Masukเมื่อฮันน่าเดินออกมาพ้นจากโรงแรม เธอพอจะเดาได้ถึงรถสปอร์ตที่หายไป อีธานคงให้ลูกน้องจัดการ ทำสัญญาการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว เธอเดินตรงมาที่ถนนใหญ่ด้วยความรู้สึกเคว้งคว้างในหัวใจ แต่ใครๆ มักจะมองเธอว่าเป็นสาวสวยเซ็กซี่ ที่คงจะชอบอ่อยผู้ชายไปวันๆ
แต่ภายใต้ร่างกายที่ดูเย้ายวนชวนให้มองนั้น กลับซ่อนความรวดร้าวไว้ภายในใจ เพราะเธอไม่คิดที่จะรักใคร และไม่อยากเอาใจเข้าไปเกี่ยวข้องกับชายใดเลย เพราะเธอมีปมความหลังเกี่ยวกับบิดามารดา ชีวิตของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องปากกัดตีนถีบกว่าจะเรียนจบมาได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ปื้น! ปื้น! ปื้น! เสียงแตรรถดังขึ้น พร้อมกับตีไฟเลี้ยวมาจอดข้างฟุตบาทที่เธอกำลังเดินเหม่อลอย หญิงสาวรู้สึกตกใจเล็กน้อยก่อนจะทำให้ใบหน้าเป็นปกติ เมื่อพบว่าชายที่นั่งมาในรถนั้นคือเควินเจ้านายอีกคนของเธอ
"คุณฮันน่า มาเดินในที่เปลี่ยวๆ แบบนี้ได้ยังไงคุณมากับใคร ขึ้นรถเร็วเข้าเดี๋ยวผมจะไปส่ง" เสียงทุ้มของชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวออกมาด้วยความห่วงใย แม้ว่าเขานั้นจะไม่สนิทกับเธอเท่าไหร่ แต่ก็พอจะรู้จักผู้จัดการสาวมือโปร ที่ทำรายได้ให้กับโชว์รูมของเขา ในแต่ละไตรมาสอย่างถล่มทลาย
"ขอบคุณนะคะคุณเควิน" เมื่อขึ้นมานั่งบนรถฮันน่ารีบกล่าวขอบคุณชายหนุ่มออกไป ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลและแผ่วเบา จนเควินนั้นสัมผัสได้ถึงความเศร้าหม่นในน้ำเสียงของเธอ
"บ้านของคุณอยู่ที่ไหนเดี๋ยวผมจะไปส่ง" เมื่อขับรถออกมาได้ไม่กี่เมตร ชายหนุ่มก็รีบถามฮันน่าออกไป เพราะคิดว่าบ้านของเธอคงอยู่ไม่ไกลจากที่นี่สักเท่าไหร่
"ตรงไปเลยค่ะ เจอแยกข้างหน้าก็เลี้ยวซ้าย ขับไปอีกไม่กี่กิโล ก็ถึงคอนโดที่พักของฮันน่าแล้วล่ะค่ะ" คำบอกเล่าของฮันน่าทำให้เควินรู้สึกสงสัยขึ้นมา เพราะที่เธอพูดถึงน่าจะเป็นคอนโดที่เขาเคยเทียวไปเทียวมาเป็นประจำ เพราะที่นั่นอัครเดชเคยใช้เป็นที่พัก ก่อนจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านที่เพิ่งซื้อไว้ไม่กี่ปี
"ใช่คอนโดนี้ไหมครับ" เควินถามฮันน่าออกมาพร้อมกับเตรียมตีไฟเลี้ยวเข้าไปข้างใน
"ใช่แล้วค่ะ ส่งฮันน่าแค่นี้ก็พอ คุณเควินไม่ต้องเลี้ยวเข้าไปหรอกค่ะ เสียเวลาเปล่าๆ แค่นี้ฮันน่าก็รบกวนมากแล้ว" หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เกรงใจ โดยไม่ได้เสแสร้งใดๆ ออกมาทั้งสิ้น
"ไม่เป็นไรหรอกครับ เสียเวลาที่ไหนกัน เมื่อมาส่งแล้วก็ต้องส่งให้ถึงที่ ผมเคยมาที่นี่บ่อยๆ แต่ก่อนบอสของคุณเคยอยู่คอนโดนี้" ชายหนุ่มพูดออกมา เมื่อเขาขับรถไปถึงลานหน้าคอนโด "ฮันน่ากับพี่เรย่า พักอยู่ที่ห้องเก่าของบอสค่ะพอดีว่าเราสองพี่น้อง ประสบชะตากรรมไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก บอสสงสารก็เลยให้เราสองคนพักอยู่ที่นี่ แต่ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟเอง คุณอัครเดชมีบุญคุณกับฮันน่าและพี่สาวมาก ทุกวันนี้จึงทำให้เราสองคนพี่น้องทำงานถวายหัว ไม่ว่าบอสจะสั่งให้ทำอะไรถ้าสิ่งไหนที่ฮันน่าทำให้ได้ ก็จะทำให้ โดยไร้เงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่..." หญิงสาวพูดออกมาเป็นฉาก ก่อนจะสะดุดที่ประโยคสุดท้าย เมื่อเธอนึกถึงคำขอร้องของบอสหนุ่ม ทำยังไงก็ได้ ให้ช่วยกีดกันอีธานอยู่ห่างๆ ขวัญข้าวให้มาก และเขายังกำชับว่าเธอเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รู้ความลับของบอสหนุ่มและขวัญข้าว ถึงความสัมพันธ์ที่สองพี่น้องต่างสายเลือดมีความลึกซึ้งมากเกินกว่าที่ทุกคนเข้าใจ เพราะวันนั้นเขาเรียกเธอไปพบที่ห้องแล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง อีธานแวะเวียนมาที่โชว์รูมหลายครั้ง เธอก็เป็นคนรับมือและยอมพาเขาออกมาข้างนอก แต่ไม่คิดว่าครั้งนี้อีธานจะทำในสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง
"แม้แต่อะไร...ไอ้เสือมันล่วงเกินคุณหรือเปล่า" เสียงทุ้มถามหญิงสาวออกไปด้วยความห่วงใยโดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกดี เวลาที่ได้คุยกับผู้หญิงคนนี้ ภายใต้ใบหน้าและรูปร่างที่แสนจะเซ็กซี่แววตาของเธอเหมือนมีอะไรปิดบังซ่อนเร้นเอาไว้ จนทำให้เควินอยากเข้าไปค้นหา แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้คุยจริงจังกับเธอแบบนี้สักที
"บอสไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นกับฮันน่าหรอกค่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์มาส่ง นี่ก็ดึกมากแล้ว ฮันน่าคงไม่ชวนคุณขึ้นไปดื่มกาแฟหรอกนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ" พูดจบฮันน่าก็ลงจากรถพร้อมกับโบกมือบ๊ายบายให้กับเขา แล้วเดินเข้าไปในคอนโด โดยที่เธอนั้นไม่ได้หันกลับมามองเขาอีกเลย
"คุณทำงานอยู่ที่โชว์รูมนั่นตั้งนาน ทำไมผมถึงปล่อยให้เวลาผ่านล่วงเลยมาแบบนี้"
เควินพูดพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก เขายอมรับว่ารู้สึกดีกับหญิงสาวไม่น้อย ลุคการแต่งตัวของเธอที่ดูเปรี้ยวจี๊ดจนเข็ดฟัน แต่การกระทำกับตรงข้ามกันทุกอย่าง คำพูดและกิริยาของเธอนั้นดูเรียบร้อยอ่อนหวาน แต่ทำไมเธอถึงชอบแต่งหน้าทาปากจัดๆ
เควินนั่งมองร่างอรชรเดินเข้าไปในคอนโดจนลับตา เขาจึงขับรถออกมาพร้อมกับ รอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนใบหน้า เมื่อกำลังคิดว่าเขาควรจะสานสัมพันธ์กับเธอดีไหม เขาจะเริ่มต้นจีบเธอยังไงแค่คิดหัวใจของเขาก็เต้นแรง
ฮั่นน่าเปิดประตูเข้าไปในห้องเบาๆ เพราะกลัวว่าพี่สาวจะตื่น พอเธอก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ไฟกลับเปิดสว่างจ้า พร้อมกับเรยาพี่สาวของเธอที่ยืนทำตาเขม็งมองมาที่น้องสาวด้วยคำถามมากมาย แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่พี่สาวมีให้มา
"พี่โทรไปทำไมไม่รับ รู้ไหมคนรอเป็นห่วงแค่ไหน น้องไปกับใครทำไมถึงกลับดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ ไปลองรถกันถึงไหน อย่าบอกนะคุณอีธานพาน้องไปดินเนอร์แล้วก็ขับรถพามาส่งที่คอนโด...พี่ไม่เชื่อ" น้ำเสียงของเรย่าที่พูดออกมานั้น เต็มไปด้วยความน้อยใจ ที่เธอโทรหาฮันน่าเท่าไหร่ก็ไม่ติด
"โธ่เจ้! น้องขอโทษ พอดีแบตโทรศัพท์หมดน้องไปคุยงานกับคุณเควินมา ถ้าเจ้ไม่เชื่อก็โทรไปถามคุณเควินได้ ดึกแล้วง่วงด้วย...ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ...จุ๊บ! " ฮันน่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ้อนๆ เธอได้โอกาสจึงหยิบยกเอาเควินขึ้นมาเป็นข้ออ้าง อย่างน้อยก็เพื่อความสบายใจของพี่สาว
"อะไรของเขาเนี่ย...โตแล้วยังทำตัวเป็นเด็กๆ ไปได้" เรยาส่ายศีรษะไปมาให้กับความน่ารักของน้องสาว เมื่อฮันน่ากอดแล้วจุ๊บลงที่แก้มของเธอ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง
สองพี่น้องรักกันกลมเกลียว หลังจากที่ชีวิตของพวกเธอ ผ่านมรสุมมาเยอะ เมื่อบิดาตบตีมารดาของเธอไม่เว้นในแต่ละวันแล้วพาผู้หญิงเข้าบ้าน ทั้งที่ฐานะก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ไม่นานทั้งคู่ก็อย่าขาดกัน
เมื่อบิดาย้ายออกไปจากบ้าน มารดาของเธอก็ดื่มหนักทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่งมารดาได้พาผู้ชายเข้าบ้าน เขามาอยู่ในฐานะพ่อเลี้ยงของพวกเธอ และก็พยายามที่จะลวนลามและล่วงเกินเธอกับน้อง ในช่วงจังหวะที่ชีวิตตกต่ำ พวกเธอพากเพียรเรียนภาคค่ำจนจบปริญญาตรี และก็ได้มีโอกาสที่ดี
เมื่อบอสหนุ่มผ่านไปเจอเห็นเธอกับน้องกำลังถูกลวนลาม เขาเข้าไปห้ามแล้วช่วยเธอสองคนพ้นมาได้ จากนั้นเป็นต้นมาอัครเดชก็ไม่ต่างกับเจ้าชีวิตที่ทำให้เรยากับฮันน่าพ้นจากปากเหยี่ยวปากกามาได้จนถึงทุกวันนี้
ณ บ้านหลังหนึ่งที่ดูใหญ่โตราวกับปราสาทราชวัง ซึ่งเป็นบ้านที่อีธานออกแบบและสร้างขึ้นเพื่อเซอร์ไพรส์ภรรยาและลูกๆ ของเขา ประจวบเหมาะกับการเฉลิมฉลองกันยาและตุลาเรียนจบมอปลาย และทั้งคู่กำลังจะเข้าเรียนในมหา'ลัย ผู้หญิงทั้งโลกต่างก็อิจฉาฮันน่า ที่เธอมีสามี ทั้งหล่อทั้งรวยและแสนดีอย่างอีธาน "คุณพ่อขาาา... ทำไมรู้ใจลูกสาวแบบนี้ กันยาชอบบ้านหลังนี้มากค่ะ มันล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติดูร่มรื่นดี" หญิงสาวยิ้มร่าออกมาจนหน้าบาน ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ผู้เป็นบิดาที่โซฟากว้าง พร้อมกับซุกใบหน้าเข้าหาอกแกร่งของอีธานระคนกำลังอ้อนที่ได้ของถูกใจ "ยัยตัวแสบ ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะ พ่อยังคาดโทษหนูเอาไว้อยู่ลืมหรือยัง" อีธานแกล้งพูดเสียงเข้มออกมา จนกันยาทำมุ่ย เมื่อบิดากำลังจะบังคับให้เรียน ในคณะที่ใจเธอไม่รักเลยสักนิด "คุณแม่ขาาา... บอกคุณพ่อไปสิคะว่าประโยชน์ของการเรียนเศรษฐศาสตร์มีอะไรบ้าง และที่สำคัญกันยาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเรียนเกษตร เพื่อมาบริหารธุรกิจอสังหาของพ่อสักหน่อยนี่ค่ะ" อีธานถึงกับเกือบหลุดขำ ในคำพูดของกันยา แน่นอนคณะที่ลูกสาวของเขาเลือกเรียนนั้น มัน
"แล้วตุลาล่ะเรียนต่อคณะอะไร" "ผมคงต้องเรียนบริหารตามเจตนารมณ์ของพ่อ ไม่เหมือนใครบางคนแถวนี้ที่ดื้อรั้นเอาแต่ใจ" ตุลาอดที่จะพูดจากระแนะกระแหนกันยาออกไปไม่ได้ เมื่อน้องสาวของเขาตั้งใจที่จะเรียนคณะเกษตรศาสตร์สาขาวิชาพืชสวน ทั้งที่บ้านทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ และนั่นคือเหตุผลที่บิดาไม่อนุมัติ แต่ตุลาก็เชื่อว่ากันยาคงอ้อนจนได้ "ขวัญดีใจด้วยนะคะพี่ฮันน่า ที่พี่มีครอบครัวที่อบอุ่นสักที เมื่อพายุพัดผ่านไปทุกอย่างก็กลายกลับดี ในที่สุดวันดีๆ ก็เกิดขึ้นกับเราสองคน แม่เลี้ยงกวางกมลที่อยู่บนฟ้า คงมองลงมาด้วยรอยยิ้มที่เห็นลูกหลานมีความสุขแบบนี้" "ใช่แล้วจ้ะ พี่ต้องกลับแล้วนะ ดูแลตัวเองด้วย" ทั้งสองร่ำลากัน จากนั้นฮันน่าก็พาลูกๆ กลับ โดยมีสายตาของใครบางคน แอบมองตามหลังกันยา แม้ไม่ได้เห็นหน้า แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าเธอนั้นเปลี่ยนไปมาก เมื่อกันยาโตเป็นสาวเธอดูสวยผิดหูผิดตา แต่ทว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อไร่กวางกมลนั้น ก็คง
"คุณย่าจะพูดถึงคนอื่นทำไมล่ะครับ ในเมื่อเขายังไม่คิดถึงคุณย่าเลย ขอโทษด้วยนะครับแม่ฮันน่าที่ผมพูดแรงไป" เมื่อสิงโตตั้งสติได้เขารีบกลับขอโทษฮันน่าออกไปในทันที "ใครบอกว่ากันยาไม่คิดถึงคุณย่าล่ะสิงโต" เสียงเข้มของอัครเดชพูดขึ้น เมื่อเห็นลูกชายมีท่าทีที่ตำหนิกันยาออกมาอย่างชัดเจน "พ่อเสือครับ บางทีที่นี่อาจจะไม่ประทับใจกันยา เพราะบ้านป่าอย่างเราจะไปสู้แสงสีศิวิไลซ์ได้ยังไงกัน จริงไหมครับแม่ฮันน่า" สิงโตพูดเองเออเองทั้งนั้น ทั้งที่ยังไม่ได้รับฟังความจริง แต่เขากลับตัดสินกันยาไปในทางด้านลบเรียบร้อยแล้ว "สิงโตลูกไปว่าน้องแบบนั้นได้ยังไง รู้หรือเปล่าว่าตอนนี้กันยานอนแอดมิดให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาล เมื่อตะกี้คุณย่ายังวิดีโอคอลคุยกับกันยาอยู่เลย" แม้ว่าสิงโตจะเกิดก่อนกันยาเพียงแค่เดือนเดียว แต่ผู้เป็นมารดาก็มักจะให้เขาเรียกแทนตัวเองว่าพี่เสมอ "เธอเป็นอะไรเหรอครับ" แม้ว่าน้ำเสียงของชายหนุ่มจะฟังดูเรียบเฉย แต่ภายในใจของเขากลับร้อนรุ่มเริ่มเป็นห่วงเธอ"กันยาไม่เป
"สิงโตจะไปรับแม่ฮันน่า ที่สนามบินกับพ่อเสือไหมลูก" คำถามของผู้เป็นมารดา ทำให้ชายหนุ่มรีบวางตำราในมือลงทันที "แม่ฮันน่า... หมายความว่าแม่ฮันน่าจะมาเที่ยวบ้านเราเหรอครับแม่" น้ำเสียงของชายหนุ่มดูตื่นเต้นไม่น้อย เมื่อภายในใจของเขาคิดว่ายังไงกันยาก็ต้องตามมารดามาที่นี่ด้วย "ใช่จ้า แม่ฮันน่าจะมาเยี่ยมคุณย่า แต่แม่เองก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่ากันยาและตุลาจะมาด้วยหรือเปล่า" ขวัญข้าวที่กำลังนั่งปอกผลไม้อยู่ที่ห้องนั่งเล่น พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ซึ่งเธอเองก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกันที่กำลังจะได้เจอกับฮันน่า ที่จากกันไปหลายเดือนแล้ว"ผมขอตัวไปที่บ้านท้ายไร่ก่อนนะครับแม่" สิงโตกำลังสับสนชายหนุ่มไม่รู้ว่าเขาควรดีใจหรือเปล่า ถ้าหากจะได้เจอกันยาในวันนี้ ที่สำคัญระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานั้น เธอยังจะจำคืนและวันที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันตั้งแต่วัยเยาว์ได้หรือเปล่า “อ้าว! ไม่ไปกับพ่อเสือเหรอลูก"
"เมียผมน่ากินไปทั้งตัวเลย" ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังพยายามถอดเสื้อเชิ้ตของเขาออก สายตาคมนัยน์ตาสีฟ้าได้กวาดมองไปทั่วเรือนร่างของภรรยาอย่างชื่นชม ก่อนจะค่อยๆ ปลดเข็มขัดหนังราคาแพงออก พร้อมกับดึงกางเกงลงไปกองรวมกันที่พื้นรวมกับชุดสวยของเธอ เผยให้เห็นเป้าตุงที่คับแน่นกางเกงบ๊อกเซอร์ แทบจะปริแตกออกมาอยู่แล้วในตอนนี้ ไรขนที่หน้าอกบวกกับมวลกล้ามบนเรือนร่างชายกำยำ กำลังทำให้ฮันน่ารู้สึกหลงใหลเขาเช่นกันในเวลานี้ "มองผมแบบนี้ ไม่รอแล้วนะเมียจ๋า" เขาพูดออกมาพร้อมกับเข้าไปคร่อมร่างเล็กเอาไว้จนมิด "ไหนบอกว่าเมา" หญิงสาวพูดพร้อมกับช้อนสายตามองชายหนุ่มออกไปด้วยคำถาม ที่ไม่อยากเชื่อว่าเขาเมา "ผมเมาแล้วคึก คุณไม่รู้หรือไง เมียสวยแถมยังเซ็กซี่ขนาดนี้ใครจะไปอดใจไหว พูดมาแล้วยังเจ็บใจไม่หาย อยากจะเอาปืนยิงไอ้เมสันให้ตาย ที่มันบังอาจจ้องหน้าคุณตั้งเป็นชั่วโมง" ในขณะที่พูด ดวงตาของเขาได้ฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาพร้อมกับสอดฝ่ามือไปใต้แผ่นหลังของภรรยาเพื่อปลดตะขอบราออกให้สิ้น "อื้ม... คุณอีธ
"พูดเฉยๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องโน้มตัวเข้ามาใกล้ คุณเห็นไหมว่าฉันกำลังขับรถอยู่ ถ้าเกิดอุบัติเหตุจะทำยังไง ลูกจะอยู่กับใคร หื่นไม่เลือกเวล่ำเวลาจริงๆ " ฮันน่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดุ ในขณะอีธานก็ไม่ได้ลดละความพยายาม ชายหนุ่มยังคงใช้มือลูบลงไปที่ต้นขาของฮันน่าด้วยท่าทางที่เย้ายวนชวนขึ้นเตียง"แอบกินยาคุมหรือเปล่าเนี่ย... หลายเดือนแล้วทำไมคุณไม่ท้องสักที ผมอยากมีลูกกับคุณอีกสักสองสามคน" "ทำไมถึงเป็นคนเอาแต่ใจแบบนี้ เชื่อเลยว่ากันยาได้คุณมาเต็มๆ ไม่มีเหตุผลแถมยังดื้อรั้นเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง" เมื่อห้ามไม่ได้ฮันน่าก็ปล่อยเลยตามเลย เธอพยายามลดความเร็วลง เพราะอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงบ้านแล้วพอรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดภายในบ้าน ฮันน่าถึงกับถอนใจออกมา เมื่อเธอรู้สึกยอมใจ ในความพยายามของอีธาน เพราะในเวลานี้ชายหนุ่มกำลังพยายามไซ้จมูกคมเป็นสันลงไปที่ซอกคอระหงของเธอ พร้อมกับกดปุ่มให้เบาะเอนลงไปข้างหลัง เขาทำเหมือนกับว่าจะเอากับเธอบนรถนี้ให้ได้ "นี่คุณ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ ถึงบ้านแล้วค่ะ เดี๋ยวลูกก็ออกมาเห็นหรอก เมาแล้วเป็นแบบนี้ท




![นางบำเรอ [5P]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


