Home / โรแมนติก / เล่ห์รักสวาทคุณอา / ไออุ่นจากอ้อมกอด

Share

ไออุ่นจากอ้อมกอด

last update Last Updated: 2024-12-05 15:18:45

ต่อมา...

ดลธีกอดอกทิ้งร่างสูงพิงข้างรถยนต์ของตัวเองเขี่ยปลายเท้าลงบนพื้นเต็มไปด้วยใบไม้ใบหญ้าระหว่างใช้ความคิด กระทั่งเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ก้าวเข้ามาใกล้ ถึงเปลี่ยนอิริยาบถ วาดแขนไปด้านหลังเท้ากับกระโปรงด้านหน้า

“ไหนบอกว่าไปธุระแค่แป๊บเดียวไง ทำไมพึ่งมาเอาตอนนี้วะ” ยิ่งคำถามใส่เพื่อนทันทีเมื่อการันต์หยุดอยู่ตรงหน้า

“ก็ไม่ได้นานอะไรนี่หว่า ไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ”

ยกนาฬิกาข้อมือสีเหลืองทองของแบรนด์ดังขึ้นมาดูก็เห็นว่ายังไม่เกินสี่ทุ่มด้วยซ้ำ เขาวางท่อนแขนแนบลำตัวแล้วเตรียมจะอ้อมไปอีกฝั่ง ทว่าก็ถูกรั้งไว้ด้วยเสียงเข้มจากเจ้าของรถเสียก่อน

“มึงไปทำอะไรมา?”

ดลธียืดตัวตรงเผยความสงสัยออกมาทางสีหน้าและแววตาจนหมดสิ้น พลางก้าวไปยืนตรงหน้าในระยะห่างกันไม่กี่คืบจากปลายเท้าของการันต์ ด้วยความสูงที่ไม่ได้ต่างมากนัก จึงพอทำให้ทั้งสองมองเห็นแววตาของอีกฝ่ายได้ชัดเจน

“ก็บอกไปแล้วว่าจะไปถามเรื่องของพี่กรณ์กับพี่วีไง”

“ด้วยการไปกอดกับลูกสาวคนที่ยังไม่ทันได้เผานะเหรอวะ”

“ไอ้ดล! มึงพูดดี ๆ อย่าทำให้คนอื่นเสียหาย” ตอนแรกก็คิดว่าตนเองตาฝาดที่เห็นสีหน้าบึ้งตึง แต่ดูท่าแล้วมันคงคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วแน่ ๆ

“กูจะไม่พูดถ้าไม่เห็นกับตา มึงเป็นคนบอกเองว่าพี่รงค์คือพี่ชาย แล้วเด็กคนนั้นก็ลูกสาวเขา มึงคิดอะไรอยู่วะ” กดเสียงต่ำในลำคอเพื่อให้ได้ยินกันแค่สองคน

“กูไม่ได้คิดอะไร แล้วถ้ามึงจะมีสมองสักหน่อยก็ควรจะพิจารณาสักนิด ว่าถ้าจะทำเรื่องพรรค์นั้นเขาจะทำในเขตวัดไหม?”

ปลายเท้าของเขาชนกับของดลธีพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนลมหายใจพ่นใส่กัน 

“มึงนี่มัน!”

ดลธีสบถออกมาเพียงเท่านั้นแล้วเลียริมฝีปากแห้งผากของตัวเอง พยายามไม่หัวเสียเพื่อทำลายบรรยากาศให้ยิ่งอึมครึมมากไปกว่านี้

“แล้วทำไมต้องไปแอบคุยกันในที่ลับตาแล้วก็มืดแบบนั้นด้วยวะ ถ้ามีคนเห็นแล้วไม่ได้แค่เดินออกมาเงียบ ๆ อย่างกู อะไรจะเกิดขึ้น คิดบ้างไหม”

“ขอโทษที่คิดน้อยไปหน่อย ตรงนั้นก็ไม่ถือว่าลับตาอะไรเป็นที่โล่งด้วยซ้ำ อีกอย่างกูก็บริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก”

“คนบริสุทธิ์ใจ? แต่ให้กูดึงความสนใจจากคนอื่นไว้ว่างั้น”

“ก็ถ้ามึงจะสังเกตสักนิด จะรู้ว่าทำไมกูถึงต้องทำแบบนั้น ตั้งแต่มาถึงนอกจากในศาลาเปรมยุดาก็แทบไม่ออกมาพบเจอใครเลย และไม่เห็นว่าจะมีใครคอยดูแลเธอด้วยซ้ำ แล้วมึงคิดว่าคนแบบนี้จะให้คนที่ไม่ได้เจอกันทุกวันอย่างเราเข้าไปคุยด้วยไหม”

ค่อย ๆ ไตร่ตรองทบทวนตามคำพูดของการันต์ ทำให้เขาลดความตึงเครียดลงก็เป็นอย่างนั้นจริง เธอแทบจะเก็บตัวพูดอย่างนี้เลยก็ได้ ถามคำตอบคำ เพื่อนพ้องก็มีไม่กี่คนเห็นมาทักทายแล้วก็จากไป ซึ่งผิดไปจากวัยรุ่นคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกันมาก

“อืม กูเข้าใจแล้ว แต่ถึงจะเป็นอย่างที่มึงว่า...ปากคนน่ากลัวกว่าอะไรนะเว้ย มึงเป็นผู้ชายแล้วก็เป็นคนที่อื่นถูกนินทาพอกลับไปก็ไม่ต้องรับรู้อะไร แต่น้องสิกูเป็นห่วงถึงได้โมโห ขอโทษด้วยแล้วกัน” เมื่อรู้ตัวว่าเอาอารมณ์ขึ้นนำก็ไม่ลืมที่จะขอโทษในความหุนหันพลันแล่นของตัวเอง

ไม่ผิด! ปากคนน่ากลัวที่สุด สามารถทำลายคนได้มานักต่อนัก ข้อนี้จดจำอยู่ในสมองเขามาเนิ่นนาน 

แต่แล้วทำไมครั้งนี้ถึงหลงลืมมันไปเสียสิ้น เพียงแค่เห็นดวงตาอ้างว้างคู่นั้นก็ทำให้คนที่ยึดหลักเหตุผลมาตลอดกลับไม่สนใจมันไปแล้ว

แม้การันต์จะกลับไปนานแล้วแต่เปรมยุดาก็ไม่ได้จากไปไหน ไออุ่นจากอ้อมกอดของคนตัวใหญ่ยังอบอวลอยู่รอบกาย นอกจากพ่อแล้วเธอไม่เคยให้ใครใกล้ชิดขนาดนี้!

“ป้าก็ว่าเอ็งหายไปไหนมาอยู่ตรงนี้นี่เอง เข้าไปข้างในหน่อยท่านกำนันกับพ่อทิมมาไหว้ศพพ่อกับแม่เอ็งแหนะ ออกมาต้อนรับเขาหน่อย”

ยังไม่ทันอยู่กับความอุ่นใจได้นาน ความกังวลก็มาทำให้กลัดกลุ้มอีกแล้ว นี่มันเวลาไหนทำไมสองพ่อลูกถึงคิดจะมาไหว้พ่อกับแม่ตอนนี้กัน!

วินาทีแรกเมื่อก้าวเข้ามายังพื้นที่ของศาลาวัด เปรมยุดาก็รู้สึกอึดอัดกับสายตาของสองพ่อลูกนี้มาก กำนันเทพเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ไม่ว่าใครก็ต่างอยากจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในวงล้อมและเป็นคนของเขาแต่ไม่ใช่ครอบครัวของเธอ

เมื่อสองปีก่อนบังเอิญได้ไปทัศนศึกษาในตัวเมืองแล้วเจอกับทิมลูกชายของกำนันเทพเข้า หลังจากนั้นมาฝ่ายชายก็แวะเวียนมายังหมู่บ้านกลางน้ำด้วยเหตุผลใดเธอย่อมรู้ดี

ตอนนั้นเธออายุได้เพียงสิบหกปีหากนับแล้วก็เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น ไม่เคยเอาเรื่องเพศตรงข้ามเข้ามาในหัวสมอง

อีกประการหนึ่งพ่อและแม่ก็ไม่เห็นด้วยแม้ว่าญาติผู้พี่คนอื่น ๆ จะพูดว่าเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่น แต่สำหรับพวกท่านและเธอกลับไม่คิดอย่างนั้น ที่สำคัญเธอไม่ได้ชอบทิมและไม่คิดจะชอบเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

“น้องเปรม”

ทิมเอ่ยทักหญิงสาวเฝ้าหมายปองเอาไว้นานด้วยรอยยิ้มกว้าง ไม่คิดสักนิดว่านี่เป็นงานศพเป็นวันที่เปรมยุดาเสียใจ ควรจะแสดงความเสียใจและวางตัวให้น่าเชื่อถือมากกว่า ทั้งที่เขาก็อายุยี่สิบกว่ามีการศึกษาที่ดีน่าจะรู้ข้อนี้ดีแต่กลับไม่นำมาใช้

“ลุงเสียใจด้วยนะหนูเปรม ติดธุระต่างจังหวัดหลายวันพอเสร็จแล้วก็รีบมาเลย ตาทิมก็ร้อนใจอยากมาดูแลหนูตั้งแต่วันแรกนั่นแหละ มา ๆ นั่งลงคุยกันหน่อย”

กำนันเทพเห็นสีหน้าเด็กสาวแล้วจึงเป็นฝ่ายบอกเหตุผลที่มาในเวลานี้ ตั้งแต่ครั้งแรกได้เจอกับเปรมยุดาก็รู้แล้วว่าเป็นเด็กมีความคิดรู้จักวางตัวมากกว่าคนก่อน ๆ ซึ่งลูกชายพาเข้ามาในบ้าน ฉะนั้นเธอจึงเหมาะที่สุดหากจะคบกับลูกชาย 

นางจันเมื่อเห็นว่าหลานสาวยังคงยืนอยู่ที่เดิมหลังจากรับไหว้แขกคนสำคัญแล้ว จึงดันหลังให้เปรมยุดานั่งเก้าอี้อีกตัวถัดจากทิมส่วนนางนั้นก็นั่งถัดจากหลานสาวอีกตัว

“แค่พ่อกำนันมีน้ำใจมาลาไอ้รงค์กับเมียมันก็ถือว่าเป็นเกียรติกับครอบครัวมันแล้วจ้ะ ฉันกับยัยเปรมก็เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง หากว่าต้อนรับไม่ดีก็ขอโทษด้วย”

“ไม่เป็นไรขาดเหลืออะไรก็บอก ฉันยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มที่”

“มะ...”

“ขอบคุณจ้ะพ่อกำนัน ฉันไม่รู้จะขอบคุณยังไง”

นางจันโพล่งออกมาก่อนที่เปรมยุดาจะปฏิเสธความช่วยเหลือจากกำนันเทพ

“น้องเปรมไม่ต้องคิดมากนะครับ พี่กับพ่อยินดีช่วยครอบครัวน้องเปรมทุกอย่างเลย”

“พ่อทิมเป็นคนดีสมกับเป็นลูกชายพ่อกำนัน มีน้ำใจกับชาวบ้านอย่างเรา แบบนี้อนาคตต้องเป็นตัวอย่างที่ดีเหมือนกำนันแน่ ๆ ว่าไหมจ๊ะ”

“ตั้งใจไว้อย่างนั้นอยู่แล้ว วันข้างหน้าเจ้าทิมต้องเข้ามาช่วยเหลือฉันและดูแลชาวบ้านไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว”

“ใช่ไหมล่ะ ดีใจที่จะมีคนรุ่นใหม่เข้ามาพัฒนาตำบลของเราให้เจริญขึ้น”

ยิ่งฟังก็ยิ่งอยากจะพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ ไหนล่ะความตั้งใจจะมาเคารพศพพ่อและแม่ นอกจากยกยอเอาความดีเข้าตัวเองก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย

ส่วนป้าก็เหลือเกินไม่รู้จะดีใจอะไรนักหนากับแค่คำพูดไม่กี่คำจากสองพ่อลูก หากไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตนมีหรือจะเห็นพวกเขาในงานของใครน่ะ!

เปรมยุดาได้แค่คิดและเก็บความอัดอั้นเอาไว้อยู่ในใจ เธอไม่ใช่คนชอบพูดและยิ่งไม่ปริปากหากจะทำให้ตัวเองตกไปอยู่ภายใต้อำนาจของใครจนหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ หากไม่ใช่เพราะป้าจันเป็นญาติผู้ใหญ่แล้วยังให้ความช่วยเหลือแล้วละก็คงลุกออกไปจากตรงนี้นานแล้ว

กำนันเทพและลูกชายอยู่ต่ออีกไม่นานก็ขอลากลับ แต่ก่อนจะไปยังบอกกับนางจันว่าในวันพรุ่งนี้จะเป็นเจ้าภาพให้กับครอบครัวเปรมยุดา

พอได้ยินอย่างนั้นผู้เป็นป้าก็ไม่รีรอจะรับความช่วยจากพวกเขาทันควัน ถือว่าได้ลดค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นลง แม้ว่าจะได้รับค่าตอบแทนมาจากคู่กรณีแล้วส่วนหนึ่ง แต่นางจันก็ยังคิดว่าเงินจำนวนนั้นยังต้องเอาไปใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ดังนั้นเมื่อมีคนมาแบ่งเบาภาระก็ถือว่าดีไม่ใช่หรือ

“ต่อไปเวลาเจอกำนันหรือพ่อทิมเอ็งก็ทำหน้าให้มันดีกว่านี้หน่อย ต่อไปจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ มีคนคอยดูแลอย่างสองพ่อลูกนั่นถือว่าเอ็งโชคดีแล้ว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ตอนพิเศษ 4

    การันต์ดีดตัวจากเก้าอี้ตัวยาวเร่งรุดไปหยุดตรงหน้าคุณหมออย่างรวดเร็ว “ภรรยากับลูกผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ” ความตื่นเต้นระคนกังวลทำเสียงที่เอ่ยถามนายแพทย์ออกมาสั่นไหว “ยินดีกับคุณพ่อด้วย คุณแม่และ ‘ลูกชาย’ ปลอดภัยและแข็งแรงทั้งคู่ครับ อีกเดี๋ยวเราจะย้ายพวกเขาไปห้องพักฟื้น ถ้ามีอะไรต้องการเพิ่มก็แจ้งพยาบาลได้เลยครับ” นายแพทย์กล่าวเสียงละมุน เห็นสีหน้าของสามีคนไข้แล้วคงกระวนกระวายใจไม่น้อย “ขอบคุณครับ ขอบคุณมากจริง ๆ” การันต์ไม่อาจกลั้นความปรีติยินดีเอาไว้ได้ น้ำตาแห่งความดีใจหล่นออกมาอย่างไม่นึกอายพอได้ยินกับหูตัวเองแล้วว่าคนที่ตนเองรักสุดชีวิตทั้งสองปลอดภัย “กูบอกแล้ว สองคนนั้นเก่งจะตาย” ดลธีตบไหล่ปลอบเพื่อน “ต้องอยากเจอหน้าหลานจังเลยค่ะ งั้นขอไปรอหน้าห้องเด็กนะคะ” “ไปด้วย ผมกับต้องไปทางนู้นนะครับ” ขุนพลหันมาบอกคุณอาทั้งสองก่อนจะวิ่งตามต้องใจไป ดลธีมองกระทั่งภาพหลังหนุ่มสาวทั้งสองลับสายตาจึงหันกลับมาหาเพื่อนรักที่เช็ดน้ำตาตัวเองออกอย่างรวดเร็ว “ยินดีด้วย ต่อไปก็เป็นพ่อเต็มตัวแล้วนะ ดีที่ไม่ต้องไว้หนวดตั้งแต่ตอนนี้” คุณพ่อป้ายแดงหันมาทางเพื่อนยืนอยู่ข้างกัน ดวงตาแดง ๆ ของเขาจ้

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ตอนพิเศษ 3

    เดือนต่อมา...รถเมอร์เซเดสสีขาวของการันต์มุ่งหน้าไปยังหมูบ้านกลางน้ำอีกครั้ง ความตั้งใจของเขาในวันนี้ก็เพื่อจะพาคนรักนั่งข้างกันมีสีหน้าราบเรียบทว่าดวงตากลมโตมีแววสั่นไหวอย่างคนเป็นกังวล “อาจะพาหนูไปวัดแล้วกลับเลย ไม่ต้องกลัว” อุ้งมือใหญ่วางทาบมือเล็ก แม้แต่ตอนนี้ก็ยังรู้สึกได้ถึงความกังวลของเธอ ถึงจะผ่านไปแล้วหลายปี หากแต่ว่าความทรงจำของเปรมยุดาก็อยู่ที่นี่ไม่น้อย “ขอบคุณนะคะ” ยิ้มอ่อน ๆ พลางหันมาทางคุณอา สายตาอบอุ่นของเขาทำให้ใจว้าวุ่นตลอดทางผ่อนคลายลงไปมาก คราแรกที่รู้ว่าเขาจะพากลับมาไหว้พ่อกับแม่น้ำตาเธอนองเต็มหน้า คิดถึงพวกท่านจับหัวใจ ต่อให้ไม่ได้พบหน้ากันอีกแค่ได้ไหว้กระดูกคนเป็นลูกอย่างเธอก็ซาบซึ้งใจ“ไม่ต้องขอบคุณ อาตั้งใจจะมาพบพ่อกับแม่หนูอยู่แล้ว”เปรมยุดายิ้มกว้าง คนรักทำราวกับจะได้พบหน้ากัน...คงไม่ต่างจากเธอ!ทั้งสองใช้เวลาชั่วโมงเศษ ๆ ก็มาถึงที่หมาย ฝ่ายลูกสาวของผู้ลาลับหอบช่อดอกไม้สีสันสดใสกับผ้าหนึ่งผืนเดินนำเจ้าของเรือนกายภูมิฐานไปยังเจดีย์บรรจุอัฐิของพ่อและแม่ “หนูกลับมาหาพ่อกับแม่แล้วนะคะ” วางช่อดอกไม้ตรงฐานกว้าง เช็ดฝุ่นออกจากกรอบรูปที่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีใค

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ตอนพิเศษ 2

    กว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ก็ใช้เวลาไปหลายนาที ดีที่ไม่มีใครแซวหรือพูดอะไร จึงทำให้พวกเรากลับมาสนุกกันต่อ เวลา 00.41 น.“รอกันตรงนี้เรียกรถให้แล้ว” ดลธีบอกขุนพลและต้องใจหลังจากงานเลี้ยงจบลง เขาดูแลทั้งสองเปรียบเสมือนน้องนั่นก็เพราะเปรมยุดาได้กำชับไว้ก่อนที่เธอจะแยกไปกับเพื่อนเขาดีจริง ๆ เลยทั้งหลานทั้งเพื่อน!“ขอบคุณนะครับ” ขุนพลไหว้ผู้ใหญ่ใจดี มื้อนี้เจ้ามือหมดไปไม่น้อย “ไม่เป็นไร ต่อไปถ้ามีงานทำก็กลับมาเลี้ยงฉันบ้างก็แล้วกัน” ดลธีหันไปตอบเพื่อนหลานด้วยใบหน้าทะเล้น“ต้องคิดเป็นบุญคุณด้วยเหรอคะ?” คนที่แม้แต่จะทรงตัวก็ลำบากยังอุตส่าห์หันมาถามเสียงอ่อน “ต้อง! เงียบบ้างก็ได้” ขุนพลห้ามเพื่อนพลางประคองไหล่เล็กให้ยืนได้ตรงเสียก่อนจะปากดี ไม่ดูตัวเองบ้างเลย! ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหัว“แค่บอกว่าให้เลี้ยงคืน? เป็นบุญคุณเหรอ ถ้าบอกให้เอาเงินมาคืนก็ว่าไปอย่าง หรือเธอจะคืนฉันล่ะยัยขี้เมา” “ก็เอาบัญชีมาสิ เดี๋ยวโอนให้ตอนนี้เลย ชิ!” “มือถือ?”“เอาไป”“ต้อง!”“นายเงียบเลยขุน” จะว่าเหมือนเด็กก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ทว่าคนทั้งสองต่างไม่มีใครยอมกัน คนกลางอย่างขุนพลจึงได้แต่ยิ้มแห้งให้คุณอาขอ

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ตอนพิเศษ 1

    ปีสุดท้ายของการเป็นนักศึกษาของเปรมยุดาและเพื่อน ๆ ต่างก็ดีอกดีใจเมื่อเดินทางมาถึงจุดสำเร็จสาขาบัญชีรวมตัวถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึก เปรมยุดา ต้องใจและขุนพลฉีกยิ้มให้กับกล้อง เสียงกดชัตเตอร์รัวติดต่อกัน พร้อมกับช่างภาพยกนิ้วขึ้นโอเค ทุกคนก็ร้องเฮ คละเคล้าเสียงโห่ร้องตะโกนด้วยความดีใจต่างโอบกอดลากันด้วยน้ำตานองหน้า สี่ปีที่เรียนด้วยกันมาความผูกพันแน่นแฟ้นจนอดใจหายไม่ได้เมื่อต้องแยกจากเพื่อไปเติบโตใช้ชีวิตวัยทำงานไม่ว่าจะอย่างไร พวกเขาจะไม่มีวันลืมมิตรภาพที่ดีเหล่านี้เลย“เร็วนะว่าไหม? ไม่อยากจากพวกแกไปเลย”ต้องใจนั่งจับมือเปรมยุดา และมองเพื่อนสนิทอีกคนที่นั่งห่างออกไป เธอเห็นสายตาอาวรณ์ที่ขุนพลใช้มองเปรมยุดา ไม่ว่าจะครั้งแรกหรือกระทั่งตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิม แต่ก็คงทำได้แค่นั้นเพราะตอนนี้เพื่อนรักของเธอมีเจ้าของแล้ว และไม่ใช่ใครอื่นไกล เป็นคุณอาสุดหล่อที่กำลังถือช่อดอกไม่ช่อใหญ่เดินเคียงคู่มากับอิตาคุณอาขี้เก๊กนั่นเอง“เรายังเจอกันได้ แค่เรียนจบไม่ได้จากไปไหนไกลนี่น่า จริงไหมขุน” “ใช่ทำอย่างกับจะจากกันไปไหนไกลเว่อร์จริง ๆ เลยเธอเนี่ย”“โดนรุมอีกละ!”“เรียนจบแทนที่จะดีใจกลับทำหน้าบูด

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   หมายตามานานแล้ว (จบ)

    กายโชกไปด้วยเหงื่อทรุดลงทาบทับร่างเปลือยเปล่าหอบหายใจโยนป้อก⁓“อะ” เปรมยุดารู้สึกกึ่งกลางกายวูบโหวงเมื่อคุณอาถอดถอนตัวตนลำใหญ่ออกไปจากตัวเธอ การันต์หายใจหอบใบหน้าชื้นไปด้วยเหงื่อ ดึงผ้าห่มคลุมกายเปลือยเปล่าทั้งสองจนถึงอก “มีคำหนึ่งใช่ไหมที่อายังไม่ได้บอกหนู” เกลี่ยปอยผมปกใบหน้ารูปไข่เล่น “อะไรเหรอคะ” ตะแคงตัวโอบกอดกายใหญ่ ซุกหน้าเข้าซอกคอแกร่ง ทำให้คุณอาหัวเราะในลำคอพลอยให้เธอยิ้มตามไปด้วย“อารักหนูเปรม รักมาก รักเกินกว่าใคร ๆ ฉะนั้น...อย่าพูดว่าจะให้อามีคนอื่นหรือคิดว่าอาจะไปมีใคร เพราะแค่มีหนูเปรมคนเดียวก็พอแล้ว” “อาบอกว่ารักหนูเหรอคะ” แหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าคมคาย วางฝ่ามือบนใบหน้าเริ่มมีตอหนวดขึ้นบาง ๆ มิน่าเมื่อครู่ถึงได้รู้สึกระคาย “อารักหนูเปรม” ทาบฝ่ามือใหญ่บนหลังมือเล็ก ย้ำให้คนจ้องหน้าด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความสดใสสุขล้นฉายชัด เขาชอบเปรมยุดาเป็นแบบนี้มากกว่า ต้องโทษที่ตนไม่ชัดเจนตั้งแต่แรกจนทำให้เธอเข้าใจผิด“หนูก็รักอา รักมาก ๆ รักที่สุด รักกว่าใครในโลกเลย” ปีนขึ้นไปอยู่เหนือกายใหญ่ อกฟูบดเบียดหน้าอกเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของคนใต้ร่าง สอดแขนไปใต้ไหล่กว้างก่อนจะซุกหน้าลงหาควา

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   รักแค่คนเดียว NC

    “อื๊อ” ห้ามยังไงทันเมื่อปลายนิ้วก้านยาวไล้กลีบดอกไม้ผ่านเนื้อผ้า ซ้ำยังคลึงจนเธอสะท้านเฮือกสยิวเสียวซ่านต้องยกสะโพกขึ้นรับความดุดันทันที“หนูเปรมของอาแฉะเร็วเหมือนกันนะเนี่ย ‘อยาก’ เหมือนกันใช่ไหมเด็กน้อย”ลมร้อนพ่นผ่านซอกคอหอม กดเรียวปากร้อนแนบชิดผิวละมุน ดอมดมกลิ่นกายที่คุ้นเคย“อ๊าส์...” ครางกระเส่าเสียงหวิวเมื่อคุณอาสอดนิ้วเข้ามาในร่องคับแคบและมันตอบรับเขาอย่างดี ตอดรัดทักทายความแข็งแกร่งราวกับว่ารอคอยในสัมผัสเร่าร้อนนี้มานานเสียงครางผะผ่าวกระตุ้นข้อมือใหญ่สอดใส่ท่อนนิ้วเพิ่ม เขาเกร็งกระแทกเข้าใส่ดุดันจนเส้นเลือดรายล้อมข้อแขนขึ้นปูดบวม ดวงตาเต็มไปด้วยเพลิงพิศวาสมองเรือนร่างส่ายเร้า เขาถอนก้านนิ้วออกหลังจากทนความปรารถนากำลังเผาไหม้ตนเองไม่ไหว ต้องการให้ความอึดอัดเบื้องล่างเข้าไปแทนที่ท่อนนิ้วแกร่งของตัวเองชุดนักศึกษาถูกถอดออกด้วยชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเตียง ไม่นานกายเปลือยเปล่าสวยงามก็ปรากฏแก่สายตา ผิวเนียนละเอียดอมชมพูสวยกระแทกใจการันต์ “หนูเปรมของอาสวยเหลือเกิน” “อาอย่ามองนานนักได้ไหม”“มากกว่ามองก็ทำมาแล้ว”มุมปากหยักกระตุกให้กับเจ้าของมือที่ยกขึ้นปิดส่วนสวยงามเอาไว้ ทั้งขาเร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status