เมื่อเพลงบรรเลงจบเสียงปรบมือก็ดังขึ้นด้วยความชื่นชม หญิงสาวผู้เป็นแขกกิตติมศักดิ์ของงานพนมมือไหว้ขอบคุณทุกคนอย่างงดงามสร้างความปลาบปลื้มชื่นชมแด่แม่เลี้ยง พ่อเลี้ยงแห่งคุ้มอินจำปายิ่งนัก
“อัคคี นายอัคคีภัย นี่เพลงจบแล้วยืนบื้ออยู่ได้” แม่เลี้ยงเกศราใช้ข้อศอกกระทุ้งสีข้างของอัคคีเบาๆ ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งนิดๆ แล้วรีบกะพริบตากลบเกลื่อนพิรุธ
“ครับก็เพราะดีนะครับ” ชายหนุ่มกระแอมในลำคอเล็กน้อยแก้เก้อ
“ก็แหงล่ะ น้องอ้อนของพี่ทำอะไรก็ดี ก็เด่นเข้าตาหนุ่มๆ เสมอแหละ ดูสิสงสัยหนุ่มๆ แถวนี้เป็นแฟนคลับของน้องอ้อนกันหมดแล้ว” พ่อเลี้ยงบุ้ยใบ้ไปทางด้านอโนมาซึ่งได้รับความสนใจจากหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่ล้อมหน้าล้อมหลังแย่งกันพูดคุยกับสาวสวยของงานในค่ำคืนนี้เพื่อจะได้มีโอกาสสานต่อความสัมพันธ์ในอนาคต แต่ภาพนั้นกลับทำให้อัคคีร้อนรุ่มนัยน์ตาร้อนผ่าวด้วยความขัดเคืองทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกแบบนั้นแต่อาการที่คันยุบยิบเจ็บจี๊ดๆ ในหัวใจโดยไม่รู้สาเหตุแค่ได้เห็นชายคนอื่นอยู่ใกล้หรือพูดคุยกับเธอ
“ก็เป็นธรรมดาแหละครับเขาสวยก็ไม่แปลกที่มีคนสนใจเขา” ชายหนุ่มพยายามซ่อนความขัดเคืองจากน้ำเสียงแต่ก็ไม่มิดเท่าที่ควร
“อ้อ ยอมรับว่าเขาสวย แล้วสนใจมั้ยล่ะ” พ่อเลี้ยงอินคำแกล้งถาม
“สนสิครับ เฮ้ย! พี่หลอกถามผมเหรอนี่ ร้ายกาจมากเลย” กว่าจะรู้ตัวว่าเผยความในใจออกมาโจ่งแจ้งเขาก็เสียรู้สองสามีภรรยาตัวร้ายซะแล้ว “นี่รวมหัวกันแกล้งผมนี่” ชายหนุ่มโอดครวญ
“ก็แหงละ ผู้ร้ายปากแข็งอย่างนายมันก็ต้องทำแบบนี้ล่ะ ว่าไงสนใจเขาใช่มั้ยล่ะ แต่คงยากเพราะน้องอ้อนเขาค่อนข้างไว้ตัวโดยเฉพาะกับผู้ชายเจ้าชู้และไร้หัวใจ”
“ก็ไหนว่าเขาเป็นม่าย” ชายหนุ่มถามอย่างหยิ่งๆ น่าหมั่นไส้
“เป็นม่ายแล้วยังไง ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะง่ายกับทุกคนนี่” คราวนี้พ่อเลี้ยงเป็นคนออกหน้าแทน
“ผมก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” เขาเอ่ยเกรงๆ เมื่อเห็นว่าแววตาของสองสามีภรรยาเริ่มมีแวววิบๆ ขุ่นขวาง
“ก็ผมเคยเจอแต่พวกแม่ม่ายที่แรงสูงช่ำชองไวไฟนี่นะไอ้ประเภทที่ไว้ตัวสงวนท่าทีก็เห็นแค่แรกๆ พอได้ลองมีอะไรกับใครเข้าหน่อยก็ดีแตกกันทั้งนั้นแหละ โว้วๆ นี่ผมพูดเหมารวมนะพี่ไม่ได้ว่าน้องสาวคนสวยของพี่เลยนะ” ชายหนุ่มรีบยกมือทำท่าห้ามเมื่อเห็นทีท่าเอาเรื่องของแม่เลี้ยงเกศราที่กำลังเงื้อมือจะฟาดมาที่แขนแกร่งของเขาแต่ก็หาพ้นไม่เพราะฝ่ามือน้อยๆ นั่นหากแต่ทรงพลังก็ฟาดลงมาเต็มๆ สองสามที
“นี่แน่ะๆ ปากดีนักไอ้คนปากมอม แล้วอย่ามาจีบน้องอ้อนเขาเชียว” แม่เลี้ยงกล่าวเคืองๆ “นอกจากจะไม่ให้จีบไม่ให้เข้าใกล้แล้วนะ ฉันนี่แหละจะเป็นก้างขวางคออย่างดีเลยคอยดู” คาดโทษคนต้นเรื่องเสร็จก็เดินสะบัดหน้าไปหาเป้าหมายที่ทำท่าอยากออกมาจากวงล้อมหนุ่มๆ เต็มทีของอโนมา
“เอาล่ะค่ะหนุ่มๆ ทั้งหลาย แม่เลี้ยงขอตัวน้องอ้อนไปด้านโน้นก่อนนะคะ ถ้าสนใจยังไงเดี๋ยวยื่นใบสมัครที่แม่เลี้ยงได้นะคะ คิดแค่ใบละแสนเดียวเองค่ะ” แม่เลี้ยงเกศรากล่าวอย่างอารมณ์ดีแล้วพาร่างระหงออกมาจากวงล้อมหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่อย่างสุภาพ แต่กระนั้นก็ทำให้หนุ่มๆ มองตามตาปรอยเลยทีเดียว
“เฮ้อ นี่ถ้าพี่เกดไม่มาหาอ้อนมีหวังอ้อนยืนตากน้ำค้างทั้งคืนแน่ค่ะ” อโนมาเป่าลมออกจากปากบางสวยอย่างโล่งใจและยิ้มให้แม่เลี้ยงอย่างอ่อนหวาน
“เป็นน้องสาวพี่เกดแล้วไม่มีทางถูกทิ้งให้ตากน้ำค้างหรือแทะเล็มหรอกค่ะ”
“นี่ก็ดึกแล้วอ้อนคงต้องขอตัวกลับแล้วล่ะค่ะพี่เกด” หญิงสาวยกข้อมือดูนาฬิกาเรือนเล็กที่ข้อมือ
“เดี๋ยวพี่เกดให้คนที่คุ้มไปส่งนะคะ แล้วพรุ่งนี้เราจะไปรับน้องอ้อนตอนเจ็ดโมงนะคะ แล้วเราไปรับตาสิงโตด้วยกันและเลยไปเที่ยวบ้านน้องอ้อนเลย” คนพูดจัดตารางการเดินทางให้เสร็จสรรพ จนคนที่ด้อยอาวุโสกว่าไม่กล้าที่จะขัดด้วยน้ำใจไมตรีที่แม่เลี้ยงเกศรามีให้ท่วมท้น
“แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าบ้านอ้อนน่ะยังไม่เจริญเท่าไรยังต้องเข้าไปจากปากทางหลวงอีกหลายกิโลเมตรนะคะ และไม่มีอะไรที่จะอำนวยความสะดวกอย่างในเมือง” หญิงสาวกล่าวอย่างเกรงใจเพราะกลัวว่าการเดินทางไปเยี่ยมบ้านของเธอนั้นจะสร้างความลำบากให้แม่เลี้ยงคนงาม ด้วยตอนนี้ทั้งพ่อแม่ของเธอก็ลาออกจากราชการแล้วหันมาทำสวนผักสวนผลไม้เล็กๆ อยู่ที่บ้านแบบเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริได้หลายปีแล้ว
“โธ่น้องอ้อน พี่เกดของน้องอ้อนน่ะก็ไม่ได้เป็นคุณหนูที่อ่อนเหยาะแหยะมาแต่ไหนแต่ไรแล้วละครับ ยิ่งเรื่องผจญภัยเดินป่าเดินเขานี่น่ะเขาชอบนักล่ะ” พ่อเลี้ยงอินคำเอ่ยสนับสนุนเมื่อเห็นท่าทางเกรงใจของอโนมา
“ใช่ค่ะน้องอ้อน ยิ่งตาสิงโตน่ะชอบมากเลยการได้ไปเที่ยวแบบสมบุกสมบัน ไม่มีปัญหาค่ะเอาเป็นว่าถ้าน้องอ้อนไม่รังเกียจเรา เราก็เดินทางไปเที่ยวแบบมันส์ๆ กันเลยนะคะ”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะพี่เกด ถ้าอย่างนั้นอ้อนขอตัวกลับก่อนนะคะแล้วพรุ่งนี้เจอกันค่ะ” หญิงสาวไหว้ลาทั้งสองสามีภรรยาผู้ใจดีอย่างนอบน้อมและเดินตามคนขับรถที่ทางแม่เลี้ยงกำชับให้ไปส่ง
เธอลงเรือนไปที่ลานจอดรถด้านล่างที่รายล้อมด้วยดอกไม้เมืองเหนือนานาพันธุ์ที่ส่งกลิ่นหอมกำจายไปทั่วบริเวณ ทำให้เธออดที่จะสูดกลิ่นหอมของมวลดอกไม้นั้นไม่ได้ และเมื่อเดินผ่านซุ้มดอกแก้วที่ออกดอกขาวสะพรั่งเต็มต้น อีกทั้งไม้ดอกอื่นๆ เช่น ประยงค์ บุหงาส่าหรี ราตรี ที่ยิ่งดึกยิ่งส่งกลิ่นหอมเย้ายวนชวนให้ดอมดม หญิงสาวเอื้อมมือไปแตะกลีบดอกแก้วสีขาวสะอาดนั้นเบาๆ และโน้มกายลงสูดกลิ่นหอมนั้นอย่างอดไม่ได้
“ผู้หญิงกับดอกไม้เป็นของคู่กันอย่างที่เขาว่าไว้จริงๆ นะครับ...น้องอ้อน” เสียงทุ้มกังวานที่ดังอยู่เบื้องหลังทำให้หญิงสาวซึ่งกำลังเพลิดเพลินอยู่กับกลีบดอกไม้สีขาวสะอาดหันขวับไปมองแล้วต้องนิ่งงันเมื่อเห็นว่าตัวต้นเสียงนั้นอยู่ใกล้ชิดเธอเพียงแค่ช่วงแขนเดียว
ตอนที่ 140. อวสาน“มันผ่านไปแล้วริต้าตอนนี้เธอมีชีวิตที่สดใส และมีพวกเราอยู่ข้างๆ และตอนนี้เธอก็ได้ชดใช้มันแล้ว ไม่เอาไม่พูดถึงเรื่องเก่าๆ แบบนั้นอีก” เนตรนาราปลอบ“นั่นสิริต้า ตอนนี้พวกเราผ่านพ้นเรื่องร้ายนั้นมาแล้วอย่าคิดมากนะยังไงเราก็ยังคงอยู่ด้วยกันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ปล่อยวางความเจ็บปวด ความอาฆาตพยาบาทที่มันไม่เคยให้คุณแก่ใคร” อโนมากุมมือผอมบางนั้นอย่างจริงใจทั้งน้ำเสียงและแววตาจนภูริต้าน้ำตาซึมด้วยความตื้นตันใจที่เธอโชคดีเหลือเกินที่พบเจอและได้หญิงสาวทั้งสามคนนี้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาจิตใจที่กระเจิดกระเจิงและเคยสกปรกของเธอด้วยความรักและจริงใจอย่างสม่ำเสมอ“ริต้าดีใจจัง”“พวกเราก็ดีใจที่ริต้ามีความสุขและหายดีแล้ว แล้วนี่ริต้าอยากจะออกไปอยู่กับพวกเราไหม” อโนมาถามด้วยความเป็นห่วงเธออยากให้ภูริตาไปอยู่ที่บ้านด้วยเพราะเห็นว่าภูริตาหายดีแล้ว“ไม่หรอกอ้อนขอบใจมากนะ ริต้าอยากอยู่ที่นี่ อยากช่วยเหลืออยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นบ้าง ที่นี่ต้องการริต้า ริต้ารู้สึกอย่างนั้น เพราะมีหลายๆ คนที่เคยเป็นเหมือนริต้าหรือบางคนอาจเป็นมากกว่าด้วยซ้ำไป และบางทีเคยมีคนที่เคยเข้ารับการรัก
ตอนที่ 139.ไอรดาพูดยิ้มๆ และหัวเราะออกมาอย่างขบขันสามีที่ทำท่าราวน้องเก้าลูกชายชอบทำเวลาที่งอนง้อเธอ ไอ้ท่าชูนิ้วก้อยดุ๊กดิ๊ก ทำหน้าตาให้ดูเด็กและน่ารักอย่างที่สุด ถ้าน้องเก้าทำเธอคิดว่ามันก็น่ารักดี แต่พอสามีทำมันเหมือนตัวตลก แต่ก็น่ารักดีเหมือนกัน“นี่น้ำแข็งแกล้งพี่กันต์เหรอ” ชายหนุ่มร้องออกมาอย่างงอนๆ บ้างและทำหน้าบึ้งตึงจนดูตลก“โถๆๆ ก็สามีสุดหล่อน่ารักขนาดนี้น้ำแข็งจะใจร้ายแกล้ง หรือโกรธได้ยังไงล่ะคะ” ไอรดาหัวเราะท่าทางของสามีอย่างไม่เก็บอาการ“ว้าย! พี่กันต์บ้าทำอะไรคะ”แล้วเธอก็ต้องร้องเสียงดังอย่างตื่นตระหนกเมื่อร่างอวบอิ่มด้วยอายุครรภ์สี่เดือนในตอนนี้ถูกสามีอุ้มจนตัวลอย จนเธอเองต้องรีบโอบลำคอหนาด้วยกลัวตกแล้วหันมามองหน้าสามีอย่างตื่นตกใจ“พี่กันต์จะทำโทษคนเจ้าเล่ห์ขี้เกรงให้สามีน้อยใจ เสียใจ เพราะฉะนั้นเมียจ๋าต้องโดนทำโทษ หนักๆ”ชายหนุ่มเอ่ยชิดใบหน้างามที่ขึ้นสีเรื่ออย่างมีความหมาย ดวงตาคมกล้าเป็นประกายเต็มไปด้วยความต้องการปิดไม่มิด และคนที่จะถูกทำโทษรู้ดีว่าการลงโทษของสามีนั้นหวานฉ่ำและเร่าร้อนเพียงใด“บ้า คนหื่น ปล่อยน้ำแข็งเลยนะ น้ำแข็งจะไปดูน้องเก้า”“ไม่ต้องแล้วที่รัก
ตอนที่ 138.“ดูสิสองคนนี่ไม่รู้จักโตเล่นเป็นเด็กๆ ไปได้” อัคคีบ่นเบาๆ กับอโนมาอย่างระอาในความซุกซนและเล่นกันเหมือนเด็กของเนตรนารา ที่ในสายตาของผู้เป็นพี่ เนตรนาราไม่เคยโตเลยสักครั้ง“โธ่ยัยเนตรกับแมงปอน่ะเขาก็เล่นกันแบบนี้มานานแล้วล่ะคะพี่อัคคี”“ถึงว่าสิหาแฟนไม่ได้สักที เฮ้อนี่แล้วเมื่อไหร่สองคนนี่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กๆ เสียที” กันต์พลอยบ่นไปด้วย“เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะพี่กันต์ ดูสิลูกตัวเองนั่นแหละเชียร์เขาเหย็งๆ อยู่นั่นๆ แล้วยังเอานวมมาให้อาน้ำเล่นชกมวยด้วยดูสิซนจริงๆ”“แล้วนั่นน้องกระต่ายก็เอากับเขาด้วย ดูสิคะพี่อินคำลูกสาวเราน่าตีจริงๆ เลย” แม่เลี้ยงเกศราบ่นเหมือนไอรดาเมื่อทั้งน้องกระต่ายและน้องเก้าล้อมหน้าล้อมหลังเนตรนาราและเล่นชกกันที่สนามหญ้านุ่มอย่างสนุกสนาน “แม่ครับ พ่อครับ เมียผมไปไหน” กันต์วิ่งหน้าตื่นเข้ามาคุณการันกับคุณกานติมาซึ่งกำลังนั่งดูหลานชายสุดที่รักวาดรูประบายสีอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างเพลิดเพลิน“อะไรของแกอีกล่ะกันต์” คุณกานติมาเงยหน้าขึ้นมองลูกชายที่หน้าตาตื่น เหงื่อแตกพลั่กอยู่ด้วยความระอา นับวันจะรักจะหวงภรรยาคนสวยจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน“ก็น้ำแข็งน่ะสิ หายไป
ตอนที่ 137.“ใช่ น่าเบื่อโดยเฉพาะยัยเด็กปลายฝนต้นหนาวนั่นน่าเบื่อมากๆ วันๆ ไม่พูดไม่จาเกาะแม่อ้อนแจ ประจบประแจงน่าดู ฉันไม่ชอบหน้าแม่นี่เลยนิสัยไม่ดี” อัคราเสริมคำพูดของสิงหราชเพื่อนรักที่ตอนนี้เขาทั้งสองกำลังจะไปเรียนเมืองนอกด้วยกัน อัคราเรียกอโนมาว่าแม่อ้อนตามน้องอิ่มอุ่นนับแต่อโนมาเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะของภรรยาของอัคคีอย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจอาจเป็นเพราะเขาต้องการใครสักคนและยิ่งเมื่อแม่ของเขามาตายจากไปเมื่อหลายปีก่อนเขายิ่งต้องการความรักและความอบอุ่น และแม่อ้อนของเขาก็คือคนที่เติมเต็มความรักความอบอุ่นนั้นให้เขาแม้มันจะไม่เต็มร้อยเสียทีเดียวแต่ความรักและความเอาใจใส่ที่อโนมามีให้เขาก็ชดเชยสิ่งที่เขาขาดได้มากพอที่จะทำให้ใจที่ว่างเปล่าของเขาไม่ไร้ที่ยึดเหนี่ยวและไม่รู้สึกว่าเขาขาดความอบอุ่น“นายก็ว่าน้องฝนเขาเกินไป ฉันไม่เห็นว่าเขาจะเป็นอย่างที่นายว่า น้องฝนออกจะน่ารักและเรียบร้อยนิสัยดี พูดก็เพราะไม่เหมือนน้องอิ่มอุ่นเลยพูดก็ไม่เพราะซ้ำยังอวบระยะสุดท้ายด้วยโตขึ้นมีหวังเป็นโอ่งมังกรแหงๆ เลยฮ่าๆ”สิงหราชหนุ่มน้อยวัยสิบห้าตั้งใจเอ่ยเสียงดังให้สาวน้อยวัยเก้าขวบเศษตัวอ้วนกลมซึ่งนั่งหวีผมใ
ตอนที่ 136.“อ้าวไหงมาแขวะฉันได้ล่ะนี่เดี๋ยวไม่เป็นคนขับรถให้เลยนี่” เนตรนาราร้อนตัวทันทีสร้างความขบขันให้กับสองสามีภรรยาที่นั่งกอดกันกลมอยู่เบาะหลังปล่อยให้เธอทำหน้าที่คนขับรถ หญิงสาวมองภาพความสุขของเพื่อนรักกับพี่ชายคนเดียวของเธอด้วยความสุขเธอรู้สึกดีใจและปลื้มใจมากที่วันนี้คนที่เธอรักทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขซึ่งเธอเองก็ไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าพี่ชายกับเพื่อนของเธอจะมาลงเอยด้วยการรักกันและใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้อย่างในวันนี้ วันนี้ฟ้าใสแล้วไม่มืดมัวและเจ็บปวดอย่างที่ผ่านมา เนตรนาราขับรถไปด้วยรอยยิ้ม“อุ้ย พี่อัคคีคะอ้อนปวดท้อง” อยู่ๆ อโนมาก็รู้สึกปวดหน่วงๆ ที่ท้องและรู้สึกเหมือนมีน้ำคร่ำไหลซึมออกมาเล็กน้อย“จริงหรืออ้อน แล้วพี่จะทำไงดีล่ะ ยัยน้ำๆ” อัคคีตื่นเต้นและทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการเป็นพ่อมาก่อน และตอนนี้เขาก็อยู่กลางถนนที่การจราจรคับคั่งเสียด้วย“ใจเย็นๆ เฮียไม่ต้องตื่นเต้น แหมไอ้ที่บวชๆ มาศึกษามากระเจิงเลยนะเฮียแค่เจอเมียเจ็บท้องเนี่ย” เนตรนาราไม่วายมีอารมณ์ขันแต่เธอก็พยายามหลบหลีกหาทางไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด“ยัยน้ำเรานี่มันจริงๆ เลยนะ เอ้ารีบเ
ตอนที่ 135.“ขอรับท่านประธานคนสวย เชิญขอรับกระผม...” เนตรนาราล้อเลียนเพื่อนรักด้วยรอยยิ้มทะเล้นอโนมายิ้มรับด้วยความสุข หญิงสาวตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว หลังจากที่อัคคีได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุและจำพรรษาอยู่ที่วัดประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอที่เชียงรายเธอก็ได้แต่เพียงส่งข่าวผ่านเนตรนาราซึ่งขึ้นเหนือไปทุกๆ เดือนเพื่อไปทำบุญและดูความเป็นอยู่ของพระอัคคีและเณรอัคราด้วย แต่สิ่งที่อโนมาบอกเพื่อนรักให้ปกปิดไว้คือเรื่องที่เธอตั้งครรภ์เพราะไม่อยากให้ผู้ที่ครองผ้าไตรจีวรนั้นเกิดความวิตกหรืออาจจะทำให้เสียสมาธิหรือเสียความตั้งใจที่ตั้งใจในคราแรกสายลมหนาวที่พัดโบกโบยหอบเอาความแห้งและเย็นมาสู่มหานครอันแสนวุ่นวายคลาคล่ำด้วยผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ หลากหลายจากที่มา และสาขาอาชีพ ผู้คนที่พเนจรร่อนเร่หรือแม้แต่เศรษฐีผู้มีสมบัติมากมายว่ายวนวุ่นวายอยู่ในเมืองแห่งนี้ บางชีวิตสุขสบายหรูหราแต่ในอีกมุมหนึ่งก็ยากไร้และแสนรำเค็ญ สถานที่บางแห่งสนุกสนานและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุขสม แต่ในอีกสถานที่หนึ่งเต็มไปด้วยอาชญากรรมและความขมขื่น แต่ไฉนหลายชีวิตจึงดั้นด้นมาที่เมืองแห่งนี้“วันนี้หนาวจ