แชร์

รอยยิ้มที่ชวนใจสั่น

ผู้เขียน: นานิซัง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-05 15:19:25

“เปรมไม่ได้อยากให้ใครมาดูแลนี่ป้า”

“เอ็งจะทำอย่างตอนที่พ่อกับแม่เอ็งยังอยู่ไม่ได้ ฉันก็แค่คนแก่คนหนึ่งไม่รู้จะอยู่กับเอ็งได้อีกนานแค่ไหน คนอื่นต่างก็มีครอบครัวที่ต้องดูแล ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปจะอยู่ยาก เข้าใจหรือเปล่า”

เปรมยุดาจุกอยู่ในอกเมื่อได้ยินอย่างนั้น เข้าใจดีว่าตอนนี้ต่างก็ไม่มีใครต้องการเลี้ยงดูเธอเท่าไหร่นัก ที่ทำกันอยู่ก็เป็นเพราะว่ากันชาวบ้านนินทาว่าทอดทิ้งหลานตัวเองแค่นั้น

กลางสวนรีสอร์ต

ภายในห้องพักขนาดปานกลาง ร่างสูงใหญ่ภายใต้ชุดคลุมอาบน้ำผูกปมไว้ด้านข้าง เผยช่วงบนไล่ลงมาจนถึงแผงอกล่ำสันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นอย่างสุขภาพดี

การันต์นั่งดูงานจากเลขาส่งมาให้ตรวจทาน แม้ว่าจะไม่จำเป็นเพราะมีทีมงานคอยดูแลแต่ละขั้นตอนอยู่แล้ว หากแต่ด้วยเป็นคนไม่เคยปล่อยผ่านไม่ว่าจะงานเล็กน้อย นักลงทุนอย่างเขาก็ต้องมั่นใจว่าการย้ายเงินไปอยู่อีกที่มันจะคุ้มค่ากับที่จ่ายไป

ก๊อก ๆ 

“กูเข้าไปได้ไหม นอนหรือยัง”

ในยามวิกาลแล้วเป็นต่างถิ่นคงไม่มีใครมารบกวนเขาได้นอกจากดลธี การันต์ปิดไฟล์งานเอาไว้ที่เดิมแล้วหยัดกายขึ้นจากเก้าอี้ตัวยาวก้าวไปยังต้นเสียงมาทำลายความเงียบสงบของตน ชายหนุ่มดึงสลักกลอนประตูชั้นแรกก่อนจะหมุนลูกบิดเพื่อเปิดประตูให้เพื่อน

“มีอะไร”

ทันทีเมื่อเห็นหน้าผู้มาเยือนเสียงทุ้มต่ำเปล่งผ่านลำคอแผ่วเบา แต่ดูเหมือนว่าทางด้านดลธีจะไม่ใส่ใจน้ำเสียงไม่ต้อนรับแขกในยามนี้และสีหน้าราบเรียบผู้เป็นเจ้าของห้องสักเท่าไหร่ เขาแทรกตัวเข้ามาอยู่ในห้อง แล้วยังอนุญาตให้ตัวเองไปนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวใหญ่ซึ่งก่อนหน้าการันต์เป็นผู้ครอบครองมัน แล้วค่อยคิดจะตอบคำถามของเพื่อน

“นอนไม่หลับก็เลยมาหาเพื่อนคุย ทำอะไรอยู่เหรอ”

“ดูงาน” เมื่อถูกยึดที่นั่งไปแล้ว ก็เหลือแค่เตียงนอนเท่านั้นที่เขาสามารถใช้เป็นที่นั่งได้

“แค่นั้นนะเหรอ มีอะไรก็ว่ามา” เรื่องนอนไม่หลับเอามาเป็นข้ออ้างสำหรับมันไม่ได้หรอก มีอีกหลายวิธีที่คนอย่างดลธีจะทำให้ตัวเองหลับโดยไม่ต้องมีใครช่วย

“เฮ้อ!” ปิดคนอย่างการันต์ไม่ได้จริง ๆ หากว่าเป็นเวลาปกติสมองอันชาญฉลาดไม่เคยมีใครทำให้มันคล้อยตามได้ ยกเว้นเรื่องวันนี้ “เรื่องพี่รงค์กับพี่วี มึงคิดจะทำยังไงต่อไป”

“แล้วมึงคิดว่าตอนนี้เราทำอะไรได้บ้าง ถึงกูอยากจะเรียกร้องให้กับพวกเขามากแค่ไหน แต่เอกสารนั่นก็ถูกเซ็นยินยอมไม่เอาความจากพี่สาวพี่รงค์ไปแล้ว ถ้าจะรื้อคดีอะไรจะตามมามึงก็น่าจะรู้ แล้วคิดว่าใครจะเดือดร้อนที่สุด” 

“เปรมยุดา”

“ใช่ กูสามารถทำให้ฝ่ายนั้นยอมรับทุกข้อกล่าวหาและเอาเข้าคุกในข้อหาขับรถโดยประมาณจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตได้ แต่ทำไปแล้วจะได้อะไรนอกจากพี่รงค์จะไม่ฟื้นกลับมา ยังจะทำให้พี่สาวของเขาเดือดร้อนด้วย ไหนจะเปรมยุดาอีกเธอยังต้องใช้ชีวิตต่อไป”

“ก็จริงคิดว่าพี่รงค์ก็คงจะคิดย่างมึง พี่แกคงไม่อยากทิ้งความเดือดร้อนไว้ให้คนข้างหลังแน่ ทำไมคนดี ๆ ถึงได้จากไปเร็วนักวะ กูไม่เข้าใจ”

“.....”

การันต์ตอบคำถามเรื่องนี้ให้เพื่อนไม่ได้ เขาไม่ได้กำหนดดวงชะตาของใคร และยิ่งไม่รู้ว่าวันใดจะวนเวียนมาประจบพบกับตัวเอง สิ่งที่กระทำได้ในตอนนี้ก็คือรักษาหัวใจดวงสุดท้ายของผู้ลาลับไว้เท่านั้น

ดลธีเมื่อได้ระบายความว้าวุ่นภายในจิตใจก็ไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของเพื่อนอีก ชายหนุ่มลุกขึ้นจากที่นั่งเดินมาหยุดยืนอยู่กลางห้อง

“เอาเถอะเรื่องนั้นเอาไว้เราค่อยคุยกันอีกที พรุ่งนี้ไปส่งพี่รงค์กับพี่วีเสร็จแล้วเราค่อยคิดว่าจะเอายังไงต่อ แล้วก็เข้านอนเลยนะมึง ไม่ใช่นั่งทำงานต่อคนนะไม่ใช่หุ่นยนต์”

“สั่งเหมือนเป็นเมีย”

“ถ้ากูเป็นผู้หญิงก็คงเอามึงเป็นผัว”

“ขุนลุกรีบไปนอนเลยไป”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ขนลุกอะไรวะหรือเป็นเพราะกูไม่ใช่สาวน้อยวัยเอาะ ๆ งั้นเหรอ”

“ไอ้ดล มึงจะไปนอนดี ๆ หรือจะหลับกลางห้องนี้แทน”

คนถูกขู่หัวเราะร่วนเมื่อได้แกล้งเพื่อน การันต์ไม่ใช่พวกชอบไม้ป่าเดียวกันและไม่ได้มองเรื่องลักเพศเป็นเรื่องแปลก เพียงแต่เป็นประเภทชอบของสวย ๆ งาม ๆ แล้วถ้ายิ่งเป็นเอาะ ๆ ด้วยมันยอมถวายชีวิตให้เลย

การันต์พอพ้นหลังของเพื่อนไปก็ทิ้งตัวราบกับที่นอน นึกย้อนกลับไปเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตนเองและเปรมยุดา ทบทวนความรู้สึกลึก ๆ ของตนเองดูว่าแท้จริงแล้วเป็นเพราะสงสารลูกสาวผู้มีพระคุณ หรือเพราะมีอย่างอื่นแอบแฝงกันแน่!

เช้าวันต่อมา...

เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้อยู่กับพ่อและแม่ เปรมยุดาไล้ฝ่ามือกับโลงทั้งสองอาลัยอาวรณ์เมื่อจำต้องตัดใจจากพวกท่านไปชั่วนิรันดร์

ห่างออกมาด้านนอกศาลา ดวงตาเฉี่ยวคมภายใต้กรอบแว่นสีดำทอดมองเข้าไปด้านในการันต์เห็นทุกการเคลื่อนไหวของเปรมยุดา และเป็นดั่งเครื่องจักรกลขนาดใหญ่บีบลงกลางใจจนเจ็บจี้ด

‘เด็กน้อยเข้มแข็งไว้นะ’

ชายหนุ่มทำได้เพียงปลอบประโลมเธอผ่านสายลม เพราะหากกระทำอย่างเช่นเมื่อคืนเห็นจะไม่ดีแน่

“สงสารน้องว่ะ”

ดลธีเอ่ยต่อจากนั้น ทั้งสองเดินทางจากรีสอร์ตมาถึงวันในช่วงเช้า เนื่องจากเป็นเพียงคนนอกจึงไม่ได้เข้าไปช่วยในส่วนงานด้านใน

“อืม” การันต์ตอบรับในลำคอก่อนจะพากันย้ายไปนั่งในเต็นท์จัดเตรียมไว้ให้ผู้ที่มาร่วมส่งดวงวิญญาณของบุคคลทั้งสองเป็นครั้งสุดท้าย

เวลาล่วงเลยมาจนถึงช่วงบ่ายเป็นพิธีสุดท้ายที่ผู้มาร่วมงานจะต้องเอาดอกไม้จันทน์ไปวางบนเมรุหน้าโลงบรรจุร่างไร้วิญญาณ เปรมยุดาถือถาดดอกไม้จันทน์ยืนอยู่หน้าบันไดทางขึ้น หนึ่งคนเดินผ่านก็แสดงความเสียใจและให้กำลังใจต่าง ๆ นานา เธอกล่าวขอบคุณเสียงแผ่วบางครั้งก็ตอบรับด้วยการก้มหน้ารับคำ 

กระทั่งมาถึงการันต์และดลธี ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบดอกไม้สีขาวในถาดได้มีโอกาสสำรวจใบหน้าของเปรมยุดาในระยะใกล้ เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นเต็มดวงหน้าและไรผม อากาศร้อนแม้จะอยู่ในร่มก็ยังมีไอความร้อนเข้ามากระทบผิวบอบบางจนแดง

“เช็ดเหงื่อออกหน่อยดื่มน้ำเยอะๆ อย่าให้ตัวเองป่วย”

การันต์ตั้งใจเอ่ยให้พอได้ยินแค่สองคนแต่นั่นก็ยังควบคุมระดับเสียงได้ไม่ดีพอ

ดลธียืนห่างหนึ่งช่วงแขนจึงได้ยิน เขารีบหันหลังดูว่าคนถัดไปจะได้ยินเหมือนตนเองไหม ปรากฏว่าพวกเขาไม่ได้มองมาทางพวกตนและยังคุยกันตามปกติจึงพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ

‘ระวังหน่อยเพื่อนกูเกร็งไปหมดแล้วเนี่ย’

เปรมยุดาเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงนั้น เพราะเอาแต่ก้มจึงไม่ได้สังเกตว่าใครเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้าง แขนข้างซ้ายประคองถาดเอาไว้แล้วยกอีกข้างขึ้นใช้หลังมือปาดความชื้นออกจากขมับลวก ๆ ส่วนน้ำตรงนี้ไม่มีจึงไม่ได้ทำอย่างที่คนตัวโตบอก ทำได้เพียงกลืนน้ำลายแก้กระหาย

การันต์ยกมุมปากขึ้นเพื่อให้เห็นว่ากำลังชมเธออยู่ เพียงเท่านั้นหัวใจดวงน้อยก็เต้นแรงจนต้องเกร็งอุ้งมือยึดถาดใบใหญ่เอาไว้ชิดลำตัว

‘แค่เขายิ้มนิดเดียวถึงกับทำให้แกประหม่าขนาดนี้เลยเหรอ’

เปรมยุดาถอนสายตากลับมายังจุดเดิมเมื่อร่างสูงใหญ่ก้าวพ้นขั้นที่สองของบันได 

ทว่าก็เพียงชั่วครู่ต้องถอดถอนหายใจออกมาอย่างแรง

“ให้พี่ช่วยนะครับน้องเปรมคงเหนื่อยแย่แล้ว”

ทิมถือวิสาสะเอาถาดในมือของเปรมยุดาไปถือเสียเอง ชายหนุ่มยิ้มกว้างเมื่อหญิงสาวหันหน้ามามอง

“เอาถาดให้เปรมเถอะค่ะ แบบนี้จะดูไม่ดี” ยื่นมือเพื่อขอสิ่งที่เขากอดไว้แน่น ไม่ชอบเลยที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใคร

“มีอะไรไม่ดีล่ะครับ ยังไงเราก็จะเป็นทองแผ่นเดียวกันอยู่แล้ว”

ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งทำให้เปรมยุดาเส้นสมองเต้นตุบ ๆ เธอไม่เคยรับปากสองพ่อลูกเลยสักครั้งแต่พวกเขาก็ยังคอยเข้ามาทำตัวชิดใกล้อยู่เรื่อย ต้องโทษคนเป็นป้าที่เอื้อให้กำนันและลูกชายมีความคิดเรื่องทองแผ่นเดียวกันอะไรนี่อยู่

“เปรมไม่เคยตอบตกลงอะไรกับคุณเลย อีกอย่างพ่อกับแม่ยังไม่ทันได้เผาเรื่องพวกนั้นเปรมไม่คิดตอนนี้หรอกค่ะ” ถือว่าเธอใจเย็นมากแล้ว พวกเขาคิดแต่จะใช้อำนาจของตัวเองบังคับให้ผู้อื่นยอมจำนนแต่ไม่ใช่สำหรับเธอแน่

ทิมหน้าตึงขึ้นมาเมื่อถูกปฏิเสธ หากแต่เขาถือคติที่ว่าตื๊อเท่านั้นถึงจะได้มาซึ่งสิ่งหมายปอง แล้วยังมีคนคอยหนุนหลังต่อให้เปรมยุดาบอกว่าไม่ยอมก็ใช่ว่าจะทำได้ ในเมื่อป้าของเธอได้สัญญากับพ่อเขาไว้แล้ว

“ไม่เป็นไรพี่รอจนกว่าเปรมจะตกลงนั่นและ”

“....” เธอเลือกที่จะเงียบไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องพวกนั้นอีก ต่อให้บอกว่าไม่ยังไงก็คงไม่ฟังอยู่ดี ก็เพราะปักใจเชื่อไปแล้วว่ายังไงก็ต้องเป็นไปตามที่ฝ่ายเขาต้องการ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ตอนพิเศษ 4

    การันต์ดีดตัวจากเก้าอี้ตัวยาวเร่งรุดไปหยุดตรงหน้าคุณหมออย่างรวดเร็ว “ภรรยากับลูกผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ” ความตื่นเต้นระคนกังวลทำเสียงที่เอ่ยถามนายแพทย์ออกมาสั่นไหว “ยินดีกับคุณพ่อด้วย คุณแม่และ ‘ลูกชาย’ ปลอดภัยและแข็งแรงทั้งคู่ครับ อีกเดี๋ยวเราจะย้ายพวกเขาไปห้องพักฟื้น ถ้ามีอะไรต้องการเพิ่มก็แจ้งพยาบาลได้เลยครับ” นายแพทย์กล่าวเสียงละมุน เห็นสีหน้าของสามีคนไข้แล้วคงกระวนกระวายใจไม่น้อย “ขอบคุณครับ ขอบคุณมากจริง ๆ” การันต์ไม่อาจกลั้นความปรีติยินดีเอาไว้ได้ น้ำตาแห่งความดีใจหล่นออกมาอย่างไม่นึกอายพอได้ยินกับหูตัวเองแล้วว่าคนที่ตนเองรักสุดชีวิตทั้งสองปลอดภัย “กูบอกแล้ว สองคนนั้นเก่งจะตาย” ดลธีตบไหล่ปลอบเพื่อน “ต้องอยากเจอหน้าหลานจังเลยค่ะ งั้นขอไปรอหน้าห้องเด็กนะคะ” “ไปด้วย ผมกับต้องไปทางนู้นนะครับ” ขุนพลหันมาบอกคุณอาทั้งสองก่อนจะวิ่งตามต้องใจไป ดลธีมองกระทั่งภาพหลังหนุ่มสาวทั้งสองลับสายตาจึงหันกลับมาหาเพื่อนรักที่เช็ดน้ำตาตัวเองออกอย่างรวดเร็ว “ยินดีด้วย ต่อไปก็เป็นพ่อเต็มตัวแล้วนะ ดีที่ไม่ต้องไว้หนวดตั้งแต่ตอนนี้” คุณพ่อป้ายแดงหันมาทางเพื่อนยืนอยู่ข้างกัน ดวงตาแดง ๆ ของเขาจ้

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ตอนพิเศษ 3

    เดือนต่อมา...รถเมอร์เซเดสสีขาวของการันต์มุ่งหน้าไปยังหมูบ้านกลางน้ำอีกครั้ง ความตั้งใจของเขาในวันนี้ก็เพื่อจะพาคนรักนั่งข้างกันมีสีหน้าราบเรียบทว่าดวงตากลมโตมีแววสั่นไหวอย่างคนเป็นกังวล “อาจะพาหนูไปวัดแล้วกลับเลย ไม่ต้องกลัว” อุ้งมือใหญ่วางทาบมือเล็ก แม้แต่ตอนนี้ก็ยังรู้สึกได้ถึงความกังวลของเธอ ถึงจะผ่านไปแล้วหลายปี หากแต่ว่าความทรงจำของเปรมยุดาก็อยู่ที่นี่ไม่น้อย “ขอบคุณนะคะ” ยิ้มอ่อน ๆ พลางหันมาทางคุณอา สายตาอบอุ่นของเขาทำให้ใจว้าวุ่นตลอดทางผ่อนคลายลงไปมาก คราแรกที่รู้ว่าเขาจะพากลับมาไหว้พ่อกับแม่น้ำตาเธอนองเต็มหน้า คิดถึงพวกท่านจับหัวใจ ต่อให้ไม่ได้พบหน้ากันอีกแค่ได้ไหว้กระดูกคนเป็นลูกอย่างเธอก็ซาบซึ้งใจ“ไม่ต้องขอบคุณ อาตั้งใจจะมาพบพ่อกับแม่หนูอยู่แล้ว”เปรมยุดายิ้มกว้าง คนรักทำราวกับจะได้พบหน้ากัน...คงไม่ต่างจากเธอ!ทั้งสองใช้เวลาชั่วโมงเศษ ๆ ก็มาถึงที่หมาย ฝ่ายลูกสาวของผู้ลาลับหอบช่อดอกไม้สีสันสดใสกับผ้าหนึ่งผืนเดินนำเจ้าของเรือนกายภูมิฐานไปยังเจดีย์บรรจุอัฐิของพ่อและแม่ “หนูกลับมาหาพ่อกับแม่แล้วนะคะ” วางช่อดอกไม้ตรงฐานกว้าง เช็ดฝุ่นออกจากกรอบรูปที่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีใค

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ตอนพิเศษ 2

    กว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ก็ใช้เวลาไปหลายนาที ดีที่ไม่มีใครแซวหรือพูดอะไร จึงทำให้พวกเรากลับมาสนุกกันต่อ เวลา 00.41 น.“รอกันตรงนี้เรียกรถให้แล้ว” ดลธีบอกขุนพลและต้องใจหลังจากงานเลี้ยงจบลง เขาดูแลทั้งสองเปรียบเสมือนน้องนั่นก็เพราะเปรมยุดาได้กำชับไว้ก่อนที่เธอจะแยกไปกับเพื่อนเขาดีจริง ๆ เลยทั้งหลานทั้งเพื่อน!“ขอบคุณนะครับ” ขุนพลไหว้ผู้ใหญ่ใจดี มื้อนี้เจ้ามือหมดไปไม่น้อย “ไม่เป็นไร ต่อไปถ้ามีงานทำก็กลับมาเลี้ยงฉันบ้างก็แล้วกัน” ดลธีหันไปตอบเพื่อนหลานด้วยใบหน้าทะเล้น“ต้องคิดเป็นบุญคุณด้วยเหรอคะ?” คนที่แม้แต่จะทรงตัวก็ลำบากยังอุตส่าห์หันมาถามเสียงอ่อน “ต้อง! เงียบบ้างก็ได้” ขุนพลห้ามเพื่อนพลางประคองไหล่เล็กให้ยืนได้ตรงเสียก่อนจะปากดี ไม่ดูตัวเองบ้างเลย! ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหัว“แค่บอกว่าให้เลี้ยงคืน? เป็นบุญคุณเหรอ ถ้าบอกให้เอาเงินมาคืนก็ว่าไปอย่าง หรือเธอจะคืนฉันล่ะยัยขี้เมา” “ก็เอาบัญชีมาสิ เดี๋ยวโอนให้ตอนนี้เลย ชิ!” “มือถือ?”“เอาไป”“ต้อง!”“นายเงียบเลยขุน” จะว่าเหมือนเด็กก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ทว่าคนทั้งสองต่างไม่มีใครยอมกัน คนกลางอย่างขุนพลจึงได้แต่ยิ้มแห้งให้คุณอาขอ

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   ตอนพิเศษ 1

    ปีสุดท้ายของการเป็นนักศึกษาของเปรมยุดาและเพื่อน ๆ ต่างก็ดีอกดีใจเมื่อเดินทางมาถึงจุดสำเร็จสาขาบัญชีรวมตัวถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึก เปรมยุดา ต้องใจและขุนพลฉีกยิ้มให้กับกล้อง เสียงกดชัตเตอร์รัวติดต่อกัน พร้อมกับช่างภาพยกนิ้วขึ้นโอเค ทุกคนก็ร้องเฮ คละเคล้าเสียงโห่ร้องตะโกนด้วยความดีใจต่างโอบกอดลากันด้วยน้ำตานองหน้า สี่ปีที่เรียนด้วยกันมาความผูกพันแน่นแฟ้นจนอดใจหายไม่ได้เมื่อต้องแยกจากเพื่อไปเติบโตใช้ชีวิตวัยทำงานไม่ว่าจะอย่างไร พวกเขาจะไม่มีวันลืมมิตรภาพที่ดีเหล่านี้เลย“เร็วนะว่าไหม? ไม่อยากจากพวกแกไปเลย”ต้องใจนั่งจับมือเปรมยุดา และมองเพื่อนสนิทอีกคนที่นั่งห่างออกไป เธอเห็นสายตาอาวรณ์ที่ขุนพลใช้มองเปรมยุดา ไม่ว่าจะครั้งแรกหรือกระทั่งตอนนี้ก็ยังเป็นเช่นเดิม แต่ก็คงทำได้แค่นั้นเพราะตอนนี้เพื่อนรักของเธอมีเจ้าของแล้ว และไม่ใช่ใครอื่นไกล เป็นคุณอาสุดหล่อที่กำลังถือช่อดอกไม่ช่อใหญ่เดินเคียงคู่มากับอิตาคุณอาขี้เก๊กนั่นเอง“เรายังเจอกันได้ แค่เรียนจบไม่ได้จากไปไหนไกลนี่น่า จริงไหมขุน” “ใช่ทำอย่างกับจะจากกันไปไหนไกลเว่อร์จริง ๆ เลยเธอเนี่ย”“โดนรุมอีกละ!”“เรียนจบแทนที่จะดีใจกลับทำหน้าบูด

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   หมายตามานานแล้ว (จบ)

    กายโชกไปด้วยเหงื่อทรุดลงทาบทับร่างเปลือยเปล่าหอบหายใจโยนป้อก⁓“อะ” เปรมยุดารู้สึกกึ่งกลางกายวูบโหวงเมื่อคุณอาถอดถอนตัวตนลำใหญ่ออกไปจากตัวเธอ การันต์หายใจหอบใบหน้าชื้นไปด้วยเหงื่อ ดึงผ้าห่มคลุมกายเปลือยเปล่าทั้งสองจนถึงอก “มีคำหนึ่งใช่ไหมที่อายังไม่ได้บอกหนู” เกลี่ยปอยผมปกใบหน้ารูปไข่เล่น “อะไรเหรอคะ” ตะแคงตัวโอบกอดกายใหญ่ ซุกหน้าเข้าซอกคอแกร่ง ทำให้คุณอาหัวเราะในลำคอพลอยให้เธอยิ้มตามไปด้วย“อารักหนูเปรม รักมาก รักเกินกว่าใคร ๆ ฉะนั้น...อย่าพูดว่าจะให้อามีคนอื่นหรือคิดว่าอาจะไปมีใคร เพราะแค่มีหนูเปรมคนเดียวก็พอแล้ว” “อาบอกว่ารักหนูเหรอคะ” แหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าคมคาย วางฝ่ามือบนใบหน้าเริ่มมีตอหนวดขึ้นบาง ๆ มิน่าเมื่อครู่ถึงได้รู้สึกระคาย “อารักหนูเปรม” ทาบฝ่ามือใหญ่บนหลังมือเล็ก ย้ำให้คนจ้องหน้าด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความสดใสสุขล้นฉายชัด เขาชอบเปรมยุดาเป็นแบบนี้มากกว่า ต้องโทษที่ตนไม่ชัดเจนตั้งแต่แรกจนทำให้เธอเข้าใจผิด“หนูก็รักอา รักมาก ๆ รักที่สุด รักกว่าใครในโลกเลย” ปีนขึ้นไปอยู่เหนือกายใหญ่ อกฟูบดเบียดหน้าอกเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของคนใต้ร่าง สอดแขนไปใต้ไหล่กว้างก่อนจะซุกหน้าลงหาควา

  • เล่ห์รักสวาทคุณอา   รักแค่คนเดียว NC

    “อื๊อ” ห้ามยังไงทันเมื่อปลายนิ้วก้านยาวไล้กลีบดอกไม้ผ่านเนื้อผ้า ซ้ำยังคลึงจนเธอสะท้านเฮือกสยิวเสียวซ่านต้องยกสะโพกขึ้นรับความดุดันทันที“หนูเปรมของอาแฉะเร็วเหมือนกันนะเนี่ย ‘อยาก’ เหมือนกันใช่ไหมเด็กน้อย”ลมร้อนพ่นผ่านซอกคอหอม กดเรียวปากร้อนแนบชิดผิวละมุน ดอมดมกลิ่นกายที่คุ้นเคย“อ๊าส์...” ครางกระเส่าเสียงหวิวเมื่อคุณอาสอดนิ้วเข้ามาในร่องคับแคบและมันตอบรับเขาอย่างดี ตอดรัดทักทายความแข็งแกร่งราวกับว่ารอคอยในสัมผัสเร่าร้อนนี้มานานเสียงครางผะผ่าวกระตุ้นข้อมือใหญ่สอดใส่ท่อนนิ้วเพิ่ม เขาเกร็งกระแทกเข้าใส่ดุดันจนเส้นเลือดรายล้อมข้อแขนขึ้นปูดบวม ดวงตาเต็มไปด้วยเพลิงพิศวาสมองเรือนร่างส่ายเร้า เขาถอนก้านนิ้วออกหลังจากทนความปรารถนากำลังเผาไหม้ตนเองไม่ไหว ต้องการให้ความอึดอัดเบื้องล่างเข้าไปแทนที่ท่อนนิ้วแกร่งของตัวเองชุดนักศึกษาถูกถอดออกด้วยชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเตียง ไม่นานกายเปลือยเปล่าสวยงามก็ปรากฏแก่สายตา ผิวเนียนละเอียดอมชมพูสวยกระแทกใจการันต์ “หนูเปรมของอาสวยเหลือเกิน” “อาอย่ามองนานนักได้ไหม”“มากกว่ามองก็ทำมาแล้ว”มุมปากหยักกระตุกให้กับเจ้าของมือที่ยกขึ้นปิดส่วนสวยงามเอาไว้ ทั้งขาเร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status