เมื่อเถ้าแก่หยงตัดเป็นตัดตายกับเธอทำให้เธอต้องประชดโดยการทำตัวแหลกเหลวให้คนเป็นพ่อได้อับอายแต่มันกลับทำให้เถ้าแก่หยงยิ่งระอา และแสนเสียใจ แม้จะเสียเรื่องลูก แต่เถ้าแก่หยงซึ่งเป็นคนมีจิตใจโอบอ้อมอารีก็ยังทำความดี ทำบุญทำทานอยู่เสมอ เขายังทำบุญสร้างวัดวา สร้างโรงเรียน ให้ทุนการศึกษาเด็กยากจนนั่นก็รวมถึงเด็กหญิงอโนมาในตอนนั้นด้วย หนำซ้ำเถ้าแก่หยงยังชอบเปรียบเธอกับอโนมาอยู่บ่อยๆ ว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว
อโนมานั้นรักดีน่าชื่นชมยกย่องผิดกับตนที่ไม่เอาไหนแล้วยังทำให้ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งนั่นยิ่งเป็นการฝังรอยริษยาให้หยั่งลึกในใจที่มืดบอดของมิรันตีเรื่อยมาและนานวันมันยิ่งฝังลึกเกินเยียวยา
“นังนี่น่ะมันช่างออดอ้อนสมชื่อมันค่ะน้องริต้าพี่มิรันรู้จักมันดีเพราะถ้ามันไม่ได้พ่อพี่ส่งเสียให้ทุนเรียนน้ำหน้าอย่างมันคงไม่ได้เรียนโรงเรียนดีประจำจังหวัดและสอบติดมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของเมืองไทยได้หรอกค่ะ นังนี่น่ะมันร้าย” มิรันตีรีบใส่ไฟ
“พี่มิรันบอกว่ารู้จักมันจริงๆ ใช่ไหมคะ”
“จริงสิคะมันเป็นคนเชียงรายบ้านเดียวกับพี่มิรัน แต่พี่ไม่ค่อยอยากบอกใครว่ารู้จักมันหรอกค่ะน้องริต้า พี่อายเพราะถ้าใครรู้ว่าพี่รู้จักนังเด็กบ้านนอกกระจอกๆ ไม่มีหัวนอนปลายเท้าแล้วยังทำตัวเหลวแหลกอีกนะคะ พี่ล่ะไม่กล้าบอกใครเลยล่ะค่ะว่ารู้จักมัน”
มิรันตีใส่ไฟคนที่เกลียดชนิดว่าไม่มีมูลความจริงเลยสักนิดไอ้ที่ว่าเหลวแหลกน่าจะเป็นตัวเองเสียมากกว่า
“จริงเหรอคะพี่มิรันที่ว่ามันเคยเหลวแหลกมาก่อน...ต๊าย แล้วมันยังกล้ามาตีหน้าซื่อแอ๊บแบ๊วอีกเหรอคะเนี่ย ไม่ได้การแล้วเราต้องช่วยกันทำให้นนท์เห็นธาตุแท้ของมันนะคะไม่อย่างนั้นนนท์ต้องโดนหลอกไปอีกนานเลยล่ะค่ะ”
สาวสวยลูกเจ้าของร้านเพชรร้อนรนจนลืมสังเกตสีหน้าสะใจของรุ่นพี่สุดแสบ
“ใช่ๆ จริงด้วยค่ะ และพี่ก็มีวิธีคะน้องริต้า”
มิรันตีได้ทีรีบเสนอแผนอันร้ายกาจของตัวเองโดยที่เธอเองก็ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่ามันจะส่งผลให้ชีวิตที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาของสาวน้อยคนหนึ่งต้องแปดเปื้อนแต่ถึงรู้เธอก็คงจะไม่สนใจว่ามันจะเป็นอย่างไรเพราะถึงอย่างไรเธอคิดเสมอว่าอโนมาต้องได้รับบทเรียนบ้าง
“ยังไงคะ”
“มาใกล้ๆ พี่มิรันสิคะ...”
สองหนุ่มสาวที่จับจูงมือกันมาที่ลานกว้างอันเป็นที่ที่เพื่อนๆ ทั้งชายหญิงกำลังดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน
“มาแล้วๆ คนสวยของเราเก็บเนื้อเก็บตัวเชียวนะคะ ดูท่านนท์จะหวงน่าดู” ภูริตาเอ่ยทักเมื่อเห็นเป้าหมายเดินมา
“ดูท่าน้องนนท์จะเอาจริงนะคะเนี่ย คิดดีแล้วหรือคะว่าคนนี้จริง”
“ครับ ผมรักอ้อนและอ้อนก็รักผม” รัชชานนท์ตอบอย่างมั่นใจพร้อมกับกระชับมือบางยืนยันคำพูดนั้น แต่มันได้สร้างไฟริษยาให้กับภูริตากับมิรันตีอย่างมาก
“แหม...นนท์นี่มั่นใจจังเลยนะ อิจฉาอ้อนจริงๆ เล้ย” ภูริตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ปกปิดความริษยาไว้ไม่มิด
“คนอย่างริต้าจะอิจฉาอ้อนทำไม ในเมื่อริต้าก็มีหนุ่มมารุมล้อมเยอะแยะ”
“แหม..นนท์ก็ริต้าก็พูดๆ ไปอย่างนั้นเอง เอ่อ...นนท์คะ ริต้ามีบางอย่างจะปรึกษาค่ะ มาทางนี้คะแป๊บเดียวค่ะ ขอตัวนนท์แป๊บเดียวนะจ๊ะอ้อนเดี๋ยวเอามาคืน” ว่าแล้วสาวสวยก็รีบคว้ามือชายหนุ่มที่ตนพึงใจไปทันทีโดยที่คนที่ถูกพาไปไม่ทันตั้งตัว
“เอาล่ะจ้ะนัง เอ้ย น้องอ้อนมาดื่มฉลองให้นนท์กันดีกว่าค่ะ มาพวกเราเอาเหล้ามาทางนี้ แฟนนนท์เค้าอยากดื่มฉลอง ให้กับตัวเองที่จับนนท์ได้อยู่หมัด” คำพูดประโยคสุดท้ายมิรันตีลดเสียงลงแผ่วเบาพอได้ยินกันสองคนกับอโนมาแต่แววตาที่ส่งมาบ่งบอกได้อย่างดีว่ามันเต็มไปด้วยไฟริษยาและความมาดร้ายจนอโนมารู้สึกขนหัวลุกอย่างช่วยไม่ได้
“เอ่อ พี่มิรันคะอ้อนไม่ดื่มค่ะ”
“ได้ไงคะน้องอ้อน วันนี้เป็นวันที่เราทุกคนร่วมกันฉลองให้กับน้องนนท์ทั้งที คนเป็นแฟนจะไม่ดื่มได้ไงว่าไหมพวกเรา” มิรันตีหาพวกได้ง่ายดายเมื่อเหล่าลูกหลานของพวกผู้ดีมีเงินเริ่มทยอยมาร่วมวงตรงที่ทั้งสองสาวยืนอยู่ และค่ำคืนนี้ก็มีอะไรสนุกๆ ให้ทำเสียด้วย
“ถ้าน้องอ้อนไม่ดื่มเหล้า งั้นพั้นซ์แบบเบาๆ นะคะ” สาวสวยที่ควงคู่มากับหนุ่มหน้าสวยบอกอย่างเห็นด้วยกับแผนการของมิรันตีเพราะเธอหมั่นไส้แฟนหนุ่มซึ่งแอบมองอโนมาอย่างสนใจจนออกนอกหน้า
“เอ่อ...” สาวน้อยเริ่มร้อนรนและลอบมองหาคนรักอย่างกระวนกระวาย เพราะถ้ารัชชานนท์อยู่ตรงนี้เขาจะไม่ปล่อยให้เพื่อนๆ ของเขาทำแบบนี้เด็ดขาด
“อย่าทำตัวเรื่องมากเลยนังอ้อน คงจะอยากเรียกร้องความสนใจภายใต้ใบหน้าใสซื่อสินะ” มิรันตีกระซิบเบาๆ กับคนที่เธอเฝ้ามองอย่างริษยาตั้งแต่อดีต
“แต่อ้อน อ้อน ไม่เคยดื่มนะคะ แล้วๆ” ยังปฏิเสธไม่ทันจบแก้วพั้นซ์สีสวยก็ถูกยื่นมาตรงหน้า สาวน้อยมองชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาไม่แพ้รัชชานนท์ที่เธอจำได้ว่าเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับภูริตา
“นี่ครับสาวน้อย รับรองดื่มแล้วไม่เมาแน่ๆ ครับ รับรองได้” ปากบอกไม่เมาแต่แววตาของคนพูดวาววามอย่างไม่น่าไว้ใจ
ท่ามกลางวงล้อมของเหล่าหนุ่มสาวที่เรียกตัวเองว่าลูกผู้ดี คนชั้นสูงหรือไฮโซแล้วแต่จะเรียกแต่จิตใจกลับหมักหมมไปด้วยความเน่าเฟะและจ้องแต่ทำร้ายผู้ที่ด้อยกว่า ร่างน้อยสั่นเทาแลดูน่าสงสารแววตาตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อเจอสายตากระเหี้ยนกระหือเหมือนจะเขมือบเธอให้ตายไปต่อหน้า สาวน้อยก็ตัดสินใจยื่นมือบางไปรับแก้วเครื่องดื่มมาอย่างจำใจ พลางมองแก้วอย่างลังเลโดยที่ไม่ทันเห็นสายตาที่วาววับด้วยความหมายมาดบางอย่างที่ไม่น่าจะใช่เรื่องดีเลยสักนิดเดียวของมิรันตี แล้วรอยยิ้มที่สมใจก็ฉาบบนใบหน้าสวยเมื่ออโนมาดื่มสิ่งที่เธอยัดเยียดให้จนสำลักไอจนหน้าดำหน้าแดงมิรันตียิ้มเยาะสาวน้อยที่กำลังตกเป็นเหยื่ออย่างร้ายกาจ
“เอ้าดื่มๆๆ” เสียงปรบมือโห่ร้องพร้อมด้วยเครื่องดื่มสีสวยที่ต่างยื่นส่งมาแก้วตรงหน้าจนสาวน้อยแทบตั้งตัวไม่ติด ตอนนี้เธอก็รู้สึกเหมือนว่าลำคอแสบร้อนและปากบางเริ่มบวมเห่อ มือบางอ่อนแรงแทบยกไม่ขึ้นแต่ก็ไม่มีใครสนใจในปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของเธอ มิรันตียื่นแก้วเครื่องดื่มสีสวยแก้วพิเศษที่เธอเตรียมไว้ให้สาวน้อยตรงหน้าที่เริ่มจะยืนไม่อยู่เมื่อได้รับสัญญาณจากชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่อีกมุมที่ไม่มีใครสนใจ
“แก้วสุดท้ายแล้วค่ะน้องอ้อน รับรองว่านี่คือแก้วสุดท้าย...แก้วสุดท้ายก่อนที่แกจะได้รับบทเรียนที่จะทำให้แกลืมไม่ลงเลยทีเดียว
“อ้อนไม่ไหวแล้วค่ะ ได้โปรด...” อโนมาขอร้องในขณะที่มิรันตีไม่ยอมพยายามจะยัดเยียดแก้วใส่มือของเธอ แต่แล้วมือหนาของรัชชานนท์ก็คว้าไว้ก่อน แล้วมองหน้าเพื่อนๆ ที่อยู่ตรงนั้นด้วยแววตาวาวโรจน์อย่างโกรธกรุ่น
“ใครให้อ้อนดื่มเหล้า” เสียงห้าวห้วนอย่างไม่ต้องคิดมากก็รู้ว่าเจ้าตัวโกรธมากเพียงใด
“มันไม่ใช่เหล้านะนนท์” เสียงของเพื่อนๆ แย้งอ่อยๆ
“อ้อนแพ้แอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็นเหล้าหรืออะไรก็ตามแต่ที่มีส่วนผสมของแอลลกอฮอล์ ไม่มีใครรู้ หรือรู้แต่ไม่สนใจ...” ชายหนุ่มปรายตามองมิรันตีอย่างไม่สบอารมณ์มือหนาโอบเอวบางไว้อย่างปกป้องเมื่อเห็นว่าร่างแฟนสาวอ่อนแรงและหายใจติดขัดผื่นแดงขึ้นรวดเร็วตามตัว ริมฝีปากบางบวมเจ่อ เพื่อนๆ ของเขาต่างหน้าถอดสีไปตามๆ กันเมื่อเห็นสภาพของสาวน้อยที่คอพับคออ่อนในอ้อมแขนของรัชชานนท์ จนน่ากลัวว่าจะมีอะไรร้ายแรง
ตอนที่ 140. อวสาน“มันผ่านไปแล้วริต้าตอนนี้เธอมีชีวิตที่สดใส และมีพวกเราอยู่ข้างๆ และตอนนี้เธอก็ได้ชดใช้มันแล้ว ไม่เอาไม่พูดถึงเรื่องเก่าๆ แบบนั้นอีก” เนตรนาราปลอบ“นั่นสิริต้า ตอนนี้พวกเราผ่านพ้นเรื่องร้ายนั้นมาแล้วอย่าคิดมากนะยังไงเราก็ยังคงอยู่ด้วยกันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ปล่อยวางความเจ็บปวด ความอาฆาตพยาบาทที่มันไม่เคยให้คุณแก่ใคร” อโนมากุมมือผอมบางนั้นอย่างจริงใจทั้งน้ำเสียงและแววตาจนภูริต้าน้ำตาซึมด้วยความตื้นตันใจที่เธอโชคดีเหลือเกินที่พบเจอและได้หญิงสาวทั้งสามคนนี้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาจิตใจที่กระเจิดกระเจิงและเคยสกปรกของเธอด้วยความรักและจริงใจอย่างสม่ำเสมอ“ริต้าดีใจจัง”“พวกเราก็ดีใจที่ริต้ามีความสุขและหายดีแล้ว แล้วนี่ริต้าอยากจะออกไปอยู่กับพวกเราไหม” อโนมาถามด้วยความเป็นห่วงเธออยากให้ภูริตาไปอยู่ที่บ้านด้วยเพราะเห็นว่าภูริตาหายดีแล้ว“ไม่หรอกอ้อนขอบใจมากนะ ริต้าอยากอยู่ที่นี่ อยากช่วยเหลืออยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นบ้าง ที่นี่ต้องการริต้า ริต้ารู้สึกอย่างนั้น เพราะมีหลายๆ คนที่เคยเป็นเหมือนริต้าหรือบางคนอาจเป็นมากกว่าด้วยซ้ำไป และบางทีเคยมีคนที่เคยเข้ารับการรัก
ตอนที่ 139.ไอรดาพูดยิ้มๆ และหัวเราะออกมาอย่างขบขันสามีที่ทำท่าราวน้องเก้าลูกชายชอบทำเวลาที่งอนง้อเธอ ไอ้ท่าชูนิ้วก้อยดุ๊กดิ๊ก ทำหน้าตาให้ดูเด็กและน่ารักอย่างที่สุด ถ้าน้องเก้าทำเธอคิดว่ามันก็น่ารักดี แต่พอสามีทำมันเหมือนตัวตลก แต่ก็น่ารักดีเหมือนกัน“นี่น้ำแข็งแกล้งพี่กันต์เหรอ” ชายหนุ่มร้องออกมาอย่างงอนๆ บ้างและทำหน้าบึ้งตึงจนดูตลก“โถๆๆ ก็สามีสุดหล่อน่ารักขนาดนี้น้ำแข็งจะใจร้ายแกล้ง หรือโกรธได้ยังไงล่ะคะ” ไอรดาหัวเราะท่าทางของสามีอย่างไม่เก็บอาการ“ว้าย! พี่กันต์บ้าทำอะไรคะ”แล้วเธอก็ต้องร้องเสียงดังอย่างตื่นตระหนกเมื่อร่างอวบอิ่มด้วยอายุครรภ์สี่เดือนในตอนนี้ถูกสามีอุ้มจนตัวลอย จนเธอเองต้องรีบโอบลำคอหนาด้วยกลัวตกแล้วหันมามองหน้าสามีอย่างตื่นตกใจ“พี่กันต์จะทำโทษคนเจ้าเล่ห์ขี้เกรงให้สามีน้อยใจ เสียใจ เพราะฉะนั้นเมียจ๋าต้องโดนทำโทษ หนักๆ”ชายหนุ่มเอ่ยชิดใบหน้างามที่ขึ้นสีเรื่ออย่างมีความหมาย ดวงตาคมกล้าเป็นประกายเต็มไปด้วยความต้องการปิดไม่มิด และคนที่จะถูกทำโทษรู้ดีว่าการลงโทษของสามีนั้นหวานฉ่ำและเร่าร้อนเพียงใด“บ้า คนหื่น ปล่อยน้ำแข็งเลยนะ น้ำแข็งจะไปดูน้องเก้า”“ไม่ต้องแล้วที่รัก
ตอนที่ 138.“ดูสิสองคนนี่ไม่รู้จักโตเล่นเป็นเด็กๆ ไปได้” อัคคีบ่นเบาๆ กับอโนมาอย่างระอาในความซุกซนและเล่นกันเหมือนเด็กของเนตรนารา ที่ในสายตาของผู้เป็นพี่ เนตรนาราไม่เคยโตเลยสักครั้ง“โธ่ยัยเนตรกับแมงปอน่ะเขาก็เล่นกันแบบนี้มานานแล้วล่ะคะพี่อัคคี”“ถึงว่าสิหาแฟนไม่ได้สักที เฮ้อนี่แล้วเมื่อไหร่สองคนนี่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กๆ เสียที” กันต์พลอยบ่นไปด้วย“เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะพี่กันต์ ดูสิลูกตัวเองนั่นแหละเชียร์เขาเหย็งๆ อยู่นั่นๆ แล้วยังเอานวมมาให้อาน้ำเล่นชกมวยด้วยดูสิซนจริงๆ”“แล้วนั่นน้องกระต่ายก็เอากับเขาด้วย ดูสิคะพี่อินคำลูกสาวเราน่าตีจริงๆ เลย” แม่เลี้ยงเกศราบ่นเหมือนไอรดาเมื่อทั้งน้องกระต่ายและน้องเก้าล้อมหน้าล้อมหลังเนตรนาราและเล่นชกกันที่สนามหญ้านุ่มอย่างสนุกสนาน “แม่ครับ พ่อครับ เมียผมไปไหน” กันต์วิ่งหน้าตื่นเข้ามาคุณการันกับคุณกานติมาซึ่งกำลังนั่งดูหลานชายสุดที่รักวาดรูประบายสีอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างเพลิดเพลิน“อะไรของแกอีกล่ะกันต์” คุณกานติมาเงยหน้าขึ้นมองลูกชายที่หน้าตาตื่น เหงื่อแตกพลั่กอยู่ด้วยความระอา นับวันจะรักจะหวงภรรยาคนสวยจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน“ก็น้ำแข็งน่ะสิ หายไป
ตอนที่ 137.“ใช่ น่าเบื่อโดยเฉพาะยัยเด็กปลายฝนต้นหนาวนั่นน่าเบื่อมากๆ วันๆ ไม่พูดไม่จาเกาะแม่อ้อนแจ ประจบประแจงน่าดู ฉันไม่ชอบหน้าแม่นี่เลยนิสัยไม่ดี” อัคราเสริมคำพูดของสิงหราชเพื่อนรักที่ตอนนี้เขาทั้งสองกำลังจะไปเรียนเมืองนอกด้วยกัน อัคราเรียกอโนมาว่าแม่อ้อนตามน้องอิ่มอุ่นนับแต่อโนมาเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะของภรรยาของอัคคีอย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจอาจเป็นเพราะเขาต้องการใครสักคนและยิ่งเมื่อแม่ของเขามาตายจากไปเมื่อหลายปีก่อนเขายิ่งต้องการความรักและความอบอุ่น และแม่อ้อนของเขาก็คือคนที่เติมเต็มความรักความอบอุ่นนั้นให้เขาแม้มันจะไม่เต็มร้อยเสียทีเดียวแต่ความรักและความเอาใจใส่ที่อโนมามีให้เขาก็ชดเชยสิ่งที่เขาขาดได้มากพอที่จะทำให้ใจที่ว่างเปล่าของเขาไม่ไร้ที่ยึดเหนี่ยวและไม่รู้สึกว่าเขาขาดความอบอุ่น“นายก็ว่าน้องฝนเขาเกินไป ฉันไม่เห็นว่าเขาจะเป็นอย่างที่นายว่า น้องฝนออกจะน่ารักและเรียบร้อยนิสัยดี พูดก็เพราะไม่เหมือนน้องอิ่มอุ่นเลยพูดก็ไม่เพราะซ้ำยังอวบระยะสุดท้ายด้วยโตขึ้นมีหวังเป็นโอ่งมังกรแหงๆ เลยฮ่าๆ”สิงหราชหนุ่มน้อยวัยสิบห้าตั้งใจเอ่ยเสียงดังให้สาวน้อยวัยเก้าขวบเศษตัวอ้วนกลมซึ่งนั่งหวีผมใ
ตอนที่ 136.“อ้าวไหงมาแขวะฉันได้ล่ะนี่เดี๋ยวไม่เป็นคนขับรถให้เลยนี่” เนตรนาราร้อนตัวทันทีสร้างความขบขันให้กับสองสามีภรรยาที่นั่งกอดกันกลมอยู่เบาะหลังปล่อยให้เธอทำหน้าที่คนขับรถ หญิงสาวมองภาพความสุขของเพื่อนรักกับพี่ชายคนเดียวของเธอด้วยความสุขเธอรู้สึกดีใจและปลื้มใจมากที่วันนี้คนที่เธอรักทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขซึ่งเธอเองก็ไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าพี่ชายกับเพื่อนของเธอจะมาลงเอยด้วยการรักกันและใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้อย่างในวันนี้ วันนี้ฟ้าใสแล้วไม่มืดมัวและเจ็บปวดอย่างที่ผ่านมา เนตรนาราขับรถไปด้วยรอยยิ้ม“อุ้ย พี่อัคคีคะอ้อนปวดท้อง” อยู่ๆ อโนมาก็รู้สึกปวดหน่วงๆ ที่ท้องและรู้สึกเหมือนมีน้ำคร่ำไหลซึมออกมาเล็กน้อย“จริงหรืออ้อน แล้วพี่จะทำไงดีล่ะ ยัยน้ำๆ” อัคคีตื่นเต้นและทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการเป็นพ่อมาก่อน และตอนนี้เขาก็อยู่กลางถนนที่การจราจรคับคั่งเสียด้วย“ใจเย็นๆ เฮียไม่ต้องตื่นเต้น แหมไอ้ที่บวชๆ มาศึกษามากระเจิงเลยนะเฮียแค่เจอเมียเจ็บท้องเนี่ย” เนตรนาราไม่วายมีอารมณ์ขันแต่เธอก็พยายามหลบหลีกหาทางไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด“ยัยน้ำเรานี่มันจริงๆ เลยนะ เอ้ารีบเ
ตอนที่ 135.“ขอรับท่านประธานคนสวย เชิญขอรับกระผม...” เนตรนาราล้อเลียนเพื่อนรักด้วยรอยยิ้มทะเล้นอโนมายิ้มรับด้วยความสุข หญิงสาวตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว หลังจากที่อัคคีได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุและจำพรรษาอยู่ที่วัดประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอที่เชียงรายเธอก็ได้แต่เพียงส่งข่าวผ่านเนตรนาราซึ่งขึ้นเหนือไปทุกๆ เดือนเพื่อไปทำบุญและดูความเป็นอยู่ของพระอัคคีและเณรอัคราด้วย แต่สิ่งที่อโนมาบอกเพื่อนรักให้ปกปิดไว้คือเรื่องที่เธอตั้งครรภ์เพราะไม่อยากให้ผู้ที่ครองผ้าไตรจีวรนั้นเกิดความวิตกหรืออาจจะทำให้เสียสมาธิหรือเสียความตั้งใจที่ตั้งใจในคราแรกสายลมหนาวที่พัดโบกโบยหอบเอาความแห้งและเย็นมาสู่มหานครอันแสนวุ่นวายคลาคล่ำด้วยผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ หลากหลายจากที่มา และสาขาอาชีพ ผู้คนที่พเนจรร่อนเร่หรือแม้แต่เศรษฐีผู้มีสมบัติมากมายว่ายวนวุ่นวายอยู่ในเมืองแห่งนี้ บางชีวิตสุขสบายหรูหราแต่ในอีกมุมหนึ่งก็ยากไร้และแสนรำเค็ญ สถานที่บางแห่งสนุกสนานและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุขสม แต่ในอีกสถานที่หนึ่งเต็มไปด้วยอาชญากรรมและความขมขื่น แต่ไฉนหลายชีวิตจึงดั้นด้นมาที่เมืองแห่งนี้“วันนี้หนาวจ