EP 3 – ยื่นข้อเสนอ
เช้าวันต่อมา
ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำเรื่องเมื่อคืนที่ยังแจ่มชัดในหัว...หลังจากจบประโยคนั้น เขาก็อธิบายอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการให้ฉัน เป็นคู่หมั้นของเขาต่อไป เพราะรู้ดีว่าทางครอบครัวยังไงก็ต้องหาผู้หญิงคนใหม่มาให้อยู่แล้ว
เขาจึงยื่นข้อเสนอให้ฉัน รับบทเป็นคู่หมั้นปลอม ๆ ของเขาต่อไปอีกเป็นเวลา สามปี เพื่อแลกกับการชดใช้หนี้ของพ่อที่สูงถึง 30 ล้าน
แต่มันไม่ได้จบแค่นั้น...
เขายังวางเงื่อนไขเอาไว้อีกว่า ฉันต้องทำตามทุกอย่างที่เขาสั่งภายในระยะเวลานั้นอย่างไม่มีข้อปฏิเสธ และถ้าฉันทำได้ เขาจะตอบแทนฉันด้วยการคืนชีวิตหรูหราที่ฉันเคยมีให้กลับมาอีกครั้ง
เขาจะให้อิสระกับฉันในด้านการใช้ชีวิต ไม่ว่าฉันจะไปทำงาน หรือจะเลือกนอนเล่นอยู่บ้านไปวัน ๆ เขาจะไม่ห้าม แต่มีข้อแม้สำคัญที่สุด...
ฉันต้องวางตัวให้สมบทบาทของคู่หมั้นที่ดูเหมือนจะรักกันปานจะกลืนกิน ต่อหน้าคนอื่นเสมอ ไม่ว่าจะญาติหรือแขกฝ่ายไหนก็ตาม เพื่อหลีกเลี่ยงคำครหาและสายตาจับผิดจากทุกฝ่าย รวมถึงทางฝั่งครอบครัวเขาด้วย
ฉันก็ถามกลับไปนะ ว่าทำไมถึงต้องเป็นฉัน?
เพราะในตอนที่เราเคยเป็นคู่หมั้นกันจริง ๆ เราแทบจะไม่ได้เจอกันเลยด้วยซ้ำ
เขาตอบเพียงแค่ว่า... เพราะเขาสามารถควบคุมฉันได้ เขาไม่สนใจเรื่องเงินสามสิบล้านเลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เขากังวลที่สุดคือ แม่ของเขาที่พยายามจะจับคู่เขากับผู้หญิงคนอื่น...และเขาเกลียดสิ่งนั้นมากที่สุด
ไม่แปลกเลย... ว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้ ก็ในเมื่อเขาไม่อยากได้ผู้หญิงที่แม่หาให้
เขาก็แค่ใช้ฉันบังหน้า
แน่นอนว่าฉันตอบตกลง
ไม่ใช่เพราะอยากช่วยเขาเล่นละครหรอกนะ แต่เพราะฉันอยากใช้หนี้ให้เขาบ้างเท่านั้น...
หนี้ที่พ่อทิ้งไว้ถึง 30 ล้าน
จะบอกว่าเขาไม่เสียดายก็เถอะ แต่เงินขนาดนั้นน่ะ จะได้มาง่าย ๆ ที่ไหนกัน และการที่ครอบครัวของฉันเป็นต้นเหตุ ฉันเองก็ไม่มีหน้าที่จะปฏิเสธข้อเสนอนี้เลยจริง ๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ตื่นรึยัง”
“ตื่นแล้วค่ะ”
ฉันตอบเสียงเรียบ ก่อนจะลุกจากเตียง พร้อมจัดผ้าห่มให้เรียบร้อย ในจังหวะเดียวกับที่เขาเปิดประตูเข้ามาพอดี
ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำเข้ม สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดด้านใน คาดเนคไทสีน้ำเงินเข้ม ดูดีทุกองศา ยิ่งเขาเสยผมขึ้น เปิดให้เห็นใบหน้าหล่อคมยิ่งกว่าเดิมอีก
เขาดูหล่อมาก
“มีอะไรเหรอคะ?” ฉันถามออกไปในจังหวะที่เขาเดินเข้ามาใกล้
“ผมจะเข้ามาบอกว่า กับข้าวอยู่บนโต๊ะ...แล้วก็ช่วงบ่ายจะมีคนมารับไปซื้อเสื้อผ้ากับของใช้ อย่าลืมว่าตอนนี้คุณคือคู่หมั้นของผม เพราะฉะนั้นวางตัวให้เหมาะสม”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ฉันพยักหน้าเบา ๆ รับคำก่อนที่ห้องจะกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้งเขากระแอมเบา ๆ แล้วหมุนตัวจะเดินออกไป
“อ๊ะ เดี๋ยวค่ะ เสื้อด้านหลังมัน...”
ฉันรีบพูดขึ้นก่อนจะเดินตามไปจัดเสื้อสูทของเขาที่หลุดลุ่ยให้เข้าที่ เขาหันกลับมามองฉันด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
“ขอบใจ... กินข้าวให้หมดด้วย” เขาสั่งเสียงนิ่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องไปทันที
ฉันยืนเกาหัวเบา ๆ กับท่าทางของเขา ก่อนจะหันมามองรอบห้องพักสุดหรู ที่ดูแล้วน่าจะเป็นเพนท์เฮ้าส์ของเขาเอง ด้วยขนาดที่ใหญ่เกินกว่าจะเป็นคอนโดธรรมดา ไม่เคยรู้เลยว่าเขาอยู่ที่นี่ นึกมาตลอดว่าเขาอาศัยอยู่กับพ่อแม่เสียอีก
“ว้าว... นี่คุณเหนือตอนเด็กเหรอเนี่ย”
ฉันเบิกตาโตมองรูปภาพที่ถูกวางไว้บนชั้น มันมีทั้งรูปครอบครัว และรูปเดี่ยวของเขาเอง แต่ที่สะดุดตาที่สุดกลับเป็นรูปถ่ายตอนเด็กของเขา...ภาพที่เขาฉีกยิ้มกว้างเสียจนเห็นฟันครบทุกซี่ ซึ่งมันช่างต่างจากตอนโตอย่างสิ้นเชิง เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา ฉันไม่เคยเห็นเขายิ้มเลยสักครั้ง เห็นแต่ใบหน้าหล่อจัดที่ดูเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา
…
ที่โต๊ะอาหาร
“นี่ข้าวเช้าจริงเหรอ...”
ฉันเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นอาหารหลากหลายชนิดทั้งของคาวของหวานวางเรียงกันเต็มโต๊ะ เหมือนโต๊ะจีนยังไงยังงั้น ปกติอาหารเช้าของเขาต้องเยอะแบบนี้เลยเหรอ? ฉันมองอย่างไม่เชื่อสายตา
แต่พอมองไปที่ถังขยะ ซึ่งเต็มไปด้วยถุงแบรนด์อาหารร้านดังมากมาย ฉันก็ถอนหายใจทันที สำหรับฉันในตอนนี้ไม่มีสิทธิ์กินของแพงหรอก แต่ในเมื่อเขาซื้อมาแล้ว ฉันก็คงต้องกินตามมารยาทแล้วกัน
หลังจากทานอาหารจนรู้สึกอิ่มเต็มที่ ฉันก็เก็บส่วนที่เหลือเข้าตู้เย็น ซึ่งก็ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะสิ่งที่มีอยู่ในนั้นคือ
น้ำเปล่า! ใช่... มีแค่น้ำเปล่าขวด ๆ ที่ถูกแช่ไว้เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ หรือว่าเขาไม่ค่อยอยู่ที่นี่กันนะ? แต่ดูจากสภาพบ้านแล้วมันก็น่าจะมีคนใช้งานอยู่เป็นประจำอยู่ดี
ฉันพยายามเลิกคิดมาก และตัดสินใจไปอาบน้ำ ก่อนจะเปลี่ยนกลับมาใส่ชุดเดิมจากเมื่อวาน แล้วนั่งดูทีวีอยู่เงียบ ๆ บนโซฟาตัวเดิม
"หืม?" ฉันมองอย่างงุนงงก่อนจะเปิดกล่องนั้นออกสร้อยคอเส้นบาง ๆ ที่ห้อยจี้รูปหัวใจสองดวงไขว้กัน พร้อมสลักชื่อว่า 'Priya & Nuea'"คุณเหนือ " น้ำตาของฉันรื้นขึ้นมาทันที "แบบนี้มันแกล้งกันชัด ๆ ฮึก ""ผมไม่ได้จะแกล้ง ผมแค่อยากให้คุณรู้ว่าผมจะรักคุณไปตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเจออะไรอีก ผมจะปกป้องคุณกับของขวัญให้ดีที่สุด""จะให้ฉันร้องไห้ในวันครบรอบจริง ๆ เหรอคะ""งั้นก็ไม่ต้องร้อง แต่จูบได้ไหม?"ฉันหน้าแดงทันที ก่อนจะยกมือปิดหน้าเมื่อเขาโน้มตัวเข้ามา"ลูกตื่นอยู่นะคะ!""ก็จูบบอกรักเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรมากนี่นา~"ฉันได้แต่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะปล่อยให้เขากอดไว้แน่น ๆ พร้อมกับเสียงกระซิบว่า "สุขสันต์วันครบรอบนะครับภรรยา"…หลังจากทานอาหารเช้ากันเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็พากันไปเที่ยวสวนดอกไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก วันนี้คุณเหนือขอลางานเพื่อใช้เวลากับครอบครัวเต็มที่ ฉันเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยเพราะตั้งแต่มีของขวัญ เราก็ไม่ค่อยได้มีเวลาออกไปข้างนอกกันพร้อมหน้าสามคนเท่าไหร่"ดูสิคะคุณเหนือ ดอกคอสมอสกำลังบานเต็มเลย~""สวย แต่คุณสวยกว่า""นี่แน่ะ!" ฉันหยิกแขนเขาเบา ๆ ด้วยความเขิน "ชมฉันแบบนี้ทุกวัน เดี๋ยวฉันก็ลอยข
3 ปีต่อมา“ของขวัญ ทักทายคุณย่าสิคะ”เสียงของฉันเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน เมื่อลูกสาวตัวน้อยยกมือไหว้ผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องเยี่ยมของเรือนจำ“สวัสดีค่ะคุณย่า” น้ำเสียงใสแจ๋วที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากเล็กๆ นั้น ทำเอาฉันกับคุณเหนืออดยิ้มไม่ได้เขาอุ้มลูกขึ้นนั่งตักอย่างเคย ก่อนที่แม่ของเขาจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาด้วยใบหน้าอิดโรย แต่แฝงด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ“น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ เลยนะ”ท่านมองหลานสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก ความรักที่มาช้าเกินไปตลอดสามปีที่ผ่านมา ฉันกับคุณเหนือมาเยี่ยมท่านเป็นครั้งคราว แม้คุณเหนือจะให้อภัยแล้ว แต่ฉันก็รู้ เขายังโกรธ ยังเจ็บ แต่เขาก็เลือกจะไม่ตัดท่านออกจากชีวิต เพราะเขารู้ว่า "การให้อภัย" ไม่ได้แปลว่า "ลืม"“ทำไมคุณย่าถึงอยู่ในนี้คะ?” ของขวัญเอ่ยถามขึ้นอย่างใสซื่อ“เพราะย่าทำผิดน่ะจ้ะ เลยต้องถูกลงโทษ” ท่านตอบกลับพร้อมรอยยิ้มบางโรคประจำตัวของท่านเริ่มกำเริบบ่อยขึ้น และเราก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่า ท่านจะอยู่ถึงวันพ้นโทษหรือไม่…“ลูกล่ะ เป็นยังไงบ้าง?”“ผมสบายดีครับ พ่อเองก็เช่นกัน” คุณเหนือตอบเสียงเรียบ แม้จะดูนิ่ง แต่ฉันรู้ เขากำลังกลั้นอารมณ์มากแค่ไหนเมื่อหมดเ
EP 31 - ฉันรักคุณ“ปรียา คุณต้องตื่นนะครับ ”เสียงนั้นดังอยู่ปลายหู ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ก่อนจะพบกับแสงไฟสลัวจากเพดานห้องกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในโรงพยาบาลลอยแตะจมูก ฉันขยับตัวได้เพียงเล็กน้อยก่อนที่น้ำตาจะรินไหลออกมาอีกครั้ง “คุณเหนือ ”เสียงที่ฉันพร่ำเรียกคนที่รักที่สุดในชีวิต ไม่รู้เลยว่าเขาจะได้ยินมันหรือเปล่าแต่ฉันภาวนา ขอให้เขาได้ยิน …โรงพยาบาลตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด เสียงชีพจรดังอย่างสม่ำเสมอแต่ไร้การตอบสนอง ฉันได้แต่นั่งฟังเสียงนั้นอย่างเหม่อลอย…นี่เข้าสู่วันที่ห้าแล้วแต่คนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะลืมตาขึ้นมาแม้คุณเหนือจะรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่หมอก็บอกฉันด้วยใบหน้าเคร่งเครียดว่าอาการของเขาหนักมาก และที่เลวร้ายที่สุดคือ เขาอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลยตลอดชีวิต…“กลับบ้านไปพักสักหน่อยเถอะ”เสียงทุ้มของคุณพ่อคุณเหนือเอ่ยขึ้นเบาๆ อย่างอ่อนโยน เมื่อเห็นฉันยังคงนั่งจับมือคนบนเตียงไม่ไปไหน“ไม่เป็นไรค่ะ หนูอยากอยู่ต่ออีกสักหน่อย”ฉันเงยหน้าขึ้นตอบกลับท่านอย่างอ่อนแรง ถึงแม้ร่างกายของฉันเองจะยังไม่ฟื้นดีจากการล้มเมื่อวันก่อนก็ตามหลังจากที่ท่านรู้เรื่องทุกอย่าง
EP 30 - อย่าทิ้งฉันกับลูกไป“ทำไมถึง อ๊ะ!”ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ ร่างของตัวเองก็ถูกกดให้นั่งคุกเข่าลงกับพื้น มือทั้งสองรีบโอบรอบท้องทันทีเพื่อรองน้ำหนักไม่ให้กระแทก แต่ถึงอย่างนั้นแรงสั่นสะเทือนจากพื้นก็ยังทำให้ฉันรู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วร่าง ร่างกายฉันไม่ปกติเลยแม้แต่นิด ทั้งเหงื่อที่ไหลซึมทั่วใบหน้า มือที่สั่นเทา และหัวใจที่เต้นแรงรัวจนหายใจแทบไม่ทัน“เป็นไงล่ะ มีความสุขใช่มั้ย ที่ได้นั่งอยู่บนกองเงินกองทองจากลูกชายฉัน!” เสียงตะคอกของผู้หญิงตรงหน้าทำเอาฉันตัวสั่น เธอกำลังเดือดดาลอย่างสุดขีด พร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ใช่ความยินดีเลยสักนิด แต่มันคือความสะใจ ความสะใจที่ได้เห็นฉันเจ็บฉันพยายามเงยหน้าขึ้นเพื่อจะอธิบาย แต่มีดที่จ่อคอฉันอยู่ก็ยิ่งกดลึกลงมา“คุณแม่คะ คือ ”“อย่ามาเรียกฉันว่าแม่! ฉันมีลูกชายคนเดียว!”เธอตวาดใส่ฉันทันที ก่อนจะคว้าผมฉันแล้วกระชากอย่างแรง น้ำตาของฉันร่วงพร่างไปตามแรงกระชาก ทั้งเจ็บทั้งตกใจ รู้สึกถึงเลือดซึมออกมาจากลำคอที่ถูกปลายมีดเฉือนเบาๆ อย่างจงใจ“ฉันจะให้โอกาสแกครั้งสุดท้าย ” เสียงเย็นเยียบจนขนลุกเอ่ยออกมา“ออกไปจากชีวิตลูกชายของฉันเดี๋ยวนี้!”ฉันกั
EP 29 – เพราะเธอคนเดียว2 เดือนต่อมาดูเหมือนทุกอย่างจะดำเนินไปได้ด้วยดี ช่วงนี้สุขภาพของลูกในท้องฉันแข็งแรงสมบูรณ์อย่างน่าพอใจ คุณหมอก็แจ้งว่าไม่มีภาวะเสี่ยงแท้งอีกแล้ว ส่วนฉันเองแม้จะยังมีอาการแพ้ท้องอยู่บ้าง แต่น้ำหนักก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ และพวกวิตามินหรือยาบำรุงครรภ์ฉันก็ไม่เคยขาดเลยสักครั้งชีวิตประจำวันของฉันตอนนี้เรียบง่าย มีแค่กินกับนอน และบ่นว่าตัวเองน่าเบื่อส่วนคุณเหนือ เขาเองก็ลดเวลาทำงานลง เพื่อจะได้กลับมาอยู่กับฉันและลูกให้เร็วที่สุด พอเขารู้ว่าฉันท้อง เขาก็เปลี่ยนตารางชีวิตไปเลยทันที แม้เขาจะยังมีงานต้องรับผิดชอบอยู่มาก แต่เขาก็ยังหาทางจัดสรรเวลามาอยู่กับฉันให้ได้ทุกวัน“ผมได้ยินว่าวันนี้คุณกินข้าวได้น้อย”เสียงของเขาดังขึ้นจากมือถือขณะที่ฉันกำลังเอนหลังอยู่บนโซฟา“ค่ะ ช่วงนี้กลิ่นอาหารมันแรงมาก แค่ได้กลิ่นก็คลื่นไส้แล้ว”ฉันตอบไปตามตรงพร้อมถอนหายใจเบาๆ ยังดีที่แม้จะกินข้าวได้น้อย แต่ร่างกายก็ยังได้รับสารอาหารครบจากวิตามินและอาหารเสริมที่คุณหมอจัดมาให้“งั้นไปหาหมอไหม เดี๋ยวผมลางานช่วงบ่ายพาคุณไปเอง”เสียงเขาเร่งรีบขึ้นนิดหน่อย“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันทนได้ แค่ต้องปรับตัวอ
EP 28 - ต่อให้เป็นคุณแม่ผมก็ไม่ให้อภัย “แม่ผมเกือบฆ่าหลานตัวเองแล้วนะ!”ประโยคนั้นทำฉันสะดุ้งเงียบไปทันที หัวใจรู้สึกหนักขึ้นอย่างประหลาดฉันกลัวเหลือเกินว่า ทางฝั่งนั้นจะไม่ยอมรับลูกของฉัน ถ้าแค่ไม่ยอมรับฉัน ฉันยังพอทนไหว แต่หากลูกต้องถูกปู่และย่าแท้ๆ เกลียดชังขึ้นมา ฉันคงทนไม่ไหวจริงๆ“แต่ว่า ”“คุณพักผ่อนเถอะ ไม่ต้องคิดมากนะครับ”เขายกมืออีกข้างมาวางแนบที่แก้มของฉันเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากกลางหน้าผากฉันแผ่วเบามือหนาของเขากอบกุมใบหน้าฉันไว้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเคลื่อนสายตาไปยังหน้าท้องของฉันที่มีลูกของเขาอยู่ในนั้นแม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไรออกมา แต่แววตานั้นก็ส่งผ่านความรู้สึกทุกอย่างออกมาจนฉันสัมผัสได้เขารักลูกของเรามากแค่ไหน “งั้น ผมไปก่อนนะ พรุ่งนี้เช้าผมจะมารับ ฝันดีนะครับ”“ฝันดีค่ะ” ฉันตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง พร้อมกับมองเขาที่เดินจากไปอย่างเงียบๆ แม้จะอยากรั้ง อยากห้ามไว้มากแค่ไหน แต่ฉันก็รู้ดีว่า อีกฝ่ายคงไม่ยอมหยุดแน่ๆ เพราะเขามีเรื่องที่ต้องจัดการหลังจากคุณเหนือออกไป ลูกน้องของเขาก็เข้ามาแทนเธอเข้ามานั่งข้างเตียงและขอโทษฉันทันที ที่ไม่สามารถปิดเรื่องนี้เป็นความ