Share

บทที่ 11 อาการพระชายาหซู่ดีขึ้น

นางโกรธมาก แม้ว่านางจะไม่ใช่เจ้าของเดิมแต่อาจเพราะมีความทรงจำของเจ้าของเดิมและความทรงจำรวมถึงความทรงจำเหตุการณ์และความทรงจำทางอารมณ์ ความรักระหว่างพ่อกับลูกไม่สามารถแยกจากกันได้

มันเป็นเรื่องน่าเศ้ราใจสำหรับประเทศ ที่แม่ทัพที่สละชีพเพื่อชาติลงเอยเช่นนี้

แม้ว่านางจะไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้งนัก แต่นางก็รู้ด้วยว่าในสมัยโบราณ แม่ทัพที่พ่ายแพ้จะถูกลงโทษด้วยปรับ สูญเสียตำแหน่ง ลดตำแหน่ง ถูกเนรเทศ ตัดหัว และแม้กระทั่งประหารกี่ชั่วโดตร

จักรพรรดิ์มีได้กุมความตายทุกคนไว้

นางคลี่เสื้อผ้าของนางออกมา มันเป็นเสื้อผ้าผู้ชายมันยาวและกว้าง นางใส่ไม่ได้เลย เจ้าของชุดนี้สูงมากก็ไม่รู้ว่าเป็นขององครักษ์คนนั้นไหม

นางพันเสื้อผ้ารอบตัว เสื้อผ้าเก่าเล็กน้อยแต่สะอาดมาก มีกลิ่นเหมือนก้นตู้เสื้อผ้าเล็กน้อย

มีเสื้อผ้าพันรอบตัวก็อุ่นขึ้นมาก คืนนี้ไม่ต้องทนหนาวแล้ว

หลังจากรับทานอาหารเสร็จนางก็วางกล่องอาหารไว้ข้างนอกแล้วเข้ามาสั่งนมผงแพะให้กับเด็กทารก อาการของทารกดีขึ้นมาก แต่พระชายาหซู่ ก็ยังรไม่ดีขึ้น

นางเปลี่ยนยาแล้วให้ยาต่อ มองรอยแผลกากบาทบทหน้านาง อุ้มเด็กไว้ข้างตัวให้นางรู้สึกถึงการเป็นอยู่ของเด็กทารก แล้วพูดว่า “ ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงไม่อยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ บางทีอาจเป็นตัวตนของคนร้ายทำให้เจ้าเผชิญหน้าได้ยาก อย่างไรก็ตาม เพราะว่าคนคนนี้เกลียดเจ้ามาก เขาจะปล่อยลูกชายของเจ้าไปเหรอ เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะออกจากเมืองหลวงพร้อมกับลูกชายของเจ้า เขาจะต้องกลับไปหาหยุนจินเฟิง ถึงเวลานั้นใครจะรับประกันความปลอดภัยของเขาได้ ข้ารู้ว่าเจ้าได้ยินข้า ดังนั้นกล้าหาญหน่อยเถิด เจ้าพาเขามาสู่โลกนี้เจ้าต้องปกป้องเขา ”

“ ข้ารู้ว่าเจ้าได้รับการปกป้องอย่างดี ไม่เคยประสบกับความยากลำบากมาก่อน อยู่มาถึงตอนนี้ถึงได้รู้ว่าโลกนี้โหดร้าย แต่เมื่อเจ้าเป็นแม่คนแล้ว มีคนต้องการการปกป้องจากเจ้า เข้มแข็งหน่อยเถอะ ”

สองประโยคนี้สะกิดใจพระชายาหซู่เข้า และคลื่นหัวใจได้กระตุกแวบหนึ่ง หลังจากนั้นไม่นานความดันโลหิตก็เริ่มสูงขึ้นอย่างช้า ๆ

ชีพจรพุ่งขึ้นเป็นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ สิบหกเปอร์เซ็นต์ ยี่สิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์

ขอแค่สามารถเพิ่มขึ้นเป็นสามสิบเปอร์เซ็นต์ งั้นอาการก็จะคงตัวแล้ว

ล่อจี่นซูกำลังรอให้ปาฏิหาริย์นี้ปรากฏ ในฐานะแม่ต้องกล้าหาญ พระชายาหซู่อย่ายอมแพ้

นางอุ้มเด็กกลับไปที่ตู้อบ นั่งลงแล้วจับมือนาง เหมือนเช่นทุกครั้งที่เจ้าของเดิมรู้สึกว่าไม่สามารถมีชีวิตอยู่ในบ้านได้ นางก็จับมือเจ้าของเดิมแล้วบอกให้นางอดทนไว้ อดทน ทุกอย่างจะดีขึ้นแน่

เจ้าของเดิมไม่สามารถรอถึงเรื่องทุกอย่างได้ดีขึ้น แต่หวังว่าพระชายาหซู่ดีขึ้นได้

หยุนจินเฟิงกลับมายังจวนหซู่พร้อมกับพระราชโองการของฮ่องเต้และกองทัพจักรวรรดิ เขาไม่รีบร้อนที่จะไปที่จวนเซียว ทันที แต่เขาส่งคนไปเชิญท่านเซี่ยแห่งจวนจิงเจ้าและผู้บัญชาการกองพันลาดตระเวน เพื่อไปที่จวนเซียวด้วยกันและให้พวกเขาเป็นพยาน

เขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าหยุนเส้ายวนแอบเก็บฆาตกรไว้ และแม่ทัพผู้มีเกียรติในประเทศกำลังเก็บอาชญากรที่ไม่คำนึงถึงชีวิตมนุษย์หรือกฎหมายใด ๆ ไว้

ในระหว่างรอ อันดับแรกเขาสั่งให้สื่นเหรินนำผู้คนไปตั้งการป้องกันรอบ ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนจากจวนเซียวแอบส่งนังแพศยาล่อจี่นซูออกไปก่อนที่จะเปิดประตูต้อนรับคำสั่งของจักรพรรดิ

หนึ่งชั่วยามต่อมา ท่านเซี่ยจากจวนจิงเจ้าและผู้บัญชาการกองพันลาดตระเวนได้พาผู้คนไปยังจวนหซู่

หลังจากฟังคำสั่งของจักรพรรดิที่อ่านโดยเหลียงซือผู้บัญชาการกองทัพจักรวรรดิ แม้ทั้งสองรู้สึกว่าเจ้าชายเซียวไม่มีทางซ่อนฆาตกร แต่นี่เป็นคำสั่ง ดังนั้น พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปยังจวนเซียวกับหยุนจินเฟิง

กองทัพจักรวรรดิ จวนจิงเจ้า ค่ายลาดตระเวนและจวนหซู่ออกเดินทางพร้อมกัน ท่าทางแบบนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก นอกจากนี้ หลายคนยังให้ความสนใจกับการฆาตกรรมของพระชายาหซู่และหวังว่าร่างของพระชายาหซู่จะหาเจอโดยเร็วที่ เพราะงั้นรอบ ๆ ก็ได้มีคนเดินเตร่ไปมา

เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนั้น พวกเขาก็รวมตัวกันรอบ ๆ

คนในค่ายลาดตระเวนต้องการขับไล่พวกเขา แต่หยุนจินเฟิงพูดอย่างเย็นชา “ ไม่จำเป็น ข้ากำลังทำตามคำสั่ง ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถดูได้ ”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status