Mag-log in"ไม่จริง! ท่านพ่อไม่เคยซ่อนสุมกำลังทหารอย่างลับ ๆ ต้องมีคนใส่ร้ายท่านแน่"
"ฝ่าบาทโปรดให้ความเป็นธรรมแก่สกุลเยว่พวกเราด้วยเพคะ สามีข้าหายใจเข้าออกมีแต่บ้านเมือง ไหนเลยจะกล้าคิดการใหญ่ก่อกบฎเช่นนี้"
ทั้งเยว่ฉินจื่อและเยว่ฮูหยินต่างพากันคัดค้านราชโองการอย่างเด็ดเดี่ยว หากแต่เสียงของพวกเขาคงดังได้เพียงในจวนสกุลเยว่แห่งนี้ เมื่อทุกอย่างถูกตัดสินมาแล้ว
"เยว่ฮูหยิน รับราชโองการ"
สายตาของเจ้ากรมตุลาการมู่ตงหยวนมิได้มีความเคลือบแคลงหรือสงสารคนตรงหน้าสักนิด คำสั่งเด็ดขาดบังคับให้ผู้มีอำนาจรองจากเจ้าของจวนให้มารับม้วนราชโองการเหมือนมีดที่กรีดลมหายใจคนทั้งจวน
"ห...หม่อมฉัน...รับราชโองการ"
เสียงอันสั่นเครือของเยว่ฮูหยินดังบาดหัวใจบุตรชายและบุตรสาวรวมถึงข้ารับใช้ แม้ในใจพวกเขามีหมื่นล้านคำอยากแก้ข้อครหาให้ผู้เป็นนายท่านแต่พวกเขาเป็นเหมือนมดปลวกใครจะให้ค่า โทษทัณฑ์จากเนรเทศหากกล้างัดข้อกับท่อนซุงใหญ่คงเปลี่ยนเป็นโทษตายอย่างมิต้องสงสัย
ตุบ!
ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้นเมื่อเยว่อันหนิงใจกล้าบ้าบิ่นปัดราชโองการที่มารดากำลังเอื้อมมือไปรับลงพื้นจนกลิ้งหลุน ๆ หยุดที่ปลายเท้าของเจ้ากรมตุลาการมู่ตงหยวน
"บังอาจ!"
เสียงแห่งความเกรี้ยวโกรธดังสะท้านไปทั้งลานกว้าง
ปลายกระบี่แหลมคมของหม่าเย่า องครักษ์ข้างกายมู่ตงหยวนจ่อเข้าที่ลำคอน้อยของเยว่อันหนิงทันที
"อย่า! ใต้เท้าโปรดเมตตา หนิงเอ๋อร์นางไม่รู้ความจึงได้ทำเรื่องไม่สมควรลงไป มานี่! ขอประทานอภัยต่อราชโองการฝ่าบาทเดี๋ยวนี้!"
ข้อมือน้อยถูกมารดารั้งอย่างแรงเพื่อให้คนทำผิดนั่งลงกับพื้น ศีรษะเล็กถูกจับกดลงกับพื้นเพื่อขอความเมตตา
ในใจของเยว่ฮูหยินตอนนี้แสนปวดร้าวที่ต้องรุนแรงกับบุตรสาวครั้งแรกในชีวิต หากแต่นี่เป็นเพียงหนทางเดียวที่นางจะรักษาชีวิตน้อย ๆ ของเยว่อันหนิงไว้นางยอมปวดใจและเป็นมารดาใจร้ายในสายตาผู้อื่น
"ข้าไม่ขอโทษ! ท่านพ่อมิเคยคิดชั่ว มีแต่ช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก คนเหล่านี้ต่างหากที่เป็นคนชั่ว ใส่ร้ายท่านพ่อข้า...อึก!"
เสียงน้อย ๆ ขาดห้วงลงเมื่อเยว่ฉินจื่อเกรงว่าน้องสาวคนเล็กจะมีภัยถึงชีวิตหากพูดมากความกว่านี้จึงเลือกใช้วิธีสกัดจุดให้นางสลบชั่วคราวไปก่อน
"เหิมเกริมยิ่งนัก อายุเพียงไม่กี่ขวบปีก็ก้าวร้าวลบหลู่ราชโองการอันศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะทูลฝ่าบาทถึงการกระทำของบุตรสาวคนเล็กจวนเยว่ เปลี่ยนจากมีลมหายใจเป็นความตายแทน"
"ไม่นะเจ้าคะ! ใต้เท้ามู่โปรดเมตตาเห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีของท่านกับท่านแม่ทัพใหญ่เถิดเจ้าค่ะ ข้ากับบุตรสาวยินดีรับโทษเนรเทศออกจากเมืองอย่างมิคัดค้าน"
น้ำตามากมายของผู้เป็นมารดาหลั่งไหลอาบสองแก้ม นางปลายตาที่มีน้ำเจิ่งนองมองเยว่อันหนิงที่สลบลงบนหน้าตักเยว่อิงเถาด้วยความหวาดหวั่น จากนั้นจึงหันไปสบตากับบุตรชายทั้งสองที่นั่งอยู่แถวด้านหลังด้วยความเจ็บปวด
สิ่งที่เยว่ฮูหยินเอ่ยออกไปเมื่อครู่หมายความว่านางยอมรับราชโองการนั้นแล้ว ชีวิตทั้งสามชีวิตของบุรุษสกุลเยว่แลกกับหนึ่งชีวิตของบุตรสาวคนเล็กผู้นี้คุ้มแล้วหรือ?
หากแต่บุตรชายทั้งสองกลับสบตามารดากลับด้วยความยินดี ขอเพียงชีวิตพวกเขาทั้งสองช่วยรักษาชีวิตมารดาและน้องสาวอีกสามคนไว้ได้จะกลัวความตายเบื้องหน้าไปทำไม
เกิดเป็นบุรุษอกสามศอก ออกศึกรบเคียงบ่าเคียงไหล่บิดามาแล้วตั้งกี่ครั้ง ความเป็นความตายพวกเขาเฉียดมาหมดแล้วจะกลัวไปไย
"ข้าเยว่ฉินจื่อ"
"ข้าเยว่อินกวาน"
"น้อมรับราชโองการ"
ทั้งสองพี่น้องประสานเสียงน้อมรับความผิดร่วมกับบิดาและตระกูลเยว่
การเกิดมาในครั้งนี้คงเป็นเคราะห์กรรมของพวกเขาที่ทำดีกลับไม่ได้ดีเช่นนี้
"จับกุมกบฎทั้งหมดไปขังที่คุกศาลเทียนอวี่ก่อน พรุ่งนี้ยามเหม่า(ตี 5.00 - 6.59 น.) นำนักโทษประหารไปบั่นหัวเสียบประจาน ส่วนคนที่เหลือเนรเทศตามราชโอการ"
เสียงร้องไห้โศกเศร้าของบ่าวสาวรับใช้ในจวนดังระงมทั่วลานกว้าง ในใจพวกเขาอยากจะเข้ามาร่ำลาคุณชายทั้งสองรวมถึงฮูหยินและคุณหนูทั้งสาม หากแต่ทหารของศาลเทียนอวี่กลับไม่ให้โอกาสพวกเขาได้ทำเช่นใจหวัง ถูกทหารคุมตัวแยกออกเป็นสองกลุ่มเพื่อไปบรรจบกันที่คุกของศาลที่เรียกว่ายุติธรรมที่สุดในเมืองเทียนติ่งทันที
ภายในคุกใต้ดินของศาลเทียนอวี่ ห้องนักโทษที่ไร้แสงตะวันสาดส่องถึง มีบุรุษสวมชุดตัวในแสนบางแถมยังสภาพขาดวิ่นยิ่งกว่าขอทานตามข้างถนน เสื้อที่เคยเป็นสีขาวสะอาดตาถูกย้อมไปด้วยสีแดงที่เริ่มแห้งเกรอะกรังของเลือดสด ๆ ที่เกิดจากแผลปริแตกเพราะถูกเฆี่ยนตีอย่างทารุณ
"ท่านแม่ทัพ ท่านแข็งใจไว้นะขอรับ"
นี่คือเสียงทหารภายใต้การปกครองของแม่ทัพใหญ่เยว่จิ้นกงที่ลักลอบเข้ามาในคุกและพยายามหาทางช่วยเหลือแม่ทัพของพวกเขาจากการถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎ
ย้อนกลับไปก่อนหน้าไม่ถึงชั่วยาม หลังจากกองทัพของเยว่จิ้นกงนำชัยชนะกลับมาและกำลังเดินทางกลับจากค่ายที่ชายแดนบูรพากลับมีทหารของศาลเทียนอวี่ปรี่เข้าจับกุมกองทัพของพวกเขา แจ้งราชโองการเลือดนี้ให้กับกองทัพที่จงรักภักดีต่อบ้านเมืองเทียนติ่งมาโดยตลอดพร้อมจับกุมทหารทุกนายที่อยู่ในกองทัพเวลานั้น
หากแต่แม่ทัพใหญ่เยว่จิ้นกงที่ล่วงรู้ก่อนแล้วว่าสักวันต้องเป็นเช่นนี้ เขาจึงยอมรับโทษการก่อกบฎเอาไว้แต่เพียงผู้เดียวยอมให้ทหารศาลเทียนอวี่จับกุมตนตามราชโองการเพื่อมาสำเร็จโทษ
"พวกเจ้าจะทำอันใด รีบออกไปจากที่นี่!"
เสียงแห้งแหบที่แทบจะเค้นแรงกายทั้งหมดออกมาพูดคุยกับเหล่าทหารสามสี่นายที่แอบบุกเข้ามาในคุกแห่งนี้สั่งการ
"พวกข้าเสี่ยงตายมาที่นี่เพื่อช่วยท่านแม่ทัพใหญ่" หนึ่งในทหารสี่นายกล่าว
"พวกเจ้ามีค่ามากกว่าชีวิตข้า จงนำทหารที่พักดีเดินทางไปที่เมืองตู้ ซ่อนตัวตนพวกเจ้าเอาไว้ สักวันจะต้องมีคนขอความช่วยเหลือจากพวกเจ้า"
"แต่ว่า..."
"นี่คือคำสั่งสุดท้าย ข้าเยว่จิ้งกง แม่ทัพใหญ่แห่งเมืองเทียนติ่งขอสั่งพวกเจ้าให้รักษาชีวิตเอาไว้ให้ดี"
ทหารทั้งสี่นายที่ยืนอยู่นอกคุกถึงกับจุกที่อก พวกเขาจะสูญเสียแม่ทัพที่ดีเช่นนี้จริงหรือ หากแต่แววตาที่เยว่จิ้นกงมองพวกเขา ช่างเด็ดเดี่ยวและอาจหารยิ่งนัก สักวันพวกเขาจะต้องคืนความเป็นธรรมให้สกุลเยว่แน่นอน
"น้อมส่งท่านแม่ทัพ พวกข้าจะทำตามคำสั่งสุดท้ายของท่าน รักษาชีวิตเพื่อรอวันกอบกู้ชื่อเสียงของท่านกลับคืนมา"
แม้เสียงที่เอ่ยบอกลาจะเศร้าและสั่นเพียงใด แต่เยว่จิ้นกงกลับเผยยิ้มออกมา จิตใจเขายิ่งใหญ่ยิ่งนัก แลกหนึ่งชีวิตของตนเพื่อรักษาชีวิตทั้งกองทัพที่ตนปกครองดูแล แค่นี้ก็คุ้มมากมายแล้ว
"มีคนมา พวกเจ้ารีบออกไปเถิด"
"ท่านแม่ทัพ!" ทหารอีกนายกล่าวอย่างอาลัยอาวรณ์
"รักษาตัวด้วย"
คำกล่าวนี้ของเยว่จิ้นกงเปรียบเสมือนกระบี่แสนคมทิ่มแทงเข้ากลางใจคนฟังเมื่อพวกเขารู้ดีว่าการถูกใส่ร้ายครั้งนี้แม่ทัพของพวกเขาคงสิ้นวาสนาแล้วจริง ๆ
หากแต่เป็นทหารต้องทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา แม้พวกเขาทั้งสี่จะกลับไปมือเปล่า แต่ขอรักษาชีวิตเอาไว้ตามคำสั่ง สักวันจะต้องมีคนที่ท่านแม่ทัพคาดเดาว่าจะขอความช่วยเหลือมาหาพวกตนแน่นอน
"ส่วนพวกเจ้า อวดดีไปก่อนเถิด อีกไม่นานท่านอาจะต้องมาช่วยข้าแน่"หลิงอันเซียวไร้ความกลัวต่อโทษทัณฑ์ที่ก่อ ส่วนองค์ชายสามไป๋จิ้นซือได้แต่นั่งเสียใจกับการกระทำของตนเองที่วางยาพระบิดาด้วยมือคู่นี้อยู่เงียบ ๆ"เช่นนั้นก็ดี แค้นของสกุลเยว่จะได้สะสางให้จบในวันนี้!""สกุลเยว่ เจ้าเกี่ยวข้องอันใดกับตระกูลกบฏผู้นั้น"หลิงอันเซียวเริ่มหวาดระแวงในตัวของสตรีที่เพิ่งพบหน้า"ข้าคือบุตรีคนที่ห้า น้องเล็กของสกุลเยว่ อันหนิง"ดวงตาเรียวรีของหลิงอันเซียวเบิกกว้าง ตลอดเก้าปีที่ผ่านมานางคิดว่ากำจัดทายาทของสกุลเยว่จนสิ้นซากหมดแล้วเสียอีก"ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ข้าส่งนักฆ่าไปปิดปากคนทั้งขบวนเนรเทศนั่นสิ้นแล้วนี่"เยว่อันหนิงค่อย ๆ ก้าวย่างเข้าไปหาหลิงอันเซียวช้า ๆ ในนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่นั้นจ้องมองใบหน้าหลิงอันเซียวด้วยความชิงชัง"ที่แท้เป็นฝีมือท่านนี่เองที่ส่งโจรกลุ่มนั้นไป"เยว่อันหนิงค่อย ๆ นั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าหลิงอันเซียว มือบางเอื้อมไปบีบคางมนนั้นเพื่อให้เงยสบตานางที่ดุกร้าว"อย่าทำร้ายพระชายา"ไป๋จิ้นซือพยายามจะเข้าไปช่วยหากแต่ถูกสายตาเย็นชาของหลิงอันเซียวห้ามไว้จึไดแต่ห่วงอยู่ห่าง ๆ"ขออภัยที่ข้ามิอาจทำต
:: สตรีชั่วช้า ::"ใต้เท้า! ใต้เท้าเกิดเรื่องแล้วขอรับ"หม่าเย่าวิ่งหน้าตื่นเข้าไปยังห้องใต้ดินจวนสกุลมู่ที่ตอนนี้มู่ตงหยวนกำลังจัดการกับคนทรยศอยู่"โหวกเหวกเรื่องอันใด" มู่อานจิ่วกำลังฝังเข็มลงบนศีรษะมนุษย์หุ่นเชิดคนใหม่ถามขึ้นอย่างหงุดหงิดใจ"ขออภัยคุณหนู เรียนใต้เท้า คนของเราในวังส่งข่าวมาบอกว่าตำหนักองค์ชายสามกับพระชายาหลิงถูกคนของรัชทายาทล้อมไว้ข้อหากบฏขอรับ""เจ้าว่าอย่างไรนะ!"มู่ตงหยวนถึงกับคำรามเหี้ยมรัชทายาทกล้าลงมือกับหลานสาวสุดที่รักของตนโจ่งแจ้งเช่นนี้ฝ่าบาทคงฟื้นสติคืนมาแล้วเป็นแน่"รวบรวมกองกำลังของเราทั้งหมดเตรียมบุกวังหลวง อย่าลืมรีบส่งข่าวถึงเจ้าสำนักพญายมส่งนักฆ่ามือดีมาสมทบด้วย""ขอรับ"หม่าเย่ารีบจัดการตามคำสั่งผู้เป็นเจ้านาย"เป็นอย่างไรบ้าง"มู่ตงหยวนหันไปถามบุตรีที่กำลังฝังเข็มเพื่อใช้วิชาควบคุมหุ่นเชิดแบบรวบรัดและเร่งด่วน"ต่อให้เป็นเทพเซียนมีตะบะแก่กล้ามากเพียงใดเจอวิชาฝังเข็มของข้าเข้าไปมีหรือจะรอดจากการควบคุมได้"มู่ตงหยวนมองบุตรีอย่างชื่นชมสมแล้วที่เขาฝึกนางฝังเข็ม จับกระบี่ตั้งแต่สิบขวบ"ดีที่เจ้ารอบคอบส่งแม่เจ้ากลับบ้านเกิดที่หลิงเจินตั้งแต่เช้ามืดแล้ว
"ช้าก่อนเพคะ" เยว่อันหนิงรีบขัดขึ้น"เหตุใดเจ้าถึงขัดประสงค์รัชทายาทเล่า""ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉันเดาว่าเรื่องนี้ต้องเป็นแผนบุกศึกสองด้านของคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเพคะ""ไหนลองว่ามาสิ""กราบทูลฝ่าบาทอย่างไม่ปิดบัง ตลอดเวลาเก้าปีที่หม่อมฉันหนีตายมาได้ หม่อมฉันสงสัยราชโองการของพระองค์จึงสืบหาความจริงมาตลอด จวบจนพบว่าเบื้องหลังโศกนาฏกรรมนองเลือดของสกุลเยว่คือเจ้ากรมตุลาการมู่และพระชายาในองค์ชายสามหลิงอันเซียวเพคะ""บังอาจ! กล้าใส่ร้ายโอรสกษัตริย์โทษประหารเก้าชั่วโคตร" หลี่กงกงรีบเอ่ยปกป้องราชนิกูลสวรรค์"หม่อมฉันมีหลักฐานทุกอย่าง"ฮ่องเต้มองหน้าเยว่อันหนิงอย่างพิจารณา"เจ้าช่างถอดแบบบิดาเสียจริง หลี่กงกง เจ้าไปเรียกแม่ทัพน้อยเฉินมาเข้าเฝ้าเราที""น้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ"หลี่กงกงรีบรุดไปทำตามคำสั่ง ทั้งห้องจึงตกอยู่ในความเงียบที่ตึงเครียดกว่าเดิม"คุณหนูห้ามีแผนการหรือไม่" รัชทายาทร้อนใจกลัวว่ากองทัพเขี้ยวหมาป่าจะต้านกองกำลังข้าศึกไม่ไหวจึงอยากหากุนซือมาช่วยวางแผนอีกที"ข้าศึกที่บุกแดนประจิมคงเป็นกองกำลังลับของแคว้นชิงเหิงที่ใต้เท้ามู่ตงหยวนซ่อนสุมไว้""เช่นนั้นเราควรรับมืออย่างไรดี"
:: ความขมขื่นของจักรพรรดิ ::"เรื่องราวทั้งหมดเป็นความผิดของเราเอง"เสียงสลดอย่างสำนึกผิดดังอย่างแผ่วเบาฮ่องเต้ค่อย ๆ เริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวันนั้นอย่างช้า ๆ"วันนั้นเรายังจำทุกอย่างได้ดี ซือเอ๋อร์เข้ามาหาเราที่ห้องบรรทมพร้อมกับโอสถถ้วยหนึ่ง บอกว่าพระชายาหลิงรู้ว่าเรานอนไม่ค่อยหลับจึงต้มโอสถนั้นมาให้""...""ครั้นเราดื่มแล้วก็รู้สึกมีกำลังวังชา เลือดลมในกายเดินดีกว่าปกติ หลังจากนั้นก็รู้สึกเหมือนร่างกายเบาหวิว หูเริ่มอื้ออึง สติเริ่มประคองไม่อยู่ ร่างกายเหมือนไม่เชื่อฟังความคิดสั่งการของตัวเราเอง""...""จากนั้นม้วนกระดาษก็ถูกคลี่ลงตรงหน้า เสียง ๆ หนึ่งบอกให้เราเขียนบางอย่างลงไป""หรือว่าจะเป็นราชโองการนั้น" รัชทายาทไป๋ต่งเหลียนเอ่ยขึ้นฮ่องเต้พยักหน้าเบา ๆ พระเนตรเศร้าหมองเหมือนจะฝ้าฟางไปด้วยมวลน้ำที่เอ่อคลอแต่ไม่อาจหลั่งออกมาได้"เรารู้สึกตัวอีกทีก็ได้รับข่าวร้ายของสกุลเยว่ไปแล้ว""หลังจากนั้นเสด็จพ่อก็ล้มป่วย สามวันดี สี่วันนอนป่วยบนเตียง เป็นเช่นนี้มาตลอดเก้าปีที่ผ่านมา"เสียงห่วงใยของไป๋ต่งเหลียนที่เล่าถึงอาการประชวรของพระบิดาดังขึ้น"คนพวกนั้นมากเล่ห์นัก ใช้องค์ชายส
"อื้อ~"ความป่าเถื่อนนี้เขาได้แต่ใดมา โชคดีที่ลูกกวาดนั้นไม่ไหลติดคอนางจนสิ้นใจแทน"อืม"เสียงคำรามอย่างพึงพอใจที่ได้ตบท้ายความขมด้วยลูกกวาดหวาน ๆ ที่หวานเป็นร้อยเท่าเมื่อลิ้มรสจากปากของคนรักอีกทีเฉินเจียนหลางบดเบียดจุมพิตเอาแต่ใจนั้นอย่างเสน่หาและเร่าร้อนความหวานจากลูกกวาดในโพรงปากนางหรือความหวานจากน้ำผึ้งแท้ของนางกันหนอที่หวานกว่ากันจนเขาเคลิ้มไหวเช่นนี้"ว้าย! ข...ข้าน้อยสมควรตาย ข้าน้อยไม่เห็นอะไรทั้งนั้นเจ้าค่ะ"นางกำนัลที่นำเสื้อผ้ามาให้ตามคำสั่งของรัชทายาทรีบหันหลังอย่างรู้สึกผิดเยว่อันหนิงรีบผลักบุรุษหื่นกามออกให้ห่างกายก่อนจะเดินไปยังนางกำนัลผู้นั้น"เจ้าช่วยข้าแต่งตัวที"แก้มนวลแดงปลั่ง ทั้งอายทั้งขายขี้หน้า แต่นางคงลงโทษคนเอาแต่ใจหื่นไม่เลือกที่อย่างเขาตอนนี้ไม่ได้ ทำได้เพียงหนีหน้าเขาก่อนเพื่อสงบจิตสงบใจที่เต้นรัวนี้ให้สงบลงห้องบรรทมฮ่องเต้รัชทายาทพาเยว่อันหนิงที่ปลอมตัวเป็นนางกำนัลเข้ามายังห้องบรรทมของฮ่องเต้แล้ว โดยมีหลี่กงกงที่ไว้ใจได้เฝ้าอยู่ด้านนอกตำหนัก"อาการเสด็จพ่อเป็นเช่นไรบ้าง"เยว่อันหนิงจับชีพจรฝ่าบาทแล้วฝังเข็มลงไปที่ศีรษะสามจุด ตรงหน้าอกสามจุดแล้วจึงลุก
:: เข้าเฝ้า ::ตำหนักบูรพา...หลังจากที่ทั้งคู่หนีออกมาจากกองเพลิงได้อย่างหวุดหวิว ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับศาลเทียนอวี่ก็พากันออกมามุงดูเพลิงไหม้ใหญ่ในครั้งนี้มู่ตงหยวนประกาศถึงการตายในกองเพลิงของแม่ทัพน้อยเฉินเจียนหลางแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่าจวนสกุลเฉินตกอยู่ในสภาพโศกเศร้ากับข่าวเท็จของผู้เป็นนายน้อยของจวน"พวกเจ้าเล่นใหญ่กันแล้ว"รัชทายาทไป๋ต่งเหลียนเอ่ยตำหนิเล็กน้อยกับแผนการแกล้งตายเพื่อตลบหลังศัตรูของคู่รักคู่นี้"จักจั่นลอกคราบ"เยว่อันหนิงกล่าวขึ้นเสียงพอใจกับผลงานของแผนการแกล้งตายเพื่อเกิดใหม่ในครั้งนี้"ไม่รู้ว่าทางศิษย์พี่เจ้าจะราบรื่นหรือไม่"เฉินเจียนหลางถามขึ้นหลังจากออกมาจากศาลเทียนอวี่สำเร็จ เฉินเจียนหลางก็รีบส่งข่าวให้ทางรัชทายาททราบถึงแผนการจักจั่นลอกคราบในครั้งนี้ รัชทายาทจึงรีบให้คนสนิทจัดเตรียมรถม้ารอและพาเข้าวังมาอย่างลับ ๆนี่ก็ผ่านมาสองชั่วยามกลายเป็นสายของวันใหม่ไปแล้วแต่ยังไม่มีข่าวคราวของเสียนต้วนอี้ส่งมาเลย"ไม่ต้องห่วง ต้วนอี้เก่งเรื่องการปลอมตัว"เยว่อันหนิงเอ่ยบอก"ไม่ทราบว่ายาที่หม่อมฉันให้รัชทายาทถวายแก่ฝ่าบาททรงได้ผลหรือไม่เพคะ"เยว่อันหนิงเปลี่ยนถาม







