Share

ตอนที่ 1

ฉัวะ...

ฉึก...

เกร้ง!

เสียงคมกระบี่ทั้งสองดังเสียดหูผู้คนที่อยู่ในระแวกนั้น

บุรุษรูปงามสวมชุดทะมัดทะแมงกำลังซ้อมวิชากระบี่ที่ลานกว้างของจวนสกุลเยว่

"พี่ใหญ่ พี่รอง พวกท่านออกกระบี่เร็วเกินไปแล้ว ข้าตามไม่ทัน"

เสียงเจื้อยแจ้วของสตรีอายุแปดขวบเอ่ยค้อนพี่ใหญ่ทั้งสองของนาง

"หนิงเอ๋อร์? เจ้าแอบดูพวกข้าอีกแล้ว ระวังเถอะ ท่านพ่อรู้เข้าจะถูกลงโทษเอา"

เยว่ฉินจื่อบุตรคนโตของเยว่จิ้นกงตำหนิน้องเล็กสุดของตระกูล

"พี่ใหญ่พี่รองปกป้องข้าอยู่แล้ว ใช่หรือไม่เจ้าคะ"

เสียงเล็กช่างฉอเลาะเอาตัวรอดเก่งประหนึ่งหญิงสาวที่ผ่านพิธีปักปิ่นมาแล้ว

"แน่นอน หากพี่ใหญ่ไม่ยื่นมือช่วย ยังมีพี่รองผู้หล่อเหลาอยู่ทั้งคน"

"เย่ ๆ ข้ารักพี่รองที่สุดเลย"

ร่างน้อยรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดคุณชายรองเยว่อินกวานอยากออดอ้อน

ตัวนางเท่าเพียงเอวของเขา แต่ท่าทางช่างดูโตกว่าวัยเป็นอันมาก

"เพราะมีน้องรองให้ท้าย หนิงเอ๋อร์ของเราถึงได้ยิ่งโตยิ่งเหมือนบุรุษเช่นนี้"

ปากกล่าวตำหนิ ทว่าเยว่ฉินจื่อกลับก้าวเข้าไปลูบผมน้องเล็กเยว่อันหนิงอย่างเอ็นดู

"พี่ใหญ่ ท่ารำกระบี่เมื่อครู่คือกระเรียนเหินนภาใช่หรือไม่เจ้าคะ"

ทางสะดวกไร้เงาของบิดา เยว่อันหนิงจึงต้องรีบรวบรวมข้อมูลเก็บไว้ศึกษาลับ ๆ

"น้องเล็กความจำดียิ่ง กระเรียนเหินนภาพวกเราฝึกซ้อมกันนับครั้งได้เจ้ายังจำแม่นถึงเพียงนี้"

เยว่อินกวานกล่าวจบจึงนั่งยอง ๆ ลงพลางลูบผมน้องสาวอย่างเอ็นดูความเฉลียวฉลาดนี้ของนาง

เดิมทีเยว่อันหนิงเป็นเด็กค่อนข้างพิเศษ นางอยู่ในครรภ์มารดาเพียงแค่เจ็ดเดือนก็คลอดก่อนกำหนด ใคร ๆ ต่างมองว่าเด็กคนนี้ต้องเป็นคนขี้โรค ป่วยออด ๆ แอด ๆ เพราะอายุครรภ์ไม่ครบเฉกเช่นคนทั่วไป

แต่ทุกอย่างกลับกันหมด...

เพียงเก้าเดือนเยว่อันหนิงก็สามารถวิ่งได้คล่องแคล่วราวกับเด็กหนึ่งขวบขึ้น แถมยังสามารถพูดได้ชัดถ้อยชัดคำในเวลายังไม่ถึงสิบเดือนดี ลมปราณภายในยิ่งไม่ต้องพูดถึง นางมีมากกว่าสตรีทั่วไปที่โตกว่าถึงครึ่งส่วน

ชาวบ้านในละแวกนั้นต่างบอกว่าเยว่อันหนิงคือเด็กที่สวรรค์ประทานมาให้เยว่ฮูหยิน

หากแต่เรื่องเหนือธรรมชาติที่ไร้หลักฐานพิสูจน์ใครจะกล้ายอมรับ ทุกคนในตระกูลต่างมองว่าที่เยว่อันหนิงเก่งและฉลาดเพราะตัวนางใฝ่หาความรู้เข้าตัวเสียมากกว่า

เยว่อันหนิงเริ่มเรียน เขียน อ่าน ตั้งแต่ยังไม่สองขวบ ความรู้ทั่วไปก็เริ่มแตกฉาน เพียงแค่นางมักเก็บความฉลาดเหล่านี้เอาไว้เพราะไม่อยากถูกเด็กวัยเดียวกันมองว่านางแตกต่างจากพวกเขาจนไร้สหายคบหา

ครั้นอายุเจ็ดขวบก็เริ่มอยากลองจับกระบี่ของมีคม หากแต่ตอนนั้นเรี่ยวแรงเด็กหรือจะควงกระบี่เล่มใหญ่เช่นบุรุษตัวโตได้ เยว่อันหนิงจึงใช้เพียงแค่กิ่งไม้ร่ายรำกระบี่ตามพี่ใหญ่กับพี่รองของนาง

นานวันเข้าเยว่จิ้นกงทนพฤติกรรมของบุตรสาวคนเล็กที่ทำตัวราวเป็นบุรุษมากกว่าสตรีไม่ไหวจึงสั่งห้ามไม่ให้เยว่อันหนิงแอบมาฝึกกระบี่กับพี่ชายทั้งสอง

แต่มีหรือคนดื้อรั้นเช่นนางจะยอม เยว่อันหนิงจดจำท่วงท่าที่พี่ใหญ่กับพี่รองสอนให้แล้วแอบฝึกเองตามลำพัง หากวันไหนมีข่าวว่าพี่ชายทั้งสองซ้อมประลองดาบกันที่ลานแห่งนี้เยว่อันหนิงก็จะแอบมาดูและจดจำกระบวนท่าใหม่ ๆ ของพวกเขา เป็นเช่นนี้จนถึงแปดขวบ เยว่อันหนิงสะสมทั้งวิชาบุ๋นและบู๊มากกว่าสตรีวัยเดียวกันเสียอีก

"ข้าได้ข่าวว่าท่านพ่อให้เจ้าเย็บถุงหอมให้น้องสามมิใช่หรือ"

เยว่ฉินจื่อหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดกระบี่แล้วเก็บลงฝักพลางถามจี้ใจดำอีกคน

"พี่ใหญ่เจ้าคะ การเย็บถุงหอมจะทำอย่างลวก ๆ มิได้ หนิงเอ๋อร์จึงต้องออกมาทำหัวให้โล่งค่อยกลับไปปักต่อ โอ้ย!"

"เจ้านี่ต่อปากต่อคำเก่งที่หนึ่ง นับวันจะยิ่งเหมือนพี่รองเจ้าที่ชอบแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ไปแล้ว"

"อ้าว พี่ใหญ่พูดเช่นนี้ข้าเคืองนะขอรับ"

เสียงหัวเราะของทั้งสามดังลั่นเมื่อต่างคนต่างพูดจาหยอกล้อกันได้เข้าขาเสียเหลือเกิน

"มีคนมา!"

ทว่าเสียงหัวเราะนั้นกลับเงียบลงในเวลาต่อมาเมื่อเยว่ฉินจื่อได้ยินเสียงฝีเท้าผู้มาเยือนกำลังตรงมาทางนี้

"เช่นนั้นข้าไปซ่อนก่อนนะเจ้าคะ"

เยว่อันหนิงรีบวิ่งไปยังใต้ต้นไห่ถังและแอบซ่อนด้านหลังรูปปั้นกระต่ายพ่อลูกตัวโตเกือบห้าฉื่อ

ทันใดนั้นเจ้าของฝีเท้าก็ปรากฎขึ้น

"เป็นท่านนี่เอง" เยว่อินกวานเอ่ยอย่างโล่งใจ

"คาราวะคุณชายใหญ่ คุณชายรอง"

เฉินปู้เกาคนสนิทของแม่ทัพใหญ่เยว่จิ้นกงทำความเคารพคุณชายของสกุลเยว่

ด้านหลังเขามีเด็กหนุ่มวัยราว ๆ สิบสี่ปียืนรออยู่ไม่ไกล สายตาเฉียบคมของดรุณผู้นั้นผินมองเด็กน้อยที่แอบซ่อนอยู่ด้านหลังรูปปั้นกระต่าย

ทั้งคู่เผลอสบตากันในระยะไกล

"รองแม่ทัพเฉินมาที่จวนเยว่ด้วยเรื่องด่วนอันใดหรือ"

คุณชายใหญ่เยว่ฉินจื่อเอ่ยถามพลางครุ่นคิด

ในเวลาเช่นนี้เฉินปู้เกาต้องอยู่ข้างกายบิดาในกองทัพมิใช่หรือ เหตุใดเขาถึงได้มาปรากฎตัวที่นี่โดยที่ไร้เงาของบิดามาด้วย

"แม่ทัพใหญ่ให้ข้านำสิ่งนี้มาให้คุณชายใหญ่"

จดหมายฉบับหนึ่งถูกเฉินปู้เกายื่นให้

หลังจากรับมาอ่านแล้วจึงโคลงศีรษะเข้าใจการมาในครั้งนี้ของคนสนิทบิดา

"เช่นนั้นท่านตามข้ามา น้องรองเจ้าจัดการทางนี้ด้วย"

คำว่า 'จัดการทางนี้' ที่เยว่ฉินจื่อสั่งหมายถึงเจ้าน้องเล็กที่แสนซนที่แอบซ่อนอยู่

"เข้าใจแล้วพี่ใหญ่"

"เช่นนั้นข้าน้อยขอลาตรงนี้เลย"

เฉินปู้เกาค้อมศีรษะกล่าวลาเยว่อินกวานแล้วเดินตามหลังบุตรคนโตของเยว่จิ้นกงโดยมีบุตรชายของตนที่อยากมาเปิดหูเปิดตาจวนสกุลเยว่สักครั้งรั้งท้าย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 79

    "แม่นางเยว่มิได้คิดอันใดข้าพอทราบ แต่บุรุษหากปักใจรักแล้วยากจะตัดใจ"เยว่อันหนิงลอบมองใบหน้ารูปงามของแม่ทัพน้อยที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา"หากศิษย์พี่มาที่นี่ ฝากเจ้าหออี้ส่งข่าวว่าข้าต้องการพบ""ข้าน้อยทราบแล้ว""เช่นนั้นพวกเราขอตัว""เรื่องที่ฝากฝังไว้ ข้าจะรีบส่งข่าวอีกที""ขอบคุณเจ้าหออี้"เยว่อันหนิงส่งสัญญาณตาให้บุรุษเพียงคนเดียวในห้องเดินตามนางออกจากหอเริงรมย์ เฉินเจียนหลางว่าง่ายเขาเดินตามนางออกมาจากในนั้นเงียบ ๆ ราวคนลืมเอาปากมาด้วย"ท่านคงไม่ได้หึงหวงข้ากับศิษย์พี่ใหญ่ใช่หรือไม่"ครั้นออกมาจากหออี้เฉิงหลันแล้ว เยว่อันหนิงรู้สึกถึงความเงียบที่มีไอเย็นยะเยือกตามหลังมาเลยหยุดเท้าแล้วหันมาเผชิญหน้าถามคนที่เดินตามหลังมาติด ๆ"หากข้าบอกว่าหึงเล่า"คนที่ไม่เคยหวั่นไหวกับความรักหรือคำหวานถึงกับสะอึก หัวใจที่ไม่คิดจะหวั่นไหวกับเรื่องเช่นนี้กลับแกว่งแปลก ๆ จนต้องปั้นหน้าหันหลบตาไปอีกทาง"ข้ากับต้วนอี้เราเติบโตมาด้วยกัน ไม่เคยมีเรื่องชู้สาวในหัว""ถึงเจ้าจะคิด ข้าก็ไม่ยอม""ท่านหมายความเช่นไร""ตอนนี้เจ้าเป็นภรรยาข้าแล้ว ต่อให้หัวใจเจ้าจะอยู่กับผู้อื่นข้าก็ไม่ยอมปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด"วาจาหน

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 78

    หลังจากเข้ามาในห้องประจำที่อี้หลันจัดเจรียมไว้แล้ว เจ้าหออี้ก็พาเยว่อันหนิงปลีกออกมาอีกฝั่งของห้องสี่เหลี่ยมเพื่อไถ่ถามความเป็นมาในวันนี้"เหตุใดท่านถึงมากับแม่ทัพน้อยเฉินได้"การกระซิบถามไม่ได้อยู่นอกสายตาของเฉินเจียนหลางสักนิด หากแต่เขากลับทำเป็นไม่สนใจเพื่อไม่ให้สตรีสองนางอึดอัดเท่านั้น"เขารู้ตัวตนของข้าหมดแล้ว"อี้หลันถึงกับตกใจกับความจริงที่ได้ยินคราแรกตอนที่นางเห็นทั้งสองคนเดินเข้ามาในหอเริงรมย์แห่งนี้ด้วยกันอี้หลันคิดเพียงแค่ว่าเฉินเจียนหลางคงหลงเสน่ห์นางรำจวี๋จื่อเข้าให้ แต่ไม่นึกว่าที่แม่ทัพน้อยเฉินเดินตามก้นนางมาอย่างไม่ให้ห่างกายเช่นนี้เป็นเพราะเขาล่วงรู้ความลับของเยว่อันหนิงเสียแล้ว"เช่นนั้นคงไม่มีอะไรปิดบังเขาอีกแล้ว"เยว่อันหนิงพยักหน้าแทนคำตอบให้อี้หลันจากนั้นทั้งสองจึงเดินกลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับแม่ทัพน้อยเฉินที่นั่งจิบน้ำชารอเงียบ ๆ"วันนี้ท่านมาที่นี่ต้องการข่าวอันใดจากหออี้เฉิงหลันของข้า"เจ้าหออี้ที่นับว่าเป็นสตรีงดงามผู้หนึ่งแห่งเมืองเทียนติ่งเอ่ยถามขึ้น"ข้าต้องการให้ท่านดูสิ่งนี้"เยว่อันหนิงยื่นผ้าเช็ดหน้าที่เก็บเศษผงบนตัวสายลับเงาของเฉินเจียนหลางยื่นให้อี้หลั

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 77

    "เดิมทีหญ้าเกสรห้าสีเป็นสมุนไพรบำรุงหัวใจ หาได้ยากนักเพราะมักเกิดอยู่บนเขาลึกที่หนทางซับซ้อนอันตรายรอบด้าน"เฉินเจียนหลางตั้งใจฟังเพื่อเพิ่มพูนความรู้และรอไขคดีคนร้าย"แต่หากนำมาทาอาบไว้บนไม้แก่นกำยานจะกลายเป็นพิษร้ายที่สามารถทำให้คนสิ้นใจอย่างไม่รู้ตัว""เช่นนั้นตอนที่เจ้าถูกพิษที่มีดสั้นวันนั้นเหตุใดถึงยังรอดมาได้"เยว่อันหนิงค่อย ๆ ยืนขึ้นแล้วเอ่ย"เพราะข้ามียาของหมอเทวดาของหุบเขาช่วยชีวิตไว้"พอคิดถึงเรื่องในอดีต เยว่อันหนิงกลับรู้สึกขนชันขึ้นมาทันที หากยามนั้นนางไม่ได้พกยาถอนพิษที่ขจัดพิษได้ทุกชนิดของผู้เฒ่าฝูหนาน ป่านนี้นางคงได้ไปพบบิดาที่ปรโลกแล้ว"เจ้ากำลังจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของนักฆ่ากลุ่มเดียวกันในวันนั้น"'ไม่ใช่นักฆ่ากลุ่มเดียวกัน หากแต่เป็น 'นาง' เท่านั้น'"ในจวนของท่านมีเกลือเป็นหนอน ตอนนี้ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไว้ก่อน"เยว่อันหนิงเลือกเก็บความจริงในใจเอาไว้ ปล่อยให้เฉินเจียนหลางคิดว่าเป็นกลุ่มนักฆ่าเดียวกันกับในงานเลือกคู่ของมู่อานจิ่ว"เจ้ามีแผนล่องู่โผล่หางหรือไม่"แววตาชื่นชมในความเฉลียวฉลาดของคนรักที่จ้องมองนางนั้นช่างปกปิดไม่มิดเอาเสียเลย ทำให้คนที่ซ่อน

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 76

    ทั้งสองเร่งฝีเท้ากลับมายังเรือนต้นสนเพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งจิบชาก็พบกับห้องของเยว่อันหนิงที่ถูกรื้อค้นจนเละไปหมด หน้าประตูห้องพบสาวใช้นางหนึ่งถูกปาดคอนอนสิ้นใจอย่างน่าสงสาร"มีใครอยู่แถวนี้บ้าง!"นายน้อยของสกุลเฉินตะโกนเรียกหาบ่าวไพร่เสียงเกรี้ยวกราด จวนแม่ทัพแท้ ๆ คนร้ายยังกล้าอุกอาจบุกเข้ามาแถมยังเป็นตอนกลางวันแสก ๆ อีก ไม่ให้แม่ทัพน้อยแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่าอย่างเขากรุ่นโกรธได้เยี่ยงไร"น...นายน้อย เกิดอะไรขึ้นขอรับ""กรี๊ด! เสี่ยวหยา"เสียงบ่าวคนหนึ่งที่อยู่บริเวณนั้นและได้ยินนายน้อยของจวนตะโกนเรียกจึงวิ่งตามเสียงมาและถามสาเหตุขึ้นส่วนสาวใช้ที่ตามมาติด ๆ พอเห็นศพของสาวใช้ในเรือนด้วยกันถึงกับกรีดร้องด้วยความตกใจ"เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นที่เรือนต้นสน"เฉินเจียนหลางเริ่มซักไซ้เอาความ"ม...เมื่อครู่ เมื่อครู่จู่ ๆ พวกข้าก็เหมือนจะง่วงขึ้นมากะทันหัน จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้จนได้ยินเสียงนายน้อยตะโกนเรียกขอรับ"เฉินเจียนหลางขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะมองไปรอบ ๆ บริเวณเรือนต้นสนที่กว้างใหญ่นี้"วี้ด!!"เสียงเป่าสัญญาณจากปี่ไม้เรียกสายลับเงาดังขึ้น หากแต่ไม่มีแม้เงาของสายลับที่เขาซ่อนสุมกำลังไว้ตามที่ต่าง

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 75

    ผ่านมาครึ่งก้านธูป เฉินเจียนหลางก็พาสตรีในดวงใจมายังศาลาสงบใจที่อยู่ด้านหลังเรือนต้นสนแห่งนี้"เหตุใดที่นี่ถึงได้เงียบสงบเช่นนี้"อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่มดแมลงสักตัวยังไม่มี"ที่แห่งนี้เป็นเขตหวงห้าม ข้าเอาไว้ใช้ฝึกสมาธิปรับลมปราณ"เยว่อันหนิงได้ฟังจึงพยักหน้าเข้าใจพร้อมเอ่ยต่อ"ท่านเรียกข้ามาที่แห่งนี้เพราะมีความลับที่จะหารือใช่หรือไม่"หากไม่ใช่เรื่องสำคัญและเป็นความลับ เฉินเจียนหลางคงไม่พานางมายังเขตหวงห้ามที่คนนอกเข้าออกไม่ได้เช่นนี้ร่างกำยำสวมชุดสีดำแถบแดงล้วงเอาของสำคัญออกมาวางไว้"นี่คือสิ่งใด"เยว่อันหนิงมองกล่องไม้ตรงหน้าอย่างใคร่สงสัย"นี่คือของที่อดีตแม่ทัพใหญ่เยว่ส่งมอบมันให้กับท่านพ่อก่อนที่สกุลเยว่จะถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎ"เยว่อันหนิงใจหล่นวูบเมื่อได้ยินสิ่งที่เฉินเจียนหลางบอกมือแน่งน้อยเอื้อมไปสัมผัสกล่องไม้ตรงหน้าด้วยความสั่นเทา ในหัวของนางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวันวานจึงเอ่ย"คงเป็นวันที่พี่ใหญ่กับพี่รองกำลังซ้อมกระบี่กันในวันนั้น"เฉินเจียนหลางพยักหน้าเบา ๆเยว่อันหนิงใจกล้า ๆ กลัว ๆ ตอนสัมผัสกล่องไม้ที่ว่า เมื่อฝากล่องไม้ถูกเปิดออก ม้วนภาพวาดผืนหนึ่งก็ปรากฏแก่สายตาของนา

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 74

    หลังจากทั้งหมดกลับมายังจวนสกุลเฉินแล้ว เยว่อันหนิงก็เอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องที่เรือนต้นสน นางให้เหตุผลกับเฉินเจียนหลางว่าต้องการรื้อฟื้นความทรงจำในวัยเด็กดูเผื่อว่าที่ผ่านมานางตกหล่นชิ้นส่วนความทรงจำใดไป"แม่นางจวี๋เจ้าคะ ข้าน้อยนำอาหารมาให้เจ้าค่ะ"สาวใช้นางหนึ่งตะโกนขึ้นที่หน้าห้องพักก่อนจะเปิดประตูเข้ามาพร้อมถาดอาหารจำนวนหนึ่ง"นายน้อยเล่า"เสียงใสถามขึ้น นางขังตัวเองอยู่ในห้องนี้มาแล้วเกือบสองชั่วยามจึงอยากรู้ความเคลื่อนไหวภายในจวนสกุลเฉิน"นายน้อยไปส่งนายท่านออกนอกเมืองเจ้าค่ะ"คิ้วสวยขมวดย่นเล็กน้อย แววตานางมีความครุ่นคิดฉายขึ้น สาวใช้ตรงหน้าคงสังเกตเห็นจึงเล่าต่อ"วันนี้นายน้อยต้องกลับค่ายทหาร หากแต่ยังมีเรื่องสำคัญต้องสะสาง นายท่านจึงอาสากลับไปคุมค่ายทหารให้ก่อนชั่วคราวเจ้าค่ะ"สาวใช้ตรงหน้ารายงานอย่างที่เฉินเจียนหลางสั่งไว้ไม่ขาดตกบกพร่องสักคำ"เจ้ากลับไปทำงานเถิด ข้าอยากอยู่คนเดียว""เจ้าค่ะ หากแม่นางจวี๋ต้องการสิ่งใด เรียกใช้ข้ารับใช้ในเรือนได้ทุกเมื่อ"เยว่อันหนิงคลี่ยิ้มบางเป็นการขอบคุณ จากนั้นก็ปล่อยให้สาวใช้นางนั้นออกจากห้องไปดวงตาคู่สวยเหลือบมองอาหารที่น่าทานบนโต๊ะเพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status