Share

บทที่ 1 (4)

last update Last Updated: 2025-10-13 01:40:32

‘จะไปเสียเวลากับที่อื่นทำไมล่ะฮึ ไร่เรามีอะไรให้ลูกสาวพ่อเรียนรู้อีกตั้งมากมาย เรียนจบแล้วก็กลับมาช่วยพ่อ ช่วยพี่เต็ม ทำงานที่บ้านของเรานี่แหละลูก ระดมสมอง ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันพัฒนาให้ก้าวไกลมากกว่าเดิม’

 “ยังไม่ถึงสองชั่วโมงแต่คุณหนูเดินเข้าชมเกือบทุกร้านที่ผ่านยังบอกว่าช็อปปิ้งไม่จุใจอีกเหรอครับ แล้วใส่ส้นสูงเดินตะลอนไปทั่วไม่เมื่อยบ้างหรือยังไง” เขายกถุงในมือขึ้นสูงให้เห็นกันชัดๆ เผื่อคนซื้อจะลืมว่ากว้านซื้อมาเท่าไหร่แล้ว นับถือใจจริงๆ “และอีกอย่างผมก็ทิ้งงานมาอยู่ที่นี่นานมากไม่ได้หรอกนะครับ ที่ไร่มีงานรออยู่อีกมาก ส้มก็ใกล้เวลาที่จะเก็บแล้วด้วย ผมจะต้องรีบกลับไปสะสางอะไรอีกหลายอย่าง ช่วยกรุณารีบร่ำลาบรรดาเพื่อนๆ ของคุณหนูได้แล้ว เราสองคนจะได้กลับบ้านกันสักที ไปแล้วไม่ได้ไปลับสักหน่อยถึงต้องใช้เวลาร่ำลานานหลายวันขนาดนั้น”

 เขาไม่ได้ต้องการจะบ่นมาก แต่พอได้พูดแล้วมันก็ยาว เพราะต้องอธิบายในสิ่งที่เจ้าตัวรู้อยู่แล้วแต่ไม่ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆ อยากจะยกมือขึ้นคลึงขมับแต่ติดที่ถือถุงช็อปปิ้ง เลยได้แต่คิด อยากจะบ้าตาย การคุยกับคุณหนูอิงฟ้าในแต่ละครั้ง เขาต้องใช้ความอดทนค่อนข้างมากทีเดียว ไม่ใช่คนพูดมากก็ต้องพูดมากขึ้นมากอีกเป็นเท่าตัว เส้นเลือดข้างขมับเต้นตุบๆ ผู้หญิงเป็นเพศที่เข้าใจยากอยู่แล้วเรื่องนี้พอจะรู้ แต่เมื่อเป็นคุณหนูอิงฟ้าให้คูณสองคูณสามเข้าไปอีก ถึงจะได้ผลลัพธ์

“เราสองคนไม่ได้พบ ไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้งหลายเดือน แทนที่จะตามใจฟ้าให้มากหน่อย นี่อะไร ยังบ่นเก่งเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยนเลย หายใจหายคอบ้างก็ได้ค่ะ ฟ้าไม่อยากพาติณณ์ไปโรงพยาบาล เพราะหายใจไม่ทันนะ” เธออดที่จะค่อนขอดเขาไม่ได้จริงๆ รักอาชีพ เป็นห่วงงาน คือเรื่องที่ดีมากๆ แต่บางครั้งอะไรที่ควรปล่อยวาง เขาไม่ยอมปล่อย ว่าแต่เธอดื้อ ตัวเขาเองก็ดื้อพอกันนั่นแหละ “และถึงปากจะบอกว่าอยู่ต่อไม่ได้อย่างนั้นอย่างนี้ นาทีนี้ยังไงก็ต้องอยู่ก่อนค่ะ เพราะติณณ์ดันหลวมตัวขับรถลงมารับฟ้าที่นี่แล้ว ส่วนเรื่องงานในไร่น่ะ ขาดติณณ์ไปสักคน พี่เต็มกับคนงานทั้งหมด ก็สามารถช่วยกันดูแลได้เป็นอย่างดีเหมือนเดิมนั่นแหละ รู้ว่าห่วงแต่ในเมื่อทุกอย่างปกติดี ไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องแก้ไขก็ไม่ต้องกังวลจนเกินเหตุ” ร่ายยาวจบอิงฟ้าก็มองค้อนตาคว่ำ ก่อนจะสะบัดหน้าพรืดแล้วก้าวฉับๆ เดินนำออกไปโดยไม่รอคนขี้บ่น

 ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสวยสดขมุบขมิบ พึมพำราวท่องบทสวดอะไรสักอย่างไปเรื่อยขณะเดินจ้ำ ร้อนถึงร่างสูงที่ต้องรีบสาวเท้าก้าวตามแผ่นหลังบอบบางของคุณหนูสาวไปติดๆ ไม่อยากให้คลาดสายตาไปไหน เรื่องที่กลัวว่าอีกฝ่ายจะหลงทาง หรืองงทิศ เขาไม่คิดกังวลถึงตรงนั้นเลยสักนิด เพราะเขารู้ดีว่าเจ้าตัวคุ้นชินกับสถานที่เป็นอย่างดี แต่เขาถือคติที่ว่ามาด้วยกันก็ต้องกลับไปด้วยกัน ไม่มีเหตุผลที่จะต้องแยกกันกลับ

“แต่ผมเป็นผู้จัดการไร่นะครับ หายหน้าหายตามาอยู่กรุงเทพนานเท่าที่คุณหนูต้องการไม่ได้หรอกครับ คุณหนูก็ทราบว่างานภายในไร่มันมีเยอะมากมายขนาดไหน ถึงจะมีพ่อเลี้ยงควบคุม และคนงานคอยช่วยดูแลก็เถอะ แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ครับ” เสียงทุ้มห้าวให้เหตุผลคนดื้อดึง และพยายามทำใจให้เย็นเข้าไว้ เพราะเขาไม่อยากมีปัญหากับคุณหนูจอมเอาแต่ใจ ที่พักหลังเจอกันทีไรมีอันต้องพยศใส่ ตอนยังเป็นเพียงคุณหนูตัวน้อยยังไม่ขนาดนี้ พอเวลาเปลี่ยนยิ่งพยศเก่ง และเท่าที่สังเกตจะเป็นเฉพาะเขาคนเดียว

“ติณณ์ควรให้ร่างกายถึกๆ ของตัวเองได้พักผ่อนบ้างนะคะ ไม่ใช่บ้างานจนลืมดูแลตัวเองแบบนี้ อย่าลืมนะว่าตัวเองเป็นมนุษย์มีเลือด มีเนื้อ มีความรู้สึก เจ็บได้ ป่วยได้ ไม่ใช่เครื่องจักร อ่อ! ขนาดเครื่องจักรมันยังมีโอกาสได้หยุดพักการใช้งาน ดังนั้นมนุษย์ติณณ์ก็ต้องได้รับสิทธิ์นั้นเหมือนกัน ถือว่านี่คือคำสั่งของฟ้าก็แล้วกันนะคะ ฟ้ายังไม่อยากกลับติณณ์ก็ยังกลับไร่ไม่ได้ โอเคนะคะพ่อมนุษย์ยอดถึกของฟ้า” อิงฟ้ากล่าวจบก็หันมายิ้มมุมปาก ก่อนจะทำหน้าบึ้งเหมือนเดิม ถึงตัวเธอจะอยู่ที่กรุงเทพ แต่ทุกความเคลื่อนไหวภายในไร่เธอรับรู้มันทั้งหมดนั่นแหละ เพราะว่ามีสายสืบส่วนตัวคอยรายงานสถานการณ์ให้ฟังอยู่ตลอดทุกวัน ลำพังถ้ามัวแต่รอให้พ่อเลี้ยงทั้งสองคนเล่าให้ฟังก็คงรู้ไม่ครอบคลุม

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์รักร้ายเดียงสา   บทส่งท้าย (2)

    “หอมจัง”“ทำไมไม่นอนต่อล่ะคะ รีบลุกมาทำไม” อิงฟ้าหันมามองแวบหนึ่ง“ไว้รอนอนพร้อมกัน พี่อยากนอนกอดเมีย ไม่อยากนอนคนเดียว”ร่างสูงเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าว เท้าคางมองแม่ครัวคนสวยที่หันหลังให้เขาอย่างชื่นชมปนหลงใหล ต้นคอขาวมีรอยแดงสลับแซม สะโพกหนั่นแน่น บั้นท้ายกลมกลึง กระทั่งเรียวขา ทุกส่วนมันดูเซ็กซี่ไปหมดอิงฟ้าอมยิ้ม วันไหนที่เธอมาค้างคืนด้วยเขาจะอ้อนเป็นพิเศษ อาทิตย์หนึ่งก็สามวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แต่ใช่ว่าระหว่างนั้นติณณ์จะยอมทน มีโอกาสเป็นต้องหาเรื่องเปลื้องผ้า อีกไม่กี่เดือนเราสองคนจะแต่งงานกันแล้วด้วย คุณพ่อท่านเลยทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ไม่ว่าไม่บ่นเรื่องที่เธอมานอนที่นี่“จะกินอะไรก่อนดีคะ ไข่ลวก หรือข้าวผัด”“ฟ้าทำพี่หมดแรง เอาไข่ลวกมาก่อนเลยดีกว่า”“ติณณ์ทำตัวเองมากกว่า ฟ้าห้ามแล้ว เอาแค่สามฟองพอนะคะ ห้ามันมากไป ไม่กินก็คึกจะแย่” เดินเหินยังขัดๆ อยู่เลย คิดแล้วก็เขิน ห้ามเขาไม่เคยได้เลยสักครั้ง“รักมากก็คึกมากเป็นธรรมดา” เขารวบเอวสาวเสิร์ฟแสนสวยมากอด มาหอม และยอดอกที่ดุนดันเสื้ออยู่มันทำให้เขาอยากเปลี่ยนมาดื่มนมสดจากเต้าแทนกินอย่างอื่น“ค่ะ ธรรมดาก็ธรรมดา และฟ้

  • เล่ห์รักร้ายเดียงสา   บทส่งท้าย

    อิงฟ้าเริ่มเข้าไปเรียนรู้งานภายในออฟฟิศบ้างแล้ว โดยมีพ่อเลี้ยงเติมเต็มคอยกำกับดูแล การคบหาฉันท์คนรักระหว่างเธอกับติณณ์ก็รับรู้กันทั่วทั้งไร่ ควงกันไปไหนมาไหนอย่างเปิดเผยเพื่อนพ้องที่ทราบข่าวต่างยินดี และในวันนี้เป็นวันหยุด ไม่ต้องทำงาน เธอกับติณณ์จึงใช้เวลาร่วมกันบนเตียงนานกว่าปกติ ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของเมื่อวานมาจนถึงตอนสายโด่งของวันนี้ ยังไม่ได้ลุกไปไหน สภาพเตียงจึงดูไม่จืดเลยสักนิด“ที่รักขา”“หืม...” เสียงทุ้มติดยานคางขานรับในลำคอเบาๆ ตายังไม่ยอมลืม แก้มสากแนบซบอยู่กับอกอวบที่เต็มไปด้วยรอยแดงที่เกิดจากการดูดเม้ม ริมฝีปากอยู่ใกล้หัวนมสีชมพูอ่อนใส ที่ปลายยอดสั่นระริกยามต้องลมหายใจอุ่นๆ และครึ่งตัวของเขาเกยอยู่บนกายอวบอิ่ม เพราะทั้งแขน ทั้งขาก่ายพาด “ฟ้าหิวข้าวค่ะ ปล่อยก่อนได้ไหมคะ เดี๋ยวมานอนให้กอดต่อ ตอนนี้ขอไปจัดการเอาอะไรใส่กระเพาะให้อิ่มก่อน” ท้องเธอร้องประท้วงมาสักพักใหญ่แล้ว หลังจากสูญเสียพลังงานไปมากโข แต่ติดตรงที่ไปไหนไม่ได้ เพราะคุณยักษ์ที่รักของเธอไม่ยอมคลายอ้อมแขนที่รัดเธอเอาไว้เสียแน่นหนาสักที“งั้นฝากทำไข่ลวกให้พี่กินสักห้าฟองนะครับ ฟื้นกำลังหน่อย” แนบปากจูบทรวงอกเต่งตึง

  • เล่ห์รักร้ายเดียงสา   บทที่ 15 (3)

    หลังกินข้าวเช้าด้วยกันแล้ว ทุกคนต่างก็เตรียมแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง เธอก็ขอตามติณณ์เข้าไร่ด้วย เพราะตั้งแต่กลับมาอยู่บ้าน ยังไม่มีโอกาสได้ออกไปไหนเลย ออฟฟิศก็ยังไม่ได้เข้าไปเรียนรู้งาน แต่งกายทะมัดทะแมงตามที่เขาต้องการเป๊ะ พ่อคุณทูนหัวก็ยอมพามา เธอเลือกใส่เสื้อเชิ้ตสีเหลืองอ่อนพับแขนถึงข้อศอกแบบพอดีตัว ชายเสื้อทับด้วยกางเกงยีนส์ขายาวสีเข้ม และรองเท้าผ้าใบ เดินเหินจะได้สะดวก บนศีรษะสวมหมวกปีกกว้างป้องกันแสงแดด ตามที่คนบงการสั่ง ทั้งที่มันยังรำไร ยังไม่ส่องแสงแผ่ความร้อนระอุลงมา เขาใส่ใจเธอทุกเรื่อง เวลาทำงานเขาก็จริงจัง แต่ก็คอยมองมาที่เธออยู่ตลอด ชี้นิ่วสั่งแล้วยังลงมือทำด้วย ส่วนเธอได้แต่นั่งมองอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกมาให้ผู้คนได้อาศัยหลบความร้อนกับคนงานหญิงอีกสองคนที่มานั่งคุยเป็นเพื่อน“นายติณณ์ไม่ปล่อยให้คุณหนูคลาดสายตาเลยนะคะ”“นั่นสิคะ ปกติเวลานายติณณ์ทำงานจะไม่สนใจสิ่งรอบตัว ตั้งหน้าตั้งตาทำอย่างเดียว มีวันนี้นี่แหละค่ะ ที่แตกต่างไปจากทุกวัน คงเป็นเพราะคุณหนูอิงฟ้ามาด้วยแน่ๆ เลยค่ะ จิตใจนายเลยอยู่ไม่ค่อยสุขเท่าที่ควร” พูดจบก็พากันหัวเราะคิกอิ

  • เล่ห์รักร้ายเดียงสา   บทที่ 15 (2)

    “ติณณ์คงไม่กล้าเกลียดผู้มีพระคุณหรอกค่ะ แต่ถ้าคุณพ่อไม่ให้โอกาสติณณ์จริงก็เท่ากับว่าลูกในท้องของฟ้า ซึ่งก็คือหลานแท้ๆ เลือดเนื้อเชื้อไขของคุณพ่อกับพี่เต็มจะขาดพ่อนะคะ ฟ้ายอมไม่ได้หรอกค่ะ ฟ้าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา โดยไม่ขาดใครสักคน คุณพ่อต้องให้ติณณ์รับผิดชอบฟ้านะคะ” เสียงอ่อนในประโยคสุดท้าย พลางตีหน้าเศร้า แอบไขว้นิ้วชี้กับนิ้วนางที่ข้างลำตัว กล่าวขอโทษขอโพยที่พูดปดอยู่ในใจถ้าน้อยหน่าไม่ขึ้นไปบอกว่าติณณ์มาเธอก็คงไม่ได้ลงมาเจอสถานการณ์ที่เรียกได้ว่าค่อนข้างตึงเครียด ติณณ์ไม่ได้เกริ่นกับเธอว่าเขาจะเข้ามาคุยกับคุณพ่อในเช้าวันนี้ ต้องการจะเซอร์ไพรส์หรืออะไรไม่รู้ แต่ที่เธอรู้คือเขามีความเป็นลูกผู้ชายสูงมาก อาจมากกว่ามนุษย์เพศชายทั่วไปด้วยซ้ำ เลยคิดจัดการปัญหาด้วยตัวเองโดยที่ไม่ให้เธอเข้ามาเกี่ยวข้องในขณะที่ยังไม่เรียบร้อย แต่มันไม่ทันแล้วไง เธอยื่นมือเข้ามายุ่งเต็มรูปแบบแล้วเงียบเป็นเป่าสาก ไร้ซึ่งเสียงพูดคุย สายตาสามคู่ของผู้ชายสามคน และต่างสถานะพุ่งตรงมายังสาวสวยเพียงหนึ่งเดียวที่เดินลูบท้องเข้ามาสยบทุกความเคลื่อนไหวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เรือนกายอวบอิ่มยังคงอย

  • เล่ห์รักร้ายเดียงสา   บทที่ 15

    “ผมรักลูกสาวของพ่อเลี้ยงครับ...ผมรักคุณหนูอิงฟ้า” เสียงทุ้มห้าวกล่าวอย่างหนักแน่นทุกถ้อยคำ อีกทั้งสีหน้า และแววตาก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าที่ลั่นวาจาออกมานั้นมันมาจากส่วนลึกภายในใจจิตใจ หาใช่เพียงลมปาก“หือ จะไม่พูดเกริ่นนำอะไรกับลุงสักนิดเลยเหรอเจ้าติณณ์” คิ้วสีดอกเลาเช่นเดียวกับสีผมของพ่อเลี้ยงทวีศักดิ์ขมวดกันจนยุ่ง รอยย่นตามกาลเวลาปรากฏชัดเจน สายตาคมกริบของคนสูงวัยจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าคร้ามคมติดนิ่งของชายหนุ่มผู้เปรียบเสมือนบุตรชายอีกคนอย่างพิจารณา แววตาเด็ดเดี่ยว แต่แฝงความกังวลเล็กๆ ที่จับสังเกตได้ แผ่นหลังตั้งตรง อกผาย ไหล่ผึ่ง สองมือวางไว้บนหน้าขา การวางตัวดูสุภาพกว่าปกติ เด็กรับใช้ที่ไปตาม บอกนายติณณ์มาขอพบ ก็คิดอยู่ว่าคงต้องเป็นเรื่องอะไรสำคัญ ไม่อย่างนั้นคงไม่มาในเวลานี้แน่ แล้วก็จริงดังที่คาดเดาเอาไว้ มันสำคัญจริงๆ และมันไม่ใช่เรื่องงานด้วยสิ พอเจอหน้ากัน ยังไม่ทันได้กล่าวทักทายอะไรให้มากความก็มาสารภาพว่ารักยายฟ้า ทำเอาประหลาดใจแต่หัววันจริงๆ“ผมไม่รู้ว่าควรจะเกริ่นนำยังไงในเรื่องนี้ดี ผมเลยเลือกที่จะกราบเรียนตามตรง และผมขอยืนยันอีกครั้งว่าผมรักเธอครับ” เขาไม่ใช่คนมีวาทศิลป์ใ

  • เล่ห์รักร้ายเดียงสา   บทที่ 14 (3)

    “ฟ้าไม่เคยคิดรังเกียจติณณ์เลยสักนิด ไม่เคยเลยจริงๆ” ต่อให้ร่างกายเขาเลอะเทอะเปรอะเปื้อนมากกว่านี้เธอก็จะกอดเขาไว้แน่นๆ ด้วยความรักทั้งหมดที่มีริมฝีปากหนาคลี่ยิ้มกว้างเมื่อถูกจู่โจมด้วยปากบวมช้ำ พลางช้อนใต้สะโพกยกร่างอวบอิ่มขึ้นจนตัวลอย หมุนตัวเป็นวงกลมไปหนึ่งรอบ เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากอิงฟ้า เมื่อหยุดหน้าผากมนก็แนบลงมาชิดติดกัน“อยากไปส่งถึงในห้องนอนแต่ไปส่งไม่ได้ อยากนอนกอดด้วย”“โธ่ อย่าทำเสียงเศร้าและทำหน้าหงอยแบบนี้สิคะที่รักขา เดี๋ยวฟ้าก็บังคับตัวเองไม่ได้ เผลอลากแขนติณณ์ติดมือขึ้นห้องไปนอนกอดแทนหมอนข้างหรอกค่ะ” มือบางลูบแก้มสาก มุมปากยกยิ้มสวยเก๋ ตั้งแต่สารภาพความในใจกับเธอ เขาก็ไม่ใช่ติณณ์คนเดิมอย่างที่แล้วมา มีมุมหื่น มีมุมอ้อน มีมุมน่ารักให้ได้เห็น เจอโหมดนี้ของเขาเข้าไป ทำเอาอิงฟ้าคนนี้ใจเปราะบางหมดแล้ว และยิ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่มากกว่าแฟนกันแบบใสๆ เดินจับมือถือแขนกันธรรมดาติณณ์ยิ่งแสดงออกถึงความต้องการในตัวเธอผ่านทั้งการกระทำและคำพูดที่เป็นเครื่องยืนยันว่าเขารักเธอมากเพียงใด“แล้วจะช้าอยู่ทำไม ลากพี่ไปเลยสิ อยากนอนให้ฟ้ากอดจะแย่”“เอ...ติณณ์คนหวงตัวหายไปตั้งแต่ตอนไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status