“คุณอัคคี”
“พี่จำได้ว่าขอให้เรียกพี่ว่าพี่ไฟนะครับน้องอ้อน” เขากล่าวเสียงเรียบหากแววตาพราวระยับอย่างพึงพอใจเมื่อจับได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังตื่นตระหนก
“ดิฉันคงไม่กล้าตีตัวเสมอหรอกค่ะคุณอัคคี ฉันก็แค่คนธรรมดาไม่ได้มีอะไรน่าสนใจขนาดที่คุณต้องลดตัวมาสนิทสนมด้วย” หญิงสาวพูดอย่างไว้ตัวอย่างเปิดเผย ร่างสูงเลิกคิ้วอย่างแปลกใจและขุ่นเคืองนิดๆ ที่หญิงสาวตรงหน้ากล้าพูดตรงๆ อย่างตัดไมตรีเขา ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่ากำลังฮอต เสน่ห์ร้อนแรงเป็นที่หมายปองของสาวๆ ค่อนประเทศ
“ใครว่าล่ะครับน้องอ้อนน่ะน่าสนใจสำหรับพี่สิครับ ไม่อย่างนั้นพี่คงไม่ต้องทำหน้าที่สารถีขับรถไปส่งน้องอ้อนที่โรงแรมแน่นอน” ชายหนุ่มพูดอย่างมั่นใจก็แน่ล่ะเขาอุตส่าห์ลงมาดักรอและสกัดดาวรุ่งคนขับรถของแม่เลี้ยงเกศราเพื่อจะหาโอกาสเข้าใกล้หญิงสาวตรงหน้านี่นา หญิงสาวทำหน้าเหวอเมื่อเจอมุกนี้เพราะไม่คิดว่าเพลย์บอยตัวอันตรายอย่างอัคคีจะกล้าลดตัวลงมาทำอะไรที่มันไม่ค่อยจะมีเหตุมีผลในสายตาและความคิดของเธอ
“แล้วคนขับรถที่พี่เกดบอกว่าจะไปส่งฉันล่ะคะ” หญิงสาวทำท่าระแวงแล้วมองซ้ายมองขวาหาคนขับรถที่เธอเดินตามมา แต่พอเผลอชื่นชมดอกไม้นิดเดียวเท่านั้นคนขับรถตัวดีก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
“พอดีคำหล้าปวดท้องกะทันหันก็เลยวิ่งไปเข้าห้องน้ำ พี่เห็นท่าว่าไม่ดีกลัวว่าเขาจะนานก็เลยอาสาไปส่งน้องอ้อนเอง หรือว่าน้องอ้อนไม่ไว้ใจพี่ครับ” ชายหนุ่มต้อนหญิงสาวอย่างไม่ยอมให้หลีกเลี่ยงและนึกสนุกที่เห็นท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเธอ เหมือนลูกกวางที่พลัดตกหลุมนายพรานแล้วกระวนกระวายหาทางออกไม่เจอ สร้างความพอใจให้ชายหนุ่มยิ่งนัก
“อีกอย่างนี่ก็เริ่มดึกแล้ว พี่เกดกับพี่อินก็กำลังส่งแขกและเตรียมเข้านอน เพราะพรุ่งนี้เห็นว่าจะไปรับตาสิงโตที่ไปเข้าค่ายลูกเสือ และก็จะไปเที่ยวเชียงรายด้วยเลยต้องเตรียมพักผ่อนเอาแรงไว้เที่ยว”
ชายหนุ่มอธิบายพร้อมกับผายมือไปที่รถคันหรูบอกกลายๆ ว่า เชิญครับคุณผู้หญิง ด้วยสีหน้าพราวยิ้มอย่างคนที่เหนือกว่า จนคนที่ทำท่าว่าจะหันหลังกลับขึ้นเรือนนั้นจำต้องก้าวขึ้นรถที่ชายหนุ่มเปิดประตูรอ
“ขอบคุณค่ะ”
สั้นๆ แค่นั้นที่หญิงสาวเอ่ยกับเขาและนิ่งเงียบมาตลอดเส้นทางจากคุ้มอินจำปามาถึงบ้านพักในโรงแรม หญิงสาวไม่ได้เอ่ยอะไรกับเขาเพียงนั่งเงียบๆ มือประสานกันไว้บนตักและหันหน้ามองข้างทางอย่างกับว่ามีอะไรน่าสนใจนักหนา ทั้งๆ ที่มันมืดมิด
“หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกนะครับน้องอ้อน”
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบเมื่อลงมาเปิดประตูให้หญิงสาวเมื่อเห็นท่าว่าเธอจะเปิดประตูลงมาเสียเองอย่างกับว่าเขาเป็นตัวอันตรายไม่น่าเข้าใกล้
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณอัคคี” เธอไหว้เขาตามมารยาทแล้วทำท่าว่าจะผละไปหากเสียงทุ้มนั้นไม่ทัดทานไว้เสียก่อน
“ไม่ต้องทำท่าว่ากลัวพี่จะกินขนาดนั้นก็ได้ครับ พี่เป็นคนที่มีความยับยั้งชั่งใจพอสมควรแม้ว่าตอนนี้มันจะน้อยนิดก็เถอะ”
“ดิฉันคิดว่าคุณอัคคีคงจะเข้าใจอะไรผิดไปนะคะ ที่ดิฉันแสดงออกว่าไม่อยากอยู่ใกล้คุณไม่ใช่เพราะกลัวหรือเรียกร้องความสนใจอะไรทั้งนั้น แต่เพราะฉันทำไปทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยของฉันเอง เพราะไม่อยากสู้รบปรบมือกับใครและไม่อยากเป็นของเล่นไฮโซอย่างคนอื่นๆ หวังว่าคุณคงเข้าใจและขอบคุณอีกครั้งที่มาส่ง ลาก่อนค่ะ คุณอัคคี จงบริบูรณ์ไพศาล”
หญิงสาวอธิบายอย่างพยายามระงับอารมณ์ แล้วเดินจากไปด้วยท่วงท่าที่มั่นคงสง่างาม ทิ้งให้เสือร้ายอย่างอัคคีมองตามอย่างมาดหมายในตัวเธอ
“เธอคิดว่าเธอจะรอดจากมือฉันไปได้หรืออโนมา อะไรที่ฉันอยากได้มันก็ต้องได้ ไม่นานหรอกเธอจะต้องเป็นของฉัน”
ชายหนุ่มมองตามร่างบางที่เดินจากไปจนเธอเข้าไปในบ้านหลังน้อยจึงขับรถกลับไปที่คุ้มอินจำปาและในใจก็คิดหาวิธีต่างๆ นานาเพื่อที่จะได้อโนมา มาดับไปที่ร้อนเร่าของตน แต่หากอัคคีจะมีโอกาสล่วงรู้อนาคตเขาจะรู้ว่า นอกจากอโนมาจะมาดับไฟเร่าร้อนในใจของเขาได้แล้ว ยังทำให้ไฟที่ว่าร้อนๆ เช่นเขากลายเป็นไฟที่ให้ความอบอุ่นและพร้อมจะแบ่งปันความสุขให้กับผู้อื่นได้เช่นกัน...
ภายในบ้านพักหลังน้อย อโนมาปิดม่านลูกไม้สีขาวแสนสวยลงแล้วถอนใจเบาๆ อย่างหนักใจกับการที่ได้เจอผู้ชายที่รังสีอันตรายแผ่กระจายอยู่รอบตัว ใครบ้างไม่รู้จัก อัคคี จงบริบูรณ์ไพศาล คนนี้ และเธอเองก็รู้จักเขาดีทีเดียว เขาอาจจะจำเธอไม่ได้แต่เธอกลับจำเขาได้ขึ้นใจแต่มันไม่ใช่ความประทับใจแต่มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เธอต้องจดจำเขาจนวันตายด้วยวาจาที่ร้ายๆ ของเขาในวันวาน และเพราะคำพูดของเขาในวันนั้นมันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเข้มแข็งจนวันนี้เช่นกัน
หญิงสาวหลับตาลงใบหน้าสวยหวานนั้นเศร้าหมองเมื่อนึกถึงวันวานที่แสนจะเจ็บปวดเธอมักจะเป็นอย่างนี้เสมอเมื่ออยู่คนเดียวชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยวกวนอยู่แต่ในอดีตที่หวนกลับไปแก้ไขไม่ได้ยิ่งช่วงแรกๆ ที่เธอเริ่มตั้งท้องเธอยิ่งเครียดและเงียบงันจนเดือดร้อนเพื่อนรักทั้งสองต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะกลัวว่าเธอจะทำอะไรโง่ๆ หรือเครียดจนทำให้สุขภาพย่ำแย่มากกว่าเดิมเมื่อนึกถึงเพื่อนแล้วเธอก็รีบโทรถึงเพื่อนสาวแสนดีทั้งสองทันทีโดยเริ่มที่แม่แมงปอตัวน้อย
“ไงแม่แมงปอทำอะไรอยู่จ๊ะ” เธอถามปลายสายได้ยินเสียงดนตรีแว่วๆ
“กำลังเล่นเพลงใหม่ๆ อยู่น่ะแก พรุ่งนี้มีสอนเด็กๆ แทนแม่น่ะ” เสียงใสๆ ของอรุณนารีส่งมาตามสาย
“แล้วลูกสาวเป็นไงบ้างซนรึเปล่าวันนี้”
น้ำเสียงเมื่อพูดถึงลูกสาวตัวน้อยที่เมื่อนึกถึงลูกทีไรจิตใจที่ห่อเหี่ยวพลันชุ่มฉ่ำเหมือนได้น้ำทิพย์ชโลมใจ และเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้เธอมีแรงที่จะสู้กับทุกๆ อย่าง
“ไม่ซนแล้วเดี๋ยวนี้ลูกสาวเราเขาเป็นสาวแล้ว วันนี้เห็นกำลังหัดเล่นเพลงวิมานดินกับคุณตาคุณยาย ชีบอกว่าจะเอาไว้ไปเล่นให้พี่ซันฟัง แล้วหล่อนเชื่อไหมว่าโลกมันกลมจริงๆ” อรุณนารีบอกอย่างอารมณ์ดี
“ทำไมถึงว่าอย่างนั้นล่ะแก”
“ก็พี่ซันที่ลูกสาวสุดสวยของเราพูดถึงน่ะเป็นน้องชายต่างแม่ของยัยเนตร ลูกยัยมิรันตีสุดแสบคู่ปรับเก่าเราไงแก ทีนี้เชื่อรึยังล่ะว่าโลกกลมจริงๆ” เสียงใสนั้นเล่าอย่างนึกสนุกเมื่อนึกถึงหญิงสาวที่ชื่อ มิรันตี...
“ใช่แก โลกกลมจริงๆ กลมมากๆ ด้วย”
ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเหลือเกินที่เธอกับลูกสาวได้พบเจอกับบุคคลที่ไม่พึงประสงค์พร้อมๆ กัน
“ยังไงก็ช่วยดูๆ ให้หน่อยละกัน แค่นี้นะแก”
ว่าแล้วเธอก็วางสายแล้วยกมือเรียวลูบหน้าอย่างคนที่กำลังครุ่นคิด และแล้วภาพในอดีตที่อยากจะลืมก็ลอยเข้ามาอย่างไม่ได้รับเชิญ
ตอนที่ 140. อวสาน“มันผ่านไปแล้วริต้าตอนนี้เธอมีชีวิตที่สดใส และมีพวกเราอยู่ข้างๆ และตอนนี้เธอก็ได้ชดใช้มันแล้ว ไม่เอาไม่พูดถึงเรื่องเก่าๆ แบบนั้นอีก” เนตรนาราปลอบ“นั่นสิริต้า ตอนนี้พวกเราผ่านพ้นเรื่องร้ายนั้นมาแล้วอย่าคิดมากนะยังไงเราก็ยังคงอยู่ด้วยกันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ปล่อยวางความเจ็บปวด ความอาฆาตพยาบาทที่มันไม่เคยให้คุณแก่ใคร” อโนมากุมมือผอมบางนั้นอย่างจริงใจทั้งน้ำเสียงและแววตาจนภูริต้าน้ำตาซึมด้วยความตื้นตันใจที่เธอโชคดีเหลือเกินที่พบเจอและได้หญิงสาวทั้งสามคนนี้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาจิตใจที่กระเจิดกระเจิงและเคยสกปรกของเธอด้วยความรักและจริงใจอย่างสม่ำเสมอ“ริต้าดีใจจัง”“พวกเราก็ดีใจที่ริต้ามีความสุขและหายดีแล้ว แล้วนี่ริต้าอยากจะออกไปอยู่กับพวกเราไหม” อโนมาถามด้วยความเป็นห่วงเธออยากให้ภูริตาไปอยู่ที่บ้านด้วยเพราะเห็นว่าภูริตาหายดีแล้ว“ไม่หรอกอ้อนขอบใจมากนะ ริต้าอยากอยู่ที่นี่ อยากช่วยเหลืออยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นบ้าง ที่นี่ต้องการริต้า ริต้ารู้สึกอย่างนั้น เพราะมีหลายๆ คนที่เคยเป็นเหมือนริต้าหรือบางคนอาจเป็นมากกว่าด้วยซ้ำไป และบางทีเคยมีคนที่เคยเข้ารับการรัก
ตอนที่ 139.ไอรดาพูดยิ้มๆ และหัวเราะออกมาอย่างขบขันสามีที่ทำท่าราวน้องเก้าลูกชายชอบทำเวลาที่งอนง้อเธอ ไอ้ท่าชูนิ้วก้อยดุ๊กดิ๊ก ทำหน้าตาให้ดูเด็กและน่ารักอย่างที่สุด ถ้าน้องเก้าทำเธอคิดว่ามันก็น่ารักดี แต่พอสามีทำมันเหมือนตัวตลก แต่ก็น่ารักดีเหมือนกัน“นี่น้ำแข็งแกล้งพี่กันต์เหรอ” ชายหนุ่มร้องออกมาอย่างงอนๆ บ้างและทำหน้าบึ้งตึงจนดูตลก“โถๆๆ ก็สามีสุดหล่อน่ารักขนาดนี้น้ำแข็งจะใจร้ายแกล้ง หรือโกรธได้ยังไงล่ะคะ” ไอรดาหัวเราะท่าทางของสามีอย่างไม่เก็บอาการ“ว้าย! พี่กันต์บ้าทำอะไรคะ”แล้วเธอก็ต้องร้องเสียงดังอย่างตื่นตระหนกเมื่อร่างอวบอิ่มด้วยอายุครรภ์สี่เดือนในตอนนี้ถูกสามีอุ้มจนตัวลอย จนเธอเองต้องรีบโอบลำคอหนาด้วยกลัวตกแล้วหันมามองหน้าสามีอย่างตื่นตกใจ“พี่กันต์จะทำโทษคนเจ้าเล่ห์ขี้เกรงให้สามีน้อยใจ เสียใจ เพราะฉะนั้นเมียจ๋าต้องโดนทำโทษ หนักๆ”ชายหนุ่มเอ่ยชิดใบหน้างามที่ขึ้นสีเรื่ออย่างมีความหมาย ดวงตาคมกล้าเป็นประกายเต็มไปด้วยความต้องการปิดไม่มิด และคนที่จะถูกทำโทษรู้ดีว่าการลงโทษของสามีนั้นหวานฉ่ำและเร่าร้อนเพียงใด“บ้า คนหื่น ปล่อยน้ำแข็งเลยนะ น้ำแข็งจะไปดูน้องเก้า”“ไม่ต้องแล้วที่รัก
ตอนที่ 138.“ดูสิสองคนนี่ไม่รู้จักโตเล่นเป็นเด็กๆ ไปได้” อัคคีบ่นเบาๆ กับอโนมาอย่างระอาในความซุกซนและเล่นกันเหมือนเด็กของเนตรนารา ที่ในสายตาของผู้เป็นพี่ เนตรนาราไม่เคยโตเลยสักครั้ง“โธ่ยัยเนตรกับแมงปอน่ะเขาก็เล่นกันแบบนี้มานานแล้วล่ะคะพี่อัคคี”“ถึงว่าสิหาแฟนไม่ได้สักที เฮ้อนี่แล้วเมื่อไหร่สองคนนี่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กๆ เสียที” กันต์พลอยบ่นไปด้วย“เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะพี่กันต์ ดูสิลูกตัวเองนั่นแหละเชียร์เขาเหย็งๆ อยู่นั่นๆ แล้วยังเอานวมมาให้อาน้ำเล่นชกมวยด้วยดูสิซนจริงๆ”“แล้วนั่นน้องกระต่ายก็เอากับเขาด้วย ดูสิคะพี่อินคำลูกสาวเราน่าตีจริงๆ เลย” แม่เลี้ยงเกศราบ่นเหมือนไอรดาเมื่อทั้งน้องกระต่ายและน้องเก้าล้อมหน้าล้อมหลังเนตรนาราและเล่นชกกันที่สนามหญ้านุ่มอย่างสนุกสนาน “แม่ครับ พ่อครับ เมียผมไปไหน” กันต์วิ่งหน้าตื่นเข้ามาคุณการันกับคุณกานติมาซึ่งกำลังนั่งดูหลานชายสุดที่รักวาดรูประบายสีอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างเพลิดเพลิน“อะไรของแกอีกล่ะกันต์” คุณกานติมาเงยหน้าขึ้นมองลูกชายที่หน้าตาตื่น เหงื่อแตกพลั่กอยู่ด้วยความระอา นับวันจะรักจะหวงภรรยาคนสวยจนแทบไม่เป็นอันกินอันนอน“ก็น้ำแข็งน่ะสิ หายไป
ตอนที่ 137.“ใช่ น่าเบื่อโดยเฉพาะยัยเด็กปลายฝนต้นหนาวนั่นน่าเบื่อมากๆ วันๆ ไม่พูดไม่จาเกาะแม่อ้อนแจ ประจบประแจงน่าดู ฉันไม่ชอบหน้าแม่นี่เลยนิสัยไม่ดี” อัคราเสริมคำพูดของสิงหราชเพื่อนรักที่ตอนนี้เขาทั้งสองกำลังจะไปเรียนเมืองนอกด้วยกัน อัคราเรียกอโนมาว่าแม่อ้อนตามน้องอิ่มอุ่นนับแต่อโนมาเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะของภรรยาของอัคคีอย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจอาจเป็นเพราะเขาต้องการใครสักคนและยิ่งเมื่อแม่ของเขามาตายจากไปเมื่อหลายปีก่อนเขายิ่งต้องการความรักและความอบอุ่น และแม่อ้อนของเขาก็คือคนที่เติมเต็มความรักความอบอุ่นนั้นให้เขาแม้มันจะไม่เต็มร้อยเสียทีเดียวแต่ความรักและความเอาใจใส่ที่อโนมามีให้เขาก็ชดเชยสิ่งที่เขาขาดได้มากพอที่จะทำให้ใจที่ว่างเปล่าของเขาไม่ไร้ที่ยึดเหนี่ยวและไม่รู้สึกว่าเขาขาดความอบอุ่น“นายก็ว่าน้องฝนเขาเกินไป ฉันไม่เห็นว่าเขาจะเป็นอย่างที่นายว่า น้องฝนออกจะน่ารักและเรียบร้อยนิสัยดี พูดก็เพราะไม่เหมือนน้องอิ่มอุ่นเลยพูดก็ไม่เพราะซ้ำยังอวบระยะสุดท้ายด้วยโตขึ้นมีหวังเป็นโอ่งมังกรแหงๆ เลยฮ่าๆ”สิงหราชหนุ่มน้อยวัยสิบห้าตั้งใจเอ่ยเสียงดังให้สาวน้อยวัยเก้าขวบเศษตัวอ้วนกลมซึ่งนั่งหวีผมใ
ตอนที่ 136.“อ้าวไหงมาแขวะฉันได้ล่ะนี่เดี๋ยวไม่เป็นคนขับรถให้เลยนี่” เนตรนาราร้อนตัวทันทีสร้างความขบขันให้กับสองสามีภรรยาที่นั่งกอดกันกลมอยู่เบาะหลังปล่อยให้เธอทำหน้าที่คนขับรถ หญิงสาวมองภาพความสุขของเพื่อนรักกับพี่ชายคนเดียวของเธอด้วยความสุขเธอรู้สึกดีใจและปลื้มใจมากที่วันนี้คนที่เธอรักทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขซึ่งเธอเองก็ไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าพี่ชายกับเพื่อนของเธอจะมาลงเอยด้วยการรักกันและใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้อย่างในวันนี้ วันนี้ฟ้าใสแล้วไม่มืดมัวและเจ็บปวดอย่างที่ผ่านมา เนตรนาราขับรถไปด้วยรอยยิ้ม“อุ้ย พี่อัคคีคะอ้อนปวดท้อง” อยู่ๆ อโนมาก็รู้สึกปวดหน่วงๆ ที่ท้องและรู้สึกเหมือนมีน้ำคร่ำไหลซึมออกมาเล็กน้อย“จริงหรืออ้อน แล้วพี่จะทำไงดีล่ะ ยัยน้ำๆ” อัคคีตื่นเต้นและทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการเป็นพ่อมาก่อน และตอนนี้เขาก็อยู่กลางถนนที่การจราจรคับคั่งเสียด้วย“ใจเย็นๆ เฮียไม่ต้องตื่นเต้น แหมไอ้ที่บวชๆ มาศึกษามากระเจิงเลยนะเฮียแค่เจอเมียเจ็บท้องเนี่ย” เนตรนาราไม่วายมีอารมณ์ขันแต่เธอก็พยายามหลบหลีกหาทางไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด“ยัยน้ำเรานี่มันจริงๆ เลยนะ เอ้ารีบเ
ตอนที่ 135.“ขอรับท่านประธานคนสวย เชิญขอรับกระผม...” เนตรนาราล้อเลียนเพื่อนรักด้วยรอยยิ้มทะเล้นอโนมายิ้มรับด้วยความสุข หญิงสาวตั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว หลังจากที่อัคคีได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุและจำพรรษาอยู่ที่วัดประจำหมู่บ้านซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอที่เชียงรายเธอก็ได้แต่เพียงส่งข่าวผ่านเนตรนาราซึ่งขึ้นเหนือไปทุกๆ เดือนเพื่อไปทำบุญและดูความเป็นอยู่ของพระอัคคีและเณรอัคราด้วย แต่สิ่งที่อโนมาบอกเพื่อนรักให้ปกปิดไว้คือเรื่องที่เธอตั้งครรภ์เพราะไม่อยากให้ผู้ที่ครองผ้าไตรจีวรนั้นเกิดความวิตกหรืออาจจะทำให้เสียสมาธิหรือเสียความตั้งใจที่ตั้งใจในคราแรกสายลมหนาวที่พัดโบกโบยหอบเอาความแห้งและเย็นมาสู่มหานครอันแสนวุ่นวายคลาคล่ำด้วยผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ หลากหลายจากที่มา และสาขาอาชีพ ผู้คนที่พเนจรร่อนเร่หรือแม้แต่เศรษฐีผู้มีสมบัติมากมายว่ายวนวุ่นวายอยู่ในเมืองแห่งนี้ บางชีวิตสุขสบายหรูหราแต่ในอีกมุมหนึ่งก็ยากไร้และแสนรำเค็ญ สถานที่บางแห่งสนุกสนานและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุขสม แต่ในอีกสถานที่หนึ่งเต็มไปด้วยอาชญากรรมและความขมขื่น แต่ไฉนหลายชีวิตจึงดั้นด้นมาที่เมืองแห่งนี้“วันนี้หนาวจ