“อึก! อื้อออออ~” เสียงร้องจากแรงเฮือกสุดท้ายของฉันเงียบลง เสียงร้องของแก้วตาดวงใจก็ดังแทรกเข้ามาแทน “แง๊~ แง๊~” วินาทีที่ได้ยินเสียงเล็กๆ นั้น ทั้งฉันและไทเกอร์ก็หันมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกหยดน้ำตาไหลอาบแก้ม มันตื้นตันและดีใจไปด้วยความสุขจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูก ความเหนื่อ
หลายเดือนต่อมา ฉันย้ายมาพักห้องพิเศษวีไอพีที่โรงพยาบาลเพราะใกล้จะถึงกำหนดคลอดแล้ว จริงๆ ไม่ได้มีวันตายตัว แต่หมอบอกว่าไม่น่าเกินสองวันนี้ เราจึงตกลงกันไว้มาอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรอคลอดเลยน่าจะสะดวกกว่า เพราะวันก่อนฉันปวดท้องมาก ทีแรกคิดว่าจะคลอดแล้วแต่พอมาถึงโรงพยาบาลอยู่ๆ ก็หายปวดซะงั้น ยัยลูกสาว
ใบหน้าคมคายเลื่อนต่ำลงไปเรื่อย ๆ จนถึงหน้าท้องนูน ไม่ลืมที่จะพรมจูบอย่างที่ชอบทำ จากนั้นก็ลดตัวต่ำลงจนถึงตรงกลางระหว่างเรียวขาสะโพกยกกระดกขึ้นเมื่อถูกลิ้นสากตวัดละเลงเลียตรงจุดกระสัน ไทเกอร์ปาดลิ้นแหวกกลีบสีหวานสองข้างให้แยกจากกันแล้วบดขยี้ตรงเม็ดเสียวอีกครั้ง“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า~” เริ่มดิ้นพล่านจากสัมผัส
หลังหมั้นได้สามวันฉันกับไทเกอร์นั่งเครื่องไปยังเกาะส่วนตัว ที่ต้องรีบไปเพราะอีกไม่นานมหาวิทยาลัยก็จะเปิดเทอมแล้วคงไม่มีเวลา แถมท้องเริ่มโตขึ้นเรื่อย ๆใช้เวลาเดินทางไม่นานเราสองคนก็มาถึงเกาะส่วนตัว ที่ที่เป็นความทรงจำไม่ดีสักเท่าไรสำหรับฉัน แต่เชื่อว่าครั้งนี้ไทเกอร์สามารถลบเรื่องราวเหล่านั้นออกไปได
หลังจากไปตรวจกลับมาฉันก็สบายใจขึ้นมากเพราะทางลุงหมอบอกว่าอาการที่เป็นนั้นยังสามารถพบได้ในคนท้องทั่วไปที่อายุครรภ์เท่านี้ และที่สำคัญฉันกับลูกก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ แต่ที่ทำให้เป็นกังวลและยังต้องลุ้นก็คือหวังว่าอาการทุกอย่างจะดีขึ้นก่อนวันพรุ่งนี้กลางคืนหลังกลับจากหาหมอไทเกอร์ก็ดูแลประคบประหงมฉันอย่
ไทเกอร์กับฉันตื่นเช้าด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้น เพราะเราสองคนนับวันจนผ่านมาถึงวันที่เฝ้ารอนั่นคือการไปอัลตราซาวนด์ ครั้งแรกที่เราจะได้เห็นเบบี๋น้อย แต่คนที่ตื่นเต้นมาก ๆ ก็ไม่พ้นคนที่บ้านต่างโทรมาถามกันยกใหญ่ ไทเกอร์รับสายจนแทบไม่ได้พักแล้วพูดคำเดิมซ้ำ ๆ ว่าไม่รู้เพศกำลังจะเข้าห้องไปอัลตราซาวนด์“ตื่