เพื่อนสาวอีกคนชี้ไปยังโต๊ะของหญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่ภีมพลเดินเข้าไปทักทายแล้วดูท่าว่าจะปักหลักอยู่ที่โต๊ะนั้นไม่ยอมไปไหน ทำเอาแนนนี่หน้าร้อนวูบด้วยความอับอายที่ถูกเพื่อนสาวทำท่าทางหัวเราะใส่ราวกับเยาะเย้ยตน
ไม่ใช่แค่สาว ๆ สองกลุ่มนี้เท่านั้นที่จับจ้องไปยังพชรกับสาวสวยไฮโซ แต่ร่างระหงที่กำลังพลิ้วไหวอยู่บนเวทีก็แอบชำเลืองมองไปยังสองร่างที่พะเน้าพะนอคลอเคลียกันด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
ขอให้เป็นผู้หญิงสวย เขาก็สามารถสานสัมพันธ์กับพวกหล่อนได้ทุกคนเลยใช่ไหม เจ้านายของเธอช่างเป็นผู้ชายอันตรายของแท้เลยจริง ๆ
ช่อมาลีไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าดวงตาคมปลาบของคนที่ตนเพิ่งปรามาสไปว่าเป็นผู้ชายอันตรายนั้น ตอนนี้เอาแต่จับจ้องอยู่แต่เรือนร่างเย้ายวนที่เคลื่อนไหวอยู่บนเวทีแทบไม่วางตา ถึงแม้ในอ้อมกอดของเขาจะมีสาวสวยอยู่แนบอก แต่เขาก็ไม่อาจละสายตาไปจากความงดงามที่เริงร่าอยู่บนเวทีได้ ม็อทสามารถสะกดคนดูได้อยู่หมัด ยิ่งพวกหนุ่ม ๆ ที่เขาลอบสังเกตปฏิกิริยาโดยรอบนั้นต่างจับจ้องกันตาแทบถลนไม่ต่างจากเขา นับว่าภีมพลคิดถูกจริง ๆ ที่ได้วงนี้มาเล่นให้คลับซุส
“โอมคะ...อินเวียนหัวจังเลยค่ะ ถ้าลุกขึ้นอินต้องเดินเซไม่ตรงทางแน่ ๆ เลย”
อรอินรีบซุกใบหน้าเข้าที่ซอกคอของชายหนุ่มที่ตนจงใจเบียดกายซบจนก้อนเนื้อนุ่มหยุ่นจมหายไปกับแผงอกของเขา เมื่อเห็นพชรเริ่มให้ความสนใจกับนักร้องสาวบนเวทีมากกว่าตน หญิงสาวแกล้งเอามือปัดป่ายเปะปะไปตามหน้าขาของชายหนุ่ม แต่ละเว้นจุดสำคัญไว้ให้พอได้วูบวาบเล่นอย่างยั่วเย้า แกล้งทำเป็นมึนเมาเพื่อไม่ให้ดูว่าตนตั้งใจยั่วเขามากเกินไป หากแต่พรานล่าผีเสื้ออย่างพชรมีหรือจะไม่รู้
“ขึ้นไปพักที่ห้องของผมก่อนไหมครับ อยู่ชั้นสองนี่เอง นอนพักบนเตียงนุ่ม ๆ สักชั่วโมงน่าจะดีขึ้น”
พชรตาพราวกระซิบบอกความประสงค์ที่ข้างหูของหญิงสาวที่ทำตัวอ่อนระทดระทวยเพราะแกล้งเมาอย่างมีความนัย เขารู้ว่าอย่างไรเสียเจ้าหล่อนก็ไม่มีทางปฏิเสธคำชวนของเขาแน่นอน ก็ในเมื่อเธอเป็นคนเสนอมาเองอย่างนี้
“จะดีหรือคะ แล้วคุณไม่ต้องคอยอยู่ดูแลลูกค้าด้านล่างหรือ”
อรอินแกล้งทักท้วงไป หากแต่ในใจนั้นกลับลิงโลดเพราะฝันมานานแล้วว่าอยากจะสานสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาให้แนบแน่นกว่านี้ ลำพังที่เธอหมั่นไปหาเขาที่บริษัทบ่อย ๆ นั่นก็ยังไม่เพียงพอ เพราะเขาดูเหมือนจะให้เกียรติเธอในฐานะของคู่ค้าคนสำคัญ จึงไม่มีการล่วงเกินใด ๆ อย่างที่วาดหวังไว้ ฉะนั้นเธอจึงปรับแผนใหม่ นั่นคือหมั่นมาหาเขาที่คลับนี่เสียเลย เพราะนอกเหนือเวลางาน และเธอก็มาในฐานะของนักเที่ยว หรือลูกค้าของคลับคนหนึ่งเท่านั้น เพราะฉะนั้นเธอจะต้องทำทุกวิถีทางให้เขามากินเบ็ดที่วางไว้ให้ได้
“หุ้นส่วนผมเขาก็ดูแลอยู่ครับไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แต่ถ้าคุณอินอยากจะกลับบ้านก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมขับรถไปส่งให้ก็ได้”
จบคำพูดของเขาหญิงสาวก็ทำท่าเหมือนป่วยหนักขึ้นมาทันที พชรลอบยิ้มในเงามืด เธอมาไม้นี้ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร
“อินขอขึ้นไปพักบนห้องดีกว่าค่ะ ให้กลับบ้านไปตอนนี้คุณพ่อต้องว่าอินแน่ ๆ เลย”
มือวางแปะอยู่บนหน้าขาของเขาพร้อมกับลูบขึ้นลงไปมาเบา ๆ แล้ววกขึ้นมาบีบไม่แรงนักตรงโคนขา พชรไม่รอช้า ผุดลุกขึ้นพร้อมกับโอบประคองหญิงสาวที่นั่งโงนเงนขึ้นมาทันที จากนั้นจึงค่อย ๆ พาอรอินออกไปทางประตูสำหรับพนักงานเพื่อพาไปยังห้องพักที่อยู่ชั้นสาม ครั้นเมื่อเดินผ่านโต๊ะของหญิงสาวที่ภีมพลเข้าไปพูดคุยด้วย พชรจึงแค่ยักคิ้วให้เพื่อนก่อนจะเดินผ่านไปโดยไม่ได้สนใจมองไปที่หญิงสาวกลุ่มนั้นเลยแม้แต่น้อย
ระหว่างที่พชรพาอรอินขึ้นบันไดไปยังชั้นสาม ร่างหนึ่งรีบหลบวูบเข้าไปในห้องน้ำหญิงก่อนจะค่อย ๆ โผล่หน้าออกมาเมื่อเห็นว่าสองคนนั้นลับหายไปแล้ว
หญิงสาวเดินไปที่ห้องล็อกเกอร์สำหรับพนักงานแล้วตรงดิ่งไปยังที่ประจำที่เธอใช้ซ่อนของ เอี้ยวตัวเอามือล้วงเข้าไปที่ด้านหลังตู้ล็อกเกอร์เพื่อหยิบซองถุงซิปล็อกที่แปะติดไว้ด้วยกาวสองหน้าออกมา จากนั้นจึงจัดแจงแบ่งผลึกสีขาวที่อยู่ในนั้นออกใส่ถุงซิปล็อกเล็ก ๆ ที่เตรียมมาอีกสามถุงแล้วเก็บไว้อย่างมิดชิดในกระเป๋าใส่เหรียญใบเล็ก
มิวเดินออกมาจากห้องล็อกเกอร์แล้วก็ต้องรีบหลบวูบเข้าที่ซอกเล็ก ๆ ระหว่างบันไดกับห้องน้ำอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงแมท ผู้จัดการหนุ่มหล่อกำลังทักทายใครบางคน
“อ้าว...คุณแนนนี่ มาทำอะไรตรงนี้ครับ”
แมทถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อเห็นร่างเย้ายวนของแนนนี่กำลังจะเดินขึ้นบันไดสวนกับเขาที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองหลังจากเอาเบียร์กับของว่างขึ้นไปให้สารวัตรที่อยู่ในห้องทำงานตามคำสั่งของภีมพล เพราะไม่อยากใช้เด็กเสิร์ฟเนื่องจากกลัวความลับรั่วไหล
“เอ่อ...คือ...แนนนี่ว่าจะขึ้นไปหาคุณโอมน่ะค่ะ เผื่อคุณโอมอยากจะเรียกหาแนนนี่”
หญิงสาวแก้ตัวลิ้นแทบพันกัน เพราะความจริงแล้วเธอแค่อยากมาดูให้เห็นกับตาว่าพชรพาผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาเสพสุขบนห้องจริงหรือเปล่า เพราะถ้าไม่ เธอจะได้สวมรอยเสียเลย
“เอ...วันนี้คงไม่ต้องหรอกมั้งครับ เพราะไม่เห็นคุณโอมสั่งอะไรเอาไว้ อีกอย่างก็คือ...” แมทไม่กล้าพูดออกมาว่าเขาเพิ่งเห็นพชรหิ้วสาวขึ้นไปบนห้องพักผ่อนข้างบนจึงแกล้งเปลี่ยนเรื่องไปเสีย
“แล้วคุณภีมล่ะครับ”
“คุณภีมน่ะหรือ...ฮึ เห็นกำลังคั่วสาวอยู่ข้างนอกนั่นน่ะแหละค่ะ เจ้านายคุณแมทเนี่ยไม่ไหวเลย ได้ใหม่แล้วลืมเก่า”
แนนนี่แสร้งว่ากล่าวตัดพ้อชายหนุ่มทั้งสองคน ก่อนจะหันมาทำตาวิบวับใส่ผู้จัดการหนุ่มหล่อที่ยังไม่เคยได้ลองกินเลยสักคำ
“คุณแมทว่างไหมคะตอนนี้ แนนนี่เหงาจังเลย”
เอาวะ! อย่างน้อยได้มาสักสี่ห้าพันก็ยังดี ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยากยาเต็มที่ ตอนแรกนึกว่าจะได้จากสองหนุ่มเจ้าของคลับสักหมื่นสองหมื่น กลับกลายเป็นว่าชวดจนได้เพราะยายไฮโซหน้าสวยนั่นแท้ ๆ เชียว คิดแล้วก็ให้เจ็บใจนัก
“ผมก็อยากช่วยคลายเหงาให้คุณนะแนนนี่ แต่ผมต้องทำงานน่ะสิ ถ้าคุณภีมไม่เห็นผมเขาจะหาว่าผมละเลยหน้าที่เปล่า ๆ หึ! ผมรู้นะว่าคุณต้องการอะไร” แมทเดินเข้าประชิดตัวพลางเอามือวางลงบนสะโพกกลมกลึงแล้วคลึงไปมาเบา ๆ
“ในเมื่อรู้อยู่แล้วก็อย่าปฏิเสธสิคะแมท” แนนนี่ยกแขนขึ้นโอบรอบคอเขาไว้ แล้วจงใจบดเบียดเนื้อตัวเข้ากับร่างสูง
“ถ้างั้น...รอผมสักสิบห้านาทีได้ไหมเดี๋ยวผมมา ผมต้องออกไปหาคุณภีมก่อน เผื่อเขามีอะไรจะใช้ผม”
ชายหนุ่มพูดเสียงพร่า มือทั้งสองข้างเริ่มเคล้าคลึงหนักหน่วงขึ้น
“ได้ค่ะ แนนนี่จะรอที่ประตูด้านหลังนะคะ”
เธอรู้ดีว่าบริเวณนั้นเป็นที่ลับตาคน เพราะเป็นทางเดินออกไปสู่ลานจอดรถสำหรับพนักงานเท่านั้น คลับที่นี่ดีอย่างตรงที่จัดสถานที่แยกไว้เป็นสัดส่วนระหว่างคนมาเที่ยวกับคนที่เป็นพนักงานของคลับ
ผู้จัดการหนุ่มรีบก้าวออกไปจากบริเวณนั้นแล้วเดินไปตามทางเดินสลัวจนกระทั่งเปิดประตูออกไปสู่ฮอลล์ด้านนอก แนนนี่จึงเดินลงมาจากบันไดเพื่อไปรอชายหนุ่มตรงที่นัดหมาย ครั้นพอลงมาถึงพื้นด้านล่าง จู่ ๆ ก็มีร่างของใครคนหนึ่งก้าวออกจากที่ซ่อนใต้บันไดมายืนขวางหน้าเอาไว้พอดี
“ว้าย! โธ่...เธอเองหรอกหรือ ตกใจหมดเลยจู่ ๆ ก็โผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียง บ้าจริง!”
หลังจากผับเลิก ช่อมาลีเข้ามาเก็บของในห้องล็อกเกอร์เหมือนอย่างเคย น่าแปลกที่วันนี้ไม่เห็นเจ้านายของเธอเลย ครั้งสุดท้ายที่เห็นก็ตอนที่เขาโอบประคองผู้หญิงคนนั้นหายเข้าไปในอาคารออฟฟิศ ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นห้องพักผ่อนที่อยู่ชั้นบน
“ตอนนี้ที่คลับลูกค้าเยอะมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะระบบรักษาความปลอดภัย และการคัดกรองพนักงานที่เข้มงวดมากขึ้น ผู้จัดการคลับก็มีสองคน คนหนึ่งดูแล และแก้ปัญหาเกี่ยวกับลูกค้า อีกคนหนึ่งดูแลพนักงานทั้งหมด ฝ่ายบัญชี และจัดซื้อก็ยังใช้พนักงานชุดเก่า มีวงดนตรีที่มาเล่นประจำให้ที่คลับสามวงต่อสัปดาห์ ซึ่งวงบัตเตอร์ฟลายจะเล่นศุกร์เสาร์อาทิตย์เหมือนเดิม แต่เล่นแค่รอบเดียวคือรอบปิดท้าย ส่วนอีกรอบเราจะใช้นักดนตรีจากอีกวงหนึ่งมาเล่นให้ เท่ากับว่าในวันศุกร์เสาร์อาทิตย์จะมีวงดนตรีมาเล่นให้วันละสองวง”“ผมคิดว่าเราน่าจะเพิ่มบาร์ค็อกเทลนะพี่ จัดสักมุมหนึ่งของฮอลล์ มีบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อสาวสวยเป็นคนผสมเครื่องดื่มให้ตามแต่ที่ลูกค้าต้องการเหมือนตามโรงแรมน่ะ”รชตเสนอความเห็นให้พี่ชาย เขาเคยไปที่คลับหลายครั้งแล้ว และเขาคิดว่าที่คลับควรจะต้องมีบาร์ค็อกเทลเหมือนเมืองนอก หรือตามโรงแรมใหญ่ ๆ เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับลูกค้า“อืม...ก็น่าสนใจนะ พี่ก็เคยคุยเรื่องการขยายพื้นที่ของซุสกับภีมมันเหมือนกัน เพราะได้ข่าวมาว่าผับที่อยู่ถัดไปจากซุสกำชังจะหมดสัญญาเช่าที่ พี่กับเจ้าภีมเลยคิดว่าจะไปเทก
สองปีต่อมาพชรนั่งคิ้วขมวดเป็นปมอยู่หน้าคอมพิวเตอร์พร้อมกับนิ้วมือที่กำลังคีย์ข้อความลงไปอย่างรัวเร็ว สลับกับการรื้อกองเอกสารที่ไร้ระเบียบตรงหน้าอย่างวุ่นวาย เขาจำไม่ได้แล้วว่านั่งอยู่ตรงนี้นานเท่าไรแล้ว รู้แต่ว่าเขาต้องจัดการเอกสารกองนี้ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วสรุปทุกอย่างใส่ลงในเอ็กเซล เพื่อที่จะได้เอากลับไปทำต่อที่บ้านเขาไม่อยากแบกเอกสารหนาหนักพวกนี้กลับไปด้วย เพราะนอกจากเสี่ยงที่จะสูญหายแล้ว ช่อมาลีก็อาจทนไม่ได้จนต้องลงมือเข้ามาช่วยเขาจัดการกับพวกมันทั้งหมด ซึ่งเขาไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น เธอเพิ่งคลอดบุตรชายคนแรกให้เขาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาอยากให้หญิงสาวพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูร่างกาย มากกว่าที่จะต้องมาทำงานให้เขาทั้งคู่เข้าพิธีแต่งงานด้วยกันเมื่อปีที่แล้ว และเลิกคุมกำเนิดด้วยการกินยาแต่หันมาใช้วิธีคุมกำเนิดแบบธรรมชาติแทน ตอนที่คุยกัน ช่อมาลียังไม่พร้อมจะตั้งครรภ์ เพราะอยากใช้ชีวิตอยู่กันสองคนแบบนี้ไปก่อน ซึ่งเขาเองก็เห็นด้วย ทั้งที่ตอนแรกเขาอยากมีลูกเร็ว ๆ ให้พ่อกับแม่ได้อุ้มหลานทว่าไม่นานนักความต้องการของเขาก็สัมฤทธิ์
“ต้องยังงี้สิ ไปกันเถอะ” พชรโอบไหล่พาช่อมาลีเข้าไปในงาน ซึ่งการจัดงานนั้นเป็นแบบเปิดโล่งริมชายหาด รถสปอร์ต และยนตรกรรมสุดหรูจอดเรียงรายกันบนหาดทราย โดยมีพริตตี้สาวสวยในชุดบิกินีคาดช่วงล่างด้วยผ้าบาติกมัดย้อมคลุมจนถึงเข่าโดยมัดปมไว้ที่สะโพกอีกข้างหนึ่งเพื่ออวดเรียวขาวับแวมยืนให้คำอธิบายเกี่ยวกับสมรรถนะต่าง ๆ อยู่ข้างรถตลอดทั้งวันจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติแห่กันเข้ามาดูรถหรูไม่ขาดสาย บ้างก็มาเพื่อถ่ายรูปสาวสวยที่ยืนข้างตัวรถ บ้างก็มาเพื่อขอทดลองนั่งด้านใน และก็เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งจบงานในวันสุดท้าย หรือวันที่สามของการจัดงาน ซึ่งสิ่งที่ทำให้ท่านประธานยิ้มไม่หุบเลยนั่นก็คือยอดจองรถที่ทะลุเป้าหมายจากที่วางเอาไว้ถึงสองร้อยเปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการตอบรับจากลูกค้าที่ดีมาก“ผมขอดื่มให้กับทุกคนสำหรับงานมินิมอเตอร์โชว์ในครั้งนี้ และขอขอบคุณพวกคุณทุก ๆ คนที่ทำให้งานในครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี แทบจะเรียกว่าดีมากจนเกินเป้าหมายที่ผมวางไว้ด้วยซ้ำ ขอบคุณมากครับ”พชรลุกขึ้นยืนตอนที่พูด คนอื่น ๆ จึงลุกขึ้นตามไปด้วยพร้อมกับยกแก้
“เฮ้ย! อะไรเนี่ย แปลว่าที่พูดไปเมื่อกี้นี่ฟังไม่รู้เรื่องใช่ไหมคุณ”ช่อมาลีวางช้อนและส้อมลงทันที สองตาตวัดมองไปยังคนหน้าไม่อายตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง แต่คนถูกมองหาได้เกรงกลัวไม่ เขากลับหัวเราะคิกคักพลางจ้องคนสวยหน้าบึ้งด้วยแววตาเป็นประกายราวกับถูกอกถูกใจนักหนา“โอเค...ไม่ลุกใช่ไหม...ได้”ช่อมาลีคลี่ยิ้มเยือกเย็นส่งให้พร้อมกับทำท่าจะคว้าเอาแก้วน้ำส้มที่วางอยู่ตรงหน้า แต่ทว่าไม่ไวพอเท่าชายหนุ่มที่เอื้อมมาคว้าไปได้ก่อนพร้อมกับดื่มน้ำส้มแก้วนั้นเสียเองจนหมดแก้วไปต่อหน้าต่อตาช่อมาลีลุกพรวดขึ้นทันที ตั้งใจไว้ว่าจะไปแจ้งเจ้าหน้าที่ของทางโรงแรมให้มาลากเขาออกไป พอดีกับที่พชรรีบเดินเร็ว ๆ กลับมาที่โต๊ะด้วยท่าทางเอาเรื่องเพราะเห็นแฟนสาวกำลังถูกคุกคาม“มีอะไรรึเปล่าม็อท” พชรถามหญิงสาวแต่สายตาจ้องเขม็งไปยังแผ่นหลังของชายหนุ่มที่มาก้อร่อก้อติกแฟนสาว จนเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ และได้มองหน้าของผู้ชายคนนั้นชัด ๆ จากสายตากรุ่นโกรธก็เปลี่ยนเป็นเบิกกว้างขึ้นทันที“อ้าวเฮ้ย! เจ้าอาร์ต นี่แกกลับมาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”พชรพูดเสียงไม่เบานักเพราะความประหลาดใจที่เห็นน
ช่อมาลีค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาทีละนิด แล้วก็ปิดตาลงไปเมื่อภาพตรงหน้าปรากฏเป็นแผงอกหนั่นแน่นของใครบางคน เธอตั้งสติแล้วลืมตาขึ้นมามองใหม่อย่างไม่ค่อยแน่ใจในสายตาของตนเองเท่าไรนัก ตาคู่สวยเบิกกว้าง ใบหน้าเริ่มเห่อร้อนขึ้นมาเป็นริ้ว ๆ เมื่อความทรงจำแสนวาบหวามเมื่อคืนย้อนกลับเข้ามาสู่ความทรงจำอีกครั้งช่อมาลีค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างสบายใจ วางท่อนแขนหนัก ๆ พาดไว้ที่เอวของเธอพร้อมกับเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ หญิงสาวผงกศีรษะขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อมองใบหน้าของเขาให้เต็มสองตา เพราะในเวลาปกติ เธอไม่อาจมองเขานาน ๆ ได้ตั้งแต่รู้ตัวว่าคิดกับเขาไม่เหมือนเดิมใบหน้ายามหลับของพชรแลดูอ่อนโยนไม่มีพิษมีภัย เครื่องหน้าลงตัว อย่างผู้ชายที่จัดว่าหน้าตาดี เขาไม่ใช่คนหล่อชนิดที่ว่าเห็นครั้งแรกแล้วต้องตะลึงมองเหมือนคริส เพื่อนในวงดนตรี แต่เขาก็จัดว่าเป็นผู้ชายที่ดูดีมีเสน่ห์อย่างหาตัวจับได้ยาก โดยเฉพาะนัยน์ตาเจ้าเล่ห์คู่นี้ที่ตวัดมองมาแต่ละครั้งก็สามารถทำให้ใจแทบละลายได้ แล้วไหนจะรอยยิ้มมุมปากแสนกระชากใจนั่นอีกเล่าที่สะกดสาว ๆ มานักต่อนักแล้ว ไม่เว้นแม้กระท
ชายหนุ่มรัดร่างหญิงสาวไว้จากด้านหลัง แล้วดันให้เธอเดินหน้าไปยังเตียงนอนหลังใหญ่ที่อยู่กลางห้อง แต่เจ้าหล่อนกลับพยศรั้งตัวเองไว้ไม่ยอมเดินไปตามเขา พชรจึงตัดสินใจช้อนตัวขึ้นอุ้มเสียเลย“คุณโอมขา ม็อทขอโทษที่โกหก ก็ม็อทอยากว่ายน้ำนี่นา”หญิงสาวกระถดตัวหนีเมื่อพชรวางเธอลงบนเตียง จนเสื้อคลุมหลุดลุ่ยอวดผิวขาวนวลเนียนตัดกับสีแดงของบิกินี่ตัวจิ๋ว“อยากว่ายก็ว่ายไปสิครับ ผมไม่ได้หวงสักหน่อยนี่นา สระว่ายน้ำที่นี่จะคุณหรือผมใช้ได้ก็เหมือนกันนั่นแหละ” ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อมองเห็นหยดน้ำจากเส้นผมที่เปียกลู่ของเธอกำลังไหลผ่านซอกแคบระหว่างภูเขาย่อม ๆ สองลูกให้ตายเถอะ! เขาอยากใช้ปากและลิ้นเช็ดตัวเธอให้แห้งจริง ๆ“ถ้าม็อทว่ายตอนคุณโอมอยู่ อย่างกับว่าม็อทจะได้ว่ายสบาย ๆ งั้นแหละ ก็คุณน่ะชอบมาหาเศษหาเลยกับม็อทเรื่อยเลย”ช่อมาลีบ่นงอดแงดพลางเอาหมอนมากอดไว้เพื่อบังร่างเกือบเปลือยของตนเองเมื่อเห็นสายตาราวกับจะกลืนกินของเขาพชรหลุดขำหัวเราะร่า ก่อนจะอาศัยจังหวะที่เธอเผลอกระโดดเข้าตะครุบตัวหญิงสาวแล้วกอดเอาไว้แน่น ช่อมาลีดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอ