5 คนนั้นที่เฝ้ารอ
ชายหนุ่มถูกหญิงสาวตบหน้ารุนแรง จนสมองเขาเกิดอาการกระตุกไปจนถึงขั้วหัวใจ ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขานอนหลับฝันถึงทั้งคืน
อาทิตย์หน้าเขามีนัดหมายกับแพทย์เรื่องการกระตุ้นระบบการทำงานของสมองด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า ระบบความจำเรื่องราวในอดีตของเขายังเลอะเลือนไม่ปะติดปะต่อ
เขาติดต่อบ๊อบถามถึงที่พักของรุ่งทิวา วันรุ่งขึ้นเขาบุกมาถึงโรงแรมที่หญิงสาวพักเขาอยากคุยกับเธอ
“บ๊อบให้ชื่อโรงแรมที่คุณพัก ผมขอคุยด้วยนะ” เธอตะลึงไปชั่วครู่เมื่อเจอเขาที่ห้องอาหารชั้นล่าง
“ผมมานั่งรอนานแล้วตั้งแต่หกโมงเช้า เมื่อคืนผมนอนไม่ค่อยหลับ” เขาพูดขณะลุกยืนเมื่อเธอเดินมาถึงโต๊ะ
“ขอโทษที่เมื่อคืนฉันรีบกลับ...ฉันเริ่มเมา” เธอพึมพำเบาๆ
“ผมมาหาคุณ อยากเคลียร์เรื่องที่ผมเองก็ไม่เข้าใจ”
“ได้ แต่อย่านานนะ ฉันมีธุระกับทีมงาน” เธอพยายามเลี่ยงชายคนนี้อีกครั้ง
“ผมอยากฟื้นฟูความทรงจำให้กลับมาเหมือนเดิม แม้ว่าจะไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์” คำพูดของเขาทำรุ่งทิวาตาโต
“คุณเป็นอะไรกันแน่”
“ผมประสบอุบัติเหตุทำให้สูญเสียความทรงจำ”
รุ่งทิวาน้ำตาซึมลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหาชายหนุ่มแล้วกอดเขาซบหน้าสะอื้นแรงมาก
“คุณใช่...คนที่รอผมอยู่ที่เมืองไทย ใช่ไหม”
รุ่งทิวาหยิบสมุดเล่มเล็กที่บันทึกบทกวีของเขาออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ต ...ยื่นให้ชายหนุ่ม
ในห้วงคำนึงของเขาเหมือนยังขาดสิ่งสำคัญที่เชื่อมโยง จึงทำให้สมองยังไม่อาจดึงความทรงจำเก่าๆ กลับคืนมาได้ เขาจะปวดหัวอย่างรุนแรงทุกครั้งที่พยายามนึกถึงมัน
“นี่คือบันทึกความทรงจำของผม...จริงสิ” เขาดีใจจนอยากกอดเธอไว้ตลอดทั้งวัน
“เปิดอ่านดู...เขมจะต้องจำฉันได้” รุ่งทิวาสะอื้นไม่หยุด เธอดีใจมากที่เขาพยายามตามหาคนในอดีต
“ฉันนึกว่า...นายลืมฉันไปแล้ว เพราะผู้หญิงคนนั้น” เธอยังต้องการคำตอบจากเขาเรื่องผู้หญิงอีกคน
“ใคร...ซินดี้เหรอ...เธอมาช่วยผมทำวิจัย” เขาอยากบอกเธอถึงความจริงบางอย่าง
“รู้ไหม...มีผู้หญิงคนหนึ่งส่งอีเมล์มาหาฉันเมื่อปีก่อน ว่านายเป็นแฟนเธอ แล้วให้ฉันเลิกติดต่อนาย ฉันสับสนมากว่า นายหายการติดต่อไปเลย”
“ผมงง...ใคร ใช่ซินดี้หรือ” เขาขออ่านอีเมล์ฉบับนั้น ซึ่งรุ่งทิวายังเก็บมันไว้ในกล่องติดดาว
“แล้วใครกันมาแอบใช้อีเมล์นี้ ผมเข้าไม่ได้เลยหลังจากประสบอุบัติเหตุ” ทั้งคู่ช่วยกันหาร่องรอยห้วงเวลาที่เขารักษาตัวหลังประสบอุบัติเหตุ และช่วงเวลาที่อีเมล์ถูกส่งถึงเธอ
“ผมมีผู้ช่วยก่อนซินดี้ เธอเป็นน้องสาวเพื่อนที่เรียนอยู่ที่นี่...แย่มาก” เขาส่ายหัวแบบหงุดหงิด
“เธอมีอะไรกับนาย...น่ะสิ”
“ช่วงนั้นผมไม่รู้สึกตัว ความจำหายไปจากสมอง เธอคงฉวยโอกาสตอนผมไม่รู้เรื่อง”
“แล้วตอนนี้เธอหายไปไหนล่ะ...” รุ่งทิวามองแววตากังวลของเขา
“ผมไม่รู้ว่าเธอหายไปไหน ตำรวจยังตามตัวอยู่”
“อ้าวเหรอ...ทำไม”
“เธอขโมยกดเงินในบัญชีผมไปหมด และนาฬิกา Tag Heuer ผมหายไปด้วย”
รุ่งทิวาถูกชายหนุ่มชวนให้ไปค้างคืนกับเขาที่อพาร์ตเม้นท์ใกล้มหาวิทยาลัย เขากระซิบเบาๆ ข้างหู
“เราไม่ได้เจอกันนาน ผมอยากอัปเดตเรื่องของเรา”
“อย่าเลย ฉันยังไม่พร้อม”
“รุ่ง...คุณโตแล้วนะ ผมอ่านบทกวีที่เคยเขียนไว้ อยากกอดคุณไว้ชั่วชีวิต”
“แต่ฉันว่า...นายน่าจะนอนที่นี่ดีกว่านะ เพราะห้องที่ฉันพักเป็นห้องสวีท”
“ได้...เลย งั้นขอขึ้นไปตอนนี้” เขาเดินตามหญิงสาวขึ้นไปที่ห้องบนฟลอร์วีไอพี
ทั้งคู่คุยกันตั้งแต่ตอนสายจนถึงเที่ยงคืนอย่างสนุกสนานไม่รู้จักคำว่า เบื่อหน่าย รุ่งทิวาช่วยรื้อฟื้นความทรงจำของเขาให้ปะติดปะต่อทีละน้อยไปเรื่อยๆ จนถึงเช้าวันใหม่
“หน้าตาของนาย ดูหล่อกว่าเดิมมาก ทำหน้าใหม่ใช่ไหม”
“ผมต้องผ่าตัดทั้งหมด เพราะรถตกเขาขนาดนั้น ไม่ตายนี่โชคดีมากนะ” เขาตอบเธอแบบน่ารัก...เอาหน้ายื่นมาให้เธอพิจารณาให้เต็มตา
เขาออดอ้อนอยากทำในสิ่งที่หัวใจร่ำร้อง ...ทำเอาสาวแก่นอย่างเธอใจเต้นรัวจนได้
“ผมขอฝากรอยรักได้ไหม...”
“นี่อย่าบอกนะว่า ฉันโตแล้ว...” เธอทำท่าตกใจ
“ใช่...ผมอยากให้รุ่งท้องโตด้วย”
“ฮะ...นายนี่ยังทึ่ม พูดอ้อมค้อมเหมือนเคย”
“ก็ผมจีบสาวไม่เป็น...!!!”
ในที่สุดทั้งสองคนได้ตกลงที่จะเดินทางร่วมกันไปให้ถึงปลายทาง
“...ผมชอบรุ่งก็ตรงนี้”
“ตรงไหน...อย่ามาทะลึ่งนะ”
“ตอนร้องกระซิกกระซี้ให้ผมทำให้สุดๆ ไปเลย”
“บ้า...!!!”
“ผมเก่งขึ้นไหม...ในบทกวีนั้น”
“เก่งกว่านั้นอีก”
“อะไร...อยากรู้”
“เกมรัก...ตอนโยกเขย่าฉันซะแรงเลย”
“ชอบล่ะสิ...”
เขาหัวเราะบี้จมูกเบาๆ ของหญิงสาวแล้วเริ่มบรรเลงเพลงรักในบทกวีของเขาต่อไปเรื่อยๆ จนเธอร้องครวญครางจนเขาเมามันไม่ยอมหยุด...และเธอต้องขอร้องให้เขาร้อยเรียงกวีบทใหม่ซึ่งมีท่วงทำนองรุกเร่งเร้าให้เริงรื่น...ชวนให้ยั่วเย้าหลงใหลชายหนุ่มไปตราบชั่วนิรันดร์
˜ จบ ˜
5 มนต์เสนห์แห่งบอลติกระหว่างทางไป กดัญสก์ (Gdansk) โทนี่เล่าว่าเมืองนี้เป็นฉากของนิยายลือเลื่องของนักเขียนเยอรมันเจ้าของรางวัลโนเบล นามว่า ‘Gunter Grass’ กรึนเทอร์ กลาสส์“เคยได้ยินนิยาย The Tin Drum ไหม” เขาถามถึงสองครั้งแต่เกรต้าไม่ตอบ เธอกำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ในเว็บไซด์“กลองสังกะสี มีแปลเป็นภาษาไทย...ฉันไม่เคยอ่านหรอกนะ” เกรต้ากำลังกวาดสายตาอ่านเรื่องย่อที่ทำให้ผู้เขียนคนนี้ได้รับรางวัลโนเบล“a lot of codes…needed to interpret เป็นนิยายนามธรรมแฝงด้วยนัยที่ต้องตีความ” เกรต้าได้ยินคำพูดของโทนี่ที่ดูเข้าท่าก็ตอนนี้“เมืองกดัญสก์ (Gdansk) เดิมเคยอยู่ในดินแดนเยอรมันชื่อ Danzig ดานซิก ที่นักเขียนคนนี้ใช้เป็น location ของการเล่าเรื่องในนิยายของเขา” เขาเล่าคร่าวๆ แล้ววันหน้ามีเวลาเขาจะพยายามเล่าให้เธอฟังเป็นภาษาอังกฤษ นิยายเรื่องนี้ซับซ้อนมากตัวเอกเป็นคนหลังค่อมแต่มีของวิเศษที่ติดตัวมาเหมือนมีพลังเหนือธรรมชาติคือ tin drum คล้ายกับเรื่องอลาดินกับตะเกียงวิเศษ ที่ผู้เขียนเล่าเรื่องราวผ่านสิ่งของอันเป็นสัญลักษณ์ซึ่งแทนความหมายเกี่ยวกับความหวัง ไฟปรารถนา พลังแห่งศรัทธาของการมีชีวิตอยู่
4 จัดรายการแดนไกล“สองหนุ่มสาวจากแดนสยามเมืองยิ้มวันนี้มาช่วยจัดรายการแทนป้าทิพย์...ใน Dear Debby in Warszawa วันนี้ป้าจะขอพักฟังสองคนจัดรายการเพื่อสร้างความแปลก Amazing ให้กับผู้ฟัง” เสียงป้าทิพย์เปิดรายการเกรต้ายังจดจำถึงวันนั้นได้เป็นอย่างดี คำพูดหนึ่งที่น่าประทับใจของเขาในรายการภาคภาษา Polish ของเขา หากเป็นภาษาไทยก็คง ‘เมื่อรักโดนใจแล้วใครจะช่วยเราได้หากเราไม่รีบที่จะไปตามหาหัวใจดวงนั้นทันที เมื่อรักเก่ามันสะบั้นลงอย่าหลงติดกับวังวน...รีบเหวี่ยงตัวเองออกมาซะแล้วไปตามหาคนที่ใช่ต่อไป’เกรต้าได้รับคำขอร้องจากสายของสาวไทยที่นั่นซึ่งโทรเข้ามาในรายการ เธอให้ความเห็นว่า ‘Whatever you think is real…ไม่ว่าเราจะคิดยังไงสิ่งนั้นคือความจริง คิดว่ารักคือรัก คิดว่าใช่คือใช่ ชีวิตคนนั้นไม่ยืนยาวจงรีบทำหากตัดสินใจแล้วอย่าปล่อยให้โอกาสดีๆ หลุดลอยไป’“ผมคิดถึงคำพูดของคุณในรายการป้าทิพย์ ผมตื้อคุณจนถึงขอนแก่นวันนั้นใช่ไหม” เขาทำหน้ายียวนมองแววตาของเกรต้า“ใช่เลย...ฉันเลยได้คำพูดจากการกระทำวันนั้นของนาย” น้ำเสียงเกรต้าอย่างหมั่นไส้เขาถือวิสาสะจูงมือเกรต้าหลังจากเดินออกมาจากสถานีแล้วข้ามถนนไปฝ
3 กับดักรักเกรต้ามารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อกระเป๋ารถมาสะกิดเธอว่าใกล้ถึงท่ารถที่อำเภอพล เธอจึงตกใจรีบทะลึ่งตัวผึงขึ้นศอกกระแทกเข้าที่หน้าอกของชายหนุ่มอย่างแรงจนเขาร้องเสียงดังโอ๊ก“My heart’s being extremely attacked…หัวใจผมกำลังถูกโจมตีอย่างรุนแรง...”เสียงอ้อนของเขากำลังจะหายไปกับสายลมเพราะหญิงสาวขอตัวลงที่ท่ารถที่อยู่เบื้องหน้า ทำให้หนุ่มโทนี่ถึงกับผิดหวังจริงๆ อย่างที่พูดออกมาสักครู่“I wanna follow you here…ผมขอตามคุณลงไปด้วย” เขาพูดยังไม่ทันจบคำก็คว้าเป้ใบโตสะพานหลังกระโดดลงจากรถตามหญิงสาวที่ไม่แม้แต่จะหันมากล่าวลาเขาเลย"Oh…don’t go away โธ่...อย่าหนีผมไปเลย ผมจะไปไม่ถึงบ้านที่ Nong Song Hong หนองสองห้อง” เขายังคอยตามตื้อเกรต้าทั้งที่เธอพยายามเร่งฝีเท้าเพื่อเดินหนีชายหนุ่มที่บ้าตามตื้อเธอมาถึงที่นี่“โน่น...ท่ารถแท็กซี่ นายไปติดต่อเลย อาจไม่มีรถนะ” เกรต้าทำตาดุใส่หนุ่มลูกครึ่งหน้าตายู่ยี่เพราะยังคิดไม่ตกว่าจะไปถูกไหม-------------------เกรต้าโล่งอกเมื่อมองหันหลังกลับไปไม่เห็นชายหนุ่มที่นั่งรถมาด้วยกันจากกรุงเทพ ใจหนึ่งก็นึกสงสารแต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกรำคาญหมั่นไส้ ก่อนจะเดิน
2 ข้อความจากแดนไกลเกรต้า...เอนหลังนอนเอกเขนกเหม่อมองเพดานห้องและอมยิ้มเมื่อความคิดยังลอยวนเวียนอยู่ในสมองถึงวันศุกร์ที่ผ่านมาเกือบสองเดือนแล้ว เธอนึกได้ว่าต้องเปิดอีเมล์เช็คดูว่าจะมีอะไรส่งมาถึงเธอบ้างจากหนุ่มนามว่า ‘โทนี่’ นายนี้ แปลก...ไม่มีเมล์อะไรมาถึงเธอเลยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เธอกำลังเปิดดูกลุ่มต่างๆ ในไลน์ แต่แล้วก็มีแช็ตชื่อแปลกๆ โผล่ขึ้นมาจากลิสต์ที่มีอยู่ เมื่อกดเข้าไปจึงเห็นสติ๊กเกอร์ทักทายจากหนุ่มนายคนที่คิดถึงอยู่พอดี“Wonder?? แปลกใจล่ะสิว่าผมรู้ได้ไง...” เกรต้าอ่านแล้วเธอหัวเราะคิกทันที นึกขำว่าแปลกที่เขายังตื้อจะคุยอยู่ได้“ผมจะมาเมืองไทย...อาทิตย์หน้า เจอผมได้ไหม” เกรต้ายังนิ่งเฉยไม่ตอบอะไรกับประโยคที่เขายังขึ้นพล่ามอยู่และอาจร่ายยาวไปได้เรื่อยๆ ฟังดูว่าจะเขียนไปได้ยาวแค่ไหนกัน“ผมจะเอา souvernir มาฝาก อยากได้แบบไหน ผมมีเยอะ” เกรต้าก็ยังไม่ตอบอะไรเขาเลย นายคนนี้เป็นอวาตาร์ไหม มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ หญิงสาวสงสัยเหมือนกันว่า AI ทุกวันนี้มันเป็นไปได้หมดแม้อวตารของคนที่ไม่มีอยู่จริง“Hey…you’re an Avatar ฮัลโหล...ฮัลโหล ยูเป็นอวาตาร์???...!!!” เขายังเขียนพล่ามมาเรื่อ
คำโปรย...Dear Abbie แอบบี้ที่น่ารัก...มีปรัศนีมาช่วยไข-------------------1 ดีเจตัวแทน เกรต้า...Greta เข้ามาจัดรายการแทน Abbie แอบบี้ เมื่อวันศุกร์แรกของต้นเดือนเมษายนที่สถานี Hits965 ณ ห้อง broadcast live สดที่กรุงเทพ เธอเลือกเพลง ‘คนที่แสนดี’ ของโทนี่ ผี (Tony Phee) เปิดเป็น jingle intro เข้าสู่ช่วงต้นของรายการฉันเหมือนคนหลงทางหาไม่เจอกับ...ความรักฉันไม่เคยได้รู้จัก...เลยฉันได้แต่นั่งมองเหม่อดูคนอื่น...เฉยเฉยฉันไม่เคยไม่เคยเลย ไม่เคยแล้ววันหนึ่งเธอก็เข้ามาเข้ามาในชีวิตฉันไม่เคยรู้สึกนี่ ฮู้ ว่าเธอนะ...ใช่เลยฉันเพิ่งเข้าใจทุกทุกอย่าง ทุกความหมายว่ารักของเธอนั่นช่างมากมายและ...เหนือใครเสียงเพลงโฆษณาก็ขึ้นมาคั่นระหว่างที่เธอกำลังเตรียมเพลงและหาเนื้อหาให้เข้ากับรายการเพลง ‘Dear Abbie ปรัศนีหัวใจ...คำถามของคนมีรัก’กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง...เกรต้าสาละวนกับการค้นหาเรื่องราวที่ค้างไว้สำหรับการตอบคำถามที่แอบบี้ทิ้งไว้ให้ตั้งแต่เมื่อวาน เธอร้างลาการจัดรายการออกอากาศสดเกือบ 2 ปีแล้วตั้งแต่ไปเรียนต่อที่ซิดนีย์ ครั้งนี้เธอแวะมากรุงเทพเลยถูกเพื่อนสาวแอบบี้ใช้งานในฐานะดีเจเก่า คร
5 บอลลูนสื่อใจเรเน่ช่วยโอโมโรสดูแลการขึ้นกระเช้าจนครบทุกคน ด้วยจำนวนคนเพียง 5 คนซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มเพื่อนของยานะและมาร์ค ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคารันนั่นเอง ส่วนอีก 1 คู่เป็นญาติของมาร์คที่เพิ่งแต่งงานกันไม่นาน ยานะเล่าว่าคารันขอมาทริปนี้ด้วยเมื่อมาร์คบอกว่าจะมาเยี่ยมญาติของยานะที่ไคโรและจะมาขึ้นบอลลูนที่นี่เรเน่ทำหน้าที่แทนเพื่อนสาวที่เสียงแหบแห้งบรรยายหุบเขากษัตริย์และราชินีที่เห็นอยู่เบื้องหน้า รวมทั้งวิหารลักซอร์ และคานัค วิวที่มองลงไปจากกระเช้าซึ่งล่องลอยไปกับตัวช่วยนำพาคือบอลลูนขนาดใหญ่ที่มีสีสันสวยงาม ทำให้ทิวทัศน์อย่างโอเอซิสตาน้ำในทะเลทรายและสายน้ำแห่งแม่น้ำไนล์ที่เห็นเป็นสายอยู่นั้นกลายเป็นความมหัศจรรย์ที่ยากจะลืมเลือน.... .... .... ....“ที่นี่เป็นอะไรที่ฝังอยู่ในหัวผมมานานมากแล้ว...เรเน่” เสียงชายหนุ่มพูดขึ้นท่ามกลางความมืดที่มีแสงจันทร์ส่องสว่างเต็มดวง คืนนี้มีเขาและเธอที่นั่งชมความงามของภูมิประเทศของเมืองแห่งนี้“อยากมาขึ้นบอลลูนล่ะซิ...ไปขึ้นมากี่เมืองแล้ว” หญิงสาวมองแววตาสีเขียวอ่อนของชายหนุ่มขณะที่เขากุมมือของเรเน่ไว้กำลังจะยกขึ้นมาจุมพิต“อย่าบอกนะว่าไปมาเกือบหมด