าว ก่อนจะหมุนตัวให้เขาดู จนใบหน้าหล่อเหลาหลุดยิ้มมุมปากให้กับท่าทางน่ารักของเธอ
“ยัยเด็กดื้อ!”
“แบร่ๆ ไม่ได้ดื้อสักหน่อย” แพรดาวแลบลิ้นให้คนตัวสูง ก่อนจะทำหน้าทะเล้นใส่เขา และรีบวิ่งเข้าห้องครัวไป
ยี่สิบนาทีผ่านไป...
ครืดดดด...
จานข้าวกลิ่นหอมฉุยถูกเลื่อนมาวางไว้ต่อหน้ารันเวย์ที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร
“...” รันเวย์เลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นจานข้าวกลิ่นหอมฉุยที่หญิงสาวเอามาเสิร์ฟ เพราะตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะหุงข้าวทำอาหารไม่เป็นอย่างที่เธอพูดไว้ซะอีก
“เป็นไงล่ะ อย่างน้อยหนูก็เวฟข้าวเป็นนะ หนูเก่งไหมเฮีย” หญิงสาวเอามือเท้าคางมองเขาตาแป๋วและเอ่ยถามเขาราวกับเด็กๆ โดยที่ลืมตัวไปเลยว่าเธอเคยลั่นวาจาไว้ว่าเธอไม่ชอบคนร้ายกาจอย่างเขา
“อืม...เก่ง ไปเอาไข่เจียวมาสิ ฉันหิวข้าวละ” รันเวย์รีบบอกปัดไป เพราะแค่ยัยเด็กแสบทำตัวน่ารักใส่เขาเล็กน้อย ใจเขาของมันก็เต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่งราวกับว่าเขาเนี่ยเป็นโรคหัวใจ
“มีแต่ข้าว ไข่เจียวมันไหม้ เฮียกินไม่ได้หรอก” ปากเล็กยู่ปากบอกเขา
“ไปเอามาดูสิ มันจะไหม้ขนาดไหนกันเชียว”
“เฮ้อ! บอกว่าไหม้ก็ไหม้สิ” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดและเดินไปเอาไข่เจียวที่ไหม้เกรียมเป็นสีน้ำตาลเข้ม เอามาวางไว้ให้เขาด้วยสีหน้าเซ็ง
“...” รันเวย์ไม่พูดอะไร เขามองไข่เจียวสลับกับใบหน้าสะสวย
“เฮ้อ...เห็นแล้วใช่ไหมว่าหนูทำกับข้าวไม่เป็นอะ” แพรดาวเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเง้างอน เพราะเธอคิดว่าเขาคงจะต้องหัวเราะไข่เจียวที่ไหม้เกรียมของเธออยู่ในใจแน่ๆ
“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอหนิ” รันเวย์พูดได้เพียงเท่านั้น เขาก็ตักไข่เจียวกินกับข้าว โดยไม่พูดไม่จาหรือไม่แสดงความรู้สึกว่าไข่เจียวของเธอรสชาติเป็นแบบไหน เขาตักข้าวเข้าปากครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งข้าวและไข่เจียวหมดเกลี้ยงจาน
“กินลงไปได้ยังไงไข่เจียวไหม้ๆ แบบนี้” แพรดาวเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง และมองเขาด้วยความรู้สึกหลากหลายว่าทำไมเขาถึงยอมกินไข่เจียวไหม้ๆ ของเธอ ทั้งที่คนอย่างเขาจะสั่งอาหารดีกว่านี้จากภัตตาคารมากินก็ย่อมได้
“รสชาติมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหนิ” รันเวย์เอ่ยตอบน้ำเสียงนิ่ง ก่อนจะยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มหมดแก้ว
“...”
ตอนพิเศษ 5@บ้านรันเวย์“ป๊าขา ป๊าหลงรักคุณแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” เพลงเอ่ยถามคุณพ่อของเธอด้วยความอยากรู้ตามประสาเด็ก โดยที่เธอกำลังนอนอยู่ตรงกลางบนที่นอนขนาดใหญ่ ส่วนรันเวย์และแพรดาวนอนขนาบข้างลูกของเขา“ป๊ารักแม่ของหนูตั้งแต่แม่ของหนูอายุสามขวบ แต่แม่ของหนูวิ่งหนีป๊าตลอดเลย ป๊าก็วิ่งหอมแก้มแม่ของหนูทุกครั้งที่เห็นหน้า ส่วนแม่ของหนูก็วิ่งร้องไห้ไปฟ้องคุณตาของหนู แล้วแม่ของหนูก็ชอบพูดกับป๊าว่า หนูไม่ชอบพี่เวย์” รันเวย์เอ่ยเล่าเรื่องวัยเด็กให้ลูกสาวของเขาฟัง ก่อนจะเหล่ตามองแพรดาวที่มองเขาอยู่ด้วยสีหน้ายิ้มๆ“โอ๋ๆ หนูสงสารปะป๊าจังเลย โดนคุณแม่ปฏิเสธตั้งแต่เด็ก” เพลงยกแขนเล็กเข้าไปโอบกอดคุณพ่อของเธอเพื่อปลอบใจ“หนูเหมือนปะป๊าเลยที่มีความรักตั้งแต่เด็ก แต่หนูดีหน่อยที่พี่ไบร์ทก็รักหนู หนูเลยไม่ได้กินแห้วเหมือนปะป๊า” เพลงเอ่ยพูดกับคุณพ่อของเธอราวกับผู้ใหญ่ปรับทุกข์กัน“เพลงแก่แดดจัง” เพ้นท์เอ่ยขึ้น“เพ้นท์จะไปเข้าใจอะไรล่ะ ในเมื่อเพ้นท์ยังไม่มีความรัก” เพลงเอ่ยขึ้น“โอ๊ยยย...ปวดหัวกับความรักของลูกสาวป๊าจังเลย” รันเวย์เอ่ยพูดอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะเอานิ้วจิ้มไปที่เอวน้อยของเพลง“อ๊ายยยย ฮ่าๆๆ
ตอนพิเศษ 4@บ้านบิ๊กบอส“พี่ไบร์ทขา” เด็กหญิงเพลงวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปหาเด็กชายไบรตันด้วยความดีใจ จนรันเวย์ต้องส่ายหัวเบาๆ ให้กับความดื้อรั้นของลูกสาวเขา“น้องเพลง” เด็กชายไบรตันรีบลงจากโซฟา และวิ่งเข้าไปโอบกอดเด็กหญิงตัวน้อยของเขาด้วยความคิดถึง“ฟอด! คิดถึงน้องเพลงจังเลย” เด็กชายไบรตันหอมแก้มนิ่มของเด็กหญิงตัวน้อยฟอดหนึ่ง“ดูลูกชายมึงนะไอ้บอส ดูลูกชายมึงทำ” รันเวย์เอ่ยพูดเสียงเข้มกับเพื่อนของเขา“ฮ่าๆ เด็กๆ มันเอ็นดูกัน มึงเก่งมากนักก็ไปห้ามลูกสาวของมึงสิ” บิ๊กบอสเอ่ยพูดยิ้มๆ“เพื่อนหนูไปไหนอะพี่บอส” แพรดาวเอ่ยถามถึงเพื่อนสนิทของเธอ“ออกไปทำธุระกับคุณแม่ตั้งแต่เช้าเลยน้องแพร เพื่อนของน้องทิ้งให้พี่อยู่เฝ้าบ้านกับเจ้าแสบไบรตันกันสองคน” บิ๊กบอสเอ่ยนินทาเมียของเขาให้เพื่อนสนิทของเมียฟัง“หนูอัดคลิปเสียงไว้แล้ว เรื่องนี้ต้องถึงหูเพื่อนของหนู คิกๆ” แพรดาวชูมือถือขึ้น แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ให้บิ๊กบอส“เมียมึงนี่แสบมากไอ้เวย์” บิ๊กบอสเอ่ยพูดกับรันเวย์“หึๆ เพราะแสบแบบนี้ไง ถึงได้โดนกูปราบบนเตียงบ่อยๆ” รันเวย์เอ่ยพูด ก่อนจะหันไปมองหน้าแพรดาวยิ้มๆ“ก็มึงมันชอบปราบเด็กพยศอยู่แล้วนี่หว่า” บิ๊กบอสเอ่ยพู
ตอนพิเศษ 3“ลูกชายจงมา ลูกชายจงมา” ร่างแกร่งหมุนเอวสอบบดขยี้ร่องแคบ ก่อนจะถอดลำแกร่งออกจากร่องแคบ“ลุกขึ้นไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ จะได้ลงไปหาลูก”“งั้นไปอาบพร้อมกัน” ชายหนุ่มหยัดตัวขึ้น ก่อนจะอุ้มร่างบางเดินเข้าห้องน้ำไป“อ๊ายยย เฮียพอแล้ว” ร่างบางเปล่งเสียงร้องลั่นอยู่ในห้องน้ำ เมื่อเขาจับเธอหันหน้าเข้ากำแพงห้องน้ำ“อีกรอบนะเด็กดี เฮียยังอยากอยู่เลย ไหนๆ ลูกก็เปิดโอกาสให้เราแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะดันแก่นกายเข้าร่องแคบอีกครั้ง“อื้อ~” ศึกรักเริ่มบรรเลงขึ้นมาอีกครั้งด้วยความโหยหา เขาและเธอเปล่งเสียงครางระงมภายในห้องน้ำด้วยความเสียวซ่าน จนตอนนี้ภายในห้องน้ำตลบอบอวลด้วยกลิ่นอายไฟเสน่หาที่เร่าร้อนวันต่อมา... “พากันแต่งตัวอะไรแบบนี้วะเนี่ย” รันเวย์ที่นั่งรอเมียและลูกของเขาอยู่ที่ห้องรับแขก ต้องขมวดคิ้วจนเป็นปม เมื่อเห็นสามแม่ลูกใส่ชุดธีมเดียวกัน ซึ่งกระโปรงแต่ละคนทำเอาเขาแทบกุมขมับ เพราะแต่ละคนสวมใส่กระโปรงสั้นจิ๋วเลยทีเดียว“ปะป๊า ทำไมต้องทำเสียงดุด้วย” เพลงวิ่งเข้าไปโอบกอดขาแกร่งคุณพ่อของเธออย่างเอาใจ“ไม่เสียงดังนะคะคุณพ่อ หนูกลัว” เพ้นท์เข้าไปกอดขาแกร่งคุณพ่อของเธอ
ตอนพิเศษ 2แกร๊ก~"..." แพรดาวเมื่อเห็นสามีของเธอเปิดประตูเข้ามา เธอก็หยัดลุกขึ้นจะเดินหนี"จะหนีไปไหนครับเด็กดี ไม่คิดถึงเฮียเหรอ" รันเวย์เข้าไปโอบกอดแพรดาวไว้แน่นด้วยความคิดถึง จากนั้นเขาก็สูดดมผมสลวยและซุกไซ้ซอกคอของเธออย่างหื่นกระหาย"ปล่อยเลยนะคนใจร้าย ฮึก~" แพรดาวดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแกร่ง ก่อนที่น้ำตาของเธอจะรินไหลออกมาด้วยความน้อยใจ"อย่าโกรธเฮียเลยนะที่รัก เฮียไม่ได้ตั้งใจจะไปญี่ปุ่นนานถึงหนึ่งอาทิตย์เลยนะ พอดีงานที่นั่นมีปัญหาจริงๆ" รันเวย์เอาปลายคางเกยไว้ที่ไหล่มน และเอ่ยบอกเธอด้วยน้ำเสียงกระเส่าที่กกหูเล็ก"เฮียรู้ไหมว่าคนที่นับวันรอเฮียกลับมา มันคิดถึงเฮียมากขนาดไหน" แพรดาวเอ่ยพูดด้วยริมฝีปากสั่นระริก เพราะถึงเธอจะมีลูกแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังติดเขาเหมือนเดิม อยากอยู่ใกล้เขา อยากเจอหน้าเขาทุกวัน"เฮียก็คิดถึงหนูที่สุด หนูใจร้ายมากเลยนะ ไม่ยอมรับโทรศัพท์เฮียเลย""ก็เฮียใจร้ายกับหนูก่อนหนิ" แพรดาวยู่ปากพูดอย่างเง้างอน"งั้นเฮียขอไถ่โทษกับหนูบนเตียงนะที่รัก" รันเวย์เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะอุ้มภรรยาสาววางไว้บนเตียงอย่างเบามือ"เฮีย..." ปากเล็กเอ่ยเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสีย
ตอนพิเศษ 1เจ็ดปีต่อมา...รถสปอร์ตหรูขับเคลื่อนเข้ามาจอดที่ลานจอดรถบ้านหลังใหญ่ จากนั้นเขาก็หันไปหยิบตุ๊กตาหมีสองตัวกับดอกกุหลาบสีแดงสดช่อใหญ่มาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง นักธุรกิจหนุ่มหล่อลงจากรถและเดินเข้าบ้านไปด้วยรอยยิ้มแห่งความคิดถึง เพราะตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาไม่ได้เจอลูกสาวตัวน้อยและภรรยาสุดที่รักของเขาเลย เพราะเขาติดงานสำคัญที่ญี่ปุ่น"น้องเพ้นท์ น้องเพลง ปะป๊ากลับมาแล้วครับ" รันเวย์เอ่ยบอกลูกสาวฝาแฝดของเขาด้วยรอยยิ้มเมื่อแพรดาวเห็นสามีของเธอเดินเข้ามาในบ้าน เธอก็กระซิบบอกอะไรบางอย่างกับลูกสาวตัวน้อยของเธอทั้งสองคน ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นและเดินขึ้นห้องส่วนตัวไปอย่างเง้างอน"อ้าว...หนูจะเดินหนีเฮียไปไหนครับ" รันเวย์เอ่ยถามแพรดาวหน้าตาตื่น เมื่อเห็นภรรยาตัวน้อยของเขาเดินหนีขึ้นห้องไป"ห้ามรบกวนคุณแม่นะคะ ปะป๊า" เพ้นท์และเพลงเด็กน้อยฝาแฝดหน้าตาจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตากางแขนเรียวเล็กสุดแขน เพื่อกั้นขวางไม่ให้คุณพ่อของพวกเธอตามคุณแม่ของพวกเธอขึ้นห้องไปได้"ปะป๊าใจร้าย ทิ้งหนูกับคุณแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ชิ! หนูงอนป๊าแล้ว" เสียงเล็กของเพลงเอ่ยต่อว่าคุณพ่อของเธอ ก่อนจะทำแก้มป่องเบือนหน้าหนีคุณพ
The endรุ่งเช้า6.00 น.เมื่อรันเวย์ออกมาจากเต็นท์พร้อมแพรดาว เขาก็เลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นไรเฟิลณิชา คิมหันต์นั่งผิงไฟอยู่หน้าเต็นท์ มิหนำซ้ำหน้าตาของทั้งสามคนยังดูอิดโรยราวกับคนไม่ได้นอน“ตื่นเช้าจังวะ” รันเวย์เอ่ยถามเพื่อนของเขา“กูยังไม่ได้นอนเลย มึงเห็นขอบตาพวกกูไหมเนี่ย? จะเป็นหมีแพนด้าอยู่แล้ว” ไรเฟิลเอ่ยตอบรันเวย์ด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก“ครางห่าอะไรขนาดนั้นวะ กูไม่น่าหลวมตัวมาเที่ยวกับพวกมึงเลย” คิมหันต์เอ่ยพูดประชดรันเวย์ ก่อนจะมองไปอีกเต็นท์ที่ยังไม่ออกมา“หาววว ตื่นก็ดีแล้ว ฉันจะได้นอนบ้าง” ณิชาปิดปากหาวหวอดๆ ก่อนที่เธอจะเดินเข้าเต็นท์ของเธอ“ไม่ไปดูทะเลหมอกเหรอวะณิชา” รันเวย์เอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นณิชากำลังจะเข้าไปในเต็นท์ของเธอ“ไม่ล่ะ ฉันนั่งดูดาวตกทั้งคืนแล้ว ขอนอนก่อนนะ ง่วง”“ไอ้เชี่ยเอ๊ย! กูก็นึกว่ามาทริปม่อนแจ่มมาดูทะเลหมอก ที่ไหนได้กูมาทริปแข่งกันเย็Xไอ้ฉิบหาย ฟังเสียงครางจนอารมณ์ค้างเลยกู” ไรเฟิลเอ่ยจบ เขาก็เข้าไปเต็นท์ของเขาทันที“กูนอนละ เชิญดูทะเลหมอกให้สมใจ” คิมหันต์เอ่ยพูด ก่อนจะยกมือปิดปากหาวแล้วเข้าเต็นท์ไปอีกคน“เฮียครางเสียงดัง จนรบกวนพวกพี่ๆ เขาเลยนะ” แพ







