“ลีโอ...ลีโอ ใช่เธอหรือเปล่า... ใช่ฮันน่าไหม ใช่! ต้องใช่เธอแน่!" น้ำเสียงของอีธานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง คำขอโทษของเธอเมื่อสักครู่ ยังคงก้องอยู่ในหัวใจของเขา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นศตวรรษ ชายหนุ่มก็ยังคงจดจำสรีระท่าทางของเธอได้เป็นอย่างดี นั่นฮันน่าภรรยาของเขา ต่อให้เธอแต่งหน้าทาปาก หรือว่าไม่เติมแต่งอะไรลงไปบนใบหน้าเขาก็จำได้จนติดตา ภาพของเธอยังคงตราตรึงในหัวใจของเขาอยู่ทุกวินาที แต่ที่เขาสงสัยในตอนนี้ก็คือเธอมาทำอะไรที่นี่ เพราะนี่คือโรงแรมของเขา
“คุณฮันน่าล้านเปอร์เซ็นต์ครับนาย" ดูเหมือนว่าในเวลานี้ ลีโอก็มีความตื่นเต้นไม่แพ้เจ้านายหนุ่มของเขาเช่นกัน
“จะรออะไรล่ะ รีบตามเธอไป วันนี้ฉันจะรู้ให้ได้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหนกับใคร เธอหายไปไหนมา" น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความดีใจ แววตาที่เป็นประกายบ่งบอกให้รู้ว่าหัวใจที่ตายด้านกำลังจะฟื้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
“แต่คุณศิลารอนายอยู่นะครับ" ลีโอรีบพูดดักเจ้านายขึ้น เพราะวันนี้เป็นนัดสำคัญ เนื่องจากจะมีการลงนามเซ็นสัญญาในการสร้างคอนโดแห่งใหม่
“ต่อให้เป็นเทวดานัดเจอ ฉันก็ไม่มีทางไปพบ เพราะตอนนี้ไม่มีใครสำคัญไปกว่าฮันน่าภรรยาของฉัน"
คราวนี้อีธานไม่รีรอเขารีบวิ่งออกไปจากโรงแรม ขณะที่ลีโอก็วิ่งตามเจ้านายหนุ่มไปติดๆ ทั้งสองวิ่งไปที่ลานจอดรถ ซึ่งมีไว้สำหรับส่วนบุคคล และคนที่จอดได้ก็มีแต่อีธานเท่านั้น ภายในใจของเขาก็ได้แต่ภาวนา ขอให้ฮันน่ายังไม่มีใคร หรือถ้ามีแล้วก็ขอให้เลิกกันไป ฟังดูอาจจะเห็นแก่ตัวไปบ้าง แต่ถ้าใครได้มาตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเขา ก็คงจะรู้ว่ามันทรมานใจแค่ไหน ที่ต้องพรากจากคนที่เขารัก โดยที่ไม่ได้เอ่ยลาสักคำ
รถเก๋งสีบรอนซ์ขับออกไปจากโรงแรมหรู แล้วตรงไปที่ร้านดอกไม้ในทันที เธอไม่ได้เอะใจว่าจะมีใครตามมา ในเวลานี้หญิงสาวได้แต่หวังว่าชีวิตจะราบรื่น กิจการร้านรับจัดดอกไม้ไปได้สวยมีเงินส่งลูกเรียนสูงๆ เธอไม่ปรารถนาที่จะให้ลูกทั้งสองลำบากเหมือนอย่างที่เธอเคยประสบมา เมื่อกันยาและตุลาเป็นดั่งลมหายใจของเธอ ต่อให้ฮันน่าต้องใช้ความพยายามแค่ไหน เธอก็จะสู้ให้สุดใจ เพื่อลูกทั้งสองเดินทางไปถึงเส้นชัยให้ได้
ในขณะที่รถยนต์คันหรูของอีธานขับตามฮันน่าออกไปจากโรงแรม เป็นจังหวะที่รถของมุกมายาขับเข้ามาพอดี เพราะวันนี้หล่อนตั้งใจจะมายั่วเขาเต็มที่ หญิงสาวยังคงแต่งตัวเซ็กซี่เหมือนดังเฉกเช่นทุกวัน เพราะเสี่ยศิลาบิดาของเธอนั้น อยากรวบหัวรวบหางอีธานมาเป็นลูกเขย ทั้งที่มุกมายายังเรียนไม่จบปริญญาตรีด้วยซ้ำ แต่เสี่ยศิลาเป็นนักธุรกิจที่คำนึงถึงประโยชน์ของตนเป็นหลักมากกว่าสิ่งใด จึงไม่แปลกใจที่เขาจะใช้ลูกสาวเป็นสะพานก้าวไปสู่ความสำเร็จ
เมื่อรถยนต์คันหรูของอีธานได้ขับตามรถเก๋งคันสีบรอนซ์ ไปถึงร้านดอกไม้ จึงทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจ ฮันน่ามาทำอะไรที่นี่ เจ้านายหนุ่มและลูกน้องคนสนิทได้นั่งอยู่ในรถเพื่อดักรอฮันน่า จนเวลาล่วงเลยไปเกือบชั่วโมงก็ไม่มีทีท่าว่าเธอจะออกมาจากร้าน
“นายครับ... คุณฮันน่าเธอไปสั่งดอกไม้หรือว่าไปปลูกกันแน่ ทำไมนานแบบนี้" ลีโอนั่งกุมพวงมาลัยมองไปที่ร้านดอกไม้ แล้วถามออกมาอย่างไม่คิด ก่อนจะรีบหลบหน้าเจ้านายหนุ่ม เมื่อสายตาพิฆาตของเขาจ้องมองมาที่ลูกน้องคนสนิทอย่างเอาเรื่อง
“ต่อให้ฉันต้องนั่งรอเธอทั้งวันฉันก็จะรอ อย่าลืมสิ...ลีโอ ฉันรอมาตั้งสิบกว่าปี ทำไมเวลานี้ฉันจะรอไม่ได้"
น้ำเสียงที่แผ่วเบาของอีธานบ่งบอกให้รู้ว่าเขาพยายามเก็บกลั้นความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ในใจมากแค่ไหน เมื่อความคิดถึงทำให้ชายหนุ่มปวดร้าวไปทั้งดวงวิญญาณ ที่เขามีชีวิตรอดกลับมาได้ เหตุผลที่เขายังไม่อยากตาย และยอมต่อสู้กับความเจ็บปวดที่แสนสาหัส
ทั้งที่โอกาสรอดมีไม่กี่เปอร์เซ็นต์ แต่เขาก็ต่อสู้กับยมราช ที่พยายามจะพรากเขาไปจากโลกใบนี้ที่เขาอยากอยู่ต่อก็เพื่อฮันน่า เพราะอีธานอยากทราบเหตุผลที่หญิงสาวทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดี ทั้งที่เขาปรารถนาจะรับผิดชอบและดูแลชีวิตของเธอ แต่ทำไมหญิงสาวถึงเลือกที่จะหนีเขาไปทั้งที่ตัวเองก็มีใจ อีธานดูออกว่าเธอก็รักเขาเช่นกัน
“นายครับให้ผมตามคุณฮันน่าเข้าไปในร้านดีไหมครับ" เมื่อรอนานเกินไปลีโอก็รู้สึกเบื่อที่จะนั่งอยู่ในรถแบบนี้ เขาจึงเสนอความคิดเห็นออกไป เผื่อเจ้านายหนุ่มจะเห็นด้วย“อืม... ก็ดีเหมือนกันถ้าอย่างนั้นนายก็ช่วยให้เจ้าของร้านจัดดอกไม้สำหรับเซอร์ไพรส์คนรักให้ฉันสักช่อก็แล้วกัน เพราะถ้านายเข้าไปเฉยๆ เจ้าของร้านเขาอาจจะสงสัย คิดว่าเราไปสืบอะไรหรือเปล่า" ในเวลานี้ใบหน้าและแววตาของอีธาน เต็มไปด้วยความหวังที่จะได้พบกับฮันน่าอีกครั้ง และเขาก็คิดว่าจะไม่มีทางปล่อยมือเธอให้ไปไหนได้อีกแล้ว
“ตกลงครับนาย" เมื่อรับคำสั่งผู้เป็นเจ้านายเรียบร้อยแล้วลีโอจึงค่อยๆ เปิดประตูรถ แล้วก้าวเท้าเดินตรงไปยังร้านดอกไม้ เขาเคยพบฮันน่าหลายครั้ง แต่ก็ไม่ค่อยได้เผชิญหน้ากันตรงๆ ลีโอจึงคิดว่าเธอคงจำเขาไม่ได้ เพราะเวลาผ่านไปตั้งสิบกว่าปี และตอนนี้เขาก็ดูมีร่างกายที่ท้วมกว่าเดิมมาก
“สวัสดีค่ะคุณลูกค้าสะดวกรับแบบไหนคะ ทางร้านเรามีบริการนอกสถานที่ด้วยนะ หรือจะรับเป็นช่อสำหรับมอบให้กับคนพิเศษ อ้อ....ทางร้านเรามีแบบให้เลือกด้วยนะคะ เชิญเลยค่ะคุณลูกค้า" กันยาเดินออกมารับลูกค้า พร้อมกับคำถามที่คล่องปร๋อ ราวกับเป็นแม่ค้าที่ชำนาญด้านการค้าขายเป็นอย่างดี จากนั้นเธอได้เชื้อเชิญลีโอไปนั่งที่โซฟา เพื่อดูอัลบั้มรูปภาพ สำหรับดูแบบและราคาที่ทางร้านไปตั้งเอาไว้
“สวัสดีค่ะ เชิญเลยค่ะเดี๋ยวดิฉันจะขึ้นไปส่งคุณธาวินได้แจ้งเอาไว้แล้ว" พนักงานสาวสวยยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับกล่าวทักทายฮันน่าจากนั้นหล่อนก็ได้เดินนำหน้าหญิงสาวตรงไปยังลิฟต์ เพราะอีธานอยู่ชั้นบนสุด คือชั้นเก้าและที่สำคัญชั้นนั้นมีเพียงแค่เขาอาศัยอยู่ เพราะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเหมือนบ้านมากกว่าโรงแรมพอฮันน่าเดินออกเดินออกมาจากลิฟต์พนักงานสาวก็ได้กลับลงไปทันที ในเวลานี้ หญิงสาวกำลังตกอยู่ในภวังค์การออกแบบที่ดูน่าอยู่น่าอาศัย ฮันน่ากวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนที่ลีโอจะเดินเข้ามาหาเธอ “เชิญครับ นายให้คุณเข้าไปรออยู่ในห้อง เอาช่อดอกไม้มาเดี๋ยวผมถือเอง เชิญคุณผู้หญิงเข้าไปด้านในเลยครับ" ในเวลานี้ฮันน่าทำตัวไม่ถูกบวกกับความแปลกใจเธอเป็นแค่คนส่งดอกไม้แล้วทำไมต้องเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านในของห้องด้วย แล้วถ้าเขาคิดไม่ซื่อกับเธอจะทำยังไงดี หรือว่าเธอกำลังมองโลกในแง่ร้ายเกินไป ในเมื่อเขาก็มีภรรยาอยู่แล้ว ผู้ชายคนนั้นอาจจะให้เธอเข้าไปนั่งรอ เพื่อจ่ายเงินที่เหลือก็ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นฮันน่า จึงยอมเดินเข้าไปในห้อง และเธอก็ถึงกับตกตะลึงในความหรูหราโอ่อ่าของห้องนี้
“อืม...ออกรถสิ ฉันยอมคุณศิลาจริงๆ ขนาดเลทตั้งหลายชั่วโมงก็ยังจะรอ แสดงว่าโปรเจคนี้คงมีความสำคัญกับเขามาก" อีธานรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง ที่เสี่ยศิลาไม่ยอมเลื่อนนัด เพราะไม่อย่างนั้นแล้วละก็ เขาคงจะแอบเฝ้ามองฮันน่ากับลูกทั้งวัน แต่ตอนนี้เขาคงต้องไปพบหุ้นส่วนรายสำคัญก่อน “อุ้ย! เกือบลืมค่ะแม่นี่เงินค่าช่อดอกไม้พร้อมกับค่ามัดจำช่อใหม่ และนี่นามบัตร" ฮันน่ารับเงินค่าช่อดอกไม้มาจากลูกสาว พร้อมกับนามบัตรแบบงงๆ “คืออะไรกันยา ค่าดอกไม้หกพันส่วนอีกสี่พันค่ามัดจำช่อใหม่หมายความว่ายังไง"ฮันน่าถามลูกสาวออกมาด้วยความแปลกใจ และเมื่อเห็นนามสกุลของนายธาวินที่อยู่บนนามบัตร เธอถึงกับทำตาโตพร้อมกับเอามือขึ้นมาป้องปากเอาไว้ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่นามสกุลก็ทำให้ใจของเธอนั้นเต้นแรง เพราะสิบกว่าปีมาแล้วที่เธอนั้นไม่ได้ข่าวของอีธาน แต่หญิงสาวก็ปรารถนาอยากให้เขามีชีวิตอยู่ ถึงแม้ว่าเธอนั้นไม่อยากพบเจอกับเขาก็ตามที“คุณธาวินเขาสั่งดอกไม้ที่ร้านของเราช่อละเป็นหมื่นเลยนะคะแม่ และ
ในเวลานี้ต่างคนต่างก็จ้องมองกันด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งสองรู้แค่เพียงว่าภายในใจมันรู้สึกดี กันยาเองก็รู้สึกผูกพันกับแววตาของชายหนุ่ม เธอรู้สึกอบอุ่นเวลาที่ได้จ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้า อีธานดูเป็นผู้ใหญ่หล่อสมาร์ตเท่และมีเสน่ห์มาก แต่ความรู้สึกของกันยาเขาเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ที่กำลังจ้องมองเธออย่างเอ็นดู ไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง อีธานยังคงมองไปที่ใบหน้าของกันยาด้วยความรู้สึกถูกชะตา ทันใดนั้นเองเขาได้คิดแผนการบางอย่างขึ้นมา ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้ มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องชดเชยเวลาทั้งหมด เพื่อกลับมาเป็นครอบครัว ดั่งที่ใจเขาเคยปรารถนาเอาไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งเธอเองเป็นคนปฏิเสธและทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดี “ดอกไม้สวยมาก ค่าเดินมาส่งสี่พันรวมเป็น หนึ่งหมื่นหนูนับก่อนก็ได้นะ" อีธานหยิบธนบัตรส่งให้กันยา พร้อมกับเอื้อมมือไปรับช่อดอกไม้จากหญิงสาวมาวางไว้ที่เบาะหลัง “ขอบคุณมากนะคะที่ใช้บริการร้านของเรา แต่กันยาคง
“อืม...ผมเอาช่อนี้ครับ" ลีโอชี้ลงไปที่ภาพของดอกไม้ช่อใหญ่ ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง “ว้าว! แฟนคุณคงดีใจมากเลย นั่งรอสักครู่นะคะ" กันยายิ้มแฉ่งออกมาด้วยใบหน้าที่สดใส ใครเห็นก็บอกว่าโลกทั้งใบเป็นของเธอ เพราะรอยยิ้มที่พิมพ์ใจไม่ต่างจากอีธาน เพียงแค่เค้าโครงใบหน้าเธอได้มารดามาเต็มๆ “พี่แป้งรับออเดอร์ด้วยค่ะ" กันยาตะโกนออกไปเสียงดัง เพราะตอนนี้ไม่มีใครอยู่หน้าร้าน เธอลืมไปว่าทุกคนไปพักรับประทานมื้อกลางวันกันหมด “กันยา...แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าตะโกนเสียงดัง อุ๊ย! ตายแล้ว... ขอโทษด้วยนะคะคุณลูกค้า ที่ลูกสาวดิฉันเผลอเสียมารยาท ตะโกนออกมาเสียงดังแบบนี้" ฮันน่าลุกออกมาจากโต๊ะทำงาน ซึ่งเธอกำลังเช็กออเดอร์ ดูรายชื่อลูกค้าในการจัดงานนอกสถานที่ของเดือนนี้ เมื่อได้ยินเสียงลูกสาวเรียกแป้งร่ำดังลั่นออกมาแบบนั้น ทำให้หญิงสาวร่างอรชรเดินออกมาดูหน้าร้าน
“ลีโอ...ลีโอ ใช่เธอหรือเปล่า... ใช่ฮันน่าไหม ใช่! ต้องใช่เธอแน่!" น้ำเสียงของอีธานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง คำขอโทษของเธอเมื่อสักครู่ ยังคงก้องอยู่ในหัวใจของเขา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นศตวรรษ ชายหนุ่มก็ยังคงจดจำสรีระท่าทางของเธอได้เป็นอย่างดี นั่นฮันน่าภรรยาของเขา ต่อให้เธอแต่งหน้าทาปาก หรือว่าไม่เติมแต่งอะไรลงไปบนใบหน้าเขาก็จำได้จนติดตา ภาพของเธอยังคงตราตรึงในหัวใจของเขาอยู่ทุกวินาที แต่ที่เขาสงสัยในตอนนี้ก็คือเธอมาทำอะไรที่นี่ เพราะนี่คือโรงแรมของเขา “คุณฮันน่าล้านเปอร์เซ็นต์ครับนาย" ดูเหมือนว่าในเวลานี้ ลีโอก็มีความตื่นเต้นไม่แพ้เจ้านายหนุ่มของเขาเช่นกัน “จะรออะไรล่ะ รีบตามเธอไป วันนี้ฉันจะรู้ให้ได้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหนกับใคร เธอหายไปไหนมา" น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความดีใจ แววตาที่เป็นประกายบ่งบอกให้รู้ว่าหัวใจที่ตายด้านกำลังจะฟื้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง “แต่คุณศิลารอนายอยู่
“ความจริงแล้วผมใช้บริการที่ร้านดอกไม้ ของคุณมานานแล้วนะครับ แต่ผมพึ่งรู้ว่าเจ้าของร้านตัวจริงคือคุณฮันน่า ผมคิดว่าเป็นคุณเรยาซะอีก" ฮันน่ารู้สึกเกลียดแววตาของเสี่ยศิลาเหลือเกิน มันดูน่าขนลุกยังไงก็ไม่รู้ ซึ่งเธอไม่เคยได้สัมผัสกับแววตาน่าขยะแขยงแบบนี้มานานแล้ว แต่ฮันน่าก็ต้องทำใจดีสู้เสือ เพราะเขาได้กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ดูเหมือนว่าเสี่ยศิลาจะมีออเดอร์เข้าร้านของเธอบ่อยๆ“ขอบคุณนะคะที่ไว้ใจร้านเรา พอดีว่าลูกโตขึ้น ก็เลยพาเด็กๆ ย้ายมาเข้าเรียนที่นี่ แต่ก่อนดิฉันให้พี่สาวดูแลกิจการให้ แต่ตอนนี้คงต้องเข้ามาดูแลเองทั้งหมดแล้วละค่ะ" คำบอกเล่าของฮันน่าทำให้เสี่ยศิลาถึงกับหน้าเสีย เพราะเขาไม่คิดว่าเธอนั้นจะมีครอบครัวแล้ว แต่ผู้ชายอย่างเขาก็ยังข้องใจ ทำไมไปที่ร้านตั้งหลายครั้ง กลับไม่เคยพบกับสามีของเธอ “คุณเป็นคุณแม่ที่สวยที่สุดในโลกเลยนะครับ สามีของคุณช่างเป็นผู้ชายที่โชคดี ผมชักอยากจะเห็นหน้าอยากทำความรู้จักเขาซะแล้ว" เวลานี้กลายเป็นฮันน่าที่มีสายตาล่อกแล่ก เธอไม่ได้กลัวที่จะบอกเขาว่าเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่หญิงสาวอยากให้ศิลาเข้าใจว่าเธอนั้นมีลูกมีสามีแล้ว เขาไม่ควรทำ