Share

เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน
เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน
Author: อันอี่หราน

บทที่ 0001

Author: อันอี่หราน
เมื่อลู่ซิงหว่านตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวเองถูกห่อหุ้มด้วยของเหลวอุ่น ๆ บางอย่าง และมีพลังบางอย่างกําลังผลักนางอยู่ในเวลาเดียวกันด้วย

นางมุดออกไปตามแรงนั้นโดยไม่รู้ตัว แต่กลับพบว่าที่หัวของนางนั้นมีมือข้างหนึ่งคอยผลักนางเข้าไปข้างใน

“โอ๊ย! เจ็บเหลือเกิน!”

ขณะเดียวกัน เสียงร้องด้วยเจ็บปวดที่อ่อนเพลียก็ดังขึ้น

จากนั้นก็มีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังเข้ามาในโสตประสาท "พระสนม! ออกแรงเร็วเพคะ”

“ข้าเหนื่อยมาก ข้าไม่มีแรงแล้วจริงๆ...”

"พระสนม ห้ามท้อใจเด็ดขาดนะเพคะ พระสนม รีบออกแรงสิเพคะ!”

ลู่ซิงหว่านถึงตระหนักถึงว่าตัวเองกลายเป็นทารกในครรภ์ไปแล้ว

เกิดอะไรขึ้น?

นางกําลังข้ามทัณฑ์สายฟ้าฟาดอยู่ไม่ใช่หรือ?

หรือนี่จะเป็นเพียงภาพลวงตาที่เกิดจากทัณฑ์ด้านจิตใจของนาง?

แต่ว่า...

นางลองแกว่งกําปั้นเล็ก ๆ ทั้งสองข้างไปมา อีกทั้งความเจ็บปวดจากการถูกบีบศีรษะก็ล้วนบอกนางว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่นางกลายเป็นทารกในครรภ์ที่กําลังถูกคลอดออกมาจริง ๆ

เพราะฉะนั้น นางล้มเหลวในการข้ามผ่านทัณฑ์สายฟ้าฟาดแล้วว่างั้นเถอะ

แต่นางเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ตัวเองถึงได้กลายเป็นทารกในครรภ์ที่กําลังจะเกิดแบบนี้

“พระสนมพระสนมเฉินเฟยเพคะ เด็กตัวโตเกินไป แถมยังไม่ยอมออกแรงอีก ท่านพยายามอีกหน่อยนะเพคะ ไม่อย่างนั้นอาจจะคลอดออกมาไม่ได้ง่าย ๆ นะเพคะ”

เสียงของแม่นมคนหนึ่งดังเข้าหู ลู่ซิงหว่านได้ยินแบบนี้ก็รีบพยายามหมายจะมุดออกไป

แต่นึกไม่ถึงว่านางเพิ่งจะออกแรง มือที่อยู่บนศีรษะก็ดันนางเข้าไปข้างใน

“เด็กคนนี้ช่างซนจริง ๆ เลย พระสนมเพิ่งจะออกแรงคลอดนางออกมาเล็กน้อย นางก็มุดเข้าไปอีกแล้ว จะทํายังไงดีละเนี่ย?”

แม่นมทําคลอดปาดเหงื่อเย็นบนศีรษะโดยไม่รู้ตัว เมื่อครู่นางเสียสมาธิ เกือบจะทําให้เด็กคนนี้คลอดออกมาได้อย่างราบรื่นแล้วไหมล่ะ

ชีวิตของคนทั้งครอบครัวนางไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ล้วนอยู่ในกํามือของคนผู้นั้น หากวันนี้ไม่สามารถทำให้เด็กคนนี้ตายในครรภ์ ครอบครัวของนางคงต้องตายหมดแน่

“จิ่นซิน ฮ่องเต้เสด็จมาหรือยัง”

พระสนมพระสนมเฉินเฟยเจ็บจนหน้าซีด นางคลอดบุตรมาสองชั่วยามแล้ว แต่เด็กก็ไม่ยอมออกมาเสียที ฮ่องเต้ก็ไม่ปรากฏตัว

ตอนนี้นางคลอดจนหมดแรงแล้ว หรือว่าวันนี้จะเป็นคราวเคราะห์ของนาง?

“พระสนม ข้อน้อยได้กําชับแล้วเพคะ พอฝ่าบาทเสร็จจากประชุมเช้าก็จะเสด็จมาเพคะ”

จิ่นซินเห็นใบหน้าที่ไร้สีเลือดของพระสนมพระสนมเฉินเฟย ก็ร้อนใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา และรีบจับมือของนางไว้แน่นเพื่อให้กําลังใจ

“จวนติ้งกั๋วโหว ข้าน้อยก็ได้ให้คนไปแจ้งแล้ว เชื่อว่าฮูหยินจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้ พระสนมต้องพยายามหน่อยนะเพคะ”

ลู่ซิงหว่านฟังบทสนทนาของทุกคนแล้ว ก็รู้สึกเพียงว่าบทสนทนาเหล่านี้ค่อนข้างคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก

“ช่วงนี้ฝ่าบาททรงกังวลกับความแห้งแล้งของแคว้นต้าฉู่มาโดยตลอด ตอนนี้แคว้นต้าฉู่ไม่มีฝนสักหยดเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ถ้าฝนยังไม่ตกอีก เกรงว่าปีนี้ราษฎรจะไม่มีผลผลิตให้เก็บเกี่ยวแล้ว”

แคว้นต้าฉู่ ติ้งกั๋วโหว ภัยแล้งครั้งใหญ่ พระสนมเฉินเฟย เด็กที่ตายในครรภ์...

นี่นางทะลุมิติเข้ามาในหนังสือหรือเนี่ย

ลู่ซิงหว่านนึกถึงตอนที่ตัวเองเบื่อ ๆ ในช่วงก่อนหน้านี้ ได้แอบดูหนังสือนิทานของอาจารย์

พระสนมเฉินเฟยที่อยู่ข้างในนิทานนั้น เป็นเพราะหมอตำแยถูกพระสนมเต๋อเฟยซื้อตัวไว้ ทําให้ลูกของนางตายตั้งแต่ในครรภ์ และเป็นเหตุให้นางเสียใจจนเสียสติ วัน ๆ เอาแต่กอดหมอนใบหนึ่งคิดว่าเป็นทารกน้อยของตนเอง และสุดท้ายก็กระโดดลงบ่อฆ่าตัวตายในคืนหนึ่ง

และตระกูลเดิมของพระสนมเฉินเฟย ซึ่งก็คือจวนติ้งกั๋วโหวที่จงรักภักดียิ่งนัก กลับถูกพระสนมเต๋อเฟยใส่ร้ายป้ายสีว่าก่อกบฏ สุดท้ายก็จบลงด้วยการประหารทั้งชั่วโคตร

ดังนั้น...

ลู่ซิงหว่านกําหมัดแน่นในน้ำคร่ำ ในใจเต็มไปด้วยความโกรธ

ดังนั้นนางก็ทารกในครรภ์ที่กําลังจะถูกฆ่างั้นหรือ?

ไม่ได้!

ตอนแรกที่อ่านหนังสือนิทานนั้น นางก็โกรธมากแล้วที่ทารกในครรภ์คนนี้ตกเป็นเหยื่อของการต่อสู้ในวัง

ตอนนี้ตนเองกลายเป็นทารกดังกล่าวแล้ว ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะนั่งรอความตายแบบนี้

คิดถึงตรงนี้ นางก็เริ่มโคจรพลังภายใน และเริ่มดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินที่อยู่รอบๆ

เมื่อพลังวิญญาณรอบ ๆ เข้าสู่ร่างกาย แขนขาที่อ่อนแรงของลู่ซิงหว่านก็เริ่มมีแรงมากขึ้น นางจึงเริ่มรวบรวมแรงเพื่อมุดออกไปอีกครั้ง แต่ในขณะที่ศีรษะของนางเพิ่งโผล่ออกมาได้เพียงบางส่วนเท่านั้นแม่นมทําคลอดก็ผลักนางเข้าไปอีกครั้ง

ลู่ซิงหว่านโกรธจนสบถในใจ

[เจ้าแม่นมทําคลอดนี่สมควรตายจริง ๆ เลวทรามขนาดนี้ ทําร้ายทารกที่ยังอยู่ในท้อง ไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือไง?]

[ท่านแม่! ท่านรีบไล่แม่นมทําคลอดคนนี้ออกไปสิ!]

พระสนมเฉินเฟยที่กําลังเจ็บปวดจนตัวเกร็งเพราะการเคลื่อนไหวเมื่อครู่นั้น จู่ ๆ ในสมองกลับมีเสียงเล็ก ๆ ของเด็กดังขึ้นมา เสียงนั้นไม่คุ้นเคยเลยก็จริง แต่กลับทําให้นางรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

“ใคร?”

“ใครกําลังพูดอยู่?”

พระสนมเฉินเฟยถามขึ้นโดยไม่รู้ตัว

“พระสนมเพคะ?” จิ่นซินสะดุ้งโหยง รีบถามว่า “พระสนม ท่านเป็นอะไรไปเพคะ”

พระสนมเฉินเฟยไม่ได้เปิดปากพูดอีก แต่“ฟัง” เสียงที่ปรากฏในสมองอย่างละเอียด

[ท่านแม่ หมอตําแยคนนี้เป็นคนเลว รีบไล่นางออกไปเถอะ ตราบใดที่ยังมีหมอมอคนนี้อยู่ ท่านก็อย่าคิดว่าจะให้กําเนิดข้าได้อย่างราบรื่นเลย...]

[อ๊ะ ร่างกายของท่านแม่ดูเหมือนจะอ่อนแอมาก ข้าต้องให้พลังวิญญาณแก่นาง เพื่อที่นางจะได้ฟื้นฟูแรงขึ้นมาบ้าง]

ครั้งนี้ พระสนมเฉินเฟยมั่นใจว่ามีคนกําลังพูดกับนางอยู่จริงๆ และคนนี้ก็เรียกนางว่าท่านแม่

ขณะเดียวกัน ความรู้สึกอบอุ่นก็แผ่ซ่านออกมาจากท้อง ทําให้นางที่เดิมทีใช้แรงกายจนหมด กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในชั่วพริบตา

พระสนมเฉินเฟยรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที และนึกถึงคําพูดของลู่ซิงหว่านเมื่อครู่นี้...

นางหันไปมองแม่นมทําคลอดด้วยสายตาเย็นชา ส่วนแม่นมทําคลอดนั้นก็สบสายตากับนางอย่างไม่ตั้งใจ ทําเอานางตกใจจนหน้าถอดสี รีบเบี่ยงตาหนีอย่างรู้สึกผิด และไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย

เมื่อเห็นเช่นนี้ พระสนมเฉินเฟยจะไม่เข้าใจได้อย่างไรอัก จึงออกคําสั่งทันที “ใครก็ได้ จับแม่นมหลี่ที!“

“พระสนม มีอะไรหรือเพคะ?”

จิ่นซินได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจทันที ไม่เข้าใจว่าทําไมพระสนมเฉินเฟยถึงตัดสินใจเช่นนี้

แต่ถึงแม้จะไม่เข้าใจ นางก็ยังมาขวางหน้าพระสนมเฉินเฟยทันที และมองด้วยสายตาหวาดระแวง

“เป็นนางที่ต้องการทําร้ายลูกของข้า จับนางไว้!”

พระสนมเฉินเฟยกอดท้องของนางด้วยมือทั้งสองข้างและจ้องมองที่แม่นมทําคลอดด้วยสายตาที่เย็นชา

ในสมอง เสียงของลู่ซิงหว่านดังขึ้นอีกครั้ง [เยี่ยมมาก! ในที่สุดท่านแม่ข้าก็พบว่าแม่นมทําคลอดมีปัญหาสักที! ข้าไม่ต้องตายแล้ว!]

[ดูเหมือนว่าท่านแม่คนนี้ก็ไม่ได้โง่มาก]

เห็นได้ชัดว่าแม่นมทําคลอดไม่ได้คิดเลยว่าพระสนมเฉินเฟยที่หมดแรงแล้วจู่ ๆ จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งและค้นพบการกระทําของตัวเอง

นางจึงคิดจะหนีตามสัญชาตญาณ

แต่ผู้คุ้มกันหญิงทั้งสี่ เหมย หลาน จู๋ จวี๋ ที่อยู่นอกประตูนั้นก็ได้ปรากฏตัวขึ้นและจับนางไว้

“อุดปากแล้วนำตัวไป เฝ้าดูให้ดี ๆ ล่ะ รอให้พระสนมคลอดก่อน แล้วค่อยมาสอบปากคํา!”

จิ่นซินก็คิดไม่ถึงว่า แม่นมทําคลอดที่คัดเลือกอย่างพิถีพิถันจะเก็บซ่อนเจตนาร้ายไว้นานแล้ว

หากมิใช่เพราะสายตาอันเฉียบแหลมของพระสนม เกรงว่าคงจะถูกแม่นมหลี่ผู้นี้ลงมือไปแล้ว

“พระสนม ท่านคลอดก่อนกําหนดเพราะหกล้มกะทันหัน ดังนั้นข้างกายจึงมีเพียงแม่นมหลี่ซึ่งเป็นแม่นมทําคลอดเพียงคนเดียว”

“ตอนนี้แม่นมคนอื่นก็ไม่สามารถมาทันในเวลาอันสั้นได้ จะทําอย่างไรดีเพคะ?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Duangthip
ลงให้อ่านนิดเดียวไม่คุ้มกับไปเปิด
goodnovel comment avatar
รวีวรรณ
สนุกดีค่ะนิยายสนุกดีค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0640

    พูดถึงตรงนี้องครักษ์เงามังกรก็ถอนหายใจ “เพียงแต่อีกฝ่ายล้วนเป็นนักรบที่ตายแล้ว ไม่ได้เหลือผู้รอดชีวิตไว้”[แม่เจ้าโว้ย ทหารพลีชีพหนึ่งร้อยคน นี่มันฐานะอะไรเนี่ย][ดูเหมือนว่าชีวิตของเสด็จพ่อมีค่ามากจริงๆ สามารถทําให้อีกฝ่ายส่งทหารพลีชีพได้หนึ่งร้อยคน]เรื่องนี้เป็นไปตามที่คาดไว้ ฮ่องเต้ต้าฉู่ย่อมไม่ตําหนิองครักษ์เงามังกร จึงออกคําสั่งให้คนขับรถม้าเดินทางต่อไป ต้องไปถึงสถานที่ปลอดภัยถึงจะดําเนินการต่อได้ภายในรถม้าก็เงียบกริบเช่นกันในที่สุดสนมเยว่กุ้ยเหรินก็ลองเอ่ยปาก “ฝ่า...นายท่าน ฮูหยิน คือว่า...”ซ่งชิงเหยียนเหมือนเพิ่งนึกถึงสนมเยว่กุ้ยเหรินที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ดึงนางขึ้นมา “วางใจเถอะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”ในใจก็อดทอดถอนใจไม่ได้ มิน่าเล่าสนมเยว่กุ้ยเหรินถึงอยู่ในวังมาเจ็ดแปดปีก็ไม่มีทายาทสักคน เกรงว่าโอกาสที่ฝ่าบาทจะโปรดปรานนางก็มีน้อยมากในรถม้าคันเดียวมีกันแค่สี่คน ตัวเองยังสามารถลืมนางได้อย่างสนิทใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ที่มีสนมมากมายส่วนฮ่องเต้ต้าฉู่ก็จัดเสื้อผ้าให้ตนเอง แล้วอุ้มลู่ซิงหว่านเข้ามาในอ้อมกอดของตน หยอกล้อนางว่า “หวานหว่าน ตกใจหรือเปล่า?”ลู่ซิงหว่านเอื

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0639

    เพราะว่าตอนนี้อยู่ข้างนอก ทุกคนต่างก็เปลี่ยนคําเรียกขานกัน จึงสามารถปกป้องฝ่าบาทได้อย่างทั่วถึง“ปกป้องนายท่าน!” เว่ยเฉิงดึงกระบี่ออกจากฝักกระบี่ของตัวเอง แล้วพูดกับฮ่องเต้ต้าฉู่ที่อยู่บนรถม้า “นายท่านไม่ต้องเป็นห่วง คนขอวเราข้าล้วนเลือกคนที่มีวรยุทธ์สูงทั้งนั้น ต้องสามารถปกป้องนายท่านและฮูหยินให้ปลอดภัยได้อย่างแน่นอนขอรับ”“ได้” เสียงทุ้มต่ำของฮ่องเต้ต้าฉู่ดังขึ้น ทําให้เว่ยเฉิงรู้สึกสบายใจขึ้นหลายส่วนซ่งชิงเหยียนก็กุมมือของสนมเยว่กุ้ยเหรินในเวลานี้ และพยักหน้าให้นางเพื่อแสดงให้เห็นว่านางสบายใจได้ลู่ซิงหว่านกลับไม่กลัวอย่างที่สนมเยว่กุ้ยเหรินคิดแม้กระทั่งนางยังตบแขนสนมเยว่กุ้ยเหรินเบาๆ ปากก็พึมพําว่า “ไม่กลัว”สนมเยว่กุ้ยเหรินรู้สึกอับอายขายหน้าจริงๆ [ว้าว ทําไมมันน่าตื่นเต้นจัง][เสด็จพ่อและท่านแม่ต้องสู้ๆ นะ! เสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าฉู่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในนิทานหรอกหรือ! โชว์ฝีมือให้หวานหว่านดูหน่อย ให้หวานหว่านดูบ้าง!]ซ่งชิงเหยียนกุมหน้าผากอย่างพูดไม่ออกโชคดีที่เป็นเสียงในใจ ฝ่าบาทจึงไม่ได้ยิน หวานหว่านเอ๋ย เจ้ามีกี่หัวให้ถูกตัดกันล่ะเนี่ย!แม้แต่ฮ่องเต้ต้

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0638

    ฮ่องเต้ต้าฉู่และคณะเดินทางลงใต้ต่อ แล้วเลือกที่พักต่อไปก่อนออกเดินทาง อัครมหาเสนาบดีและคนอื่นๆ ได้กําหนดสถานที่ตั้งหลักสําหรับฝ่าบาทตามทางแล้ว ล้วนเป็นอำเภอที่เจริญรุ่งเรืองแต่ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้รูปแบบการเดินทางแล้ว ตอนนี้เป็นการเยี่ยมเยือนส่วนตัวแล้วประการที่สองคือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในอําเภอไถจินซึ่งจําเป็นต้องป้องกันดังนั้นฮ่องเต้ต้าฉู่จึงปรึกษากับเว่ยเฉิงและซ่งชิงเหยียน เปลี่ยนเส้นทางและเลือกเมืองอื่นๆ เพื่อพักระหว่างทาง เพื่อสํารวจประเพณีท้องถิ่นดูว่าสถานที่อื่นๆ ก็มีพฤติกรรมที่หลอกลวงและปกปิดเช่นเดียวกับอําเภอไถจินหรือไม่ดังที่หวานหว่านกล่าวไว้ อําเภอไถจินที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี้ยังเกิดเรื่องเช่นนี้ได้ แล้วอําเภออื่นๆ ล่ะซ่งชิงเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่ซิงหว่านก็พูดก่อน[ได้สิ ๆ ! ออกมาเที่ยวเล่นก็ต้องเที่ยวเล่นไปทั่วอยู่แล้ว ถ้าทุกที่ถูกคนจับตามองอยู่ จะมีความหมายอะไรอีกล่ะ][ทําไมไม่ให้ผู้บัญชาการเว่ยเลือกสถานที่เล็กๆ หน่อย พวกเราไปเดินเล่นกัน ยังไงก็ต้องรับรองความปลอดภัยของเสด็จพ่อนะ!][ออกมาห้าวันแล้ว แต่ก็ยังปลอดภัยอยู่ เดิมคิดว่าจะถูกลอบสังหารในวันแรกท

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0637

    “ตอนนี้เกรงว่าพระมเหสีคงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสส่งองค์หญิงหกออกจากตําหนักจิ่นซิ่ว” สนมหลานพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้งพระสนมหลานเฟยพูดได้ไม่ผิด เดิมทีเสิ่นหนิงก็ไม่ยอมรับองค์หญิงหกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนออกปากเอง นางจึงปฏิเสธไม่ได้ไม่สู้ครั้งนี้วางแผนซ้อนแผน ส่งองค์หญิงหกออกไปก็แล้วกันพระสนมหลานเฟยพาจิ่นซินไปที่ตําหนักหรงเล่อแม้แต่ไทเฮาที่อาศัยอยู่ในวังหลังมานานขนาดนี้ เมื่อเห็นบาดแผลบนใบหน้าของจิ่นซิน ก็อดไม่ได้ที่จะอกสั่นขวัญแขวน“จิ่นซิน” ไทเฮาจับมือจิ่นซินปลอบ “พระสนมของเจ้าไม่อยู่ มีเรื่องอะไรเจ้าก็บอกแม่นมซูได้เลย ข้าจะตัดสินใจแทนเจ้าเอง”จิ่นซินกลับมีสมองอย่างหาได้ยาก เพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆ “บ่าวไม่เป็นอะไรเพคะ ไทเฮาเพคะ จิ่นซินเป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น หากผู้เป็นนายอารมณ์ไม่ดี จะตีจะด่าสักหน่อยก็สมควรแล้วเพคะ”แม้ว่าไทเฮารู้ว่าคําพูดของจิ่นซินเป็นคําพูดที่สุภาพ แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของนาง บวกกับบาดแผลบนใบหน้าของนาง ก็เห็นถึงความอดทนและความคับข้องใจอย่างชัดเจนจึงหันไปมองพระสนมหลานเฟย “ในเมื่อชิงเหยียนไม่อยู่ ช่วงนี้ให้จิ่นซินอยู่ในวังของเจ้าเถอะ

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0636

    เมื่อได้ยินจิ่นซินกล้าที่จะเถียงตนเอง องค์หญิงหกก็โกรธทันที“เจ้าคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” องค์หญิงหกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจิ่นซินย่อมคุกเข่าลงอย่างเรียบร้อย แต่ร่างกายยังคงตั้งตรงตอนนี้นางจึงอยู่ในระดับเดียวกันกับองค์หญิงหกองค์หญิงหกรีบก้าวเท้าไปข้างหน้าและตบหน้าจิ่นซินหนึ่งฉาด “เจ้าบ่าวรับใช้บังอาจนัก แม้แต่นายของเจ้ายังไม่กล้าพูดกับข้าเช่นนี้ เจ้ากล้าเถียงข้าหรือ?”พูดถึงตรงนี้ ราวกับไม่คลายความโกรธ หันไปมองอิงหงที่อยู่ข้างๆ อีกครั้ง “ตบปากนางให้ข้าที!”อิงหงกลับขดตัวไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าถึงอย่างไรจิ่นซินก็เป็นคนข้างกายของพระสนมหวงกุ้ยเฟย แม้ว่านายของนางจะเป็นองค์หญิงหก แต่ว่า...เมื่อเห็นอิงหงไม่ขยับตัว องค์หญิงหกก็ยื่นขาออกไปเตะที่ขาของนาง “เจ้าไม่เข้าใจที่ข้าพูดหรือ?”อิงหงกัดฟัน ในที่สุดก็เดินมาตรงหน้าจิ่นซินแล้วเริ่มลงมือเมื่อเห็นใบหน้าของจิ่นซินแดงและบวมขึ้นในที่สุด องค์หญิงหกจึงเอ่ยปากให้อิงหงหยุดมือ แต่ยังคงไม่คลายความโกรธ “เจ้าคุกเข่าตรงนี้ให้ข้าสองชั่วยาม หากคุกเข่าไม่ถึงสองชั่วยาม ข้าจะตบเจ้าอีก!”พูดจบก็พาอิงหงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามองในเวลานี้อวิ๋นหลานที่

  • เสร็จพ่อสุดจะฟลุคเพราะแอบฟังความคิดลูกสาวจอมป่วน   บทที่ 0635

    พูดจบก็ยิ้มให้เสิ่นผิงอีก “การสอบระดับกลางปีหน้า ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่เมืองหลวง”ฮ่องเต้ต้าฉู่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นจริงๆ แต่คนนี้ ในเมื่อหวานหว่านบอกว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ เมื่อพบแล้ว ก็ไม่อาจไม่ยุ่งได้พูดจบก็เดินก้าวยาวๆ ออกไปเสิ่นผิงเพิ่งได้สติหลังจากฮ่องเต้ต้าฉู่จากไปแล้ว “ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ต้าฉู่ได้ทําเรื่องใหญ่อีกครั้ง ในใจย่อมมีความสุขมากคนทั้งกลุ่มจึงเก็บสัมภาระอีกครั้งและเดินทางต่อฮ่องเต้ต้าฉู่เดินเที่ยวชมวิวตลอดทาง มีความสุขมากแต่หลังจากที่เขาจากไป ในวังก็มีคนก่อความวุ่นวายขึ้นคนแรกที่ก่อความวุ่นวายขึ้นก็คือองค์หญิงหกที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในวังจิ่นซิ่วจิ่นซินอยู่ในตําหนักชิงอวิ๋นเพียงลําพัง ที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรให้ทํา ทั้งวันจึงไม่มีอะไรทําดังนั้นวันนี้ ตําหนักชิงอวิ๋นกลับมีคนที่จิ่นซินคาดไม่ถึงคนหนึ่งมา อวิ๋นหลานเมื่อเห็นอวิ๋นหลานมา จิ่นซินก็รีบเข้าไปต้อนรับ “พี่หญิงอวิ๋นหลานมาได้อย่างไรกัน?”จะว่าไปตําหนักจิ่นซิ่วกับตําหนักชิงอวิ๋นก็ไม่ได้มีความขัดแย้งต่อหน้าอะไรกันแต่จิ่นซินและจินอวี้ในตําหนักชิงอวิ๋นต่างก็รู้ว่าเมื่อฮองเฮายังเป็นพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status