“อืม...ผมเอาช่อนี้ครับ" ลีโอชี้ลงไปที่ภาพของดอกไม้ช่อใหญ่ ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง
“ว้าว! แฟนคุณคงดีใจมากเลย นั่งรอสักครู่นะคะ" กันยายิ้มแฉ่งออกมาด้วยใบหน้าที่สดใส ใครเห็นก็บอกว่าโลกทั้งใบเป็นของเธอ เพราะรอยยิ้มที่พิมพ์ใจไม่ต่างจากอีธาน เพียงแค่เค้าโครงใบหน้าเธอได้มารดามาเต็มๆ
“พี่แป้งรับออเดอร์ด้วยค่ะ" กันยาตะโกนออกไปเสียงดัง เพราะตอนนี้ไม่มีใครอยู่หน้าร้าน เธอลืมไปว่าทุกคนไปพักรับประทานมื้อกลางวันกันหมด
“กันยา...แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าตะโกนเสียงดัง อุ๊ย! ตายแล้ว... ขอโทษด้วยนะคะคุณลูกค้า ที่ลูกสาวดิฉันเผลอเสียมารยาท ตะโกนออกมาเสียงดังแบบนี้" ฮันน่าลุกออกมาจากโต๊ะทำงาน ซึ่งเธอกำลังเช็กออเดอร์ ดูรายชื่อลูกค้าในการจัดงานนอกสถานที่ของเดือนนี้ เมื่อได้ยินเสียงลูกสาวเรียกแป้งร่ำดังลั่นออกมาแบบนั้น ทำให้หญิงสาวร่างอรชรเดินออกมาดูหน้าร้าน
“ลูกสาว!" ดูเหมือนว่าลีโอเองก็ตกใจไม่น้อย ที่ฮันน่าบอกกับเขาว่ากันยาเป็นลูกสาวของเธอ
“รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะไปจัดการให้พอดีว่าเด็กหน้าร้านไปทานมื้อกลางวันกัน" ฮันน่าส่งยิ้มบางๆ ให้กับลีโอ จากนั้นหญิงสาวได้ปลีกตัวไปจัดช่อดอกไม้ ตามแบบที่ชายหนุ่มเลือกเอาไว้ เพราะเธอกับลูกๆ รับประทานมื้อเที่ยงเสร็จก็จะผลัดกันกับเทียนหอมและแป้งร่ำ
“คุณแม่จัดได้สวยมากเลยค่ะ กุหลาบขาวหมายถึงความรักที่บริสุทธิ์ใช่ไหมคะแม่" กันยายืนดูมารดาของเธอจัดดอกไม้ด้วยความพิถีพิถันในขณะที่หญิงสาวนั้นก็ตั้งใจและพยายามจดจำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้ เพราะเธออยากจัดดอกไม้ให้เก่งเหมือนกับมารดาบ้าง
“ใช่แล้วจ้ะ กุหลาบขาวหมายถึงความรักที่บริสุทธิ์"
“เอ่อ... ขอโทษนะครับ ถ้าเกิดว่าจัดเสร็จแล้ว ให้น้องเอาไปส่งที่รถคันนั้นได้ไหมครับ" ลีโอลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอ่ยถามฮันน่าออกมา เมื่อชายหนุ่มกำลังมีลางสังหรณ์ว่ากันยาจะเป็นลูกสาวของอีธานหรือเปล่า เพราะเธอมีรอยยิ้มที่เหมือนเจ้านายหนุ่มของเขามาก
“คันนั้นใช่ไหมคะ ได้เลยค่ะเดี๋ยวดิฉันจะให้ เด็กเอาไปส่งให้นะคะ" ฮันน่าชี้ไปที่รถของอีธาน ซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลจากร้านของเธอ ลีโอพยักหน้าให้กับหญิงสาว พร้อมกับส่งยิ้มให้กับเธอ ก่อนจะเดินออกไปจากร้านด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เมื่อเขากำลังมีข่าวสำคัญที่จะต้องไปรายงานเจ้านายหนุ่มให้ทราบ
พอขึ้นมาบนรถลีโอมีใบหน้าและแววตา ที่ทำให้อีธานยิ่งอยากรู้ว่าเขาไปพบเจออะไรมาบ้าง เจ้านายหนุ่มจ้องไปที่ใบหน้าของลูกน้องคนสนิท ในเวลานี้เขาอยากรู้เรื่องราวของฮันน่าเต็มที
“นี่! นายจะทำท่าทางคิดอีกนานไหมลีโอ ฉันอยากรู้ว่าฮันน่ายังอยู่ที่นั่นหรือเปล่าแล้วเธอเข้าไปทำอะไรที่ร้านดอกไม้ทำไมถึงไม่ออกมาสักที" อีธานพูดออกมาด้วยท่าทางที่หงุดหงิดใจ เพราะลีโอเอาแต่อ้ำอึ้งไม่พูดไม่จาอะไรออกมาสักที
“ผมไม่รู้ว่าคุณฮันน่าเป็นลูกจ้างหรือเจ้าของร้านกันแน่ แต่ที่ผมรู้คือ..." ตอนนี้ลีโอเริ่มไม่มั่นใจว่าสมควรจะพูดออกไปหรือไม่ เขากลัวเหลือเกินถ้าหากฮันน่าแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว เจ้านายหนุ่มของเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง
“ลีโอนายเป็นคนแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มีอะไรก็พูดมาสิฉันยิ่งร้อนใจอยู่ด้วย" ดูเหมือนว่าเวลานี้เจ้านายหนุ่มของเขากำลังพยายามข่มอารมณ์โกรธเอาไว้
“เธอมีลูกที่โตเป็นสาวแล้วครับ!" ลีโอตัดสินใจพูดออกมาเสียงดังฟังชัด ทำให้อีธานนั้นสตันไปชั่วขณะ เพราะเขาไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคแบบนี้ ภายในใจของเขาเริ่มรู้สึกเคว้งคว้างขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อคิดว่าผู้หญิงที่เขารอมาทั้งชีวิต เธอกลับมีครอบครัวไปแล้ว ต่อให้เขาเป็นผู้ชายที่แย่แค่ไหนก็คงไม่สามารถที่จะพรากลูกพรากเมียของใคร เมื่ออีธานก็คอยลิ้มรสบ้านแตกสาแหรกขาดมาแล้ว ชายหนุ่มจึงไม่ปรารถนาที่จะเห็นใครมีชะตากรรมเดียวกับเขาเช่นกัน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! กันยาเรียกคนที่นั่งอยู่ในรถเป็นนานสองนาน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ เธอจึงตัดสินใจเคาะไปที่กระจกของรถหลายที อีธานค่อยๆ ลดกระจกลง เมื่อกันยาถือดอกไม้เดินมาฝั่งประตูของผู้โดยสาร เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าของกันยาทำให้ชายหนุ่มถึงกับรู้สึกผูกพันอย่างน่าแปลกใจ และเมื่อได้มองเข้าไปในดวงตาคู่สวยของเธอยิ่งทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับเขาเคยรู้จักเธอมาก่อน แต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหนเท่านั้นเอง มันดูเลือนรางแต่ก็มั่นใจว่าเคยจ้องแววตาคู่นี้มาก่อนอย่างแน่นอน
“คุณแม่ให้กันยาเอาดอกไม้มาส่งค่ะ ช่อนี้หกพันบาทนะคะ" กันยายื่นช่อดอกไม้ให้กับอีธาน พร้อมกับยิ้มแฉ่งออกมาตามสไตล์ของเธอ แต่กลับยิ่งทำให้ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงรอยยิ้มและแววตาที่สดใส นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าดีเอ็นเออยู่บนใบหน้า ชายหนุ่มดูจากหน้าตาและอายุของเธอแล้ว ทำให้อีธานมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่ากันยาคือลูกสาวของเขา
นับจากวินาทีนี้มันถึงเวลาแล้วที่เขาจะเรียกร้องทุกอย่างคืนมาจากฮันน่า รวมทั้งตัวเธอด้วย เมื่อเธอคือผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของเขา และที่สำคัญเธอช่างร้ายกาจนัก ที่ทำให้เขาหลงรัก แล้วยังมีหน้าหอบลูกในท้องหายเข้ากลีบเมฆ และอีกสิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจในตัวของฮันน่า ชายหนุ่มเชื่อว่าผู้หญิงเธอไม่มีทางหาพ่อเลี้ยงให้กับลูกอย่างแน่นอน
“สวัสดีค่ะ เชิญเลยค่ะเดี๋ยวดิฉันจะขึ้นไปส่งคุณธาวินได้แจ้งเอาไว้แล้ว" พนักงานสาวสวยยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับกล่าวทักทายฮันน่าจากนั้นหล่อนก็ได้เดินนำหน้าหญิงสาวตรงไปยังลิฟต์ เพราะอีธานอยู่ชั้นบนสุด คือชั้นเก้าและที่สำคัญชั้นนั้นมีเพียงแค่เขาอาศัยอยู่ เพราะถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเหมือนบ้านมากกว่าโรงแรมพอฮันน่าเดินออกเดินออกมาจากลิฟต์พนักงานสาวก็ได้กลับลงไปทันที ในเวลานี้ หญิงสาวกำลังตกอยู่ในภวังค์การออกแบบที่ดูน่าอยู่น่าอาศัย ฮันน่ากวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนที่ลีโอจะเดินเข้ามาหาเธอ “เชิญครับ นายให้คุณเข้าไปรออยู่ในห้อง เอาช่อดอกไม้มาเดี๋ยวผมถือเอง เชิญคุณผู้หญิงเข้าไปด้านในเลยครับ" ในเวลานี้ฮันน่าทำตัวไม่ถูกบวกกับความแปลกใจเธอเป็นแค่คนส่งดอกไม้แล้วทำไมต้องเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านในของห้องด้วย แล้วถ้าเขาคิดไม่ซื่อกับเธอจะทำยังไงดี หรือว่าเธอกำลังมองโลกในแง่ร้ายเกินไป ในเมื่อเขาก็มีภรรยาอยู่แล้ว ผู้ชายคนนั้นอาจจะให้เธอเข้าไปนั่งรอ เพื่อจ่ายเงินที่เหลือก็ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นฮันน่า จึงยอมเดินเข้าไปในห้อง และเธอก็ถึงกับตกตะลึงในความหรูหราโอ่อ่าของห้องนี้
“อืม...ออกรถสิ ฉันยอมคุณศิลาจริงๆ ขนาดเลทตั้งหลายชั่วโมงก็ยังจะรอ แสดงว่าโปรเจคนี้คงมีความสำคัญกับเขามาก" อีธานรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง ที่เสี่ยศิลาไม่ยอมเลื่อนนัด เพราะไม่อย่างนั้นแล้วละก็ เขาคงจะแอบเฝ้ามองฮันน่ากับลูกทั้งวัน แต่ตอนนี้เขาคงต้องไปพบหุ้นส่วนรายสำคัญก่อน “อุ้ย! เกือบลืมค่ะแม่นี่เงินค่าช่อดอกไม้พร้อมกับค่ามัดจำช่อใหม่ และนี่นามบัตร" ฮันน่ารับเงินค่าช่อดอกไม้มาจากลูกสาว พร้อมกับนามบัตรแบบงงๆ “คืออะไรกันยา ค่าดอกไม้หกพันส่วนอีกสี่พันค่ามัดจำช่อใหม่หมายความว่ายังไง"ฮันน่าถามลูกสาวออกมาด้วยความแปลกใจ และเมื่อเห็นนามสกุลของนายธาวินที่อยู่บนนามบัตร เธอถึงกับทำตาโตพร้อมกับเอามือขึ้นมาป้องปากเอาไว้ แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่นามสกุลก็ทำให้ใจของเธอนั้นเต้นแรง เพราะสิบกว่าปีมาแล้วที่เธอนั้นไม่ได้ข่าวของอีธาน แต่หญิงสาวก็ปรารถนาอยากให้เขามีชีวิตอยู่ ถึงแม้ว่าเธอนั้นไม่อยากพบเจอกับเขาก็ตามที“คุณธาวินเขาสั่งดอกไม้ที่ร้านของเราช่อละเป็นหมื่นเลยนะคะแม่ และ
ในเวลานี้ต่างคนต่างก็จ้องมองกันด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งสองรู้แค่เพียงว่าภายในใจมันรู้สึกดี กันยาเองก็รู้สึกผูกพันกับแววตาของชายหนุ่ม เธอรู้สึกอบอุ่นเวลาที่ได้จ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้า อีธานดูเป็นผู้ใหญ่หล่อสมาร์ตเท่และมีเสน่ห์มาก แต่ความรู้สึกของกันยาเขาเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ที่กำลังจ้องมองเธออย่างเอ็นดู ไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง อีธานยังคงมองไปที่ใบหน้าของกันยาด้วยความรู้สึกถูกชะตา ทันใดนั้นเองเขาได้คิดแผนการบางอย่างขึ้นมา ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้ มันถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องชดเชยเวลาทั้งหมด เพื่อกลับมาเป็นครอบครัว ดั่งที่ใจเขาเคยปรารถนาเอาไว้ตั้งแต่ต้น ซึ่งเธอเองเป็นคนปฏิเสธและทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดี “ดอกไม้สวยมาก ค่าเดินมาส่งสี่พันรวมเป็น หนึ่งหมื่นหนูนับก่อนก็ได้นะ" อีธานหยิบธนบัตรส่งให้กันยา พร้อมกับเอื้อมมือไปรับช่อดอกไม้จากหญิงสาวมาวางไว้ที่เบาะหลัง “ขอบคุณมากนะคะที่ใช้บริการร้านของเรา แต่กันยาคง
“อืม...ผมเอาช่อนี้ครับ" ลีโอชี้ลงไปที่ภาพของดอกไม้ช่อใหญ่ ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง “ว้าว! แฟนคุณคงดีใจมากเลย นั่งรอสักครู่นะคะ" กันยายิ้มแฉ่งออกมาด้วยใบหน้าที่สดใส ใครเห็นก็บอกว่าโลกทั้งใบเป็นของเธอ เพราะรอยยิ้มที่พิมพ์ใจไม่ต่างจากอีธาน เพียงแค่เค้าโครงใบหน้าเธอได้มารดามาเต็มๆ “พี่แป้งรับออเดอร์ด้วยค่ะ" กันยาตะโกนออกไปเสียงดัง เพราะตอนนี้ไม่มีใครอยู่หน้าร้าน เธอลืมไปว่าทุกคนไปพักรับประทานมื้อกลางวันกันหมด “กันยา...แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าตะโกนเสียงดัง อุ๊ย! ตายแล้ว... ขอโทษด้วยนะคะคุณลูกค้า ที่ลูกสาวดิฉันเผลอเสียมารยาท ตะโกนออกมาเสียงดังแบบนี้" ฮันน่าลุกออกมาจากโต๊ะทำงาน ซึ่งเธอกำลังเช็กออเดอร์ ดูรายชื่อลูกค้าในการจัดงานนอกสถานที่ของเดือนนี้ เมื่อได้ยินเสียงลูกสาวเรียกแป้งร่ำดังลั่นออกมาแบบนั้น ทำให้หญิงสาวร่างอรชรเดินออกมาดูหน้าร้าน
“ลีโอ...ลีโอ ใช่เธอหรือเปล่า... ใช่ฮันน่าไหม ใช่! ต้องใช่เธอแน่!" น้ำเสียงของอีธานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง คำขอโทษของเธอเมื่อสักครู่ ยังคงก้องอยู่ในหัวใจของเขา ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นศตวรรษ ชายหนุ่มก็ยังคงจดจำสรีระท่าทางของเธอได้เป็นอย่างดี นั่นฮันน่าภรรยาของเขา ต่อให้เธอแต่งหน้าทาปาก หรือว่าไม่เติมแต่งอะไรลงไปบนใบหน้าเขาก็จำได้จนติดตา ภาพของเธอยังคงตราตรึงในหัวใจของเขาอยู่ทุกวินาที แต่ที่เขาสงสัยในตอนนี้ก็คือเธอมาทำอะไรที่นี่ เพราะนี่คือโรงแรมของเขา “คุณฮันน่าล้านเปอร์เซ็นต์ครับนาย" ดูเหมือนว่าในเวลานี้ ลีโอก็มีความตื่นเต้นไม่แพ้เจ้านายหนุ่มของเขาเช่นกัน “จะรออะไรล่ะ รีบตามเธอไป วันนี้ฉันจะรู้ให้ได้ว่าเธอพักอยู่ที่ไหนกับใคร เธอหายไปไหนมา" น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความดีใจ แววตาที่เป็นประกายบ่งบอกให้รู้ว่าหัวใจที่ตายด้านกำลังจะฟื้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง “แต่คุณศิลารอนายอยู่
“ความจริงแล้วผมใช้บริการที่ร้านดอกไม้ ของคุณมานานแล้วนะครับ แต่ผมพึ่งรู้ว่าเจ้าของร้านตัวจริงคือคุณฮันน่า ผมคิดว่าเป็นคุณเรยาซะอีก" ฮันน่ารู้สึกเกลียดแววตาของเสี่ยศิลาเหลือเกิน มันดูน่าขนลุกยังไงก็ไม่รู้ ซึ่งเธอไม่เคยได้สัมผัสกับแววตาน่าขยะแขยงแบบนี้มานานแล้ว แต่ฮันน่าก็ต้องทำใจดีสู้เสือ เพราะเขาได้กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ดูเหมือนว่าเสี่ยศิลาจะมีออเดอร์เข้าร้านของเธอบ่อยๆ“ขอบคุณนะคะที่ไว้ใจร้านเรา พอดีว่าลูกโตขึ้น ก็เลยพาเด็กๆ ย้ายมาเข้าเรียนที่นี่ แต่ก่อนดิฉันให้พี่สาวดูแลกิจการให้ แต่ตอนนี้คงต้องเข้ามาดูแลเองทั้งหมดแล้วละค่ะ" คำบอกเล่าของฮันน่าทำให้เสี่ยศิลาถึงกับหน้าเสีย เพราะเขาไม่คิดว่าเธอนั้นจะมีครอบครัวแล้ว แต่ผู้ชายอย่างเขาก็ยังข้องใจ ทำไมไปที่ร้านตั้งหลายครั้ง กลับไม่เคยพบกับสามีของเธอ “คุณเป็นคุณแม่ที่สวยที่สุดในโลกเลยนะครับ สามีของคุณช่างเป็นผู้ชายที่โชคดี ผมชักอยากจะเห็นหน้าอยากทำความรู้จักเขาซะแล้ว" เวลานี้กลายเป็นฮันน่าที่มีสายตาล่อกแล่ก เธอไม่ได้กลัวที่จะบอกเขาว่าเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่หญิงสาวอยากให้ศิลาเข้าใจว่าเธอนั้นมีลูกมีสามีแล้ว เขาไม่ควรทำ