หญิงสาวนอนนิ่ง น้ำตาไหลด้วยความรู้สึกที่เจ็บไปทั้งใจ ขณะที่ร่างกายปล่อยให้เขาทำอะไรตามความต้องการ ไม่สู้ ไม่ขัดขืนแต่ก็ไม่ตอบสนอง... เขาทำกับหล่อนเหมือนเป็นเศษขยะ เศษคนที่ไร้ค่า ที่จะทำอย่างไรก็ได้ เหมือนกับหัวใจของเขาที่ตายด้าน มีชีวิตแต่ไร้หัวใจ ไม่หลงเหลือให้ใครอีก แม้แต่เรื่องราวแสนอ่อนหวานระหว่างกันเขาก็ทอดทิ้ง หลงลืม เพราะหล่อนเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งในชีวิตของเขา เป็นเศษรักสีหวานที่จืดจางมากแล้ว เป็นเสี้ยวหนึ่งที่กำลังเลือนหายไปจากความทรงจำ... แต่ค่ำคืนแสนปวดร้าว เขาได้ฝากฝังหนึ่งชีวิตน้อยๆ ไว้ในร่างกายของหล่อน ก่อนที่จะตัดหญิงสาวออกจากชีวิตอย่างเลือดเย็น...
더 보기บทนำ
ภายในบริเวณเนื้อที่กว่าห้าไร่ มีบ้านหลังน้อยถูกทาทับด้วยสีขาวสะอาดตั้งเด่นอยู่ตรงกลาง โอบล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ตรงชายคาริมระเบียง ดอกคุณนายตื่นสายบานสะพรั่งอยู่ในกระถางสีฟ้าขาวซึ่งถูกแขวนเป็นระยะ พวกมันเคลื่อนไหวไปมายามแรงลมพัดผ่าน
เปลเด็กสีฟ้าตั้งกลางระเบียงที่ยื่นออกมาจากตัวบ้าน มีเก้าอี้นอนตั้งอยู่ไม่ห่าง เสียงโมบายกระทบกันดึงความสนใจของคนที่นั่งบนเก้าอี้ตัวยาวให้ละสายตาจากหนังสือที่กำลังอ่านแล้วเลื่อนมองไปยังคนตัวจ้อยภายในนั้น
หญิงสาวยิ้มอ่อนโยนยามมองเจ้าตัวอวบอ้วนที่บิดไปมาแล้วทำหน้ายู่ยี่
“ไงจ๊ะ พ่อหนุ่มน้อย” โรสหรือโรสรินทร์ วิภากรณ์ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัยยี่สิบเจ็ดปีก้มลงกล่าวกับลูกชายตัวน้อยด้วยแววตารักใคร่สุดหัวใจ
เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว ที่หญิงสาวตัดสินใจเดินออกมาจากชีวิตของผู้ชายที่หล่อนเคยทุ่มเทความรักและภักดี แต่ไม่เคยได้รับสิ่งใดกลับคืนมา ยกเว้น...
โรสรินทร์หลุบตามองผู้ชายตัวน้อยในเปลเด็ก เขาไม่ใช่สิ่งตอบแทน แต่คือของขวัญ คือความรักทั้งหมดที่หล่อนเต็มใจทุ่มเท และไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน มือเรียวเลื่อนลงแตะแก้มอิ่ม ดวงตาคู่งามนั้นมีแต่คำว่ารักเต็มไปหมด จนไม่อยากคิดถึงสิ่งที่ผ่านมา แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผู้ชายตรงหน้า มีความละม้ายคล้ายกับผู้ชายในวันวานของหล่อนไม่น้อยเลยทีเดียว...
เมื่อหนึ่งปีก่อน...
ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาภายในบ้านด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ พลางหยุดอยู่ที่กลางห้องโถง กวาดตามองหาใครบางคนที่ทำให้เขาร้อนรุ่มไปด้วยความโกรธ เกลียดและแค้นเคืองเกินอดกลั้น
“อ้าว คุณเร ทำไมวันนี้กลับไวจังเลยคะ” น้ำอบซึ่งเป็นสาวใช้ภายในบ้านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“โรสอยู่ที่ไหน” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าทำให้น้ำอบรู้สึกได้ถึงพายุรุนแรงที่กำลังก่อตัว
“คุณโรสอยู่ในครัวค่ะ กำลังทำขนม” ขนมที่ว่าโรสรินทร์ตั้งใจทำเอาไว้ให้คนตรงหน้านี่แหละ
“ไปตามมาพบฉันที่ห้องทำงานเดี๋ยวนี้” พูดจบก็เดินตรงไปยังห้องทำงานของเขา
“คุณโรสคะ คุณเรให้มาตามไปพบที่ห้องทำงานค่ะ”
โรสรินทร์ละมือจากขนมปั้นขลิบ สีหน้าบ่งบอกถึงความแปลกใจ
“เอ๊ะ ทำไมกลับมาเร็ว มีอะไรหรือเปล่า” หญิงสาวบ่นออกมาลอยๆ
“ท่าทางหงุดหงิดเหมือนกำลังโกรธใครมาค่ะ คุณโรสรีบไปเถอะ ประเดี๋ยวจะเป็นเรื่องอีก”
คำเตือนของสาวใช้คนสนิททำให้หญิงสาวพยักหน้า
“ฝากด้วยนะน้ำอบ” โรสรินทร์ล้างมือเสร็จก็รีบเดินออกจากครัวตรงไปยังห้องทำงานของสามีทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เรวัต ศศิกานต์ เจ้าของร่างสูงใหญ่ไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร ใบหน้าขาวผ่องคมหวาน เขาสวยเหมือนแม่ เพียงแต่เป็นผู้ชายทั้งแท่ง เวลานี้กำลังอยู่ในอาการเคร่งขรึมเงยหน้าขึ้นจากเอกสารบางอย่างที่วางเอาไว้บนโต๊ะทำงานเมื่อประตูถูกเปิดเข้ามา โรสรินทร์ปิดประตูเบาๆ แล้วสาวเท้าเข้าไปหาเขาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน
“คุณเรกลับมาตอนนี้มีอะไรด่วนหรือคะ” หญิงสาวเอ่ยถามเขาด้วยความแปลกใจ ทว่าสายตาที่ตวัดมองมาราวกับคนที่กำลังโกรธจัดทำให้ร่างบางชะงักงันอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของเขา
เรวัตมองโรสรินทร์นิ่ง ก่อนจะโยนเอกสารฉบับหนึ่งลงตรงหน้าหญิงสาว แววตาไม่คลาดจากใบหน้าของภรรยา ซ้ำยังวาววับจนเจ้าของร่างเล็กใจหาย ต้องหลุบสายตาลงมอง
“อะไรคะ” เอ่ยถามเสียงแผ่ว แต่กลับทำให้คนฟังแสยะยิ้ม
“เปิดดูสิ”
โรสรินทร์หยิบเอกสารปึกนั้นขึ้นมา ก่อนจะใจหายวาบยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้เห็นรายละเอียดบนเอกสาร
“เงียบทำไมล่ะ ถึงกับพูดไม่ออกเลยหรือไง”
หญิงสาวเม้มปากเข้าหากัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคมกริบด้วยแววตาที่มีหยาดน้ำคลอ ทว่าเรวัตไม่นึกสงสารเลยสักนิด เขามองว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่ปลิ้นปล้อนมากที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอมา ซ้ำยังรู้สึกรังเกียจที่ช่วงเวลาหนึ่งเคยร่วมเรียงเคียงหมอน ยอมให้หล่อนผ่านเข้ามาใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา
“ฉันให้โอกาสเธอได้อธิบายเป็นครั้งสุดท้าย”
โรสรินทร์ขบเม้มริมฝีปากด้านในจนเจ็บ มือเรียวที่ทิ้งลงแนบข้างลำตัวกำแน่น
“โรส...ไม่มีอะไรจะอธิบายค่ะ” ทันทีที่สบนัยน์ตาคมกร้าวของเรวัต โรสรินทร์รับรู้ได้ในวินาทีนั้นว่าทุกอย่างจบสิ้นแล้ว
เรวัตกระตุกยิ้ม ส่วนโรสรินทร์หลุบตามองกระดาษแผ่นนั้นเพราะไม่อยากประสานสายตาเกลียดชัง ซึ่งเต็มไปด้วยความหยามหยันหมิ่นแคลน
“ฉันให้เวลาเธอหนึ่งวัน เก็บข้าวของของเธอแล้วออกไปจากบ้านนี้ซะ แล้วทุกอย่างที่ผ่านมาฉันจะถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น”
โรสรินทร์สะอึกเบาๆ น้ำตาเอ่อคลอเต็มหน่วยตา หมุนตัวออกจากห้องโดยไม่ยอมมองหน้าเขาอีก ไม่มีคำแก้ตัวใด เพราะรู้ว่าเขาจะไม่มีวันเชื่อคำพูดของหล่อนอีก
“เดี๋ยว”
บทพิเศษ ๒หมดทั้งใจโรสรินทร์เป็นสาวร่างเล็ก หากเทียบกับเรวัตหล่อนก็สูงเลยหัวไหล่เขาขึ้นไปเล็กน้อยเท่านั้น หญิงสาวอาจไม่ใช่คนสวยจัดจ้าน แต่ก็น่ารักอ่อนหวานอย่างที่ทำให้หนุ่มอื่นเหลียวมองได้โดยไม่ยาก และเขารักทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นหล่อน “กำลังท้องกำลังไส้ ไปซนที่ไหนมาอีก”เสียงกระเซ้าที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวหันไปยิ้มกว้างกับสามีที่เดินเข้ามาสวมกอดหล่อนจากด้านหลัง“ไปซื้อของใช้ส่วนตัวกับแนนมาค่ะ โรสซื้อครีมโกนหนวดแล้วก็มีดโกนมาให้พี่เรด้วย ของเก่าใกล้หมดแล้ว” หญิงสาวตรวจสิ่งของที่ซื้อมาว่าครบถ้วนหรือไม่ ขณะที่ชายหนุ่มเกยคางกับบ่าบอบบางเอาไว้ สายตาก็มองเข้าไปในถุงผ้า มือเรียวใหญ่ลูบไล้บนหน้าท้องที่ยื่นออกมามากแล้ว“ท้องนี้ใหญ่จัง แค่สามสี่เดือนเอง” เขาพึมพำอย่างนึกเป็นห่วง โรสรินทร์ตั้งท้องลูกคนที่สามให้กับเขาแล้ว แต่ดูหล่อนยังกระฉับกระเฉงแทบไม่ต่างจากตอนปกติทั้งที่ท้องโตเร็วมาก“ท้องสามแล้วนะคะ ก็ใหญ่เป็นธรรมดา แต่คลอดคนนี้แล้วโรสว่าเราสองคนทำหมันกันดีกว่านะ”คนตัวโตเลิกคิ้วนิดๆ ยิ้มหน่อยๆ“ตามใจโรส”คนถูกตามใจมาโดยตลอดยิ้มออกมาอย่างปลื้มใจ“ใจดีจังเลย ตามใจตลอด”“มีเมียกับเขาแค่คนเดี
เวลานั้น ภาพวูบวาบในช่วงเวลาหนึ่งปีที่ขาดหายกำลังไหลผ่านเข้ามาในความคิด ทำให้เขาปวดหัวอีกครั้ง มันหลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำ แต่เขาไม่ยอมเชื่อโดยเฉพาะภาพกอดจูบผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นเมีย ทำเรวัตช็อก หัวใจเต้นแรง เหงื่อแตกพลั่กไม่จริง เขาไม่ทำแบบนั้น!เมื่อชายหนุ่มลืมตาและหันไปมองตรงที่หญิงสาวยืนอยู่กลับไม่พบร่างบาง ภายในห้องว่างเปล่าจนเขาใจหาย ชายหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วพร้อมกับเม้มปากเข้าหากันไม่ว่าก่อนหน้านี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เขาไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นต่อไปแน่เมื่อมารดายื่นคำขาด เรวัตก็บอกตนเองว่าช่างมัน ในเมื่อโรสรินทร์อยากอยู่เขาก็ให้อยู่ ทว่าทุกวันหล่อนจะได้พบกับความเจ็บปวดไม่จบไม่สิ้น เหมือนกับที่เขากำลังรู้สึก“อยากอยู่ก็ได้ แต่ช่วยย้ายข้าวของของเธอออกจากห้องของฉันด้วย”เขาออกคำสั่งทันทีที่กลับมาถึงบ้าน หญิงสาวได้แต่ยืนนิ่งตัวชา หน้าชาอยู่พักใหญ่ จากนั้นจึงค่อยๆ ทยอยขนย้ายข้าวของออกจากห้องนอนส่วนตัวที่เคยเป็นวิมานรักของเขาและหล่อนมาหนึ่งปีเต็มด้วยสายตาหม่นหมอง แต่เรวัตกลับเข้าใจไปว่าหล่อนกำลังอาลัยอาวรณ์ห้องนี้นักหนา“โทษทีนะ แต่ห้องนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเธอ บ้านหลังนี้ก็
เรวัตจดปลายปากกาลงบนใบสำคัญการสมรสเรียบร้อย โรสรินทร์จึงเซ็นชื่อของตนเองตามลงไป มองผู้หญิงที่มารดาบอกว่ากำลังวางแผนร่วมชีวิตกับหล่อนก่อนประสบอุบัติเหตุด้วยความรู้สึกสับสน แต่ไม่ว่าอย่างไรทุกอย่างก็ดำเนินไปตามที่มารดากล่าวอ้างจนลุล่วงภายในห้องหอเขายืนนิ่งอยู่หน้าเตียงนอน ขณะที่เจ้าสาวของเขากำลังอาบน้ำ งานแต่งวันนี้เป็นเพียงงานเล็กๆ มีผู้ร่วมงานไม่กี่คน แต่เขาก็พอใจให้เป็นแบบนั้น เพราะต่อให้มีคนมากมาย เขาก็จำอะไรไม่ได้สักอย่างชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงบนเตียงกว้าง จนถึงเวลานี้เขาก็ยังสับสน ตอนนี้เขาแต่งงานแล้ว มารดาบอกว่าเขากับเจ้าสาวรักกัน แต่ทำไมเขาจึงไม่อาจสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั้นเลยสักนิด แม้ความจริงเขาจะยังจำอะไรไม่ได้ หมอบอกว่าต้องค่อยเป็นค่อยไป แต่อย่างน้อยเขาก็ควรจะต้องมีความรู้สึกผูกพันกับหล่อนบ้างสิ แต่นี่ไม่เลยสักนิด...คืนแรกผ่านไปด้วยดี เขาไม่ได้แตะต้องหล่อน เพราะดูเหมือนหล่อนเองก็ประหม่าเช่นกัน แต่หลังจากนั้น เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น พูดคุยทำความรู้จักกันมากขึ้น จึงทำให้คู่สามีภรรยาหมาดๆ เริ่มคุ้นเคยกันทีละนิด จากที่เคยรู้สึกแปลกหน้า ก็กลายเป็นความสนิทสนม“เช้านี้คุณเร
บทพิเศษ ๑เศษพิศวาสณ โรงพยาบาลชื่อดัง โรสรินทร์นั่งบนโซฟาชิดผนังภายในห้องพิเศษ ดวงตาคู่สวยของสาวน้อยคอยมองไปยังเตียงผู้ป่วยเป็นระยะ คนบนเตียงยังคงหลับอยู่บนนั้น ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาให้คนรอได้ใจชื้นเลยสักหน“ตาเรตื่นบ้างไหมโรส” คุณผกามาศกลับเข้ามาอีกครั้งในช่วงเย็น ท่านยืนมองลูกชายที่มีสายระโยงระยางอยู่เท่าเดิมด้วยสายตาหม่นหมองเหตุการณ์ชวนช็อกทำให้ท่านแทบล้มทั้งยืน แต่เมื่อเป็นเสาหลักทำให้ต้องฝืนหยัดยืนและตั้งสติ“ยังเลยค่ะ คุณแม่นั่งก่อนนะคะ” หญิงสาวผุดลุกจากเก้าอี้ข้างเตียง คุณผกามาศจึงเข้าแทนที่ ท่านกอบมือลูกชายขึ้นมากุมเอาไว้ นัยน์ตามีหยาดน้ำเอ่อคลอ“ตาเร ได้ยินแม่ไหมลูก”โรสรินทร์ยืนมองท่านด้วยความสงสารจับใจ เรวัตไม่มีวันรู้ว่าเขาเกือบทำให้ท่านขาดใจตามไปด้วยเปลือกตาของเรวัตกระตุกเบาๆ แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น คุณผกามาศนั่งมองลูกชายอยู่นาน ภาวนาให้เขาปลอดภัยทุกลมหายใจ กระทั่งมีงานเร่งด่วนท่านจำต้องกลับไปอีกครั้ง“แม่ฝากพี่เขาด้วยนะโรส”โรสรินทร์ยิ้มให้กับผู้มีพระคุณ“คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ ถ้าคุณเรรู้สึกตัวเต็มที่ โรสจะรีบโทร.บอกกับคุณแม่ค่ะ”ผู้สูงวัยพยักหน้ารับรู้ ดวงตาคู่
วันเวลาเคลื่อนไปปีแล้ว ปีเล่า ทุกชีวิตล้วนเติบใหญ่ เช่นเดียวกับสองพี่น้องที่กำลังวิ่งเล่นบนชายหาด เสียงคลื่นซัดสาดเป็นจังหวะ บริเวณนี้เป็นชายหาดส่วนตัวของเรวัต เมื่อไม่นานมานี้ เขาตัดสินใจซื้อบ้านพักตากอากาศหรูติดชายทะเลเพราะลูกๆ ชอบมาก เด็กๆ มักจะเรียกร้องขอให้พ่อกับแม่พามาเที่ยวทะเลเสมอ เขาซึ่งเป็นพ่อที่รักลูกมากจึงตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้เอาไว้เป็นบ้านพักสำหรับครอบครัว“พ่อจ๋า มาเย่นกัน” แม่หนูรินร้องเรียกบิดาเสียงแหลม แล้วกระโดดโลดเต้นกับพี่ชายตัวโตที่คอยดูแลน้องสาวอยู่ไม่ห่าง“พี่เรไปเล่นกับลูกๆ เถอะค่ะ ตรงนี้โรสกับแนนจัดการเอง” หญิงสาวเงยหน้าบอกสามีที่กำลังเตรียมวางบาร์บีคิวบนเตา“งั้นฝากด้วยนะ” เรวัตบอกกับภรรยาก่อนจะเช็ดมือแล้วเดินตรงไปยังลูกๆ ที่กำลังสนุกสนานกับการเตะน้ำเล่นคุณผกามาศที่หลับเอาแรงเพิ่งเดินออกมาสมทบ ท่านมองหลานหญิงชายด้วยสายตาแจ่มใส“สนุกกันน่าดู ร่ำร้องมาตั้งแต่เดือนก่อน”โรสรินทร์หันไปมองท่านแล้วยิ้มอ่อน ก่อนจะมองเลยไปยังคนทั้งสามที่เป็นดั่งดวงใจของหล่อน“บ่นทุกวันเลยค่ะ นี่ถ้าอาทิตย์นี้ไม่พามาคงโวยวายไม่หยุด”“จริงค่ะคุณท่าน คุณหนูเซ้าซี้จนคุณโรสไม่เป็นอันทำง
บทส่งท้ายเมื่อถึงกำหนดคลอด เรวัตพาโรสรินทร์ไปโรงพยาบาลตามนัด เขาอยู่กับภรรยาตลอดเวลา แม้แต่ช่วงเวลาสำคัญ เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มได้เห็นภรรยาคลอดลูก หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก ลุ้นจนหน้าดำหน้าแดง รู้ตัวอีกทีว่าลืมหายใจก็ตอนที่ลูกสาวของเขาพ้นออกมาจากท้องของมารดาหมอให้ชายหนุ่มตัดสายสะดือ จากนั้นเขาได้อุ้มลูกสาวเป็นครั้งแรก พลันความตื้นตันก็ปริ่มล้นจนเอ่อท้นออกมาเป็นน้ำตา ลูกสาวของเขาผิวขาวผ่อง เนียนละเอียด ปากนิดจมูกหน่อย ตัวนิดเดียวแต่ร้องดังลั่นห้อง จนหมอและพยาบาลแซวว่าคงต้องส่งให้น้องเรียนว่ายน้ำ เพราะปอดใหญ่มากโรสรินทร์มองภาพสามีอุ้มลูกสาวแล้วน้ำตาไหล เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่น้ำตาคลอ เขายิ้มให้หล่อนแล้วส่งลูกสาวคืนให้กับนางพยาบาล...ไม่กี่วันต่อมาทั้งหมดก็กลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ตามปกติ น้องรันที่ตอนนี้กลายเป็นพี่รันเรียบร้อยอยู่ไม่ห่างน้องสาว ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตรงไหนก็จะวนเวียนกลับมาหาน้อง มากอด มาหอมและคอยดูแล“น้องริน” พี่รันยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แล้วจดจมูกลงบนแก้มนุ่มนิ่มหอมกรุ่นสูดดมดังฟอด จนคนเป็นแม่อดที่จะหัวเราะเพราะความเอ็นดูไม่ได้ “แม่ค้าบ น้องรินน่ารักจัง”คนตัว
댓글