LOGINราวกับโลกทั้งใบของเธอหยุดเคลื่อนไหวลงเมื่อได้ยินชื่อของชายหนุ่มที่เธอรอคอยมานานหลายปีออกจากปากของชายขี้เมา หัวใจเต้นแรงไม่ต่างจากแผ่นดินที่กำลังสั่นไหวอยู่หลายริกเตอร์
แม้ไม่เห็นหน้าค่าตาคนข้างหลัง หากแต่วิธีการพูดและน้ำเสียงโทนนั้นอดทำให้คิดไม่ได้เลยว่าเขาคือ…คนๆ นั้น “กลับกันเถอะครับนาย” ด้วยความไม่อยากให้เจ้านายเสียโอกาสในการเจรจาขอทำธุรกิจร่วมกับคนตรงหน้า จึงพยายามเกลี่ยกล่อมให้เจ้านายยอมถอยออกมา “ขอโทษที่เสียมารยาท ผมไม่รู้ว่าเป็นคุณ” ชายขี้ขยับเรียวปากพูดขึ้น “ถ้ารู้แล้วก็กลับไป อย่ามากร่างแถวนี้” ชายหนุ่มที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋าเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ แววตาคมเข้มเต็มไปด้วยความเย็นชาทำให้ชายขี้เมาทำอะไรไม่ถูกนอกจากยอมถอยออกมาแต่โดยดี คนตรงหน้าไม่ใช่คนที่ตัวเองควรไปต่อกรด้วย ไม่มีใครไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ อลัน ลูกชายคนเดียวของออสติน ที่เกิดในตระกูลมาเฟียเก่าแก่ที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว และสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าอยากรอด ต้องยอมเป็นฝ่ายถอย… “….” เธอมองรองเท้าสีดำที่เคลื่อนมายืนข้างๆ ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นเพื่อมองเจ้าของรองเท้า ทว่าไม่ทันที่สายตาจะสะท้อนใบหน้า เขาก็ก้าวเท้าเดินออกไปก่อนทำให้เธอมองเห็นเพียงแผ่นหลังกว้างของเขาเท่านั้น เธอตัดสินใจลุกขึ้นแล้วเดินตามผู้ชายคนนั้นไปด้วยความคาดหวัง พอเดินมาถึงทางแยกของไนต์คลับ เธอก็คลาดกับเขาเสียแล้ว “ไปไหนแล้ว…” เธอพึมพำคนเดียวเสียงแผ่ว ก่อนจะเดินคอตกออกไปจากตรงนั้นด้วยความความผิดหวัง ทั้งที่ไม่รู้ว่าใช่คนที่หมายถึงหรือเปล่าแต่กลับคาดหวังไว้สูงแล้วว่าคือคนนั้น จังหวะหมุนตัวเตรียมเดินออกไป สายตาปะทะเข้ากับแผงอกเปลือยเปล่าที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีดำปลดกระดุมลงมาสามเม็ดของใครบางคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง แขนเสื้อถูกพับขึ้นเผยให้เห็นรอยสักอยู่แขนข้างขวา มือทั้งสองล้วงกระเป๋าอยู่ เธอไล่มองตั้งแต่แผงอกของเขาคนตรงหน้าขึ้นมายังใบหน้า ทันทีที่สบตากับเขาคนนั้น หัวใจที่นิ่งสงบและห่อเหี่ยวได้กลับมาเต้นแรงอีกครั้ง “พี่อลัน…” เวลาที่ผ่านไปหลายปี ไม่ได้ทำให้เธอลืมใบหน้านิ่งเฉยและแววตาเย็นชาคู่นั้นได้ แม้ใบหน้าและร่างกายเขาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่เธอก็ยังจำเขาได้ เขาไม่ใช่แค่อลันผู้ชายที่เธอแอบรักในรั้วโรงเรียน แต่ยังเป็นชายหนุ่มที่นั่งจูบกับผู้หญิงคนก่อนหน้านี้ที่เธอสบตาด้วย… “ตามมาทำไม” เสียงนี้…นานแล้วที่ไม่ได้ยิน “คือว่า…” พอได้เผชิญหน้าจริงๆ ก็ไม่กล้าเอื้อนเอ่ยอะไรกับเขา อลันมองเบลินดาด้วยแววตานิ่งเรียบ ก่อนจะละสายตาไปจากใบหน้าสวยละมุนแล้วก้าวเท้าเดินออกไปจากตรงนี้เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมเอื้อนเอ่ยอะไร “คือว่า…ขอบคุณนะคะ” เธอหมุนตัวกลับไปมองเขาแล้วโพล่งออกมา นั่นทำให้เขาหยุดชะงักสองเท้า ค่อยๆ หันกลับมามองเธอ “เรื่องอะไร” “เรื่องที่ช่วยจากผู้ชายคนนั้นไงคะ” “แล้วยังไง?” “เอ่อ…มะ..ไม่มีอะไรค่ะ แค่อยากขอบคุณที่ช่วย ถ้าไม่ได้พี่อลัน ป่านนี้คงแย่แล้ว” คิ้วดกเข้มเลิกขึ้นสูงเมื่อชื่อตัวเองหลุดออกมาจากปากของหญิงสาวตรงหน้า ความสงสัยทำให้อลันขยับเรียวปากถาม “รู้จักชื่อฉันได้ยังไง” “พี่อลันจำเบย์ไม่ได้เหรอคะ?” “จำไม่ได้” อลันตอบกลับทันที เพราะจำอีกฝ่ายไม่ได้จริงๆ “ถะ…ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไรค่ะ” เธอยิ้มเจื่อน ไม่แปลกที่เขาจะจำไม่ได้ เพราะเธอไม่ได้สำคัญหรือมีความพิเศษอะไรสำหรับเขามากมาย มิหนำซ้ำยังบินไปเรียนต่างประเทศนานหลายปี…จำได้สิคงเป็นเรื่องแปลก “เดี๋ยว” “คะ?” เธอหันกลับไปหาเขาพร้อมขานรับ “เธอยังไม่ตอบฉัน ว่่ารู้จักชื่อของฉันได้ยังไงเลย” “พี่อลันเคยเรียนโรงเรียนเดียวกับเบย์ตอนมัธยม เคยช่วยเบย์จากนักเลงที่เข้ามาลวนลาม แล้วพี่อลันก็บินไปเรียนต่างประเทศตอนมอหก” “จำไม่ได้” “ไม่เป็นไรค่ะ มันนานมาแล้ว พี่อลันจำไม่ได้คงไม่แปลก” อลันพยักหน้า ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป ทิ้งให้เบลินดายืนมองตามแผ่นหลังตัวเองอยู่คนเดียว หญิงสาวมองตามรุ่นพี่สมัยเรียนที่เคยแอบรักจนกระทั่งเขาหายลับสายตาไป ถึงเขาจำเธอไม่ได้ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้เจอเขาอีกครั้ง… ความรู้สึกที่มีต่อเขายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งหนึ่งที่อยากรู้เกี่ยวกับตัวเขาก็คือ ตอนนี้เขามีคนเจ้าของหัวใจแล้วหรือยัง เพราะปัจจุบันเขาดูดีแถมยังมีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามดีมากๆ นี่เลยทำให้เธออดคิดไม่ตกเลยว่าเขา…อาจมีเจ้าของหัวใจแล้วเบลินดานั่งมองหน้าโพรไฟล์ตัวเองบนเว็บไซต์เพื่อรอให้แขกวีไอพีมาขอแมตต์ใช้บริการ จำนวนเงินที่เสนอไปค่อนข้างมาก ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีใครมากดสนใจหรือเปล่า เธอนั่งมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองสลับกับเวลาที่โชว์หลาบนมุมขวาของหน้าจอ ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกับอีกสามสิบนาที ก่อนหน้านี้เธอคิดหนักเรื่องเงินมากเพราะไม่รู้ว่าจะหามาจากไหนให้ทันระยะเวลาที่เจ้าหนี้กำหนด จำนวนเงินที่พ่อเธอติดหนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ โชคดีที่ทางนั้นเรียกจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายในสามวันข้างหน้าไม่มากมายนักเพราะยังพอมีปัญญาหาได้ ติ้ง…เสียงแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์ช่วยฉุดดึงเธอออกจากภวังค์ความคิด เธอเหลือบสายตามามองหน้าจอโทรศัพท์ พบว่าตอนนี้มีคนมากดถูกใจเธอแล้ว เธอกดเข้าไปอ่านประวัติเขาคนนั้น แต่กลับไม่มีอะไรให้อ่านเพราะลูกค้าวีไอพีรายนี้ไม่ใส่ข้อมูลส่วนตัว แถมรูปโพรไฟล์ยังไม่มีอีกต่างหาก เบลินดา : สวัสดีค่ะเธอตัดสินใจทักไปหาเขาคนนั้น รอไม่นานนักอีกฝ่ายก็ส่งข้อความตอบกลับมาแขกวีไอพี : โรงแรม A ชั้น30 ห้อง 510เบลินดา : จะเป็นอะไรไหมคะ ถ้าจะขอดูหน้าแขกวีไอพี : 21:30 น. ห้ามเลทแขกวีไอพีคนนั้นไม่ได้ตอบคำถามของเธอ แต่กลับส่งเวลานัดหมายกลั
แกร๊กเธอเปิดประตูบ้านเข้ามาในช่วงหกทุ่มท่ามกลางความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานและความเงียบเหงาภายในบ้าน หากเป็นบ้านหลังอื่น ทุกคนคงเข้านอนกันหมดแล้ว หากแต่บ้านเธอไม่ใช่ แม่ของเธอไม่ได้นอนที่นี่มาเกือบเดือนหนึ่งแล้วแต่กลับไปนอนที่บ้านของตาและยายเธอ เพราะไม่อยากเห็นหน้าพ่อ แต่ใช่ว่าจะไม่กลับมา พอพระอาทิตย์ของวันใหม่ขึ้น แม่เธอก็กลับมาที่นี่ ส่วนพ่อเธอก็กลับบ้านบ้างไม่กลับบ้างเพราะติดการพนันและเหล้าหนัก พ่อเธออยู่บ่อนคาสิโนบ่อยกว่าอยู่บ้านเสียอีก เท่ากับว่่าในแต่ละวัน บ้านหลังนี้มีเพียงเธอและน้องชายสองคนเท่านั้น“กลับมาแล้วเหรอพี่เบย์” ไบร์ท น้องชายของเบลินดาเอ่ยถาม “อืม แล้วทำไมยังไม่นอน”“หิวน้ำ” “พรุ่งนี้สอบเหรอ?”“ใช่ เพิ่งอ่านหนังสือเสร็จ”“ตั้งใจสอบนะ” เธอพูดพลางเดินไปยังตู้เย็นเพื่อหยิบน้ำออกมาดื่ม บ้านหลังนี้มีเพียงเธอและน้องชายอยู่ด้วยสองคน “พี่รู้เรื่องรึยัง”“อะไรเหรอ?”“ตอนหนึ่งทุ่มแม่เอาข้าวมาให้ แล้วเห็นพ่อกำลังออกไปข้างนอกพอดี พ่อแม่ทะเลาะกัน แล้วแม่ก็ขอหย่ากับพ่อ”“….” เธอชะงักแก้วน้ำในมือที่กำลังถูกกระดกดื่ม สายตาพลันไปมองไบร์ทที่พูดเรื่องนี้ขึ้น หัวใจพลอยกระตุกตาม “ผ
ราวกับโลกทั้งใบของเธอหยุดเคลื่อนไหวลงเมื่อได้ยินชื่อของชายหนุ่มที่เธอรอคอยมานานหลายปีออกจากปากของชายขี้เมา หัวใจเต้นแรงไม่ต่างจากแผ่นดินที่กำลังสั่นไหวอยู่หลายริกเตอร์ แม้ไม่เห็นหน้าค่าตาคนข้างหลัง หากแต่วิธีการพูดและน้ำเสียงโทนนั้นอดทำให้คิดไม่ได้เลยว่าเขาคือ…คนๆ นั้น“กลับกันเถอะครับนาย” ด้วยความไม่อยากให้เจ้านายเสียโอกาสในการเจรจาขอทำธุรกิจร่วมกับคนตรงหน้า จึงพยายามเกลี่ยกล่อมให้เจ้านายยอมถอยออกมา“ขอโทษที่เสียมารยาท ผมไม่รู้ว่าเป็นคุณ” ชายขี้ขยับเรียวปากพูดขึ้น “ถ้ารู้แล้วก็กลับไป อย่ามากร่างแถวนี้” ชายหนุ่มที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋าเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ แววตาคมเข้มเต็มไปด้วยความเย็นชาทำให้ชายขี้เมาทำอะไรไม่ถูกนอกจากยอมถอยออกมาแต่โดยดีคนตรงหน้าไม่ใช่คนที่ตัวเองควรไปต่อกรด้วย ไม่มีใครไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ อลัน ลูกชายคนเดียวของออสติน ที่เกิดในตระกูลมาเฟียเก่าแก่ที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว และสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันถ้าอยากรอด ต้องยอมเป็นฝ่ายถอย…“….” เธอมองรองเท้าสีดำที่เคลื่อนมายืนข้างๆ ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นเพื่อมองเจ้าของรองเท้า ทว่าไม่ทันที่สายตาจะสะท้อนใบหน้า เขาก็ก้าวเท้าเดินออ
หลายปีต่อมา“ดึกมากแล้วนะน้องเบย์ ทำไมถึงยังไม่กลับบ้านอีก” “คืนนี้เบย์ทำโอทีแทนกายน่ะค่ะพี่มิล” เธอหันไปตอบกลับเจ้าของประโยคนั้นมิล พี่คนสนิทที่เธอเคารพและรักเหมือนพี่สาวแท้ๆ คนหนึ่ง ทุกคนที่นี่รู้จักในนามของแม่เล้า เพราะมิลทำหน้าที่ช่วยประสานผู้หญิงสวยๆ ให้กับเสี่ยรวยๆ ที่เข้ามาใช้บริการหาความสุขกับสาวสวย “กลับเถอะ เดี๋ยวพี่ให้เด็กมาทำต่อเบย์เอง” มิลขยับเรียวปากสีแดงสดพูด สายตาดุจนางพญาจ้องมองเบลินดาด้วยความสงสารปนเอ็นดูในเวลาเดียวกัน หลายเดือนก่อนเบลินดามาขอทำงานด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ดีว่ามันคืองานอะไร แต่ก็ดึงดันจะทำให้ได้เพราะต้องการใช้เงินจำนวนมากเพื่อเอาไปใช้หนี้ให้ทางบ้าน ด้วยความสงสารและเอ็นดูจึงรับเบลินดามาทำงานด้วย โดยให้ทำในหน้าที่อื่นที่ไม่ใช่งานอย่างว่า “ใกล้เสร็จแล้วค่ะพี่มิล”“พี่เห็นเบย์ทำงานโดยไม่มีวันหยุดพัก ถามจริง ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ?”“เหนื่อยค่ะ แต่เบย์ต้องทำ” เธอเงยหน้าขึ้นไปตอบด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเหนื่อยก็พัก เกิดเป็นไรขึ้นมาจะทำยังไง ร่างกายของเบย์ไม่ได้ไหวตลอดเหมือนใจเบย์หรอกนะ”“ขอบคุณพี่มิลมากๆ นะคะที่เป็นห่วง แต่เบย์ยังไหว”“อืม พี่ไปก่อน ทำงานเสร็จแล้วมา
วันต่อมา“ทำไมวันนี้ถึงมาเรียนสายขนาดนี้” หมั่นโถวเอ่ยถามเบลินดาที่วิ่งหอบเข้ามาในห้องเรียนในเวลาสิบโมงเช้า “ที่บ้านมีปัญหานิดหน่อยน่ะ” เธอตอบพร้อมวางกระเป๋าลงโต๊ะเรียนแล้วหย่อนตัวนั่งลงข้างกายหมั่นโถว แอบยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่กลิ้งลงมาบนแก้มออกโดยไม่ให้เพื่อนสนิทเห็น“แกร้องไห้เหรอ?” แม้เบลินดาจะแอบนั่งปาดน้ำตาโดยไม่ให้เห็น แต่ใช่เธอจะไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทกำลังร้องไห้“เปล่า…”“เรื่องที่บ้านใช่ไหม?” หมั่นโถวถาม ก่อนหน้านั้นเบลินดาเคยระบายเรื่องในครอบครัวให้ตนฟัง และได้เห็นอีกมุมของเพื่อนสนิทที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ร่าเริงและมีความสดใสฉายออกมาจากแววตาตลอดเวลา ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านั่นเป็นเพียงฉากหน้าที่เบลินดาแสดงออกมาเพื่อกลบเกลื่อนตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง“ช่างมันเถอะ” เธอไม่อยากคิดถึงเรื่องที่บ้านเพราะยิ่งคิด ยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่ ตอนนี้ทางบ้านเธอประสบปัญหาหนี้สิน เพราะพ่อเธอติดการพนันแถมยังเอาบ้านไปประกันเจ้าหนี้ จำนวนเงินที่พ่อเธอเป็นหนี้ไม่ใช่น้อยๆ ทำให้แม่เธออยากหย่ากับพ่อเพื่อที่จะหลุดพ้นจากเรื่องนี้แต่ติดตรงมีเธอและน้องชาย นี่เลยทำให้แม่ไม่สามารถไปไหนได้“แก
“กรี๊ดดดด!!!” เสียงร้องเชียร์ของเด็กนักเรียนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วสนามฟุตบอลด้วยความตื่นเต้น สายตาทุกคู่จดจ่อไปยังนักเรียนชายที่กำลังแข่งขันฟุตบอลอย่างดุเดือดและไม่มีใครยอมใครเบลินดา เดินถือถาดที่มีแก้วเปล่ามาวางไว้บนอัฒจันทร์เพื่อให้นักกีฬาที่กำลังแข่งขันในสนามได้ใช้ดื่มน้ำ ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปยังหนึ่งในนักเรียนชายที่กำลังวิ่งใช้เท้าเลี้ยงลูกบอลเพื่อไปยังโกของฝ่ายตรงข้ามด้วยรอยยิ้ม แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกรักใคร่และปลาบปลื้มอลัน รุ่นพี่มอหกที่เธอกำลังแอบรัก เพราะความประทับใจที่อีกฝ่ายช่วยตัวเองจากนักเลง ทำให้เธอตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ไปโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทว่าเขากลับอยู่ท่ามกลางความรักของนักเรียนสาวหลายคนในโรงเรียน ไม่ได้มีเพียงเธอที่ตกหลุมรักเขา ผู้หญิงทุกคนในโรงเรียนต่างเทใจให้เขาเกือบหมดทุกคนเขาไม่ได้มีเพียงใบหน้าที่หล่อเหลาราวเทพบุตร แต่ยังสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนมาแล้วมากมาย มิหนำซ้ำยังเรียนเก่งมากอีกต่างหาก อันดับของเขาอยู่ที่หนึ่งตลอด และไม่มีใครกระโดดขึ้นไปแทนที่เขาได้เพอร์เฟกต์อย่างเขา ต้องคนที่เพอร์เฟกต์เหมือนกันเท่านั้นที่คู่ควรแก่การยืนข้างกา







