บทที่2
“รส...”
“ช่างเถอะพี่ ตอนนี้รสหิวในครัวมีไรกินบ้าง” รสรินทร์รีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที ที่เธอไม่อยากอยู่บ้านจนต้องไปนอนคอนโด เพราะพี่เธอขอร้องให้เลิกทำอาชีพนักข่าว ซึ่งเธอรักอาชีพนี้มาก ๆ
“ไม่รู้สิ พี่เองก็ยังไม่ได้กินเลย ไม่รู้ชมพู่ทำอะไรไว้ให้กิน”
“ไปกินดีกว่าพี่คินน้องหิวแล้ว พี่เลิกทำหน้าเศร้าได้แล้ว” รสรินทร์ลุกขึ้นพร้อมกับดึงแขนพี่ชายให้ลุกตาม
“อืม” ภาคินเอ่ยกับน้องสาว แล้วหยัดกายลุกเต็มความสูง จากนั้นก็จับมือน้องสาวเดินเข้าไปในห้องครัว
“ชมพู่มีอะไรให้กินบ้าง” รสรินทร์เอ่ยขณะที่เห็นชมพู่ยืนล้างชามอยู่ในครัว ชมพู่เป็นลูกป้าส้มเป็นแม่ครัวเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพ่อแม่ของเธอแล้ว ชมพู่เองก็อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก
“มีเยอะเลยค่ะ นึกว่าพี่ภาคินจะไม่กินซะอีก” ชมพู่ส่งยิ้มให้ก่อนจะหันมาสนใจล้างจานต่อ
“รสถามค่ะ แต่ตอบพี่คินเฉยเลย คิดอะไรกับพี่ชายรสหรือเปล่าเนี่ย” รสเอ่ยแซวเล่นเอาชมพู่เขินหน้าแดง ชมพู่รีบเช็ดมือก่อนจะรีบมาจัดแจงอาหารลงบนโต๊ะ
“ไม่ได้คิดอะไรค่ะ” ชมพู่ส่งยิ้มให้ก่อนจะหันไปตักข้าวให้เจ้านายทั้งสอง
“ป้าส้มไปนอนแล้วเหรอ รสยังไม่เห็นป้าส้มเลย” รสรินทร์เอ่ยถามพร้อมกับกวาดสายตามองหาหญิงสูงวัย ป้าส้มเป็นคนเลี้ยงดูเธอกับพี่มาตั้งแต่เด็ก ๆ ส่วนพ่อกับแม่ของรสรินทร์เพิ่งเสียได้ห้าปี
“แม่ดูทีวีอยู่กับพ่อค่ะ ชมพู่ไปเรียกให้ไหมคะ”
“ไม่ต้องจ้ะ ให้ป้าส้มกับลุงทินพักเถอะ”
“ค่ะ” ชมพู่เอ่ยพร้อมกับสนใจล้างชามต่อ เธอเองพึ่งเรียนจบเพราะครอบครัวรสรินทร์ส่งเสียให้เรียน เธอรักครอบครัวนี้มาก ๆ เพราะให้เงินเดือนให้ที่อยู่ที่กินมาตลอด
“พี่คินไม่ต้องให้พี่ดาวเข้ามาอยู่ในบ้านเราอีกนะ”
“พี่ตั้งใจว่าจะหย่า พี่ไม่มีทางไปเอาคืนมาหรอก” คำพูดของภาคินทำเอาหัวใจของชมพู่เต้นรัวขึ้นมาทันที
“ขอให้มันจริงเถอะ อย่าเป็นควายให้พี่ดาวหลอกอีกนะ”
“ช่วงนี้เขากำลังอนุรักษ์ควายไทยอยู่ไม่ใช่เหรอคะ เห็นพี่คินเป็นมาตั้งนานแล้วนะคะ” ชมพู่เอ่ยขึ้นมาทันที
“ปากดีไปเถอะ เพราะปากอย่างนี้ไงถึงไม่มีแฟน”
“ไม่มีก็ไม่แปลกนี่คะ” ชมพู่พูดแต่ไม่หันมามอง มือจับผ้ามาเช็ดจานให้แห้ง พร้อมกับวางเอาไว้
“ขี้เหร่แบบนี้ใครจะเอา” ภาคินแซวชมพู่เบา ๆ เขาไม่เคยเห็ชมพู่มีแฟนเลย
“พี่ก็พูดไป อย่าไปสนใจพี่คินเลยนะชมพู่ พี่คินพูดเล่นไปงั้นแหละ”
“ชมพู่ไม่สนหรอกค่ะ ระวังนะคะไม่ชอบสิ่งไหนจะได้สิ่งนั้น” ชมพู่เอ่ยกับภาคินพร้อมส่งยิ้มให้ เธอแอบรักมาตั้งนานเขาก็ยังไม่รู้ตัวอีก
“ครับ น้องชมพู่คนสวย” ภาคินเอ่ย จากนั้นก็หันไปสนใจกินข้าวต่อ
“แกงมัสมั่นไก่อร่อยมากเลยพี่คิน”
“นั่นนะสิ”
“ฝีมือชมพู่เองค่ะ” ชมพู่เอ่ยพร้อมฉีกยิ้ม ดีใจที่เจ้านายชอบฝีมือของเธอ
“อร่อยทำให้กินทุกวันเลยนะ รสมือดีขนาดนี้” ภาคินเอ่ยชมเล่นเอาคนถูกชมเขินหน้าแดงเลยทีเดียว
“รสเปลี่ยนใจแล้วพี่คิน ถ้าพี่ดาวกลับมาบ้านพี่ก็ทำตัวปกตินะ ที่เหลือรสจัดการเอง รสขอเวลาสองอาทิตย์ ทุกอย่างจะเรียบร้อย”
“ได้ ๆ พี่จะพยายามทำตัวปกตินะ”
“พี่เสียใจมากไหมพี่” รสรินทร์เอ่ยถามพี่ชายอีกครั้ง อย่างไรเธอก็ยังห่วงพี่ชายเธออยู่ดี
“เสียใจพี่รักดาวมากนะรส แต่ทุกอย่างมันจะผ่านพ้นไปพี่เชื่อแบบนั้น”
@บนโต๊ะอาหาร
“ภาคินขา ดาวจะออกไปข้างนอกนะคะ” ดาวนภาส่งเสียงออดอ้อนภาคิน เธอรู้แล้วว่าต่อให้เธอนอกใจ เขาก็ทิ้งเธอไม่ได้อยู่ดี ภาคินก็เหมือนของตาย เพราะอย่างไรก็ทิ้งคนอย่างเธอไม่ได้อยู่ดี ภาคินหลงเธอมาก ถึงเขาบอกว่าอยากหย่ากับเธอ ก็แค่ความโกรธเท่านั้นแหละ แค่เธอตอแหลใส่เขาก็กลับมาหาเธอเหมือนเดิม เพราะคนอย่างภาคินมันโง่อย่างไรล่ะ
“แล้วแต่เลยครับ” ภาคินเอ่ยกับดาวนภาพร้อมกับพยายามฝืนยิ้มให้ ยอมรับว่ารักผู้หญิงที่ออดอ้อนเขาอยู่ตรงนี้ แต่ตอนนี้เขารังเกียจมากกว่า ผู้หญิงที่ไม่รู้จักพอมันน่ารังเกียจเสียจริง ๆ
“ขอบคุณค่ะ” ดาวนภาส่งยิ้มหวาน เธอกลับมาอยู่บ้านนี้อีกครั้ง ภาคินเองก็เหมือนของตาย ต่อให้เธอมีชู้ขนาดไหน เขาก็ยอมรับได้
“หึ” รสรินทร์หัวเราะผ่านลำคออย่างเย้ยหยัน ผู้หญิงตรงหน้าของเธอ ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าขยะแขยงเสียจริง ๆ ถ้าไม่ติดว่าทำตามแผนเธอคงจะสาดคำพูดแรง ๆ ใส่คนตรงหน้าแล้ว
“มีอะไรหรือเปล่าคะน้องสามี เห็นจ้องนานแล้วนะคะ” ดาวนภาเอ่ยออกมาเมื่อเห็นรสรินทร์เอาแต่จ้องเธอ เธอรู้ว่าน้องสามีไม่พอใจ แต่ใครจะสนล่ะดาวนภาไม่สนอยู่แล้ว
“เปล่าค่ะ แค่มองก็ผิดหรือคะ”
“ก็ไม่ผิดหรอกค่ะ” ดาวนภาเบ้ปากใส่รสรินทร์ทันที ในใจนึกเกลียดน้องสามีที่สุด
“ขอตัวนะพี่คิน”
“อิ่มแล้วเหรอรส”
“อิ่มแล้วค่ะ ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” รสรินทร์หยิบกล้องราคาแพงคู่ใจและเดินออกมาจากบ้าน เธอนั่งบนรถสักพัก ก็ขับรถออกมาก่อนจะมาจอดข้าง ๆ ซอยถัดไป สักพักรถของดาวนภาก็ขับผ่านรถของเธอไป
“เสร็จแน่นางดาวเน่า” รสรินทร์รีบขับรถตามไปห่าง ๆ กลัวว่าดาวนภาจะรู้ตัว จนมาถึงบ้านหลังหนึ่ง ดาวนภาจอดรถพร้อมกับเดินเข้าไปข้างใน
“มาหาคุณนิโคลัสค่ะ” ดาวนภาฉีกยิ้มให้กับชายชุดดำทั้งสอง เธอส่งสายตายั่วยวนใส่ทันที
“เชิญ” อีวานผายมือเชิญผู้หญิงตรงหน้า ไม่ได้รู้สึกอะไรกับสายตาของผู้หญิงตรงหน้าเลยสักนิด
“ขอบคุณค่ะ” ดาวนภาเดินเข้าไปทันที ภายในบ้านหลังงามถูกจัดเอาไว้อย่างสวยงาม ของมีค่ามากมายนิโคลัสรวยมากกว่าภาคินเสียอีก เธอเดินนวยนาดไปที่หน้าห้องห้องหนึ่ง ก่อนเปิดประตูเข้าไป
รสรินทร์ลงจากรถแล้วมองซ้ายมองขวา ก่อนจะหยิบกล้องราคาแพงลงมาด้วย เธอรีบปีนรั้วขณะที่ชายชุดดำเผลอ จากนั้นก็ค่อยวิ่งหลบมาอีกทาง
“เฝ้าดีเหลือเกินนะ” เธอบ่นอุบอิบพร้อมกับนั่งหลบอยู่ข้างพุ่มไม้ ชายคนที่ยืนเฝ้าประตู ก็ไม่มีทีท่าจะเดินไปไหน ได้มาขนาดนี้แล้วเธอต้องอดทนรอ เธอต้องได้หลักฐาน และต้องได้วันนี้ด้วย
ผ่านไปอีกสามสิบนาที
“อีธานไปกินข้าวกันเถอะ” อีวานเอ่ยชวนอีธานแฝดผู้น้องไปกินข้าว เพราะตอนนี้มันถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว
“อืม”
“ไปกันเถอะ” อีธานตบบ่าแฝดผู้น้อง พร้อมกับเดินเข้าไปในครัว บ้านสุดหรูของเจ้านายเขา รสรินทร์รีบออกมาจากที่ซ่อนทันที ก่อนจะค่อย ๆ ย่องเข้าไปในบ้าน มาขนาดนี้แล้วอย่างไรเธอก็ต้องได้ข้อมูลชายชู้ของดาวนภา ไม่ว่าจะได้น้อยหรือได้มากก็ขอให้ได้
“ห้องไหนอะ ห้องเยอะก็เยอะ” เธอเดินเปิดทีละห้องอย่างเงียบ ๆ แต่ไร้วี่แววของดาวนภา บ้านหลังนี้ก็หลังใหญ่มาก กว่าจะเปิดครบทุกห้องคงใช้เวลามากโขเลย
“อ๊า เบา ๆ หน่อย อูย...” รสรินทร์ชะงักเท้าทันที เมื่อได้ยินเสียงครวญครางดังมาจากห้องหนึ่ง เธอรีบเปิดประตูเข้าไปข้างในอย่างแผ่วเบา เธอเดินไปหลบหลังตู้ พร้อมกับมองเจ้าของเสียงที่ร้องครวญครางดังระงมไปทั่วห้อง
“อ๊า... ซี้ด... สะ... เสียว” ดาวนภาครวญครางเสียงดังลั่น เมื่อผู้ชายที่อยู่บนร่างของเธอถาโถมแรงกายใส่เธอไม่หยุดหย่อน ชายชาวต่างชาติคนนี้ช่างถึงใจเธอเหลือเกิน
ปึก! ปึก! ปึก!
“อ๊ะ ๆ ...อ๊า... อีกนิด...ซี้ด” ดาวนภาครวญครางออกมาดัง ๆ เธอรู้สึกสะใจทุกครั้ง ที่เขากระแทกกระทั้นแก่นกายขนาดใหญ่เข้ามา
“...” รสรินทร์มองภาพการร่วมรักของทั้งสองอย่างตกตะลึง ก่อนจะรวบรวมสติหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาถ่ายอย่างเงียบที่สุด
ปึก! ปึก! ปึก! นิโคลัสถาโถมแก่นกายใส่รูสวาทของดาวนภาไม่หยุดหย่อน หลังจากร่วมรักกันนานร่วมชั่วโมง เขาก็เริ่มจะแตะขอบสวรรค์เพราะความเสียวซ่าน
“อ๊า... อีกนิด...ซี้ด” ดาวนภาครวญครางดังลั่น เธอเองก็ใกล้จะถึงฝั่งฝันแล้วเช่นกัน เธอใช้มือกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น เพื่อระบายความเสียวซ่านที่เกิดกับเธอตอนนี้
ปึก! ปึก! ปึก!
“อ๊า/อร้าย!!!” นิโคลัสกระตุกสองสามครั้ง ก่อนจะถอดแก่นกายขนาดใหญ่ออกจากรูสวาทของดาวนภา เธอนอนหอบหายใจแรง ๆ อยู่บนเตียง นิโคลัสถอดถุงยางออกจากแก่นกายพร้อมกับโยนทิ้งไป
“นิโคลัสขา... เมื่อไหร่ดาวนภาจะได้มาอยู่กับคุณแบบเปิดเผยสักทีคะ” ดาวนภาลุกจากเตียง ก่อนจะเดินนวยนาดเข้าไปหานิโคลัส
“หึ” เขาหัวเราะผ่านลำคอเบา ๆ ออกมาอย่างเย้ยหยัน ก็แค่ของกินเล่นมีสิทธิ์อะไรมาเรียกร้อง คนอย่างดาวนภา ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเขาขนาดนั้น
“ดาวอยากมาอยู่กับคุณจะแย่แล้ว” ดาวนภาลูบที่อกแกร่งของนิโคลัสเบา ๆ การกระทำทั้งหมดอยู่ในสายตาของรสรินทร์ตลอด รสรินทร์เม้มปากเป็นเส้นตรง เธอรู้สึกหายใจติดขัด และร้อนวูบวาบในท้องแปลก ๆ ตั้งแต่เจอเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นแล้ว
“กลับไปได้แล้ว” นิโคลัสเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะเดินไปยืนอยู่ข้าง ๆ ตู้ ยิ่งนิโคลัสเดินเข้ามาใกล้ตู้มากเท่าไร รสรินทร์ก็ยิ่งเกร็งอย่างหนัก กลัวเขาจับได้ ถ้าจับได้ความซวยต้องเกิดกับตัวเธอแน่นอน
“แต่”
“อย่าให้ต้องพูดซ้ำ” นิโคลัสเอ่ยออกมาพร้อมกับปรายตามองหน้า แววตาของเขาดุดันจนดาวนภานึกกลัว
“ได้ค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ดาวมาหาใหม่”
ฟอด ฟอด ฟอด ดาวนภาหอมแก้มของนิโคลัสจากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าตัวเอง แต่งตัวแล้วเดินออกจากห้องไป นิโคลัสทิ้งตัวลงเก้าอี้ก่อนจะหยิบบุหรี่ราคาแพงออกมาสูบอย่างใจเย็น
รสรินทร์มองชายที่นั่งหันหลังให้เธออยู่ จึงคิดจะใช้โอกาสนี้หนีออกไป เพราะรูปหลักฐานทั้งหมดอยู่ในกล้องของเธอแล้ว คราวนี้แหละคนอย่างดาวนภาดิ้นไม่หลุดแน่นอน เธอย่องออกมาจากข้างตู้เงียบ ๆ แล้วจะเดินไปที่ประตู
เพล้ง!
เสียงแจกันตกกระแทกพื้นแตกกระจาย เพราะความรีบร้อนจะรีบออกไปทำให้เธอไม่ทันได้มอง
“หึ” นิโคลัสหันมามองที่รสรินทร์ทันทีก่อนจะหัวเราะผ่านลำคอเบา ๆ ช่างกล้ามาแอบถ่ายเขาถึงในห้อง เขามองกล้องที่มือของเธอก็รู้แล้ว สงสัยคงอยากจะลองดีกับเขา
“...” ไร้คำพูดใด ๆ ออกมาจากปากรสรินทร์ เธอมองชายตรงหน้าที่ย่างสามขุมเข้าหาเธอด้วยความหวาดกลัว พร้อมกับรีบวิ่งไปที่ประตู
รสรินทร์รีบเปิดประตูห้อง พร้อมกับพาร่างตัวเองออกมาจากห้องทันที เธอรีบสาวเท้าเร็ว ๆ ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ประตูบ้านหลังใหญ่ ชายหน้าเหมือนกันยืนอยู่ตรงหน้าประตู พร้อมกับมองมาที่เธอ ยิ่งทำให้เธอหวาดกลัวมากกว่าเดิม
“เข้ามาได้ยังไง” อีธานรีบวิ่งเข้ามาหารสรินทร์ เธอชะงักเท้าเมื่อเห็นอีธานวิ่งมาหาเธอ เธอรีบถอยหลังพร้อมกับจะรีบวิ่งไปอีกทาง เมื่อได้เห็นท่าทางคุกคามของอีธาน เธอหันมามองอีธานเป็นระยะ เท้าเล็ก ๆ วิ่งอย่างรวดเร็ว เธอต้องรอดเธอไม่ยอมให้พวกเขาจับได้แน่นอน
“คุณพ่อขาณิรินอยากให้คุณพ่ออ่านนิทานให้ฟังนะคะ”“...”“คุณพ่อขาณิรินอยากฟังก่อนนอนค่ะ”“...”“มิราก็อยากฟังค่ะ” มิราออดอ้อน ผู้เป็นพ่อพร้อมกับส่งสายตาปริบ ๆ เขาถึงกับส่ายหัวเบา ๆ กับท่าทางของลูกสาวตัวน้อย ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกินยิ่งโตก็ยิ่งน่ารัก นับวันก็ยิ่งหลงรักลูกสาวตัวน้อย ๆ ไม่อยากคิดว่าโตขึ้นเธอจะแต่งงานไปมีครอบครัว. อยากให้เป็นเด็กตัวน้อย ๆ แบบนี้ไปตลอด“ยังจะให้อ่านให้ฟังอยู่อีกเหรอ”“นะคะ”“แม่อ่านให้ฟังดีกว่าไหม” นิโคลัสเอ่ยพร้อมกับยีผมลูกสาวเบา ๆ อย่างรักใคร่“นะคะคุณพ่อขามิรากับณิริน อยากฟังนิทานที่คุณพ่ออ่าน ช่วยอ่านให้พวกหนูฟังได้ไหมหรือเล่าก็ได้หนูอยากฟัง”“ให้แม่อ่านให้ฟังดีกว่า” เขาเอ่ยพร้อมกับเดินไปหยิบหนังสือนิทานขึ้นมาพร้อมกับวางไว้บนเตียง เพราะรสรินทร์อาบน้ำยังไม่เสร็จเขาเลยมาเล่นกับลูกก่อน“ไม่เอามิราจะให้คุณพ่ออ่านให้ฟังหรือเล่านิทานให้ฟังก็ได้ค่ะ”“ขอเป็นเรื่องเล่าได้ไหมณิรินอยากฟัง”“อยากให้พ่อเล่าให้ฟัง”“ค่ะ”“ก็ได้ เริ่มเลย”“คุณพ่อใจดีจังเลยมิรารักคุณพ่อที่สุด”“กาลครั้งหนึ่งมีชายผอมตัวอ้วน ๆ ลงเรือน้อยลำใหญ่ไปคนเดียวกับแฟนสาว ไปเจอเห็นผีหัวโล้นผมยา
“แอ้~~แอ้~~~เสียงมิราร้องขึ้นนิโคลัสรีบอุ้มลูกไปหารสรินทร์ทันที สงสัยคงหิวนมเขารีบยื่นลูกให้รสรินทร์ แต่ทำทุกอย่างอย่างเบามือ“สงสัยคงจะหิวแล้วนางฟ้าตัวน้อยของพ่อ”“หิวแล้วใช่ไหมคะคุณสวยของแม่”รสรินทร์เอ่ยพร้อมกับอุ้มลูกแล้วแกะเชือกที่เสื้อออกเพื่อจะเอาลูกเข้าเต้า“เดี๋ยวนะรสอย่าเพิ่งเปิด” นิโคลัสเอ่ยห้ามพร้อมกับมองไปที่ภาคิน“...”“พี่เมียครับช่วยออกไปข้างนอกด้วยเมียผมจะเอาลูกกินนม”“เกินไปแล้วนิโคลัสนายมันบ้า” รสรินทร์แหวใส่นิโคลัสทันที มีอาถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อได้เห็นท่าทางของลูกชาย“พี่ต้องออกไปใช่ไหม” ภาคินเอ่ยถาม“ไม่ต้อง” รสรินทร์แกะเชือกเสร็จเอาลูกเข้าเต้าทันที นิโคลัสเขามันบ้าไปแล้ว“ห้ามดูนะ” นิโคลัสเอ่ยเสียงเข้มพร้อมกับจ้องภาคิน“ท่าจะบ้าจริง ๆ นะชมพู่ประสาทจริง ๆ” ภาคินบ่นออกมาเบา ๆ ชมพู่มองท่าทางของนิโคลัสพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความระอาผ่านไปอีกหลายปีนิโคลัสนั่งมองลูกสาวทั้งสองเล่นน้ำทะเลอยู่วันนี้เป็นวันที่เขาพาครอบครัวมาเที่ยวเปิดหูเปิดตา ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขามันลงตัวหมด มีเมียมีลูกที่น่ารักมีครอบครัวที่อบอุ่น ส่วนพ่อแม่เขาก็เป็นหัวหน้าแก๊งอยู่ที่สวีเดนเพรา
แกร่ก!!!เสียงเปิดประตูห้องเข้ามาเป็นพยาบาลสาวสองคนเข็นรถนอนเด็กเข้ามา นิโคลัสมองทารกทั้งสองที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาด้วยความตื่นเต้น“รสดูสิหน้าตาเหมือนกูมากเลย” นิโคลัสเอ่ยออกมาด้วยความดีใจตื้นตันใจจนน้ำตามันจะไหลออกมาดื้อ ๆ “หน้าตาเหมือนพ่อมากเลย โตขึ้นคงจะติดพ่อน่าดู” รสรินทร์เอ่ยพร้อมกับยื่นมือไปจับแก้มลูกสาวเบา ๆ อย่างรักใคร่“กูโคตรดีใจเลย ฮึก! กูเคยคิดว่ากูไม่มีทางจะมีลูกได้เพราะผลตรวจบ้าบอที่ไอ้นิโคตินทำ ขอบคุณนะที่มอบนางฟ้าทั้งสองมาให้กู กูรักมึงนะรส” นิโคลัสเอ่ยเสียงสั่นเครือปนสะอื้น หมดกันสภาพมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่….“มาเฟียทำไมขี้แยจังแค่นี้ก็จะร้องแล้ว” รสรินทร์เอ่ยจากนั้นก็ใช้มือลูบที่แก้มเด็กน้อยทั้งสองเบา ๆ“กูตื้นตันใจไม่คิดว่าจะมีลูก กูไม่เคยคิดว่าจะมีพวกเขาเลย กูเชื่อมาตลอดว่ากูเป็นหมัน มึงรู้ไหมว่ากูโคตรดีใจเลย แต่ละคนหน้าเหมือนกูทั้งนั้นเลย”“ทำไมไม่เหมือนแม่สักคนเลย ไม่ต้องเหมือนพ่อทุกคนก็ได้ แม่อุ้มท้องหนูมาตั้งแปดเดือนกว่าเลยนะ ทำไมไม่เหมือนแม่เลย”“อุ้มได้เลยไหมครับ” นิโคลัสถามพยาบาล“อุ้มได้เลยค่ะ” พยาบาลสาวเอ่ยตอบ“เราจะตั้งชื่อว่าอะไรดี”“
“รสกลัว ตอนนี้เริ่มจะเจ็บท้องแล้ว” รสรินทร์กำมือแน่นเพราะเริ่มรู้สึกเจ็บหน่วงขึ้นมาเป็นระยะ ๆ และเริ่มรู้สึกเจ็บรุนแรงมากกว่าเดิม“ไม่ต้องกลัวกูอยู่ด้วยทั้งคนเดี๋ยวกูเตรียมเอกสารก่อนเเล้วกูจะมาแต่งตัวให้”“โค แต่มันยังไม่ถึงกำหนดคลอดเลย รสกลัว”“ก่อนถึงกำหนดคลอดแค่สามสัปดาห์เอง ท้องแฝดมีโอกาสคลอดก่อนกําหนด หมอเคยบอกอยู่” นิโคลัสหยิบชุดคลุมท้องมาใส่ให้รสรินทร์ จากนั้นก็อุ้มไปที่รถ“เอารถออกอีวานเมียกูจะคลอดแล้ว”“ครับนาย” อีวานเอ่ยพร้อมกับรีบวิ่งไปฝั่งคนขับ ส่วนอีธานรีบวิ่งขึ้นมานั่งข้างหน้า นิโคลัสอุ้มรสรินทร์เข้าไปนั่งข้างหลังพร้อมกับเขา“โค รสเจ็บ” รสรินทร์ร้องพร้อมกับเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด ความเจ็บมันเริ่มจู่โจมเธอรุนแรง. เธอใช้เล็บจิกที่ต้นแขนของนิโคลัสเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด“อดทนไว้ก่อนที่รัก” นิโคลัสเอ่ยปลอบรสรินทร์ เขาเองก็เจ็บไม่น้อยกว่าเธอ ยิ่งเขาเห็นเธอเจ็บเขายิ่งเจ็บมากกว่า“โค ฮึก! รสเจ็บปวดไปหมด” รสรินทร์เอ่ยเสียงสั่นความเจ็บปวด เริ่มแผ่ซ่าน มันปวดลามไปถึงหลังเธอบิดตัวไปมา เพราะความเจ็บปวด“ทนไว้ก่อนใกล้จะถึงแล้ว ขับรถเร็ว ๆ หน่อยสิโว้ย!” นิโคลัสตวาดลูกน้องเสียงดังเมื่อ
วันเวลาผ่านไปไม่มีวันไหนที่เขาไม่คิดถึงเธอไม่รู้ป่านนี้จะเป็นตาย ร้ายดีอย่างไร จะกินอิ่มนอนหลับหรือเปล่าใจเขามันได้แต่ถามซ้ำ ๆ ว่าเธอกับลูกจะลำบากแค่ไหน. ได้แต่ถามซ้ำ ๆ อยู่ทุกวัน ออกตามหาแต่ไร้วี่แวว เธอไม่มีญาติที่ไหน ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง“น้ำหอมฉันคิดถึงเธอ” นิโคตินเอ่ยออกมาเบา ๆ พร้อมกับลูบหน้าตัวเอง คำว่าทุกข์ยังน้อยไปสำหรับความรู้สึกของเขาตอนนี้มันเจ็บปวดจนแทบจะทนไม่ไหวเจ็บจนแทบจะขาดใจ“มานั่งทำอะไรตรงนี้ ทำไมไม่เข้าไปในบ้าน” นิโคลัสเอ่ยออกมา พร้อมกับจ้องหน้าผู้เป็นน้อง“ผมขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ที่เคยทำเรื่องเลวทรามต่ำช้า ขอบคุณที่ให้โอกาสคนสารเลวอย่างผม”“ต้องขอบคุณรสรินทร์” นิโคลัสเอ่ยออกมา พร้อมกับจ้องนิโคติน เขาไม่อยากจะซ้ำเติม ผู้เป็นน้องทุกข์ใจไปมากกว่านี้ที่เป็นอยู่มันก็ทุกข์มากพอแล้ว.“ขอโทษที่เคยแย่งน้ำหอมไปจากพี่ ขอโทษที่เป็นน้องที่ไม่ได้เรื่อง คอยทำร้ายพี่ตลอดเวลา ผมแค่อยากจะชนะพี่บ้าง น้ำหอมคนที่ผมรักมาตลอด ผมรักเธอจริง ๆ ไม่ได้เสแสร้ง”“ยังไงก็สู้ ๆ แล้วกัน ถ้าเราไม่เลิกพยายาม สักวันต้องได้เจอแน่นอนเข้าบ้านกันเถอะ” นิโคลัสเอ่ยพร้อมกับตบบ่าน้องชายเบา ๆ
@บนโต๊ะอาหาร“กินเยอะ ๆ นะรส” นิโคลัสตักผัดผักให้รสรินทร์พร้อมกับเลิกคิ้วมองภาคินกวน ๆ ภาคินถึงกับส่ายหัวกับท่าทางของนิโคลัส น้องเขยเขาไม่เหมือนชาวบ้านจริง ๆ บ้าบอคอแตกที่สุด“ขอบคุณนะแต่รสตักเองก็ได้”รสรินทร์เอ่ยกับนิโคลัส เขาตักอาหารใส่จานเธอจนมันจะล้นอยู่แล้ว“ชมพู่กินกุ้งดูสิคงอร่อยตัวใหญ่มาก” ภาคินแกะกุ้งให้ชมพู่“คุณนิโคลัสมีคนมาขอพบค่ะ” ป้าส้มเอ่ยกับนิโคลัส“ใครครับ” นิโคลัสเอ่ยถามป้าส้ม“เขาบอกว่าเป็นแม่คุณค่ะ” ป้าส้มเอ่ยยังไม่ทันจบชายชุดดำสี่คนก็กรูเข้ามา พร้อมกับร่างของมีอาที่เดินนวยนาดเข้ามา รสรินทร์เห็นมีอาก็รีบขยับ เขาไปใกล้ ๆ นิโคลัสทันที ส่วนภาคินกับชมพู่มองทั้งหมดด้วยความหวาดกลัวเช่นกัน พวกเขาต้องหวาดกลัวอยู่แล้ว แค่มีนิโคลัสกับลูกน้องพวกเขาก็กลัวอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมีลูกน้องกับแม่นิโคลัสเพิ่มมาอีก“แม่มาทำไม” นิโคลัสเอ่ยถามพร้อมกับโอบบ่ารสรินทร์ เขามองผู้เป็นแม่พร้อมถอนหายใจออกมาแรง ๆ“จะไม่เรียกกินข้าวหน่อยเหรอ” มีอาปรายตามองภาคินกับชมพู่“ชะ... เชิญครับ “ภาคินเอ่ยเสียงสั่นยอมรับว่ากลัวแม่ของนิโคลัส มีอายกยิ้มมุมปากแล้วเดินไปนั่งลงเก้าอี้“เดี๋ยวชมพู่ตักข้าวให้”ชมพ