“คุณ... คุณชาย... ไม่นะ... ไม่... คุณชาย...”
“ไม่อะไร พุดซ้อน ไม่อะไร”
เสียงกระเส่าแหบพร่าเอ่ยถามยิ่งทำให้อินถวาหูอื้อตาลายไปหมด สิ่งที่คิดต่อต้านตกกระจายหายวับ กลับเป็นสิ่งที่เธออยากให้เขากระทำมาแทนที่ อยากให้เขาสอดใส่ปลายนิ้วเข้าไปในนั้นให้เธอหายจากอาการคันยิบยับ แต่ปากก็ยังร้องห้าม สลับกับครวญครางอย่างห้ามตัวเองไม่ได้
“อื้อ... ไม่นะคะ อย่า... อื้อ... อา... ไม่... หยุด... คุณชาย...”
“ไม่หยุดแน่ทูนหัว”
สิ้นสุดคำพูดของเขา อินถวาก็ต้องเบิกตากว้างก่อนจะหลับตาปี๋เพราะไม่ใช่เพียงฝ่ามือที่สัมผัสแต่ไรเฟิลพาใบหน้าของเขาซอนซุกลงไปแล้ว เธอหลับตาแน่นแต่จินตนาการตื่นตัวสุดขีด เพราะสัมผัสนั้นคือคุณชายกำลังไปที่จุดนั้น จุดที่รุมร้อนราวกับมีกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้น จุดที่ทำให้เธอลืมไปแล้วว่าจะไม่ยอม
เพียงปราการด่านสุดท้ายที่ปกป้องความงดงามที่สวรรค์สรรสร้างถูกรูดออกจากสะโพกผาย ไรเฟิลก็ต้องผ่อนลมหายใจออกเบาๆ เพราะแสงสว่างจากภายนอกและแสงไฟสีนวลจากในห้องทำให้เขามองเห็นดอกไม้งดงามที่มีทุ่งหญ้าขึ้นปกคลุมอยู่บางเบา
ใบหน้าหล่อร้ายของมังกรแห่งตระกูลลี ขยับเข้าใกล้ความงดงามจนได้กลิ่นแห่งความหอมหวานที่เชิญชวนให้เขาเข้าใกล้ และเขาก็ไม่ปฏิเสธ จมูกโด่งจึงเข้าไปชิดใกล้ก่อนจะสูดดมความหอมที่ไปกระตุ้นไอ้มังกรร้ายของเขาให้ตื่นตัว จนไรเฟิลต้องขืนกายขึ้นเพื่อปรามเจ้ามังกรให้รอคอยก่อน ขั้นตอนสำรวจเพิ่งเริ่มต้น และหน้าที่สำรวจภายนอกก็ไม่ใช่ของพี่เบิ้ม แต่เป็น จมูก ริมฝีปาก ปลายลิ้น และนิ้วมือของเขา
ดวงตาซุกซนสำรวจดอกไม้กลีบบางอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม เริ่มจากกลีบดอกบอบบางที่ปิดสนิทไร้ริ้วรอยแยกแตกระแหงเพื่อยืนยันว่าดอกไม้งดงามนี้ยังไม่เคยมีใครได้ล่วงล้ำเข้าไป แต่เมื่อเขาช้อนท่อนแขนลงใต้สะโพกเพื่อส่งดอกไม้งามให้ลอยสูง กลีบดอกบอบบางก็แย้มออกจากกันเพียงนิด ให้พอมองเห็นหยาดน้ำหวานฉ่ำเยิ้มที่ถูกส่งขับออกมาตามกลไกของร่างกาย หยาดน้ำหวานสีมุกที่เอ่อซึมออกมาให้พอมองเห็น สวยงามจนเขาไม่อาจอดใจที่จะจุมพิตลงไปได้
“อ่ะ... คุณชาย... อื้อ... คุณชาย...”
แค่แตะต้องอินถวาก็สะท้านร่ำร้องเรียกชื่อ และหากเขาทำมากไปกว่านี้ เขาก็มั่นใจได้ว่านั่นจะไม่ใช่การบังคับหรือขืนใจใดๆ ทั้งสิ้น เพราะที่ทำลงไปยังไม่มีตรงไหนที่อินถวาร่ำร้องว่าเจ็บ
ริมฝีปากทาบทับลงไป จูบซับให้เธอสะท้านเล่น ก่อนที่จะค่อยๆ แลบลิ้นออกมาและตวัดเลียไล้จากโคนดอกไปจนถึงตำแหน่งของยอดเกสร ก่อนจะสอดแทรกลงไปที่รอยแยกตรงๆ จนอินถวาสะท้านเฮือกบิดกายดิ้นรนด้วยความรัญจวนอย่างหยุดไม่อยู่
ไรเฟิลแทรกปลายลิ้นเข้าไปเซาะแทรกที่กลีบดอกไม้ทั้งซ้ายทั้งขวา ใช้ปลายนิ้วแยกกลีบดอกไม้สีชมพูอ่อนหวานออกจากกัน และยอดเกสรสีชมพูสดมันวาวด้วยหยาดน้ำหวานคือสิ่งที่เขาหมายตา ไม่รอช้า ไรเฟิตตวัดปลายลิ้นกดย้ำลงไปที่ยอดเกสรทันที
“อื้อ... คุณชาย... พอแล้วค่ะ โอว... คุณชาย...”
ยิ่งอินถวาครวญครางซ่านเสียว ไรเฟิลก็ยิ่งกระหน่ำลิ้นร้อนใส่ เพราะเขาต้องการให้เธอรู้จักคำว่า ‘ขึ้นสวรรค์’ และอยากให้เธอรู้ว่าปฏิกิริยาที่ร่างกายแสดงออกแบบไหนกันที่แปลว่า ‘อยาก’ สุดๆ
อินถวาสูดลมหายใจเข้าทางปาก เพราะความวาบหวิวรุนแรงนั้นทำให้เธอหายใจไม่ทัน เธอทรมานและเธอต้องการระบายออก แต่คุณชายกลับส่งปลายลิ้นเข้ามาทรมานเธอให้มากขึ้นอีก เธออยากกรีดร้องให้สุดเสียง อยากครวญครางด้วยคำไม่รู้ความหมายออกไป
อยากผลักไสและก็รั้งคุณชายแนบชิดกับดอกไม้ของเธอในขณะเดียวกัน และอินถวาก็ได้รู้ว่านั่นไม่ใช่เพียงความคิดเพราะเสียงกรีดร้องสุดเสียงพร้อมเสียงลมหายใจหอบเหนื่อยนั่นคือเธอจริง โดยเฉพาะดอกไม้ที่ส่งอัดจนชิดติดใบหน้าของเขาก็คือเธออีกเช่นกัน และคุณชายก็ยังไม่หยุด
“อื้อ... คุณชาย พอแล้วค่ะ พอแล้ว อื้อ... คุณชาย!”
อินถวาบิดกายสะท้านไม่หยุด เพราะยังรับรู้ได้ถึงความอุ่นชื้นที่กดย้ำๆ อยู่ที่ยอดเกสรที่เต้นระริกของเธอ ซึ่งทั้งหมดนั้นทำให้เธอต้องขยับสะโพกเคลื่อนไหว ปากก็ร่ำร้องว่าอย่า แต่ร่างกายกลับขยับเข้าใส่ ก่อนที่เธอจะถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อคุณชายผีทะเลขยับตัวขึ้นมาคร่อมทับร่างเปลือยของเธออีกครั้ง
“พอ... คุณชาย... พอ...”
“พอแล้วเหรอ เธอยังเสียวอยู่เลยนะ มาต่อกันดีกว่าน่า”
ใบหน้าที่ส่ายไปมากับคำร่ำร้องเหนื่อยอ่อนเหมือนคนที่วิ่งมาไกลสร้างความสนุกให้กับไรเฟิล ฝ่ามือจึงเคลื่อนลงต่ำไปสัมผัสกับกลีบดอกไม้ที่เจ้าของรีบหุบต้นขาเข้าอย่างอัตโนมัติ แต่นั่นก็ยังช้าไปกว่าฝ่ามือร้อนที่ทาบทับลงไปอยู่ดี
“คุณชาย... พอแล้ว... พอแล้วค่ะ อย่าทำแบบนี้...”
“ฉันสร้างความสุขให้เธอ”
“ไม่... ไม่ใช่นะ คุณชายทำฉัน คุณชายสัญญาว่าจะไม่ทำ อื้อ... คุณชาย อย่าทำ...”
“ทำตอนไหนกัน ยังไม่ได้ทำเลย”
“อื้อ... คุณชาย...”
“ตอบสิว่าทำตอนไหน ตอบถูกจะให้รางวัล”
“ก็ตอน... ตอน...” อินถวาสะท้านบิดกายไปตามจังหวะนิ้วมือที่พลิ้วไหวอยู่บนกลีบดอกไม้ที่ฉ่ำชื้นไปด้วยหยาดน้ำหวาน และเมื่อเขาแทรกปลายนิ้วเข้ามา อินถวาก็ลืมคำตอบเสียสิ้น ทั้งที่อยากบอกว่าตอนที่เขาลงลิ้นไปเลียไล้ที่ดอกไม้ และก็ตอนนี้ที่คุณชายกำลังระรัวนิ้วมือ
“ได้สิครับ ผมสัญญาจะทำให้ดีที่สุด เริ่มต้นจากส่งเมียจ๋าขึ้นสวรรค์ก่อน” “อ่ะ! ว้าย! ไรเฟิล...” อินถวาหมดหนทางจนต้องอุทานเพราะสิ่งที่เธอควรทำก็คือปิดริมฝีปากของตัวเองที่จะกรีดร้องจากความเสียวซ่านนั้นออกมา เพราะไรเฟิลวาดลวดลายผ่านปลายลิ้น ตั้งแต่ทั่วพื้นที่ของอกอวบจนดูดดุนเบาๆ ที่ยอดอก ก่อนจะลากริมฝีปากและปลายลิ้นมาตามร่องอกมาคลอเคลียอยู่ที่หน้าท้องที่ยื่นนูน จนคนที่อยู่ด้านในประท้วงตอดตุบๆ “ลูกจ๋า... พ่อจะเข้าไปเยี่ยม” “ไรเฟิล... บ้าจริง...” “บ้าที่ไหนกันครับ ผมจะไปเยี่ยมลูก ลูกจ๋า... รอพ่อนะครับ” “อื้อ... บ้า...” ไรเฟิลหัวเราะพาริมฝีปากไปสู่จุดหมายที่อินถวารอคอย ก่อนจะชะงักเพราะดอกไม้งามสีชมพูอ่อนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าดูอูมใหญ่กว่าเดิม รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า เพราะรูปร่างที่เต็มไม้เต็มมือขึ้นกว่าเดิมบวกกับอวัยวะที่ขยายใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับชีวิตน้อยๆ ก็ยิ่งทำให้เรือนร่างของคุณแม่มือใหม่นี้ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ รวมทั้งกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เจืออยู่ก็ทำให้ไรเฟิลอดใจไว้ไม่ไหว จมูกโด่งจึงจดลงดอมดมควา
ไรเฟิลประคองร่างอวบอิ่มของอินถวามานั่งที่โต๊ะยาวด้านข้าง เขาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เธอรับรู้ เริ่มตั้งแต่ค่ำคืนแห่งการดินเนอร์นั้น นั่นคือแผนการของพ่อแม่ เพื่อให้ท่านยอมรับในตัวของอินถวา และยอมรับว่าความรักของเขาคือความจริง ไม่ใช่เพียงหลงเสน่หาชั่วครั้งชั่วคราว เริ่มจากอินถวารักเงินหรือว่ารักตัวเขากันแน่ ซึ่งเธอก็พิสูจน์แล้วว่าเงินจำนวน 50 ล้านที่พ่อเขาเขียนเช็คให้เธอนั้น อินถวาไม่แม้แต่จะเปิดดู ด่านแรกเธอผ่านไปได้ แต่ด่านที่ 2 ที่ใช้ระยะเวลาเป็นตัวชี้วัด ใน 3 เดือนที่ต้องจากกันอย่างเข้าใจผิด อินถวาจะยังซื่อสัตย์กับเขาหรือไม่ ทั้งๆ ที่เธอก็เห็นว่าเขานั้นทรยศเธอไปแล้ว และอินถวาก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังเลย จากข่าวที่ได้รับจากเหมยอิงและมาร์กอส นั่นคืออินถวาไม่มีใครเลย เธอตั้งหน้าตั้งตาสร้างธุรกิจขนมไทยร่วมสมัยและใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับครอบครัว ส่วนตัวเขาเองก็ต้องอดทนกับการไม่ได้เห็นหน้าเธอ เขาต้องไปทำงานทุกวัน ต้องอยู่ในวงล้อมของผู้หญิงที่สวยงามมากมาย ทั้งซินเทียก็มาคลอเคลียกับเขาไม่ห่าง ใน 3 เดือน หากเขายังยึดมั่นอยู่กับอินถวา พ่อกับแม่ถึงจะ
ทว่าดวงตาสวยหวานของอินถวากลับหลับพริ้มแต่ก็ยังเห็นว่ามีหยาดน้ำเอ่อคลออยู่ ระยะเวลา 3 เดือนที่จากกัน เขารู้ว่าเธอก็ทุกข์ ส่วนเขานั้นก็ทุกข์อย่างแสนสาหัสเพราะนี่คือ บทพิสูจน์ที่จะทำให้พ่อแม่ยอมรับเธอ “พุดซ้อนครับ ได้โปรดลืมตาขึ้นมองผม ผมอยากเห็นดวงตาของคุณ อยากเห็นผมอยู่ในนั้น อยู่ในสายตาของคุณอีก พุดซ้อนครับ ได้โปรดเถอะ” อินถวากลั้นสะอื้น แค่ได้ยินน้ำเสียงสั่นเครือปนเว้าวอนอย่างนั้น เธอก็แทบจะซุกซบใบหน้าลงกับอกของเขา เพราะเธอเองก็คิดถึงเขาเหลือเกิน เวลา 3 เดือนที่ผ่านไปทำให้เธอมองเห็นโลกในต่างมุมมากขึ้น อารมณ์ชั่ววูบของเธอในวันนั้นทำให้ผลุนผลันจากมา แต่เมื่อคิดคำนวณทุกเหตุการณ์ก็จะพบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นช่างประจวบเหมาะ นั่นเพราะพ่อและแม่ของเขาต้องการให้เกิดอยู่แล้ว และเป็นเธอเองที่ติดกับดักที่ท่านสร้างขึ้น เพราะเธอไม่มีทางรู้ได้เลยว่าไรเฟิลที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงของซินเทียนั้น คนทั้งคู่เมคเลิฟกันจนเหนื่อยอ่อน หรือว่านั่นคือไรเฟิลถูกทำให้หลับ เพราะกับเธอนั้น เขาก็ไม่เคยเหนื่อยจนสลบถ้ายังไม่ถึงเช้า และหากเรื่องราวเป็นไปอย่างที่เธอคาดเดา
“ค่ะแม่ พุดก็ว่าจะรับอีกแค่สองคนเท่านั้นค่ะ ไม่อย่างนั้นพุดจะดูแลไม่ทั่วถึง ถ้าขนมไม่ได้คุณภาพจะกลายเป็นผลเสียแทน แล้วน้าอิฐล่ะคะ เช้านี้พุดยังไม่เห็นเลย ไปธนาคารเหรอคะแม่” เธอถามหาน้าชาย เพราะปกติจะเห็นอยู่ในออฟฟิศฝั่งตรงกันข้าม แต่เช้านี้เธอยังไม่เห็นเลย “ไปสนามบินน่ะ” “ไปทำไมคะ มีอะไรเหรอ” “ก็เรื่องที่น้าอิฐเขาจะนำเข้าอะไหล่รถนั่นแหละ วันนี้ทางนั้นเขาบินมา น้าอิฐก็เลยไปรับ” น้ำเสียงเศร้าๆ ของแม่ทำให้อินถวาโอบกอดรอบเอวเจ้าเนื้อของแม่เอาไว้ เธอรู้ว่าแม่รักธุรกิจเต็นท์รถมือสองนี้มาก เพราะนี่คือสิ่งที่สร้างรายได้จนแม่สามารถส่งเสียเธอเรียนจนจบ และก็เป็นเหตุผลหลักที่เธอไปทำงานที่ฮ่องกง เพราะไม่อยากให้แม่ต้องสูญเสียสิ่งนี้ไป แต่วันเวลาก็ไม่แน่นอน ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ รถยนต์มือสองขายยากและก็ยังหาซื้อมาใส่เต็นท์ได้ยากเช่นกัน น้าอิฐจึงปรึกษากับแม่ว่าควรลดซื้อรถยนต์แต่เปลี่ยนมานำเข้าอะไหล่แทน และหากมีคู่ค้าอยู่ที่จีนหรือที่ญี่ปุ่นก็จะดีมาก เพราะการสั่งนำเข้าหรือการหาอะไหล่ที่ยากๆ ก็จะทำได้อย่างเร่งด่วน และตอนนี้แม่ก็วางมื
“ถ้าถือว่าผมเป็นเพื่อน ให้เพื่อนคนนี้ไปส่งให้ถึงเมืองไทยนะครับ เพื่อนจะได้สบายใจ ว่าได้ส่งเพื่อนถึงสถานที่ที่ปลอดภัยแล้ว ไม่ลำบากหรอกครับ” อินถวาพยักหน้ารับดวงตารื้นไปด้วยหยาดน้ำ ก่อนจะขอตัวไปซื้อพลาสเตอร์แปะแก้เมาเครื่องบินก่อน โดยมีมาร์กอสมองตามร่างงามระหงที่เดินตรงไปยังร้านขายยา ดวงตาสีฟ้ามีแววกังวลใจก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงที่สั่นไม่หยุดขึ้นมา ‘ไรเฟิล’ แม้หน้าจอโทรศัพท์จะระบุชื่อคนโทรเข้าแบบนั้น แต่มาร์กอสกลับเลือกที่จะปิดเครื่อง เพราะในเวลานี้ทุกคนควรได้รับโอกาสในการไตร่ตรอง เกือบ 3 ชั่วโมงจากฮ่องกงมาเมืองไทย อินถวาไม่ได้พูดอะไรเลย มีเพียงน้ำตาของเธอเท่านั้นที่เคลื่อนไหวไม่หยุด ทว่าเพียงถึงจุดหมายรอยยิ้มอย่างมีความสุขที่สุดก็ฉายชัดขึ้น ดั่งว่าเธอคนนี้ไม่ได้นำความทุกข์ใจกลับมาจากฮ่องกงด้วย “ส่งฉันเพียงเท่านี้ก็พอแล้วค่ะ ฉันถึงบ้านแล้ว ฝากคุณมาร์กอสขอโทษคุณวิคเตอร์กับคุณนายลีแทนฉันด้วยนะคะ สำหรับทุกเรื่องที่ฉันเสียมารยาทไว้ และฝากขอโทษคุณแม่บ้านใหญ่ ลุงฉี อาซู กับอาหนิงที่ฉันจากมาโดยไม่ได้ลา” “แล้วคุณไรเฟิลล่ะครับ คุ
“ถ้าเราท้องขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง ไรเฟิลจะหาว่าเรามีลูกเพื่อไว้จับเขาหรือเปล่า และพ่อแม่เขาอีกล่ะ เขาจะทำยังไงกับเรา”อินถวาพึมพำก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้น เธอรีบเดินไปที่โทรศัพท์แต่ยังไม่วายจะชำเลืองมองไปที่ตึกใหญ่ เพราะคนที่โทรมาคือคนในตึกนั้น ดวงตาสวยมีแววเศร้ามองโทรศัพท์อย่างชั่งใจเพราะไรเฟิลไปดินเนอร์กับครอบครัวที่ตึกใหญ่และสัญญาว่าจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด ทั้งที่เธอเองก็เผื่อใจไว้อยู่แล้วว่าคงไม่เร็วแน่ เธอก็ไม่อยากได้ยินว่าเขาจะขออยู่ต่ออีกกี่ชั่วโมง จะกลับดึกกว่านี้ หรือว่าค่ำคืนนี้จะไม่กลับ “ฮัลโหล...” เสียงหวานเอ่ยทักเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ใช้ ‘ไหว’ ที่เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เพราะคิดว่าคนที่โทรมาในยามดึกนี้คงมีแค่ไรเฟิลคนเดียวเท่านั้น ทว่าเสียงที่ตอบกลับมากลับทำให้อินถวารีบคว้าเสื้อคลุมและเดินออกจากตึกเล็กมุ่งตรงไปสู่ตึกใหญ่ในทันที เพียงไม่นานเธอก็มาถึงจุดหมายที่ใครคนนั้นบอกเอาไว้ ห้องนอนชั้น 2 ของปีกซ้าย ประตูห้องที่เปิดแง้มไว้ทำให้อินถวาถือวิสาสะเดินเข้าไปทันที ในนาทีที่หัวใจเธอใกล้จะระเบิดก็ขอให้เธอได้เห็นกับตาตัวเอง และสิ่งที่มองเ