แชร์

ตอนที่ 2

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-27 17:54:36

"นี่คือของที่ท่านพ่อให้ข้านำมาให้ท่าน"

เยว่ฉินจื่อหยิบกล่องไม้สลักลายสวยงามขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ที่เยว่จิ้นกงสั่งไว้ในจดหมายมอบให้เฉินปู้เกา

"ขอบคุณคุณชายใหญ่ มะรืนวันมงคลของท่าน แต่ข้าน้อยกลับเสียมารยาทมิได้มาร่วมงานเพราะต้องเดินทางตามคำสั่งแม่ทัพใหญ่ หวังว่าคุณชายใหญ่จะไม่ถือสา"

"ธุระที่ท่านพ่อไหว้วานย่อมเป็นเรื่องสำคัญ ท่านเฉินอย่าได้เกรงใจ ไว้กลับจากงานค่อยมาดื่มเหล้าฉลองให้ข้าทีหลังย่อมได้"

"คุณชายใหญ่ใจกว้างและเข้าใจผู้อื่นยิ่งนัก ข้าน้อยขอให้ท่านกับว่าที่ฮูหยินครองรักยาวนาน มีลูกหลานสืบสกุลเร็ว ๆ"

"ฮ่า ๆ ขอบคุณท่านเฉิน เร่งเดินทางเถิด กว่าจะเดินทางถึงเมืองตู้คงกินเวลาค่อนวัน"

"เช่นนั้นข้าน้อยกับบุตรชายขอลา"

"เดินทางปลอดภัย"

เมื่อทั้งสองพ่อลูกสกุลเฉินกลับออกไปแล้ว เยว่ฉินจื่อหยิบจดหมายฉบับเดิมออกมาอ่านทวนอีกรอบ

จู่ ๆ เขากลับรู้สึกว่าในกล่องใบนั้นที่เฉินปู้เการับไปจะต้องเป็นของที่สำคัญและอาจนำพามาถึงความวุ่นวายในภายภาคหน้า

"ท่านพ่อ หรือว่าท่านกำลังปิดบังอันใดกับพวกเรา"

คนอย่างเยว่จิ้นกงมิเคยติดต่อผ่านจดหมายเช่นนี้ ของทุกชิ้นในห้องเขาหากจะมอบให้ใครเขาจะเป็นคนหยิบจับมันเอง หากแต่ครานี้เหมือนเจ้าของห้องมิต้องการให้ใครรับรู้ว่าได้มอบของบางสิ่งให้กับผู้อื่นจึงได้จัดการมากเรื่องเช่นนี้

"พี่ใหญ่ ข้าจัดการน้องเล็กให้กลับห้องได้แล้วขอรับ"

หลังหลอกล่อให้เยว่อันหนิงกลับห้องพักตนเองสำเร็จ เยว่อินกวานเลยรีบตามพี่ชายมาถึงที่นี่

"อืม ทำดีแล้ว"

เยว่อินกวานได้ยินสุ้มเสียงพี่ใหญ่รู้สึกถึงความผิดปรกติจึงเอ่ยถาม

"พี่ใหญ่มีเรื่องอันใดไม่สบายใจหรือขอรับ"

เป็นพี่น้องที่ห่างกันเพียงหัวปีท้ายปี อยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน ออกศึกรบด้วยกันมาตั้งหลายหนจึงจับพิรุธของอีกคนได้อย่างไม่ต้องรอให้เจ้าตัวเอ่ยปรึกษา

"จู่ ๆ จิตใจข้าก็ไม่สงบ คล้ายกับอาจจะมีเรื่องใหญ่ตามมาไม่ช้าก็เร็วนี้"

ลางสังหรณ์ของเยว่ฉินจื่อแม่นแทบจะทุกครั้ง ทำให้เขามักได้นำทัพหน้าออกไปหยั่งเชิงศัตรูก่อนทุกหน

"เมื่อครู่ เฉินปู้เกานำของสิ่งใดไปหรือขอรับ"

เยว่อินกวานเดินมาทันได้เห็นตอนพี่ใหญ่เขายื่นกล่องไม้ให้เฉินปู้เกาพอดีจึงใคร่อยากรู้

เยว่ฉินจื่นได้แต่ส่ายหัวเล็กน้อยเพราะเขาไม่ได้เปิดดูของสิ่งนั้นว่ามีอะไรอยู่ด้านใน

จังหวะที่บุรุษทั้งสองกำลังจะสนทนากันต่อ เสียงโวยวายจากลานหน้าจวนจึงดังขัดจังหวะขึ้นพอดิบพอดี

"จับกุมคนในจวนเยว่ให้หมดทุกคน!"

เสียงทรงอำนาจดังก้องกังวาลไปทั้งจวนเยว่

เหล่าทหารแต่งชุดเกราะเต็มยศราวกำลังจะออกศึกวิ่งกรูเรียงแถวเข้ามาคุมตัวบ่าวสาวรับใช้ในเรือนราวนักโทษฉกรรจ์

"นี่มันเรื่องอันใด"

เยว่ฉินจื่อที่ได้ยินเสียงโวยวายของข้ารับใช้ในเรือนรีบวิ่งออกมาดู

ภาพตรงหน้าทำให้กระบี่ในมือเขาสั่นแทบจะออกจากฝัก เหล่าบ่าวสาวรับใช้ ไม่ว่าจะเด็ก คนแก่ สตรีหรือบุรุษต่างถูกกระบี่แสนแหลมคมจ่อไปที่บ่าหนึ่งต่อหนึ่งเยี่ยงนักโทษต้องประหาร

"จับกุมตัว!"

หากแต่ผู้มาเยือนในชุดว่าราชการเต็มยศสีแดงเลือดหมูกลับมิสนใจตอบคำถามของบุตรชายเจ้าบ้าน เปล่งคำสั่งเด็ดขาดจบ ทั้งคุณชายใหญ่และคุณชายรองสกุลเยว่ต่างถูกจับกุมตัวให้นั่งคุกเข่าลงพื้นเฉกเช่นคนอื่น ๆ อย่างไม่ทันจะได้ขัดขืน

"ปล่อยข้า ปล่อยข้านะ!"

"โอ้ย! เจ้ากล้ากัดข้าหรือ นางเด็กนี่!"

"อย่าทำร้ายหนิงเอ๋อร์"

เสียงโวยวายของสตรีมากกว่าสามคนดังขึ้นทางด้านหลัง ครั้นหันไปมองจึงเห็นทหารสี่ห้าคนจับกุมตัวฮูหยินใหญ่ของจวนเยว่พร้อมกับบุตรีอีกสามคน

หากแต่เยว่อันหนิงน้องเล็กของบ้านกลับดื้อรั้น นางไม่ยอมให้ทหารจับกุมตัวอย่างไร้เหตุผล พยายามหนีการจับกุมและทำร้ายคนที่ตามจับนางอย่างไม่เกรงกลัว

ปลายกระบี่คมวับง้างขึ้นเตรียมฟาดฟันเด็กน้อยหากแต่ถูกเยว่ฮูหยินวิ่งเข้ามารั้งไว้เสียก่อน

"หนิงเอ๋อร์!"

"ท่านแม่!"

เสียงเยว่ฉินจื่อกับเยว่อินกวานตะโกนอย่างเสียวไส้เมื่อเห็นเหตุการณ์ชุลมุนเมื่อครู่

"ใต้เท้า ได้โปรดไว้ชีวิตลูกสาวข้าด้วยเถิด นางยังเด็กนักไม่รู้ประสาที่ล่วงเกินลูกน้องท่าน"

เยว่ฮูหยินยอมลดศักดิ์ศรีของภรรยาแม่ทัพใหญ่ที่สร้างชื่อเสียงและความดีความชอบให้เมืองเทียนติ่งมานับไม่ถ้วน โขกศีรษะลงกับพื้นวอนขอความเมตตาจากมือกระบี่ที่หมายคร่าชีวิตบุตรสาวนางอย่างไร้ปรานี

"เลิกเสียเวลาได้แล้ว ทุกคนในจวนเยว่รับราชโองการ"

เสียงดุดันตะเบ็งจนดังสะท้อนทั่วลานกว้างของจวนเยว่ ม้วนหนังสือสีทองอร่ามถูกหยิบออกมาจากกล่องอันหรูหรา

มู่ตงหยวนเจ้ากรมตุลาการแห่งศาลเทียนอวี่ค่อย ๆ คลี่ราชโองการพร้อมอ่านอย่างชัดถ้อยชัดคำ

"แม่ทัพใหญ่เยว่จิ้นกงมักใหญ่ใฝ่สูงหวังยึดอำนาจ แอบลักลอบซ่อนสุมกำลังลับเอาไว้ห้าหมื่นนายหมายสั่นคลอนความสงบสุขของราชบัลลังก์ ฮ่องเต้มีรับสั่งให้ลงโทษสถานหนัก ปลดตำแหน่งแม่ทัพใหญ่และลงโทษประหารชีวิตพร้อมบุตรชายทั้งสอง เยว่ฉินจื่อและเยว่อินกวาน จากนั้นนำหัวเสียบประจานหน้าประตูเมือง ฮูหยินใหญ่ไฉอันปิงและอนุถูกส่งไปเป็นทาสให้แคว้นพันธมิตร บุตรสาวทั้งสาม เยว่จินจิน เยว่อิงเถา เยว่อันหนิง ถูกส่งเป็นเครื่องบรรณาการแก่แคว้นเสียนหย่ง บ่าวไพร่ที่เหลือถูกเนรเทศออกนอกเมืองห้าพันลี้ตลอดชีวิต จบราชโองการ"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 79

    "แม่นางเยว่มิได้คิดอันใดข้าพอทราบ แต่บุรุษหากปักใจรักแล้วยากจะตัดใจ"เยว่อันหนิงลอบมองใบหน้ารูปงามของแม่ทัพน้อยที่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา"หากศิษย์พี่มาที่นี่ ฝากเจ้าหออี้ส่งข่าวว่าข้าต้องการพบ""ข้าน้อยทราบแล้ว""เช่นนั้นพวกเราขอตัว""เรื่องที่ฝากฝังไว้ ข้าจะรีบส่งข่าวอีกที""ขอบคุณเจ้าหออี้"เยว่อันหนิงส่งสัญญาณตาให้บุรุษเพียงคนเดียวในห้องเดินตามนางออกจากหอเริงรมย์ เฉินเจียนหลางว่าง่ายเขาเดินตามนางออกมาจากในนั้นเงียบ ๆ ราวคนลืมเอาปากมาด้วย"ท่านคงไม่ได้หึงหวงข้ากับศิษย์พี่ใหญ่ใช่หรือไม่"ครั้นออกมาจากหออี้เฉิงหลันแล้ว เยว่อันหนิงรู้สึกถึงความเงียบที่มีไอเย็นยะเยือกตามหลังมาเลยหยุดเท้าแล้วหันมาเผชิญหน้าถามคนที่เดินตามหลังมาติด ๆ"หากข้าบอกว่าหึงเล่า"คนที่ไม่เคยหวั่นไหวกับความรักหรือคำหวานถึงกับสะอึก หัวใจที่ไม่คิดจะหวั่นไหวกับเรื่องเช่นนี้กลับแกว่งแปลก ๆ จนต้องปั้นหน้าหันหลบตาไปอีกทาง"ข้ากับต้วนอี้เราเติบโตมาด้วยกัน ไม่เคยมีเรื่องชู้สาวในหัว""ถึงเจ้าจะคิด ข้าก็ไม่ยอม""ท่านหมายความเช่นไร""ตอนนี้เจ้าเป็นภรรยาข้าแล้ว ต่อให้หัวใจเจ้าจะอยู่กับผู้อื่นข้าก็ไม่ยอมปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด"วาจาหน

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 78

    หลังจากเข้ามาในห้องประจำที่อี้หลันจัดเจรียมไว้แล้ว เจ้าหออี้ก็พาเยว่อันหนิงปลีกออกมาอีกฝั่งของห้องสี่เหลี่ยมเพื่อไถ่ถามความเป็นมาในวันนี้"เหตุใดท่านถึงมากับแม่ทัพน้อยเฉินได้"การกระซิบถามไม่ได้อยู่นอกสายตาของเฉินเจียนหลางสักนิด หากแต่เขากลับทำเป็นไม่สนใจเพื่อไม่ให้สตรีสองนางอึดอัดเท่านั้น"เขารู้ตัวตนของข้าหมดแล้ว"อี้หลันถึงกับตกใจกับความจริงที่ได้ยินคราแรกตอนที่นางเห็นทั้งสองคนเดินเข้ามาในหอเริงรมย์แห่งนี้ด้วยกันอี้หลันคิดเพียงแค่ว่าเฉินเจียนหลางคงหลงเสน่ห์นางรำจวี๋จื่อเข้าให้ แต่ไม่นึกว่าที่แม่ทัพน้อยเฉินเดินตามก้นนางมาอย่างไม่ให้ห่างกายเช่นนี้เป็นเพราะเขาล่วงรู้ความลับของเยว่อันหนิงเสียแล้ว"เช่นนั้นคงไม่มีอะไรปิดบังเขาอีกแล้ว"เยว่อันหนิงพยักหน้าแทนคำตอบให้อี้หลันจากนั้นทั้งสองจึงเดินกลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับแม่ทัพน้อยเฉินที่นั่งจิบน้ำชารอเงียบ ๆ"วันนี้ท่านมาที่นี่ต้องการข่าวอันใดจากหออี้เฉิงหลันของข้า"เจ้าหออี้ที่นับว่าเป็นสตรีงดงามผู้หนึ่งแห่งเมืองเทียนติ่งเอ่ยถามขึ้น"ข้าต้องการให้ท่านดูสิ่งนี้"เยว่อันหนิงยื่นผ้าเช็ดหน้าที่เก็บเศษผงบนตัวสายลับเงาของเฉินเจียนหลางยื่นให้อี้หลั

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 77

    "เดิมทีหญ้าเกสรห้าสีเป็นสมุนไพรบำรุงหัวใจ หาได้ยากนักเพราะมักเกิดอยู่บนเขาลึกที่หนทางซับซ้อนอันตรายรอบด้าน"เฉินเจียนหลางตั้งใจฟังเพื่อเพิ่มพูนความรู้และรอไขคดีคนร้าย"แต่หากนำมาทาอาบไว้บนไม้แก่นกำยานจะกลายเป็นพิษร้ายที่สามารถทำให้คนสิ้นใจอย่างไม่รู้ตัว""เช่นนั้นตอนที่เจ้าถูกพิษที่มีดสั้นวันนั้นเหตุใดถึงยังรอดมาได้"เยว่อันหนิงค่อย ๆ ยืนขึ้นแล้วเอ่ย"เพราะข้ามียาของหมอเทวดาของหุบเขาช่วยชีวิตไว้"พอคิดถึงเรื่องในอดีต เยว่อันหนิงกลับรู้สึกขนชันขึ้นมาทันที หากยามนั้นนางไม่ได้พกยาถอนพิษที่ขจัดพิษได้ทุกชนิดของผู้เฒ่าฝูหนาน ป่านนี้นางคงได้ไปพบบิดาที่ปรโลกแล้ว"เจ้ากำลังจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของนักฆ่ากลุ่มเดียวกันในวันนั้น"'ไม่ใช่นักฆ่ากลุ่มเดียวกัน หากแต่เป็น 'นาง' เท่านั้น'"ในจวนของท่านมีเกลือเป็นหนอน ตอนนี้ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไว้ก่อน"เยว่อันหนิงเลือกเก็บความจริงในใจเอาไว้ ปล่อยให้เฉินเจียนหลางคิดว่าเป็นกลุ่มนักฆ่าเดียวกันกับในงานเลือกคู่ของมู่อานจิ่ว"เจ้ามีแผนล่องู่โผล่หางหรือไม่"แววตาชื่นชมในความเฉลียวฉลาดของคนรักที่จ้องมองนางนั้นช่างปกปิดไม่มิดเอาเสียเลย ทำให้คนที่ซ่อน

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 76

    ทั้งสองเร่งฝีเท้ากลับมายังเรือนต้นสนเพียงเวลาไม่ถึงหนึ่งจิบชาก็พบกับห้องของเยว่อันหนิงที่ถูกรื้อค้นจนเละไปหมด หน้าประตูห้องพบสาวใช้นางหนึ่งถูกปาดคอนอนสิ้นใจอย่างน่าสงสาร"มีใครอยู่แถวนี้บ้าง!"นายน้อยของสกุลเฉินตะโกนเรียกหาบ่าวไพร่เสียงเกรี้ยวกราด จวนแม่ทัพแท้ ๆ คนร้ายยังกล้าอุกอาจบุกเข้ามาแถมยังเป็นตอนกลางวันแสก ๆ อีก ไม่ให้แม่ทัพน้อยแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่าอย่างเขากรุ่นโกรธได้เยี่ยงไร"น...นายน้อย เกิดอะไรขึ้นขอรับ""กรี๊ด! เสี่ยวหยา"เสียงบ่าวคนหนึ่งที่อยู่บริเวณนั้นและได้ยินนายน้อยของจวนตะโกนเรียกจึงวิ่งตามเสียงมาและถามสาเหตุขึ้นส่วนสาวใช้ที่ตามมาติด ๆ พอเห็นศพของสาวใช้ในเรือนด้วยกันถึงกับกรีดร้องด้วยความตกใจ"เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นที่เรือนต้นสน"เฉินเจียนหลางเริ่มซักไซ้เอาความ"ม...เมื่อครู่ เมื่อครู่จู่ ๆ พวกข้าก็เหมือนจะง่วงขึ้นมากะทันหัน จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้จนได้ยินเสียงนายน้อยตะโกนเรียกขอรับ"เฉินเจียนหลางขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะมองไปรอบ ๆ บริเวณเรือนต้นสนที่กว้างใหญ่นี้"วี้ด!!"เสียงเป่าสัญญาณจากปี่ไม้เรียกสายลับเงาดังขึ้น หากแต่ไม่มีแม้เงาของสายลับที่เขาซ่อนสุมกำลังไว้ตามที่ต่าง

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 75

    ผ่านมาครึ่งก้านธูป เฉินเจียนหลางก็พาสตรีในดวงใจมายังศาลาสงบใจที่อยู่ด้านหลังเรือนต้นสนแห่งนี้"เหตุใดที่นี่ถึงได้เงียบสงบเช่นนี้"อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่มดแมลงสักตัวยังไม่มี"ที่แห่งนี้เป็นเขตหวงห้าม ข้าเอาไว้ใช้ฝึกสมาธิปรับลมปราณ"เยว่อันหนิงได้ฟังจึงพยักหน้าเข้าใจพร้อมเอ่ยต่อ"ท่านเรียกข้ามาที่แห่งนี้เพราะมีความลับที่จะหารือใช่หรือไม่"หากไม่ใช่เรื่องสำคัญและเป็นความลับ เฉินเจียนหลางคงไม่พานางมายังเขตหวงห้ามที่คนนอกเข้าออกไม่ได้เช่นนี้ร่างกำยำสวมชุดสีดำแถบแดงล้วงเอาของสำคัญออกมาวางไว้"นี่คือสิ่งใด"เยว่อันหนิงมองกล่องไม้ตรงหน้าอย่างใคร่สงสัย"นี่คือของที่อดีตแม่ทัพใหญ่เยว่ส่งมอบมันให้กับท่านพ่อก่อนที่สกุลเยว่จะถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎ"เยว่อันหนิงใจหล่นวูบเมื่อได้ยินสิ่งที่เฉินเจียนหลางบอกมือแน่งน้อยเอื้อมไปสัมผัสกล่องไม้ตรงหน้าด้วยความสั่นเทา ในหัวของนางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวันวานจึงเอ่ย"คงเป็นวันที่พี่ใหญ่กับพี่รองกำลังซ้อมกระบี่กันในวันนั้น"เฉินเจียนหลางพยักหน้าเบา ๆเยว่อันหนิงใจกล้า ๆ กลัว ๆ ตอนสัมผัสกล่องไม้ที่ว่า เมื่อฝากล่องไม้ถูกเปิดออก ม้วนภาพวาดผืนหนึ่งก็ปรากฏแก่สายตาของนา

  • เล่ห์ร้ายชะตารักนักฆ่าบุปผาเบญจมาศ   ตอนที่ 74

    หลังจากทั้งหมดกลับมายังจวนสกุลเฉินแล้ว เยว่อันหนิงก็เอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องที่เรือนต้นสน นางให้เหตุผลกับเฉินเจียนหลางว่าต้องการรื้อฟื้นความทรงจำในวัยเด็กดูเผื่อว่าที่ผ่านมานางตกหล่นชิ้นส่วนความทรงจำใดไป"แม่นางจวี๋เจ้าคะ ข้าน้อยนำอาหารมาให้เจ้าค่ะ"สาวใช้นางหนึ่งตะโกนขึ้นที่หน้าห้องพักก่อนจะเปิดประตูเข้ามาพร้อมถาดอาหารจำนวนหนึ่ง"นายน้อยเล่า"เสียงใสถามขึ้น นางขังตัวเองอยู่ในห้องนี้มาแล้วเกือบสองชั่วยามจึงอยากรู้ความเคลื่อนไหวภายในจวนสกุลเฉิน"นายน้อยไปส่งนายท่านออกนอกเมืองเจ้าค่ะ"คิ้วสวยขมวดย่นเล็กน้อย แววตานางมีความครุ่นคิดฉายขึ้น สาวใช้ตรงหน้าคงสังเกตเห็นจึงเล่าต่อ"วันนี้นายน้อยต้องกลับค่ายทหาร หากแต่ยังมีเรื่องสำคัญต้องสะสาง นายท่านจึงอาสากลับไปคุมค่ายทหารให้ก่อนชั่วคราวเจ้าค่ะ"สาวใช้ตรงหน้ารายงานอย่างที่เฉินเจียนหลางสั่งไว้ไม่ขาดตกบกพร่องสักคำ"เจ้ากลับไปทำงานเถิด ข้าอยากอยู่คนเดียว""เจ้าค่ะ หากแม่นางจวี๋ต้องการสิ่งใด เรียกใช้ข้ารับใช้ในเรือนได้ทุกเมื่อ"เยว่อันหนิงคลี่ยิ้มบางเป็นการขอบคุณ จากนั้นก็ปล่อยให้สาวใช้นางนั้นออกจากห้องไปดวงตาคู่สวยเหลือบมองอาหารที่น่าทานบนโต๊ะเพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status