แชร์

ตอนที่ 10

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-27 17:59:10

โฉมสครวญเดินหันหลังลงจากเขาหลังจากร่ำลาผู้คนเสร็จ

วันนี้นางแต่งตัวด้วยชุดรัดกุมเพื่อให้สะดวกต่อการเดินทาง หากแต่สีของอาภรณ์ก็มิเคยเป็นสีอื่นใดนางจากสีแดง

ไม่แดงสดก็แดงเลือดหมู มีเพียงแค่สีเหล่านี้ที่เยว่อันหนิงสวมใส่แล้วรู้สึกมีพลัง แม้จะเป็นตอนทำภารกิจ นางยังสวมใส่สีแดงไว้ด้านในและทับด้วยชุดคลุมสีดำด้านนอก

การเดินทางลงจากเขาแห่งนี้ค่อนข้างลำบาก คนในเท่านั้นถึงจะหลีกเลี่ยงกับดักที่หุบเขาไร้เงาทำเอาไว้ได้ แต่ก็มักจะมีสมาชิกบางคนเผลอเรอลืมจุดตั้งกับดักจนพลาดท่าถูกทำร้ายมาแล้วก็มีมากเช่นกัน

เยว่อันหนิงใช้วิชาตัวเบากระโดดไปตากิ่งก้านของต้นไม้จากกิ่งนี้ไปต้นนั้น จวบจนนางผ่านกับดักทุกด่านและลงเขาได้อย่างปลอดภัย

"เสียงฝีเท้าม้า?"

ครั้นลงจากเขามาได้แค่ครึ่งลี้ หูที่สามารถรับเสียงได้ไกลของเยว่อันหนิงได้ยินเสียงเท้าม้าห่างจากจุดที่นางอยู่ราว ๆ ครึ่งลี้

หญิงสาวจึงเร่งรุดเดินทางไปดักด้านหน้า แอบซุ่มอยู่หลังพุ่มไม้รกจึงเห็นขบวนม้าเร็วสี่ห้าตัว คนที่คุมบังเหียนบนหลังม้าเหล่านั้นคล้ายทหารหน่วยลาดตระเวนของสักกองทัพ ครั้นพอสายตาแหลมคมเห็นที่ห้อยเอวตัวอักษร 'หลาง' นางก็รู้ในทันทีว่าเป็นของกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่ยี่ซูเพิ่งเล่าให้นางฟัง

"เหตุใดทหารของกองทัพแดนประจิมถึงมาอยู่ทางทักษิณนี้ได้"

หว่างคิ้วสวยขมวดแทบจะไร้ช่องว่างขวางกั้น นางใช้สมองอันชาญฉลาดขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง

"คงมิใช่ว่ารู้ที่ตั้งหุบเขาไร้เงาหรอกนะ"

เยว่อันหนิงมองกลับหลังไปยังเขาลูกที่เพิ่งลงมา หัวใจนางสั่นไหวครู่หนึ่งหากแต่พอตั้งสติได้จึงกลับมาคิดทบทวนอีกครั้ง

ไม่กระมัง แม้ทหารกลุ่มนี้จะคล้ายมาลาดตระเวนแถวนี้ แต่นำคนมาเพียงแค่สี่ห้าคนหมายความว่ากองทัพยังไม่ปักใจเชื่อว่าหุบเขาไร้เงาตั้งอยู่ที่เขาลูกนี้

อีกอย่าง หากคนเหล่านี้มาเพราะหุบเขาไร้เงาของนางคงไม่เดินทางในเวลากลางวันเช่นนี้เป็นแน่

เมื่ออธิบายกับตนเองในใจเสร็จ ทหารม้าเหล่านั้นควบม้าไปไกลนางจนไร้เสียงฝีเท้าม้าแล้วเยว่อันหนิงจึงออกจากที่ซ่อน เร่งเดินทางมาอีกทางเพื่อเข้าสู่เมืองเทียนติ่งที่อยู่ห่างจากเขาลูกนี้ถึงห้าสิบลี้

อีกด้าน

ม้าเร็วสี่ห้านายควบม้าจากเมืองเทียนติ่งมายังที่ตั้งลับของกองทัพเขี้ยวหมาป่า พวกเขาคือกลุ่มเดียวกับที่เยว่อันหนิงพบเจอเมื่อครู่

"หยุด!"

เสียงทหารหนึ่งในห้าส่งเสียงห้ามม้าที่ตนคุมบังเหียนอยู่หยุดหน้าค่ายของกองทัพ ตามด้วยทหารที่เหลือค่อย ๆ ลงจากหลังม้าเดินเท้าเข้าไปยังกระโจมหนึ่งที่ตั้งอยู่ลึกเข้ามาสองหลัง

"จื่อเชว่มาถึงแล้วขอรับ"

เสียงทหารคนเดิมที่ถึงค่ายก่อนผู้อื่นดังขึ้นเพื่อรายงานตัวกับคนที่อยู่ในกระโจม

"เข้ามาได้ ท่านแม่ทัพน้อยรออยู่"

เสียงรองแม่ทัพซ่างฮ้วนตะโกนบอกผู้มาใหม่

"ได้ข่าวอันใดบ้าง"

ทันทีที่จื่อเชว่ศิษย์คนสนิทของซ่างฮ้วนที่เขาฝึกลับคมเองมากับมือเดินเข้ามา ผู้เป็นอาจารย์อย่างเขาจึงรีบไตร่ถาม

"ทางท่านเสนาบดีตุลาการมิได้มีความเคลื่อนไหวอันใด มีเพียงเรื่อง..."

จื่อเชว่เสียงขาดห้วง เขาใคร่ครวญว่าจะรายงานต่อดีหรือไม่

"มีเรื่องอันใดที่ทำให้เจ้าลำบากใจไม่กล้ารายงานต่อ"

ครั้งนี้เป็นเสียงของบุรุษผู้สง่างาม ใบหน้าเขาไร้ที่ติราวกับภาพวาดของเทพเซียนบนสรวงสวรรค์ คิ้วที่ดกหนาสีดำราวขนนกเรียงเส้นสวยงามรับกับจมูกที่สันคมกริบบ่งบอกว่าเป็นคนดื้อรั้นเอาแต่ใจไม่น้อย ริมฝีปากหยักลึกยามขยับเอ่ยหากมองแววตาเขาควบคู่ไปด้วยกันยามสนทนาเหมือนยืนอยู่ต่อหน้าจอมมารผู้เยือกเย็น

"คือว่า..."

จื่อเชว่รู้ดี หากเขารายงานเรื่องนี้ออกไปอีกคนจะต้องตอบสนองด้วยความเย็นชา และนั่นคือสิ่งที่ผู้น้อยอย่างเขาไม่อาจคาดเดาความคิดของคนผู้นี้ได้

"จื่อเชว่ เจ้าอย่ามัวแต่อ้ำอึ้ง หากช้าเพียงนิด ข้าก็มิอาจช่วยปกป้องเจ้าได้"

จื่อเชว่ตัวสั่นเทากับคำขู่ของอาจารย์ที่สอนกระบี่และกลยุทธทหารต่าง ๆ ให้เขา ในที่สุดก็ตัดสินใจรายงานต่อ

"ท่านแม่ทัพใหญ่เฉินให้ข้านำข่าวมาแจ้งแก่ท่านแม่ทัพน้อยล่วงหน้า อีกไม่กี่วันหลังจากนี้ ที่จวนสกุลเฉินจะมีงานมงคลขอรับ"

เส้นเสียงทหารกล้าสั่นเล็กน้อย

ทั้งกองทัพเขี้ยวหมาป่ารู้ดี คำว่า 'งานมงคล' หมายถึงอันใด และถือว่าเป็นคำต้องห้ามไม่ให้เอ่ยต่อหน้าแม่ทัพน้อยเฉินเจียนหลางผู้นี้

"งานมงคล หึ!"

หากแต่ครั้งนี้ผู้ที่เคยสร้างกฎไว้กลับไม่มีปฎิกิริยาใด ๆ กับสิ่งที่จื่อเชว่รายงาน ทำเอาทหารผู้น้อยเช่นเขาลอบมองซ่างฮ้วนเพื่อขอความช่วยเหลือให้ออกหน้าถามหรือพูดอันใดต่อจากประโยคสั้น ๆ ห้วน ๆ ของแม่ทัพน้อยเฉินเจียนหลางที

"เป็นบุตรีจวนใด"

หากแต่ยังไม่ทันมีผู้ใดต่อประโยคของเขา เฉินเจียนหลางก็เป็นฝ่ายชวนคุยต่อด้วยเสียงเรียบเฉยแทน

"ป...เป็นคุณหนู จ...จวนมู่ขอรับ"

พยายามข่มเสียงมิให้สั่นแต่จื่อเชว่ก็หวาดกลัวจิตใจคนตรงหน้าจนมิอาจควบคุมเส้นเสียงให้นิ่งได้ มือที่ประสานกันยามรายงานถึงกับสั่นจนยกค้างระดับอกไม่อยู่

"จวนสกุลมู่ บุตรีของเขาคือผู้ใด"

แววตาเย็นชาแสนลึกลับมิอาจคาดเดาความคิดเจ้าของแววตาคู่นี้ได้สบตาสหายสนิทหรือรองแม่ทัพอย่างซ่างฮ้วนทันที

"หากข้าจำมิผิด จวนสกุลมู่มีบุตรีเพียงแค่คนเดียวคือ มู่อานจิ่ว"

หึ สมแล้วที่เป็นมือเท้าให้กับเขา ขนาดเรื่องชื่อแซ่สตรีที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจทหารซ่างฮ้วนยังมีความรู้เลย

"เจ้าขันข้ารึ"

เพราะเติบโตมาด้วยกัน ร่ำเรียน กิน นอน ฝึกเพลงกระบี่ ตัวติดกันแทบจะสิบสองชั่วยาม สหายผู้นี้แทบจะไม่มีอารมณ์ขันจึงไม่แปลกเลยที่ซ่างฮ้วนจะตกใจกับอารมณ์ที่เฉินเจียนหลางแสดงออกเมื่อครู่

"เจ้าเดินทางมาเหนื่อย ๆ กลับไปพักก่อนเถอะ"

"ขอบคุณท่านแม่ทัพน้อย ผู้น้อยขอตัว"

จื่อเชว่ร่ำลาเสร็จก็เร่งออกจากกระโจมพร้อมถอนหายใจอย่างโล่งอก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 71

    เกร้ง!เพียงชั่วพริบตาที่นางคิดว่ากระบี่ในครั้งนี้คงปลิดชีพตนเป็นแน่จึงหลับตาลง หากแต่กลับเกิดเสียงคล้ายของมีคมกระทบกัน จากนั้นเอวบางของนางก็ถูกโอบรัดให้เข้าสู่อ้อมกอดที่แสนคุ้นเคยดวงตาสีสวยแสนอิดโรยฝืนลืมตาขึ้นมองเจ้าของอ้อมกอดนั้นใบหน้าคมคร้ามงดงามราวเทพเซียนประจักแก่สายตาเป็นเขาอีกแล้ว คนที่ช่วยเหลือนางยามคับขันเหตุใดถึงเป็นเขาอยู่ร่ำไปเปลือกตาบางฝืนต่อไม่ไหว ค่อย ๆ ปิดสนิทลงพร้อมเสียงเรียกที่ฟังไม่ชัดคำของแม่ทัพน้อยเฉิน"อันหนิง"หลังจากที่เฉินเจียนหลางหลบหนีจากนักฆ่าผู้นั้นสำเร็จเขาก็พาเยว่อันหนิงหลบมาอยู่ที่กระท่อมร้างในป่า"จื่อเอ๋อร์ ได้ยินข้าหรือไม่"ชายหนุ่มพยายามเรียกคนที่กึ่งหลับกึ่งมีสติเบา ๆ เพื่อให้นางตอบสนองเขามากที่สุด"เจ้าถูกพิษ"เฉินเจียยหลางจับชีพจรนางดูพบว่าลมปราณปั่นป่วน ริมฝีปากเริ่มม่วงคล้ำเพราะถูกพิษ"พ...พี่ รอ..ง"เสียงที่คนไม่ได้สติพึมพำออกมาเบามากขนาดคนอยู่ใกล้นางยังแทบจับใจความไม่ได้"กินยาถอนพิษก่อน"ขวดเล็กกะทัดรัดถูกหยิบออกมาพร้อมกับเทยาลูกกลอนออกมาสองเม็ดหย่อนเข้าไปในปากของเยว่อันหนิงเสียงไอกระท่อนกระแท่นดังขึ้นหลังจากนางฝืนกลืนยานั้นลงคอ จากนั้

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 70

    แม้คราแรกที่ไว้ชีวิตคนผู้นี้เพื่อตั้งใจใช้ร่างนี้เป็นหนูทดลองยาพิษของเขาแล้วหลอกถามเอาข้อมูลที่อยากได้มาแต่นึกไม่ถึงว่าคนของจวนเยว่ช่างกตัญญู พอรู้ว่าถูกพิษควบคุมจิตจึงรีบทำให้ลมปรานแตกซ่านจนความจำเสื่อมลืมเลือนสิ้นทุกอย่างในอดีตเยว่อินกวานเลือกที่จะอยู่เหมือนศพเดินได้ แต่ไม่ขอทำร้ายหรือหักหลังครอบครัวสวบ!เยว่อันหนิงที่ลอบฟังอยู่ด้านบนทนรับความจริงที่เจ็บปวดนี้ไม่ได้จึงเผลอขยับตัวจนเกิดเสียงนักฆ่าหุ่นเชิดของมู่ตงหยวนรวดเร็วดั่งสายฟ้าซัดอาวุธลับในมือใส่นางอย่างมิให้ตั้งตัวฉึก!เลือดสด ๆ หยดลงเป็นสายเยว่อันหนิงรีบซัดเข็มพิษลงไปในห้องนั้นโดยไม่สนใจจะดูผลงานว่าโดนผู้ใดบ้างก่อนจะหลบหนีไป"ใต้เท้า!"ภายในห้องหนังสือเกิดเสียงดังของหม่าเย่าขึ้นเข็มพิษเมื่อครู่แม่นยำราวจับวาง ปักเข้าร่างกายของมู่ตงหยวนจนกระอักเลือดข้นออกมา"นำขวดยาในห้องลับมาให้ข้า"หม่าเย่ารีบเปิดห้องลับที่ซ่อนอยู่หลังชั้นหนังสือ นำยาที่ว่าออกมาให้นายของเขาระงับพิษ"ไปจับตัวมาให้ได้! ข้าอยากเห็นว่ามันเป็นใคร!"มู่ตงหยวนสั่งการอย่างเลือดเย็นทั้งแววตาและน้ำเสียงนักฆ่าหุ่นเชิดรีบรับคำสั่งออกตามล่าโจรผู้นั้นทันทีอีกด้าน

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 69

    ประมือผ่านมาหลายวันแล้วที่เยว่อันหนิงพักรักษาตัวอยู่ที่จวนสกุลเฉิน ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการที่นางวางเอาไว้ เฉินเจียนหลางผู้นี้เป็นคนรักษาคำพูด ตอนนั้นเขาบอกจะตอบแทนน้ำใจที่นางช่วยชีวิต มาครั้งนี้เขาจึงให้ที่พักพิงนางโดยไม่ไตร่ถามถึงวันเวลาที่ต้องการจะอาศัยอยู่"แม่นางจวี๋ ข้าน้อยขอเข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะ"เสียงสาวใช้นามว่าเสี่ยวอวิ้นดังขึ้น"เข้ามาเถิด"ประตูห้องพักเปิดอ้ากว้างทันทีที่คนในห้องอนุญาตเสี่ยวอวิ้นสาวใช้คนใหม่ที่มู่อานจิ่วแอบฝากฝังผ่านพ่อบ้านเฉินถือสำรับอาหารเช้าเข้ามาให้เยว่อันหนิงตามปกติ"แม่นางจวี๋ทานอาหารเช้าก่อนเจ้าค่ะ"เยว่อันหนิงชะม้ายสายตามองอาหารที่ถูกวางไว้บนโต๊ะในแต่ละวันแต่ละมื้อ นางมักถูกคนในห้องครัวขุนจนอ้วนจะเป็นแม่หมูอยู่แล้ว"ขอบใจเจ้ามาก วันนี้เหตุใดข้าจึงไม่เห็นคุณชายน้อยของบ้าน"คุณชายน้อยที่ว่าคือเฉินเจียนหลาง เขาให้เยว่อันหนิงเรียกตนแบบนั้น"คุณชายน้อยออกไปกับนายท่านตั้งแต่เช้ามืดแล้วเจ้าค่ะ อ้อ บ่าวเกือบลืมไป"เสี่ยวอวิ้นรีบล้วงเอาของบางอย่างออกมาจากแขนเสื้อก่อนจะส่งให้สตรีงดงามตรงหน้า"ของคุณชายน้อยเจ้าหรือ"เสี่ยวอวิ้นพยักหน้าแทนคำตอบ สายตาของสาวใ

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 68

    "ข้าขอปรึกษากับท่านพ่อสักคำ พรุ่งนี้จะให้คำตอบคุณหนูได้หรือไม่""ได้ยินเช่นนี้อานจิ่วก็วางใจแล้วเจ้าค่ะ"มู่อานจิ่วคำนับรับอย่างอ่อนช้อย"คุณหนูยังมีเรื่องอันใดอีกหรือไม่"ครั้นในห้องเงียบลง มู่อานจิ่วเองก็สอดส่ายสายตาราวกำลังมองหาอะไรอยู่เงียบ ๆ แต่กลับไม่รอดพ้นสายตาของเฉินเจียนหลาง เขาจึงเอ่ยถามขึ้นอย่างตรงไปตรงมา"อานจิ่วเสียมารยาทแล้ว วันนี้มาขอร้องคุณชายด้วยมือเปล่า วันหน้าจักเตรียมของกำนัลมาตอบแทนนะเจ้าคะ"ทั้ง ๆ ที่เขายังไม่รับปากเรื่องยืมกำลังคน แต่อีกคนกลับพูดถึงเรื่องเตรียมของตอบแทนเสียแล้วแบบนี้เท่ากับว่ามัดมือชกเขามิใช่หรือพ่อลูกตระกูลนี้ร้ายกาจไม่แพ้กันจริง ๆเมื่อเอ่ยปากออกไปแล้วแต่อีกคนไม่ตอบกลับ มู่อานจิ่วจริงลุกขึ้นยืนเพื่อบอกลา"อานจิ่วแอบออกจากจวนมานานแล้วท่านพ่อท่านแม่คงเป็นห่วงแย่ ขอตัวลาคุณชายเฉินตรงนี้เลยนะเจ้าคะ""เดี๋ยวข้าให้ซ่างฮ้วนไปส่งท่านกลับจวน""ขอบคุณน้ำใจคุณชาย แต่อานจิ่วกลับเองดีกว่าเจ้าค่ะ"มู่อานจิ่วย่อตัวลงช้า ๆ เป็นการคำนับลาตามมารยาทของสตรีในห้องหอที่แสนงดงาม ก่อนจะเดินออกไปจากโถงรับรองคล้อยหลังสตรีงดงาม ซ่างฮ้วนที่แอบซ่อนตัวอยู่ตามคำสั่งของแม

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 67

    สตรีอ่อนหวานใช่ว่าไม่ร้ายโถงรับรอง จวนสกุลเฉินหลังจากป้อนยาให้เยว่อันหนิงเรียบร้อยแล้ว เฉินเจียนหลางก็ตรงมาที่โถงรับรองแขกเพื่อพบคนที่มาเยี่ยมเยือนอย่างกะทันหัน"เสียมารยาทแล้วที่ปล่อยคุณหนูมู่รอนาน"แม่ทัพน้อยเอ่ยขอโทษขอโพยตามมารยาททันทีที่มาถึง"มิกล้าเจ้าค่ะ เป็นอานจิ่วเองที่มาโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า"มู่อานจิ่วรีบกล่าวขออภัยอย่างมารยาทงาม"ไม่ทราบว่าคุณหนูมู่มาถึงจวนสกุลเฉินมีเรื่องอันใดหรือ"เฉินเจียนหลางนั่งลงบนตั่งไม้เนื้อดีพลางรินน้ำชาลงถ้วยยกดื่มพร้อมรอฟังธุระของอีกคน"คุณชายเฉินคงได้ยินข่าวของจวนมู่มาบ้างแล้ว"มู่อานจิ่วเกริ่นขึ้นนางเปลี่ยนสรรพนามเรียกคนตรงหน้าราวสนิทสนม หากแต่เฉินเจียนหลางกลับไม่ใส่ใจ เขาทำท่านึกคิดถึงคำบอกเล่ากึ่งถามนั้นครู่หนึ่งก่อนตอบ"เรื่องที่อยู่บนป้ายประกาศหรือ"เฉินเจียนหลางเดาสุ่มมั่วเพราะนอกจากเรื่องประกาศจับคนร้ายแล้วยังมีข่าวอันใดที่โด่งดังในเวลาเช่นนี้อีก"เดิมทีเรื่องนี้อานจิ่วเป็นสตรีไม่ควรยุ่ง ทว่าเห็นท่าทางหวาดวิตกของท่านพ่อแล้ว อานจิ่วมิอาจอยู่เฉยได้เจ้าค่ะ""หืม... ใต้เท้ามู่วิตกเรื่องอันใด หรือว่าของที่โจรผู้นั้นขโมยไปจะเป็นของสำคัญมาก เ

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 66

    "จวี๋จื่อขอบคุณความเมตตาของท่านแม่ทัพน้อย และต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ท่านเดือดร้อน”ทว่าเสียงที่กังวาลและเด็ดเดี่ยวของเฉินเจียนหลางที่เอ่ยกลับ ทำให้หัวใจดวงน้อยของเยว่อันหนิงหวั่นไหวขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้"ช่วยชีวิตเจ้า ข้ามิเรียกว่าเดือดร้อน"เหตุใดแววตาของเขาที่สบมองนางตอนพูดประโยคนั้นถึงได้ดูลึกซึ้งเพียงนี้“ตอนนี้เจ้าพักรักษาตัวอยู่ที่จวนของข้าให้สบายใจเถิด มิต้องกังวลเรื่องของคณะเซียงหย่งที่ร้องขอมา”“ร้องขอ? หัวหน้าใหญ่คณะร้องขออันใดมาหรือเจ้าคะ”เยว่อันหนิงรีบถามขึ้นด้วยความอยากรู้มิใช่ว่าทางนั้นเล่นจริงจังเกินไปจนเผลอทำอะไรเกินควรมาหรอกกระมัง“พี่ชายเจ้าเคยบอกไว้มิใช่หรือ ธรรมเนียมของคณะเซียงหย่งคือ หากสตรีนางใดเปิดผ้าคลุมหน้าให้ผู้ใดเห็น หมายถึงการที่นางฝากชีวิตไว้กับคนผู้นั้นแล้ว”เยว่อันหนิงนิ่งไปอย่างหาเสียงค้านไม่พบ นางไม่คิดว่าเรื่องราวจะพัวพันยุ่งเหยิงถึงเพียงนี้“หากเป็นเรื่องนี้ ท่านแม่ทัพน้อยมิต้องใส่ใจ เรื่องวันนั้นเป็นเพียง...”“ข้าเป็นถึงแม่ทัพน้อยแห่งเมืองเทียนติ่ง กล้าทำย่อมกล้ารับผลที่ตามมา”เยว่อันหนิงยังมิทันจะได้พูดความในใจออกไปหมดก็ถูกเฉินเจียนหลางผู้นี้กล่า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status