เรือนร่างอวบอิ่มน่าคลึงเคล้นไปทุกสัดส่วนยืนบิดเอวคอดเอียงตัวซ้ายนิด ขวาหน่อยอยู่หน้ากระจกบานใหญ่เพื่อสำรวจตรวจตราความเรียบร้อยของการแต่งกายตนเอง รวมถึงความเป๊ะปังของเครื่องสำอางที่เคลือบทับผิวบนใบหน้าที่บรรจงแต่งแต้มสีสันพอประมาณด้วยความประณีต สวยงาม เสื้อสายเดี่ยวตัวสวยเนื้อผ้าบางเบาโปร่งสบายสีขาวแบบพอดีตัวที่สวมใส่อยู่นั้นคว้านคอต่ำแลเห็นร่องอกขาวนวลเนียนของสองเต้าทรวงอวบใหญ่ที่พุ่งดันออกมาเป็นรูปทรงสวยงามรำไร โดยมีผมยาวสลวยแผ่สยาย สีน้ำตาลอ่อนดัดลอนคลายตรงปลายคลอเคลีย แต่ก็อาจบดบังความขาวอวบของพุ่มทรวงเต่งตึงเอาไว้ได้มิดชิด ส่วนครึ่งล่างใส่เป็นกระโปรงทรงสอบเอวสูงสีดำที่ความยาวอยู่ประมาณหัวเข่าผ่าข้างขึ้นมาเกือบคืบเพื่อให้การก้าวเดินสะดวกสบาย ยิ่งสวมรองเท้าส้นเต้ารีดสีครีมด้วยแล้ว ยิ่งช่วยขับเน้นให้เรียวขาขาวผ่องเป็นยองใยคู่นี้ดูเรียวยาวมากกว่าปกติ และองค์ประกอบโดยรวมทั้งหมดจึงทำให้หญิงสาวเซ็กซี่ชวนมองอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพยายามปั้นแต่งแต่อย่างใด
“เป๊าะ” เสียงเดาะปากและรอยยิ้มบางเบาแต่งแต้มบนริมฝีปากอวบอิ่มเมื่อเจ้าตัวพึงพอใจกับตัวเอง ที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อให้ลิปสติกที่ทาทับลงไปเมื่อสักครู่กระจายตัวได้ถ้วนทั่ว และทุกการกระทำของเธอนั้นได้รับความสนใจจากบรรดาผู้หญิงด้วยกันที่แวะเวียนมาเข้าห้องน้ำ แต่เธอก็หาได้สนใจสายตาของคนรอบข้างที่คอยเหลือบชำเลืองมองเลยแม้แต่น้อย สีหน้าเรียบเฉยไม่มีอาการเหนียมอายให้ใครเห็นหรือแสดงอาการคอยระแวดระวังกลัวว่าใครจะจับผิดคิดนินทาเลยสักนิด เธอไม่ได้ทำสิ่งใดแปลกประหลาด แตกต่างไปจากคนอื่นๆ เลย แล้วจะใส่ใจทำไมกัน ในเมื่อครึ่งหนึ่งของผู้หญิงที่เดินมาเข้าห้องน้ำ นอกจากจะมาปลดปล่อยทุกข์อย่างปวดหนัก ปวดเบาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งก็คือเพื่อหวังจะเช็คดูใบหน้าของตัวเองในกระจกบานใหญ่ว่าเป๊ะปังทุกองศาแล้วหรือยัง ด้วยรูปร่าง หน้าตาของเธอที่ต้องยอมรับว่าค่อนข้างเรียกสายตาของใครต่อใครได้ดี โดยเฉพาะบรรดาผู้ชาย และสาวหล่อ ที่ผ่านมามีผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาขายขนมจีบไม่ว่างเว้น นับตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นสมัยมัธยมปลายโน่นแล้ว แต่ที่เยอะสุดก็ตอนเข้ามหาวิทยาลัยนี่แหละ ทั้งรุ่นราวคราวเดียวกัน รุ่นพี่ในคณะ ต่างคณะ จนกระทั่งคนอายุมากกว่าหลายปี ไม่ว่าจะนักธุรกิจ วิศวะ กระทั่งคุณหมอก็เคยมาจีบ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลล้วนถูกเธอปฏิเสธแบบเด็ดขาด ไม่เคยกลับมานั่งคิดเสียดายเลยสักคน แม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะหล่อ รวย โปรไฟล์ดีเลิศมากมายแค่ไหนก็ตาม เพื่อนบางคนถึงกับเอ่ยปากบอกว่าหล่อนบ้ารึเปล่าที่ปล่อยให้คนเหล่านั้นหลุดมือไป เสียดาย น่าจะเลือกสักคน เธออยู่ในจุดที่เลือกได้ ถามว่าเธอผิดเหรอที่ไม่สน ซึ่งคำตอบคือไม่เลย ในเมื่อหัวใจมันเต้นเป็นจังหวะปกติ ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทำไมจะต้องแกล้งให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับพวกเขาด้วยล่ะ และใช่ว่าที่เข้ามาจะจริงใจหมดเสียเมื่อไหร่ หนักเข้าถึงขั้นมีคนพูดว่าเธออาจจะเป็นเลสเบี้ยน แบบนิยมชมชอบเพศเดียวกัน แล้วยังไงล่ะ ชอบแล้วผิดตรงไหน คนจะรักกัน เพศไหนไม่เกี่ยวหรอก บ้างก็ว่าหยิ่งอย่างนั้นอย่างนี้ ก็แล้วแต่ คือใครจะว่ายังไงเธอไม่สนใจ ตราบใดที่ไม่ก้าวก่าย ไม่ละลาบละล้วงกันจนเกินขอบเขต ถ้ามัวแต่ตามแก้ข่าว เรื่องเล็กน้อยว่าไม่จริงนะ มันคือเรื่องเข้าใจผิด พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบบลาๆ ว่าเธอยังคงชอบผู้ชายอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีหัวใจเอนเอียงไปชอบผู้หญิงด้วยกันเองสักหน่อย ที่ไม่ตกลงปลงใจกับใครเป็นเพราะนั่นนี่ เหนื่อยตายพอดีถ้าต้องใส่ใจทุกเรื่องราว และเธอไม่ใช่คนในแวดวงบันเทิงอย่างพวกดารา นักร้องที่ต้องแคร์สื่อ อะไรที่ปล่อยวางได้ก็ควรจะปล่อยไป แต่ถ้าเรื่องไหนที่คิดว่าวางไม่ได้เธอก็จะไม่ยอมวางมันง่ายๆ แล้วเธอก็จะกลายเป็นอีกคนหากมันบานปลายลุกลามไปไกล นิสัยของนางสาวอิงฟ้า โรจน์สุวรรณ ก็เป็นแบบนี้แหละ อ่อนได้ ยอมได้ และร้ายได้เหมือนกัน“หอมจัง”“ทำไมไม่นอนต่อล่ะคะ รีบลุกมาทำไม” อิงฟ้าหันมามองแวบหนึ่ง“ไว้รอนอนพร้อมกัน พี่อยากนอนกอดเมีย ไม่อยากนอนคนเดียว”ร่างสูงเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าว เท้าคางมองแม่ครัวคนสวยที่หันหลังให้เขาอย่างชื่นชมปนหลงใหล ต้นคอขาวมีรอยแดงสลับแซม สะโพกหนั่นแน่น บั้นท้ายกลมกลึง กระทั่งเรียวขา ทุกส่วนมันดูเซ็กซี่ไปหมดอิงฟ้าอมยิ้ม วันไหนที่เธอมาค้างคืนด้วยเขาจะอ้อนเป็นพิเศษ อาทิตย์หนึ่งก็สามวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แต่ใช่ว่าระหว่างนั้นติณณ์จะยอมทน มีโอกาสเป็นต้องหาเรื่องเปลื้องผ้า อีกไม่กี่เดือนเราสองคนจะแต่งงานกันแล้วด้วย คุณพ่อท่านเลยทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ไม่ว่าไม่บ่นเรื่องที่เธอมานอนที่นี่“จะกินอะไรก่อนดีคะ ไข่ลวก หรือข้าวผัด”“ฟ้าทำพี่หมดแรง เอาไข่ลวกมาก่อนเลยดีกว่า”“ติณณ์ทำตัวเองมากกว่า ฟ้าห้ามแล้ว เอาแค่สามฟองพอนะคะ ห้ามันมากไป ไม่กินก็คึกจะแย่” เดินเหินยังขัดๆ อยู่เลย คิดแล้วก็เขิน ห้ามเขาไม่เคยได้เลยสักครั้ง“รักมากก็คึกมากเป็นธรรมดา” เขารวบเอวสาวเสิร์ฟแสนสวยมากอด มาหอม และยอดอกที่ดุนดันเสื้ออยู่มันทำให้เขาอยากเปลี่ยนมาดื่มนมสดจากเต้าแทนกินอย่างอื่น“ค่ะ ธรรมดาก็ธรรมดา และฟ้
อิงฟ้าเริ่มเข้าไปเรียนรู้งานภายในออฟฟิศบ้างแล้ว โดยมีพ่อเลี้ยงเติมเต็มคอยกำกับดูแล การคบหาฉันท์คนรักระหว่างเธอกับติณณ์ก็รับรู้กันทั่วทั้งไร่ ควงกันไปไหนมาไหนอย่างเปิดเผยเพื่อนพ้องที่ทราบข่าวต่างยินดี และในวันนี้เป็นวันหยุด ไม่ต้องทำงาน เธอกับติณณ์จึงใช้เวลาร่วมกันบนเตียงนานกว่าปกติ ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของเมื่อวานมาจนถึงตอนสายโด่งของวันนี้ ยังไม่ได้ลุกไปไหน สภาพเตียงจึงดูไม่จืดเลยสักนิด“ที่รักขา”“หืม...” เสียงทุ้มติดยานคางขานรับในลำคอเบาๆ ตายังไม่ยอมลืม แก้มสากแนบซบอยู่กับอกอวบที่เต็มไปด้วยรอยแดงที่เกิดจากการดูดเม้ม ริมฝีปากอยู่ใกล้หัวนมสีชมพูอ่อนใส ที่ปลายยอดสั่นระริกยามต้องลมหายใจอุ่นๆ และครึ่งตัวของเขาเกยอยู่บนกายอวบอิ่ม เพราะทั้งแขน ทั้งขาก่ายพาด “ฟ้าหิวข้าวค่ะ ปล่อยก่อนได้ไหมคะ เดี๋ยวมานอนให้กอดต่อ ตอนนี้ขอไปจัดการเอาอะไรใส่กระเพาะให้อิ่มก่อน” ท้องเธอร้องประท้วงมาสักพักใหญ่แล้ว หลังจากสูญเสียพลังงานไปมากโข แต่ติดตรงที่ไปไหนไม่ได้ เพราะคุณยักษ์ที่รักของเธอไม่ยอมคลายอ้อมแขนที่รัดเธอเอาไว้เสียแน่นหนาสักที“งั้นฝากทำไข่ลวกให้พี่กินสักห้าฟองนะครับ ฟื้นกำลังหน่อย” แนบปากจูบทรวงอกเต่งตึง
หลังกินข้าวเช้าด้วยกันแล้ว ทุกคนต่างก็เตรียมแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง เธอก็ขอตามติณณ์เข้าไร่ด้วย เพราะตั้งแต่กลับมาอยู่บ้าน ยังไม่มีโอกาสได้ออกไปไหนเลย ออฟฟิศก็ยังไม่ได้เข้าไปเรียนรู้งาน แต่งกายทะมัดทะแมงตามที่เขาต้องการเป๊ะ พ่อคุณทูนหัวก็ยอมพามา เธอเลือกใส่เสื้อเชิ้ตสีเหลืองอ่อนพับแขนถึงข้อศอกแบบพอดีตัว ชายเสื้อทับด้วยกางเกงยีนส์ขายาวสีเข้ม และรองเท้าผ้าใบ เดินเหินจะได้สะดวก บนศีรษะสวมหมวกปีกกว้างป้องกันแสงแดด ตามที่คนบงการสั่ง ทั้งที่มันยังรำไร ยังไม่ส่องแสงแผ่ความร้อนระอุลงมา เขาใส่ใจเธอทุกเรื่อง เวลาทำงานเขาก็จริงจัง แต่ก็คอยมองมาที่เธออยู่ตลอด ชี้นิ่วสั่งแล้วยังลงมือทำด้วย ส่วนเธอได้แต่นั่งมองอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกมาให้ผู้คนได้อาศัยหลบความร้อนกับคนงานหญิงอีกสองคนที่มานั่งคุยเป็นเพื่อน“นายติณณ์ไม่ปล่อยให้คุณหนูคลาดสายตาเลยนะคะ”“นั่นสิคะ ปกติเวลานายติณณ์ทำงานจะไม่สนใจสิ่งรอบตัว ตั้งหน้าตั้งตาทำอย่างเดียว มีวันนี้นี่แหละค่ะ ที่แตกต่างไปจากทุกวัน คงเป็นเพราะคุณหนูอิงฟ้ามาด้วยแน่ๆ เลยค่ะ จิตใจนายเลยอยู่ไม่ค่อยสุขเท่าที่ควร” พูดจบก็พากันหัวเราะคิกอิ
“ติณณ์คงไม่กล้าเกลียดผู้มีพระคุณหรอกค่ะ แต่ถ้าคุณพ่อไม่ให้โอกาสติณณ์จริงก็เท่ากับว่าลูกในท้องของฟ้า ซึ่งก็คือหลานแท้ๆ เลือดเนื้อเชื้อไขของคุณพ่อกับพี่เต็มจะขาดพ่อนะคะ ฟ้ายอมไม่ได้หรอกค่ะ ฟ้าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา โดยไม่ขาดใครสักคน คุณพ่อต้องให้ติณณ์รับผิดชอบฟ้านะคะ” เสียงอ่อนในประโยคสุดท้าย พลางตีหน้าเศร้า แอบไขว้นิ้วชี้กับนิ้วนางที่ข้างลำตัว กล่าวขอโทษขอโพยที่พูดปดอยู่ในใจถ้าน้อยหน่าไม่ขึ้นไปบอกว่าติณณ์มาเธอก็คงไม่ได้ลงมาเจอสถานการณ์ที่เรียกได้ว่าค่อนข้างตึงเครียด ติณณ์ไม่ได้เกริ่นกับเธอว่าเขาจะเข้ามาคุยกับคุณพ่อในเช้าวันนี้ ต้องการจะเซอร์ไพรส์หรืออะไรไม่รู้ แต่ที่เธอรู้คือเขามีความเป็นลูกผู้ชายสูงมาก อาจมากกว่ามนุษย์เพศชายทั่วไปด้วยซ้ำ เลยคิดจัดการปัญหาด้วยตัวเองโดยที่ไม่ให้เธอเข้ามาเกี่ยวข้องในขณะที่ยังไม่เรียบร้อย แต่มันไม่ทันแล้วไง เธอยื่นมือเข้ามายุ่งเต็มรูปแบบแล้วเงียบเป็นเป่าสาก ไร้ซึ่งเสียงพูดคุย สายตาสามคู่ของผู้ชายสามคน และต่างสถานะพุ่งตรงมายังสาวสวยเพียงหนึ่งเดียวที่เดินลูบท้องเข้ามาสยบทุกความเคลื่อนไหวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เรือนกายอวบอิ่มยังคงอย
“ผมรักลูกสาวของพ่อเลี้ยงครับ...ผมรักคุณหนูอิงฟ้า” เสียงทุ้มห้าวกล่าวอย่างหนักแน่นทุกถ้อยคำ อีกทั้งสีหน้า และแววตาก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าที่ลั่นวาจาออกมานั้นมันมาจากส่วนลึกภายในใจจิตใจ หาใช่เพียงลมปาก“หือ จะไม่พูดเกริ่นนำอะไรกับลุงสักนิดเลยเหรอเจ้าติณณ์” คิ้วสีดอกเลาเช่นเดียวกับสีผมของพ่อเลี้ยงทวีศักดิ์ขมวดกันจนยุ่ง รอยย่นตามกาลเวลาปรากฏชัดเจน สายตาคมกริบของคนสูงวัยจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าคร้ามคมติดนิ่งของชายหนุ่มผู้เปรียบเสมือนบุตรชายอีกคนอย่างพิจารณา แววตาเด็ดเดี่ยว แต่แฝงความกังวลเล็กๆ ที่จับสังเกตได้ แผ่นหลังตั้งตรง อกผาย ไหล่ผึ่ง สองมือวางไว้บนหน้าขา การวางตัวดูสุภาพกว่าปกติ เด็กรับใช้ที่ไปตาม บอกนายติณณ์มาขอพบ ก็คิดอยู่ว่าคงต้องเป็นเรื่องอะไรสำคัญ ไม่อย่างนั้นคงไม่มาในเวลานี้แน่ แล้วก็จริงดังที่คาดเดาเอาไว้ มันสำคัญจริงๆ และมันไม่ใช่เรื่องงานด้วยสิ พอเจอหน้ากัน ยังไม่ทันได้กล่าวทักทายอะไรให้มากความก็มาสารภาพว่ารักยายฟ้า ทำเอาประหลาดใจแต่หัววันจริงๆ“ผมไม่รู้ว่าควรจะเกริ่นนำยังไงในเรื่องนี้ดี ผมเลยเลือกที่จะกราบเรียนตามตรง และผมขอยืนยันอีกครั้งว่าผมรักเธอครับ” เขาไม่ใช่คนมีวาทศิลป์ใ
“ฟ้าไม่เคยคิดรังเกียจติณณ์เลยสักนิด ไม่เคยเลยจริงๆ” ต่อให้ร่างกายเขาเลอะเทอะเปรอะเปื้อนมากกว่านี้เธอก็จะกอดเขาไว้แน่นๆ ด้วยความรักทั้งหมดที่มีริมฝีปากหนาคลี่ยิ้มกว้างเมื่อถูกจู่โจมด้วยปากบวมช้ำ พลางช้อนใต้สะโพกยกร่างอวบอิ่มขึ้นจนตัวลอย หมุนตัวเป็นวงกลมไปหนึ่งรอบ เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากอิงฟ้า เมื่อหยุดหน้าผากมนก็แนบลงมาชิดติดกัน“อยากไปส่งถึงในห้องนอนแต่ไปส่งไม่ได้ อยากนอนกอดด้วย”“โธ่ อย่าทำเสียงเศร้าและทำหน้าหงอยแบบนี้สิคะที่รักขา เดี๋ยวฟ้าก็บังคับตัวเองไม่ได้ เผลอลากแขนติณณ์ติดมือขึ้นห้องไปนอนกอดแทนหมอนข้างหรอกค่ะ” มือบางลูบแก้มสาก มุมปากยกยิ้มสวยเก๋ ตั้งแต่สารภาพความในใจกับเธอ เขาก็ไม่ใช่ติณณ์คนเดิมอย่างที่แล้วมา มีมุมหื่น มีมุมอ้อน มีมุมน่ารักให้ได้เห็น เจอโหมดนี้ของเขาเข้าไป ทำเอาอิงฟ้าคนนี้ใจเปราะบางหมดแล้ว และยิ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่มากกว่าแฟนกันแบบใสๆ เดินจับมือถือแขนกันธรรมดาติณณ์ยิ่งแสดงออกถึงความต้องการในตัวเธอผ่านทั้งการกระทำและคำพูดที่เป็นเครื่องยืนยันว่าเขารักเธอมากเพียงใด“แล้วจะช้าอยู่ทำไม ลากพี่ไปเลยสิ อยากนอนให้ฟ้ากอดจะแย่”“เอ...ติณณ์คนหวงตัวหายไปตั้งแต่ตอนไ