Home / โรแมนติก / เล่ห์โอบรัก / บทที่ 4 นางแบบจำเป็น - 100%

Share

บทที่ 4 นางแบบจำเป็น - 100%

last update Last Updated: 2025-03-18 11:00:26

"นี่หนูมะลิจ้ะ นางแบบลิปสติกคนใหม่ของเอเอ็นเอส"

ภคินีแนะนำพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของแบรนด์ด้วยสีหน้าเต็มใจนำเสนอเต็มที่ จันทร์เจ้ามองหญิงสาวที่ดูอ่อนวัยกว่าตนแล้วยิ้มให้อย่างจริงใจ

"น่ารักดีค่ะคุณแม่ หน้าใสมากเลย ยังเรียนอยู่ใช่ไหมคะ" จันทร์เจ้าเรียกภคินีว่าคุณแม่ตามอย่างชินดนัย

"หนูเรียนอยู่ปีสี่ค่ะ" มัลลิกาตอบอย่างนอบน้อมกึ่งขัดเขินที่ถูกชมซึ่งหน้า

ชินดนัยกับจันทร์เจ้านั่งคุยสัพเพเหระกันอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ขอตัวเพราะเกรงว่าจะไม่ทันรอบชมภาพยนตร์ ครั้นพอแขกไปแล้ว ภคินีจึงหันมาให้ความสนใจกับนางแบบจำเป็นตรงหน้าทันที

"โอเคจ้ะ ก่อนอื่นต้องเตรียมผิวหน้าก่อน" พูดพลางหยิบขวดเคลนเซอร์กับสำลีมาถือไว้แล้วหันไปบอกบุตรชายว่า

"ไปเตรียมกล้องสิตาวิน ไม่ใช่ว่าแบตหมดแล้วต้องมานั่งรอชาร์จนะ"

"คร้าบ คุณแม่" ภาวินยิ้มบาง ๆ พร้อมกับลุกขึ้นทันที เข้าใจดีว่าที่มารดาไล่ให้เขาไปเตรียมกล้องถ่ายรูปนั้นเป็นเพราะเกรงว่ามัลลิกาจะเขินที่ต้องมาแต่งหน้าต่อหน้าผู้ชาย

คล้อยหลังบุตรชายแล้ว ภคินีจึงเริ่มลงมือทีละขั้นตอนโดยมีพราวนภานั่งมองตาแป๋วด้วยความสนใจอยู่ข้าง ๆ เริ่มต้นด้วยการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า ลงเมกอัปเบสตามด้วยรองพื้น แต่ขั้นตอนการลงรองพื้นนั้น ภคินีเลือกใช้แปรงแทนฟองน้ำ ซึ่งเวลาที่เกลี่ยรองพื้นจะต้องวนเป็นวงกลมเพื่อกระจายรองพื้นให้สม่ำเสมอเท่ากันทุกจุด มัลลิกาขยับหน้ายุกยิกสุดท้ายทนไม่ไหวจึงอดหัวเราะออกมาไม่ได้

"ขอโทษค่ะคุณป้า แต่หนูจั๊กจี้" หญิงสาวพูดกลั้วหัวเราะ เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากผู้สูงวัยกว่าได้ทันที

"แต่งบ่อย ๆ เดี๋ยวก็ชิน ป้าถนัดใช้แปรงลงรองพื้นมากกว่าฟองน้ำน่ะเพราะรู้สึกว่ามันเกลี่ยได้เรียบกว่า แต่บางคนเขาก็ชอบใช้ฟองน้ำ ยิ่งสมัยนี้มีแบบเป็นก้อนเจลใช้แทนฟองน้ำด้วย แต่ป้าลองแล้วไม่ชินมือเท่าไร สู้แปรงไม่ได้หรอก เอาละจ้ะ เงยหน้าขึ้นนิดนะจ๊ะเพราะต้องลงรองพื้นที่คอด้วย หน้าจะได้ไม่ลอย"

มัลลิกาทำความคำบอกอย่างว่าง่าย แต่พอขนแปรงสัมผัสถูกคอก็หัวเราะคิกคักขึ้นมาอีก ทำเอาเด็กน้อยที่นั่งอยู่ด้วยหัวเราะตามเสียงใส และสุดท้ายก็ทำให้สามสาวต่างวัยพากันหัวเราะด้วยความขบขัน

ภาวินมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่มีพราวนภา บ้านหลังนี้นานทีจะมีเสียงหัวเราะสักครั้ง ครั้นพอมีเด็กผู้หญิงในบ้าน บรรยากาศก็ดูอบอุ่นสดใส รู้สึกถึงคำว่าบ้านอย่างแท้จริง แต่วันนี้พอเพิ่มมัลลิกาเข้ามาอีกคน ความรู้สึกของเขาเหมือนถูกเติมเต็ม และคิดว่าทุกอย่างช่างลงตัว

"หัวเราะอะไรกันครับ น่าสนุกจัง" เขาเดินยิ้มเข้าไปในห้องนั่งเล่น ในมือถือกล้องถ่ายรูปเอาไว้พลางปรับตั้งค่ากล้องไปด้วย

"คุณย่าเอาแปรงปัดคอให้พี่มะลิแล้วพี่มะลิจั๊กจี้ค่ะ" พราวนภาเป็นคนตอบพร้อมกับหยิบแปรงแต่งหน้าขนาดพอดีมือมาปัดบนหน้าของตัวเองบ้าง

ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ พยายามไม่มองไปทางหญิงสาวที่กำลังนั่งนิ่งให้มารดาของตนแต่งหน้าเพราะไม่อยากให้เธอรู้สึกอึดอัด เขาจึงชวนบุตรสาวให้โพสต์ท่าโดยมีตนเป็นตากล้อง ซึ่งพราวนภาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ภคินีใช้เวลาแต่งหน้าให้มัลลิกาไม่นานนักเพราะต้องการให้ดูเป็นธรรมชาติและโชว์ผิวมากที่สุด อีกทั้งผิวพรรณและรูปหน้าของหญิงสาวก็ไม่เหมาะที่จะแต่งแบบจัดเต็ม ผลลัพธ์ที่ได้จึงถูกใจไม่น้อย

"แบบนี้แหละที่ต้องการ"

ภคินียื่นกระจกให้มัลลิกาส่องดูหน้าตัวเองพลางยิ้มระรื่นด้วยความพึงพอใจ เพราะคอนเซ็ปต์ของคอลเลกชั่นอาร์ ยู เรดดี้คือลิปสติกสำหรับหญิงสาวที่เพิ่งหัดแต่งหน้า หรือไม่ชอบการพกเครื่องสำอางหลายชิ้น เพราะลิปสติกรุ่นนี้สามารถทาได้ทั้งปาก แก้ม และเปลือกตา โดยพุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มลูกค้าตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยทำงาน

"พี่มะลิสวยจังเลยค่ะ หนูพราวอยากแต่งหน้าแบบพี่มะลิบ้าง"

พราวนภาปรี่เข้ามายืนใกล้มัลลิกา สายตาก็มองแต่ผู้เป็นย่าอย่างออดอ้อน แต่ภคินีกลับบุ้ยหน้าไปทางภาวินเป็นเชิงให้เจ้าตัวไปขออนุญาตผู้เป็นบิดา ส่วนตัวเองก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูด

"เดี๋ยวแม่ขึ้นไปหาเสื้อมาให้หนูมะลิเปลี่ยนก่อนนะ" พูดจบก็เดินออกจากห้องไป ชายหนุ่มจึงหันไปหาบุตรสาวที่กำลังมองมาทางตนพร้อมรอยยิ้มเจิดจ้า อวดลักยิ้มบนแก้มซ้ายแบบที่โขกมาจากเขาไม่ผิดเพี้ยน

"ความจริงแล้วเด็กยังไม่ควรแต่งหน้านะลูก แต่วันนี้เป็นกรณีพิเศษ คุณพ่อจะทาลิปให้หนูเองดีไหมคะ"

ภาวินลูบศีรษะบุตรสาวด้วยความเอ็นดู ยิ่งเห็นเจ้าตัวเล็กกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ รอยยิ้มของชายหนุ่มก็ยิ่งกว้างขึ้น เขาให้บุตรสาวนั่งบนโซฟา ส่วนตัวเองก็นั่งขัดสมาธิกับพื้น จากนั้นจึงหยิบลิปสติกที่สีไม่จัดจ้านจนเกินไปขึ้นมาทดลองทาบนหลังมือเพื่อทดสอบสีก่อน เมื่อได้สีที่ต้องการแล้วเขาก็เอานิ้วปาดลิปสติกจากหลังมือของตัวเองไปป้ายที่ข้อพับแขนของบุตรสาว

"ทำไมทาตรงนี้ละคะ" พราวนภาถามอย่างสงสัย

"คุณพ่อจะได้รู้ไงคะว่าหนูแพ้ลิปตัวนี้รึเปล่า รอสักครู่นะลูก ถ้าหนูรู้สึกคันหนูต้องรีบบอกคุณพ่อนะคะ"

ชายหนุ่มยื่นหน้าไปจุ๊บหน้าผากของบุตรสาวอย่างรักใคร่ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเสียงเจ้าตัวเล็กโพล่งถามขึ้น

"หนูพราวไม่คันเลยค่ะ จะทาลิปได้รึยังคะ"

"ยังผ่านไปไม่ถึงครึ่งนาทีเลยลูก รออีกนิดนะคะ คุณพ่อขอเวลาแค่ห้านาทีค่ะ" ภาวินพูดกลั้วหัวเราะพลางหันไปมองนางแบบจำเป็นที่นั่งยิ้มขำกับความใจร้อนของพราวนภา

"แล้วหนูล่ะคันรึเปล่า หนูไม่ได้แพ้เครื่องสำอางใช่ไหม" เขาถามหญิงสาวเสียงอ่อน

"ไม่แพ้ค่ะ" มัลลิกาตอบสั้น ๆ ไม่กล้ามองสบตากับเขาตรง ๆ เพราะแววตาคู่นั้นของเขาดูวาววามและหวานเชื่อมจนเธอทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะวางมือไว้ตรงไหน

และเพราะความเขินจนมือไม้แทบพันกัน ขณะที่หญิงสาวกำลังโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อจะวางกระจกไว้บนโต๊ะ กล่องเครื่องสำอางที่อยู่ข้างตัวเธอจึงเลื่อนไหลลงมาตามเบาะที่ลู่ลงจนกระทั่งตกลงบนพื้น

"อุ๊ย! แย่แล้ว หนูขอโทษค่ะหนูไม่ได้ตั้งใจ"

มัลลิการีบยกมือไหว้ขอโทษขอโพยพลางลนลานลงจากโซฟาเพื่อจะนั่งลงเก็บเครื่องสำอางและอุปกรณ์ทั้งหมด และเพราะความรีบร้อนของหญิงสาวตอนที่ไถลตัวลงจากโซฟา จึงทำให้ศีรษะของเธอชนเข้ากับศีรษะของภาวินที่เอี้ยวตัวมาพอดี

โดยที่ไม่มีใครคาดคิด ริมฝีปากที่ตกแต่งด้วยลิปสติกไว้อย่างประณีตของมัลลิกาจึงลากผ่านใบหน้าของชายหนุ่มตั้งแต่ศีรษะเรื่อยมาจนกระทั่งถึงปลายคาง

หญิงสาวร้องโอ๊ยไม่เบานักพร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากตัวเองแน่น สองตาเบิกกว้างเมื่อเห็นสีชมพูอมส้มบนใบหน้าของชายหนุ่ม

พราวนภาหัวเราะเอิ๊กอ๊ากออกมาทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของบิดาเปื้อนลิปสติกตั้งแต่หน้าผากจนถึงปลายคาง ก่อนจะหัวเราะดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อมัลลิกาเอามือออกจากปากแล้วเห็นว่าบนใบหน้าของหญิงสาวก็เปรอะไปด้วยลิปสติกไม่ต่างกัน

"จอมซุ่มซ่ามเอ๊ย เล่นเอามือไปปิดปากตัวเองแบบนั้น ลิปสติกมันก็เลอะหมดน่ะสิ" ภาวินพูดไปหัวเราะไปเมื่อเห็นสภาพของนางแบบจำเป็นที่นั่งหน้าแดงก่ำ

"หน้าพี่ก็เลอะเหมือนกันนั่นแหละ" เธออุบอิบพูดเสียงแผ่ว เขาจึงหยิบสำลีกับน้ำยาล้างเครื่องสำอางมาถือไว้แล้วบอก

"คงต้องแต่งหน้าใหม่แล้วละ เดี๋ยวพี่จะแต่งให้เอง" เขาพูดพลางหยดน้ำยาลงบนสำลี

"แล้วพี่ไม่เช็ดหน้าตัวเองก่อนหรือคะ" หญิงสาวมองสีบนหน้าเขาแล้วตัวเองก็หน้าแดงอีกครั้ง

ภาวินนำสำลีที่ชุบน้ำยาล้างเครื่องสำอางยัดใส่ในมือมัลลิกาแล้วบอก

"หนูก็เช็ดให้พี่สิ พี่มองไม่เห็น ไม่รู้หรอกว่ามันเลอะตรงไหนบ้าง"

จากนั้นชายหนุ่มก็โน้มตัวไปด้านหน้าเล็กน้อยพร้อมกับพูดเบา ๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน

"คราวหน้าถ้าอยากจุ๊บหน้าผากพี่ก็ขอกันดี ๆ ก็ได้ พี่ให้อยู่แล้ว"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เล่ห์โอบรัก   บทที่ 24 พ่อตากับลูกเขย - บทส่งท้าย

    มัลลิกานั่งแช่อยู่ในสระว่ายน้ำส่วนตัว หญิงสาวยกแขนขึ้นวางบนขอบสระแล้วเอาคางเกยไว้ สองตาทอดมองผืนน้ำสีฟ้าสุดลูกหูลูกตาอย่างผ่อนคลาย มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนกำลังก้าวลงน้ำมาเช่นกัน จากนั้นแผ่นหลังของเธอก็ถูกทาบทับด้วยแผงอกหนั่นแน่นตามมาด้วยอ้อมแขนที่กอดรัดเอวไว้ และมีริมฝีปากอุ่นร้อนตามมาพรมจูบไปทั่วลาดไหล่"ชอบที่นี่ไหม" เสียงทุ้มเอ่ยถามชิดริมหู หญิงสาวห่อไหล่ตามสัญชาตญาณเพราะรู้สึกจั๊กจี้"ชอบค่ะ น้ำสีสวยมากเลย อากาศดีด้วยไม่ร้อนอย่างที่คิด" ทั้งที่ตอนนี้เธออยู่กลางแจ้งท่ามกลางแสงแดดอ่อน แต่กลับไม่ร้อนเหมือนแดดเมืองไทย"ชอบก็ดีแล้ว พี่นวดให้นะ เดินทางมาถึงเหนื่อย ๆ"ภาวินขันอาสาอย่างเอาใจ เขานั่งซ้อนอยู่ด้านหลังแล้วค่อย ๆ บีบนวดต้นแขน หัวไหล่ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับนวดวนเวียนอยู่แต่ก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นสองก้อนที่อยู่ด้านหน้า บั้นท้ายก็ถูกสิ่งนั้นของเขาบดเบียดอย่างเป็นจังหวะ"ฮื้อ...พี่วินเนี่ยมือซนตลอดเลย" หญิงสาวครางเบา ๆ เมื่อเขาล้วงเข้าไปในชุดว่ายน้ำชิ้นบนแล้วใช้นิ้วหมุนวนปลายยอดอย่างปลุกเร้าภาวินมองไปรอบด้

  • เล่ห์โอบรัก   บทที่ 23 ฝึกรัก - 100%

    ภาวินมองคนที่นั่งหลับมาตลอดทางด้วยสายตารักใคร่ วันนี้เขาได้ใช้เวลาอยู่กับเธอทั้งวัน ได้นอนกกกอดเธอไว้ในอ้อมแขนจนเขาแทบสำลักความสุข เขารู้ว่าตนยังไม่อิ่มแต่ก็ต้องรีบพาหญิงสาวกลับกรุงเทพฯ เพราะไม่อยากให้ค่ำเกินไปชายหนุ่มจอดรถหน้าบ้านมัลลิกาในตอนหัวค่ำ ก่อนหน้านี้เขาโทรศัพท์บอกมารดาของเธอแล้วว่าจะพาหญิงสาวแวะกินมื้อเย็นแล้วค่อยกลับเข้าบ้าน จึงไม่ห่วงว่าเธอจะถูกบิดามารดาดุ"มะลิ ถึงบ้านแล้วครับ" เขาสะกิดมัลลิกาเบา ๆ หญิงสาวตื่นขึ้นแล้วมองซ้ายมองขวาอย่างงัวเงีย"ถึงบ้านหนูแล้ว หรือจะไปนอนบ้านพี่ดี" เจ้าตัวหันมาค้อนใส่เขาทันทีก่อนจะเปิดประตูลงไปยืนข้างรถแล้วโบกมือให้ แต่สภาพของเธอเหมือนคนยังไม่ตื่นดี เขาจึงอดไม่ไหวอีกต่อไป หัวเราะออกมาในที่สุด"ตื่นได้แล้ว หลับมาตลอดทางยังไม่พออีกหรือแม่คุณ" เขาถามกลั้วหัวเราะ เธอยู่หน้าใส่เขาแล้วพูดว่า"เพราะใครล่ะ" จากนั้นหญิงสาวก็หันหลังเดินจากไป เขามองจนเธอเข้าบ้านแล้วจึงขับเลยไปที่บ้านของตัวเองบ้างบิดามารดาของภาวินนั่งดูข่าวภาคค่ำอยู่ในห้องนั่งเล่น ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาแล้วนั่งบนโซฟาอีกตัว อ

  • เล่ห์โอบรัก   บทที่ 23 ฝึกรัก - 70%

    "ใส่ทำไม พี่อยากอ่อยคนแถวนี้นี่นา" ไม่พูดเปล่า แต่เขายังแบมือมาทางเธอราวกับต้องการให้วางมือลงไปบนมือของเขามัลลิกายื่นมือไปวางลงบนมืออุ่นข้างนั้น ชายหนุ่มกระตุกเบา ๆ หญิงสาวจึงทรุดนั่งข้างกายเขาแต่โดยดี"เย็น ๆ ค่อยกลับเนอะ หรือจะค้างดี" ภาวินถามพลางนวดมือให้เธอไปด้วย จึงทำให้มัลลิการับรู้ความในใจของชายหนุ่มอีกจนได้...พี่แค่อยากพาหนูมาผ่อนคลาย เห็นอุดอู้อยู่ในบ้านเป็นเดือน ๆ..."พี่ก็โทร. ไปขอคุณพ่อให้หนูสิคะ" เธอแกล้งหยอกเขาเล่น แต่ภาวินกลับคิดจะทำจริง ๆ"ก็ได้นะ พี่มีเบอร์คุณพ่อของหนูอยู่"ชายหนุ่มทำท่าจะยืนขึ้น หญิงสาวจึงรีบกอดแขนเขาไว้ทันทีเพราะกลัวว่าเขาจะโทรศัพท์ไปขออนุญาตกับบิดาของตนจริง ๆ"ไม่เอา! พี่ก็รู้อยู่ว่าคุณพ่อไม่อนุญาตหรอก ขืนโทร. ไปมีหวังโดนจี้ให้กลับบ้านตอนนี้แน่" พูดจบเธอก็ถูกเขากอดไว้แล้วเอนตัวลงนอนไปด้วยกัน โดยที่หญิงสาวนอนเอาหูแนบอกฟังเสียงหัวใจของเขาที่เต้นอยู่ข้างใน"บ้านก็ติดกันอย่างนั้น ยังไงก็หนีพี่ไม่พ้นหรอก"เขาปัดผมของเธอออกจากลาดไหล่แล้วใช้มือลูบต้นแขนเปลือยเปล่าของหญิงสาวไปมา ผิ

  • เล่ห์โอบรัก   บทที่ 23 ฝึกรัก - 35%

    มัลลิการักษาตัวอยู่โรงพยาบาลอีกสองอาทิตย์ก็ได้กลับบ้าน แผลที่แก้มเริ่มไม่เจ็บเท่าไรแล้ว แต่แผลที่ถูกกระจกบาดและแผลถลอกพอตกสะเก็ดกลับดูน่ากลัวจนมัลลิกาไม่กล้าส่องกระจกดูหน้าตัวเอง หญิงสาวยังเดินด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องอาศัยไม้ค้ำช่วยพยุง ในแต่ละวันเธอจึงได้แต่นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในบ้าน ภาวินจึงนึกสนุกด้วยการนำเครื่องสำอางมาให้หญิงสาวได้ลองหัดแต่งหน้าโดยแนะนำให้เธอเริ่มศึกษาจากยูทูบช่วงอาทิตย์แรกมัลลิกายังใช้แปรงและอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเก้กังเพราะไม่เคยใช้ แต่พออาทิตย์ถัดมาหญิงสาวก็เริ่มคล่องขึ้น และเริ่มสนุกกับการแปลงโฉมใบหน้าของตัวเองในรูปแบบต่าง ๆ เธอเริ่มเข้าเว็บไซต์ และติดตามแฟนเพจที่เกี่ยวกับความสวยความงาม ครีมหรือโลชั่นยี่ห้อไหนที่โด่งดังเรื่องช่วยลบรอยแผลเป็น เธอก็คลิกสั่งออนไลน์เพื่อเอามาลองใช้หลายยี่ห้อมัญชุดานั่งมองบุตรสาวที่กำลังทดลองสีลิปสติกกับข้อมือของตัวเองแล้วก็ได้แต่ยิ้ม เมื่อก่อนมัลลิกาไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้เพราะชอบคิดว่าตนไม่สวย แต่งไปก็ไม่มีใครดู แต่พอแม่สาวน้อยของเธอเริ่มมีความรักก็เริ่มหัดดูแลตัวเองมากขึ้น หนำซ้ำยังดูมีความสุขดีด้วย

  • เล่ห์โอบรัก   บทที่ 22 ตื่นจากฝัน - 100%

    มัลลิกายังคงไม่ยอมออกจากผ้าห่ม แต่เสียงสะอื้นนั้นไม่มีแล้ว ราวกับเจ้าตัวกำลังชั่งใจว่าจะโผล่หน้าออกมาคุยกับเขาดีหรือไม่"ถ้าอย่างนั้น พี่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม" ชายหนุ่มเอื้อมมือไปวางบนศีรษะของเธอเบา ๆ ก่อนพูดต่อ"ถ้าหากว่าคนที่ถูกรถชนเป็นพี่ คนที่ต้องนอนอยู่ตรงนี้เป็นพี่ และพี่ต้องมีแผลเป็นบนหน้าบ้าง หนูจะบอกเลิกพี่รึเปล่า หนูจะเลิกรักพี่แล้วหันไปคบคนอื่นไหม"คนนอนคลุมโปงส่ายหน้าไปมาแล้วตอบ "ไม่ ทำไมหนูต้องทำอย่างนั้น"ภาวินยิ้มออกทันที "ใช่ไหมล่ะ แล้วทำไมพี่ต้องทำอย่างนั้นล่ะครับ"ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วก้มลงไปจูบบริเวณที่คาดว่าน่าจะเป็นหน้าผากของหญิงสาวผ่านทางผ้าห่ม"หนูพราวถามหาพี่มะลิทุกวันเลย ไว้วันเสาร์นี้พี่จะพาหนูพราวมาเยี่ยมด้วยนะ"พอพูดถึงพราวนภา คนในผ้าห่มก็เลิกผ้าออก เผยให้เห็นใบหน้าแดงก่ำและเปลือกตาบวมจากการร้องไห้เมื่อครู่ เจ้าตัวสูดน้ำมูกทีหนึ่งแล้วถาม"หนูพราวเป็นยังไงบ้างคะ หนูผลักแรงขนาดนั้นไม่รู้หัวเข่ากระแทกพื้นจนเป็นแผลรึเปล่า"ภาวินมองหญิงสาวด้วยสายตาอ่อนเชื่อม ตัวเองเป็นอย่างนี้ยังอุตส่าห์ถามถึงคนอื่

  • เล่ห์โอบรัก   บทที่ 22 ตื่นจากฝัน - 70%

    มัลลิกาเบิกตากว้างเมื่อได้ยินอย่างนั้น แม้จะคาดเดาไว้อยู่แล้วแต่ก็อดใจหายและเศร้าอยู่ลึก ๆ ไม่ได้ ถึงปรีชญาจะทำไม่ดีกับเธอไว้มากมาย แต่อย่างไรเสียก็ยังเคยคบหากันอย่างสนิทสนมมาก่อน"ทำไมตาลเขาต้องทำอย่างนั้นคะคุณพ่อ""เขาป่วยเป็นโรคหลายบุคลิกน่ะ ตอนนี้ถึงจะจับตัวได้แล้วแต่ก็ยังดำเนินคดีอะไรไม่ได้ เพราะต้องให้เขารักษาจนอาการดีขึ้นก่อน""อ้าว เขาไม่ติดคุกหรือ แล้วถ้าเขาออกมาขับรถไล่ชนหนูอีกล่ะคะ" มัลลิกาถามหน้าตื่น คิดในใจว่าถ้าโดนชนอีกครั้งคงไม่มีชีวิตรอดแน่นอน"พ่อก็ห่วงเรื่องนี้อยู่ เพราะไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่จะกักตัวเขาไว้รักษาอาการแบบไหน พ่อกลัวว่าเขาจะปล่อยให้มันไปรักษาที่บ้านแล้วมันก็จะออกมาก่อเรื่องอีก""แย่จัง...แล้วตกลงเจอแพตที่ไหนคะ"เธออยากรู้ว่าตติยะลงมือกับปรีชญาแบบไหน และทำอย่างไรจึงสามารถซ่อนศพไว้ได้นานขนาดนั้นโดยที่ไม่มีใครหาเจอ"ศพลอยมาติดกับกอผักตบข้างวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาน่ะ แต่ผลการชันสูตรบอกว่าตายเพราะถูกบีบคอจนขาดอากาศหายใจ"นฤเบศร์เล่าให้บุตรสาวฟังไปตามความจริงโดยไม่คิดปิดบัง เพราะคนที่เป็นทั้งเหยื่อและฆาตกรก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status