พอมาถึงที่บ้านฉันก็รีบเข้าห้องนอนร้องไห้ขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ที่ผ่านมาพี่เสือแทบไม่เอ่ยถึงจ๋ายเลย แต่วันนี้กลับพูดแบบนั้นออกมา
มันเหมือนสื่อความหมายว่าถึงฉันและจ๋ายจะหน้าเหมือนกันแต่มีคนเดียวที่พี่เสือรู้สึกด้วย ซึ่งมันไม่ใช่ฉัน
เจ็บปวดขนาดนี้แล้วไม่อยากคิดเลยว่าหากเราหมั้นกันต่อไปจะเป็นยังไง… แต่ฉันยังไม่ยอมแพ้หรอก ยังไงก็อยากจะเอาชนะใจพี่เสือให้ได้ เพราะจ๋ายเองก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเขาไปมากกว่าพี่ชาย
#วันต่อมา มหาวิทยาลัย
“ใจ๋หนุ่มคณะแพทย์ตามขายขนมจีบแกมาหลายเดือนแล้วนะไม่สนใจหน่อยหรือไง” ยี่หวาเอ่ยถามเพราะเห็นพี่ยูซื้อขนมมาให้
พี่ยูเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเราบังเอิญเจอกันที่โรงพยาบาล พี่เขาเป็นนักศึกษาแพทย์และก็เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน รู้ว่าเขากำลังตามจีบและฉันก็ปฏิเสธไปแล้วเพราะภายในใจมันไม่เหลือที่ว่างให้ใครเลย
“คบแพทย์ไม่มีเวลาให้หรอก” ไทเกอร์บอก
“เบาบ้างนิสัยหวงเพื่อนน่ะ ทีกับพี่ชายตัวเองไม่เห็นจะหวง” ยี่หวาถาม ไทเกอร์น่ะเป็นแบบนี้แต่ไหนแต่ไร ถ้ามีผู้ชายเข้ามาจีบฉันกับยี่หวา เขาจะคอยกันท่าให้ตลอด
“อันนั้นเพื่อนเราตามจีบเขาหรือเปล่า”
“อะพูดถูก สวย ๆ แบบใจ๋ ใครจะไปคิดว่าตามจีบผู้ชาย”
“แถมเขายังไม่สนใจ” ฉันพูดเสริมเสียงเศร้า ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น
“นี่เศร้าจริงเหรอ ถูกพี่เสือดุมาหรือไง”
“ถ้าโดนดุคงจะดีกว่านี้”
“เขาไม่ชอบก็ถอยเหอะใจ๋” โอดินที่นั่งกินขนมไม่พูดไม่จาเอ่ยขึ้น
“ทำเป็นบอกเพื่อน เข้าใจความรักดีแค่ไหนคะคุณโอดิน” ยี่หวาถาม เพราะโอดินไม่เคยมีแฟนเลยไม่แปลกหรอกที่จะถูกแซว
“ก็ไม่ได้คบไปทั่วเหมือนเธอ”
“เอ๊ะ!! เขาเรียกบริหารเสน่ห์เหอะ!! นี่ฉันน่ะยังบริสุทธิ์อยู่นะขอบอก”
“น่าเกลียดนะยี่หวาพูดอะไรออกมา”
“น่าเกลียดตรงไหนก็มันเป็นความจริง”
“เลิกเถียงกัน เห็นไหมว่าใจ๋เศร้าอยู่” ไทเกอร์ช่วยห้ามปรามทั้งสองคน แต่ฉันไม่อะไรหรอกชินแล้ว ยี่หวากับโอดินก็ชอบเถียงกันไปเรื่อยแบบนี้แต่ไหนแต่ไร
ติ๊ง~ ขณะที่กำลังนั่งเหม่อเสียงแชตแจ้งเตือนทำให้ฉันก้มหน้ามองจอโทรศัพท์ ก่อนหัวใจดวงน้อยจะเต้นรัว ๆ เมื่อเห็นว่าชื่อที่ส่งมาคือพี่เสือ
เสือ: เลิกเรียนแล้วมารอที่สวนกุหลาบหลังมอ
ฉันขมวดคิ้วงงกับคำสั่งนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะพิมพ์ถาม
ฉัน: ให้ใจ๋ไปหาที่มหาวิทยาลัยเหรอคะ
เสือ: พ่อให้ไปรับเธอกลับบ้านพร้อมกัน
ถึงว่าเพราะถูกบังคับนี่เอง หากเป็นเมื่อก่อนมันไม่แปลกหรอกที่กลับพร้อมกัน แต่ตอนนี้มันแปลกมาก ๆ
ฉัน: แปลว่าพี่เสือต้องมารับใจ๋หรือเปล่า
เสือ: อย่าเรื่องมาก ฉันไม่ว่าง
ฉัน: ก็ได้ค่ะใจ๋จะไปรอ
ฉันกับพี่เสือไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันจึงต้องนั่งรถไป สวนกุหลาบหลังมอเป็นชื่อเรียกโซนวีไอพีของมหาวิทยาลัย เขตนั้นบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตห้ามเข้า มันเป็นเขตของแก๊งพี่ฉลามที่เป็นเพื่อนกับพี่เสือ ที่มีอภิสิทธิ์ขนาดนี้ก็เพราะพี่ฉลามเป็นลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัย
หลังเรียนเสร็จ ไทเกอร์อาสามาส่งที่มหาวิทยาลัยของพี่เสือ เพราะไม่อยากให้ฉันเรียกแกรปมันอันตราย พี่เสือไม่เห็นจะคิดแบบนี้บ้างเลย
“รอด้วยกันไหมไทเกอร์”
“นัดเล่นเกมกับไอ้ดิน”
“ได้ถามพี่เสือไหมว่าจะเลิกเรียนกี่โมง”
“ไม่ได้คุย แล้วมานี่ไม่ได้ถามก่อน?”
“ไม่กล้าถามมากหรอก เดี๋ยวหงุดหงิดใส่อีก”
“อะ ๆ เดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อนก็ได้” ไทเกอร์ใจดีตลอดเลย แต่สำหรับเพื่อนนะถ้าเป็นเรื่องผู้หญิงก็ร้ายไม่แพ้พี่ชายของเขาหรอก
“ไม่เป็นไรนัดกับโอดินไว้ไม่ใช่เหรอ”
“อยู่ได้?”
“อือ”
“อ่า ๆ ตามใจ ไปแล้วนะ”
“ขับรถดี ๆ”
หลังจากที่เพื่อนขับรถออกไปแล้ว ฉันก็เดินเข้ามาในเขตหวงห้าม ภายในมันเป็นทั้งห้องรับรองและมีกิจกรรมให้ทำคลายเครียด ทั้งสนามบาสขนาดเล็ก ตู้คีบตุ๊กตา ทีวีจอใหญ่ไว้สำหรับดูและเล่นเกมส์ ห้องจะแบ่งเป็นโซนส่วนตัวชัดเจน ถ้าเข้ามาแล้วอาจลืมไปเลยว่านี่เป็นมหาวิทยาลัย
“อ้าวใจ๋มาได้ไง” มาถึงก็เห็นพี่โซ่นั่งเล่นเกมอยู่คนเดียว
“พี่เสือบอกให้มารอค่ะ เอ่อ พี่เสือยังเรียนไม่เสร็จเหรอคะ” แปลกใจนิดหน่อยเพราะพี่โซ่ก็เรียนพร้อมกับพี่เสือแต่ทำไม่เขาอยู่นี่แค่คนเดียว
“มันยังเรียนอยู่ แต่พี่ขี้เกียจเอง”
“อ๋อ”
“เล่นเกมไหม?”
“ใจ๋เล่นไม่เป็นหรอกค่ะ”
“เดี๋ยวพี่สอนให้เอาไหม”
ฉันพยักหน้าตอบอย่างไม่คิดอะไรมากเพราะถ้าอยู่เฉย ๆ คงคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยคิดว่ามีอะไรทำก็ดีเหมือนกัน
พี่โซ่ยื่นจอยเกมมาให้จากนั้นก็สอนฉันเล่น บอกตามตรงว่ามันไม่ค่อยเข้าใจเลยเพราะไม่ชอบทางนี้แต่พี่โซ่ก็มีความพยายามที่จะสอนมาก ๆ ในตอนนี้พี่โซ่กำลังนั่งซ้อนหลังของฉันอยู่จากนั้นก็เอามือมาช่วยจับจอยเกมแล้วแนะนำ
“กดตัวนี้นะ”
“แล้วก็กดตรงนี้ด้วย”
“แบบนี้ เห็นไหมง่าย ๆ”
ขณะกำลังมีสมาธิอยู่กับการฟังพี่โซ่อธิบาย จู่ ๆ หัวใจดวงน้อยก็กระตุกวูบเมื่อพี่เสือมาหยุดยืนตรงหน้า แล้วก้มมองฉันด้วยสายตาที่เย็นชาอย่างเคย
“มึงทำอะไร?” พี่เสือมองผ่านฉันแล้วถามเพื่อนของตัวเอง
“สอนน้องเล่นเกม”
“นั่นท่าสอนเล่นเกมมึง?”
พอมีสติฉันก็รีบขยับตัวออกห่างจากพี่โซ่ ไม่รู้ตัวเลยว่าใกล้กันขนาดนี้
“มึงคิดอะไร?”
พี่เสือไม่ได้ตอบคำถามจากเพื่อนแต่ก้มมามองฉันด้วยแววตาที่ตำหนิ
“ทำตัวให้มันดี ๆ หน่อย อย่าลืมว่าตัวเองมีแฝด ใครมาเห็นแล้วเข้าใจผิดเธอไม่ได้เสียหายคนเดียว”
“ใจ๋ไม่เคยลืมว่าตัวเองมีแฝด อีกอย่างมันไม่ได้เสียหายอะไรเลย พี่โซ่แค่สอนเล่นเกมเอง”
“สอนแต่ปากก็ได้มั้ง จำเป็นต้องใกล้ขนาดนั้น?”
“ไม่มีใครเข้ามาที่นี่ได้อยู่แล้วนี่คะ” ฉันกำมือแน่นพร้อมพูดต่อ “พี่เสือไม่ต้องกลัวหรอก ใจ๋ไม่เคยทำให้จ๋ายเดือดร้อนอยู่แล้ว”
“หึ!!”
“อีกอย่างใจ๋กับจ๋ายเป็นแฝดกันก็จริงแต่เราไม่ใช่คนเดียวกัน แยกให้ออกสิคะ”
“ถ้าแยกไม่ออกฉันคงรู้สึกกับเธอไปนานแล้ว”
ฉันกำมือแน่น คำพูดแต่ละคำที่พี่เสือพ่นออกมามันทำให้ฉันทั้งเจ็บและจุกได้เสมอ
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าลืมแล้วกันว่าคนที่พี่เสือต้องหมั้นด้วยคือใจ๋”
หลายเดือนต่อมาฉันย้ายมาพักห้องพิเศษวีไอพีที่โรงพยาบาลเพราะใกล้จะถึงกำหนดคลอดแล้ว จริงๆ ไม่ได้มีวันตายตัว แต่หมอบอกว่าไม่น่าเกินสองวันนี้ เราจึงตกลงกันไว้มาอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรอคลอดเลยน่าจะสะดวกกว่า เพราะวันก่อนฉันปวดท้องมาก ทีแรกคิดว่าจะคลอดแล้วแต่พอมาถึงโรงพยาบาลอยู่ๆ ก็หายปวดซะงั้น ยัยลูกสาวตัวแสบของฉันขี้แกล้งใช่ไหมล่ะ“จ๋ายตอนนี้เป็นไงบ้าง” ม่านกั้นรอบเตียงถูกเปิดออกพร้อมกับไทเกอร์ที่โผล่หน้าเข้ามาถาม“ยังไม่มีอาการอะไรเลยไทเกอร์” ที่ฉันต้องขอให้พยาบาลปิดม่านไว้ก็เพราะกันไม่ให้ไทเกอร์ตื่นตูมมากเกินไป ตั้งแต่เมื่อวานที่มาถึงจนตอนนี้เขาถามฉันทุกๆ ห้านาทีเลยว่าเป็นยังไงบ้าง ก้นนั่งไม่ติดโซฟาด้วยซ้ำ พอจะเข้าใจว่าตื่นเต้นเพราะเขากำลังจะเป็นพ่อคน แต่มันก็ออกจะเกินไปหน่อย“จ๋าย ฉันว่าเราจ้างหมอให้มายืนรอเตรียมคลอดไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยดีกว่า เพราะถ้าจะคลอดขึ้นมาจะได้ลงมือทันทีเลย แบบนี้ดีไหม” น้ำเสียงของไทเกอร์ติดๆ ขัดๆ ฟังดูลนลานพูดผิดพูดถูก“ไทเกอร์ใจเย็นๆ ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอก ถ้าจะคลอดจริงๆ ก็แค่กดปุ่มตามหมอมา” “แต่ว่า..” “ถ้านายดื้อฉันจะกลับบ้านนะ” “อย่านะ ไม่ได้สิ เอาแ
หลังหมั้นได้สามวันฉันกับไทเกอร์นั่งเครื่องไปยังเกาะส่วนตัว ที่ต้องรีบไปเพราะอีกไม่นานมหาวิทยาลัยก็จะเปิดเทอมแล้วคงไม่มีเวลา แถมท้องเริ่มโตขึ้นเรื่อย ๆใช้เวลาเดินทางไม่นานเราสองคนก็มาถึงเกาะส่วนตัว ที่ที่เป็นความทรงจำไม่ดีสักเท่าไรสำหรับฉัน แต่เชื่อว่าครั้งนี้ไทเกอร์สามารถลบเรื่องราวเหล่านั้นออกไปได้อย่างที่เคยให้คำสัญญาเอาไว้เพราะความทรงจำเกิดขึ้นที่นี่มากมาย มองไปทางไหนก็เจอแต่เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน“เข้าบ้านกันครับ” ไทเกอร์เดินมาหยุดข้าง ๆ สองมือหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ ครั้งนี้เขาอนุญาตให้ฉันใส่บิกินีหรือชุดโชว์หุ่นได้ตามสบาย ไม่ต้องแปลกใจที่ใจดีขนาดนี้เพราะเกาะแห่งนี้ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเราสองคน“เล่นน้ำกันนะ” “หืม?”“ก็นายอนุญาตให้ใส่บิกินีได้ทั้งที” ฉันทำปากมุ่ยมุบมิบเพราะไทเกอร์เอาแต่ขมวดคิ้ว พอตอบไปแล้วเขากลับยิ้มแบบนี้มันแกล้งกันชัด ๆ“แกล้งทำไม”“รู้ไหมเวลาทำปากแบบนี้แล้วน่าจูบขนาดไหน”“ขนาดไหนเหรอคะ” ฉันเขย่งเท้าขึ้นเอาหน้ายื่นไปใกล้ ถึงอย่างนั้นก็ยังสูงไม่เท่าไทเกอร์จนเขาต้องโน้มลงมา แต่พอเขาทำท่าจะจูบก็รีบขยับตัวหนีพร้อมส่งยิ้มหวานให้“เอาคืนแบบนี้?”“ขัดใจเห
ไทเกอร์กับฉันตื่นเช้าด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้น เพราะเราสองคนนับวันจนผ่านมาถึงวันที่เฝ้ารอนั่นคือการไปอัลตราซาวนด์ ครั้งแรกที่เราจะได้เห็นเบบี๋น้อย แต่คนที่ตื่นเต้นมาก ๆ ก็ไม่พ้นคนที่บ้านต่างโทรมาถามกันยกใหญ่ ไทเกอร์รับสายจนแทบไม่ได้พักแล้วพูดคำเดิมซ้ำ ๆ ว่าไม่รู้เพศกำลังจะเข้าห้องไปอัลตราซาวนด์“ตื่นเต้นไหม” ลุงหมอถาม“ตื่นเต้นครับ แต่คนที่บ้านตื่นเต้นกว่า” พอไทเกอร์บอกอย่างนั้นลุงหมอก็หัวเราะเบา ๆ“ธรรมดาหลานคนแรกของตระกูล”ลุงหมอบีบเจลสีใสเนื้อสัมผัสหนืดลงมาบนท้องของฉัน จากนั้นก็เอาเครื่องบางอย่างมาถูวน ๆ ก่อนจะปรากฏภาพในจอตรงหน้าพร้อมเสียงคลื่นหัวใจครั้งแรกที่ได้เห็นทารกตัวน้อยผ่านจอหัวใจของฉันมันก็เต้นรัว รีบเงยหน้ามองไทเกอร์ เขายิ้มให้ฉันพร้อมมือที่บีบแน่น คงตื่นเต้นมากแน่เลยเพราะมือแอบสั่นด้วย“จมูกพุ่งมาเลย” ลุงหมอค่อย ๆ เลื่อนดูไปทีละจุดช้า ๆ พร้อมพูดบอกว่าตรงนั้นคือส่วนไหนของร่างกาย“ปกติแข็งแรงตามอายุครรภ์”“ถึงเวลาดูเพศแล้ว หนูน้อยไหนหันมาให้ลุงดูหน่อยเร็ว”ทั้งฉันและไทเกอร์ต่างเงียบสายตาโฟกัสไปบนจอด้วยความตื่นเต้น ลุงหมอใช้เวลาดูอยู่ไม่นานก็หันมายิ้ม“ผู้หญิงนะ ใช่อย่างที
… ผ่านไปเกือบเดือน ตอนนี้ฉันกำลังนั่งดูแบบชุดที่จะใส่วันหมั้น เราได้ฤกษ์มาแล้วเป็นเดือนหน้า ดูรวบรัดหน่อยต้นเหตุก็เพราะไทเกอร์ขอเลือกวันที่เร็วที่สุดถึงได้หัวหมุนกันอย่างดี โชคดีที่เชิญแค่คนสนิทไม่ใช่งานใหญ่อะไรอย่างที่เคยคุยกันไว้ช่วงนี้ฉันกับไทเกอร์อยู่ที่คอนโดซะมากกว่าที่บ้าน เหตุผลก็เพราะเขาอยากให้เรามีเวลาอยู่ด้วยกันเพิ่มขึ้น ถึงบ้านจะหลังติดกันแต่เข้า ๆ ออก ๆ นอนห้องเดียวกันรู้สึกว่ามันดูไม่ค่อยดี ถึงที่บ้านจะไม่ว่าอะไรก็ตาม เราคุยกันแล้วพ่อกับแม่ก็อนุญาตแต่ช่วงท้องเดือนที่เจ็ดต้องกลับไปอยู่บ้านจะได้มีคนช่วยดู ช่วงนั้นไทเกอร์ก็ต้องเรียนด้วยไม่มีเวลามาคลุกอยู่กับฉันทั้งวันอย่างตอนนี้ “ชุดนี้สวยไหม” ฉันถามคนที่นอนบนตัก ทางร้านส่งแบบมาให้ที่คอนโด หลังจากเลือกแล้วก็จะสั่งคนมาวัดตัว เป็นร้านของเพื่อนสนิทแม่ก็เลยไม่ต้องได้ไปด้วยตัวเอง“ครับ จ๋ายใส่ชุดไหนก็สวย”“หยุดคลั่งรักฉันแล้วลุกขึ้นมาเลือกชุดก่อนดีไหม” ฉันมองค้อนไทเกอร์ เขาไม่เห็นจะเลือกเลยเอาแต่นอนหนุนตักทำปากมุบมิบคุยกับลูกอยู่ได้“หยุดไม่ได้ มีแต่จะคลั่งรักเมียมากขึ้นทุกวัน”แปะ!! พอได้ยินอย่างนั้นก็รีบฟาดมือที่ไหล่เขาทันที
“ทะ... ไทเกอร์พอแล้ว อ๊ะ~” ฉันพยายามใช้มือดันตัวเองออกห่างจากลิ้นสากที่ละเลงเลียเม็ดเสียวอย่างไม่ยอมฟังคำห้าม“อ๊าง~ พอแล้ว อ๊า~”เขามันบ้าเอาแต่ใจตัวเองที่สุด!!!ไม่ว่าจะเอ่ยห้ามสักเท่าไรไทเกอร์ก็ไม่มีท่าทีว่าจะยอมหยุด เขาเร่งจังหวะสัมผัสร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนร่างของฉันสั่นสะท้าน ความร้อนรุ่มร้อนแล่นพล่านไปทั่วร่างกาย สองมือจิกลงบนผ้าปูที่นอน พยายามข่มกลั้นแต่ยิ่งพยายามระงับกลับยิ่งรู้สึกราวกับถูกไฟแผดเผา“หวาน” ใบหน้าหล่อผละออกมาจากกลางลำตัวแล้วพูดพร้อมใช้ลิ้นเลียขอบปาก ฉันที่มองอยู่รู้สึกอายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้ว “โรคจิต!!” พอไทเกอร์ลุกขึ้นออกจากเรียวขาก็รีบดึงผ้าห่มมาคลุมท่อนล่างที่เปลือยเปล่าเอาไว้ทันที เขาเห็นอย่างนั้นก็หัวเราะออกมา“มาว่าโรคจิตได้ยังไงจ๋าย เมื่อกี้เธอเพิ่งปลดปล่อยใส่ปากฉันแท้ ๆ”“หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ”“รู้ไหมรสชาติของเธอมันหวานมากเลย”“ทำไมชอบแกล้งกันอยู่เรื่อย”ฉันมุ่ยปากใส่ก่อนจะเบือนหน้าหนีร่างหนาที่กำลังล้มตัวลงนอนข้าง ๆ เขาทำตีมึนตาใสเอาแขนมาวางตรงท้องแล้วลูบไปมาอย่างทุกครั้ง“งอนบ่อย ๆ เดี๋ยวลูกจะขี้งอนตามแม่นะ”“ทฤษฎีไหนของนายอีก” หันกลับมามองคนที่กำลั
เช้าวันใหม่ตื่นขึ้นมาก็ได้กลิ่นหอมโชยเข้ามาในห้อง ฉันพยุงตัวเองลุกขึ้นก่อนจะยกแขนบิดขี้เกียจไปมา จากนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันหลังทำธุระเสร็จฉันเดินมาหาไทเกอร์ที่ครัว เขาอยู่ในชุดกันเปื้อนกำลังยืนทำอาหารอย่างตั้งใจ โดยทำตามวิธีที่เปิดดูจากยูทูบ“วันนี้ทำอะไรให้ฉันกิน”ฉันเดินมาถามใกล้ ๆ ก่อนคนตัวสูงในชุดกันเปื้อนจะหันมาแล้วก้มลงจูบบนหน้าผาก ก่อนจะตอบ“ผัดผักใส่หมูสับ”“เอาใจเก่งจังเลยนะ”“ไม่ได้ทำเพราะเอาใจ ทำเพราะอยากทำ” ไทเกอร์หันกลับไปสนใจกระทะที่กำลังเปิดไฟร้อนผัดหมู ส่วนฉันก็ขยับออกห่างเล็กน้อยเพราะกลัวไปเกะกะเขา“นายได้ทำอะไรพี่ฝนกับเพลงหรือเปล่า” เพราะรู้สึกว่าสองคนนี้เงียบหายไปเลยไม่มาวุ่นวายกับเราสองคนแล้ว ก็เลยถามดู เขาอาจจะทำอย่างที่เคยทำกับแป้งตอนนั้นที่จู่ ๆ ก็หายไปไม่กล้ายุ่งกับไทเกอร์อีก“ทำไมถามแบบนั้น”“ฉันรู้สึกว่าสองคนนั้นเงียบหายไปเลย นายทำอะไรหรือเปล่า”“เธอห้าม แล้วฉันจะกล้าขัดคำสั่งได้ยังไง” เขาตอบโดยไม่หันมามอง เอาแต่ก้มหน้าก้มตาสนใจของที่อยู่ในกระทะ“ถ้าทำฉันก็ไม่ว่าอะไร แค่ไม่อยากให้โกหก”จู่ ๆ ไทเกอร์ก็วางตะหลิวในมือก่อนจะปิดแก๊สแล้วหมุนตัวหันมาป