๓
ตามติด
คุณผกามาศยิ้มด้วยความพึงพอใจ เมื่อนายชาติกระซิบกระซาบก่อนถอยออกไปอย่างเงียบเชียบ ดวงตามากประสบการณ์ของท่านวาวโรจน์ดั่งแสงไฟที่สว่างวาบก่อนหรี่ลง
ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามที่ท่านวางแผนเอาไว้ อาจดูเลือดเย็นไปบ้าง แต่สุดท้ายมันจะอุ่นอย่างที่ท่านปรารถนาให้เป็น หรือไม่ก็ถูกเผาไหม้ให้เป็นจุณ!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังเตรียมตัวเดินทางกดรับทันที
“ค่ะคุณแม่” โรสรินทร์เอ่ยทักทายคนในสาย ใบหน้างามหันไปมองลูกน้อยที่หลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมแขนของพี่เลี้ยงเด็ก
“โรสเตรียมตัวเสร็จหรือยังลูก” น้ำเสียงของคุณผกามาศอ่อนโยนต่อโรสรินทร์เสมอ ไม่เคยเปลี่ยนไป ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงก็ตาม
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
คนต้นสายพยักหน้ายิ้ม
“ดี ชาติออกไปสักพักใหญ่แล้ว อีกไม่นานคงไปถึง”
ไม่ทันขาดคำท่าน คนขับรถที่คุณผกามาศส่งมาคอยดูแลหล่อนก็ขับรถเข้ามา
“มาถึงพอดีค่ะ”
“อืม เจอกันที่โน่นนะจ๊ะ”
“ค่ะคุณแม่”
หญิงสาววางสายจากคุณผกามาศ ดวงตาคู่งามอ่อนแสง แม้จะเลิกรากับลูกชายของท่านมานานนับปี แต่หล่อนยังคงเรียกและนับถือท่านประดุจมารดาเช่นเดิม ท่านเองก็ขอให้หล่อนเรียกว่าแม่เช่นนี้มาช้านาน และยังอยากให้เรียกเช่นนี้ต่อไป โดยไม่สนใจว่าลูกชายของท่านจะพอใจหรือไม่ด้วย
หญิงสาวหันไปพยักหน้ากับพี่เลี้ยงเด็ก ก่อนจะเดินนำหน้าไป ดวงตาคู่งามกวาดมองไปรอบบ้าน สถานที่แห่งนี้ก็เป็นที่ที่ท่านยกให้หล่อนกับลูก คนสวน คนขับรถ แม่บ้านรวมถึงพี่เลี้ยงเด็ก ก็เป็นคนของท่าน
หล่อนจากเรวัตมาโดยไม่คิดว่าจะได้รับความเมตตาจากมารดาของเขามากขนาดนี้ แรกเลยท่านขอให้ไปอยู่ด้วยกัน เสนอตำแหน่งเลขาฯ ส่วนตัวหลังหย่าขาดจากเขา แต่หล่อนปฏิเสธเพราะไม่อยากเจอหน้าเรวัตอีก และตั้งใจเก็บงำความลับเรื่องการตั้งครรภ์ลูกของเขาเอาไว้อย่างเงียบเชียบ
แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้น หล่อนมีอาการแพ้ท้องเกิดขึ้นหลังหย่าจากเรวัตไม่ถึงอาทิตย์ ทำให้คุณผกามาศจับได้ โรสรินทร์กลัวว่าท่านจะบอกเรื่องนี้กับบุตรชาย ทว่าคนเป็นแม่ใจแกร่งกล้ากว่าที่หล่อนคิด ท่านไม่ปริปากบอกเรื่องนี้กับใครแม้แต่เรวัต และย้ำไม่ให้หล่อนบอก จากนั้นท่านย้ายหล่อนออกไปอยู่บ้านสวนที่นนทบุรี มีคนรับใช้ใกล้ชิด ถูกดูแลอย่างดีจนกระทั่งคลอด คุณผกามาศอยู่เคียงข้างหล่อนเสมอ และเป็นคนเดียวที่ยืนส่งหล่อนเข้าห้องคลอด ทำให้คนเต็มไปด้วยความว้าเหว่หวาดหวั่นเกิดความอบอุ่นหัวใจ
เมื่อคลอดทารกน้อยออกมา ท่านก็ทั้งรักทั้งหลงหลานชายสุดหัวใจ ถ่ายรูปอวดใครต่อใครไปทั่วโดยไม่กลัวว่าเรวัตจะรู้ ท่านว่า...
“รู้ก็รู้ไปสิ จะทำอะไรได้ โรสอย่าไปกลัว แม่อยู่ตรงนี้ทั้งคนหนูสบายใจเถอะลูก”
“แล้วถ้าคุณเรถาม”
ตอนนั้นแววตาของคุณผกามาศเรืองโรจน์ ราวกับเปลวไฟที่พร้อมจะลุกโชน เผยยิ้มที่บ่งบอกว่าท่านกำลังรอคอยวันนั้นมาถึงใจจะขาด
“ให้ถามมาสิ แต่แม่จะไม่บอกอะไรกับมันสักคำ!”
หญิงสาวมองท่านด้วยความซาบซึ้ง แต่ก็เป็นห่วงในความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก เพราะถึงอย่างไรเสีย เรวัตก็คือลูกชายเพียงคนเดียวที่ท่านรักมาก แต่ยิ่งรักมาก ก็กลับกลายเป็นว่าเรวัตยิ่งทำให้ท่านผิดหวังมากไปด้วย...
โรสรินทร์ละสายตาจากลูกชายที่นอนหลับในคาร์ซีต ก่อนจะมองตรงไปยังเบื้องหน้า จากบ้านสวนนนทบุรี กำลังมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านพักตากอากาศที่โคราช ทันทีที่รู้ว่าคนของเรวัตมาด้อมๆ มองๆ คุณผกามาศก็สั่งให้หล่อนเก็บเสื้อผ้า และจัดการส่งรถมารับเพื่อไปเจอกันที่นั่น
หล่อนคิดว่าท่านกำลังเล่นเอาเถิดเจ้าล่อกับลูกชาย ยิ่งฝ่ายนั้นอยากรู้มากแค่ไหน ท่านก็ยิ่งทำเหมือนเล่นซ่อนหา ดูท่าจะสนุกมากด้วย
หล่อนเองไม่ได้มีปัญหาอะไรถ้าเขาจะรู้เรื่องนี้ เพราะคิดเสมอว่าอย่างมากเขาก็แค่อยากรู้ความจริงตามแบบฉบับคนเอาแต่ใจ ที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากรู้อะไรก็ต้องรู้ คงอีกไม่นานนักหรอก เขาจะได้รู้ว่ามีลูกชายกับหล่อน
ไม่แน่ บางทีเขาอาจรู้ความจริงแล้วก็ได้ แต่รู้แล้วอย่างไรล่ะ รู้แล้วจะทำอะไรได้ ในเมื่อเขากำลังคบหาอยู่กับคนรักเก่า ได้ข่าวว่าเลี้ยงดูกันเสียดิบดี
เมื่อคิดถึงมาตรงนี้ หัวใจที่เคยว่างเปล่าในเรื่องของเขานับแต่มีเจ้าตัวน้อยมาเป็นยารักษาใจ กลับมารู้สึกปวดแปลบอีกหน ถ้าหากได้เผชิญหน้ากันอีกครั้งหล่อนจะทำอย่างไร
หญิงสาวขบคิด แต่ที่แน่ๆ หล่อนอยากถามเขาเหลือเกิน ว่าเขาลืมหล่อนได้อย่างไร จำเรื่องราวระหว่างกันไม่ได้เลยหรือ...
บทพิเศษ ๒หมดทั้งใจโรสรินทร์เป็นสาวร่างเล็ก หากเทียบกับเรวัตหล่อนก็สูงเลยหัวไหล่เขาขึ้นไปเล็กน้อยเท่านั้น หญิงสาวอาจไม่ใช่คนสวยจัดจ้าน แต่ก็น่ารักอ่อนหวานอย่างที่ทำให้หนุ่มอื่นเหลียวมองได้โดยไม่ยาก และเขารักทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นหล่อน “กำลังท้องกำลังไส้ ไปซนที่ไหนมาอีก”เสียงกระเซ้าที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวหันไปยิ้มกว้างกับสามีที่เดินเข้ามาสวมกอดหล่อนจากด้านหลัง“ไปซื้อของใช้ส่วนตัวกับแนนมาค่ะ โรสซื้อครีมโกนหนวดแล้วก็มีดโกนมาให้พี่เรด้วย ของเก่าใกล้หมดแล้ว” หญิงสาวตรวจสิ่งของที่ซื้อมาว่าครบถ้วนหรือไม่ ขณะที่ชายหนุ่มเกยคางกับบ่าบอบบางเอาไว้ สายตาก็มองเข้าไปในถุงผ้า มือเรียวใหญ่ลูบไล้บนหน้าท้องที่ยื่นออกมามากแล้ว“ท้องนี้ใหญ่จัง แค่สามสี่เดือนเอง” เขาพึมพำอย่างนึกเป็นห่วง โรสรินทร์ตั้งท้องลูกคนที่สามให้กับเขาแล้ว แต่ดูหล่อนยังกระฉับกระเฉงแทบไม่ต่างจากตอนปกติทั้งที่ท้องโตเร็วมาก“ท้องสามแล้วนะคะ ก็ใหญ่เป็นธรรมดา แต่คลอดคนนี้แล้วโรสว่าเราสองคนทำหมันกันดีกว่านะ”คนตัวโตเลิกคิ้วนิดๆ ยิ้มหน่อยๆ“ตามใจโรส”คนถูกตามใจมาโดยตลอดยิ้มออกมาอย่างปลื้มใจ“ใจดีจังเลย ตามใจตลอด”“มีเมียกับเขาแค่คนเดี
เวลานั้น ภาพวูบวาบในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ขาดหายกำลังไหลผ่านเข้ามาในความคิด ทำให้เขาปวดหัวอีกครั้ง มันหลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำ แต่เขาไม่ยอมเชื่อโดยเฉพาะภาพกอดจูบผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นเมีย ทำเรวัตช็อก หัวใจเต้นแรง เหงื่อแตกพลั่กไม่จริง เขาไม่ทำแบบนั้น!เมื่อชายหนุ่มลืมตาและหันไปมองตรงที่หญิงสาวยืนอยู่กลับไม่พบร่างบาง ภายในห้องว่างเปล่าจนเขาใจหาย ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วพร้อมกับเม้มปากเข้าหากันไม่ว่าก่อนหน้านี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เขาไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นต่อไปแน่เมื่อมารดายื่นคำขาด เรวัตก็บอกตนเองว่าช่างมัน ในเมื่อโรสรินทร์อยากอยู่เขาก็ให้อยู่ ทว่าทุกวันหล่อนจะได้พบกับความเจ็บปวดไม่จบไม่สิ้น เหมือนกับที่เขากำลังรู้สึก“อยากอยู่ก็ได้ แต่ช่วยย้ายข้าวของของเธอออกจากห้องของฉันด้วย”เขาออกคำสั่งทันทีที่กลับมาถึงบ้าน หญิงสาวได้แต่ยืนนิ่งตัวชา หน้าชาอยู่พักใหญ่ จากนั้นจึงค่อยๆ ทยอยขนย้ายข้าวของออกจากห้องนอนส่วนตัวที่เคยเป็นวิมานรักของเขาและหล่อนมาหนึ่งปีเต็มด้วยสายตาหม่นหมอง แต่เรวัตกลับเข้าใจไปว่าหล่อนกำลังอาลัยอาวรณ์ห้องนี้นักหนา“โทษทีนะ แต่ห้องนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเธอ บ้านหลังนี้ก็
เรวัตจดปลายปากกาลงบนใบสำคัญการสมรสเรียบร้อย โรสรินทร์จึงเซ็นชื่อของตนเองตามลงไป มองผู้หญิงที่มารดาบอกว่ากำลังวางแผนร่วมชีวิตกับหล่อนก่อนประสบอุบัติเหตุด้วยความรู้สึกสับสน แต่ไม่ว่าอย่างไรทุกอย่างก็ดำเนินไปตามที่มารดากล่าวอ้างจนลุล่วงภายในห้องหอเขายืนนิ่งอยู่หน้าเตียงนอน ขณะที่เจ้าสาวของเขากำลังอาบน้ำ งานแต่งวันนี้เป็นเพียงงานเล็กๆ มีผู้ร่วมงานไม่กี่คน แต่เขาก็พอใจให้เป็นแบบนั้น เพราะต่อให้มีคนมากมาย เขาก็จำอะไรไม่ได้สักอย่างชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงบนเตียงกว้าง จนถึงเวลานี้เขาก็ยังสับสน ตอนนี้เขาแต่งงานแล้ว มารดาบอกว่าเขากับเจ้าสาวรักกัน แต่ทำไมเขาจึงไม่อาจสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั้นเลยสักนิด แม้ความจริงเขาจะยังจำอะไรไม่ได้ หมอบอกว่าต้องค่อยเป็นค่อยไป แต่อย่างน้อยเขาก็ควรจะต้องมีความรู้สึกผูกพันกับหล่อนบ้างสิ แต่นี่ไม่เลยสักนิด...คืนแรกผ่านไปด้วยดี เขาไม่ได้แตะต้องหล่อน เพราะดูเหมือนหล่อนเองก็ประหม่าเช่นกัน แต่หลังจากนั้น เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น พูดคุยทำความรู้จักกันมากขึ้น จึงทำให้คู่สามีภรรยาหมาดๆ เริ่มคุ้นเคยกันทีละนิด จากที่เคยรู้สึกแปลกหน้า ก็กลายเป็นความสนิทสนม“เช้านี้คุณเร
บทพิเศษ ๑เศษพิศวาสณ โรงพยาบาลชื่อดัง โรสรินทร์นั่งบนโซฟาชิดผนังภายในห้องพิเศษ ดวงตาคู่สวยของสาวน้อยคอยมองไปยังเตียงผู้ป่วยเป็นระยะ คนบนเตียงยังคงหลับอยู่บนนั้น ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาให้คนรอได้ใจชื้นเลยสักหน“ตาเรตื่นบ้างไหมโรส” คุณผกามาศกลับเข้ามาอีกครั้งในช่วงเย็น ท่านยืนมองลูกชายที่มีสายระโยงระยางอยู่เท่าเดิมด้วยสายตาหม่นหมองเหตุการณ์ชวนช็อกทำให้ท่านแทบล้มทั้งยืน แต่เมื่อเป็นเสาหลักทำให้ต้องฝืนหยัดยืนและตั้งสติ“ยังเลยค่ะ คุณแม่นั่งก่อนนะคะ” หญิงสาวผุดลุกจากเก้าอี้ข้างเตียง คุณผกามาศจึงเข้าแทนที่ ท่านกอบมือลูกชายขึ้นมากุมเอาไว้ นัยน์ตามีหยาดน้ำเอ่อคลอ“ตาเร ได้ยินแม่ไหมลูก”โรสรินทร์ยืนมองท่านด้วยความสงสารจับใจ เรวัตไม่มีวันรู้ว่าเขาเกือบทำให้ท่านขาดใจตามไปด้วยเปลือกตาของเรวัตกระตุกเบาๆ แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น คุณผกามาศนั่งมองลูกชายอยู่นาน ภาวนาให้เขาปลอดภัยทุกลมหายใจ กระทั่งมีงานเร่งด่วนท่านจำต้องกลับไปอีกครั้ง“แม่ฝากพี่เขาด้วยนะโรส”โรสรินทร์ยิ้มให้กับผู้มีพระคุณ“คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ ถ้าคุณเรรู้สึกตัวเต็มที่ โรสจะรีบโทร.บอกกับคุณแม่ค่ะ”ผู้สูงวัยพยักหน้ารับรู้ ดวงตาคู่
วันเวลาเคลื่อนไปปีแล้ว ปีเล่า ทุกชีวิตล้วนเติบใหญ่ เช่นเดียวกับสองพี่น้องที่กำลังวิ่งเล่นบนชายหาด เสียงคลื่นซัดสาดเป็นจังหวะ บริเวณนี้เป็นชายหาดส่วนตัวของเรวัต เมื่อไม่นานมานี้ เขาตัดสินใจซื้อบ้านพักตากอากาศหรูติดชายทะเลเพราะลูกๆ ชอบมาก เด็กๆ มักจะเรียกร้องขอให้พ่อกับแม่พามาเที่ยวทะเลเสมอ เขาซึ่งเป็นพ่อที่รักลูกมากจึงตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้เอาไว้เป็นบ้านพักสำหรับครอบครัว“พ่อจ๋า มาเย่นกัน” แม่หนูรินร้องเรียกบิดาเสียงแหลม แล้วกระโดดโลดเต้นกับพี่ชายตัวโตที่คอยดูแลน้องสาวอยู่ไม่ห่าง“พี่เรไปเล่นกับลูกๆ เถอะค่ะ ตรงนี้โรสกับแนนจัดการเอง” หญิงสาวเงยหน้าบอกสามีที่กำลังเตรียมวางบาร์บีคิวบนเตา“งั้นฝากด้วยนะ” เรวัตบอกกับภรรยาก่อนจะเช็ดมือแล้วเดินตรงไปยังลูกๆ ที่กำลังสนุกสนานกับการเตะน้ำเล่นคุณผกามาศที่หลับเอาแรงเพิ่งเดินออกมาสมทบ ท่านมองหลานหญิงชายด้วยสายตาแจ่มใส“สนุกกันน่าดู ร่ำร้องมาตั้งแต่เดือนก่อน”โรสรินทร์หันไปมองท่านแล้วยิ้มอ่อน ก่อนจะมองเลยไปยังคนทั้งสามที่เป็นดั่งดวงใจของหล่อน“บ่นทุกวันเลยค่ะ นี่ถ้าอาทิตย์นี้ไม่พามาคงโวยวายไม่หยุด”“จริงค่ะคุณท่าน คุณหนูเซ้าซี้จนคุณโรสไม่เป็นอันทำง
บทส่งท้ายเมื่อถึงกำหนดคลอด เรวัตพาโรสรินทร์ไปโรงพยาบาลตามนัด เขาอยู่กับภรรยาตลอดเวลา แม้แต่ช่วงเวลาสำคัญ เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มได้เห็นภรรยาคลอดลูก หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก ลุ้นจนหน้าดำหน้าแดง รู้ตัวอีกทีว่าลืมหายใจก็ตอนที่ลูกสาวของเขาพ้นออกมาจากท้องของมารดาหมอให้ชายหนุ่มตัดสายสะดือ จากนั้นเขาได้อุ้มลูกสาวเป็นครั้งแรก พลันความตื้นตันก็ปริ่มล้นจนเอ่อท้นออกมาเป็นน้ำตา ลูกสาวของเขาผิวขาวผ่อง เนียนละเอียด ปากนิดจมูกหน่อย ตัวนิดเดียวแต่ร้องดังลั่นห้อง จนหมอและพยาบาลแซวว่าคงต้องส่งให้น้องเรียนว่ายน้ำ เพราะปอดใหญ่มากโรสรินทร์มองภาพสามีอุ้มลูกสาวแล้วน้ำตาไหล เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่น้ำตาคลอ เขายิ้มให้หล่อนแล้วส่งลูกสาวคืนให้กับนางพยาบาล...ไม่กี่วันต่อมาทั้งหมดก็กลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ตามปกติ น้องรันที่ตอนนี้กลายเป็นพี่รันเรียบร้อยอยู่ไม่ห่างน้องสาว ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตรงไหนก็จะวนเวียนกลับมาหาน้อง มากอด มาหอมและคอยดูแล“น้องริน” พี่รันยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แล้วจดจมูกลงบนแก้มนุ่มนิ่มหอมกรุ่นสูดดมดังฟอด จนคนเป็นแม่อดที่จะหัวเราะเพราะความเอ็นดูไม่ได้ “แม่ค้าบ น้องรินน่ารักจัง”คนตัว